Q

“รถ Mazda 3 ปี 2022 จะมีอายุการใช้งานนานแค่ไหน?”

รถ Mazda 3 รุ่นปี 2022 ถ้าใช้งานปกติและดูแลรักษาตามกำหนด คาดว่าจะวิ่งได้เกิน 200,000 กิโลเมตร และมีอายุการใช้งานประมาณ 10-15 ปี ขึ้นอยู่กับนิสัยการขับ ถนนหนทางและความถี่ในการดูแล เครื่องยนต์และเกียร์ Skyactiv ของรุ่นนี้ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน ส่วนการป้องกันสนิมก็เหมาะกับสภาพอากาศชื้น แต่แนะนำให้ตรวจสอบช่วงล่างและท่อไอเสียเป็นประจำเพื่อป้องกันการกัดกร่อน การใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์เต็มรูปแบบ การเปลี่ยนน้ำมันเกียร์และน้ำหล่อเย็นตามเวลาที่กำหนดเป็นเรื่องสำคัญ แถมยังต้องระวังปัญหาคาร์บอนสะสมจากการจราจรติดขัดในเมือง อาจต้องล้างหัวฉีดบ่อยขึ้นหน่อย เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน ค่าซ่อมบำรุงถือว่าสมเหตุสมผล อะไหล่แท้มีพร้อม แถมมูลค่ารถมือสองก็อยู่ในระดับดีพอใช้ ถ้าจะใช้ยาวๆ แนะนำให้สังเกตุดูปัญหายางเสื่อมสภาพ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อน โช้คอัพ ยางปิดประตู อาจต้องเปลี่ยนก่อนเวลาที่กำหนด สรุปแล้วรถคันนี้เหมาะกับคนที่ชอบความรู้สึกในการขับและคิดจะใช้ระยะยาว แค่ทำตามคู่มือการดูแลรักษา ก็จะได้ประสบการณ์การขับขี่ที่มั่นใจได้
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
รถ MAZDA3 ปี 2022 ต้องการน้ำมันเบนซินเกรดพรีเมียมหรือไม่?
รถ Mazda 3 รุ่นปี 2022 นั้น ทางผู้ผลิตแนะนำให้ใช้เบนซินหมายเลข 91 หรือสูงกว่านั้นเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด แต่ไม่ได้บังคับว่าต้องใช้เบนซินระดับพรีเมียมเสมอไป จะใช้เบนซินธรรมดาหมายเลข 87 ก็ได้ตามปกติ แต่เครื่องยนต์อาจจะตอบสนองได้ไม่เต็มที่และประหยัดน้ำมันน้อยลงเล็กน้อย สาเหตุเป็นเพราะเครื่องยนต์ Skyactiv-G ของ Mazda ออกแบบมาให้มีอัตราส่วนการอัดสูง การใช้เบนซินคุณภาพสูงจะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงการน็อค โดยเฉพาะเวลาอากาศร้อนหรือเมื่อขับทางไกลบ่อยๆ แต่ถ้าใช้รถแค่ในเมืองเป็นหลัก การเติมเบนซินธรรมดาก็ไม่เป็นไร ไม่ทำลายเครื่องยนต์ แค่ถ้าจะขับทางไกลหรืออยากได้ความรู้สึกในการขับที่ดีขึ้น แนะนำให้อัพเกรดเป็นเบนซินคุณภาพสูงจะดีกว่า อย่างไรก็ตาม ต้องระวังเรื่องคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงด้วย เพราะแต่ละปั๊มอาจแตกต่างกัน แนะนำให้เลือกเติมปั๊มใหญ่ที่น่าเชื่อถือ เพื่อป้องกันปัญหาเครื่องยนต์ที่อาจเกิดจากน้ำมันคุณภาพต่ำ เวลานำรถเข้าศูนย์บริการก็ให้ช่างตรวจสอบการสะสมคาร์บอนในเครื่องยนต์ด้วย จะได้ปรับเลือกใช้เบนซินให้เหมาะกับการใช้งานจริงของเรา
Q
อัตราการประหยัดน้ำมันของ Mazda 3 รุ่นปี 2022 คือเท่าไร?
