Q

ปริมาณน้ำมันเกียร์ของ Honda City คือกี่ลิตร

ปริมาณน้ำมันเกียร์ของ Honda City จะแตกต่างกันไปตามรุ่นและประเภทของเกียร์ โดยทั่วไปเกียร์ธรรมดา (MT) จะใช้น้ำมันเกียร์ประมาณ 1.9-2.2 ลิตร ส่วนเกียร์ CVT จะต้องการประมาณ 3.5-4 ลิตร แนะนำให้ตรวจสอบคู่มือผู้ใช้รถหรือปรึกษาตัวแทนจำหน่าย Honda เพื่อข้อมูลที่ถูกต้องที่สุด ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย น้ำมันเกียร์มีแนวโน้มจะเสื่อมสภาพเร็วขึ้นเนื่องจากความร้อน ดังนั้นควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามระยะเวลาที่กำหนดในคู่มือการดูแลรักษา (ปกติคือทุก 40,000 กิโลเมตรหรือทุก 2 ปี) และควรใช้น้ำมันเกียร์ที่ฮอนด้าแนะนำเท่านั้น เช่น Honda CVT Fluid สำหรับเกียร์ CVT หรือน้ำมันเกียร์ธรรมดาที่เหมาะสม เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด ต้องไม่ลืมว่าน้ำมันเกียร์ไม่ได้มีหน้าที่เพียงหล่อลื่น แต่ยังช่วยระบายความร้อน ทำความสะอาด และเป็นส่วนสำคัญในระบบไฮดรอลิกของเกียร์ หากน้ำมันเกียร์มีปริมาณไม่เพียงพอหรือเสื่อมสภาพ อาจทำให้เกิดอาการเกียร์กระตุก เกียร์ร้อนเกินไป และในกรณีร้ายแรงอาจทำลายชิ้นส่วนภายในเกียร์ได้ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีทั้งเส้นทางภูเขาและการจราจรติดขัดบ่อยครั้ง ควรตรวจสอบระดับและสภาพน้ำมันเกียร์เป็นประจำเพื่อป้องกันปัญหาเหล่านี้
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
Honda City มี CarPlay ไหม?
รุ่นล่าสุดของ Honda City ในตลาดไทยตอนนี้ มีฟีเจอร์ Apple CarPlay มาให้ใช้กันแล้ว ทำให้ผู้ขับขี่สามารถใช้งานแอปพลิเคชันบน iPhone อย่างเช่น แผนที่การนำทาง เพลง หรือแอปติดต่อสื่อสารต่างๆ ผ่านหน้าจอในรถได้สะดวกขึ้น ช่วยอัพเกรดประสบการณ์การขับขี่โดยเฉพาะในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรค่อนข้างติดขัด ฟังก์ชันนำทางแบบเรียลไทม์ของ CarPlay ถือว่ามีประโยชน์มากๆ อย่างไรก็ตาม ต้องระวังนิดนึงว่า CarPlay อาจจะไม่ได้มีในทุกรุ่นหรือทุกปีผลิตนะครับ แนะนำให้สอบถามรายละเอียดกับทางโชว์รูมอีกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อ นอกจาก CarPlay แล้ว Honda City ยังรองรับ Android Auto สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนระบบ Android ด้วยนะ ถือว่าให้ประสบการณ์การเชื่อมต่อที่คล้ายกัน ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เทคโนโลยีการเชื่อมต่อในรถกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่คนไทยให้ความสำคัญเวลาซื้อรถ ยี่ห้อต่างๆ จึงพยายามอัพเกรดฟีเจอร์ส่วนนี้เพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านความสะดวกและความอัจฉริยะของผู้บริโภค Honda City ในฐานะรถซีดานคอมแพคต์ยอดนิยมของตลาดไทย การที่ Honda คอยอัปเดตฟีเจอร์เทคโนโลยีแบบนี้ ก็แสดงให้เห็นว่าฮอนด้าให้ความสำคัญกับความต้องการของคนไทยจริงๆ ครับ
