Q

Honda Civic หนักเท่าไหร่?

น้ำหนักของ Honda Civic แต่ละรุ่นจะแตกต่างกัน เช่น รุ่น Honda Civic 1.5 Turbo EL+ ปี 2024 หนัก 1,319 กก. รุ่น Honda Civic e:HEV EL+ ปี 2024 หนัก 1,412 กก. และรุ่น Honda Civic e:HEV RS ปี 2024 หนัก 1,429 กก. น้ำหนักรถมีผลต่อสมรรถนะหลายด้าน รถที่น้ำหนักมากกว่าจะให้ความมั่นคงดีขึ้นเวลาขับเร็ว ต้านลมข้างได้ดี และช่วงล่างรับแรงกระแทกจากพื้นถนนได้ดีกว่า ส่วนรถที่เบากว่าจะเร่งได้ไว คล่องตัว เหมาะกับการขับในเมืองที่ต้องหยุด-ออกตัวบ่อย และช่วยประหยัดน้ำมันมากขึ้น สรุปแล้วน้ำหนักที่ต่างกันตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายได้เป็นอย่างดี.
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Honda Civic มีอะไรบ้าง?
Honda Civic เป็นรถที่ได้รับความนิยมสูง และโดยรวมถือว่าทำผลงานได้ดีมาก แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีบางจุดที่สามารถปรับปรุงได้บ้าง โดยเฉพาะระยะห่างจากพื้นถนนที่ค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับรถซีดานในระดับเดียวกัน ทำให้เวลาใช้บนถนนต่างจังหวัดหรือถนนที่มีน้ำขังในหน้าฝนอาจต้องขับด้วยความระมัดระวังมากขึ้น เรื่องเสียงภายในห้องโดยสาร ขณะขับที่ความเร็วสูงยังมีเสียงรบกวนเข้ามาอยู่บ้าง โดยเฉพาะเสียงเครื่องยนต์ในรอบสูง ซึ่งอาจทำให้รู้สึกล้าเล็กน้อยเมื่อขับในสภาพอากาศร้อนนาน ๆ ทั้งนี้ก็เป็นผลจากดีไซน์ที่เน้นความสปอร์ตของตัวรถ อีกจุดที่มีผู้ใช้บางรายสะท้อนคือ เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร อาจมีจังหวะที่ตอบสนองช้าลงเล็กน้อยในสภาพอากาศร้อนจัดอย่างในไทย นอกจากนี้ แม้ออกแบบภายในจะดูทันสมัย แต่บางส่วนยังใช้วัสดุพลาสติกแข็งที่สัมผัสไม่เนียนเท่าที่ควร และเมื่อโดนแดดจัดเป็นเวลานาน อาจมีเสียงยืดหดของชิ้นส่วนบ้าง ทั้งหมดนี้เป็นข้อสังเกตจากการใช้งานจริง ไม่ใช่ข้อบกพร่องของตัวรถโดยตรง โดยรวมแล้ว Honda Civic ยังคงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่เหมาะกับการขับขี่ในเมืองของไทยเป็นอย่างดี.
Q
Honda Civic อยู่ใน Segment ไหน?
Honda Civic จัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ระดับ C-Segment หรือที่เรียกว่ารถขนาดคอมแพ็ค ซึ่งเป็นรถที่มีขนาดกลาง เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองและการใช้งานของครอบครัว รถในกลุ่ม C-Segment มักมีข้อดีเรื่องความประหยัดน้ำมัน ขับง่าย จอดสะดวก และมีพื้นที่ภายในที่นั่งสบายพอสมควร สำหรับ Honda Civic เองก็ได้รับความนิยมในตลาด ด้วยตัวเลือกขุมพลังที่หลากหลาย ทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซินธรรมดาและรุ่นไฮบริด รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน และการควบคุมที่มั่นใจ ภายในรถมีการจัดสรรพื้นที่อย่างลงตัว รองรับการเดินทางของผู้โดยสารในชีวิตประจำวัน รวมถึงการขนของในระดับหนึ่ง จึงนับว่าเป็นรถ C-Segment ที่มีความสามารถรอบด้านและแข่งขันได้ดีในตลาดประเทศไทย.
Q
เครื่องยนต์ของ Honda Civic มีขนาดกี่ซีซี?
