Q

Denza D9 มี Apple Carplay หรือไม่

Denza D9 ไม่มีระบบ Apple CarPlay แต่ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้าที่มีคุณสมบัติเด่นมากมาย ด้วยความยาว 5,250 มม. กว้าง 1,960 มม. สูง 1,920 มม. และระยะฐานล้อ 3,110 มม. มอบพื้นที่ภายในกว้างขวางและสะดวกสบาย พร้อมที่นั่ง 7 ที่นั่ง เหมาะสำหรับการเดินทางของครอบครัว ด้านพละกำลังมีหลายรุ่น โดยมอเตอร์ไฟฟ้ามีกำลังแรงม้า กำลังไฟฟ้า และแรงบิดแตกต่างกันไป นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบความปลอดภัยมาตรฐานครบครัน เช่น ถุงลมนิรภัย 8 จุด ระบบ ABS ระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ ช่วยเสริมความปลอดภัยในการขับขี่ แม้ว่าจะไม่มี Apple CarPlay แต่หน้าจอกลางขนาด 15.6 นิ้ว พร้อมลำโพง 12 ตัว ก็ให้ประสบการณ์ความบันเทิงที่ดีแก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
Denza D9 มีข้อเสียอะไรบ้าง
Denza D9 ไม่ใช่รถที่สมบูรณ์แบบในทุกด้าน ยังมีบางจุดที่สามารถปรับปรุงได้ ด้านระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ รุ่นที่วางจำหน่ายในประเทศไทยรองรับเพียงระดับ L2 ซึ่งเมื่อเทียบกับรุ่นท็อปในประเทศจีนแล้ว จะขาดฟังก์ชันช่วยขับขั้นสูงบางอย่าง จึงไม่สามารถมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกและชาญฉลาดได้อย่างเต็มที่ ในส่วนของรายละเอียดภายใน กล่องคอนโซลกลางมีตู้แช่เย็นติดตั้งอยู่ด้านล่าง ทำให้ความลึกของกล่องเก็บของลดลง เหมาะสำหรับใส่ของขนาดบาง ๆ เท่านั้น จึงจำกัดการใช้งานในการจัดเก็บ ขณะที่พวงมาลัยใช้ระบบสัมผัสแบบทัช ซึ่งให้แรงสะท้อนกลับที่ไม่ชัดเจนนัก อาจทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดว่าไม่ได้กดหรือสั่งงาน ต่างจากปุ่มกดแบบดั้งเดิมที่ให้สัมผัสชัดเจน นอกจากนี้ ยังพบอาการหน้ารถทิ่มเมื่อเบรกอย่างกะทันหัน โดยเฉพาะขณะหยุดที่สัญญาณไฟแดง อาการนี้ส่งผลให้ผู้โดยสารตอนหลังรู้สึกไม่สบายขณะเดินทาง
Q
Denza D9 อยู่ใน Segment อะไร
Denza D9 จัดอยู่ในกลุ่มรถ MPV (Multi-Purpose Vehicle) หรือรถอเนกประสงค์ โดยมีการวางตำแหน่งเป็นรถ MPV ระดับพรีเมียมหรูหรา เหมาะทั้งสำหรับการเดินทางของครอบครัวและการรับรองลูกค้าทางธุรกิจ รุ่นนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศจีน ด้วยห้องโดยสารแบบ 7 ที่นั่งที่กว้างขวาง การตกแต่งภายในหรูหรา และเทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง เช่น หน้าจอกลางขนาดใหญ่ เบาะปรับอุณหภูมิได้ทั้งร้อนและเย็น ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยที่เน้นความสะดวกสบายและการใช้งานจริง ในประเทศไทย รถ MPV ก็เป็นที่นิยม โดยเฉพาะรุ่นหรูอย่าง Toyota Alphard และ Honda Odyssey ซึ่งการมาของ Denza D9 ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะมีทั้งเวอร์ชันไฟฟ้าล้วนและปลั๊กอินไฮบริด