Mazda 3 รุ่นปี 2022 ให้ประสิทธิภาพด้านประหยัดน้ำมันที่ดีมาก โดยข้อมูลจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและระบบขับเคลื่อน สำหรับรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ Skyactiv-G ขนาด 2.0 ลิตร จะสิ้นเปลืองน้ำมันประมาณ 7.8 ลิตร/100 กม. ในเมือง และ 5.6 ลิตร/100 กม. บนทางหลวง ส่วนค่าเฉลี่ยรวมอยู่ที่ประมาณ 6.5 ลิตร/100 กม. ส่วนรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตร จะประหยัดยิ่งกว่า ด้วยอัตราสิ้นเปลืองรวมต่ำถึง 4.5 ลิตร/100 กม. เหมาะมากสำหรับคนที่ขับทางไกลบ่อยหรือเน้นเรื่องประหยัดน้ำมัน เทคโนโลยี Skyactiv ของ Mazda ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันได้อย่างชัดเจน ด้วยการปรับแต่งเครื่องยนต์ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ลดน้ำหนักตัวรถ และปรับเกียร์ให้เหมาะสม โดยยังคงความรู้สึกในการขับที่สนุกเหมือนเดิม สำหรับในเมืองไทยที่การจราจรค่อนข้างติดขัด แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีระบบ i-stop ที่จะช่วยดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อจอดรถไฟแดงหรือหยุดแป๊บๆ ช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกเยอะ Mazda 3 ยังมีโหมดขับขี่ให้เลือกหลายแบบ เช่น โหมดประหยัดหรือโหมดสปอร์ต ให้ปรับใช้ตามถนนและความชอบส่วนตัว เพื่อบาลานซ์ระหว่างสมรรถนะกับความประหยัด ถ้าอยากประหยัดน้ำมันยิ่งกว่านี้ก็อาจมองหารถไฮบริดหรือรถไฟฟ้า แต่ Mazda 3 รุ่นเครื่องยนต์ทั่วไปยังคงมีความเหนือกว่าในด้านการตอบสนองและความสนุกในการขับขี่ เหมาะสำหรับคนที่ชอบความรู้สึกของการขับรถจริงๆ
Q
รถ Mazda 3 รุ่นปี 2022 จำเป็นต้องใช้แก๊สโซฮอล์พรีเมียมหรือไม่?
คู่มือทางการของ Mazda 3 รุ่นปี 2022 แนะนำให้ใช้เชื้อเพลิงที่มีออกเทน 91 ขึ้นไปเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด แต่ไม่ได้บังคับว่าต้องใช้เท่านั้น ถ้าเติมน้ำมันธรรมดาอย่างเบนซิน 91 ลงไปเครื่องยนต์ก็สามารถปรับจังหวะการจุดระเบิดให้เหมาะสมได้ แต่กำลังเครื่องและประหยัดน้ำมันอาจลดลงนิดหน่อย เทคโนโลยี Skyactiv-G ของ Mazda ออกแบบมาให้สมดุลระหว่างประหยัดน้ำมันและกำลังส่ง แก๊สโซฮอล์ออกเทนสูงจะช่วยให้เครื่องยนต์อัตราส่วนอัดสูงทำงานได้เต็มที่ โดยเฉพาะเวลาอากาศร้อนหรือขับขึ้นเขา บรรเทาปัญหาการน็อคของเครื่องยนต์และช่วยให้เครื่องทำงานเรียบขึ้น ถ้าใช้รถแค่ในเมืองและอยากประหยัด ก็เติมน้ำมันธรรมดาได้ไม่มีปัญหา แต่ถ้าต้องขับทางไกลหรืออยากได้สมรรถนะการขับขี่เต็มที่ แนะนำให้เลือกน้ำมันออกเทนสูงไว้ก่อน ข้อควรระวังคือน้ำมันแต่ละปั๊มคุณภาพไม่เหมือนกัน ควรเลือกปั๊มที่ไว้ใจได้ และอย่าลืมเติมน้ำยาทำความสะอาดระบบเชื้อเพลิงตามที่ผู้ผลิตแนะนำเป็นประจำ เพื่อดูแลหัวฉีดและห้องเผาไหม้ ส่วนรถเทอร์โบมักจะอ่อนไหวกับเลขออกเทนมากกว่า แต่ Mazda 3 ปี 2022 ทุกรุ่นเป็นเครื่องยนต์แบบแอทโมสเฟียร์ เลยปรับตัวได้ดีกว่า
Q
เครื่องยนต์อะไรที่อยู่ใน Mazda 3 ปี 2022?
