BYD Seal 05 DM-i จะเปิดตัวในเดือนสิงหาคม เทคโนโลย DM-i รุ่นที่ 5 สามารถวิ่งไกล 2000 กิโลเมตร
พงศธรMay 14, 2025, 11:07 AM
【PCauto】ตามข้อมูลที่ได้รับ BYD Seal 05 DM-i มีแผนเปิดตัวในตลาดประเทศไทยอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคม 2025 และจะมีการผลิตในประเทศ โดยรุ่นนี้ถือเป็นรถ PHEV รุ่นที่สองของ BYD ที่นำเข้ามาจำหน่ายในไทย ต่อจากรุ่นแรกคือ Sealion 6 DM-i
เนื่องจาก BYD ได้วางจำหน่ายรุ่น Seal EV ในไทยแล้ว คาดว่าราคา Seal 05 DM-i จะไม่เกิน 1,325,000 บาท หรืออยู่ใกล้เคียงกับระดับราคานี้
BYD Seal 05 DM-i มีคู่แข่งโดยตรงคือ Toyota Corolla และ Honda Civic ดังนั้นราคาประมาณ 1,325,000 บาทจึงถือว่าเหมาะสม
BYD Seal 05 DM-i ใช้จุดเด่นด้านผลิตภัณฑ์ที่เหนือกว่าในการแข่งขันกับ Toyota Corolla และ Honda Civic โดยจุดที่ชัดเจนที่สุดคือขนาดตัวถังที่ใหญ่กว่าอย่างเห็นได้ชัด
BYD Seal 05 DM-i มีขนาดตัวถังยาว 4,780 มม. กว้าง 1,837 มม. สูง 1,515 มม. และระยะฐานล้อ 2,718 มม. ไม่ว่าจะเป็นความยาวหรือฐานล้อ Seal 05 DM-i ก็มีความได้เปรียบเมื่อเทียบกับ Toyota Corolla และ Honda Civic
ด้านดีไซน์ภายนอก หน้ารถของ Seal 05 DM-i ออกแบบโค้งมนและดูลงตัว มาพร้อมไฟหน้า LED ที่เสริมความเรียบง่ายแต่ดูดีในสไตล์โมเดิร์น
ด้านข้างตัวรถ นอกจากกระจกมองข้างแล้ว ยังติดตั้งกล้องหลายจุด ทำให้สามารถใช้งานระบบมองภาพรอบคันแบบ 360 องศาได้อย่างครบถ้วน
ด้านท้ายของตัวรถเป็นไฟท้ายแบบเชื่อมต่อเต็มแนว เพิ่มความโดดเด่นในการจดจำ มาพร้อมปลายท่อไอเสียแบบซ่อนและดีไซน์ท้ายรถแบบตูดเป็ด
ภายในห้องโดยสารของ Seal 05 DM-i ติดตั้งหน้าจอกลางขนาด 15.6 นิ้วที่สามารถหมุนได้ มาพร้อมระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ BYD DiLink ซึ่งรองรับการฟังเพลง ระบบนำทาง และควบคุมฟังก์ชันต่าง ๆ ของตัวรถได้อย่างครบครัน
คอนโซลกลางติดตั้งคันเกียร์วัสดุคริสตัล เสริมด้วยปุ่มควบคุมที่ใช้บ่อย เช่น ปุ่มสตาร์ทรถ ปุ่มเปลี่ยนโหมดการขับขี่ และเบรกมือไฟฟ้า ซึ่งใช้งานสะดวกขณะขับขี่
เวลาที่เป็นรูปแบบ D มีปุ่มควบคุมมากมายบนด้านบนและใช้หนังและแผ่นโลหะเป็นเครื่องหมาย ความรู้สึกเมื่อจับคือดีจริงๆ หน้าปัดเป็นเอชดีเต็มรูปแบบสามารถแสดงพลังงาน ความเร็ว ระยะทางการขับขี่ต่อเนื่องในแบบที่ชัดเจน
เบาะที่นั่งด้านหน้าทั้งฝั่งผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถปรับด้วยระบบไฟฟ้า และตัวเบาะมีลักษณะโอบกระชับพร้อมรองรับสรีระได้ดี
เบาะหลังมาพร้อมพนักพิงศีรษะ 3 ตำแหน่งแบบแยกอิสระ เบาะนั่งมีความหนานุ่มนั่งสบาย พร้อมที่วางแขนตรงกลางแบบพับได้และช่องวางแก้ว ภายในรถยังมีแท่นชาร์จไร้สายสำหรับโทรศัพท์มือถือ ช่องชาร์จหลายประเภท และหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา รวมถึงพื้นที่เก็บของประมาณ 30 จุด ใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวก
จุดเด่นสำคัญที่สุดของรุ่นนี้คือชุดอุปกรณ์หลัก ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญของ Seal 05 DM-i ในการแข่งขันกับ Toyota Corolla และ Honda Civic โดยรุ่นที่วางจำหน่ายในประเทศจีนมาพร้อมเทคโนโลยี DM-i เจเนอเรชันที่ 5 ซึ่ง BYD ได้ปรับปรุงทั้งในด้านประสิทธิภาพความร้อนของเครื่องยนต์และเพิ่มขนาดถังน้ำมัน ทำให้ Seal 05 DM-i มีระยะทางวิ่งรวมสูงสุดถึง 2,000 กิโลเมตร และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ประมาณ 34 กิโลเมตรต่อลิตร
ระบบขับเคลื่อนหลักของรถรุ่นนี้ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซินรหัส BYD472QC แบบ Atkinson ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 74 กิโลวัตต์ (ประมาณ 101 แรงม้า) และแรงบิดสูงสุด 126 นิวตันเมตร
ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร ที่ให้กำลังสูงสุด 120 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 210 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. ทำได้ภายใน 8.3 วินาที (รุ่นแบตเตอรี่ความจุ 7.68 kWh) หรือ 8.5 วินาที (รุ่นแบตเตอรี่ความจุ 15.9 kWh) โดยระยะทางขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวอยู่ที่ 55 กิโลเมตร และ 120 กิโลเมตรตามลำดับ
ระบบขับเคลื่อนของ Seal 05 DM-i เมื่อเทียบกับรถยนต์ไฮบริดของ Toyota Corolla และ Honda Civic แล้ว มีความประหยัดน้ำมันที่เด่นชัดกว่า อีกทั้งยังสามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ไกลสูงสุดถึง 120 กิโลเมตร ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเดินทางระยะสั้นได้โดยไม่ต้องใช้น้ำมันเลย
นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังมีนโยบายสนับสนุนด้านภาษีสำหรับรถปลั๊กอินไฮบริดที่มีระยะทางขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเกิน 80 กิโลเมตร ดังนั้นรุ่น Seal 05 DM-i ที่จำหน่ายในประเทศไทยคาดว่าจะมาพร้อมระยะทางขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าที่มากกว่า 80 กิโลเมตร
ในด้านการแข่งขันทางการตลาด Seal 05 DM-i ตั้งเป้าหมายตรงไปที่ Toyota Corolla และ Honda Civic โดยวางตำแหน่งเป็นรถยนต์นั่งระดับ C-Segment เมื่อเทียบกับคู่แข่งทั้งสองรุ่นแล้ว Seal 05 DM-i มีขนาดตัวถังใหญ่กว่า พื้นที่ภายในกว้างขวางกว่า ประหยัดน้ำมันมากกว่า และให้ความคุ้มค่าในด้านราคาและอุปกรณ์ที่ติดตั้งมามากกว่าอย่างชัดเจน
คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์
ข้อมูลยอดนิยม

นี่จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนที่มีกำลังมากที่สุดของ Toyota เท่าที่เคยมีมา โดยจะเปิดตัวในยุโรปเป็นที่แรกในปีหน้า
【PCauto】bZ4X Touring มีแผนวางจำหน่ายในยุโรปช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2026 โดยเป็นรุ่นต่อยอดจาก bZ4X เวอร์ชันมาตรฐานที่ได้รับการปรับปรุงให้รองรับการบรรทุกและการใช้งานแบบออฟโรดได้ดีขึ้น พร้อมกำลังรวมสูงสุด 280 กิโลวัตต์ ซึ่งเป็นระดับกำลังที่สูงที่สุดในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าของ Toyota จนถึงขณะนี้ bZ4X Touring มีขนาดตัวถังและพื้นที่ภายในที่ใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และในฐานะรุ่นแฝดของ Subaru Trailseeker รถรุ่นนี้พัฒนาบนแพลตฟอร์ม e-TNGA เช่นเดียวกัน แต่ได้รับการขยายมิติตัวรถเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น