Q
วิธีสตาร์ทรถ Honda City ด้วยกุญแจ
ก่อนจะสตาร์ทรถ Honda City ต้องแน่ใจว่าเกียร์อยู่ตำแหน่ง P แล้ว จากนั้นใส่กุญแจเข้าไปในช่องสตาร์ท เหยียบแป้นเบรกสำหรับเกียร์ออโต้ หรือแป้นคลัทช์สำหรับเกียร์ธรรมดา แล้วบิดกุญแจตามเข็มนาฬิกาไปที่ตำแหน่ง "START" พอเครื่องยนต์ติดก็ปล่อยกุญแจได้เลย ในสภาพอากาศร้อนของไทย แนะนำให้วอร์มเครื่องสัก 30 วินาทีให้น้ำมันเครื่องไหลเวียนก่อนออกรถ จะช่วยถนอมเครื่องดีครับ ถ้าเป็นรุ่นที่ใช้สมาร์ทคีย์ แค่ถือกุญแจเข้าไปในรถ แล้วเหยียบเบรกกดปุ่มสตาร์ทเครื่องก็ได้แล้ว ใส่ใจกับการตรวจสอบระดับแบตเตอรี่ที่สำคัญอย่างสม่ำเสมอในการใช้งานประจำวันเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในการเริ่มต้นเนื่องจากไฟฟ้าต่ำ ในฤดูฝนของประเทศไทย หากพบระบบจุดระเบิดที่ชื้นและไม่สามารถสตาร์ทได้ คุณสามารถลองใช้ฟังก์ชั่นกุญแจรีโมทเพื่อปลดล็อก/ล็อกประตูหลายครั้งก่อนเพื่อให้ระบบจดจําสัญญาณใหม่ นอกจากนี้ยังแนะนำให้ตรวจสอบหน้าสัมผัสสวิตช์จุดระเบิดทุก 2 ปีสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงเช่นกรุงเทพมหานครมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดการเกิดออกซิเดชันของหน้าสัมผัสส่งผลกระทบต่อความไวในการเริ่มต้น
Q
ยางรถยนต์สำหรับ Honda City รุ่นปี 2021 มีขนาดเท่าไหร่?
ยางมาตรฐานของ Honda City รุ่นปี 2021 ในตลาดไทยมีขนาด 185/55 R16 ซึ่งเป็นขนาดที่ตอบโจทย์ทั้งความนุ่มสบายและความคล่องตัว เหมาะสมกับสภาพถนนทั้งในเมืองและชานเมืองของไทย โดยตัวเลข 185 หมายถึงความกว้างของยางมีหน่วยเป็นมิลลิเมตร ส่วน 55 คืออัตราส่วนความสูงของแก้มยางต่อความกว้างยาง (ร้อยละ 55) และ R16 หมายถึงล้อแม็กซ์ขนาด 16 นิ้ว สำหรับสภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก แนะนำให้เลือกยางแบรนด์ดังอย่างบริจสโตนหรือมิชลินที่มีคุณสมบัติการรีดน้ำดีและทนความร้อนสูง ซึ่งทั้งสองแบรนด์มีรุ่นที่เหมาะกับซิตี้โดยเฉพาะ ข้อควรระวังคือแม้การอัพเกรดไปใช้ยางที่กว้างขึ้นจะช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะแต่ก็อาจทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้นและอาจส่งผลต่อความแม่นยำของมาตรวัดระยะทาง ดังนั้นควรปรึกษาช่างผู้ชำนาญก่อนตัดสินใจเปลี่ยน นอกจากนี้กฎหมายไทยกำหนดให้ดอกยางต้องมีความลึกไม่ต่ำกว่า 1.6 มม. และควรตรวจสอบสภาพดอกยางกับความดันลมยางเป็นประจำ (ปกติลมยางหน้าอยู่ที่ 32 psi ลมยางหลัง 30 psi) โดยเฉพาะก่อนเดินทางไกลหรือช่วงเข้าหน้าฝนเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
Q
Honda City 2021 ประหยัดน้ำมันหรือไม่?
