Q

Mazda 3 มีระบบนำทางหรือไม่?

Mazda3 รุ่นสูง (เช่น 2.0 SP Premium) มาพร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์กลางที่มีฟังก์ชันนำทางเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยใช้หน้าจอกลางขนาด 8.8 นิ้ว และรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto ดังนั้น แม้ไม่มีระบบนำทางภายในตัว ก็สามารถใช้บริการนำทางผ่านการเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนได้ เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งในเมืองและพื้นที่ชนบทที่มีเส้นทางซับซ้อน สำหรับรุ่นเริ่มต้น จะติดตั้งระบบมัลติมีเดียพื้นฐาน ซึ่งแม้ไม่มีระบบนำทางจากโรงงาน แต่ก็รองรับฟังก์ชันเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือเช่นกัน
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Mazda 3 นีอะไรบ้าง?
แม้ว่า Mazda3 จะได้รับความนิยมในตลาดไทยจากดีไซน์ที่สวยงามและสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม แต่ก็ยังมีข้อสังเกตบางประการที่ควรพิจารณา อย่างแรกคือพื้นที่เบาะหลังค่อนข้างแคบ ซึ่งอาจไม่ตอบโจทย์ความต้องการของครอบครัวไทยที่มักโดยสารหลายคน โดยเฉพาะในกรณีเดินทางไกล พื้นที่วางขาอาจรู้สึกอึดอัด นอกจากนี้ ช่วงล่างของ Mazda3 ถูกเซ็ตมาในแนวสปอร์ต แม้จะให้ความมั่นคงและควบคุมดีในทางโค้ง แต่เมื่อเจอสภาพถนนที่ไม่เรียบในบางพื้นที่ของไทย จะรู้สึกกระด้างและไม่ค่อยสบาย อีกจุดที่ควรพิจารณาคือค่าบำรุงรักษาที่ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะอะไหล่แท้จากศูนย์ซึ่งมีราคาสูงกว่ารถญี่ปุ่นรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน อาจเป็นภาระกับผู้ใช้งานบางกลุ่ม แม้เทคโนโลยี Skyactiv จะช่วยประหยัดน้ำมันได้ดี แต่เมื่อเปิดแอร์ในสภาพอากาศร้อนแบบไทย อัตราการสิ้นเปลืองจะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สุดท้ายคือเรื่องของระบบเก็บเสียง ที่ยังมีจุดให้พัฒนา โดยเฉพาะเวลาขับเร็วหรือใช้งานในเมืองที่มีเสียงรบกวนมาก ถึงแม้จะมีข้อด้อยเหล่านี้ แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงจุดยืนของ Mazda3 ที่เน้นความสนุกในการขับขี่มากกว่าความอเนกประสงค์ เหมาะกับผู้บริโภคชาวไทยรุ่นใหม่ที่ชอบความโดดเด่นและประสบการณ์หลังพวงมาลัยเป็นหลัก
Q
Mazda 3 อยู่ใน Segment ไหน?
Mazda3 ในตลาดไทยจัดอยู่ในกลุ่ม C-segment หรือรถยนต์นั่งขนาดคอมแพ็ค ไม่ว่าจะเป็นตัวถังแบบซีดานหรือแฮทช์แบ็ก ซึ่งถือเป็นเซกเมนต์ยอดนิยมในประเทศไทย คู่แข่งหลักคือรถญี่ปุ่นอย่าง Toyota Corolla และ Honda Civic Mazda3 ได้รับความนิยมเป็นพิเศษในกลุ่มผู้บริโภควัยรุ่นไทย ด้วยดีไซน์ “KODO – Soul of Motion” ที่โดดเด่น และสมรรถนะการขับขี่ที่สนุก มาพร้อมเทคโนโลยี Skyactiv ที่เน้นความประหยัดน้ำมัน เหมาะกับสภาพการจราจรที่ติดขัดของกรุงเทพฯ ในตลาดไทย Mazda3 มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร และ 2.0 ลิตร โดยรุ่น 2.0 ลิตรจะมาพร้อมระบบ G-Vectoring Control ที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการเข้าโค้ง ช่วยให้การขับขี่มีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ Mazda3 รุ่นที่จำหน่ายในไทยยังมีการปรับจูนช่วงล่างให้เหมาะกับสภาพถนนในประเทศไทยโดยเฉพาะ รองรับทั้งถนนเมืองและพื้นที่ที่มีสภาพพื้นผิวไม่เรียบ ราคาจำหน่ายของรถในกลุ่มนี้อยู่ที่ประมาณ 800,000 – 1,200,000 บาท ถือเป็นกำลังหลักของตลาดรถบ้านในไทย ผู้บริโภคจำนวนมากเลือกซื้อด้วยระบบผ่อนรายเดือน เพราะ Mazda3 ถือว่ามีมูลค่าคงเหลือ (resale value) ดีในระยะยาว ขายต่อแล้วขาดทุนน้อยเมื่อเทียบกับหลายรุ่นในระดับเดียวกัน
Q
มูลค่าขายต่อของ Mazda 3 คือเท่าไหร่?
