Q
น้ำหนักรถ BYD Seal เท่าไหร่ ตรวจสอบได้ที่นี่
BYD Seal แต่ละรุ่นมีน้ำหนักรถแตกต่างกัน รุ่น Dynamic RWD 2023 หนัก 1922 กิโลกรัม รุ่น Premium RWD 2023 หนัก 2055 กิโลกรัม ส่วนรุ่น Seal AWD Performance 2023 หนักถึง 2185 กิโลกรัม น้ำหนักรถส่งผลต่อหลายด้าน เช่น รถที่น้ำหนักมากกว่าจะมีความมั่นคงสูงกว่าในการขับขี่ โดยเฉพาะที่ความเร็วสูงหรือบนถนนที่ซับซ้อน แต่ในทางกลับกัน น้ำหนักที่มากขึ้นทำให้ต้องใช้แรงมากขึ้นในการเร่งและเบรก ส่งผลให้อัตราการใช้พลังงานเพิ่มขึ้น สมรรถนะการเร่งอาจลดลง และระยะเบรกอาจยาวขึ้น
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
BYD Seal คุ้มค่าน่าซื้อหรือไม่ มาทำความรู้จักกับจุดเด่นของรถคันนี้กันที่นี่
BYD Seal เป็นรถยนต์ซีดานไฟฟ้าระดับกลางที่เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2023 โดยมีให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่ Dynamic RWD, Premium RWD และ AWD Performance ซึ่งมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1,199,000 บาท 1,399,000 บาท และ 1,499,000 บาทตามลำดับ ตัวรถมีขนาดยาว 4800 มม. กว้าง 1875 มม. สูง 1460 มม. และระยะฐานล้อ 2920 มม. ทำให้ห้องโดยสารภายในกว้างขวางและนั่งสบาย ในด้านสมรรถนะ มอเตอร์ไฟฟ้าของแต่ละรุ่นมีความแตกต่างกัน โดยรุ่น Dynamic RWD ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า (150 kW) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.5 วินาที และวิ่งได้ไกล 510 กม. ส่วนรุ่น Premium RWD ให้กำลัง 313 แรงม้า (230 kW) เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 5.9 วินาที และมีระยะทางวิ่งสูงสุด 650 กม. ขณะที่รุ่น AWD Performance ให้พลังสูงสุดถึง 530 แรงม้า (390 kW) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 3.8 วินาที และวิ่งได้ 580 กม. ทั้งสามรุ่นมาพร้อมฟีเจอร์ความปลอดภัยและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน เช่น ระบบเบรก ABS ระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ หน้าจอกลางขนาด 15.6 นิ้ว และในบางรุ่นมีลำโพง Dynaudio ถึง 12 ตำแหน่ง มอบประสบการณ์ภาพและเสียงที่ยอดเยี่ยม
Q
วันที่เปิดตัวของ BYD Seal คือเมื่อไหร่
BYD Seal เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2023 โดยมีให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น Dynamic รุ่น Premium และรุ่น AWD Performance โดยมีช่วงราคาระหว่าง 1,325,000 ถึง 1,599,000 บาท ตัวรถออกแบบพวงมาลัยขวาเพื่อให้เหมาะกับการขับขี่ในประเทศไทย พร้อมระยะทางขับขี่สูงสุดถึง 650 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง BYD Seal พัฒนาภายใต้แนวคิด Ocean Aesthetics ดีไซน์โดยรวมเน้นความโฉบเฉี่ยวและลู่ลม ให้ความรู้สึกสปอร์ต มาพร้อมขนาดตัวถัง 4,800 x 1,875 x 1,460 มม. และระยะฐานล้อ 2,920 มม. ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยวัสดุหลากหลายชนิด พร้อมฟังก์ชันทันสมัยอย่าง Android Auto และ Apple CarPlay ขณะที่ระบบความปลอดภัยขั้นสูง (ADAS) ก็ถูกติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น