ขนาดเครื่องยนต์ของ Honda Civic แต่ละรุ่นอาจแตกต่างกันไป รุ่นยอดนิยมบางรุ่นใช้เครื่องยนต์ขนาด 1,498 ซีซี (1.5 ลิตร) เช่น Honda Civic 1.5T Turbo EL+ ปี 2024 ส่วนรุ่น e:HEV EL+ และ e:HEV RS ปี 2024 ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1,993 ซีซี (2.0 ลิตร) นอกจากนี้รุ่นเก่าอย่างปี 2020 ยังมีเครื่องยนต์ขนาด 1,799 ซีซี (1.8 ลิตร) ด้วย ดังนั้น ขนาดซีซีของ Honda Civic จะขึ้นอยู่กับรุ่นและปีของรถที่คุณพูดถึง.
Q
Honda Civic ใช้เครื่องยนต์แบบไหน?
Honda Civic มีเครื่องยนต์ให้เลือกหลายแบบ โดยรุ่นเครื่องยนต์เบนซินยอดนิยมคือขนาด 1.5 ลิตร เทอร์โบ อย่างรุ่น Honda Civic 1.5 Turbo EL+ ปี 2024 มีความจุ 1498 มิลลิลิตร ใช้ระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า (PS) กำลังสูงสุด 131 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตร ที่รอบเครื่อง 1700 - 4500 รอบต่อนาที มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ CVT ขับขี่นุ่มนวลและตอบสนองดี เหมาะทั้งการใช้งานทั่วไปและการเร่งแซง ส่วนรุ่นไฮบริด เช่น Honda Civic e:HEV EL+ ปี 2024 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร แบบไม่มีเทอร์โบ ผสานการทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า เครื่องยนต์มีแรงม้าสูงสุด 141 แรงม้า ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าให้แรงม้าสูงสุด 184 แรงม้า ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมแบบ ternary lithium และเกียร์ E-CVT ที่ช่วยให้การเปลี่ยนกำลังระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์ราบรื่นมากขึ้น อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยเพียง 4 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม เครื่องยนต์ทั้งสองแบบตอบโจทย์ผู้ใช้ที่มีความต้องการหลากหลาย ไม่ว่าจะเน้นพลังขับเคลื่อนหรือความประหยัดน้ำมัน.
Q
ขนาด PCD (ระยะห่างรูน็อตล้อ) ของ Honda Civic คือเท่าไหร่?
ขนาด PCD (ระยะห่างรูน็อตล้อ) ของ Honda Civic ที่พบได้บ่อยที่สุดในตลาดไทยคือ 5×114.3 มิลลิเมตร หมายความว่ามีรูน็อต 5 รู เรียงเป็นวงกลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 114.3 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานของรุ่นที่ขายในไทย โดยเฉพาะในรุ่นเจเนอเรชันที่ 10 และ 11 อย่างไรก็ตาม หากต้องการเปลี่ยนล้อแม็กในไทย ควรตรวจสอบค่าต่าง ๆ เพิ่มเติม เช่น ค่า ET (Offset) และขนาดรูดุมล้อให้ตรงกับรถ เพราะถึงแม้ PCD จะตรงกัน แต่ล้ออาจไม่พอดีกับรถทุกรุ่น นอกจากนี้ เนื่องจากถนนในไทยมีความหลากหลาย ควรเลือกใช้ล้อคุณภาพดีเพื่อความปลอดภัย และควรปรึกษาศูนย์บริการก่อนเปลี่ยนล้อ โดยเฉพาะหากเป็นรุ่นพิเศษที่อาจมีสเปกต่างออกไป.
Q
Honda Civic มีฟังก์ชัน Apple CarPlay ไหม?
ไม่ใช่ทุกรุ่นของ Honda Civic ที่ติดตั้ง Apple CarPlay มาจากโรงงาน โดยในรุ่นใหม่ ๆ หลายรุ่นเริ่มรองรับระบบอัจฉริยะนี้มากขึ้น หากต้องการเช็กว่ารถของคุณมีหรือสามารถติดตั้ง CarPlay ได้หรือไม่ ควรดูจากรายการอุปกรณ์ของรถหรือสอบถามที่ศูนย์บริการ Honda โดยตรง แม้บางรุ่นจะไม่มีมาแต่แรก ปัจจุบันก็มีอุปกรณ์เสริมที่สามารถเพิ่มฟังก์ชันนี้ได้ เช่นใน Honda Civic รุ่นปี 2022 เฉพาะรุ่นท็อปอย่าง Touring เท่านั้นที่รองรับ CarPlay แบบไร้สาย ส่วนรุ่นอื่นจะใช้ได้เฉพาะแบบมีสาย CarPlay ช่วยให้ผู้ขับสามารถควบคุมโทรศัพท์ด้วยเสียง ใช้นำทาง ฟังเพลง ได้อย่างสะดวก ปลอดภัย และเพิ่มความเพลิดเพลินในการขับขี่.