รุ่น Mazda 3 ปี 2022 มาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ Skyactiv-Technology 2 แบบ ให้เลือกตามสไตล์การขับขี่ เครื่องยนต์แรกเป็นแบบ 2.0 ลิตร 4 สูบ แบบดูดธรรมดา (กำลังสูงสุด 155 แรงม้า แรงบิดสูง 200 นิวตันเมตร) ส่วนอีกรุ่นเป็น 2.5 ลิตร 4 สูบ (กำลังสูงสุด 186 แรงม้า แรงบิดสูง 252 นิวตันเมตร) ทั้งคู่ใช้เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และบางรุ่นมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อให้เลือกด้วย เครื่องยนต์ทั้งสองแบบนี้ถูกออกแบบให้มีอัตราส่วนอัดสูง ช่วยประหยัดน้ำมันในเมืองแต่ยังเร่งฉิวเวลาแซง ส่วนใครที่ชอบขับทางไกล แนะนำรุ่น 2.5 ลิตรเลย เพราะแรงกว่านิดนึงเหมาะกับทางหลวง ส่วนรุ่น 2.0 ลิตรก็เพอร์เฟกต์สำหรับขับรถไปทำงานประจำวัน สิ่งที่น่าสนใจคือ Mazda 3 ทุกรุ่นไม่ใช้เทอร์โบ แต่ใช้เทคโนโลยีปรับระบบไอดี-ไอเสียและหัวฉีดน้ำมันให้ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้เวลาเจออากาศร้อนๆ เครื่องยังคงเสถียรและดูแลรักษาไม่ยาก แถมเติมน้ำมันแค่เบนซิน 91 ก็พอแล้ว หาเติมตามปั้มทั่วไปได้สบายๆ ใช้ไปนานๆ ก็ประหยัดค่าเชื้อเพลิงได้ดีเลยทีเดียว
Q
2022 Mazda 3 ผลิตที่ไหน?
รถ Mazda 3 รุ่นปี 2022 ส่วนใหญ่ผลิตที่ประเทศญี่ปุ่น เม็กซิโก และไทย โดยรุ่นที่ขายในไทยบางส่วนถูกประกอบที่โรงงานอาเซียนในจังหวัดชลบุรี โรงงานนี้ทำงานตามมาตรฐานคุณภาพระดับโลกของมาสด้าทุกขั้นตอน เพื่อให้รถยนต์มีคุณภาพเทียบเท่ารุ่นที่ผลิตในญี่ปุ่นเลยทีเดียว เครื่องยนต์สกายแอคทีฟและดีไซน์โคโดะที่มาพร้อมในรุ่นนี้เป็นที่นิยมมากในตลาดไทย เพราะประหยัดน้ำมันและขับเคลื่อนคล่องตัวเหมาะกับสภาพถนนในเมืองเป็นพิเศษ ที่น่าสนใจคือโรงงานอาเซียนแห่งนี้ไม่เพียงแต่ผลิตรถพวงมาลัยขวาเพื่อจำหน่ายในประเทศเท่านั้น แต่ยังส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย แสดงให้เห็นถึงความสามารถด้านการผลิตที่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง สำหรับผู้บริโภคแล้ว การเลือกรถที่ประกอบในประเทศจะได้รถเร็วขึ้นและได้รับบริการหลังการขายที่คุ้มค่ากว่า ในขณะที่รุ่นนำเข้าจะมีตัวเลือกอุปกรณ์สูงให้เลือกมากกว่า แนะนำให้เลือกตามความต้องการจริงๆ ของคุณจะดีที่สุด
Q
รถ Mazda3 ปี 2022 จะมีอายุการใช้งานได้นานแค่ไหน
รถ Mazda 3 รุ่นปี 2022 ในสภาพการใช้งานและการดูแลรักษาปกติ คาดว่าจะวิ่งได้เกิน 2 แสนถึง 3 แสนกิโลเมตร แต่อายุการใช้งานจริงขึ้นอยู่กับนิสัยการขับ ขั้นตอนการดูแลรักษา และปัจจัยสภาพแวดล้อมในพื้นที่ รถรุ่นนี้ใช้เทคโนโลยี Skyactiv ที่ให้ประสิทธิภาพความทนทานของเครื่องยนต์และเกียร์ในระดับดี รวมถึงการป้องกันสนิมตัวถังที่เหมาะกับสภาพอากาศชื้น แนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ และตรวจสอบระบบเบรกอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ นอกจากนี้ในเขตอากาศร้อนควรระวังเรื่องความร้อนที่อาจทำให้แบตเตอรี่และชิ้นส่วนยางเสื่อมสภาพเร็วขึ้น แนะนำให้ตรวจสอบระบบระบายความร้อนและแอร์ทุก 6 เดือน สำหรับเจ้าของที่ต้องการใช้รถยาวนาน การเลือกอะไหล่แท้จากศูนย์และการปฏิบัติตามคู่มือการดูแลรักษาของผู้ผลิตจะช่วยยืดอายุการใช้งานได้มากที่สุด เทคโนโลยี Skyactiv ของ Mazda ไม่เพียงช่วยประหยัดน้ำมัน แต่ยังเพิ่มความทนทานด้วยโครงสร้างตัวถังแข็งแรงพิเศษ ซึ่งเป็นจุดสำคัญสำหรับการใช้งานในเมืองที่การจราจรหนาแน่นหรือการขับบนถนนชนบทผสมกัน
Q
ปัญหาทั่วไปของ Mazda3 ปี 2022 มีอะไรบ้าง?