ซึ่งตอบรับแนวทางการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลไทย หากคุณกำลังพิจารณาซื้อรถ MPV ควรดูทั้งเรื่องความกว้างขวาง ความสะดวกสบาย รวมถึงระยะทางต่อการชาร์จและความสะดวกในการชาร์จ เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จในไทยกำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รถไฟฟ้าจะมีบทบาทมากขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ ระบบอัจฉริยะใน Denza D9 เช่น การควบคุมด้วยเสียงและระบบช่วยขับขี่กึ่งอัตโนมัติ ยังช่วยให้การขับขี่ในเมืองที่การจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯ เป็นเรื่องง่ายขึ้นอีกด้วย
Q
Reslae Value ของ Denza D9 คืออะไร
Denza D9 เปิดตัวในประเทศไทยด้วยรุ่น DENZA D9 Premium 2024 และ DENZA D9 Performance AWD 2024 โดยมีราคาจำหน่ายที่ 1,999,900 บาท และ 2,699,900 บาทตามลำดับ ราคาขายต่อในตลาดมือสองมักจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยหลายประการ เช่น สภาพการใช้งาน ระยะทางที่วิ่ง อายุของรถ และอุปสงค์อุปทานในตลาด หากรถถูกใช้งานในระยะเวลาสั้น มีระยะทางน้อย และสภาพดี ราคาขายต่อจะค่อนข้างสูง ในทางกลับกัน หากรถมีความเสียหายชัดเจน หรือวิ่งมาไกล ราคาจะลดลงอย่างมาก นอกจากนี้ ความต้องการของตลาดยังเป็นปัจจัยสำคัญ หากความต้องการรถ Denza D9 สูงและมีรถในตลาดจำนวนน้อย ราคาจะรักษาระดับได้ดี แต่หากอุปทานมากเกินความต้องการ ราคาขายต่อก็อาจลดลงได้เช่นกัน
Q
PCD Size ของ Denza D9 คืออะไร
PCD ของล้อรถยนต์ Denza D9 คือ 5×120 มิลลิเมตร หมายความว่าล้อถูกยึดด้วยน็อต 5 ตัว โดยน็อตจะกระจายอยู่บนวงกลมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 120 มิลลิเมตร ข้อมูลนี้สำคัญมากสำหรับผู้ใช้ในประเทศไทย โดยเฉพาะเมื่อต้องเปลี่ยนล้อหรืออัปเกรดยางรถยนต์ ต้องมั่นใจว่าขนาด PCD ของล้อใหม่ตรงกับสเปกโรงงาน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการติดตั้งไม่พอดีหรือเสี่ยงต่อความปลอดภัยในการขับขี่ เนื่องจากสภาพอากาศร้อนชื้นและฝนตกบ่อยในไทย แนะนำให้เลือกล้อที่น้ำหนักเบาและระบายความร้อนได้ดี เช่น ล้ออะลูมิเนียม เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันและการระบายความร้อนของระบบเบรก นอกจากนี้ สภาพถนนในไทยมีความหลากหลาย ทั้งเส้นทางภูเขาและในเมือง การเลือกขนาดยางและดีไซน์ล้อที่เหมาะสมจะช่วยให้ขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น ผู้ใช้ควรใส่ใจพารามิเตอร์อื่นๆ เช่น ค่า ET (Offset) และขนาดรูตรงกลาง (Center Bore) เพื่อให้ล้อที่ติดตั้งเข้ากันได้ดีกับระบบช่วงล่างและระบบเบรก ป้องกันการสั่นสะเทือนหรือการสึกหรอที่ไม่จำเป็น หากไม่คุ้นเคยกับการแต่งล้อ ควรปรึกษาช่างมืออาชีพหรือไปที่ศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาต เพื่อให้แน่ใจว่าการเปลี่ยนล้อเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยและรักษาประสิทธิภาพของรถยนต์ไว้ได้อย่างดีที่สุด
