Q

Changan Lumin วิ่งเร็วขนาดไหน

Changan Lumin มีความเร็วสูงสุด 101 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถรุ่นนี้จัดอยู่ในกลุ่ม A00 รถไฟฟ้าล้วน แม้ความเร็วไม่สูงมากแต่เพียงพอสำหรับการเดินทางระยะสั้นในเมือง เช่น เดินทางไปทำงาน ช็อปปิ้ง หรือรับส่งเด็ก ขนาดกะทัดรัดช่วยให้เคลื่อนตัวได้คล่องในสภาพการจราจรติดขัด เพิ่มประสิทธิภาพการเดินทาง ระบบขับเคลื่อนมีความเสถียรและน่าเชื่อถือ มอเตอร์ไฟฟ้ามีกำลังสูงสุด 48 แรงม้า กำลังรวม 35 กิโลวัตต์ แรงบิดรวม 83 นิวตันเมตร ให้กำลังเหมาะสมพร้อมการขับขี่ที่นุ่มนวลและปลอดภัย
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ราคาของรถยนต์ไฟฟ้า Lumin คือเท่าใด
รถยนต์ไฟฟ้า Changan Lumin มีหลายรุ่นให้เลือกโดยมีราคาที่แตกต่างกัน ได้แก่ CHANGAN LUMIN L 2024 จำหน่ายในราคา 479,000 บาท และ CHANGAN LUMIN L DC 2024 จำหน่ายในราคา 499,000 บาท รถรุ่นนี้พัฒนาบนแพลตฟอร์มไฟฟ้าบริสุทธิ์ EPA0 มีดีไซน์เล็กกะทัดรัดน่ารัก เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองเป็นประจำทุกวัน ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอรอนฟอสเฟต (LFP) พร้อมเงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่นานถึง 8 ปีหรือ 120,000 กิโลเมตร ภายในติดตั้งฟีเจอร์ที่ใช้งานได้จริง เช่น เซนเซอร์ถอยหลัง กล้องช่วยจอด พร้อมถุงลมนิรภัยหลายตำแหน่งเพื่อความปลอดภัย ด้านสมรรถนะ ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 48 แรงม้า มีระยะทางวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนตามมาตรฐานอยู่ที่ 301 กิโลเมตร เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน
Q
Changan Lumin มีความเร็วสูงสุดเท่าไหร่
Changan Lumin มีความเร็วสูงสุดที่ 101 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ติดตั้งมอเตอร์แม่เหล็กถาวรแบบซิงโครนัส กำลังสูงสุด 35kW ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานในเมือง แม้ว่าด้านอัตราเร่งจะไม่โดดเด่นนัก ขาดความรู้สึกเร่งแบบฉับพลัน จึงอาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบขับขี่แบบเร้าใจ รถรุ่นนี้มีโหมดการขับขี่ให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ ECO และ SPORT โดยในโหมด ECO ความเร็วสูงสุดจำกัดที่ 85 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนในโหมด SPORT จะสามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 101 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แม้ความเร็วสูงสุดจะไม่มากนัก แต่ด้วยตัวถังขนาดเล็กทำให้คล่องตัว เหมาะกับการใช้งานในเมือง โดยเฉพาะในสภาพการจราจรที่แออัด ถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าใช้งานประจำวันในชีวิตเมือง
Q
Changan Lumin แบตเตอรี่มีช่วงที่เท่าไหร่
ระยะทางวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนตามที่ Changan Lumin ระบุไว้คือ 301 กิโลเมตร ใช้แบตเตอรี่แบบลิเธียมเฟอสเฟต ความจุ 28.08 กิโลวัตต์ชั่วโมง หากคำนวณจากข้อมูลนี้ จะได้อัตราการใช้พลังงานโดยประมาณที่ 9.33 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม อัตราการใช้พลังงานจริงอาจได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย เช่น พฤติกรรมการขับขี่ เช่น การเร่งหรือเบรกอย่างรุนแรง การขับที่ความเร็วสูงต่อเนื่อง หรือการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ากำลังสูง เช่น เครื่องปรับอากาศ เป็นต้น ภาระน้ำหนัก เช่น จำนวนผู้โดยสารหรือสัมภาระที่บรรทุกมาก จะเพิ่มแรงต้านขณะขับขี่ ส่งผลให้การใช้พลังงานสูงขึ้น รวมถึงสภาพถนนก็มีผล หากขับในพื้นที่จราจรติดขัดหรือทางลาดชัน รถจะใช้พลังงานมากกว่าการขับบนถนนที่ราบเรียบและการจราจรคล่องตัว
Q
Lumin รถมีสเปคอะไรบ้าง
รถยนต์ Changan Lumin มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ L 2024 และ L DC 2024 โดยมีราคาจำหน่ายที่ 479000 บาท และ 499000 บาทตามลำดับ ตัวรถมีขนาด 3270×1700×1545 มิลลิเมตร ฐานล้อยาว 1980 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 945 กิโลกรัม ใช้ตัวถังแบบ 3 ประตู 2 ที่นั่ง ความจุห้องเก็บสัมภาระ 104 ลิตร เป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วน มอเตอร์ไฟฟ้าแบบแม่เหล็กถาวรติดตั้งด้านหน้า ขับเคลื่อนล้อหน้า มีกำลังสูงสุด 35kW แรงม้าสูงสุด 48PS แรงบิดสูงสุด 83Nm ความเร็วสูงสุด 101km/h ระยะทางวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าตามมาตรฐาน NEDC อยู่ที่ 301 กิโลเมตร ใช้แบตเตอรี่แบบลิเธียมเหล็กฟอสเฟต ความจุประมาณ 2808kWh รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปีหรือ 120000 กิโลเมตร รองรับการชาร์จแบบเร็ว 058 ชั่วโมง และชาร์จแบบธรรมดา 105 ชั่วโมง ระบบกันสะเทือนหน้าแบบแมคเฟอร์สันอิสระ ด้านหลังเป็นแบบคานบิดกึ่งอิสระ ระบบเบรกหน้าเป็นดิสก์เบรก หลังเป็นดรัมเบรก ระบบเบรกมือเป็นแบบมือหมุน ด้านอุปกรณ์มาตรฐานมีระบบเบรก ABS ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย ถุงลมนิรภัยคู่หน้า หน้าจอกลางขนาด 1025 นิ้ว และลำโพง 2 ตำแหน่ง
Q
Changan Lumin มีรุ่นอะไรบ้าง
Changan Lumin มีหลายรุ่น เช่น CHANGAN LUMIN L 2024 และ CHANGAN LUMIN L DC 2024 รุ่น CHANGAN LUMIN L 2024 ราคาประมาณ 479,000 บาท ความเร็วสูงสุด 101 กม./ชม. ใช้มอเตอร์แบบแม่เหล็กถาวร (PMSM) กำลังสูงสุด 48 แรงม้า (35 กิโลวัตต์) แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนฟอสเฟต ความจุ 28.08 kWh ระยะทางวิ่งไฟฟ้าประมาณ 301 กม. รุ่น CHANGAN LUMIN L DC 2024 ราคา 499,000 บาท มีความเร็วสูงสุดและสเปกหลายอย่างใกล้เคียงกัน แต่แบตเตอรี่มีความจุ 27.98 kWh รูปทรงน่ารัก เล็กกะทัดรัด เหมาะกับการขับขี่ในเมือง พร้อมระบบความปลอดภัยและฟังก์ชันใช้งานครบครัน โดยแต่ละรุ่นจะมีความแตกต่างในเรื่องราคาและระยะทางวิ่ง ผู้บริโภคสามารถเลือกได้ตามความต้องการใช้งานและงบประมาณ
Q
Changan Lumin ใช้ไฟฟ้าเท่าไหร่
