Q

Celerio อัตโนมัติสามารถขึ้นเนินได้หรือไม่?

Celerio รุ่นเกียร์อัตโนมัติสามารถขับขึ้นทางลาดได้ โดยรถรุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.0 ลิตร แบบไม่มีระบบอัดอากาศ ให้กำลังสูงสุด 68 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 90 นิวตันเมตร รุ่นเกียร์อัตโนมัติมาพร้อมระบบเกียร์ CVT ซึ่งสามารถปรับอัตราทดได้อย่างต่อเนื่องตามสภาพการขับขี่ ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเหมาะสมขณะขึ้นทางลาด นอกจากนี้ รถยังติดตั้งระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้รถไหลถอยขณะออกตัวบนทางชัน โในสภาพการขับขี่ปกติ หากความชันของทางไม่ได้สูงชันมาก Celerio รุ่นเกียร์อัตโนมัติก็สามารถขึ้นทางลาดได้โดยไม่มีปัญหา ตัวรถมีน้ำหนักค่อนข้างเบา โดยบางรุ่นมีน้ำหนักประมาณ 820 กิโลกรัม ซึ่งช่วยให้ได้อัตราส่วนน้ำหนักต่อกำลังที่เหมาะสมสำหรับการขึ้นทาง อย่างไรก็ตาม หากบรรทุกผู้โดยสารเต็มคันหรือเจอกับทางที่ชันมาก ผู้ขับอาจต้องขับขี่ด้วยความระมัดระวังมากขึ้น
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
Celerio 2025 เป็นรถที่ปลอดภัยหรือไม่?
สำหรับเรื่องความปลอดภัยของ Suzuki Celerio รุ่นปี 2025 คาดว่ารถรุ่นนี้จะยังคงให้ความสำคัญกับอุปกรณ์ความปลอดภัยพื้นฐานเหมือนเดิม โดยในตลาดไทยอาจจะติดตั้งมาตรฐานอย่างถุงลมนิรภัยคู่ ระบบ ABS และระบบควบคุมเสถียรภาพรถ ซึ่งตรงตามข้อกำหนดความปลอดภัยของกรมการขนส่งทางบกสำหรับรถยนต์ระดับเริ่มต้น สภาพอากาศของไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุกก็ทำให้รถต้องมีความทนทานเป็นพิเศษ โดยเฉพาะระบบป้องกันสนิมและระบบแอร์ของ Celerio ที่น่าจับตามอง ขนาดตัวรถที่กะทัดรัดยังเหมาะกับถนนแคบๆ ในเมืองอย่างกรุงเทพฯ แต่อย่างไรก็ตาม รถขนาดเล็กอย่าง Celerio จะมีความมั่นคงบนทางหลวงน้อยกว่ารถขนาดใหญ่โดยธรรมชาติ ดังนั้นควรเลือกซื้อตามการใช้งานจริง ถ้าหากต้องขับทางไกลบ่อยๆ อาจพิจารณาติดตั้งอุปกรณ์เสริมอย่างหัวพนักเก้าอี้แถวหลัง ส่วนผลทดสอบความปลอดภัยจาก ASEAN NCAP ก็ยังเป็นข้อมูลสำคัญที่ควรดู โดยเฉพาะเมื่อรถมาถึงโชว์รูมแล้วควรตรวจสอบโครงสร้างความปลอดภัยแบบ passive อย่างคานกันชนประตูให้ดี แต่ไม่ว่าจะเลือกรถรุ่นไหน การตรวจสอบสภาพยางและระบบเบรกอย่างสม่ำเสมอก็สำคัญที่สุด โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนที่ถนนลื่นมากในไทย
Q
คะแนนความปลอดภัยของ Celerio 2025 คืออะไร
สำหรับการประเมินความปลอดภัยของ Suzuki Celerio รุ่นปี 2025 ตอนนี้ยังไม่มีผลทดสอบอย่างเป็นทางการออกมา แต่ถ้าดูจากรุ่นปี 2022 ที่เคยผ่านการทดสอบโดย ASEAN NCAP และได้คะแนน 3 ดาว (การปกป้องผู้ใหญ่ 73%, การปกป้องเด็ก 60%) คาดว่ารุ่นใหม่น่าจะมีการปรับปรุงในเรื่องโครงสร้างตัวถังและการใช้วัสดุเหล็กความแข็งแรงสูง ผู้บริโภคในไทยสามารถติดตามผลทดสอบจาก ASEAN NCAP หรือหน่วยงาน TISI ของไทยได้ในอนาคต ในตลาดไทย Celerio ได้รับความนิยมจากขนาดตัวถังกะทัดรัด ที่เหมาะกับสภาพถนนแคบๆ ในกรุงเทพฯ แต่แนะนำว่าเวลาซื้อควรตรวจสอบอุปกรณ์มาตรฐานให้ดี เช่น ถุงลมนิรภัยคู่ ระบบ ABS+EBD และจุดยึด ISOFIX เพราะอุปกรณ์พื้นฐานพวกนี้สำคัญมากสำหรับการขับขี่ประจำวัน อีกจุดที่ควรรู้คือ ASEAN NCAP เพิ่มน้ำหนักการให้คะแนนในส่วนของเทคโนโลยีความปลอดภัยแบบแอคทีฟมากขึ้น ถ้ารุ่นปี 2025 มีระบบเตือนเลนออกหรือระบบเบรกฉุกเฉอัตโนมัติ คะแนนน่าจะดีขึ้น ส่วนในไทยที่อากาศชื้นและฝนตกบ่อย ระบบควบคุมเสถียรภาพอิเล็กทรอนิกส์ควรได้มาตรฐาน แนะนำให้ลองขับในสภาพถนนลื่นๆ เพื่อทดสอบการทำงานของเบรก นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมไทยกำหนดว่าตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป รถทุกคันต้องมีเรดาร์ถอยหลัง ซึ่งอาจเป็นจุดอัพเกรดของรุ่นนี้ด้วย
Q
ความเร็วสูงสุดของ Celerio 2025 คือเท่าไร
จากข้อมูลทางการ รุ่น Suzuki Celerio 2025 จะมีความเร็วสูงสุดที่ประมาณ 155 กม./ชม. รุ่นนี้เป็นรถขนาดเล็กที่ใช้เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร 3 สูบ ออกแบบมาสำหรับการขับขี่ในเมืองที่เน้นความประหยัดและความคล่องตัว โดยเฉพาะในสภาพการจราจรที่ติดขัดของกรุงเทพฯ ในตลาดไทย Celerio มีจุดเด่นเรื่องประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน โดยอัตราสิ้นเปลืองทางการอยู่ที่ประมาณ 4.5 ลิตร/100 กม. ร่วมกับการออกแบบตัวรถที่น้ำหนักเบา ช่วยลดต้นทุนการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ความเร็วสูงสุดจริงอาจต่ำกว่าที่ระบุไว้เล็กน้อยเนื่องจากสภาพอากาศร้อนของไทย การใช้แอร์ หรือการบรรทุกสิ่งของ ส่วนรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันอย่าง Toyota Yaris Ativ หรือ Honda Brio อาจมีความเร็วใกล้เคียง แต่ Celerio ยังคงเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้บริโภคที่เน้นงบประมาณ เนื่องจากราคาที่เข้าถึงง่ายและความเชี่ยวชาญของ Suzuki ในตลาดรถขนาดเล็ก แนะนำให้เจ้าของรถในไทยบำรุงรักษาเครื่องยนต์และระบบหล่อเย็นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรักษาประสิทธิภาพของรถในสภาพอากาศร้อน และควรระมัดระวังกฎหมายจำกัดความเร็วบนทางหลวงบางสายในไทยเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
Q
ราคาของ Celerio 2025 คือเท่าไหร่?
รถยนต์ซูซูกิ เซเลริโอ รุ่นปี 2025 ที่วางขายในตลาดไทยมีราคาอยู่ระหว่าง 358,000 - 480,000 บาท โดยตัวนี้เป็นรุ่นแฮทช์แบ็กขนาดเล็กระบบเชื้อเพลิงเบนซิน มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร 3 สูบ แบบธรรมชาติ ทั้งซีรีส์ และยังมีตัวเลือกระบบเชื้อเพลิงแบบ CNG ให้เลือกด้วย เกียร์มาทั้งแบบ Manual 5 สปีดและ AMT เหมาะกับการใช้งานในเมืองประจำวันเพราะประหยัดน้ำมันดี ในเรื่องความปลอดภัย ทุกรุ่นอัพเกรดมาตรฐานมาพร้อมถุงลมนิรภัย 6 ใบ ส่วนภายในห้องโดยสารออกแบบแผงคอนโซลกลางแบบสมมาตร เรียบง่ายแต่ใช้งานได้จริง ตัวรถมีขนาดความยาว x ความกว้าง x ความสูง 3,695/1,655/1,555 มม. ระยะฐานล้อ 2,435 มม. จุผู้โดยสารได้ 5 ที่นั่ง โดยมีการจัดสรรพื้นที่อย่างคุ้มค่า ดีไซน์ภายนอกยังคงคล้ายกับรุ่นเดิม แต่มีให้เลือกถึง 6 สี เพื่อตอบโจทย์ความชอบที่หลากหลายของลูกค้า
Q
Suzuki Celerio มั่นคงแค่ไหน?