Q
วันวางจำหน่ายของ BYD Seal คือเมื่อไหร่
BYD Seal เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2023 โดยมาพร้อม 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น Dynamic รุ่น Premium และรุ่น AWD Performance โดยมีช่วงราคาจำหน่ายตั้งแต่ 1,325,000 ถึง 1,599,000 บาท ตัวรถออกแบบพวงมาลัยขวาเพื่อรองรับการใช้งานบนท้องถนนในประเทศไทย พร้อมระยะทางวิ่งสูงสุดถึง 650 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง BYD Seal ถูกพัฒนาภายใต้แนวคิด Ocean Aesthetics ที่ให้ภาพลักษณ์ภายนอกสปอร์ตโฉบเฉี่ยว ภายในห้องโดยสารตกแต่งอย่างลงตัวและครบครันด้วยฟังก์ชันล้ำสมัย รองรับ Android Auto และ Apple CarPlay รวมถึงติดตั้งระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันขั้นสูง (ADAS) มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ทั้งสะดวกสบายและปลอดภัยสำหรับผู้ใช้งาน
Q
ความยาวของ BYD Seal คือเท่าไร
BYD Seal มีความยาวตัวถังอยู่ที่ 4,800 มิลลิเมตร ซึ่งช่วยให้ห้องโดยสารมีพื้นที่ตามแนวยาวที่เพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ตอนหน้า หรือผู้โดยสารตอนหลัง ต่างก็มีพื้นที่วางขาอย่างสบาย แม้ในระหว่างการเดินทางไกลก็ไม่รู้สึกอึดอัดจนเกินไป นอกจากนี้ เมื่อรวมกับความกว้าง 1,875 มิลลิเมตร ความสูง 1,460 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,920 มิลลิเมตร ทำให้การจัดวางพื้นที่ภายในห้องโดยสารมีความสมดุลและลงตัว ส่งผลให้การนั่งโดยสารมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ซึ่งขนาดตัวถังเช่นนี้ยังถือเป็นจุดเด่นเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน เสริมให้รถรุ่นนี้มีความโดดเด่นทั้งด้านการใช้งานและความสบายในการเดินทาง
Q
ขนาดแบตเตอรี่ของ BYD Seal คืออะไร
รุ่นต่าง ๆ ของ BYD Seal มีความจุแบตเตอรี่ที่แตกต่างกัน โดยรุ่น BYD Seal Dynamic RWD 2023 มีความจุแบตเตอรี่ 61.44 kWh และระยะทางขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนอย่างเป็นทางการสูงสุดถึง 510 กิโลเมตร ส่วนรุ่น BYD Seal Premium RWD 2023 และ BYD Seal AWD Performance 2023 มีความจุแบตเตอรี่เท่ากันที่ 82.56 kWh โดยรุ่น Premium RWD สามารถขับขี่ได้ไกลถึง 650 กิโลเมตร ขณะที่รุ่น AWD Performance มีระยะทางขับขี่ 580 กิโลเมตร ความแตกต่างของความจุแบตเตอรี่เหล่านี้ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค เช่น ผู้ที่ต้องการเดินทางไกลสามารถเลือกใช้รุ่นที่มีระยะทางขับขี่ได้มากกว่า
Q
ราคาค่าบริการของ BYD Seal เป็นอย่างไร ลองดูตรงนี้ก่อนนะครับ
BYD Seal ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้า 100% มีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาต่ำกว่ารถยนต์น้ำมันแบบเดิมอย่างมาก เนื่องจากไม่มีเครื่องยนต์และเกียร์ที่ซับซ้อน การบำรุงรักษาปกติจะเน้นตรวจสอบแบตเตอรี่ ยาง เบรก และระบบระบายความร้อน ตามคำแนะนำของ BYD ประเทศไทย แนะนำให้ทำการบำรุงรักษาพื้นฐานทุก 12 เดือน หรือทุก 20,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน โดยมีค่าใช้จ่ายประมาณ 