Q
2021 Mazda CX-5 ต้องการน้ำมันเบนซินพรีเมียมหรือไม่?
คู่มือการใช้งานอย่างเป็นทางการของ Mazda CX-5 ปี 2021 แนะนำให้ใช้เชื้อเพลิงเบนซินที่มีค่าออกเทน 91 ขึ้นไปเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด แต่ไม่ใช่ข้อบังคับ หากใช้เชื้อเพลิงเบนซินทั่วไปที่มีค่าออกเทน 87 เครื่องยนต์สามารถปรับจังหวะการจุดระเบิดได้ แม้ว่าอาจทำให้กำลังและประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันลดลงเล็กน้อยก็ตาม เทคโนโลยีเครื่องยนต์ Skyactiv-G ของ Mazda ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ด้วยการออกแบบอัตราส่วนการอัดสูง การใช้เชื้อเพลิงเบนซินที่มีค่าออกเทนสูงกว่าจะช่วยให้ใช้ประโยชน์จากข้อดีทางเทคโนโลยีได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนหรือระหว่างการขับขี่ด้วยความเร็วสูงบ่อยครั้ง ซึ่งเชื้อเพลิงเบนซินที่มีค่าออกเทนสูงกว่าจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดการน็อค สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ การผสมเชื้อเพลิงเบนซินที่มีค่าออกเทนต่างกันเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดคราบคาร์บอนสะสมมากขึ้น ขอแนะนำให้เลือกใช้ตามความต้องการในการขับขี่จริง หากใช้เดินทางในเมืองเป็นหลัก เชื้อเพลิงเบนซินทั่วไปก็เพียงพอ ในขณะที่แนะนำให้ใช้เชื้อเพลิงเบนซินพรีเมียมสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การขับขี่ที่ดีกว่าหรือเดินทางไกลโดยบรรทุกสัมภาระเต็มพิกัดบ่อยครั้ง สำหรับการเลือกปั๊มน้ำมัน ควรเลือกปั๊มขนาดใหญ่ เช่น PTT และบางจาก เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพน้ำมันที่สม่ำเสมอ การเติมสารเพิ่มประสิทธิภาพเชื้อเพลิงตามคำแนะนำของผู้ผลิตเป็นประจำจะช่วยรักษาระบบเชื้อเพลิงให้สะอาด นอกจากนี้ยังสามารถปรับเปลี่ยนตามฤดูกาลได้ เช่น การใช้เชื้อเพลิงเบนซินที่มีค่าออกเทนสูงกว่าในช่วงฤดูร้อนและแห้งแล้งอาจเป็นประโยชน์มากกว่า
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ปัญหาเกี่ยวกับเครื่องยนต์ของ Mazda CX-5 ปี 2021 คืออะไร?
ปัญหาของเครื่องยนต์ในรุ่น Mazda CX-5 ปี 2021 ส่วนใหญ่พบในรถบางคันที่เจ้าของรายงานว่ามีการใช้น้ำมันเครื่องผิดปกติ โดยเฉพาะในกรณีของเครื่องยนต์ 2.5L Skyactiv-G ที่อาจมีระดับน้ำมันเครื่องลดลงค่อนข้างเร็ว ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับการออกแบบลูกสูบหรือช่วงการใช้งานแรกของเครื่องยนต์ แนะนำให้เจ้าของรถตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องด้วยก้านวัดเป็นประจำและปฏิบัติตามระยะเวลาบำรุงรักษาที่ผู้ผลิตกำหนดไว้ ควรสังเกตว่าในสภาพอากาศร้อน เครื่องยนต์จะมีอุณหภูมิการทำงานสูงขึ้นซึ่งอาจทำให้การใช้น้ำมันเครื่องมากขึ้นได้ ดังนั้นการใช้น้ำมันเครื่องความหนืดสูง (เช่น 5W-30) หรือเปลี่ยนถ่ายบ่อยขึ้นจะช่วยเพิ่มความมั่นใจได้ เทคโนโลยี Skyactiv ของมาสด้าโดยตัวมันเองมีชื่อเรื่องความมีประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือ ปัญหาแบบนี้บางครั้งก็พบได้ในเครื่องยนต์เทอร์โบของแบรนด์อื่นๆ หากพบความผิดปกติควรรีบไปที่ศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาตเพื่อทำการวินิจฉัย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วสามารถแก้ไขได้ด้วยการอัปเดตซอฟต์แวร์หรือเปลี่ยนชิ้นส่วนที่ได้รับการปรับปรุง สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาซื้อรถมือสอง แนะนำให้ตรวจสอบประวัติการบำรุงรักษาอย่างละเอียด โดยเฉพาะสภาพเครื่องยนต์และประวัติการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง รวมถึงควรทราบว่ามาตรการรับประกันระบบขับเคลื่อน 5 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตรจากผู้ผลิตก็สามารถให้ความคุ้มครองได้อย่างเพียงพอ ในชีวิตประจำวันควรหลีกเลี่ยงการขับด้วยความเร็วสูงเป็นเวลานาน พร้อมทั้งทำความสะอาด throttle body และเปลี่ยนไส้กรองอากาศเป็นประจำ จะช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ได้ดีขึ้น
Q
สิ่งที่แตกต่างระหว่าง Mazda CX-5 รุ่นปี 2021 และ 2022 คืออะไร?