Q
ยี่ห้อยางของ Denza D9 คืออะไร
Denza D9 ในฐานะ MPV พลังงานใหม่ระดับไฮเอนด์ ยางมาตรฐานจากโรงงานจะแตกต่างกันตามรุ่นรถและตลาดแต่ละภูมิภาค โดยในตลาดจีนมักติดตั้งยางคุณภาพสูงเพื่อความนุ่มนวล เช่น Michelin PRIMACY 4 หรือ Continental UltraContact UC6 ซึ่งทั้งสองแบรนด์นี้ก็เป็นที่นิยมและได้รับการยอมรับในตลาดไทยด้วย ผู้บริโภคในไทยสามารถอ้างอิงประสิทธิภาพด้านความเงียบและการรีดน้ำบนถนนเปียกของรุ่นเหล่านี้ได้ สภาพภูมิอากาศร้อนชื้นและฝนตกชุกในไทย ทำให้ความสามารถในการรีดน้ำและความทนทานต่อความร้อนของยางมีความสำคัญมาก จึงควรตรวจสอบความดันลมยางและความลึกของร่องยางอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน หากต้องเปลี่ยนยาง นอกจากแบรนด์มาตรฐานจากโรงงานแล้ว ตัวเลือกคุณภาพในไทยยังมี Bridgestone TURANZA T005A และ Dunlop VEURO VE303 ที่ให้ความนุ่มนวลและประหยัดพลังงาน เหมาะกับการใช้งานของ MPV หรูอย่าง D9 ไม่ว่าจะเลือกแบรนด์ใด ควรซื้อจากช่องทางที่ถูกต้องและตรวจสอบให้มีเครื่องหมายรับรองมาตรฐาน “DOT” หรือ “ECE” เพื่อให้มั่นใจว่ายางนั้นสอดคล้องกับมาตรฐานความปลอดภัยของกรมการขนส่งทางบกไทย
Q
Denza D9 เป็นรถที่ดีหรือไม่ เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
Denza D9 ในฐานะ MPV พลังงานใหม่ระดับไฮเอนด์ มีความสามารถในการแข่งขันในตลาดไทย จุดเด่นคือพื้นที่ภายในกว้างขวางและสะดวกสบายแบบ 7 ที่นั่ง เหมาะสำหรับการเดินทางแบบครอบครัวหรือการรับรองแขกทางธุรกิจ โดยเฉพาะเบาะแถวที่สองแบบที่นั่งเครื่องบินที่ปรับระดับได้หลายทิศทางพร้อมฟังก์ชันอุ่นและระบายอากาศ ช่วยเพิ่มประสบการณ์การโดยสาร นอกจากนี้ รุ่นไฟฟ้าและรุ่นไฮบริดที่มีในตลาดช่วยลดต้นทุนการใช้งานได้ดีในสภาพราคาน้ำมันสูงของไทย เทคโนโลยีแบตเตอรี่แบบใบมีดยังเพิ่มความปลอดภัยสูง แต่ข้อจำกัดคือขนาดตัวถังที่ค่อนข้างใหญ่ ทำให้การขับขี่และการจอดรถในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ อาจไม่คล่องตัวนัก และโครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ซึ่งส่งผลต่อความสะดวกของรุ่นไฟฟ้า ด้านความทนทานระยะยาวและเครือข่ายบริการหลังการขาย ผู้บริโภคไทยอาจมีความกังวลในฐานะแบรนด์จีน หากสนใจ MPV พลังงานใหม่ ยังมีตัวเลือกที่มีชื่อเสียงอย่าง Toyota Alphard ไฮบริด แต่ Denza D9 นำเสนอเทคโนโลยีและความคุ้มค่าที่น่าสนใจกว่า แนะนำให้ทดลองขับเปรียบเทียบและตรวจสอบบริการของตัวแทนจำหน่ายพร้อมเงื่อนไขการรับประกัน นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังมีมาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับรถยนต์พลังงานใหม่ จึงควรติดตามนโยบายล่าสุดเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้อรถ