Mazda3 ในตลาดรถมือสองของไทยจัดว่ามีมูลค่าคงเหลืออยู่ในระดับกลางค่อนไปทางดี โดยรถที่มีอายุการใช้งานประมาณ 3 ปี จะมีมูลค่าคงเหลือราว 60-65% ส่วนรถอายุ 5 ปีจะอยู่ที่ประมาณ 50-55% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพรถ รุ่นย่อย และความต้องการของตลาดในช่วงเวลานั้น ในไทย รถญี่ปุ่นได้รับการยอมรับสูง และ Mazda3 ก็เป็นที่นิยมด้วยดีไซน์ KODO ที่โดดเด่น รวมถึงเทคโนโลยี Skyactiv ที่เน้นความประหยัดและทนทาน ทำให้รุ่นนี้เป็นที่ต้องการในตลาดรถมือสอง โดยเฉพาะรุ่นที่มีออปชันสูงหรือรุ่นดีเซล จะมีราคาขายต่อที่ดีกว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาขายต่อ ได้แก่ ประวัติการเข้าศูนย์บริการ การเกิดอุบัติเหตุ และสภาพของตัวถังรถที่อาจได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศชื้นของไทย แนะนำให้เจ้าของรถเก็บบันทึกการเข้ารับบริการที่ศูนย์ให้ครบถ้วน เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือเวลาขายต่อ เมื่อเปรียบเทียบกับรถในระดับเดียวกัน Mazda3 มีอัตราการคงมูลค่าที่ต่ำกว่า Toyota Corolla เล็กน้อย แต่ดีกว่า Honda Civic ส่วนหนึ่งมาจากภาพลักษณ์ของแบรนด์และต้นทุนในการบำรุงรักษาที่ต่างกัน นอกจากนี้ นโยบายส่งเสริมรถยนต์ประหยัดพลังงาน (Eco Car) และมาตรการภาษีของรัฐบาล อาจทำให้ราคารถใหม่ผันผวน ส่งผลกระทบทางอ้อมต่อราคารถมือสองด้วย ดังนั้นก่อนขาย ควรตรวจสอบราคาตลาดปัจจุบัน โดยทั่วไปแล้ว ราคาขายต่อในกรุงเทพฯ จะสูงกว่าจังหวัดอื่นประมาณ 5-10%
Q
Mazda 3 มีกี่ CC
มาสด้า 3 รุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1,998 ซีซี หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า 2.0L แรงม้าเยอะพอสมควร ขับสบายทั้งในเมืองและบนทางด่วน จะแซงหรือเร่งเมื่อไหร่ก็มั่นใจ ทุกรุ่นย่อยของมาสด้า 3 ใช้เครื่องยนต์ขนาดเดียวกันเลย แม้จะต่างกันที่ราคา ยาง หรืออุปกรณ์เสริมบางอย่าง แต่เรื่องกำลังไม่ต้องห่วง ให้ความรู้สึกการขับขี่ที่มั่นคงและแรงดีทั้งตอนจอดๆ ไปๆ ในเมืองหรือเวลาครูดความเร็วสูงบนทางหลวง เรียกว่าเอาอยู่ทุกสถานการณ์จริงๆ
Q
Mazda3 ใช้เครื่องยนต์อะไร?
