Q

การใช้ Mazda 3 ในประเทศไทย

สำหรับการใช้งาน Mazda 3 ในประเทศไทย รถยนต์รุ่นนี้ให้ความประหยัดน้ำมันและประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมด้วยเทคโนโลยี Skyactiv จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่ในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นและการเดินทางระยะไกลของประเทศไทย เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรแบบดูดอากาศเข้าตามธรรมชาติของ Mazda 3 ให้ความนุ่มนวลและเชื่อถือได้ จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ให้สมรรถนะที่น่าเชื่อถือในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย ในขณะที่ค่าบำรุงรักษาค่อนข้างสมเหตุสมผล เจ้าของรถยนต์ชาวไทยควรตรวจสอบระบบทำความเย็นและเครื่องปรับอากาศเป็นประจำ เนื่องจากอุณหภูมิและความชื้นที่สูงจะส่งผลกระทบต่อส่วนประกอบเหล่านี้ ระบบความปลอดภัย i-Activsense ที่เป็นมาตรฐานของรถยนต์สามารถรับมือกับสภาพการจราจรที่ซับซ้อนในประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งรวมถึงระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติและระบบรักษาเลน อัตราการรักษามูลค่าของ Mazda 3 ในตลาดประเทศไทยนั้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยของรถมือสองในระดับเดียวกัน โดยสีแดงและสีขาวได้รับความนิยมเป็นพิเศษ เมื่อเลือกซื้อรถยนต์มือสองที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการในประเทศไทย แนะนำให้ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการตรวจสอบตัวถังและช่วงล่าง เนื่องจากสภาพถนนที่ย่ำแย่ในบางจังหวัดอาจส่งผลกระทบต่อส่วนประกอบเหล่านี้ โดยรวมแล้ว Mazda 3 ถือเป็นตัวเลือกที่ดีในประเทศไทย ด้วยการผสมผสานความสปอร์ตและการใช้งานจริง เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็กหรือรถยนต์ส่วนบุคคล
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
รถ MAZDA3 ปี 2022 ต้องการน้ำมันเบนซินเกรดพรีเมียมหรือไม่?
รถ Mazda 3 รุ่นปี 2022 นั้น ทางผู้ผลิตแนะนำให้ใช้เบนซินหมายเลข 91 หรือสูงกว่านั้นเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด แต่ไม่ได้บังคับว่าต้องใช้เบนซินระดับพรีเมียมเสมอไป จะใช้เบนซินธรรมดาหมายเลข 87 ก็ได้ตามปกติ แต่เครื่องยนต์อาจจะตอบสนองได้ไม่เต็มที่และประหยัดน้ำมันน้อยลงเล็กน้อย สาเหตุเป็นเพราะเครื่องยนต์ Skyactiv-G ของ Mazda ออกแบบมาให้มีอัตราส่วนการอัดสูง การใช้เบนซินคุณภาพสูงจะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงการน็อค โดยเฉพาะเวลาอากาศร้อนหรือเมื่อขับทางไกลบ่อยๆ แต่ถ้าใช้รถแค่ในเมืองเป็นหลัก การเติมเบนซินธรรมดาก็ไม่เป็นไร ไม่ทำลายเครื่องยนต์ แค่ถ้าจะขับทางไกลหรืออยากได้ความรู้สึกในการขับที่ดีขึ้น แนะนำให้อัพเกรดเป็นเบนซินคุณภาพสูงจะดีกว่า อย่างไรก็ตาม ต้องระวังเรื่องคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงด้วย เพราะแต่ละปั๊มอาจแตกต่างกัน แนะนำให้เลือกเติมปั๊มใหญ่ที่น่าเชื่อถือ เพื่อป้องกันปัญหาเครื่องยนต์ที่อาจเกิดจากน้ำมันคุณภาพต่ำ เวลานำรถเข้าศูนย์บริการก็ให้ช่างตรวจสอบการสะสมคาร์บอนในเครื่องยนต์ด้วย จะได้ปรับเลือกใช้เบนซินให้เหมาะกับการใช้งานจริงของเรา
Q
อัตราการประหยัดน้ำมันของ Mazda 3 รุ่นปี 2022 คือเท่าไร?