Changan Lumin มีระยะทางขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าบริสุทธิ์ตามมาตรฐาน 301 กิโลเมตร ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต ความจุ 28.08 กิโลวัตต์ชั่วโมง คำนวณคร่าวๆ พบว่าการใช้พลังงานไฟฟ้าประมาณ 9.33 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อ 100 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม การใช้พลังงานจริงอาจแตกต่างตามหลายปัจจัย ด้านนิสัยการขับขี่ การเร่งและเบรกกระทันหัน การขับเร็วต่อเนื่อง หรือการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ากำลังสูง เช่น เครื่องปรับอากาศ จะเพิ่มการใช้พลังงาน ด้านน้ำหนักบรรทุก จำนวนผู้โดยสารและสัมภาระมาก จะเพิ่มแรงต้านการขับเคลื่อน ทำให้ใช้พลังงานมากขึ้น ส่วนสภาพถนน เช่น การจราจรติดขัดที่ต้องหยุดบ่อย หรือการขึ้นเขา จะทำให้การใช้พลังงานสูงกว่าการขับบนถนนราบเรียบและลื่นไหล
Q
ใช้เวลานานแค่ไหนในการชาร์จ Changan Lumin
Changan Lumin มีการชาร์จไฟทั้งแบบเร็วและแบบช้า แบบชาร์จเร็วใช้เวลาประมาณ 0.58 ชั่วโมง ช่วยเติมพลังงานได้รวดเร็ว ลดเวลารอ เหมาะสำหรับกรณีเร่งด่วน ส่วนแบบชาร์จช้าต้องใช้เวลาประมาณ 10.5 ชั่วโมง ถึงแม้ใช้เวลานาน แต่เหมาะกับการชาร์จในช่วงกลางคืนหรือจอดรถนาน การตั้งเวลาชาร์จแบบนี้ขึ้นอยู่กับชนิดและความจุของแบตเตอรี่ที่ใช้ รถรุ่นนี้ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต ความจุ 28.08 กิโลวัตต์ชั่วโมง การชาร์จทั้งสองแบบรองรับการใช้งานที่แตกต่างกัน หากต้องการใช้รถเร็วเลือกชาร์จเร็ว หากมีเวลามาก ชาร์จช้าจะช่วยถนอมแบตเตอรี่และยืดอายุการใช้งาน
Q
Lumin รถราคาเท่าไหร่
Lumin รถยนต์มีหลายรุ่น ราคาจะแตกต่างกัน รุ่น CHANGAN LUMIN L 2024 ราคา 479000 บาท รุ่น CHANGAN LUMIN L DC 2024 ราคา 499000 บาท รถรุ่นนี้จัดเป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ขนาดตัวถังยาวกว้างสูง 3270 1700 1545 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 1980 มิลลิเมตร ขุมพลังเป็นมอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร กำลังรวม 35 กิโลวัตต์ กำลังสูงสุด 48 แรงม้า ระยะทางวิ่งไฟฟ้าล้วนตามประกาศ 301 กิโลเมตร ด้านออปชันมีระบบ ABS แจ้งเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย ถุงลมนิรภัยคู่หน้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน หากสนใจแนะนำให้ไปที่ตัวแทนจำหน่ายเพื่อรับข้อมูลราคาล่าสุดและทดลองสัมผัสสมรรถนะกับภายในรถจริง

ข้อดี

ขนาดย่อ สำหรับการขับรถในเมืองได้ง่าย
ราคาเข้าถึงได้ สำหรับผู้ซื้อที่คำนึงถึงงบประมาณ
การออกแบบน่ารัก ชอบใจหลายคน
ต้นทุนการใช้งานต่ำ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย

ข้อเสีย

ระยะทางการขับขี่ต่อการชาร์จจำกัด อาจไม่เหมาะสำหรับการเดินทางไกล
พื้นที่ภายในอาจรู้สึกคับแคบสำหรับบางคน
กำลังเครื่องยนต์อาจไม่เพียงพอสำหรับการใช้งานบางประเภท

Q&A ล่าสุด

Q
ราคาบริการของ Honda City Hatchback คือเท่าไหร่ ดูที่นี่ก่อนดีกว่า
ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษารถ Honda City Hatchback ในประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามบริการและตัวแทนจำหน่ายที่เป็นทางการ โดยบริการพื้นฐานอย่างการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและเปลี่ยนไส้กรองอากาศจะอยู่ที่ประมาณ 2,500-4,500 บาท อย่างไรก็ตามเพื่อความแม่นยำแนะนำให้ติดต่อสอบถามราคากับทางอู่ Honda 4S ที่ใกล้ที่สุด ในไทยเรามีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุม ทำให้เจ้าของรถสามารถรับบริการจากช่างมืออาชีพได้อย่างสะดวกสบาย แถมการเข้าศูนย์บริการเป็นประจำยังช่วยรักษาประสิทธิภาพของรถและยืดอายุการใช้งานอีกด้วย พูดถึง Honda City Hatchback ในตลาดไทยต้องบอกว่าเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมไม่น้อย ด้วยความประหยัดและการใช้งานที่ตอบโจทย์ ทำให้ค่าบำรุงรักษาก็ถือว่าสมเหตุสมผล เหมาะกับการใช้งานประจำวันเป็นอย่างดี และถ้าเลือกใช้เฉพาะอะไหล่แท้จากศูนย์บริการอย่างถูก渠道 นอกจากจะได้ความมั่นใจแล้ว ยังช่วยรักษาสิทธิ์การรับประกันไม่ให้เสียหายอีกด้วย จริงๆ แล้วในระยะยาวนี่คือทางเลือกที่คุ้มค่าและน่าเชื่อถือที่สุดแล้วล่ะ
Q
ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถ Honda City Hatchback คือเท่าไหร่ ดูรายละเอียดที่นี่
รถฮอนด้า ซีตี้ แฮทช์แบคในไทยมีค่าใช้สอยเรื่องการดูแลรักษาที่สมเหตุสมผล เหมาะกับคนที่อยากประหยัด โดยการบริการครั้งแรกจะทำเมื่อขับถึง 1,000 กิโลเมตร ค่าใช้จ่ายประมาณ 1,500-2,000 บาท รวมค่าถ่ายน้ำมันเครื่องและเปลี่ยนไส้กรองอากาศ ส่วนการบริการตามระยะจะทำทุก 1 หมื่นกิโลเมตรหรือทุก 6 เดือน ค่าบริการปกติประมาณ 2,500-3,000 บาท ส่วนการบริการใหญ่จะทำเมื่อขับถึงประมาณ 4 หมื่นกิโลเมตร ค่าใช้จ่ายอาจสูงถึง 5,000-7,000 บาท ขึ้นอยู่กับว่าต้องเปลี่ยนอะไหล่อะไรบ้าง ในไทยฮอนด้ามีศูนย์บริการกระจายอยู่ทั่วประเทศ หาไม่ยาก แถมสะดวกด้วย นอกจากนี้ควรตรวจสอบยางและเบรกเป็นประจำเพราะอากาศร้อนชื้นของไทยอาจทำให้ชิ้นส่วนเหล่านี้เสื่อมเร็วขึ้น ถ้าอยากประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น ลองซื้อแพ็กเกจบริการของฮอนด้า ซึ่งมักจะมีส่วนลดให้ ที่สำคัญการดูแลรักษาตามคู่มือแนะนำไม่เพียงแต่ช่วยยืดอายุรถ แต่ยังช่วยรักษามูลค่าเวลาขายต่อ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากในตลาดรถมือสองของไทย
Q
ขนาดล้อของ Honda City Hatchback คือเท่าไหร่
สำหรับ Honda City Hatchback ในเรื่องของขนาดล้อ ยกเว้นรุ่นสูงสุด RS ที่มาพร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วแบบเฉพาะแล้ว รุ่นอื่นๆ ทุกรุ่นจะใช้ล้อขนาด 15 นิ้วตามมาตรฐาน การที่แต่ละรุ่นมีขนาดล้อแตกต่างกันนี่เป็นผลจากการออกแบบโดยคำนึงถึงสมรรถนะโดยรวมของรถเป็นหลัก ล้อขนาดใหญ่กว่าอย่างล้อ 16 นิ้วในรุ่น RS จะช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะและความมั่นคงให้กับรถ ทำให้การควบคุมรถดีขึ้น เหมาะกับสไตล์การขับแบบสปอร์ตที่รุ่น RS เน้นเป็นพิเศษ ส่วนล้อ 15 นิ้วนั้นถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายและประหยัดน้ำมัน เหมาะกับการใช้งานทั่วไปในเมืองและการขับขี่ประจำวันของผู้ใช้ส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นล้อขนาดไหนก็ผ่านการปรับแต่งมาเป็นอย่างดีเพื่อให้ทำงานเข้ากันได้ดีกับระบบช่วงล่างและระบบอื่นๆ ของรถ เพื่อให้ได้สมดุลระหว่างประสบการณ์การขับขี่และสมรรถนะของรถอย่างลงตัว