Mazda3 ที่จำหน่ายในตลาดไทย ส่วนใหญ่จะมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร Skyactiv-G แบบไม่มีเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 158 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 202 นิวตันเมตร โดยกำลังสูงสุดจะออกที่รอบเครื่องยนต์ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุดที่ 4,000 รอบ/นาที เครื่องยนต์นี้ใช้เทคโนโลยีหัวฉีดตรง (Direct Injection) พร้อมฝาสูบและเสื้อสูบผลิตจากอะลูมิเนียม ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดที่สามารถเปลี่ยนเกียร์เองได้ (แบบ Manual Mode) Mazda3 ยังมีตัวเลือกเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร สำหรับผู้ที่ต้องการความประหยัดน้ำมันและมีงบประมาณจำกัด ส่วนเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรจะเหมาะกับผู้ที่เน้นสมรรถนะในการขับขี่มากกว่า ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกได้ตามความต้องการและสไตล์การใช้งานของตนเอง
Q
Mazda3 ใช้เกียร์แบบไหน?
Mazda3 ใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด (6AT) ซึ่งเป็นเกียร์อัตโนมัติที่ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวลและต่อเนื่อง ช่วยให้การขับขี่ทั้งในเมืองที่ต้องเจอการหยุด-เคลื่อนตัวบ่อย ๆ หรือการวิ่งทางไกลบนถนนความเร็วสูงเป็นไปอย่างราบรื่น เกียร์ 6AT นี้สามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ได้อัตโนมัติตามสภาพการขับขี่และลักษณะการเหยียบคันเร่งของผู้ขับ ช่วยให้ขับง่าย ประหยัดแรง และเหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป นอกจากนี้ยังมีความทนทานและเชื่อถือได้ ช่วยลดความกังวลเรื่องปัญหาเกียร์ในระยะยาว ทำให้ใช้งานได้อย่างสบายใจ
Q
PCD (รูน็อตล้อ) ของ Mazda3 คือขนาดเท่าไหร่?
PCD (Pitch Circle Diameter) ของ Mazda3 อยู่ที่ขนาด 5x114.3 มม. หมายความว่าล้อแม็กของรถรุ่นนี้มีรูน็อต 5 รู และตำแหน่งของรูน็อตจะเรียงกันเป็นวงกลมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 114.3 มม. ขนาดนี้ถือว่าเป็นสเปกมาตรฐานที่พบได้บ่อยในรถญี่ปุ่นหลายรุ่น เช่น Honda และ Toyota ทำให้ในไทยสามารถหาอะไหล่หรือเปลี่ยนล้อแม็กได้ง่าย และสะดวกเวลาต้องการอัปเกรดระบบเบรกหรือเปลี่ยนล้อใหม่ การรู้ขนาด PCD เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะหากเลือกล้อที่มีขนาดไม่ตรง อาจทำให้ไม่สามารถติดตั้งได้ หรืออาจเกิดปัญหาในการขับขี่ เช่น การสั่นหรือไม่ปลอดภัยในระยะยาว ในสภาพอากาศร้อนชื้นและฝนตกบ่อยของประเทศไทย ควรเลือกใช้ล้อแม็กและยางที่มีคุณภาพดี เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ โดยเฉพาะในสภาพถนนที่ลื่นหรือขรุขระ และการเลือกรุ่นของยางหรือขนาดล้อที่เหมาะสม ยังช่วยเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่และยืดอายุการใช้งานได้อีกด้วย
Q
Mazda3 รองรับ Apple CarPlay ไหม?