Q
ความกว้างของ Denza D9 คือเท่าไร
Denza D9 มีความกว้างตัวถัง 1960 มิลลิเมตร ซึ่งถือเป็นขนาดกว้างในกลุ่ม MPV ขนาดใหญ่ ช่วยเพิ่มพื้นที่ด้านข้างภายในรถให้กว้างขวาง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเดินทางแบบครอบครัวหรือการรับรองแขกในธุรกิจ ในภูมิภาคเขตร้อนอย่างประเทศไทย พื้นที่ภายในที่กว้างขวางยังช่วยเพิ่มความสบายขณะนั่ง พร้อมกับระบบแอร์ที่ดีสามารถรับมือกับสภาพอากาศร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ Denza D9 ในฐานะ MPV พลังงานใหม่ การออกแบบตัวถังที่กว้างไม่เพียงแต่เพิ่มประสบการณ์การโดยสารที่ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงสมรรถนะด้านอากาศพลศาสตร์ ช่วยลดการใช้พลังงานอีกด้วย สำหรับผู้ใช้ในประเทศไทย ขนาดความกว้างนี้เมื่อนำไปใช้งานบนถนนในเมืองหรือในลานจอดรถ อาจต้องระมัดระวังบ้าง แต่โดยทั่วไปห้างสรรพสินค้าหรือโรงแรมในไทยส่วนใหญ่รองรับรถขนาดนี้ได้ หากต้องการความมั่นใจ แนะนำให้ไปทดลองนั่งรถจริงที่ตัวแทนจำหน่ายก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อประเมินความเหมาะสมกับการใช้งานประจำวัน
Q
ราคาภาษีรถยนต์ของ Denza D9 คืออะไร วิธีการคำนวณเป็นอย่างไร
Denza D9 เป็นรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งภาษีการใช้ทางบกในประเทศไทยจะแตกต่างจากรถยนต์ใช้น้ำมันที่คำนวณตามขนาดความจุเครื่องยนต์ โดยรถยนต์ไฟฟ้าไม่ถูกเก็บภาษีตามขนาดเครื่องยนต์ อัตราภาษีจึงขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละช่วงเวลา ผู้ใช้ต้องชำระภาษีประจำปีภายในวันที่ครบรอบทะเบียน พร้อมเตรียมเอกสารสำคัญ เช่น เล่มทะเบียนรถสีฟ้า และประกันภัยภาคบังคับ (พรบ. หรือ CTPL) หากรถมีอายุมากกว่า 6 ปี จำเป็นต้องผ่านการตรวจสภาพก่อนชำระภาษี จึงแนะนำให้ติดต่อกรมขนส่งทางบกหรือผู้จำหน่ายที่ได้รับอนุญาต เพื่อรับข้อมูลภาษีที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันสำหรับ Denza D9 ค่ะ
Q
ราคามือสองของ Denza D9 คืออะไร ตรวจสอบราคามือสองได้ที่นี่
ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลราคามือสองของ DENZA D9 โดยตรง แต่รุ่นใหม่ของ DENZA D9 ในตลาดไทยมีหลายเวอร์ชัน ได้แก่ DENZA D9 Premium 2024 ราคาขาย 1,999,900 บาท และ DENZA D9 Performance AWD 2024 ราคาขาย 2,699,900 บาท ราคามือสองโดยทั่วไปจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุการใช้งาน กิโลเมตรที่วิ่ง สภาพรถ และอุปสงค์อุปทานในตลาด โดยรถที่อายุใช้งานสั้น วิ่งน้อย และสภาพดี มักมีราคาสูงกว่า ส่วนรถที่มีประวัติอุบัติเหตุหรือสภาพไม่ดี ราคาจะลดลงอย่างมาก หากต้องการทราบราคามือสองที่แม่นยำ แนะนำให้ติดตามแพลตฟอร์มซื้อขายรถมือสองที่เชื่อถือได้ในท้องถิ่น หรือติดต่อผู้จำหน่ายรถมือสองที่มีใบอนุญาตอย่างเป็นทางการค่ะ