Mazda 3 รุ่นปี 2022 ให้ประสิทธิภาพด้านประหยัดน้ำมันที่ดีมาก โดยข้อมูลจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและระบบขับเคลื่อน สำหรับรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ Skyactiv-G ขนาด 2.0 ลิตร จะสิ้นเปลืองน้ำมันประมาณ 7.8 ลิตร/100 กม. ในเมือง และ 5.6 ลิตร/100 กม. บนทางหลวง ส่วนค่าเฉลี่ยรวมอยู่ที่ประมาณ 6.5 ลิตร/100 กม. ส่วนรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตร จะประหยัดยิ่งกว่า ด้วยอัตราสิ้นเปลืองรวมต่ำถึง 4.5 ลิตร/100 กม. เหมาะมากสำหรับคนที่ขับทางไกลบ่อยหรือเน้นเรื่องประหยัดน้ำมัน เทคโนโลยี Skyactiv ของ Mazda ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันได้อย่างชัดเจน ด้วยการปรับแต่งเครื่องยนต์ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ลดน้ำหนักตัวรถ และปรับเกียร์ให้เหมาะสม โดยยังคงความรู้สึกในการขับที่สนุกเหมือนเดิม สำหรับในเมืองไทยที่การจราจรค่อนข้างติดขัด แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีระบบ i-stop ที่จะช่วยดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อจอดรถไฟแดงหรือหยุดแป๊บๆ ช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกเยอะ Mazda 3 ยังมีโหมดขับขี่ให้เลือกหลายแบบ เช่น โหมดประหยัดหรือโหมดสปอร์ต ให้ปรับใช้ตามถนนและความชอบส่วนตัว เพื่อบาลานซ์ระหว่างสมรรถนะกับความประหยัด ถ้าอยากประหยัดน้ำมันยิ่งกว่านี้ก็อาจมองหารถไฮบริดหรือรถไฟฟ้า แต่ Mazda 3 รุ่นเครื่องยนต์ทั่วไปยังคงมีความเหนือกว่าในด้านการตอบสนองและความสนุกในการขับขี่ เหมาะสำหรับคนที่ชอบความรู้สึกของการขับรถจริงๆ
Q
รถ Mazda 3 รุ่นปี 2022 จำเป็นต้องใช้แก๊สโซฮอล์พรีเมียมหรือไม่?
คู่มือทางการของ Mazda 3 รุ่นปี 2022 แนะนำให้ใช้เชื้อเพลิงที่มีออกเทน 91 ขึ้นไปเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด แต่ไม่ได้บังคับว่าต้องใช้เท่านั้น ถ้าเติมน้ำมันธรรมดาอย่างเบนซิน 91 ลงไปเครื่องยนต์ก็สามารถปรับจังหวะการจุดระเบิดให้เหมาะสมได้ แต่กำลังเครื่องและประหยัดน้ำมันอาจลดลงนิดหน่อย เทคโนโลยี Skyactiv-G ของ Mazda ออกแบบมาให้สมดุลระหว่างประหยัดน้ำมันและกำลังส่ง แก๊สโซฮอล์ออกเทนสูงจะช่วยให้เครื่องยนต์อัตราส่วนอัดสูงทำงานได้เต็มที่ โดยเฉพาะเวลาอากาศร้อนหรือขับขึ้นเขา บรรเทาปัญหาการน็อคของเครื่องยนต์และช่วยให้เครื่องทำงานเรียบขึ้น ถ้าใช้รถแค่ในเมืองและอยากประหยัด ก็เติมน้ำมันธรรมดาได้ไม่มีปัญหา แต่ถ้าต้องขับทางไกลหรืออยากได้สมรรถนะการขับขี่เต็มที่ แนะนำให้เลือกน้ำมันออกเทนสูงไว้ก่อน ข้อควรระวังคือน้ำมันแต่ละปั๊มคุณภาพไม่เหมือนกัน ควรเลือกปั๊มที่ไว้ใจได้ และอย่าลืมเติมน้ำยาทำความสะอาดระบบเชื้อเพลิงตามที่ผู้ผลิตแนะนำเป็นประจำ เพื่อดูแลหัวฉีดและห้องเผาไหม้ ส่วนรถเทอร์โบมักจะอ่อนไหวกับเลขออกเทนมากกว่า แต่ Mazda 3 ปี 2022 ทุกรุ่นเป็นเครื่องยนต์แบบแอทโมสเฟียร์ เลยปรับตัวได้ดีกว่า
Q
เครื่องยนต์อะไรที่อยู่ใน Mazda 3 ปี 2022?