2,500-3,500 บาทต่อครั้ง (รวมค่าแรง) ซึ่งครอบคลุมการเปลี่ยนไส้กรองแอร์ ตรวจสอบช่วงล่าง ตรวจวัดสุขภาพแบตเตอรี่ และตรวจสอบน้ำมันเบรก เมื่อเทียบกับรถยนต์น้ำมันในระดับเดียวกัน เช่น Toyota Camry ที่มีค่าใช้จ่ายประมาณ 5,000-7,000 บาทต่อครั้ง BYD Seal ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ราว 50% และรถไฟฟ้าไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องหรือหัวเทียน อย่างไรก็ตาม น้ำยาระบายความร้อนแบตเตอรี่และน้ำมันเบรกควรเปลี่ยนทุก 2-3 ปี หรือทุก 40,000-60,000 กิโลเมตร โดยมีค่าใช้จ่ายครั้งละประมาณ 4,000-6,000 บาท ส่วนยางรถยนต์ โดยเฉพาะรุ่นสมรรถนะสูงที่ใช้ล้อขนาด 19 นิ้ว จะสึกหรอเร็วกว่าในสภาพอากาศร้อนของไทย ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนยางทั้งชุดอยู่ที่ประมาณ 25,000-40,000 บาท ขึ้นกับยี่ห้อ ปัจจุบัน BYD ประเทศไทยรับประกันรถ Seal เป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (เปลี่ยนฟรีเมื่อความจุแบตเตอรี่ลดต่ำกว่า 70%) ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงค่าใช้จ่ายระยะยาวได้อย่างมาก หากบำรุงรักษาที่ศูนย์บริการ BYD อย่างเป็นทางการในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ หรือเมืองอื่นๆ ยังสามารถจองผ่านแอปพลิเคชันเพื่อรับส่วนลดเพิ่มเติมได้ โดยรวมแล้ว BYD Seal มีข้อได้เปรียบด้านต้นทุนการดูแลรักษาชัดเจน เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้งานรถมากกว่า 20,000 กิโลเมตรต่อปีขึ้นไป
Q
ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาของ BYD Seal เป็นเท่าไหร่ ดูรายละเอียดได้ที่นี่
ต้นทุนการบำรุงรักษา BYD Seal ต่ำกว่ารถยนต์น้ำมันแบบเดิมอย่างมาก เนื่องจากโครงสร้างรถยนต์ไฟฟ้าง่ายขึ้น ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องหรือหัวเทียน การบำรุงรักษาปกติเน้นตรวจสอบระบบแบตเตอรี่ เบรก ยาง และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ตามมาตรฐาน BYD ไทยแนะนำให้ตรวจเช็คพื้นฐานทุก 12 เดือน หรือ 20,000 กิโลเมตรแล้วแต่ระยะใดถึงก่อน ค่าใช้จ่ายประมาณ 2,000 ถึง 3,500 บาท ขึ้นกับราคาศูนย์บริการ ครอบคลุมการวินิจฉัยระบบ เปลี่ยนกรองอากาศแอร์ และตรวจเช็คเบรก หากต้องเปลี่ยนของเหลวเบรกหรือของเหลวหล่อเย็น (แนะนำทุก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร) จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมประมาณ 3,000 ถึง 5,000 บาท ยางขนาด 19 นิ้วที่มีสมรรถนะสูงมีราคาประมาณ 10,000 ถึง 15,000 บาทต่อเส้น ขึ้นกับแบรนด์และรุ่น สภาพอากาศร้อนในไทยส่งผลให้ยางสึกหรอเร็ว นอกจากนี้ BYD ไทยรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร ครอบคลุมกรณีความจุแบตต่ำกว่า 70% และรับประกันรถยนต์รวม 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร ลดค่าใช้จ่ายส่วนหลักอย่างมาก เทียบกับรถน้ำมันในระดับเดียวกันเช่น Honda Accord หรือ Toyota Camry ที่มีค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาปีละ 10,000 ถึง 15,000 บาท BYD Seal ประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาวประมาณ 40 ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ BYD กำลังเร่งขยายเครือข่ายบริการในไทยโดยวางแผนเพิ่มศูนย์บริการอีก 15 แห่งในปี 2024 เพื่อความสะดวกและประสิทธิภาพในการจัดหาอะไหล่ สำหรับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกแนะนำตรวจสอบโปรโมชั่นบำรุงรักษาผ่านแอป BYD Thailand และศูนย์บริการบางแห่งมีบริการตรวจเช็คสุขภาพแบตเตอรี่ฟรี