ความแตกต่างหลักระหว่าง Mazda CX-5 รุ่นปี 2021 และ 2022 อยู่ที่ฟีเจอร์ที่ได้รับการอัพเกรดและการปรับแต่งเล็กน้อย แม้จะยังคงใช้เครื่องยนต์เดิม (เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร/2.5 ลิตร แบบไม่มีระบบอัดอากาศ) แต่รุ่นปี 2022 เพิ่มฟีเจอร์ที่ใช้งานได้จริง เช่น ระบบชาร์จไร้สายและพอร์ต USB-C ในรุ่นสเปคสูงบางรุ่น นอกจากนี้ยังปรับปรุงวัสดุฉนวนกันเสียงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้าน NVH (เสียงและการสั่นสะเทือน) และภายนอกมีการออกแบบล้อใหม่และปรับแต่งกระจังหน้าเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความสปอร์ต ทั้งสองรุ่นติดตั้งระบบปรับอากาศที่เหมาะสมกับสภาพอากาศเขตร้อน แต่รุ่นปี 2022 ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำความเย็นให้ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญคือ Mazda ได้ปรับปรุงประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาด้วยเทคโนโลยี Skyactiv ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องเผชิญกับสภาพการจราจรติดขัดบ่อยครั้ง ทั้งสองรุ่นรองรับน้ำมันเบนซิน 95 ออกเทน ซึ่งตรงตามมาตรฐานน้ำมันเชื้อเพลิงทั่วไป หากงบประมาณเอื้ออำนวย รุ่นปี 2022 จะมีการอัพเกรดที่สำคัญกว่า แต่รุ่นปี 2021 จะคุ้มค่ากว่าเมื่อมีส่วนลดมากมาย แนะนำให้พิจารณาตัวเลือกต่างๆ โดยคำนึงถึงความต้องการที่แท้จริงของคุณเป็นหลัก
Q
เครื่องยนต์อะไรอยู่ใน Mazda CX-5 ปี 2021?
Mazda CX-5 ปี 2021 นำเสนอเครื่องยนต์เบนซิน SkyActiv สองแบบให้เลือกในตลาดท้องถิ่น ได้แก่ เครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร และ 2.5 ลิตร แบบไม่มีระบบอัดอากาศ ให้กำลัง 165 แรงม้า และ 194 แรงม้า ตามลำดับ จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เครื่องยนต์เหล่านี้ขึ้นชื่อเรื่องการส่งกำลังที่ราบรื่นและประหยัดน้ำมัน ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่ในเมืองที่มีการจราจรติดขัดและการเดินทางไกล ที่สำคัญ เทคโนโลยี SkyActiv สร้างสมดุลระหว่างกำลังและประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันผ่านอัตราส่วนการอัดสูงและการเผาไหม้ที่เหมาะสม ในขณะที่การออกแบบที่น้ำหนักเบาช่วยเพิ่มการตอบสนองในการควบคุม ไม่มีรุ่นดีเซลให้เลือก แต่รุ่นเบนซินก็เพียงพอต่อความต้องการในการขับขี่ประจำวัน และค่าบำรุงรักษาก็ค่อนข้างสมเหตุสมผล ในขณะที่คู่แข่งในระดับเดียวกัน เช่น Honda CR-V หรือ Toyota RAV4 ส่วนใหญ่ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จหรือไฮบริด แต่ CX-5 เลือกใช้เครื่องยนต์แบบไม่มีระบบอัดอากาศและการปรับแต่งเกียร์ที่ราบรื่น ทำให้เหมาะสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการประสบการณ์การขับขี่ที่ประณีตกว่าและไวต่ออาการหน่วงของเทอร์โบ ปัจจุบันเครือข่ายบริการหลังการขายของมาสด้าครอบคลุมเมืองใหญ่ๆ หลายแห่ง และมีอะไหล่พร้อมใช้งาน แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องที่ผู้ผลิตแนะนำเป็นประจำเพื่อรักษาประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ให้อยู่ในระดับสูงสุด
Q
CX-5 รุ่น Sport และ Touring ปี 2021 มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง?