รุ่น Mazda 3 ปี 2022 มาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ Skyactiv-Technology 2 แบบ ให้เลือกตามสไตล์การขับขี่ เครื่องยนต์แรกเป็นแบบ 2.0 ลิตร 4 สูบ แบบดูดธรรมดา (กำลังสูงสุด 155 แรงม้า แรงบิดสูง 200 นิวตันเมตร) ส่วนอีกรุ่นเป็น 2.5 ลิตร 4 สูบ (กำลังสูงสุด 186 แรงม้า แรงบิดสูง 252 นิวตันเมตร) ทั้งคู่ใช้เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และบางรุ่นมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อให้เลือกด้วย เครื่องยนต์ทั้งสองแบบนี้ถูกออกแบบให้มีอัตราส่วนอัดสูง ช่วยประหยัดน้ำมันในเมืองแต่ยังเร่งฉิวเวลาแซง ส่วนใครที่ชอบขับทางไกล แนะนำรุ่น 2.5 ลิตรเลย เพราะแรงกว่านิดนึงเหมาะกับทางหลวง ส่วนรุ่น 2.0 ลิตรก็เพอร์เฟกต์สำหรับขับรถไปทำงานประจำวัน สิ่งที่น่าสนใจคือ Mazda 3 ทุกรุ่นไม่ใช้เทอร์โบ แต่ใช้เทคโนโลยีปรับระบบไอดี-ไอเสียและหัวฉีดน้ำมันให้ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้เวลาเจออากาศร้อนๆ เครื่องยังคงเสถียรและดูแลรักษาไม่ยาก แถมเติมน้ำมันแค่เบนซิน 91 ก็พอแล้ว หาเติมตามปั้มทั่วไปได้สบายๆ ใช้ไปนานๆ ก็ประหยัดค่าเชื้อเพลิงได้ดีเลยทีเดียว
Q
2022 Mazda 3 ผลิตที่ไหน?
รถ Mazda 3 รุ่นปี 2022 ส่วนใหญ่ผลิตที่ประเทศญี่ปุ่น เม็กซิโก และไทย โดยรุ่นที่ขายในไทยบางส่วนถูกประกอบที่โรงงานอาเซียนในจังหวัดชลบุรี โรงงานนี้ทำงานตามมาตรฐานคุณภาพระดับโลกของมาสด้าทุกขั้นตอน เพื่อให้รถยนต์มีคุณภาพเทียบเท่ารุ่นที่ผลิตในญี่ปุ่นเลยทีเดียว เครื่องยนต์สกายแอคทีฟและดีไซน์โคโดะที่มาพร้อมในรุ่นนี้เป็นที่นิยมมากในตลาดไทย เพราะประหยัดน้ำมันและขับเคลื่อนคล่องตัวเหมาะกับสภาพถนนในเมืองเป็นพิเศษ ที่น่าสนใจคือโรงงานอาเซียนแห่งนี้ไม่เพียงแต่ผลิตรถพวงมาลัยขวาเพื่อจำหน่ายในประเทศเท่านั้น แต่ยังส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย แสดงให้เห็นถึงความสามารถด้านการผลิตที่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง สำหรับผู้บริโภคแล้ว การเลือกรถที่ประกอบในประเทศจะได้รถเร็วขึ้นและได้รับบริการหลังการขายที่คุ้มค่ากว่า ในขณะที่รุ่นนำเข้าจะมีตัวเลือกอุปกรณ์สูงให้เลือกมากกว่า แนะนำให้เลือกตามความต้องการจริงๆ ของคุณจะดีที่สุด
Q
รถ Mazda3 ปี 2022 จะมีอายุการใช้งานได้นานแค่ไหน
รถ Mazda 3 รุ่นปี 2022 ในสภาพการใช้งานและการดูแลรักษาปกติ คาดว่าจะวิ่งได้เกิน 2 แสนถึง 3 แสนกิโลเมตร แต่อายุการใช้งานจริงขึ้นอยู่กับนิสัยการขับ ขั้นตอนการดูแลรักษา และปัจจัยสภาพแวดล้อมในพื้นที่ รถรุ่นนี้ใช้เทคโนโลยี Skyactiv ที่ให้ประสิทธิภาพความทนทานของเครื่องยนต์และเกียร์ในระดับดี รวมถึงการป้องกันสนิมตัวถังที่เหมาะกับสภาพอากาศชื้น แนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ และตรวจสอบระบบเบรกอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ นอกจากนี้ในเขตอากาศร้อนควรระวังเรื่องความร้อนที่อาจทำให้แบตเตอรี่และชิ้นส่วนยางเสื่อมสภาพเร็วขึ้น แนะนำให้ตรวจสอบระบบระบายความร้อนและแอร์ทุก 6 เดือน สำหรับเจ้าของที่ต้องการใช้รถยาวนาน การเลือกอะไหล่แท้จากศูนย์และการปฏิบัติตามคู่มือการดูแลรักษาของผู้ผลิตจะช่วยยืดอายุการใช้งานได้มากที่สุด เทคโนโลยี Skyactiv ของ Mazda ไม่เพียงช่วยประหยัดน้ำมัน แต่ยังเพิ่มความทนทานด้วยโครงสร้างตัวถังแข็งแรงพิเศษ ซึ่งเป็นจุดสำคัญสำหรับการใช้งานในเมืองที่การจราจรหนาแน่นหรือการขับบนถนนชนบทผสมกัน
Q
ปัญหาทั่วไปของ Mazda3 ปี 2022 มีอะไรบ้าง?
รถ Mazda 3 รุ่นปี 2022 ในตลาดบ้านเรานั้นถือว่าทนทานพอสมควร แต่ก็มีปัญหาบางจุดที่ควรระวัง เช่น มีเจ้าของรถบางรายรายงานว่าหม้อแบตเตอรี่ 12V อาจเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติในสภาพอากาศร้อนชื้น แนะนำให้ตรวจสอบขั้วแบตเตอรี่เป็นประจำว่ามีการกัดกร่อนหรือไม่ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศแบบร้อนชื้น นอกจากนี้ระบบ idle stop ของเครื่องยนต์ Skyactiv-G อาจเพิ่มภาระให้แบตเตอรี่เมื่อต้องเจอกับการจราจรที่ติดขัดบ่อยๆ สามารถปิดชั่วคราวเพื่อยืดอายุการใช้งานได้ ส่วนระบบมัลติมีเดียอาจมีปัญหาการเชื่อมต่อ CarPlay ไม่เสถียรบ้าง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการอัปเดตระบบให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดก็สามารถแก้ไขได้ แล้วยังมีเรื่องสีรถแบบ Soul Red ที่ถึงจะสวยงามแต่ค่าซ่อมแซมค่อนข้างสูง แนะนำให้ทำประกันสีรถจากศูนย์จะดีกว่า ที่น่าสนใจคือเทคโนโลยี Skyactiv ของรถรุ่นนี้เหมาะมากสำหรับการขับบนเส้นทางขึ้นเขา เนื่องจากเครื่องยนต์อัตราส่วนกำลังอัดสูงช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีแม้ในพื้นที่ภูเขาอย่างเชียงใหม่ และระบบ GVC ยังช่วยเพิ่มความมั่นคงบนถนนลื่นๆ ขอแนะนำให้ใช้ยางที่แนะนำโดยโรงงานเดิมเมื่อขับรถในฤดูฝน การจัดแนวล้อสี่ล้อเป็นประจำสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาการบดเบี่ยงเบนได้
Q
มูลค่าขายต่อของ Mazda 3 ปี 2022 คือเท่าไร?
ในตลาดมือสองท้องถิ่น รถ Mazda 3 รุ่นปี 2022 มีอัตราการรักษามูลค่าค่อนข้างคงที่ โดยขึ้นอยู่กับสภาพรถ ระยะทาง และระดับอุปกรณ์ ส่วนใหญ่จะรักษามูลค่าได้ประมาณ 65%-75% ของราคารถใหม่ โดยเฉพาะรุ่นระดับกลางถึงสูงที่ติดตั้งเครื่องยนต์ Skyactiv-G 2.0L อย่างรุ่น Carbon Edition นั้นเป็นที่นิยมมากกว่า เพราะมีอุปกรณ์มาตรฐานเช่น ไฟ LED พวงมาลัยหนัง ทำให้เวลาขายต่อจะเสียมูลค่าน้อยกว่ารุ่นพื้นฐานประมาณ 5%-8% สีแดง Soul Red Crystal แม้จะต้องจ่ายเพิ่มตอนซื้อรถใหม่ แต่เวลาขายมือสองจะรักษามูลค่าได้มากกว่าสีอื่นประมาณ 3%-5% ปัจจัยสำคัญที่ช่วยรักษามูลค่าคือการมีประวัติการบริการจากตัวแทนจำหน่ายอย่างสม่ำเสมอ และการติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยจากโรงงานเช่น ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจเวลาขายต่อได้มาก เมื่อเทียบกับรถระดับเดียวกัน Mazda 3 ได้รับความนิยมในตลาดมือสองอย่างต่อเนื่องเนื่องจากเทคโนโลยี Skyactiv ที่ช่วยให้ประหยัดน้ำมันและขับเคลื่อนดี แนะนำว่าก่อนขายควรเปรียบเทียบราคาในแพลตฟอร์มขายมือสองชั้นนำ และเตรียมประวัติการซ่อมบำรุงให้ครบถ้วนเพื่อให้ได้ราคาดีที่สุด