Mazda3 รุ่นล่าสุดที่วางจำหน่ายในประเทศไทยรองรับฟังก์ชัน Apple CarPlay แล้ว ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ iPhone สามารถใช้งานแอปต่าง ๆ บนหน้าจอรถยนต์ได้โดยตรง เช่น แผนที่นำทาง เพลง หรือการโทรออก-รับสาย เพิ่มความสะดวกในการขับขี่อย่างมาก โดยทั่วไปแล้ว Mazda3 ตั้งแต่ปี 2019 ขึ้นไป จะมี Apple CarPlay เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แต่สำหรับรุ่นที่เก่ากว่านั้น อาจต้องนำรถไปอัปเกรดระบบที่ศูนย์บริการ Mazda ที่ได้รับอนุญาตในประเทศไทย ในไทย ผู้ใช้จำนวนมากนิยมเชื่อมต่อ CarPlay เพื่อใช้ Google Maps หรือ Waze ในการหลีกเลี่ยงรถติด โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ รวมถึงใช้งานแอปเพลงอย่าง Spotify หรือ Joox เพื่อความบันเทิงระหว่างเดินทาง แนะนำให้ใช้สายชาร์จแท้หรือสายคุณภาพดีเมื่อต่อ CarPlay เพื่อป้องกันปัญหาการเชื่อมต่อไม่เสถียร และนอกจาก Apple CarPlay แล้ว Mazda3 ยังรองรับ Android Auto สำหรับผู้ใช้มือถือระบบแอนดรอยด์อีกด้วย Mazda3 เป็นรถที่ได้รับความนิยมในไทยด้วยจุดเด่นด้านการควบคุมที่ดีและความประหยัดน้ำมัน ยิ่งเมื่อผสานกับระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะเหล่านี้ ก็ยิ่งเพิ่มความคุ้มค่าและน่าใช้งานมากขึ้นอีกขั้น
Q
Mazda3 ใช้ยางยี่ห้ออะไร?
ยางติดรถเดิมของ Mazda3 ที่จำหน่ายในประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามปีรุ่นและรุ่นย่อย โดยส่วนใหญ่มักใช้ยางจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก เช่น Bridgestone, Dunlop หรือ Yokohama ซึ่งเป็นยางที่ได้รับความนิยมในไทยด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะด้านการยึดเกาะบนถนนเปียกและความทนทานที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย เมื่อต้องเปลี่ยนยางใหม่ ผู้ใช้ในไทยสามารถเลือกแบรนด์อื่นที่ได้รับความนิยมเช่นกัน เช่น Michelin รุ่น Primacy หรือ Goodyear รุ่น Assurance ซึ่งมีสมรรถนะดีทั้งในช่วงฤดูฝนและอุณหภูมิสูงของไทย อีกทั้งยังหาซื้อได้ง่ายตามร้านยางหรือศูนย์บริการทั่วไป คำแนะนำสำหรับเจ้าของรถคือ เลือกยางตามลักษณะการใช้งาน เช่น ถ้าต้องการความเงียบและนุ่มสบาย หรือเน้นความทนทานก็ควรเลือกรุ่นที่เหมาะสม และอย่าลืมตรวจสอบลมยางและความลึกของดอกยางอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนของไทย ควรเน้นยางที่มีประสิทธิภาพในการรีดน้ำเพื่อลดความเสี่ยงในการลื่นไถล
Q
Mazda 3 เป็นรถที่ดีหรือไม่?
มาสด้า 3 เป็นรถเก๋งขนาดกลางที่ขายดีในตลาดไทย ด้วยดีไซน์ภายนอกที่ดูสปอร์ตและทันสมัย พร้อมด้วยการตกแต่งภายในที่หรูหราและให้ความรู้สึกพรีเมียม แถมยังขับเคลื่อนได้อย่างคล่องตัวเหมาะกับสภาพถนนทั้งในเมืองและนอกเมืองของไทย นอกจากนี้เทคโนโลยี Skyactiv ยังช่วยประหยัดน้ำมันซึ่งเป็นข้อดีในเมื่อราคาน้ำมันไทยค่อนข้างสูง ระบบความปลอดภัยอย่าง i-Activsense