Q
ขนาดล้อของ BYD Seal คือเท่าไหร่
BYD Seal แต่ละรุ่นมีขนาดยางแตกต่างกัน รุ่น Dynamic RWD 2023 และ Premium RWD 2023 ใช้ยางหน้าหลังขนาด 225 50 R18 ส่วนรุ่น AWD Performance 2023 ใช้ยางหน้าหลังขนาด 235 45 R19 ตัวเลขและตัวอักษรในขนาดยางระบุความกว้างของยาง อัตราส่วนแก้มยาง และขนาดขอบล้อ การออกแบบขนาดยางที่แตกต่างกันนี้เพื่อให้เหมาะสมกับสมรรถนะของรถและความต้องการในการขับขี่ ช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนน การควบคุมรถ และความสบายในการขับขี่
Q
รุ่นต่าง ๆ ของ BYD Seal คืออะไร
BYD Seal ในตลาดไทยมีสามรุ่น ได้แก่ Dynamic RWD, Premium RWD และ AWD Performance รุ่น Dynamic RWD ราคาขาย 1,199,000 บาท มอเตอร์มีกำลังสูงสุด 204 แรงม้า กำลังไฟรวม 150 กิโลวัตต์ แรงบิด 310 นิวตันเมตร ระยะทางขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนตามประกาศ 510 กิโลเมตร และความจุแบตเตอรี่ 61.44 กิโลวัตต์ชั่วโมง รุ่น Premium RWD ราคาขาย 1,399,000 บาท มอเตอร์มีกำลังสูงสุด 313 แรงม้า กำลังไฟรวม 230 กิโลวัตต์ แรงบิด 360 นิวตันเมตร ระยะทางขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนตามประกาศ 650 กิโลเมตร และความจุแบตเตอรี่ 82.56 กิโลวัตต์ชั่วโมง ส่วนรุ่น AWD Performance ราคาขาย 1,499,000 บาท มอเตอร์มีกำลังสูงสุด 530 แรงม้า กำลังไฟรวม 390 กิโลวัตต์ แรงบิด 670 นิวตันเมตร ระยะทางขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนตามประกาศ 580 กิโลเมตร และความจุแบตเตอรี่ 82.56 กิโลวัตต์ชั่วโมง ทั้งสามรุ่นเป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนที่ออกแบบด้วยแนวคิดความงามแห่งท้องทะเล ตกแต่งภายในด้วยวัสดุหลากหลาย พร้อมฟังก์ชันหลักและระบบความปลอดภัยเชิงรุกที่ทันสมัย ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคหลากหลายกลุ่ม
Q
ราคาประกันภัยของ BYD Seal คือเท่าไร ดูว่าคุณควรจ่ายเท่าไร
ค่าเบี้ยประกันของ BYD Seal แตกต่างกันไปตามรุ่นรถ บริษัทประกันภัย และประวัติการขับขี่ของผู้ขับขี่ โดยทั่วไปประกันภัยชั้น 1 มีค่าเบี้ยประกันปีละประมาณ 25000 ถึง 40000 บาท รุ่นพื้นฐานของ Seal จะมีค่าเบี้ยประกันต่ำกว่า ส่วนรุ่น AWD หรือ Premium ที่มีกำลังสูงกว่าจะมีค่าเบี้ยสูงกว่าเนื่องจากราคาขายและสมรรถนะส่งผลต่อการประเมินราคา บริษัทประกันหลักในไทยเช่น Dhipaya Viriyah และ Bangkok Insurance มีแผนประกันครอบคลุมความเสียหายรถภัยบุคคลที่สาม การโจรกรรม และภัยธรรมชาติ บางบริษัทมีบริการเสริมเช่นประกันแบตเตอรี่แยกต่างหากและบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน หากคุณเป็นเจ้าของรถใหม่ควรเปรียบเทียบราคาเบี้ยประกันจากบริษัทอย่างน้อย 2 ถึง 3 แห่งและสอบถามว่ามีส่วนลดสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าหรือไม่ ซึ่งบางบริษัทให้ส่วนลด 5 ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งประวัติการขับขี่ดีไม่มีอุบัติเหตุช่วยลดค่าเบี้ยได้ แนะนำให้ทำประกันกับบริษัทที่ BYD ประเทศไทยแนะนำโดยตัวแทนจำหน่ายบางแห่งอาจมีโปรโมชั่นประกันปีแรกหรือบริการรับประกันพิเศษเพิ่มเติม