Q
Mazda 3 รุ่นปี 2022 ควรใช้น้ำมันชนิดใด
สำหรับ Mazda 3 รุ่นปี 2022 ทางผู้ผลิตแนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องเกรดความหนืด SAE 0W-20 ซึ่งเป็นน้ำมันเครื่องความหนืดต่ำที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันเครื่องยนต์ขณะสตาร์ทเครื่องตอนเย็นและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ดี เหมาะสมเป็นพิเศษกับการขับขี่ในสภาพอากาศร้อนที่มีการสตาร์ทเครื่องบ่อยครั้ง แต่หากรถของคุณมีระยะทางใช้งานเกิน 80,000 กิโลเมตรหรือพบปัญหาน้ำมันเครื่องลดลงเล็กน้อย อาจพิจารณาอัพเกรดไปใช้เกรด 5W-30 เพื่อเพิ่มการป้องกันเครื่องยนต์ในอุณหภูมิสูง แนะนำให้เลือกน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ (ทั้งแบบเต็มสังเคราะห์และกึ่งสังเคราะห์) เนื่องจากทนทานต่อการเกิดออกซิเดชันในอุณหภูมิสูงได้ดีกว่าน้ำมันเครื่องแร่ ควรเลือกน้ำมันเครื่องคุณภาพสูงที่ได้การรับรองมาตรฐาน API SP หรือ ILSAC GF-6 ยี่ห้อที่หาซื้อได้ทั่วไปในประเทศไทยเช่น เชลล์ เฮลิกซ์ อัลตรา มอบบิล 1 หรืออิเดมิตสึ ZEPRO ก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม ระยะเวลาการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องควรอยู่ที่ทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 12 เดือน (แล้วแต่อย่างไหนมาถึงก่อน) แต่หากขับขี่ในสภาพรถติดนานหรือขับแบบอัดอาจลดระยะเหลือ 8,000 กิโลเมตร ควรตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องเป็นประจำและหากพบสัญญาณไฟเตือนสีเหลืองที่หน้าปัดควรรีบเติมน้ำมันเครื่องทันที เมื่อทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ควรเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องแบบเดิมของผู้ผลิตไปพร้อมกันเพื่อประสิทธิภาพการกรองที่ดีที่สุด และไม่ควรผสมน้ำมันเครื่องต่างยี่ห้อกัน หากต้องการเปลี่ยนยี่ห้อควรล้างระบบน้ำมันเครื่องให้สะอาดก่อนเสมอ
Q
รถ Mazda 3 ปี 2022 มีความน่าเชื่อถือไหม?
รถ Mazda 3 รุ่นปี 2022 นี่เรื่องความน่าเชื่อถือถือว่าทำงานได้ดีเลยครับ เครื่องยนต์ Skyactiv-G และระบบเกียร์ Skyactiv-Drive ที่ผ่านการทดสอบจากตลาดมานั้นให้ความมั่นใจได้เรื่องความเสถียร แถมยังเจอปัญหาน้อยเวลาขับขี่ประจำวัน โดยเฉพาะการใช้งานในเมืองหรือเดินทางไกล โครงสร้างตัวรถใช้เหล็กความแข็งแรงสูง เรื่องความปลอดภัยถือว่าอยู่ในระดับดีเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในคลาสเดียวกัน แถมยังออกแบบมาให้ทนต่อสภาพอากาศและความชื้นในไทยได้เป็นอย่างดี ภายในห้องโดยสารทำออกมาได้ละเอียดและครบเครื่อง พร้อมระบบ i-Activsense ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยเวลาขับขี่ แต่อย่างไรก็ตามค่าบำรุงรักษาของมาสด้าจะสูงกว่ารถญี่ปุ่นบางยี่ห้ออยู่หน่อย แต่ถ้าเข้าศูนย์บริการตามกำหนดก็ช่วยให้รถสภาพดีได้ในระยะยาว ส่วนเรื่องค่าซื้อขายต่อนั้น Mazda 3 ในตลาดบ้านเราค่อนข้างทรงตัว ถ้าเป็นรถอายุ 3 ปีจะอยู่ที่ประมาณ 60% ของราคาใหม่ สำหรับคนที่ชอบความสนุกในการขับและต้องการความน่าเชื่อถือด้วย รุ่นนี้นับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แนะนำให้ลองทดลองขับดูก่อนตัดสินใจ เพราะระบบบังคับเลี้ยวที่แม่นยำของมันนี่แหละที่ทำให้การขับขี่สนุกมาก

ข้อดี

ภายในรถมีการตกแต่งที่ดี ด้วยโทนสีดำที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยสปอร์ตหรู คุณภาพของวัสดุภายในรถดี การออกแบบทำให้รถดูหรูหราและขั้นสูง การจัดวางแผงอุปกรณ์สะดวกในการใช้งาน
ที่นั่งสบาย การออกแบบที่นั่งตรงกับร่างกาย รองรับด้านข้างที่ดีสำหรับคนขับและผู้โดยสาร สามารถนั่งนานๆ โดยไม่รู้สึกเหนื่อย และที่นั่งขับสามารถปรับได้ 10 ทิศทางโดยใช้ไฟฟ้า
ฟังก์ชันและคุณสมบัติที่ดี มีจอภาพที่คนขับสามารถดูได้ สามารถแสดงความเร็วในการเร่งและการใช้น้ำมัน มีกล้องทั่วรถที่ติดตั้งอย่างดี
สมรรถนะทางการจับคืนดินเป็นอย่างดี ระบบความแข็งแรงกับที่อยู่ใต้รถดีเยี่ยม สมรรถนะทางการจับคืนดินสูงในระหว่างการเลี้ยวหรือในส่วนที่อยู่ใต้รถที่เดินทาง ขับเคลื่อนไม่อย่างรวดเร็ว การเร่งและหมุนกำลังไม่เปลี่ยนแปลงมากจากรุ่นก่อนหน้านี้ น้ำหนักของรถเพิ่มขึ้น

ข้อเสีย

การปรับเปลี่ยนคุณลักษณะของที่นั่งคนขับและที่นั่งผู้โดยสารไม่ตรงกัน ที่นั่งของคนขับสามารถปรับได้ 10 ทิศทาง แต่ที่นั่งของผู้โดยสารไม่สามารถเติมเต็ม 10 ทิศทาง ฟีเจอร์ที่นั่งไม่ได้ตอบสนองความต้องการอย่างเต็มที่
แต่ฟังก์ชั่นของระบบควบคุมการท่องเที่ยวไม่เพียงพอ แม้ว่าจะสามารถเพิ่มหรือลดความเร็วของรถและตามรถที่อยู่ด้านหน้าผ่านเส้นทางที่กว้าง แต่ไม่มีฟังก์ชั่น Stop-and-go
พื้นที่ภายในรถไม่สะกดกว่าผลิตภัณฑ์ที่แข่งขัน มาสด้ามักมีข้อเสียด้านพื้นที่ที่นั่งด้านหลังในแทบทุกรุ่น แต่รุ่น Mazda 3 Sedan ปี 2019 กว้างขึ้นเล็กน้อยกว่าที่ผ่านมา แต่ยังไม่ตรงกับผลิตภัณฑ์ที่แข่งขัน
ความสบายของชานเส้นไม่ตรงกับผลิตภัณฑ์ที่แข่งขัน เมื่อขับขี่บนถนนที่ไม่ราบหรือถนนที่มีลูกรัง คุณจะรู้สึกถึงการสั่น โดยมีความรู้สึกว่ามีการสั่นสะเทือนจากพื้นผิวที่ยางกระทบ

Q&A ล่าสุด

Q
รถ Forester ปี 2020 มีมูลค่าเท่าไหร่?