ก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ในสภาพการจราจรที่ค่อนข้างวุ่นวายของไทย อย่างไรก็ตาม มาสด้า 3 มีข้อเสียคือพื้นที่เบาะหลังค่อนข้างคับ สำหรับครอบครัวไทยที่ชอบเดินทางพร้อมหน้าพร้อมตาอาจจะรู้สึกอึดอัดหน่อย ส่วนค่าบำรุงรักษาก็สูงกว่ารถญี่ปุ่นรุ่นอื่นๆ เล็กน้อย และที่สำคัญในอากาศร้อนๆ แบบไทย บางคนอาจรู้สึกว่าแอร์ไม่ค่อยเย็นเท่าที่ควร ถ้าคุณเป็นคนชอบความสปอร์ตและความสวยงามของดีไซน์ มาสด้า 3 ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ถ้าอยากได้รถที่กว้างขวางและค่าดูแลถูกกว่านี้ อาจต้องมองหารุ่นอื่น ในตลาดไทยยังมีคู่แข่งอย่างโตโยต้า คอร์ลล่า หรือฮอนด้า ซีวิค ที่น่าสนใจเหมือนกัน แนะนำว่าก่อนซื้อควรลองขับเปรียบเทียบดูให้ดี และอย่าลืมเลือกรุ่นที่เหมาะกับอากาศร้อนแบบไทย เช่น มีกระจกกันความร้อนและระบบแอร์ที่แรงพอสู้กับแดดเมืองไทยได้

ข้อดี

ภายในรถมีการตกแต่งที่ดี ด้วยโทนสีดำที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยสปอร์ตหรู คุณภาพของวัสดุภายในรถดี การออกแบบทำให้รถดูหรูหราและขั้นสูง การจัดวางแผงอุปกรณ์สะดวกในการใช้งาน
ที่นั่งสบาย การออกแบบที่นั่งตรงกับร่างกาย รองรับด้านข้างที่ดีสำหรับคนขับและผู้โดยสาร สามารถนั่งนานๆ โดยไม่รู้สึกเหนื่อย และที่นั่งขับสามารถปรับได้ 10 ทิศทางโดยใช้ไฟฟ้า
ฟังก์ชันและคุณสมบัติที่ดี มีจอภาพที่คนขับสามารถดูได้ สามารถแสดงความเร็วในการเร่งและการใช้น้ำมัน มีกล้องทั่วรถที่ติดตั้งอย่างดี
สมรรถนะทางการจับคืนดินเป็นอย่างดี ระบบความแข็งแรงกับที่อยู่ใต้รถดีเยี่ยม สมรรถนะทางการจับคืนดินสูงในระหว่างการเลี้ยวหรือในส่วนที่อยู่ใต้รถที่เดินทาง ขับเคลื่อนไม่อย่างรวดเร็ว การเร่งและหมุนกำลังไม่เปลี่ยนแปลงมากจากรุ่นก่อนหน้านี้ น้ำหนักของรถเพิ่มขึ้น

ข้อเสีย

การปรับเปลี่ยนคุณลักษณะของที่นั่งคนขับและที่นั่งผู้โดยสารไม่ตรงกัน ที่นั่งของคนขับสามารถปรับได้ 10 ทิศทาง แต่ที่นั่งของผู้โดยสารไม่สามารถเติมเต็ม 10 ทิศทาง ฟีเจอร์ที่นั่งไม่ได้ตอบสนองความต้องการอย่างเต็มที่
แต่ฟังก์ชั่นของระบบควบคุมการท่องเที่ยวไม่เพียงพอ แม้ว่าจะสามารถเพิ่มหรือลดความเร็วของรถและตามรถที่อยู่ด้านหน้าผ่านเส้นทางที่กว้าง แต่ไม่มีฟังก์ชั่น Stop-and-go
พื้นที่ภายในรถไม่สะกดกว่าผลิตภัณฑ์ที่แข่งขัน มาสด้ามักมีข้อเสียด้านพื้นที่ที่นั่งด้านหลังในแทบทุกรุ่น แต่รุ่น Mazda 3 Sedan ปี 2019 กว้างขึ้นเล็กน้อยกว่าที่ผ่านมา แต่ยังไม่ตรงกับผลิตภัณฑ์ที่แข่งขัน
ความสบายของชานเส้นไม่ตรงกับผลิตภัณฑ์ที่แข่งขัน เมื่อขับขี่บนถนนที่ไม่ราบหรือถนนที่มีลูกรัง คุณจะรู้สึกถึงการสั่น โดยมีความรู้สึกว่ามีการสั่นสะเทือนจากพื้นผิวที่ยางกระทบ

Q&A ล่าสุด

Q
Acura RDX หรือ RDX อันไหนใหญ่กว่า