รถ Mazda 3 รุ่นปี 2022 ในตลาดบ้านเรานั้นถือว่าทนทานพอสมควร แต่ก็มีปัญหาบางจุดที่ควรระวัง เช่น มีเจ้าของรถบางรายรายงานว่าหม้อแบตเตอรี่ 12V อาจเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติในสภาพอากาศร้อนชื้น แนะนำให้ตรวจสอบขั้วแบตเตอรี่เป็นประจำว่ามีการกัดกร่อนหรือไม่ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศแบบร้อนชื้น นอกจากนี้ระบบ idle stop ของเครื่องยนต์ Skyactiv-G อาจเพิ่มภาระให้แบตเตอรี่เมื่อต้องเจอกับการจราจรที่ติดขัดบ่อยๆ สามารถปิดชั่วคราวเพื่อยืดอายุการใช้งานได้ ส่วนระบบมัลติมีเดียอาจมีปัญหาการเชื่อมต่อ CarPlay ไม่เสถียรบ้าง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการอัปเดตระบบให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดก็สามารถแก้ไขได้ แล้วยังมีเรื่องสีรถแบบ Soul Red ที่ถึงจะสวยงามแต่ค่าซ่อมแซมค่อนข้างสูง แนะนำให้ทำประกันสีรถจากศูนย์จะดีกว่า ที่น่าสนใจคือเทคโนโลยี Skyactiv ของรถรุ่นนี้เหมาะมากสำหรับการขับบนเส้นทางขึ้นเขา เนื่องจากเครื่องยนต์อัตราส่วนกำลังอัดสูงช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีแม้ในพื้นที่ภูเขาอย่างเชียงใหม่ และระบบ GVC ยังช่วยเพิ่มความมั่นคงบนถนนลื่นๆ ขอแนะนำให้ใช้ยางที่แนะนำโดยโรงงานเดิมเมื่อขับรถในฤดูฝน การจัดแนวล้อสี่ล้อเป็นประจำสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาการบดเบี่ยงเบนได้
Q
มูลค่าขายต่อของ Mazda 3 ปี 2022 คือเท่าไร?
ในตลาดมือสองท้องถิ่น รถ Mazda 3 รุ่นปี 2022 มีอัตราการรักษามูลค่าค่อนข้างคงที่ โดยขึ้นอยู่กับสภาพรถ ระยะทาง และระดับอุปกรณ์ ส่วนใหญ่จะรักษามูลค่าได้ประมาณ 65%-75% ของราคารถใหม่ โดยเฉพาะรุ่นระดับกลางถึงสูงที่ติดตั้งเครื่องยนต์ Skyactiv-G 2.0L อย่างรุ่น Carbon Edition นั้นเป็นที่นิยมมากกว่า เพราะมีอุปกรณ์มาตรฐานเช่น ไฟ LED พวงมาลัยหนัง ทำให้เวลาขายต่อจะเสียมูลค่าน้อยกว่ารุ่นพื้นฐานประมาณ 5%-8% สีแดง Soul Red Crystal แม้จะต้องจ่ายเพิ่มตอนซื้อรถใหม่ แต่เวลาขายมือสองจะรักษามูลค่าได้มากกว่าสีอื่นประมาณ 3%-5% ปัจจัยสำคัญที่ช่วยรักษามูลค่าคือการมีประวัติการบริการจากตัวแทนจำหน่ายอย่างสม่ำเสมอ และการติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยจากโรงงานเช่น ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจเวลาขายต่อได้มาก เมื่อเทียบกับรถระดับเดียวกัน Mazda 3 ได้รับความนิยมในตลาดมือสองอย่างต่อเนื่องเนื่องจากเทคโนโลยี Skyactiv ที่ช่วยให้ประหยัดน้ำมันและขับเคลื่อนดี แนะนำว่าก่อนขายควรเปรียบเทียบราคาในแพลตฟอร์มขายมือสองชั้นนำ และเตรียมประวัติการซ่อมบำรุงให้ครบถ้วนเพื่อให้ได้ราคาดีที่สุด