ราคารถมือสอง Subaru Forester รุ่นปี 2020 ในท้องตลาดบ้านเราจะอยู่ที่ประมาณ 700,000 - 1,000,000 บาท ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพรถ ระยะไมล์ใช้งาน รุ่นย่อย และประวัติการดูแลรักษา โดยรุ่น 2.0i-S EyeSight ที่เป็นเวอร์ชันสูงจะมีอัตราการรักษามูลค่ามากกว่ารุ่นพื้นฐาน ส่วนระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและเครื่องยนต์แบบราบระดับแนวตั้งที่เป็นจุดเด่นของ Subaru นี่แหละที่เหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทยแบบร้อนชื้นสุดๆ Forester ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัย มาพร้อมถุงลมนิรภัย 7 จุดและระบบช่วยขับขี่ EyeSight เหมาะกับครอบครัว เวลาซื้อควรเช็คสภาพช่วงล่างและประวัติการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ให้ดี เพราะอากาศร้อนชื้นแบบไทย ทำให้ยางชิ้นส่วนต่างๆ เสื่อมสภาพเร็ว ในบรรดารถ SUV ญี่ปุ่นด้วยกัน Forester ถือว่าเก็บราคาได้ดีกว่าคู่แข่งประมาณ 5-8% เมื่อครบ 5 ปี ถ้ามีประวัติซ่อมบำรุงจากศูนย์บริการ 4S ครบถ้วนก็จะขายต่อได้ราคาดีขึ้นไปอีก ตอนนี้ในตลาดมือสองเริ่มสนใจรุ่นไฮบริดมากขึ้น แต่รุ่นปี 2020 ที่เป็นเครื่องยนต์เบนซินทั่วไปยังขายดีอยู่เพราะหาอะไหล่ง่ายและระบบขับเคลื่อนที่ผ่านการทดสอบมาแล้วอย่างดี
Q
Subaru Forester ปี 2020 เปรียบเทียบกับคู่แข่งได้อย่างไร?
รถยนต์ Subaru Forester รุ่นปี 2020 เป็นรถที่สมดุลในระดับเดียวกัน แข็งแกร่งทั้งระบบ เครื่องยนต์แบบ BOXER และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD ที่เป็นเอกลักษณ์ ช่วยให้การขับขี่บนถนนลื่นหรือเส้นทางลุยเล็กๆ ทำได้ดีกว่า รถมีความสูงจากพื้น 220 มม. เหมาะกับถนนนอกเมืองบางประเภท เมื่อเทียบกับ Honda CR-V ระบบช่วยขับขี่ EyeSight ของ Forester ตอบสนองดีกว่าในเรื่องเบรกอัตโนมัติและควบคุมความเร็วอัตโนมัติ แต่รุ่น Hybrid ของ CR-V ประหยัดน้ำมันกว่า ส่วน Toyota RAV4 ได้เปรียบเรื่องความมั่นคงในการขับขี่จากโครงสร้าง TNGA แต่ Forester มีพื้นที่เหนือศีรษะผู้โดยสารหลังกว้างกว่า เหมาะสำหรับครอบครัว เครื่องยนต์แบบ BOXER ถึงจะช่วยลดจุดศูนย์ถ่วงเวลาเข้าโค้งแต่ก็ซ่อมบำรุงยากกว่าเครื่องยนต์แบบแถวเรียงหนึ่ง แนะนำให้ใช้บริการศูนย์บริการมาตรฐานของซับารุ ถ้าต้องขับบ่อยๆ ในสภาพถนนมีน้ำท่วมขัง ระบบ X-MODE ของ Forester จะช่วยควบคุมการลื่นไถลได้ดีกว่า Nissan X-Trail ในราคาใกล้เคียงกัน Forester มีอุปกรณ์มาตรฐานให้มากกว่าแต่หน้าจอกลางตอบสนองช้ากว่า Mazda CX-5 ที่ใช้ระบบ MZD Connect
Q
รถ Subaru Forester รุ่นปี 2020 มีเกียร์แบบ CVT ไหม?
รุ่น Subaru Forester ปี 2020 นี่ติดเกียร์ CVT จริงๆนะ ซึ่งเป็นเกียร์ Lineartronic ของ Subaru เวอร์ชันอัพเกรดแล้ว แบบเน้นเปลี่ยนเกียร์ลื่นๆและประหยัดน้ำมัน เหมาะกับขับในเมืองที่รถติดหรือจะขับทางไกลก็ได้ เกียร์ตัวนี้ทำงานคู่กับเครื่องยนต์แบบราบ 2.0 ลิตร ให้กำลังส่งออกมาเนียนๆ แถมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Symmetrical AWD ของซูบารุยังช่วยให้ขับในพื้นที่ฝนตกบ่อยหรือทางเขาขรุขระได้ดีขึ้น ตอนนี้เกียร์ CVT เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นเมื่อเทียบกับเกียร์ออโต้ทั่วไปเพราะประหยัดน้ำมันกว่า แต่คนขับอาจต้องปรับตัวหน่อยเวลาออกตัวเพราะรอบเครื่องจะแปลกๆไปบ้าง สำหรับตลาดบ้านเรา เกียร์ CVT ของ Forester นี่ผ่านการทดสอบในสภาพอากาศร้อนชื้นมาแล้ว เชื่อถือได้แน่นอน แค่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์เฉพาะตามกำหนดก็พอ ถ้าจะซื้อมือสองแนะนำให้เช็คดูว่าเกียร์มีเสียงผิดปกติหรือกระตุกไหม แล้วก็ตรวจสอบประวัติการเซอร์วิสให้ครบด้วย
Q
ใครเป็นผู้ผลิตเครื่องยนต์ Subaru ในปี 2020?