Q
ยางที่ใช้ใน Honda Civic มียี่ห้ออะไรบ้าง?
ยางที่ใช้ใน Honda Civic ที่ขายในไทย ส่วนใหญ่เป็นยี่ห้อจากญี่ปุ่น เช่น Yokohama, Dunlop และ Bridgestone โดยรุ่นของยางจะต่างกันตามรุ่นย่อยและปีที่ผลิต เช่น รุ่น 1.5T ตัวท็อป มักใช้ยาง Bridgestone POTENZA ที่เน้นสมรรถนะสูง ส่วนรุ่น 1.8L รุ่นเริ่มต้น อาจใช้ยาง Yokohama BLUEARTH หรือ Dunlop ENASAVE ที่เน้นความประหยัดและความนุ่มนวลในการขับขี่ ด้วยสภาพอากาศในไทยที่ร้อนและมีฝนบ่อย ยางติดรถเหล่านี้สามารถรองรับถนนลื่นในหน้าฝนได้ดี อย่างไรก็ตาม Honda อาจปรับเปลี่ยนยี่ห้อยางในแต่ละล็อตผลิตตามสถานการณ์ของซัพพลายเชน ทำให้รถรุ่นเดียวกันอาจมียางติดรถต่างกันเล็กน้อย แต่ทุกเส้นยังคงได้มาตรฐานที่เหมาะกับ Civic ถ้าอยากรู้ว่ายางติดรถจากโรงงานเป็นยี่ห้อไหน แนะนำให้ดูที่สติกเกอร์แรงดันลมยางที่เสาประตูฝั่งคนขับ หรือสอบถามศูนย์ Honda ใกล้บ้าน.
Q
ภาษีถนนของ Honda Civic ราคาเท่าไหร่? คำนวณยังไง?
ภาษีถนนประจำปีของ Honda Civic จะคิดตามขนาดความจุเครื่องยนต์ โดยมีรายละเอียดคร่าว ๆ ดังนี้: – รุ่นที่มีขนาดเครื่องยนต์ 1.0-1.6 ลิตร (เช่น Civic 1.5T เทอร์โบ) จะมีภาษีถนนอยู่ที่ประมาณ 1,200-1,500 บาทต่อปี – รุ่นที่มีเครื่องยนต์ 1.6-1.8 ลิตร (เช่น Civic 1.8L) อยู่ที่ประมาณ 1,800-2,100 บาทต่อปี การคำนวณภาษีจะยึดตามอัตราเฉลี่ยประมาณ 80-100 บาทต่อ 100 ซีซี ของรถยนต์นั่งส่วนบุคคล นอกจากนี้ยังมีภาษีเพิ่มเติมตามอายุการใช้งานของรถ หากรถมีอายุเกิน 5 ปี จะมีการบวกเพิ่มอีกประมาณ 10%-30% แล้วแต่ปีที่ใช้งาน แนะนำให้ตรวจสอบอัตราที่แน่นอนจากเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก (DLT) หรือสอบถามได้ที่สำนักงานขนส่งใกล้บ้าน และสามารถชำระภาษีผ่านธนาคารหรือแพลตฟอร์มออนไลน์ได้เลย.
Q
น้ำมันเครื่องของเครื่องยนต์ Honda Civic ต้องใช้ปริมาณเท่าไหร่?
ปริมาณน้ำมันเครื่องของ Honda Civic จะแตกต่างกันตามประเภทของเครื่องยนต์ โดยรุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5T (รหัส L15B) ต้องใช้น้ำมันเครื่องประมาณ 3.7 ลิตร (รวมการเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่อง) ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ 1.8 ลิตรแบบธรรมดา (รหัส R18Z) ใช้ประมาณ 4.2 ลิตร ในสภาพอากาศร้อนของไทย แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้เกรด 0W-20 หรือ 5W-30 ที่ทาง Honda แนะนำ เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้ดีและยืดอายุการใช้งาน ทั้งนี้ ควรเติมตามระดับที่วัดจากก้านวัดน้ำมันเครื่อง ไม่ควรเติมมากหรือน้อยเกินไป เพราะจะกระทบต่อการทำงานของเครื่องยนต์ ศูนย์บริการ Honda ในไทยมักใช้อุปกรณ์เฉพาะในการเติมน้ำมันอย่างแม่นยำ และแนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 10,000 กิโลเมตร หรือทุก 6 เดือน แล้วแต่อย่างใดถึงก่อน สำหรับรถที่ขับในสภาพการจราจรติดขัด เช่น ในกรุงเทพฯ ควรพิจารณาเปลี่ยนน้ำมันเครื่องถี่ขึ้นเพื่อรักษาสภาพเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพดี.
Q
ราคารถมือสองของ Honda Civic อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่?
ราคามือสองของ Honda Civic จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพรถ ระยะทางที่ใช้งาน และความต้องการในตลาด ดังนั้นราคาจึงอาจแตกต่างกันไป ยกตัวอย่างรุ่นปี 2024 — Honda Civic 1.5 Turbo EL+ มีราคารถใหม่อยู่ที่ประมาณ 1,039,000 บาท ส่วนรุ่น e:HEV EL+ อยู่ที่ประมาณ 1,099,000 บาท และรุ่น e:HEV RS ราคาประมาณ 1,239,000 บาท ถ้ารถอยู่ในสภาพดี วิ่งน้อย ราคามือสองก็จะสูงหน่อย แต่ถ้ามีร่องรอยการใช้งานหนัก หรือมีประวัติอุบัติเหตุ ราคาก็จะลดลง และถ้าตลาดมีความต้องการมาก ราคามือสองอาจสูงขึ้น แต่ถ้ามีรถเยอะกว่าคนซื้อ ราคาก็อาจลดลง หากต้องการรู้ราคามือสองที่แน่นอน แนะนำให้ไปดูตามตลาดรถมือสอง แพลตฟอร์มออนไลน์ หรือสอบถามจากตัวแทนจำหน่าย Honda โดยตรง จะได้ราคาที่ตรงกับสภาพรถจริงมากที่สุด.

ข้อดี

รูปทรงรถที่สวยงามและเนรมิต ด้วยการผสมผสานความสวยงามของเส้นโค้งรถเก๋งพร้อมกับการออกแบบหรูหราที่ลงตัวมาก
การออกแบบภายใน เข้าฉลุยด้วยความหรูหรา มีฟีเจอร์ครบครัน พร้อมสุดยอดความสะดวกสบายและประสบการณ์ที่สะดวกสบาย
บริเวณหน้ารถตกแต่งด้วย 10 ใบถุงลมสำหรับความปลอดภัย, ส่วนบนของจอดรถมีเทคโนโลยีป้องกันการชนชั้นแนวหน้า
รถยนต์ปี 2022 ตัวใหม่ ม emphasis ที่ความหรูหรา เพื่อสร้างบรรยากาศที่สวยงาม
เครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร ที่มั่นคงเหนียวแน่น ความเร็ว 158 ม้า บิดมอเม้น 187 นิวตันเมตร พร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ CVT

ข้อเสีย

รุ่นก่อนนี้มีความรู้สึกว่าร่างคันค่อนข้างกว้าง ซึ่งไม่เหมาะสมกับซีรี่ส์รถคันนี้
กล่องเกียร์ CVT ของเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตรยับยั้งความสนุกในการขับขี่, การเปลี่ยนเกียร์ด้วยปั่นต้องใช้ความพยายามในการทำงาน
ลดความรู้สึกรุนแรงในการขับขี่และส่งผลทำให้ดูหรูหรา ซึ่งอาจทำให้บางคนรู้สึกไม่สบาย
ไม่มีระบบพลังงานผสม, มีเพียงเครื่องยนต์เบนซินธรรมดา, อาจไม่สามารถตอบสนองความต้องการของบางผู้บริโภคในการประหยัดพลังงานและสิ่งแวดล้อม

Q&A ล่าสุด

Q
ความกว้างของ MG Cyberster คือเท่าไร?
MG Cyberster มีความกว้าง 1,913 มม. โดยขนาดตัวรถทั้งหมดคือ 4,535 × 1,913 × 1,329 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,690 มม. การที่ตัวรถกว้างกว่าปกติให้ข้อดีหลายอย่าง อย่างแรกเวลาขับรถ รถที่กว้างกว่าจะช่วยให้ทรงตัวได้ดีขึ้น โดยเฉพาะตอนขับเร็วหรือเข้าโค้ง ตัวรถที่กว้างจะช่วยให้รถอยู่ในท่าที่มั่นคง ลดโอกาสเกิดการโคลงด้านข้าง อีกอย่างตัวรถที่กว้างยังส่งผลดีต่อการจัดวางพื้นที่ภายในด้วย แม้ MG Cyberster จะเป็นรถสปอร์ตสองที่นั่ง แต่ความกว้างที่มากขึ้นช่วยให้ทั้งคนขับและผู้โดยสารมีพื้นที่ด้านข้างที่เหลือเฟือ นั่งแล้วสบายไม่รู้สึกอึดอัด
Q
รถสปอร์ตไฟฟ้า MG Cyberster ต้องเสียภาษีถนนเท่าไหร่? แล้วคิดคำนวณยังไง?
MG Cyberster ในฐานะที่เป็นรถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้า จะมีวิธีการคำนวณภาษีถนนประจำปี (Road Tax) ที่แตกต่างจากรถเครื่องยนต์สันดาปแบบทั่วไป โดยภาษีถนนของรถยนต์ไฟฟ้าจะคิดจากกำลังมอเตอร์ไฟฟ้า (หน่วยเป็นกิโลวัตต์) ตามสูตร: ภาษีถนน = กำลังมอเตอร์ (kW) × 6 บาท ยกตัวอย่าง MG Cyberster รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) มีกำลังมอเตอร์ 231 กิโลวัตต์ จะต้องเสียภาษีถนนปีละประมาณ 1,386 บาท ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) ซึ่งใช้มอเตอร์คู่มีกำลังรวม 400 กิโลวัตต์ จะเสียภาษีประมาณ 2,400 บาทต่อปี รัฐบาลไทยมีนโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า โดยให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีมากกว่ารถใช้น้ำมันแบบดั้งเดิม ซึ่งเก็บภาษีตามขนาดความจุของเครื่องยนต์ (ซีซี) ที่ยิ่งมากก็ยิ่งแพง ดังนั้นรถไฟฟ้าอย่าง MG Cyberster จึงจ่ายภาษีถนนถูกกว่าชัดเจน นอกจากนี้ ผู้ที่ซื้อ MG Cyberster ยังมีสิทธิได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า และลดภาษีสรรพสามิตตามนโยบายส่งเสริมรถ EV อีกด้วย ทั้งหมดนี้ทำให้ MG Cyberster มีความคุ้มค่ามากขึ้นในตลาดไทย อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลล่าสุดกับตัวแทนจำหน่าย MG หรือกรมการขนส่งทางบก (DLT) เพราะมาตรการสนับสนุนอาจมีการปรับเปลี่ยนตามนโยบายรัฐบาล.
Q
MG Cyberster ต้องเติมน้ำมันเครื่อง (ถ้ามี) ปริมาณเท่าไหร่?
MG Cyberster เป็นรถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้า จึงไม่มีเครื่องยนต์สันดาปแบบรถทั่วไป และไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเหมือนรถใช้น้ำมันที่เราคุ้นเคยในไทย อย่างไรก็ตาม ระบบเกียร์ทดรอบ (Reduction Gearbox) ที่ใช้ในรถไฟฟ้า อาจต้องมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อลื่นตามระยะ โดยปริมาณและประเภทน้ำมันควรอ้างอิงจากคู่มือผู้ใช้หรือสอบถามจากศูนย์บริการที่ได้รับการแต่งตั้งโดยตรง ในสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย การดูแลระบบระบายความร้อนและแบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้ายิ่งมีความสำคัญเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเมื่อต้องขับทางไกลหรือใช้การชาร์จเร็วบ่อย ๆ เพราะระบบจัดการอุณหภูมิของแบตเตอรี่มีบทบาทสำคัญต่อประสิทธิภาพการใช้งาน เจ้าของรถในไทยควรใส่ใจการดูแลเพิ่มเติมในช่วงฤดูฝน เช่น หลีกเลี่ยงการขับลุยน้ำลึก แม้ว่าแบตเตอรี่ของ MG Cyberster จะมีมาตรฐานกันน้ำระดับ IP67 ก็ตาม แต่การหลีกเลี่ยงพื้นที่น้ำท่วมจะช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบต่าง ๆ ได้มากขึ้น หากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลรถยนต์ไฟฟ้าในสภาพอากาศร้อน เช่น การดูแลแบตเตอรี่หรือการติดตั้งเครื่องชาร์จที่บ้าน แนะนำให้ปรึกษาตัวแทนจำหน่าย MG ในไทย พวกเขาจะให้คำแนะนำที่เหมาะกับสภาพการใช้งานในท้องถิ่นได้ดีที่สุด.
Q
MG Cyberster มีขนาดรูน็อตล้อ (PCD) เท่าไหร่?
MG Cyberster มีขนาดรูน็อตล้อ (PCD) อยู่ที่ 5x112 หมายถึง ล้อของรถรุ่นนี้มีรูน็อต 5 รู และรูน็อตทั้งหมดกระจายตัวอยู่บนวงกลมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 112 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นขนาดที่พบได้บ่อยในรถยุโรปหลายรุ่น เช่น Volkswagen หรือ Mercedes-Benz จึงทำให้การหาอะไหล่หรือเปลี่ยนล้อแม็กในตลาดไทยทำได้ง่ายขึ้น เพราะมีของที่ใช้ร่วมกันได้มาก อย่างไรก็ตาม เวลาจะเปลี่ยนล้อหรืออัปเกรดระบบเบรก ยังต้องคำนึงถึงขนาดของรูดุมกลาง (CB) และค่า Offset หรือ ET ให้ตรงกับสเปกรถด้วย ไม่เช่นนั้นอาจทำให้ล้อไม่แน่นพอ หรือมีผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่ สำหรับประเทศไทยที่อากาศร้อนและฝนตกบ่อย แนะนำให้เลือกแม็กที่น้ำหนักเบาและระบายความร้อนได้ดี เพื่อช่วยให้รถขับนิ่งและปลอดภัยมากขึ้นในสภาพอากาศแบบนี้ ถ้าไม่แน่ใจว่าจะเลือกแบบไหนดี สามารถปรึกษาศูนย์บริการ MG หรือร้านแม็กมืออาชีพในไทยได้เลย พวกเขาจะช่วยแนะนำรุ่นที่เหมาะกับถนนและอากาศบ้านเราได้ตรงจุดที่สุดค่ะ.
Q
MG Cyberster มี Apple Carplay หรือไม่
MG Cyberster เป็นรถสปอร์ตไฟฟ้าที่ได้รับความสนใจอย่างมาก และยังมาพร้อมกับฟังก์ชัน Apple CarPlay ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานในไทยได้เป็นอย่างดี เพราะช่วยให้เชื่อมต่อ iPhone ได้สะดวก ทั้งระบบนำทาง เล่นเพลง หรือแม้แต่โทรศัพท์ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ สำหรับตลาดไทยแล้ว ความเข้ากันได้ของ Apple CarPlay ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะผู้ใช้งานที่นี่มักพึ่งพาสมาร์ทโฟนในการวางแผนเดินทาง โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรค่อนข้างติดขัด ระบบนำทางแบบเรียลไทม์และการควบคุมด้วยเสียงจะช่วยลดความเครียดในการขับรถได้มาก นอกจากนี้ MG Cyberster ยังรองรับ Android Auto อีกด้วย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้สมาร์ทโฟนที่หลากหลาย เมื่อคนไทยเลือกซื้อรถไฟฟ้า นอกจากจะสนใจเรื่องสมรรถนะและระยะทางแล้ว ความสะดวกของระบบสมาร์ทในรถก็เป็นปัจจัยสำคัญเช่นกัน ซึ่ง MG Cyberster ก็ทำได้ดีในจุดนี้ และเมื่อโครงสร้างพื้นฐานของรถไฟฟ้าในไทยพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ฟังก์ชันอัจฉริยะเหล่านี้จะยิ่งช่วยเสริมประสบการณ์การใช้งานให้ดีขึ้น แนะนำให้ผู้ที่สนใจไปทดลองขับด้วยตัวเองที่โชว์รูม MG ในพื้นที่
ดูเพิ่มเติม