Suzuki Celerio มีความมั่นคงในการขับขี่ที่ดี โดยติดตั้งระบบความปลอดภัยพื้นฐาน เช่น ระบบเบรก ABS และระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ (ESC) ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการลื่นไถลหรือสูญเสียการควบคุม โดยเฉพาะในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือสภาพถนนที่ซับซ้อน ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้ดียิ่งขึ้น รถรุ่นนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีสตาร์ต/สต็อปเครื่องยนต์ (Engine Auto Start-Stop) ซึ่งช่วยดับเครื่องอัตโนมัติขณะหยุดนิ่งและสตาร์ตได้ทันทีเมื่อเริ่มขับเคลื่อน รวมถึงระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชันที่ช่วยป้องกันไม่ให้รถไหลถอยเมื่อต้องออกตัวบนทางชัน ระบบกันสะเทือนของรถใช้แบบแม็กเฟอร์สันสตรัทด้านหน้า และแบบทอร์ชั่นบีมด้านหลัง นอกจากนี้ระบบกันสะเทือนแบบนี้เป็นรูปแบบที่พบได้ทั่วไปและผ่านการปรับจูนมาอย่างลงตัว ช่วยลดแรงกระแทกจากพื้นถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้การขับขี่ที่นุ่มนวลเมื่อลงถนนจริง แม้ตัวรถจะมีขนาดเล็ก แต่ด้วยการเซ็ตช่วงล่างที่เหมาะสมและระบบความปลอดภัยที่ติดตั้งมา ช่วยเสริมความมั่นใจในด้านความเสถียรขณะขับขี่ได้เป็นอย่างดี
Q
Celerio มีระยะทางขับขี่เท่าไหร่
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของ Suzuki Celerio แตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่น โดยรุ่นปี 2023 มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยจากโรงงานอยู่ที่ 5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร รุ่นปี 2022 รุ่น Celerio 1.0 GA อยู่ที่ 4.7 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร และรุ่น Celerio 1.0 GL อยู่ที่ 4.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ระยะทางที่รถสามารถวิ่งได้จริงต่อเชื้อเพลิงหนึ่งหน่วยจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น พฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน และน้ำหนักบรรทุกของรถ ตัวอย่างเช่น การเร่งหรือเบรกอย่างรุนแรง หรือการจอดติดเครื่องเป็นเวลานาน อาจทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น ในทางกลับกัน การขับขี่อย่างนุ่มนวลและถนนที่สภาพดี จะช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น นอกจากนี้ การดูแลรักษารถตามระยะ ตรวจเช็กลมยางให้อยู่ในระดับปกติ ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้รถทำงานได้ใกล้เคียงกับตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองที่ระบุโดยผู้ผลิต และให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีในด้านระยะทางต่อเชื้อเพลิงที่ใช้
Q
Celerio ดีกว่าในรูปแบบแมนนวลหรืออัตโนมัติ?
โหมดเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติของ Suzuki Celerio ต่างมีข้อดีที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งานของแต่ละบุคคล เกียร์ธรรมดามีจุดเด่นในด้านประสิทธิภาพการส่งกำลังที่สูงกว่า สามารถควบคุมรอบเครื่องและแรงบิดได้แม่นยำกว่า โดยเฉพาะเมื่อต้องขับขึ้นเขา หรือเร่งแซงในสถานการณ์เฉพาะหน้า ผู้ขับสามารถเลือกเปลี่ยนเกียร์เองเพื่อให้ได้สมรรถนะตามต้องการ อีกทั้งยังมอบความรู้สึกมีส่วนร่วมในการขับขี่มากขึ้น ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นความสนุกอีกรูปแบบหนึ่ง อีกข้อดีคือ รถเกียร์ธรรมดามักมีราคาถูกกว่า และในเชิงทฤษฎี หากขับขี่อย่างเหมาะสมจะประหยัดน้ำมันมากกว่า ส่วนเกียร์อัตโนมัติเด่นในเรื่องความสะดวกสบาย เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองที่มีการจราจรติดขัดหรือสภาพการขับขี่ที่ต้องหยุดและออกตัวบ่อย ๆ เนื่องจากไม่ต้องเหยียบคลัตช์หรือเปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเอง ช่วยลดความเมื่อยล้าในการขับขี่ เหมาะกับผู้ขับมือใหม่ หรือผู้ที่ต้องการความง่ายในการใช้งาน นอกจากนี้ ระบบเกียร์อัตโนมัติโดยทั่วไปจะเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างราบรื่น ให้ความรู้สึกขับขี่ที่นุ่มนวลและสบาย โดยสรุป หากคุณชื่นชอบการขับขี่แบบมีส่วนร่วม และเน้นเรื่องสมรรถนะในการควบคุม เกียร์ธรรมดาคือทางเลือกที่น่าสนใจ แต่หากคุณให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายในการขับขี่แ เกียร์อัตโนมัติจะเหมาะกับคุณมากกว่า
Q
Celerio อัตโนมัติดีสำหรับการขับขี่ระยะไกลหรือไม่?
Suzuki Celerio ไม่ใช่รถยนต์ที่รองรับระบบขับขี่อัตโนมัติ ส่วนในด้านความเหมาะสมสำหรับการขับขี่ทางไกล Celerio มีทั้งข้อดีและข้อจำกัดบางประการ ข้อดีคือ Celerio มาพร้อมเครื่องยนต์ที่ประหยัดน้ำมัน โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยตามข้อมูลจากผู้ผลิตอยู่ที่ 5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ซึ่งช่วยลดความถี่ในการเติมน้ำมันระหว่างเดินทาง นอกจากนี้ยังมีที่นั่ง 5 ที่นั่ง รองรับการเดินทางของผู้โดยสารกลุ่มเล็กได้อย่างสะดวก อย่างไรก็ตาม Celerio เป็นรถขนาดเล็ก ตัวถังค่อนข้างกะทัดรัด ถังน้ำมันมีความจุ 35 ลิตร ซึ่งอาจทำให้ระยะทางวิ่งต่อการเติมน้ำมันหนึ่งครั้งไม่ไกลมากเท่ารถที่มีถังขนาดใหญ่ อีกทั้งขนาดตัวรถที่เล็กอาจส่งผลต่อความสะดวกสบายในการเดินทางไกล โดยเฉพาะสำหรับผู้โดยสารที่มีรูปร่างสูงใหญ่ ด้านสมรรถนะ Celerio มีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 175 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และใช้เวลา 15.5 วินาที ในการเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งอาจไม่ตอบโจทย์เท่ารถยนต์ขนาดใหญ่ในเรื่องของกำลังและการเร่งแซง โดยสรุป แม้ Celerio จะสามารถใช้เดินทางไกลได้ แต่ควรวางแผนการเดินทางให้เหมาะสม และพิจารณาถึงความสะดวกสบายของผู้โดยสารอย่างเหมาะสม
Q
Suzuki Celerio มีระบบปรับอากาศหรือไม่
ใช่ครับ Suzuki Celerio มาพร้อมระบบปรับอากาศ และยังมีแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐานด้วย Celerio เป็นรถยนต์กลุ่ม A-Segment ที่มีรุ่นปี 2023 ให้เลือกหลายรุ่นในตลาดปัจจุบัน รถรุ่นนี้ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.0 ลิตร แบบไม่มีระบบอัดอากาศ ให้กำลังเหมาะสมกับการใช้งานทั่วไป อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ 5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร จัดว่าเป็นรถที่ประหยัดน้ำมันและใช้งานคุ้มค่า ตัวถังมีขนาดความยาว 3600 มม. กว้าง 1600 มม. สูง 1540 มม. และมีระยะฐานล้อ 2425 มม. ภายในเป็นแบบ 5 ที่นั่ง เพียงพอสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวัน ในด้านความปลอดภัย Celerio ก็จัดว่าให้มาครบพอสมควร เช่น ระบบเบรก ABS และระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ (ESC) ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ช่วยเสริมความปลอดภัยให้กับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ขณะที่ระบบปรับอากาศด้านหลังที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ก็ช่วยให้ผู้โดยสารด้านหลังรู้สึกสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นในการเดินทาง
Q
Suzuki Celerio มีที่นั่งกี่ที่?