Q
ความดันลมยางของ Denza D9 คือเท่าไร
Denza D9 เป็น MPV พลังงานใหม่ระดับพรีเมียม มีค่าความดันลมยางมาตรฐานแนะนำอยู่ที่ประมาณ 2.3 ถึง 2.5 บาร์ (33-36 psi) ซึ่งค่าที่แน่นอนอาจแตกต่างกันตามรุ่นรถหรือขนาดยาง ควรอ้างอิงข้อมูลจากป้ายที่เสากลางประตูหรือคู่มือฉบับภาษาไทย เนื่องจากสภาพอากาศร้อนชื้นในไทย ควรปรับความดันลมยางตามฤดูกาล โดยในฤดูร้อนสามารถลดความดันลง 0.1-0.2 บาร์ เพื่อป้องกันความร้อนสูงเกินไปและการระเบิดของยาง ส่วนในฤดูฝนหรือก่อนเดินทางไกลควรตรวจสอบความดันให้คงที่ สภาพถนนในไทยมีทั้งการจราจรติดขัดในเมืองและถนนชนบทที่ซับซ้อน การรักษาความดันลมยางให้เหมาะสมช่วยเพิ่มความนุ่มนวล ลดการสิ้นเปลืองพลังงาน และยืดอายุการใช้งานยาง หากบรรทุกน้ำหนักมากหรือใช้ความเร็วสูง สามารถเพิ่มความดันขึ้นประมาณ 0.1 บาร์ กฎหมายไทยกำหนดให้ใช้ยางที่ผ่านมาตรฐาน TIS และระบบตรวจจับความดันลมยาง (TPMS) มีความสำคัญอย่างยิ่งในสภาพอากาศร้อนชื้น ควรตรวจวัดความดันอย่างน้อยเดือนละครั้ง โดยเฉพาะก่อนและหลังฤดูฝน เพื่อป้องกันปัญหายางสึกหรอเกินไปหรือแตกร้าวบริเวณแก้มยาง ซึ่งสำคัญต่อความปลอดภัยและการดูแลรักษารถยนต์อย่างมาก

ข้อดี

ห้องยานพาหนะที่กว้างขวางและหรูหราเพื่อความสบาย
ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าแนวขั้นสูงให้การขับรถที่ราบรื่น
คุณสมบัติการรักษาความปลอดภัยที่โดดเด่นรับประกันการปกป้อง
การออกแบบที่สไตล์ทำให้ดึงดูดความสนใจบนถนน

ข้อเสีย

ราคาสูงอาจเกินงบประมาณของบางคน
สาธารณูปกรณ์ในการชาร์จจำกัดในบางพื้นที่
น้ำหนักที่หนักอาจส่งผลต่อการควบคุมเล็กน้อย

Q&A ล่าสุด

Q
ไฟเตือนในรถยนต์โตโยต้าคามรีคืออะไร?
ไฟเตือนบนหน้าปัดโตโยต้า คัมรี เป็นช่องทางสื่อสารระหว่างรถกับผู้ขับขี่ ไฟเตือนที่พบได้บ่อยได้แก่ ไฟเตือนเครื่องยนต์สีเหลืองหรือแดง ไฟเตือนแรงดันน้ำมันเครื่อง ไฟเตือนระบบชาร์จแบตเตอรี่ ไฟ ABS ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ไฟถุงลมนิรภัย และไฟตรวจสอบแรงดันลมยาง ในสภาพอากาศร้อนชื้นและฝนตกในไทย แนะนำให้ผู้ขับขี่สังเกตไฟเตือนอุณหภูมิน้ำหล่อเย็นและน้ำฉีดกระจกหน้าเพราะเกี่ยวข้องกับการใช้งานในท้องถิ่น รุ่นคัมรีแต่ละปีอาจมีดีไซน์ไฟเตือนแตกต่างกัน รุ่นไฮบริดจะแสดงไฟเตือนระบบขับเคลื่อนไฮบริดเพิ่มเติม เมื่อไฟแดงติดควรจอดตรวจสอบทันที ไฟเหลืองควรนำรถเข้าศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาตเพื่อตรวจเช็ค รหัสปัญหาสามารถอ่านได้อย่างรวดเร็วโดยอุปกรณ์วินิจฉัยของโชว์รูมโตโยต้าในไทย และช่างจะตรวจสอบระบบเหล่านี้ระหว่างการบำรุงรักษา การเข้าใจความหมายของไฟเตือนช่วยเพิ่มความปลอดภัยและป้องกันปัญหาเล็กกลายเป็นใหญ่ โดยเฉพาะกับสภาพถนนที่ซับซ้อนในไทย
Q
วิธีรีเซ็ตไฟบำรุงรักษาของโตโยต้าคามรี