อะคิวร่า MDX นั้นใหญ่กว่า RDX ครับ โดย MDX เป็น SUV ขนาดกลาง-ใหญ่ที่มีสามแถวที่นั่งจุได้ 7 คน ความยาวตัวรถเกิน 5 เมตร ระยะฐานล้อประมาณ 2.8 เมตร เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีประชากรจำนวนมากในประเทศไทยหรือผู้ใช้ที่ต้องการความจุผู้โดยสารที่มากขึ้น ส่วน RDX เป็น SUV กลางแบบ 5 ที่นั่ง ความยาวตัวรถประมาณ 4.7 เมตร ระยะฐานล้อสัก 2.7 เมตร เลยเหมาะกับการใช้งานในเมืองมากกว่า ในตลาดไทย MDX ด้วยพื้นที่กว้างขวางและเครื่องยนต์ 3.5 ลิตร V6 จะเหมาะกับการเดินทางไกล แต่กินน้ำมันกว่า ในขณะที่ RDX ด้วยเครื่อง 2.0 เทอร์โบจะประหยัดน้ำมันกว่าในสภาพการจราจรติดขัดอย่างในกรุงเทพฯ ทั้งสองรุ่นมาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ SH-AWD ของอะคิวร่าที่เหมาะกับผิวถนนลื่นในช่วงฤดูฝนของไทย โดย MDX ยังมีรุ่นไฮบริดที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสมรรถนะ สำหรับผู้บริโภคชาวไทยสามารถเลือกได้ตามขนาดของครัวเรือนและสถานการณ์การใช้งาน และหากต้องการเบาะแถวที่สามหรือพื้นที่เก็บสัมภาระ MDX จะเหมาะสมกว่า RDX จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการควบคุมที่ยืดหยุ่นและประหยัดเชื้อเพลิง
Q
วิธีการเริ่มต้นรีโมท Acura RDX 2021
ก่อนจะใช้ระบบรีโมทคอนโทรลสำหรับ Acura RDX รุ่นปี 2021 ต้องตรวจสอบก่อนว่ารถคุณมีระบบ AcuraLink Remote Services และระบบนี้รองรับการใช้งานในประเทศไทย จากนั้นให้ดาวน์โหลดแอป AcuraLink แล้วสมัครสมาชิกพร้อมผูกบัญชีกับรถของคุณ โดยเวลาผูกบัญชีต้องกรอกเลขตัวถัง (VIN) และข้อมูลเจ้าของรถ เมื่อเชื่อมต่อสำเร็จแล้ว คุณจะสามารถใช้แอปเพื่อสตาร์ทรถจากระยะไกล ล็อก/ปลดล็อครถ หรอตรวจสอบสถานะรถได้ ในสภาพอากาศร้อนของไทย การสตาร์ทรถจากระยะไกลเพื่อเปิดแอร์ล่วงหน้าจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายเวลาใช้รถ แต่ต้องระวังว่าระบบนี้ทำงานผ่านสัญญาณเครือข่ายมือถือ แนะนำให้ตรวจสอบการครอบคลุมของเครือข่ายในพื้นที่ก่อนซื้อ นอกจากนี้ระบบอัจฉริยะของ Acura RDX ยังมีบริการวินิจฉัยปัญหาจากระยะไกลและบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน เพื่อความปลอดภัยเพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้ในไทย หากมีปัญหาการใช้งาน สามารถติดต่อตัวแทนจำหน่าย Acura ในประเทศไทยหรือดูคู่มือรถได้ บางฟังก์ชันอาจต้องสมัครแพ็กเกจบริการ AcuraLink ก่อนถึงจะใช้ได้
Q
ความยาวของ Acura RDX คือเท่าใด
Acura RDX มีความยาวตัวรถ 4,725 มิลลิเมตร ซึ่ง SUV ระดับหรูคันนี้ได้รับความนิยมในตลาดไทยเนื่องจากขนาดที่พอดีและประสบการณ์การขับขี่ในเมืองที่คล่องตัว เหมาะสมอย่างยิ่งกับสภาพการจราจรที่คับคั่งในเมืองอย่างกรุงเทพฯ นอกจากความสามารถในการควบคุมที่ยอดเยี่ยมแล้ว RDX ยังติดตั้งระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ SH-AWD ที่ทันสมัย ช่วยให้รับมือกับสภาพถนนที่หลากหลายในไทยได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นถนนในเมืองหรือถนนลื่นในช่วงฤดูฝน ภายในห้องโดยสารออกแบบมาอย่างเหมาะสม เบาะหลังมีพื้นที่วางขามากพอสำหรับครอบครัว ในขณะเดียวกันความจุของกระโปรงหลังก็เพียงพอสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวันหรือทริปสั้นๆ นอกจากนี้ RDX ยังมาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 2.0 ลิตร ที่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง ในขณะเดียวกันก็ประหยัดน้ำมัน ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยที่มองหาทั้งประสิทธิภาพและความประหยัดในเวลาเดียวกัน อีกทั้งเครือข่ายบริการหลังการขายของ Acura ในไทยก็มีความพร้อม ทำให้เจ้าของรถสามารถเข้าถึงบริการบำรุงรักษาและซ่อมแซมได้อย่างสะดวกสบาย สิ่งนี้ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับ RDX ในตลาดรถยนต์ไทยอีกด้วย
Q
Acura RDX มีที่นั่งกี่ที่
Acura RDX เป็น SUV ระดับหรูขนาดกลาง ที่มาพร้อมกับการจัดวางแบบ 5 ที่นั่งมาตรฐาน เหมาะสำหรับครอบครัวไทยหรือการใช้งานเชิงธุรกิจ โดยเบาะหลังมีความกว้างขวางนั่งสบาย ส่วนพื้นที่เก็บสัมภาระก็เพียงพอต่อความต้องการในชีวิตประจำวัน ในตลาดไทย RDX โดดเด่นด้วยชุดขับเคลื่อนที่รวมเครื่องยนต์เทอร์โบ 2.0 ลิตร และเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ที่ให้ประสบการณ์การขับขี่ลื่นไหล พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ SH-AWD ที่ทรงประสิทธิภาพบนถนนลื่นช่วงฤดูฝน เหมาะสมกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยของประเทศไทย นอกจากนี้ RDX ยังติดตั้งระบบความปลอดภัยล่าสุดอย่าง AcuraWatch ที่มีฟีเจอร์ช่วยขับขี่ เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติและรักษาช่องทาง ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง สำหรับผู้บริโภคไทย RDX นั้นได้เปรียบด้วยห้องโดยสารหรูหราและเทคโนโลยีทันสมัย เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน โดยเฉพาะการควบคุมที่แม่นยำและความสบายในการนั่ง ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีทั้งการขับขี่ในเมืองและการเดินทางไกล หากต้องการพื้นที่มากขึ้นอาจพิจารณารุ่น 7 ที่นั่งอย่าง MDX แต่โดยทั่วไปการออกแบบ 5 ที่นั่งของ RDX ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว
Q
โหมดหิมะทำอะไรกับ Acura RDX
สโนว์โมดใน Acura RDX นี่มันทำงานยังไง แม้ว่าไทยจะไม่ค่อยมีหิมะ แต่โหมดนี้ก็ยังใช้งานได้ดีเวลาฝนตกหรือถนนลื่นนะครับ โหมดสโนว์ของ RDX จะปรับระบบเกียร์ให้เปลี่ยนช่วงรอบช้าๆ ลดความไวของคันเร่ง แล้วยังกระจายแรงบิดไปที่ล้อทั้งสี่ให้เหมาะสมกับถนนลื่นๆ โดยเฉพาะเวลาขับขึ้นเขาหรือเจอน้ำท่วมขังช่วงหน้าฝน แบบนี้แหละที่ช่วยให้รถเกาะถนนได้ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม แต่ละค่ายรถก็อาจเรียกโหมดนี้ต่างกัน เช่น Toyota ใช้ "SNOW" ส่วน Honda เรียก "Mud/Snow" แต่หลักการทำงานก็คล้ายๆ กัน สำหรับคนไทยแม้ไม่ค่อยได้ใช้โหมดนี้บ่อย แต่รู้ไว้ก็ดี เผื่อเจอสภาพอากาศแย่ๆ ขึ้นมา จะได้เตรียมตัวถูก แถมควรเช็คดอกยางด้วยนะว่ายังเหลือความลึกเกิน 1.6 มม. หรือเปล่า เพราะระบบช่วยต่างๆ จะทำงานได้เต็มที่ก็ต่อเมื่อยางยังสภาพดีนั่นแหละ
ดูเพิ่มเติม