Suzuki Celerio มีจำนวนที่นั่งทั้งหมด 5 ที่นั่ง ซึ่งทำให้เป็นตัวเลือกที่ใช้งานได้จริงสำหรับครอบครัวขนาดเล็กหรือกลุ่มเพื่อนที่ต้องการเดินทางไปด้วยกัน ด้วยเบาะนั่งสำหรับผู้โดยสาร 5 คน ทุกคนสามารถนั่งได้อย่างสะดวกสบายตลอดการเดินทาง การจัดวางที่นั่งได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้พื้นที่ภายในของรถระดับ A00-Segment อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในชีวิตประจำวัน การเดินทางภายในเมือง หรือทริปสั้น ๆ นอกเมือง การมีที่นั่งครบ 5 ที่นั่งสามารถตอบสนองการใช้งานในหลายสถานการณ์ได้อย่างลงตัว ด้วยความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้ถึง 5 คน Celerio จึงเป็นตัวเลือกที่หลากหลายและเหมาะสมในตลาดรถยนต์

ข้อดี

ช่องว่างภายในรถกว้างขวาง
เครื่องยนต์ประหยัดน้ำมัน
ราคาถูกกว่ากับรุ่นเริ่มต้นที่เพียง 36.3 หมื่นบาท มาพร้อมกับระบบเปลี่ยนระดับความเร็วแบบธรรมดา
อัตราการใช้น้ำมันที่ยอดเยี่ยมสามารถทำได้ถึง 20 กิโลเมตร/ลิตร ทำให้เหมาะสำหรับการขับรถในเมือง

ข้อเสีย

เครื่องยนต์มีพลังงานไม่พอในรอบต่ำ และมีปฏิกิริยาช้า ม้าลายเพียง 68 แรงบี้ มวลโมเม้นท์ 90 นิวตันเมตร หนึ่งในจำนวนที่มีพลังงานต่ำในชั้นนั้น<div> ออกแบบภายนอกแนวๆ ไม่น่าสนใจ หัวรถ, ด้านข้าง, หางรถ และยางกระทัดรัดขนาด 14 นิ้ว ไม่มีจุดเด่นใดๆ<div> การตั้งค่าสะดวกสบายและระบบความปลอดภัยน้อยมาก, ไม่มีจอสัมผัส, มีเพียงแอร์แบ็กสด้านหน้าคู่, ระบบเบรก ABS และระบบเบรก EBS, แต่ไม่มีระบบช่วยขับขี่

Q&A ล่าสุด

Q
รุ่นที่ดีที่สุดของ Honda Accord 2021 คือรุ่นใด?
รถ Honda Accord ปี 2021 ทำผลงานยอดเยี่ยมในตลาดไทย โดยรุ่นที่แนะนำที่สุดคือ 2.0L Hybrid RS ที่มาพร้อมระบบไฮบริด i-MMD รุ่นที่ 3 ของ Honda ให้กำลังรวมสูงถึง 215 แรงม้า แต่กินน้ำมันเพียง 4.4 ลิตรต่อ 100 กม. เหมาะสมกับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ที่ต้องหยุดและเคลื่อนตัวบ่อยๆ แถมยังได้สิทธิ์ลดภาษีจากรัฐบาลไทยสำหรับรถพลังงานสะอาดอีกด้วย รุ่นนี้มาพร้อมไฟหน้า LED Matrix หน้าจอแสดงผลดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว และระบบ CarPlay แบบไร้สาย ในส่วนของ RS Sport Package จะมีกรอบกระจังหน้าดำแบบฮันนี่คอมบ์และล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ที่ตอบโจทย์รสนิยมของคนรุ่นใหม่ไทย สิ่งที่ต้องระวังคือสภาพอากาศร้อนของไทยอาจกระทบกับแบตเตอรี่ แต่ Accord ไฮบริดออกแบบระบบระบายความร้อนทั้งแบบอากาศและน้ำผ่านการทดสอบในสภาพท้องถิ่นมาแล้ว เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน Accord มีพื้นที่ขายาวถึง 950 มม. มากกว่าคัมรี่ 35 มม. และยังออกแบบมุมเอนหลังให้เหมาะกับสรีระคนเอเชีย อีกทั้งรุ่นไทยยังเสริมระบบแอร์แบบ Dual Zone พร้อมช่องลมหลังให้เย็นฉ่ำ ในส่วนบริการหลังการขาย Honda ไทยให้ประกันระบบไฮบริดยาวถึง 10 ปีหรือ 200,000 กม. ซึ่งถือว่าคุ้มค่าในตลาดท้องถิ่น หากงบประมาณจำกัด รุ่น 1.5T เทอร์โบก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ถ้าคิดระยะยาวแล้วรุ่นไฮบริดจะประหยัดกว่าแน่นอน
Q
Accord ปี 2021 เป็นเจเนอเรชันไหน?