Q&A ล่าสุด
Q
BYD Seal คุ้มค่าน่าซื้อหรือไม่ มาทำความรู้จักกับจุดเด่นของรถคันนี้กันที่นี่
BYD Seal เป็นรถยนต์ซีดานไฟฟ้าระดับกลางที่เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2023 โดยมีให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่ Dynamic RWD, Premium RWD และ AWD Performance ซึ่งมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1,199,000 บาท 1,399,000 บาท และ 1,499,000 บาทตามลำดับ ตัวรถมีขนาดยาว 4800 มม. กว้าง 1875 มม. สูง 1460 มม. และระยะฐานล้อ 2920 มม. ทำให้ห้องโดยสารภายในกว้างขวางและนั่งสบาย ในด้านสมรรถนะ มอเตอร์ไฟฟ้าของแต่ละรุ่นมีความแตกต่างกัน โดยรุ่น Dynamic RWD ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า (150 kW) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.5 วินาที และวิ่งได้ไกล 510 กม. ส่วนรุ่น Premium RWD ให้กำลัง 313 แรงม้า (230 kW) เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 5.9 วินาที และมีระยะทางวิ่งสูงสุด 650 กม. ขณะที่รุ่น AWD Performance ให้พลังสูงสุดถึง 530 แรงม้า (390 kW) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 3.8 วินาที และวิ่งได้ 580 กม. ทั้งสามรุ่นมาพร้อมฟีเจอร์ความปลอดภัยและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน เช่น ระบบเบรก ABS ระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ หน้าจอกลางขนาด 15.6 นิ้ว และในบางรุ่นมีลำโพง Dynaudio ถึง 12 ตำแหน่ง มอบประสบการณ์ภาพและเสียงที่ยอดเยี่ยม
Q
วันที่เปิดตัวของ BYD Seal คือเมื่อไหร่
BYD Seal เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2023 โดยมีให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น Dynamic รุ่น Premium และรุ่น AWD Performance โดยมีช่วงราคาระหว่าง 1,325,000 ถึง 1,599,000 บาท ตัวรถออกแบบพวงมาลัยขวาเพื่อให้เหมาะกับการขับขี่ในประเทศไทย พร้อมระยะทางขับขี่สูงสุดถึง 650 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง BYD Seal พัฒนาภายใต้แนวคิด Ocean Aesthetics ดีไซน์โดยรวมเน้นความโฉบเฉี่ยวและลู่ลม ให้ความรู้สึกสปอร์ต มาพร้อมขนาดตัวถัง 4,800 x 1,875 x 1,460 มม. และระยะฐานล้อ 2,920 มม. ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยวัสดุหลากหลายชนิด พร้อมฟังก์ชันทันสมัยอย่าง Android Auto และ Apple CarPlay ขณะที่ระบบความปลอดภัยขั้นสูง (ADAS) ก็ถูกติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น
Q
วันวางจำหน่ายของ BYD Seal คือเมื่อไหร่