iCar V23 กำลังจะเปิดตัวในประเทศไทยเร็ว ๆ นี้ ราคาจะต่ำกว่า Jaecoo 6 EV
【PCauto】มีรายงานว่า หลังจากการเปิดตัว Jaecoo 6 EV แล้ว iCar V23 จาก Chery อาจเตรียมทำตลาดในประเทศไทยเช่นกัน โดย iCar V23 และ iCar 03 (หรือ Jaecoo 6 EV) ได้รับความสนใจอย่างมากจากดีไซน์ภายนอกที่ดูล้ำอนาคต จนมีข่าวลือว่าทีมออกแบบของรถทั้งสองรุ่นนี้ อาจเป็นทีมเดียวกับ Redmi แบรนด์ลูกของ Xiaomi สำหรับ iCar V23 มาพร้อมสไตล์การออกแบบทรงเหลี่ยมและดูแข็งแกร่ง ด้วยดีไซน์สไตล์ออฟโรดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้รุ่นนี้ตอบโจทย์ผู้ที่มองหาความแตกต่างและสมรรถนะในการลุยเส้นทางทุรกันดารได้เป็นอย่างดี

หลังจากความสำเร็จของ Tank 300 รุ่นดีเซลแล้ว Tank 500 รุ่นดีเซลก็จะถูกนำเข้ามาเช่นกัน
【PCauto】หลังจาก Tank 300 รุ่นดีเซลประสบความสำเร็จเกินคาด GWM วางแผนนำ Tank 500 รุ่นดีเซลเข้าสู่ตลาดไทยในไตรมาสที่สี่ของปี 2025 รถเอสยูวีออฟโรดระดับพรีเมียมที่มาพร้อมขุมพลังดีเซล 24 เทอร์โบรุ่นนี้จะผลิตในประเทศที่โรงงานจังหวัดระยอง ราคาคาดการณ์ราวสองล้านบาท เจาะตลาดเดียวกับ Toyota Fortuner และ Isuzu MU X ซึ่งเป็นเอสยูวีดีเซลยอดนิยมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Toyota ประกาศเปิดตัว Corolla Cross รุ่นใหม่ ครั้งแรกที่เพิ่มระดับ GR SPORT
【PCauto】Toyota เปิดตัว Corolla Cross รุ่นใหม่ในยุโรปโดยยังคงเอกลักษณ์เดิมพร้อมปรับดีไซน์ภายนอกและภายในเล็กน้อย ด้านรูปลักษณ์ภายนอกมาพร้อมกระจังหน้าทรงรังผึ้งที่ช่วยเพิ่มความสวยงามและส่งเสริมการไหลเวียนอากาศเข้าสู่เครื่องยนต์อย่างมีประสิทธิภาพ รุ่นระดับสูงมาพร้อมเทคโนโลยีไฟสูงอัตโนมัติแบบปรับอัจฉริยะ AHS เพื่อให้มุมมองการขับขี่ชัดเจนในทุกสภาพถนน ไฟหน้าและไฟท้ายดีไซน์ใหม่โดดเด่นด้วยแถบไฟ LED ภายในโคมที่ให้แสงสว่างสม่ำเสมอทั่วทั้งพื้นที่เพิ่มความทันสมัยและภาพลักษณ์ระดับพรีเมียม

Audi Q3 เจเนอเรชันใหม่เปิดตัวทั่วโลก 16 มิถุนายน 2025 มาพร้อมนวัตกรรมหลากหลายด้าน
【PCauto】แบรนด์ Audi ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า Audi Q3 เจเนอเรชันใหม่ จะเปิดตัวครั้งแรกทั่วโลกในวันที่ 16 มิถุนายน 2025 โดยระบุว่า SUV รุ่นใหม่นี้จะเป็นการยกระดับมาตรฐานในหลายมิติ จากข้อมูลเบื้องต้น รถรุ่นใหม่นี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนในด้าน ภาษาในการออกแบบ, ห้องโดยสารแบบดิจิทัล และ ระบบขับเคลื่อน Q3 ถือเป็นหนึ่งในรุ่นขายดีที่สุดของ Audi โดยมียอดขายสะสมทั่วโลกทะลุ 2 ล้านคัน นับตั้งแต่เปิดตัวรุ่นแรก
รถยอดนิยม
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
ภาพภายใน