Q
Mazda 3 รุ่นปี 2022 ควรใช้น้ำมันชนิดใด
สำหรับ Mazda 3 รุ่นปี 2022 ทางผู้ผลิตแนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องเกรดความหนืด SAE 0W-20 ซึ่งเป็นน้ำมันเครื่องความหนืดต่ำที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันเครื่องยนต์ขณะสตาร์ทเครื่องตอนเย็นและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ดี เหมาะสมเป็นพิเศษกับการขับขี่ในสภาพอากาศร้อนที่มีการสตาร์ทเครื่องบ่อยครั้ง แต่หากรถของคุณมีระยะทางใช้งานเกิน 80,000 กิโลเมตรหรือพบปัญหาน้ำมันเครื่องลดลงเล็กน้อย อาจพิจารณาอัพเกรดไปใช้เกรด 5W-30 เพื่อเพิ่มการป้องกันเครื่องยนต์ในอุณหภูมิสูง แนะนำให้เลือกน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ (ทั้งแบบเต็มสังเคราะห์และกึ่งสังเคราะห์) เนื่องจากทนทานต่อการเกิดออกซิเดชันในอุณหภูมิสูงได้ดีกว่าน้ำมันเครื่องแร่ ควรเลือกน้ำมันเครื่องคุณภาพสูงที่ได้การรับรองมาตรฐาน API SP หรือ ILSAC GF-6 ยี่ห้อที่หาซื้อได้ทั่วไปในประเทศไทยเช่น เชลล์ เฮลิกซ์ อัลตรา มอบบิล 1 หรืออิเดมิตสึ ZEPRO ก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม ระยะเวลาการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องควรอยู่ที่ทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 12 เดือน (แล้วแต่อย่างไหนมาถึงก่อน) แต่หากขับขี่ในสภาพรถติดนานหรือขับแบบอัดอาจลดระยะเหลือ 8,000 กิโลเมตร ควรตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องเป็นประจำและหากพบสัญญาณไฟเตือนสีเหลืองที่หน้าปัดควรรีบเติมน้ำมันเครื่องทันที เมื่อทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ควรเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องแบบเดิมของผู้ผลิตไปพร้อมกันเพื่อประสิทธิภาพการกรองที่ดีที่สุด และไม่ควรผสมน้ำมันเครื่องต่างยี่ห้อกัน หากต้องการเปลี่ยนยี่ห้อควรล้างระบบน้ำมันเครื่องให้สะอาดก่อนเสมอ
Q
รถ Mazda 3 ปี 2022 มีความน่าเชื่อถือไหม?
รถ Mazda 3 รุ่นปี 2022 นี่เรื่องความน่าเชื่อถือถือว่าทำงานได้ดีเลยครับ เครื่องยนต์ Skyactiv-G และระบบเกียร์ Skyactiv-Drive ที่ผ่านการทดสอบจากตลาดมานั้นให้ความมั่นใจได้เรื่องความเสถียร แถมยังเจอปัญหาน้อยเวลาขับขี่ประจำวัน โดยเฉพาะการใช้งานในเมืองหรือเดินทางไกล โครงสร้างตัวรถใช้เหล็กความแข็งแรงสูง เรื่องความปลอดภัยถือว่าอยู่ในระดับดีเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในคลาสเดียวกัน แถมยังออกแบบมาให้ทนต่อสภาพอากาศและความชื้นในไทยได้เป็นอย่างดี ภายในห้องโดยสารทำออกมาได้ละเอียดและครบเครื่อง พร้อมระบบ i-Activsense ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยเวลาขับขี่ แต่อย่างไรก็ตามค่าบำรุงรักษาของมาสด้าจะสูงกว่ารถญี่ปุ่นบางยี่ห้ออยู่หน่อย แต่ถ้าเข้าศูนย์บริการตามกำหนดก็ช่วยให้รถสภาพดีได้ในระยะยาว ส่วนเรื่องค่าซื้อขายต่อนั้น Mazda 3 ในตลาดบ้านเราค่อนข้างทรงตัว ถ้าเป็นรถอายุ 3 ปีจะอยู่ที่ประมาณ 60% ของราคาใหม่ สำหรับคนที่ชอบความสนุกในการขับและต้องการความน่าเชื่อถือด้วย รุ่นนี้นับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แนะนำให้ลองทดลองขับดูก่อนตัดสินใจ เพราะระบบบังคับเลี้ยวที่แม่นยำของมันนี่แหละที่ทำให้การขับขี่สนุกมาก

ข้อดี

ภายในรถมีการตกแต่งที่ดี ด้วยโทนสีดำที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยสปอร์ตหรู คุณภาพของวัสดุภายในรถดี การออกแบบทำให้รถดูหรูหราและขั้นสูง การจัดวางแผงอุปกรณ์สะดวกในการใช้งาน
ที่นั่งสบาย การออกแบบที่นั่งตรงกับร่างกาย รองรับด้านข้างที่ดีสำหรับคนขับและผู้โดยสาร สามารถนั่งนานๆ โดยไม่รู้สึกเหนื่อย และที่นั่งขับสามารถปรับได้ 10 ทิศทางโดยใช้ไฟฟ้า
ฟังก์ชันและคุณสมบัติที่ดี มีจอภาพที่คนขับสามารถดูได้ สามารถแสดงความเร็วในการเร่งและการใช้น้ำมัน มีกล้องทั่วรถที่ติดตั้งอย่างดี
สมรรถนะทางการจับคืนดินเป็นอย่างดี ระบบความแข็งแรงกับที่อยู่ใต้รถดีเยี่ยม สมรรถนะทางการจับคืนดินสูงในระหว่างการเลี้ยวหรือในส่วนที่อยู่ใต้รถที่เดินทาง ขับเคลื่อนไม่อย่างรวดเร็ว การเร่งและหมุนกำลังไม่เปลี่ยนแปลงมากจากรุ่นก่อนหน้านี้ น้ำหนักของรถเพิ่มขึ้น

ข้อเสีย

การปรับเปลี่ยนคุณลักษณะของที่นั่งคนขับและที่นั่งผู้โดยสารไม่ตรงกัน ที่นั่งของคนขับสามารถปรับได้ 10 ทิศทาง แต่ที่นั่งของผู้โดยสารไม่สามารถเติมเต็ม 10 ทิศทาง ฟีเจอร์ที่นั่งไม่ได้ตอบสนองความต้องการอย่างเต็มที่
แต่ฟังก์ชั่นของระบบควบคุมการท่องเที่ยวไม่เพียงพอ แม้ว่าจะสามารถเพิ่มหรือลดความเร็วของรถและตามรถที่อยู่ด้านหน้าผ่านเส้นทางที่กว้าง แต่ไม่มีฟังก์ชั่น Stop-and-go
พื้นที่ภายในรถไม่สะกดกว่าผลิตภัณฑ์ที่แข่งขัน มาสด้ามักมีข้อเสียด้านพื้นที่ที่นั่งด้านหลังในแทบทุกรุ่น แต่รุ่น Mazda 3 Sedan ปี 2019 กว้างขึ้นเล็กน้อยกว่าที่ผ่านมา แต่ยังไม่ตรงกับผลิตภัณฑ์ที่แข่งขัน
ความสบายของชานเส้นไม่ตรงกับผลิตภัณฑ์ที่แข่งขัน เมื่อขับขี่บนถนนที่ไม่ราบหรือถนนที่มีลูกรัง คุณจะรู้สึกถึงการสั่น โดยมีความรู้สึกว่ามีการสั่นสะเทือนจากพื้นผิวที่ยางกระทบ

Q&A ล่าสุด

Q
รุ่นไหนของ Hyundai ที่ถูกเรียกคืนในปี 2024?
ในปี 2024 Hyundai ได้เรียกคืนรถบางรุ่นในบางตลาดเนื่องจากปัญหาเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ระบบควบคุมความมั่นคงของรถหรือ ESC ซึ่งรวมถึงรถรุ่น Tucson รุ่นใหม่และ Kona Electric สาเหตุหลักเพราะซอฟต์แวร์อาจส่งผลต่อการทำงานของระบบควบคุมความมั่นคง Hyundai ได้จัดบริการอัปเกรดซอฟต์แวร์ฟรีผ่านตัวแทนจำหน่ายสำหรับรถที่ได้รับผลกระทบแล้ว เรื่องที่น่าสนใจคือการเรียกคืนรถไฟฟ้าในท้องถิ่นนั้นค่อนข้างหายาก ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มของอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกที่เพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมความปลอดภัยของรถไฟฟ้า แนะนำให้เจ้าของรถตรวจสอบสถานะรถอย่างสม่ำเสมอผ่านเว็บไซต์ทางการของฮุนไดหรือแอป MyHyundai หากหมายเลข VIN อยู่ในรายการเรียกคืน ควรนัดหมายเพื่อดำเนินการทันที สำหรับเจ้าของรถไฮบริดแม้ว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับการเรียกคืนครั้งนี้ แต่ก็ควรดูแลแบตเตอรี่ 12V เสริมเป็นพิเศษ เพราะสภาพอากาศร้อนชื้นอาจเร่งให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น Hyundai ในท้องถิ่นมีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครบวงจร โดยตัวแทนจำหน่ายส่วนใหญ่มีอุปกรณ์วินิจฉัยที่ได้มาตรฐาน UNECE R155 สามารถทำงานเรียกคืนซอฟต์แวร์ดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 30 นาทีเท่านั้น ผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องกังวลมากเกินไป การเรียกคืนซอฟต์แวร์ดังกล่าวเป็นมาตรการป้องกันล่วงหน้า Hyundai ในระยะหลังนี้ให้ความสำคัญกับการเรียกคืนเชิงรุกเป็นอย่างดี ในปี 2023 ความเร็วในการตอบสนองการเรียกคืนทั่วโลกของฮุนไดถูกจัดโดย J.D. Power ให้อยู่ในอันดับ Top 5 ของอุตสาหกรรม สะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยของแบรนด์นี้
Q
BMW X7 รุ่นปี 2023 ราคาเท่าไหร่?
รุ่น 2023 ของ BMW X7 ที่ไทยเริ่มต้นราคาประมาณ 5.5 ล้านบาท แต่ราคาอาจสูงขึ้นตามอุปกรณ์เสริมที่เลือก เช่น รุ่น xDrive40i ใช้เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 6 สูบเทอร์โบ ส่วนรุ่น M60i ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 4.4 ลิตร V8 และรุ่นท็อปสุดอาจพุ่งเกิน 8 ล้านบาท SUV หรูขนาดใหญ่คันนี้มาพร้อมระบบช่วงล่างปรับอัตโนมัติและหน้าจอคู่ขนาด 12.3 นิ้วแบบมาตรฐาน ส่วนอุปกรณ์เสริมที่เลือกได้มีทั้งระบบความบันเทิงแถวหลัง ชุดตกแต่งคริสตัล และชุดช่วยขับขี่อัจฉริยะรวมถึงระบบจอดรถอัตโนมัติ ควรทราบว่าราคาสุดท้ายอาจเพิ่มขึ้นจากภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต นอกจากนี้ตัวแทนจำหน่าย BMW มักเสนอประกัน 5 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่าง Mercedes-Benz GLS ที่เริ่มต้นประมาณ 5.2 ล้านบาท และ Lexus LX ที่เริ่มต้น 6.8 ล้านบาท ลูกค้าสามารถเลือกได้ตามความต้องการด้านสมรรถนะ เครื่องยนต์ และความชอบในแบรนด์ บางทีตัวแทนจำหน่ายอาจมีโปรโมชั่นดอกเบี้ยต่ำสำหรับการซื้อแบบผ่อน ช่วยแวะไปที่โชว์รูมเพื่อสอบถามราคาล่าสุดและข้อเสนอพิเศษได้
Q
รถ BMW X7 ปี 2023 เป็นรถที่ดีไหม?
รถ BMW X7 รุ่นปี 2023 เป็น SUV หรูที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน เหมาะสำหรับคนที่ชอบความหรูหราพร้อมความสบายในการขับขี่ มาพร้อมเครื่องยนต์ 3.0T แถวเรียง 6 สูบ หรือ 4.4T V8 ที่ให้กำลังสมบูรณ์แบบและลื่นไหล คู่กับเกียร์ออโต้ 8 สปีด ทำให้ขับทั้งในเมืองหรือท่องเที่ยวทางไกลได้อย่างมั่นใจ ภายในตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูง พร้อมหน้าจอคู่ขนาด 12.3 นิ้ว ที่ดูทันสมัย และยังมีพื้นที่เบาะแถวที่สามที่กว้างขวางกว่าเพื่อนๆ ในระดับเดียวกัน เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ สำหรับการใช้งานในไทย ระบบช่วงล่างของ X7 ถูกตั้งค่ามาให้ทั้งนุ่มนวลและควบคุมง่าย เข้าโค้งเนียน รับมือกับทุกสภาพถนนได้ดี แถมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ที่มาพร้อมทุกรุ่นยังช่วยเพิ่มความมั่นใจเวลาฝนตกถนนลื่นอีกด้วย ที่สำคัญ เซอร์วิสหลังการขายของ BMW ในไทยครอบคลุมทั่วประเทศ หาซ่อมบำรุงง่าย ถ้ามีงบประมาณเพียงพอและกำลังมองหา SUV 7 ที่นั่งที่ทั้งหรูและใช้งานได้จริง X7 รุ่นปี 2023 นี่แหละที่น่าจับตา แต่แนะนำให้ลองขับดูก่อนนะว่าจะถูกใจหรือเปล่า
Q
"เครื่องยนต์ของ BMW X7 2023 มีระยะการเคลื่อนที่เท่าไร"
รุ่น BMW X7 ปี 2023 ที่วางขายในตลาดประเทศไทยมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์เบนซิน 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 6 สูบเรียงเทอร์โบชาร์จ (รหัส B58B30) และเครื่องยนต์ 4.4 ลิตร V8 เทอร์โบคู่ (รหัส N63B44) ซึ่งมีความจุกระบอกสูบอยู่ที่ 2,998 ซีซี และ 4,395 ซีซี ตามลำดับ สำหรับรุ่น 6 สูบให้กำลังสูงสุดที่ 340 แรงม้า ส่วนรุ่น V8 จะพุ่งไปถึง 530 แรงม้า ทั้งคู่ใช้เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ที่ตอบโจทย์ทั้งการขับขี่ในเมืองและการเดินทางไกล ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่าง TwinPower Turbo และระบบ Valvetronic ที่ช่วยปรับวาล์วแปรผัน ทำให้เครื่องยนต์ทรงพลังแต่ยังประหยัดน้ำมันได้ในระดับน่าพอใจ อย่างไรก็ตาม เครื่องยนต์ขนาดใหญ่แบบนี้ย่อมต้องเจอกับภาษีสูงในไทย แต่จุดเด่นคือความนุ่มลื่นและแรงบิดสูงที่รอบต่ำ เหมาะสมกับสภาพถนนหลากหลายแบบทั้งในเมืองที่รถติดหรือทางขึ้นเขานอกเมือง ถ้าเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่าง Mercedes-Benz GLS และ Lexus LX ที่ก็มีเครื่องยนต์ความจุใกล้เคียงกัน ผู้ซื้อสามารถเลือกได้ตามความชอบของแบรนด์และสเปคที่ต้องการ
Q
รถยนต์ BMW รุ่นที่ขายดีที่สุดในปี 2023 คือรุ่นใด?
รถ BMW X3 เป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดของ BMW ทั่วโลกในปี 2023 ด้วยความสามารถรอบด้านและอุปกรณ์หรูหราที่ยังคงเป็นที่นิยม โดยเฉพาะในกลุ่มครอบครัวในเมือง ส่วนรุ่นปลั๊กอินไฮบริด X3 xDrive30e ก็เริ่มมาแรงเพราะช่วยประหยัดน้ำมันได้ดี ในตลาดไทย X3 ก็ทำผลงานโดดเด่นไม่แพ้กัน โครงสร้างภายในกว้างขวางเหมาะสำหรับครอบครัว ส่วนเครื่องยนต์เทอร์โบ 2.0L ก็ประหยัดน้ำมันแม้เจอรถติด แถมยังมีเครือข่ายบริการหลังการขายครอบคลุมในกรุงเทพฯและเมืองใหญ่ๆ ที่น่าสนใจคือรุ่น iX3 แบบไฟฟ้าล้วนที่ BMW ปล่อยออกมาเมื่อไม่นานนี้ เริ่มดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ด้วยระยะทางสูงสุด 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง พร้อมระบบชาร์จเร็วที่สะดวกยิ่งขึ้น เมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกัน ข้อได้เปรียบของ X3 คือยังคงรักษาความสนุกในการขับขี่แบบฉบับ BMW ไว้ได้ ขณะเดียวกันก็เพิ่มระยะฐานล้อเพื่อความสบายของผู้โดยสารเบาะหลัง แนวคิดที่ผสมผสานระหว่างความมันส์และประโยชน์ใช้สอยนี้แหละที่เป็นเหตุผลให้ X3 ขายดีต่อเนื่อง
ดูเพิ่มเติม