ในประเทศไทย การรีเซ็ตไฟเตือนการบำรุงรักษารถโตโยต้า คัมรี่ สามารถทำได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้ ก่อนอื่นให้มั่นใจว่ารถอยู่ในสถานะดับเครื่อง จากนั้นหมุนกุญแจไปที่ตำแหน่ง "ON" (ไม่ต้องสตาร์ทเครื่อง) แล้วมองหาปุ่ม "TRIP" ที่แผงหน้าปัด กดค้างไว้จนกว่าไฟเตือนจะเริ่มกระพริบ จากนั้นปล่อยปุ่มและรอสักครู่ ไฟเตือนก็จะหายไป ควรทราบว่ารุ่นคัมรี่ปีต่าง ๆ อาจมีขั้นตอนแตกต่างกันเล็กน้อย แนะนำให้ดูคู่มือการใช้รถหรือปรึกษาตัวแทนจำหน่ายโตโยต้าในพื้นที่เพื่อความถูกต้อง นอกจากนี้ การบำรุงรักษารถอย่างสม่ำเสมอนั้นสำคัญมากต่อประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของรถ โดยเฉพาะสภาพอากาศประเทศไทยที่ร้อนชื้น ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองตามระยะที่ผู้ผลิตแนะนำ พร้อมทั้งตรวจสอบระบบเบรก น้ำหล่อเย็น และส่วนสำคัญอื่น ๆ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ หากไฟเตือนกลับมาติดอีกหลังจากรีเซ็ตแล้ว อาจหมายถึงรถตรวจพบปัญหาอื่นที่ต้องดูแล ควรรีบนำรถไปตรวจที่อู่ซ่อมมืออาชีพ การรู้ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณดูแลรถได้ดีขึ้น ยืดอายุการใช้งาน และรักษาประสิทธิภาพสูงสุดของรถได้
Q
วิธีการเปลี่ยนผ้าเบรกหลังของรถโตโยต้าคามรี
การเปลี่ยนผ้าเบรกหลังของโตโยต้า คัมรี่เป็นงานซ่อมที่ต้องใช้ทักษะพอสมควร ในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ผ้าเบรกอาจสึกหรอเร็วกว่าในเขตอากาศอบอุ่น แนะนำให้ตรวจสอบทุก 20,000 กิโลเมตรหรือเมื่อได้ยินเสียงเหล็กเสียดสี เวลาทำงานต้องปลดเบรกมือก่อน ใช้แม่แรงยกล้อหลังขึ้นและยึดให้มั่นคง หลังจากถอดล้อออกจะเห็นคาลิปเปอร์เบรก ใช้ประแจคลายสลักเกลียวนำ แล้วถอดคาลิปเปอร์ออกอย่างระมัดระวังและใช้ตะขอแขวนไว้เพื่อไม่ให้สายเบรกถูกดึง จากนั้นใช้เครื่องมือพิเศษดันลูกสูบกลับเข้าไปในคาลิปเปอร์ (ระวังระดับน้ำมันเบรกในถังอาจเพิ่มขึ้น) หลังจากเอาผ้าเบรกเก่าออกแล้วอย่าลืมทำความสะอาดผิวสัมผัสของจานเบรก เมื่อติดตั้งผ้าเบรกใหม่ต้องแน่ใจว่าแผ่นลดเสียงหันด้านถูกต้อง แล้วประกอบกลับตามลำดับเดิม ลูกค้าไทยต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะการเบรกบ่อยในช่วงฤดูฝนจะทำให้จานเบรกเป็นสนิมง่าย แนะนำให้ตรวจสอบสภาพจานเบรกทุกเดือน ถ้าพบรอยลึกหรือสั่นผิดปกติควรกลึงจานหรือเปลี่ยนใหม่ นอกจากนี้ในเมืองติดขัดอย่างกรุงเทพฯ การสตาร์ทและหยุดบ่อยจะเร่งให้ผ้าเบรกสึกเร็ว อาจพิจารณาเลือกผ้าเบรกแบบเซรามิกคอมโพสิตเพื่อยืดอายุการใช้งาน หลังเปลี่ยนเสร็จให้เหยียบเบรกเบาสักหลายครั้งจนกว่าแป้นเบรกจะกลับมาเป็นปกติ ระยะทาง 200 กิโลเมตรแรกควรหลีกเลี่ยงการเบรกกะทันหันเพื่อให้ผ้าเบรกเข้าที่ดี ถ้าให้ศูนย์บริการทำค่าบริการจะอยู่ที่ประมาณ 1,500-2,500 บาท แต่ถ้าทำเองจะประหยัดได้ครึ่งหนึ่ง แต่ต้องมั่นใจว่าใช้ของแท้เท่านั้น