รุ่น 2021 CX-5 Sport กับ Touring ต่างกันที่อุปกรณ์และความสะดวกสบายครับ Sport เป็นรุ่นเริ่มต้น มีล้อ 17 นิ้ว เก้าอี้ผ้า แอร์มือปรับ และระบบเสียงพื้นฐาน ส่วน Touring อัพเกรดมาด้วยล้อ 19 นิ้ว เก้าอี้หนัง แอร์อัตโนมัติ 2 โซน หลังคากระจกเปิดไฟฟ้า และระบบเสียง Bose แถมยังมีฟังก์ชันความปลอดภัยเพิ่มเติม เช่น เตือนจุดบอด เตือนรถตัดหลัง ทั้งสองรุ่นใช้เครื่องยนต์ 2.5 ลิตรแบบดูดธรรมดา คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แต่ Touring จะเหนือกว่าในเรื่องระบบช่วยขับขี่และวัสดุภายในครับ สำหรับคนที่ขับทางไกลบ่อยหรือเน้นความสะดวกสบาย Touring น่าจะตอบโจทย์กว่า เช่น แอร์ 2 โซนช่วยให้สบายขึ้นในวันที่อากาศร้อน ส่วนระบบเสียง Bose ก็เพิ่มความบันเทิง แต่ถ้าเน้นงบประมาณและใช้ฟังก์ชันพื้นฐานก็พอ Sport จะคุ้มค่ากว่า แนะนำให้ลองขับเปรียบเทียบโดยเฉพาะเรื่องการรองรับของเบาะและความเงียบภายในรถ เพราะรายละเอียดพวกนี้มีผลต่อความสบายเวลาเจอรถติดหรือขับบนทางด่วนครับ
Q
รถ Mazda CX-5 รุ่นปี 2021 มีระบบตรวจสอบจุดบอดหรือไม่?
Mazda CX-5 รุ่นปี 2021 มาพร้อมกับระบบตรวจจับจุดบอด (BSM) ระบบนี้ใช้เซ็นเซอร์เรดาร์ที่กันชนหลังเพื่อตรวจจับรถยนต์ที่อยู่ด้านข้างและด้านหลัง เมื่อมีรถเข้ามาในจุดบอด ไฟเตือนที่กระจกมองข้างจะสว่างขึ้นเพื่อแจ้งเตือนผู้ขับขี่ หากเปิดไฟเลี้ยวในขณะนั้น จะมีเสียงเตือนดังขึ้น ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งในสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ที่มีการเปลี่ยนเลนบ่อยครั้ง รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับระบบแจ้งเตือนการจราจรตัดข้าม (RCTA) ซึ่งตรวจจับการจราจรตัดข้ามขณะถอยหลัง ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้อีกด้วย เทคโนโลยีตรวจจับจุดบอดปรากฏครั้งแรกในรถยนต์หรูในช่วงปี 2000 และปัจจุบันเป็นคุณสมบัติความปลอดภัยมาตรฐานในรถ SUV ทั่วไปหลายรุ่น แต่ละแบรนด์นำไปใช้แตกต่างกันเล็กน้อย ตัวอย่างเช่น บางรุ่นใช้การสั่นของพวงมาลัยหรือเบาะนั่งเพื่อแจ้งเตือนผู้ขับขี่ ในขณะที่มาสด้าใช้การผสมผสานระหว่างวิธีการมองเห็นและเสียง สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ ความไวของระบบประเภทนี้อาจลดลงในสภาพอากาศที่รุนแรง เช่น ฝนตกหนัก ดังนั้นผู้ขับขี่ควรฝึกนิสัยหันศีรษะเพื่อตรวจสอบจุดบอดอยู่เสมอ คุณสมบัติที่คล้ายกันนี้มีอยู่ในรุ่นเทียบเคียง เช่น Honda CR-V และ Toyota RAV4 แต่ลักษณะการเตือนและตรรกะการทำงานอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการปรับแต่งของแต่ละยี่ห้อ