BYD Seal เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2023 โดยมาพร้อม 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น Dynamic รุ่น Premium และรุ่น AWD Performance โดยมีช่วงราคาจำหน่ายตั้งแต่ 1,325,000 ถึง 1,599,000 บาท ตัวรถออกแบบพวงมาลัยขวาเพื่อรองรับการใช้งานบนท้องถนนในประเทศไทย พร้อมระยะทางวิ่งสูงสุดถึง 650 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง BYD Seal ถูกพัฒนาภายใต้แนวคิด Ocean Aesthetics ที่ให้ภาพลักษณ์ภายนอกสปอร์ตโฉบเฉี่ยว ภายในห้องโดยสารตกแต่งอย่างลงตัวและครบครันด้วยฟังก์ชันล้ำสมัย รองรับ Android Auto และ Apple CarPlay รวมถึงติดตั้งระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันขั้นสูง (ADAS) มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ทั้งสะดวกสบายและปลอดภัยสำหรับผู้ใช้งาน
Q
ความยาวของ BYD Seal คือเท่าไร
BYD Seal มีความยาวตัวถังอยู่ที่ 4,800 มิลลิเมตร ซึ่งช่วยให้ห้องโดยสารมีพื้นที่ตามแนวยาวที่เพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ตอนหน้า หรือผู้โดยสารตอนหลัง ต่างก็มีพื้นที่วางขาอย่างสบาย แม้ในระหว่างการเดินทางไกลก็ไม่รู้สึกอึดอัดจนเกินไป นอกจากนี้ เมื่อรวมกับความกว้าง 1,875 มิลลิเมตร ความสูง 1,460 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,920 มิลลิเมตร ทำให้การจัดวางพื้นที่ภายในห้องโดยสารมีความสมดุลและลงตัว ส่งผลให้การนั่งโดยสารมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ซึ่งขนาดตัวถังเช่นนี้ยังถือเป็นจุดเด่นเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน เสริมให้รถรุ่นนี้มีความโดดเด่นทั้งด้านการใช้งานและความสบายในการเดินทาง
Q
ขนาดแบตเตอรี่ของ BYD Seal คืออะไร
รุ่นต่าง ๆ ของ BYD Seal มีความจุแบตเตอรี่ที่แตกต่างกัน โดยรุ่น BYD Seal Dynamic RWD 2023 มีความจุแบตเตอรี่ 61.44 kWh และระยะทางขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนอย่างเป็นทางการสูงสุดถึง 510 กิโลเมตร ส่วนรุ่น BYD Seal Premium RWD 2023 และ BYD Seal AWD Performance 2023 มีความจุแบตเตอรี่เท่ากันที่ 82.56 kWh โดยรุ่น Premium RWD สามารถขับขี่ได้ไกลถึง 650 กิโลเมตร ขณะที่รุ่น AWD Performance มีระยะทางขับขี่ 580 กิโลเมตร ความแตกต่างของความจุแบตเตอรี่เหล่านี้ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค เช่น ผู้ที่ต้องการเดินทางไกลสามารถเลือกใช้รุ่นที่มีระยะทางขับขี่ได้มากกว่า
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

BYD Seal 05 DM-i จะเปิดตัวในเดือนสิงหาคม เทคโนโลย DM-i รุ่นที่ 5 สามารถวิ่งไกล 2000 กิโลเมตร
พงศธรMay 14, 2025

BYD ด้วย Seal คว้ารางวัล EV ยอดเยี่ยมประจำปีในประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง
Kevin WongMar 6, 2025

ภาพเปิดตัวของ BYD Seal 05 DM-i: การเทคโนโลยี DM รุ่นที่ห้า, ระบบ Hybrid เครื่องยนต์ 1.5L!
LienDec 10, 2024

BYD SEAL รุ่นใหม่ที่จะมาถึงเร็วๆนี้ เพิ่มเสาเลเซอร์ขั้วคู่ ความเร็วสูงสุดเพิ่มเป็น 240 กม./ชม.
ธนวัฒน์Nov 22, 2024

"BYD Seal 06 GT เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศจีน ในอนาคตอาจจะนำเข้ามาขายในประเทศ"
AshleyOct 21, 2024
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย