Honda วางจำหน่าย Civic TYPE R รุ่น Ultimate เนื่องจากกฎหมายเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซทำให้เลิกขายในยุโรป

พงศธรJun 11, 2025, 07:17 PM

【PCauto】Honda เตรียมยุติการจำหน่าย Civic TYPE R ในตลาดยุโรป โดยได้เปิดตัวรุ่นพิเศษแบบจำนวนจำกัดในชื่อ Civic TYPE R Ultimate Edition เพื่อเป็นรุ่นอำลา

การประกาศดังกล่าว โดยเฉพาะการเปิดตัวรุ่นลิมิเต็ด ทำให้เกิดกระแสตอบรับอย่างรุนแรงในตลาด Civic TYPE R ซึ่งเดิมก็ได้รับความนิยมสูงอยู่แล้ว ส่งผลให้ราคามือสองในตลาดพุ่งขึ้นทันที ตัวอย่างเช่นในสหราชอาณาจักร มีรายงานว่าราคามือสองของรุ่นปัจจุบันเพิ่มขึ้นมากกว่า 30% จากราคาจำหน่ายป้ายแดง สะท้อนให้เห็นถึงความผูกพันและคุณค่าทางอารมณ์ของแฟนรถที่มีต่อรุ่นนี้

Civic TYPE R Ultimate Edition ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 20 คัน

โดยรุ่นพิเศษนี้พัฒนาขึ้นจาก Civic TYPE R รหัส FL5 รุ่นปัจจุบัน ซึ่งมีความหมายมากกว่าการอัปเกรดอุปกรณ์ทั่วไป ตัวรถมาพร้อมสีตัวถัง Championship White อันเป็นเอกลักษณ์ของ Civic TYPE R ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและเชื่อมโยงกับสนามแข่งโดยตรง เสริมด้วยแถบตกแต่งสีแดงสะดุดตา เพิ่มความโดดเด่นด้านภาพลักษณ์ ในส่วนของล้อ เปลี่ยนมาใช้ล้อฟอร์จน้ำหนักเบาจาก BBS และยางสมรรถนะสูง Michelin Cup 2 ที่เน้นการยึดเกาะบนสนามแข่ง ชุดล้อและยางนี้ช่วยยกระดับสมรรถนะช่วงเข้าโค้งให้ตอบโจทย์ผู้ขับขี่ที่มองหาประสบการณ์ควบคุมรถระดับสูงสุดทีมวิศวกรของ Honda ยังได้ปรับจูนช่วงล่างเพิ่มเติมอย่างเฉพาะทาง เพื่อรีดสมรรถนะสูงสุดของรถขับเคลื่อนล้อหน้าระดับเรือธงคันนี้ให้เหมาะกับการใช้งานในสนามแข่งอย่างเต็มที่ เพื่อแสดงถึงความพิเศษของรุ่น Ultimate Edition รถแต่ละคันจะมาพร้อม แผ่นป้ายระบุหมายเลขเฉพาะคัน และ ใบรับรองรุ่นพิเศษ อย่างเป็นทางการ ตามรายงาน รุ่น Ultimate Edition นี้มีราคาจำหน่ายในยุโรปอยู่ที่ประมาณ 50,000 ยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยราว 1,965,000 บาท โดยผลิตจำกัดเพียง 20 คันเท่านั้น

กฎหมายด้านการปล่อยมลพิษและความปลอดภัยของยุโรปเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ต้องยุติการจำหน่าย Civic TYPE R

การยุติการวางจำหน่าย Civic TYPE R ในยุโรปและการเปิดตัวรุ่นลิมิเต็ดครั้งนี้ มีสาเหตุโดยตรงจากข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้นอย่างต่อเนื่องในยุโรป

เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ K20C1 ขนาด 2.0 ลิตร ที่ใช้ใน Civic TYPE R แม้จะให้กำลังสูงถึง 329 แรงม้า (PS) และแรงบิด 420 นิวตันเมตร แต่มีค่าการปล่อยมลพิษ เช่น NOx (ไนโตรเจนออกไซด์) อยู่ในระดับที่สูงเกินไปสำหรับมาตรฐานปัจจุบัน ภายใต้มาตรฐานการปล่อยมลพิษ Euro 6e-bis ที่เริ่มบังคับใช้ในยุโรป มีการกำหนดค่าจำกัดมลพิษจากท่อไอเสียอย่างเข้มงวดมากขึ้น โดย Civic TYPE R มีค่าการปล่อย CO₂ (คาร์บอนไดออกไซด์) สูงถึง 189 กรัมต่อกิโลเมตร ขณะที่รุ่น Civic ทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 114 กรัมต่อกิโลเมตร ซึ่งถือว่าสูงเกินกว่าข้อกำหนด จึงไม่สามารถผ่านเกณฑ์ใหม่ได้ขณะเดียวกัน กฎหมายความปลอดภัยฉบับใหม่ของยุโรปหรือ GSR2 ก็มีผลกระทบต่อการจำหน่าย Honda Civic TYPE R ในภูมิภาคนี้อย่างมีนัยสำคัญ ข้อบังคับ GSR2 กำหนดให้รถยนต์ต้องติดตั้งระบบความปลอดภัยอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากเป็นมาตรฐาน เช่น ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB), ระบบจำกัดความเร็วอัจฉริยะ (ISA) และ ระบบตรวจจับความเหนื่อยล้าผู้ขับขี่ เป็นต้น ซึ่งแพลตฟอร์ม FL5 ของ Civic TYPE R ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรองรับระบบเหล่านี้โดยตรง การติดตั้งเพิ่มเข้าไปจะทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น และอาจส่งผลต่อการกระจายน้ำหนักของตัวรถที่เน้นสมรรถนะ ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลให้ Honda ตัดสินใจยุติการจำหน่าย Civic TYPE R ในยุโรป และหันไปเน้นตลาดหลักในภูมิภาคอื่น ได้แก่ ญี่ปุ่น, อเมริกาเหนือ, เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (เช่น ไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย) และ ตะวันออกกลาง

ในอนาคตอาจมีรุ่นสมรรถนะสูงแบบไฟฟ้าออกมาเพื่อตอบสนองต่อข้อจำกัดด้านกฎหมาย

จากอุปสรรคด้านกฎระเบียบที่เข้มงวด ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ รวมถึง Honda จำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ โดยเฉพาะในตลาดยุโรป สำหรับ Honda นั่นหมายถึงการทยอยยุติการจำหน่ายรถสมรรถนะสูงที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป และหันไปลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น เช่น การผลักดันรถยนต์ไฟฟ้าตระกูล e:N Series Honda ยังเน้นย้ำว่า “การเปลี่ยนไปสู่ระบบไฟฟ้า ไม่ได้หมายถึงการละทิ้งความสนุกในการขับขี่” ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า ในอนาคต Honda มีแผนที่จะเปิดตัวรถสมรรถนะสูงในรูปแบบ ไฮบริด (HEV/PHEV) หรือ รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ (BEV) ต่อไปนี่อาจเป็นสัญญาณของ “จุดสิ้นสุดของยุครถยนต์สมรรถนะสูงที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป” ซึ่งแนวโน้มในลักษณะนี้ได้ปรากฏให้เห็นในตลาดยุโรปมาระยะหนึ่งแล้ว เช่น Volkswagen Golf GTI และ Ford Focus RS ที่ต่างก็มีแผนปรับตัวสู่ยุคไฟฟ้าอย่างชัดเจน

# ข่าวสารยานยนต์

คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์

ติดตามเรา

You Tube Facebook Google News

ข้อมูลยอดนิยม

เตรียมเปิดตัว!  Toyota Yaris ATIV HEV ใหม่ 21 ส.ค.นี้ ใช้ขุมพลังเดียวกับ Yaris Cross

เตรียมเปิดตัว! Toyota Yaris ATIV HEV ใหม่ 21 ส.ค.นี้ ใช้ขุมพลังเดียวกับ Yaris Cross

【PCauto】Yaris ATIV HEV ใหม่ จ่อเปิดตัว 21 ส.ค.นี้ มาพร้อมเครื่องยนต์ไฮบริดประหยัดสุด 26.3 กม./ลิตร Toyota เตรียมส่ง Yaris ATIV รุ่นไฮบริดบุกตลาดไทย 21 สิงหาคมนี้ โดยใช้ขุมพลังเดียวกับ Yaris Cross ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร รหัส 2NR-VEX ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้พละกำลังรวม 111 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ e-CVT พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 0.7 kWh รองรับน้ำมัน E20 ความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองดีเยี่ยมที่ 26.3 กม./ลิตร ตามมาตรฐาน WMTC เตรียมเปิดศึกรถซีดานไฮบริดประหยั

AshleyJul 21, 2025
Mitsubishiเปิดตัว SUV 7 ที่นั่งรุ่น Destinator เพื่อแข่งขันกับ Honda CR-V