Q
2021 Mazda CX-5 Touring มีซันรูฟไหม?
รุ่น Mazda CX-5 Touring ปี 2021 ในบางสเปกอาจมีหลังคาแบบซันรูฟ (sunroof) ให้เลือก แต่ต้องตรวจสอบกับรายการอุปกรณ์จริงของรถอีกที เพราะแต่ละประเทศอาจมีสเปกแตกต่างกัน แนะนำให้ถามตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่เพื่อดูข้อมูลสเปกของรถคันนั้นๆ ซันรูฟไม่เพียงแต่ช่วยให้แสงสว่างเข้ามาในรถมากขึ้น แต่ยังช่วยระบายความร้อนในสภาพอากาศร้อนเมื่อใช้ร่วมกับแอร์ได้ดี แต่อย่าลืมดูแลรางและยางกันน้ำให้ดีเพื่อป้องกันปัญหาน้ำรั่วในช่วงฤดูฝน รุ่นคู่แข่งอย่าง Honda CR-V หรือ Toyota RAV4 ก็มีซันรูฟให้เลือกเหมือนกัน เวลาเลือกซื้อลองเปรียบเทียบรายละเอียดเช่นแบบเปิดปิด (แบบพาโนรามาหรือแบบธรรมดา) และวัสดุม่านบังแดด ถ้าอยู่ในพื้นที่ที่ฝนตกบ่อย ควรตรวจสอบท่อระบายน้ำของซันรูฟให้โล่ง ไม่ให้ใบไม้อุดตันจนน้ำขังเวลาจอดรถทิ้งไว้นานๆ
Q
รถ Mazda CX-5 ปี 2021 เป็นรถที่ดีไหม?
มาสด้า CX-5 รุ่นปี 2021 เป็น SUV ที่ตอบโจทย์การใช้งานรอบด้าน มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.0L และ 2.5L แบบธรรมชาติที่ให้กำลังส่งออกอย่างนุ่มลื่น คู่กับเกียร์ออโต้ 6 สปีดที่ขับเคลื่อนได้ลื่นไหลและประหยัดน้ำมัน เหมาะทั้งขับขี่ในเมืองและเดินทางไกล แถมยังมีเครือข่ายบริการหลังการขายทั่วถึง ทำให้การซ่อมบำรุงสะดวกไม่ต้องกังวล ด้านภายในตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพดีและการออกแบบมินิมอล ดูพรีเมียมกว่าแข่งญี่ปุ่นด้วยกัน พร้อมระบบความปลอดภัยครบครัน เช่น เตือนจุดบอด รักษาระยะเลน ช่วยเพิ่มความมั่นใจเวลาขับขี่ ส่วนพื้นที่ด้านหลังอาจไม่กว้างมากแต่ก็เพียงพอต่อการใช้งาน ส่วนท้ายรถจุของใช้ในชีวิตประจำวันได้สบายๆ ที่เด่นคือการควบคุมการขับขี่ที่เหนือชั้น คุ้มค่ากว่าเพื่อนร่วมรุ่นด้วยระบบ GVC ที่ช่วยเพิ่มความมั่นคงในการเข้าโค้ง โดยเฉพาะเส้นทางภูเขา ถ้าคิดจะซื้อมือสองก็ถือว่าค่าตัวยังอยู่ระดับดี แต่ควรตรวจสอบประวัติการดูแลรักษาเครื่องยนต์ Skyactiv ให้ดี ส่วนจุดแข็งเมื่อเทียบกับรถราคาใกล้เคียงคือความรู้สึกขณะขับและดีไซน์สวยหรู แต่ถ้าอยากได้พื้นที่กว้างขวางกว่าอาจต้องมองหาตัวเลือกอื่นอย่าง Honda CR-V
Q
รถ Mazda CX-5 ปี 2021 มี WiFi หรือไม่?
Mazda CX-5 ปี 2021 มีฟังก์ชั่นฮอตสปอต Wi-Fi ในตัวสำหรับรุ่นสเปคสูงบางรุ่น โดยใช้โมดูล 4G LTE ในตัว ทำให้สามารถใช้งานเครือข่ายร่วมกับอุปกรณ์มือถือหลายเครื่องได้ ฟังก์ชั่นนี้ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้อย่างสะดวกสบายระหว่างการเดินทางไกลหรือการใช้งานประจำวัน สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าการกำหนดค่าอาจแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น ขอแนะนำให้ตรวจสอบรายการการกำหนดค่าของรุ่นเฉพาะกับตัวแทนจำหน่ายก่อนซื้อ โดยปกติแล้ว Wi-Fi ในรถยนต์ต้องใช้ซิมการ์ดหรือแพ็กเกจข้อมูลจากผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการรายใหญ่ในท้องถิ่น เช่น AIS, TrueMove H และ Dtac มีแพ็กเกจข้อมูลที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในรถยนต์ ฟังก์ชั่นที่คล้ายกันนี้กำลังปรากฏในรถ SUV ในระดับเดียวกันมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น Honda CR-V และ Toyota RAV4 บางรุ่น แต่มีวิธีการใช้งานที่แตกต่างกันเล็กน้อย บางยี่ห้อใช้เทคโนโลยี eSIM เพื่อไม่ต้องใช้ซิมการ์ดจริง เมื่อใช้ฟังก์ชั่นนี้ โปรดระวังการใช้ข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเล่นวิดีโอความละเอียดสูงหรือใช้ระบบนำทางออนไลน์ เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ใช้ข้อมูลอย่างรวดเร็ว ขอแนะนำให้เลือกแพ็กเกจที่เหมาะสมกับความต้องการใช้งานจริงของคุณ หากคุณต้องการใช้อินเทอร์เน็ตในรถบ่อยๆ คุณอาจพิจารณาอุปกรณ์ Wi-Fi แบบพกพาเป็นทางเลือกสำรอง อุปกรณ์เหล่านี้หาซื้อได้ง่ายตามร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วไป
Q
2021 Mazda CX-5 มีระบบนำทางหรือไม่?
รถยนต์ Mazda CX-5 รุ่นปี 2021 บางรุ่นที่มีสเปคสูงกว่า จะมาพร้อมระบบนำทางที่ติดตั้งมาจากโรงงาน ตัวอย่างเช่น รุ่นที่มีหน้าจอสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว จะผสานรวมระบบสาระบันเทิง Mazda Connect ซึ่งรวมถึงระบบนำทางด้วย อย่างไรก็ตาม รุ่นเริ่มต้นอาจต้องซื้อเป็นอุปกรณ์เสริมหรือติดตั้งเพิ่มเติมภายหลัง ในตลาดท้องถิ่น ระบบนำทางจากโรงงานมักรองรับอินเทอร์เฟซภาษาไทยและข้อมูลแผนที่ท้องถิ่น เจ้าของรถหลายคนยังเลือกใช้ Apple CarPlay หรือ Android Auto เพื่อเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับแอปนำทางเพื่อรับข้อมูลการจราจรแบบเรียลไทม์มากขึ้น ที่สำคัญคือ แม้ไม่มีระบบนำทางจากโรงงาน รถยนต์ CX-5 ทุกรุ่นก็มาพร้อมกล้องมองหลังและระบบเชื่อมต่อบลูทูธ ซึ่งสะดวกเพียงพอสำหรับการใช้งานประจำวัน หากพิจารณาซื้อ CX-5 มือสอง ควรตรวจสอบว่าแผนที่นำทางได้รับการอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดหรือไม่ เนื่องจากบางรุ่นเก่าอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดข้อมูลแผนที่ เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกัน CX-5 มีการควบคุมและการตกแต่งภายในที่เหนือกว่า แต่พื้นที่ภายในอยู่ในระดับปานกลาง ทำให้เหมาะสำหรับผู้ใช้ในเมืองที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์การขับขี่ที่ดี
Q
รถ Mazda CX-5 ปี 2021 มีแอปหรือไม่?
Mazda CX-5 รุ่นปี 2021 มาพร้อมกับแอปพลิเคชันอย่างเป็นทางการชื่อ "My Mazda" ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบสถานะรถจากระยะไกล (เช่น ระดับน้ำมันเชื้อเพลิงและสถานะการล็อกประตู) วางแผนเส้นทางการนำทางไปยังจุดหมายปลายทางที่กำหนดไว้ล่วงหน้า และแม้กระทั่งสตาร์ทเครื่องยนต์หรือเปิดเครื่องปรับอากาศจากระยะไกลในบางรุ่นที่รองรับ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่มีประโยชน์อย่างยิ่งในสภาพอากาศร้อน สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ ฟังก์ชันการทำงานของแอปอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการกำหนดค่าเฉพาะ ตัวอย่างเช่น รุ่นที่มีสเปคต่ำกว่าบางรุ่นอาจรองรับเฉพาะการสอบถามข้อมูลพื้นฐานเท่านั้น แอปนี้จำเป็นต้องจับคู่กับตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่เพื่อทำการลงทะเบียนรถให้เสร็จสมบูรณ์ ดังนั้นขอแนะนำให้ตรวจสอบความเข้ากันได้ของระบบโทรศัพท์ของคุณ (iOS/Android) ก่อนดาวน์โหลด คุณสมบัติการเชื่อมต่อรถยนต์ที่คล้ายกันนี้เป็นเรื่องปกติในปัจจุบัน โดยหลายแบรนด์เช่น Toyota และ Honda เสนอบริการควบคุมระยะไกล อย่างไรก็ตาม ตรรกะการทำงานและนโยบายการสมัครสมาชิกจะแตกต่างกันเล็กน้อย ขอแนะนำให้ปรึกษากับที่ปรึกษาการขายเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการใช้งานระยะยาวเมื่อซื้อ หากเกิดปัญหาการเชื่อมต่อ การอัปเดตแอปหรือการรีสตาร์ทระบบสาระบันเทิงมักจะแก้ไขปัญหาได้
รถยอดนิยม
รุ่นปีรถยนต์
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
Q&A ล่าสุด
Q
2021 Mazda CX-5 มีที่นั่งที่มีระบบทำความร้อนหรือไม่?
Mazda CX-5 ปี 2021 มีเบาะนั่งด้านหน้าแบบปรับความร้อนได้ ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่นย่อยระดับสูง เช่น รุ่นเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ในขณะที่รุ่นเริ่มต้นอาจต้องซื้อเป็นอุปกรณ์เสริม เบาะนั่งแบบปรับความร้อนได้อาจไม่ได้ใช้งานบ่อยนักในสภาพอากาศเขตร้อนเมื่อเทียบกับในสภาพอากาศที่หนาวเย็น แต่ก็ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในช่วงฤดูฝนหรือในห้องโดยสารที่เย็น เบาะนั่งแบบปรับความร้อนได้ของ Mazda CX-5 โดยทั่วไปจะมีระดับอุณหภูมิให้เลือกสองระดับ ควบคุมได้ผ่านปุ่มบนคอนโซลกลางหรือใกล้กับคันเกียร์ นอกจากเบาะนั่งแบบปรับความร้อนได้แล้ว รุ่นย่อยระดับสูงอาจมีคุณสมบัติเพิ่มเติม เช่น พวงมาลัยแบบปรับความร้อนได้ และระบบปรับเบาะนั่งด้วยไฟฟ้า หากคุณกำลังพิจารณาซื้อ CX-5 มือสอง ควรตรวจสอบว่าคุณสมบัตินี้ใช้งานได้ตามปกติหรือไม่ เนื่องจากองค์ประกอบความร้อนอาจทำงานผิดปกติหลังจากใช้งานเป็นเวลานาน ระบบเบาะนั่งแบบปรับความร้อนได้ของ Mazda ได้รับการออกแบบมาให้ทนทาน แต่ควรหลีกเลี่ยงการใช้ระดับความร้อนสูงสุดเป็นเวลานานเพื่อป้องกันความร้อนสูงเกินไปและส่งผลต่ออายุการใช้งานขององค์ประกอบความร้อน รถ SUV รุ่นอื่นๆ จากญี่ปุ่นในระดับเดียวกัน เช่น Honda CR-V หรือ Toyota RAV4 ก็มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกัน แต่การกำหนดค่าเฉพาะอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปีและรุ่นของรถ
Q
รถ Mazda CX-5 ปี 2021 มีระบบเข้าสู่รถแบบไม่ใช้กุญแจหรือไม่?