Honda Accord รุ่นปี 2021 เป็นรุ่นที่ 10 (ปี 2018-2022) ซึ่งรุ่นนี้ในตลาดไทยได้รับความนิยมจากพื้นที่ภายในที่กว้างขวางและเทคโนโลยีไฮบริด แอคคอร์ดรุ่นนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5L หรือระบบไฮบริด 2.0L ที่ให้ทั้งพลังและประหยัดน้ำมัน เหมาะมากสำหรับการขับขี่ในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่ต้องเจอกับการจราจรที่ต้องเริ่ม-หยุดอย่างต่อเนื่อง Honda Accord รุ่นที่ 10 ออกแบบมาในสไตล์สปอร์ตมากขึ้น พร้อมกับระยะฐานล้อที่ยาวขึ้นถึง 2,830 มม. ทำให้พื้นที่ขาโดยเฉพาะด้านหลังกว้างกว่าคู่แข่งญี่ปุ่นด้วยกัน ตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยที่ใส่ใจความสบายเป็นพิเศษ และที่เด็ดกว่านั้น Accord เวอร์ชั่นไทยยังมาพร้อมกับ Honda SENSING ชุดความปลอดภัยมาตรฐาน รวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติและรักษาเลน ช่วยลดความเหนื่อยล้าในการขับทางไกลได้ดี สำหรับใครที่สนใจรุ่นไฮบริด Honda ไทยยังให้บริการรับประกันแบตเตอรี่ 5 ปีหรือ 100,000 กม. โดยค่าบำรุงรักษาหลังการขายไม่ต่างจากรุ่นน้ำมันมากนัก และสามารถใช้บริการได้ที่ศูนย์ Honda ทั่วประเทศ
Q
ความแตกต่างระหว่าง Honda Accord รุ่นปี 2021 และ 2022 คืออะไร?
รุ่น Honda Accord ปี 2021 และ 2022 ที่วางขายในตลาดไทยมีความแตกต่างส่วนใหญ่สะท้อนให้เห็นในรายละเอียดเล็กน้อยและการอัพเกรดระบบ ทางรุ่น 2022 ได้เพิ่มฟีเจอร์ Wireless CarPlay และ Android Auto ทำให้การเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนสะดวกขึ้น แถมยังอัพเกรดระบบ Honda Sensing ในรุ่นท็อปด้วยการปรับปรุงกล้องและเรดาร์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พิเศษสำหรับสภาพถนนไทยที่ค่อนข้างซับซ้อน ส่วนเรื่องสีตัวถังก็มีเพิ่มโทนสีใหม่ๆ มาให้เลือกตามความชอบของคนไทย พูดถึงการใช้งานในไทย ทั้งสองรุ่นยังคงใช้ระบบ Hybrid 2.0L ที่ประหยัดน้ำมันแบบสุดๆ โดยเฉพาะในสภาพการจราจรติดขัดแบบกรุงเทพฯ ที่ต้องเร่ง-หยุดบ่อยๆ ส่วนเรื่องการตั้งค่าตัวถังก็ออกแบบมาให้ขับสบายทั้งในเมืองและทางต่างจังหวัดแบบบางพื้นที่ของไทย ที่สำคัญคือ Honda Accord ที่ผลิตจากโรงงานไทยเน้นการปรับระบบแอร์และความทนทานของชิ้นส่วนยางให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้น ซึ่งจุดนี้ทั้งสองรุ่นได้มาตรฐานเหมือนกัน แม้ว่ารุ่น 2022 จะไม่ได้เปลี่ยนอะไรมาก แต่แนะนำให้เปรียบเทียบราคาจากร้านตัวแทนขายในไทยก่อนซื้อ เพราะบางทีรุ่นเก่าอาจมีโปรโมชั่นดีๆ ให้จับตาดูไว้
Q
ระยะเวลาที่ Honda Accord ปี 2021 ของฉันจะใช้งานได้นานแค่ไหน?