Mitsubishiเปิดตัว SUV 7 ที่นั่งรุ่น Destinator เพื่อแข่งขันกับ Honda CR-V

【PCauto】Mitsubishi Motors ได้เปิดตัว SUV เจ็ดที่นั่งรุ่นใหม่ Destinator อย่างเป็นทางการที่จาการ์ต้า รุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อครอบครัวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะ และจะเริ่มจำหน่ายในอินโดนีเซียเป็นประเทศแรก ก่อนขยายตลาดไปยังไทยและประเทศในอาเซียนอื่นๆ Mitsubishi Destinator มาพร้อมกับฐานล้อยาวพิเศษ 2815 มิลลิเมตร และระยะต่ำสุดจากพื้นถึงตัวรถ 214 มิลลิเมตร รถรุ่นนี้ตั้งเป้าหมายในตลาด SUV ขนาดกลางที่มี Honda CR-V ครองตำแหน่งผู้นำอยู่แล้ว

ธนวัฒน์Jul 21, 2025
BYD SEALION 8 ลุ้นขายไทย-ออสเตรเลียปีหน้า!

BYD SEALION 8 ลุ้นขายไทย-ออสเตรเลียปีหน้า!

【PCauto】BYD SEALION 8 เตรียมบุกไทย-ออสซี่ปีหน้า! ใหญ่เทียบ Kluger พร้อมดีไซน์ล้ำยุคจาก Egger BYD SEALION 8 หรือ Tang L เวอร์ชันจีน เตรียมเปิดตัวไตรมาสแรกปี 2026 ในออสเตรเลีย และมีแผนรุกตลาดไทยพร้อมกัน จุดเด่นคือขนาดใหญ่กว่า Toyota Kluger ถึง 120 มม. กับตัวถังยาวกว่า 5 เมตร เบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง พร้อมขุมพลัง PHEV สองรุ่นย่อย และดีไซน์ “Loong Face” นำโดย Wolfgang Egger ไฟหน้า LED แยกส่วน-โลโก้ BYD เรืองแสง เสริมความพรีเมียมด้วยประตูไร้กรอบ ไฟท้าย “ปีกฟีนิกซ์” และหลังคาพาโนรามา ครบเครื่องทั้งความหรู

สุรเดชJul 22, 2025
Toyota bZ4X เปิดตัวแล้ว เมื่อเทียบกับ Xpeng G6 รุ่นใดคุ้มค่ากับการซื้อมากกว่ากัน

Toyota bZ4X เปิดตัวแล้ว เมื่อเทียบกับ Xpeng G6 รุ่นใดคุ้มค่ากับการซื้อมากกว่ากัน

【PCauto】Toyota bZ4X เปิดให้สั่งจองทางออนไลน์ในประเทศไทยเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม และภายในสามวันแรกมียอดสั่งจองถึง 1,000 คันรุ่นย่อยและราคาของรถรุ่นนี้แบ่งเป็น:ขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) ราคา 1,599,000 บาทและขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) ราคา 1,699,000 บาทในฐานะรถ SUV ไฟฟ้าล้วนรุ่นแรกของ Toyota ที่ทำตลาดในประเทศไทย bZ4X นำเข้ามาขายโดยมาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมขนาด 73.11 kWh ระยะทางวิ่งตามมาตรฐาน NEDC อยู่ที่ 600 กม. (FWD) และ 570 กม. (AWD)ในอีกฝั่งหนึ่ง XPeng G6 ก็ได้เปิดตัวรุ่นปรับปรุงใหม่:รุ่น Long Range ราคา

วิรุฬห์Aug 27, 2025
Xpeng P7 ฮอตแรง! เปิดจองแค่ 7 นาที ยอดสั่งทะลุ 10,000 คัน

Xpeng P7 ฮอตแรง! เปิดจองแค่ 7 นาที ยอดสั่งทะลุ 10,000 คัน

【PCauto】XPeng P7 ใหม่ เปิดพรีออเดอร์เพียง 6 นาที 37 วินาที ยอดจองทะลุ 10,000 คัน ทำลายสถิติเดิมของแบรนด์ มาพร้อมดีไซน์ XMART FACE ไฟหน้า-ไฟท้ายแบบ X Shape หลังคาลอย เสา A ซ่อน ขอบประตูไร้กรอบ และสปอยเลอร์ไฟฟ้าสร้างแรงกดสูงสุด 900 นิวตัน ค่าลากอากาศเพียง 0.198Cd ภายในล้ำสมัยด้วยจอ 3 ชุด และ AR-HUD ขนาด 87 นิ้ว คมชัดแม้แดดจ้า

ธนวัฒน์Aug 8, 2025
ดูเพิ่มเติม
  • รถยอดนิยม

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

  • ภาพภายใน

  • รุ่นปีรถยนต์

  • รุ่นรถยนต์