รุ่น Mazda CX-5 ปี 2021 นี่มีฟีเจอร์กุญแจไร้สัมผัสมาให้ครับ ซึ่งฟังก์เจอร์นี้เป็นมาตรฐานในรุ่นระดับกลางถึงสูงที่ขายในบ้านเรา แค่ถือกุญแจสมาร์ทคีย์เดินไปที่ประตูรถก็สามารถเปิดประตูได้ทันทีโดยไม่ต้องควักกุญแจออกมา ทำให้สะดวกสบายเวลาใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนหรือเวลาที่มือเต็มไปของ ส่วนใหญ่มักจะมาพร้อมกับระบบสตาร์ทรถกดเดียวอีกด้วย ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายได้อีกขั้น แต่อย่างไรก็ตามฟังก์เจอร์นี้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นย่อย แนะนำให้สอบถามรายละเอียดกับตัวแทนจำหน่ายก่อนซื้อจะดีที่สุดครับ เทคโนโลยีกุญแจไร้สัมผัสในปัจจุบันกลายเป็นมาตรฐานของรถหลายรุ่นไปแล้ว หลักการทำงานคือเซ็นเซอร์ที่ด้ามจับประตูจะสื่อสารกับกุญแจแบบไร้สาย เมื่อตรวจพบว่ากุญแจอยู่ในระยะที่กำหนด (ปกติประมาณ 1 เมตร) ก็จะปลดล็อคอัตโนมัติ เทคโนโลยีนี้แต่ก่อนมีแต่ในรถหรู แต่ตอนนี้กลายเป็นเรื่องธรรมดาในรถทั่วไปแล้ว แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีรถยนต์จริงๆ สำหรับคนที่ต้องรีบขึ้นรถในวันที่อากาศร้อนๆ ฟีเจอร์นี้ช่วยประหยัดเวลาได้มากเลยล่ะครับ
Q
คุณสามารถสตาร์ทรถ Mazda CX-5 ปี 2021 ของคุณจากระยะไกลด้วยกุญแจรีโมทได้หรือไม่?
รถยนต์ Mazda CX-5 รุ่นปี 2021 จะสามารถสตาร์ทรถด้วยรีโมทกุญแจได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับแบบที่เลือกซื้อ โดยรุ่นท็อปส่วนใหญ่มักมาพร้อมระบบ Mazda Connect ที่รองรับการสตาร์ทรถจากระยะไกลได้ แต่ถ้าเป็นรุ่นมาตรฐานทั่วไป กุญแจรีโมทมักจะไม่มีฟีเจอร์นี้ ต้องติดตั้งอุปกรณ์สตาร์ทรถระยะไกลของทางศูนย์เพิ่มเติม หรือไม่ก็ใช้แอปมือถืออย่าง Mazda Mobile Start แทน แนะนำให้ลองตรวจสอบคู่มือการใช้รถหรือสอบถามศูนย์บริการในพื้นที่เพื่อยืนยันสเปคอีกที ในสภาพอากาศร้อนๆ การสตาร์ทรถล่วงหน้าเพื่อเปิดแอร์ให้เย็นก่อนนี่สะดวกมาก แต่ต้องระวังเรื่องการปล่อยให้เครื่องยนต์เดินเบานานเกินไปเพราะจะทำให้เปลืองน้ำมัน บางที่จอดรถก็อาจมีกฎห้ามใช้ฟังก์ชันนี้ด้วย ถ้ารุ่นที่ซื้อมาไม่รองรับการสตาร์ทระยะไกลตั้งแต่แรก ก็อาจพิจารณาติดตั้งระบบของบริษัทอื่นแทนได้ แต่ต้องเลือกศูนย์ติดตั้งที่เชี่ยวชาญจริงๆ เพื่อความปลอดภัยและไม่ให้ส่งผลต่อการรับประกันระบบไฟฟ้าของรถ ยี่ห้ออื่นๆ อย่าง Toyota หรือ Honda ในระดับเดียวกันก็มักจะมีฟีเจอร์นี้เฉพาะในรุ่นสูงสุดเท่านั้น เจ้าของรถสามารถเลือกได้ตามความต้องการและงบประมาณที่มีครับ