สำหรับรถ Honda Accord รุ่นปี 2021 ที่ใช้งานปกติในประเทศไทยและได้รับการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ โดยทั่วไปสามารถใช้งานได้ถึง 200,000-300,000 กิโลเมตร หรือมากกว่า 15 ปี ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน และความถี่ในการดูแลรักษา สภาพอากาศที่ร้อนชื้นของไทยมีผลต่อชิ้นส่วนยางและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บ้าง แนะนำให้ดูแลระบบแอร์ ซีลยาง และแบตเตอรี่เป็นพิเศษ รวมถึงตรวจสอบสารเคลือบป้องกันสนิมใต้ท้องรถทุก 6 เดือน และในช่วงฤดูฝนควรระบายน้ำทิ้งจากรูระบายให้เร็วที่สุดเพื่อป้องกันการกัดเซาะ ส่วนเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5T และระบบไฮบริดของแอคคอร์ดนั้นทำงานได้อย่างน่าเชื่อถือในสภาพการจราจรติดขัดของเมืองไทย แต่ควรใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 0W-20 ตามที่ผู้ผลิตแนะนำเพื่อรองรับอุณหภูมิสูง นอกจากนี้ เจ้าของรถในไทยควรเปลี่ยนไส้กรองอากาศปีละ 2 ครั้งเนื่องจากมีฝุ่นมาก และเลือกเติมน้ำมันจากปั๊มมาตรฐานเพื่อป้องกันผลกระทบจากน้ำมันคุณภาพต่ำต่อระบบฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง หากใช้งานบริเวณชายทะเลเป็นประจำ ควรล้างตัวถังบ่อยขึ้นเพื่อป้องกันความเสียหายจากเกลือ โดยรวมแล้วแอคคอร์ดรุ่นนี้มีความทนทานดีในประเทศไทย สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามคู่มือการบำรุงรักษาอย่างเคร่งครัดและใช้บริการศูนย์บริการที่ได้รับการรับรองจาก Honda เท่านั้น
Q
รถ Honda Accord ปี 2021 จำเป็นต้องใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์หรือไม่?
สำหรับรถ Honda Accord รุ่นปี 2021 ที่จำหน่ายในประเทศไทย แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องประเภทสังเคราะห์เท่านั้น โดยเฉพาะเกรด 0W-20 หรือ 5W-20 แบบเต็มสังเคราะห์ ซึ่งน้ำมันเครื่องเกรดนี้จะทำงานได้ดีกว่าในสภาพอากาศร้อนของไทย เพราะให้การปกป้องเครื่องยนต์ในอุณหภูมิสูงได้ดีเยี่ยม ช่วยประหยัดน้ำมัน และยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ พร้อมทั้งตอบโจทย์มาตรฐานการดูแลรักษาของ Honda อย่างเคร่งครัด สำหรับคนไทยแล้วต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะสภาพอากาศที่ทั้งร้อนและชื้นแบบนี้ น้ำมันเครื่องสังเคราะห์จะมีความเสถียรและต้านทานการเกิดออกซิเดชั่นได้ดีกว่าน้ำมันแร่ ช่วยลดปัญหาคาร์บอนสะสมและอาการสึกหรอของเครื่องยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะที่คู่มือระบุไว้ คือทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือน แต่ถ้าต้องขับในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่รถติดบ่อยๆ อาจต้องเปลี่ยนถี่กว่านั้นหน่อย ถ้าเลือกใช้ยี่ห้ออื่นนอกจากของทาง Honda ต้องดูให้มั่นใจว่าได้มาตรฐาน API SN ขึ้นไป ข้อควรระวังคือรถแต่ละรุ่นหรือปีผลิตอาจต้องการน้ำมันเครื่องต่างกัน เช่นรุ่นไฮบริดอาจกำหนดเกรดน้ำมันเครื่องที่เข้มงวดกว่า ดังนั้นก่อนเข้าศูนย์ควรปรึกษาอู่ฮอนด้าที่ได้รับการรับหมายในไทยก่อน การเลือกน้ำมันเครื่องที่เหมาะสมนอกจากจะช่วยปกป้องเครื่องยนต์แล้ว ยังช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้ดี โดยเฉพาะกับการขับทางไกลหรือขับในเมืองแบบที่คนไทยนิยมทำกัน
ดูเพิ่มเติม