Q
ฮอนด้า CR V hybrid ทำงานอย่างไร
ฮอนด้า CR-V รุ่นไฮบริดใช้ระบบขับเคลื่อน i-MMD ที่มีความของแบรนด์ ระบบนี้ประกอบด้วยเครื่องยนต์อะตกินสันไซเคิล 20 ลิตร มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ทำงานในสามโหมดหลักคือขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าอย่างเดียว ขับเคลื่อนแบบไฮบริด และขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์โดยตรง ในสภาพการจราจรติดขัดในเมืองไทย รถจะใช้โหมดไฟฟ้าเป็นหลักเพื่อลดการปล่อยมลพิษ เมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมดหรือจำเป็นต้องใช้กำลังสูง เครื่องยนต์จะทำหน้าที่ชาร์จแบตเตอรี่หรือขับเคลื่อนมอเตอร์โดยตรง ขณะขับทางไกลความเร็วสูงจะสลับเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนโดยตรงเพื่อเพิ่มความประหยัดน้ำมัน ระบบนี้เหมาะกับสภาพการจราจรที่ต้องหยุดและออกตัวบ่อยในไทย ลดอัตราการใช้น้ำมันรวมเหลือประมาณ 48-50 ลิตรต่อร้อยกิโลเมตร ประหยัดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกว่าเครื่องยนต์ปกติ นอกจากนี้อากาศร้อนชื้นในไทยทำให้ต้องมีการระบายความร้อนแบตเตอรี่ CR-V ไฮบริดจึงปรับปรุงระบบระบายความร้อน แบตเตอรี่ถูกติดตั้งใต้เบาะหลัง ไม่กระทบพื้นที่เก็บสัมภาระและลดปัญหาน้ำขังในฤดูฝน สำหรับผู้บริโภคไทย รถรุ่นนี้ยังมาพร้อมช่วงล่างปรับจูนเฉพาะท้องถิ่น เพื่อให้เหมาะกับสภาพถนนในประเทศมากที่สุด
Q
ราคาของฮอนด้า cr v hybrid คือเท่าไหร่
ราคาของ Honda CR-V รุ่น Hybrid ในประเทศไทยตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 1.5 - 1.8 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับรุ่นที่เลือก นโยบายโปรโมชั่นของตัวแทนจำหน่าย และความแตกต่างของแต่ละพื้นที่ รุ่นนี้ใช้ระบบขับเคลื่อน i-MMD Hybrid ที่พัฒนามาอย่างดีจากฮอนด้า ให้ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันราว 20-22 กม./ลิตร ในสภาพการขับขี่ในเมืองแบบไทยๆ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่รถติดบ่อย ถือว่าเหมาะมากๆ นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังมีนโยบายลดภาษีสำหรับรถยนต์พลังงานสะอาด ทำให้รุ่น Hybrid มีความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับรถยนต์ทั่วไป ในตลาดไทย CR-V Hybrid มีคู่แข่งหลักๆ อย่าง Toyota RAV4 Hybrid และ Mazda CX-5 ถ้าสนใจซื้อแนะนำให้เปรียบเทียบในเรื่องเครือข่ายบริการหลังการขาย มูลค่าการขายต่อ และความรู้สึกในการขับขี่ส่วนตัว ก่อนตัดสินใจซื้อสามารถเช็คข้อมูลรุ่นล่าสุดในเว็บไซต์ฮอนด้าไทย หรือติดต่อตัวแทนจำหน่ายเพื่อทดลองขับและขอใบเสนอราคาแบบละเอียด บางรายอาจมีโปรโมชั่นผ่อนสบายๆ ดอกเบี้ยต่ำ หรือบริการฟรีเช็คระยะให้ด้วยนะ
ดูเพิ่มเติม