Q
2021 Mazda CX-5 มีระบบกล้อง 360 องศาหรือไม่?
Mazda CX-5 ปี 2021 มาพร้อมกับระบบกล้องมองรอบทิศทาง 360 องศาในรุ่นท็อปบางรุ่น คุณสมบัตินี้ใช้กล้องรอบตัวรถเพื่อสร้างมุมมองจากด้านบน ทำให้มีประโยชน์อย่างยิ่งในถนนแคบๆ หรือที่จอดรถแออัด เช่น สภาพถนนที่ซับซ้อนซึ่งพบได้ทั่วไปในกรุงเทพฯ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการจอดรถได้อย่างมาก สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ กล้อง 360 องศาโดยทั่วไปจะพบในรุ่นที่ติดตั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง แนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดเฉพาะกับตัวแทนจำหน่ายก่อนซื้อ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีกล้องมองรอบทิศทางได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากมาสด้าแล้ว หลายแบรนด์เช่นโตโยต้าและฮอนด้าก็ได้นำเสนอคุณสมบัติที่คล้ายกัน แต่ขั้นตอนวิธีเชื่อมต่อภาพและความคมชัดของภาพจะแตกต่างกันไปในแต่ละผู้ผลิต หากคุณต้องขับขี่ในสภาพการจราจรที่ซับซ้อนบ่อยๆ ควรให้ความสำคัญกับรุ่นที่มีคุณสมบัตินี้ นอกจากนี้ยังควรทดสอบการตอบสนองและประสิทธิภาพในที่แสงน้อยของระบบด้วย ด้วยการพัฒนาของเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ รถยนต์รุ่นใหม่บางรุ่นจึงได้รวมกล้อง 360 องศาเข้ากับฟังก์ชั่นจอดรถอัตโนมัติแล้ว รูปแบบการกำหนดค่าแบบนี้อาจกลายเป็นที่นิยมในอนาคต
Q
2021 Mazda CX-5 มีความน่าเชื่อถือหรือไม่?
มาสด้า CX-5 รุ่นปี 2021 เป็นรถที่ความน่าเชื่อถือสูง ตัวเครื่อง Skyactiv-G และเกียร์ออโต้ 6 สปีดที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่ผ่านการทดสอบมาแล้ว ทำให้อัตราเสียหายต่ำ ค่าบำรุงรักษาก็สมเหตุสมผล เหมาะกับการใช้งานในสภาพอากาศร้อนแบบบ้านเรา ด้านความปลอดภัยก็ครบครัน มีระบบช่วยเบรกอัจฉริยะและระบบรักษาเลนมาตรฐาน ช่วยให้ขับในเมืองที่การจราจรซับซ้อนได้อย่างมั่นใจ สะพานรถถูกตั้งค่าให้เน้นความนุ่มสบายแต่ยังคงความรู้สึกในการควบคุมไว้ เหมาะสำหรับการเดินทางไกล ตลาดรถมือสองก็ถือว่าคงมูลค่าได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยในระดับเดียวกัน แสดงว่ามีเสียงตอบรับที่ดีหลังการใช้งานระยะยาว แต่อย่าลืมว่าการบริการตามระยะเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะระบบแอร์และระบบหล่อเย็นที่ควรตรวจสอบบ่อยขึ้นในสภาพอากาศร้อน จุดเด่นของ CX-5 เมื่อเทียบกับรุ่นระดับเดียวกันคือความรู้สึกในการขับและงานภายใน แม้พื้นที่ข้างในอาจไม่ใหญ่ที่สุดแต่ก็เพียงพอสำหรับครอบครัวทั่วไป ก่อนซื้อแนะนำให้ทดลองขับและเลือกตัวแทนจำหน่ายมาตรฐานเพื่อรับบริการหลังการขายที่มีคุณภาพ
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Mazdaเปิดตัวทีเซอร์ CX-5 เจเนอเรชันใหม่ รถรุ่นใหม่นี้จะเปิดตัวทั่วโลกในวันที่ 10 กรกฎาคม
ณัฐวุฒิJul 3, 2025

Mazda CX-5 ใหม่ คาดมาพร้อมเครื่องยนต์ Skyactiv-Z และภายในโฉมใหม่
ณัฐวุฒิJun 24, 2025

Mazda CX-5 นำเสนอใน Motor Expo 2024 ในประเทศไทย, รุ่นใหม่อาจจะเปิดตัวในงาน Tokyo Auto Show ในปีหน้า
สุรเดชDec 4, 2024

Mazda CX-5 รุ่นที่สามจะเดบิวต์ในปี 2025! มีการใช้เทคโนโลยีไฮบริดที่พัฒนาด้วยตนเอง
ธนวัฒน์Nov 25, 2024

ตารางผ่อน Mazda CX-30 ชำระครั้งแรกได้รับดอกเบี้ยต่ำ 25%
AshleyNov 18, 2025
ดูเพิ่มเติม


ข้อดี
ข้อเสีย