Q
รุ่นที่แตกต่างกันของ Honda City Hatchback มีอะไรบ้าง
ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็กในตลาดไทยมีหลายรุ่นให้เลือกตามความต้องการของผู้ใช้หลักๆ แล้วจะมี 4 เวอร์ชันคือ S, V, SV และ RS รุ่น S เป็นรุ่นเริ่มต้น มาพร้อมกับฟีเจอร์ความปลอดภัยพื้นฐานเช่นถุงลมนิรภัย 2 ตัวและระบบเบรก ABS เหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้รถในงบจำกัด ส่วนรุ่น V จะเพิ่มความสะดวกขึ้นมาอีกหน่อยด้วยกุญแจอัจฉริยะและกล้องถอยหลัง ช่วยอำนวยความสะดวกเวลาใช้งานในชีวิตประจำวัน รุ่น SV จะอัพเกรดทั้งวัสดุภายในห้องโดยสารและเทคโนโลยี เช่น จอสัมผัสขนาดใหญ่ขึ้นและถุงลมนิรภัยเพิ่มเติม เหมาะสำหรับครอบครัวที่มองหาความคุ้มค่า สุดท้ายรุ่น RS ที่เป็นรุ่นสปอร์ตสุดพิเศษ มาพร้อมกับชุดแต่งเอกลักษณ์ เบาะสปอร์ตและระบบช่วยขับขี่ขั้นสูง ดึงดูดกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นที่ชอบความสปอร์ต ในตลาดไทย ซิตี้ แฮทช์แบ็กคันนี้ขายดีเพราะขับง่ายและประหยัดน้ำมัน โดยเฉพาะในสภาพการจราจรติดขัดอย่างในกรุงเทพฯ แถมฮอนด้ายังมีสีรถให้เลือกหลายเฉดและโปรแกรมผ่อนชำระที่ตอบโจทย์คนไทยอีกด้วย ที่สำคัญคือรุ่นไทยยังได้รับการปรับปรุงระบบแอร์ให้เย็นฉ่ำในอากาศร้อนแบบบ้านเรา และเพิ่มความสูงของช่วงล่างเพื่อให้เหมาะกับสภาพถนนบางพื้นที่ นี่คือการออกแบบเฉพาะสำหรับตลาดไทยที่แสดงให้เห็นว่าฮอนด้าใส่ใจลูกค้าชาวไทยจริงๆ
Q
ฮอนด้าซิตี้แฮทช์แบคหนักเท่าไหร่
Honda City Hatchback ซึ่งเป็นรถยนต์แฮทช์แบ็กรุ่นยอดนิยมในตลาดประเทศไทย มีน้ำหนักตัวรถแตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่น โดยอยู่ในช่วงประมาณ 1,100 ถึง 1,200 กิโลกรัม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขุมพลังที่เลือกใช้ เช่น เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตร หรือเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร แบบไม่มีระบบอัดอากาศ รวมถึงอุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่น หลังคาซันรูฟ หรือระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียม น้ำหนักที่เบากว่าช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น และเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับสภาพจราจรที่ติดขัดและการขับขี่ที่ต้องหยุด-ออกตัวบ่อยในเมืองไทย นอกจากนี้ การกระจายน้ำหนักของตัวรถยังเป็นสิ่งที่วิศวกรฮอนด้าให้ความสำคัญ โดยมีการออกแบบแชสซีและเลือกใช้วัสดุอย่างเหมาะสม เพื่อให้รถมีความมั่นคงในขณะเข้าโค้ง และให้ความนุ่มนวลขณะโดยสาร จุดเด่นเหล่านี้ทำให้ City Hatchback มีสมรรถนะที่ดีบนถนนที่มีโค้งมากหรือพื้นถนนเปียกในเมืองไทย สำหรับผู้บริโภคชาวไทย การเลือกใช้รถที่มีน้ำหนักพอดี ไม่มากเกินไป ไม่เบาเกินไป ถือเป็นทางเลือกที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน พร้อมทั้งให้ความสนุกในการขับขี่และความปลอดภัย ซึ่ง Honda City Hatchback คือหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ได้อย่างลงตัว
ดูเพิ่มเติม