เครื่องยนต์ของรถ Subaru ปี 2020 ส่วนใหญ่ผลิตโดยบริษัทแม่อย่างซูบารุคอร์ปอเรชั่นที่ญี่ปุ่น ฐานการผลิตหลักอยู่ที่โรงงานยาจิมะในจังหวัดกุนมะ ซึ่งมีชื่อเสียงด้านเทคโนโลยีเครื่องยนต์แบบบ็อกเซอร์ (Boxer Engine) การออกแบบจุดศูนย์ถ่วงต่ำแบบนี้ช่วยเพิ่มความมั่นคงในการควบคุมรถ โดยเฉพาะเหมาะกับการขับขี่ในพื้นที่ภูเขาและสภาพอากาศชื้น รุ่นยอดนิยมในไทยอย่างฟอเรสเตอร์และ XV ต่างใช้เครื่องยนต์ประเภทนี้ คู่กับเกียร์ Lineartronic แบบ CVT จนกลายเป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อสมมาตร Symmetrical AWD ที่เป็นเอกลักษณ์ อย่างไรก็ตาม Subaru มีความร่วมมือทางเทคนิคกับโตโยต้า บางรุ่น Hybrid อย่าง Crosstrek Hybrid จะใช้ชุดไฮบริดจากโตโยต้า แต่ส่วนเครื่องยนต์สันดาปยังพัฒนาโดย Subaru เอง แม้เครื่องยนต์แบบบ็อกเซอร์จะซ่อมบำรุงค่อนข้างยาก แต่ด้วยความนุ่มนวลและความทนทาน ทำให้ได้รับความนิยมจากผู้ใช้ในไทย แนะนำให้เจ้าของรถเข้าศูนย์บริการตามกำหนดเพื่อรักษาประสิทธิภาพสูงสุด
Q
รถ Subaru Forester ปี 2020 ควรใช้งานได้นานแค่ไหน?
รถยนต์ Subaru Forester รุ่นปี 2020 ในสภาพการใช้งานและดูแลรักษาตามปกติสามารถวิ่งได้ประมาณ 250,000 - 300,000 กิโลเมตร หรือเทียบเท่ากับอายุการใช้งานเกิน 15 ปี ขึ้นอยู่กับนิสัยการขับขี่ สภาพถนน และความถี่ในการบำรุงรักษา รุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์แบบ Boxer 2.5 ลิตร และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Symmetrical AWD ที่มีชื่อเรื่องความทนทาน แต่ต้องให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเป็นประจำ (แนะนำทุก 5,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือน) และตรวจสอบระดับน้ำมันเกียร์ CVT โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนที่ต้องดูแลระบบระบายความร้อนและชิ้นส่วนยางเป็นพิเศษ ตัวถัง Forester มีการป้องกันสนิมที่ดี แต่หากอยู่ใกล้ชายทะเลแนะนำให้เพิ่มการป้องกันใต้ท้องรถ เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน Forester มีอัตราการรักษามูลค่าอยู่ในระดับดีถึงดีมาก โดยหลังจาก 5 ปีจะเหลือมูลค่าประมาณ 55%-60% หากต้องการยืดอายุการใช้งาน แนะนำให้ปฏิบัติตามคู่มือการบำรุงรักษาอย่างเคร่งครัด ใช้เฉพาะอะไหล่แท้จากศูนย์ และให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับช่วงเวลาการเปลี่ยนหัวเทียนและสายพานไทม์มิ่งของเครื่องยนต์แบบ Boxer ในตลาดรถมือสอง Forester รุ่นปี 2020 ที่วิ่งน้อยกว่า 100,000 กิโลเมตรยังเป็นที่ต้องการอยู่ โดยเวลาซื้อควรตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นพิเศษ สำหรับการใช้งานประจำวัน ควรหลีกเลี่ยงการขับด้วยความเร็วสูงต่อเนื่องเป็นเวลานาน เพราะจะส่งผลต่ออายุการใช้งานของเครื่องยนต์แบบ Boxer โดยตรง
ดูเพิ่มเติม