รถ Honda City รุ่นปี 2021 ถือว่าประหยัดน้ำมันมากๆ โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในเมืองไทยและการขับขี่ระยะไกล รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร i-VTEC แบบ CVT นั้นวิ่งได้เฉลี่ย 17-18 กิโลเมตรต่อลิตร ส่วนรุ่นไฮบริด e:HEV นั้นยิ่งประหยัดขึ้นไปอีก ทำได้ถึง 27-28 กิโลเมตรต่อลิตร ช่วยลดค่าน้ำมันได้อย่างชัดเจน รถรุ่นนี้ขายดีในไทยไม่ใช่แค่เพราะความประหยัด แต่ยังเพราะขนาดตัวรถที่กำลังดี ขับลุยในซอยแคบๆ ในกรุงเทพหรือจอดก็ง่าย แถมความทนทานของ Honda ก็ผ่านการทดสอบในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยมานานแล้ว ที่สำคัญอย่าลืมว่าตัวเลขประหยัดน้ำมันที่ทางบริษัทประกาศอาจแตกต่างจากการใช้งานจริง ซึ่งขึ้นอยู่กับสไตล์การขับ การเปิดแอร์ และสภาพถนนด้วย แนะนำให้คนไทยหมั่นดูแลรถตามกำหนดและขับขี่อย่างนุ่มนวลเพื่อรักษาประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน ส่วนเรื่องบริการหลังการขายก็ไม่ต้องห่วง เพราะ Honda มีเครือข่ายบริการครอบคลุมทั่วไทย พร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างมืออาชีพ
Q
คะแนนความปลอดภัยของ Honda City 2021 คือเท่าไหร่?
รถ Honda City รุ่นปี 2021 ในตลาดไทยทำคะแนนด้านความปลอดภัยได้ดีมาก โดยเวอร์ชันผลิตไทยผ่านการทดสอบชนจากอาเซียน NCAP และได้คะแนนเต็ม 5 ดาว ส่วนหนึ่งมาจากระบบ Honda SENSING ที่มาพร้อมฟีเจอร์ช่วยเหลือผู้ขับขี่อย่างระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติและระบบช่วยรักษาระยะเลนรถ รวมถึงถุงลมนิรภัย 6 ใบ ระบบควบคุมเสถียรภาพรถ ที่ออกแบบมาเพื่อรับมือกับสภาพถนนทั้งในเมืองและชนบทของไทยที่ค่อนข้างซับซ้อน ต้องบอกว่ามาตรฐานการทดสอบของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ NCAP นั้นใกล้เคียงกับสภาพการจราจรจริงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีการเพิ่มการประเมินกรณีชนกับรถจักรยานยนต์ซึ่งสำคัญมากสำหรับไทยที่มีรถมอเตอร์ไซค์หนาแน่น เวลาเลือกซื้อรถนอกจากดูเรตติ้งดาวแล้ว ควรพิจารณาว่าฟีเจอร์ปลอดภัยไหนตรงกับความต้องการใช้งาน เช่น ถ้าขับทางไกลบ่อยก็เน้นระบบช่วยเหลือผู้ขับ ขณะที่ขับในเมืองอาจดูผลทดสอบการชนความเร็วต่ำ ส่วนสภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุกก็ส่งผลต่อความปลอดภัย ควรตรวจสอบยางและระบบเบรกเป็นประจำเพื่อให้ระบบความปลอดภัยทำงานได้เต็มประสิทธิภาพตลอดเวลา
Q
เครื่องยนต์ของ Honda City 2021 คืออะไร?
รถยนต์ Honda City รุ่นปี 2021 ที่วางขายในตลาดไทยมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร VTEC Turbo 3 สูบเทอร์โบชาร์จ และเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC 4 สูบแบบอัตโนมัติ รุ่น 1.0T ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า คู่กับเกียร์ CVT ที่เน้นประหยัดน้ำมันสุดๆ ส่วนรุ่น 1.5L ยังคงใช้เทคโนโลยี i-VTEC แบบคลาสสิกของ Honda เหมาะกับคนที่ชอบความลื่นไหลและดูแลง่าย ในสภาพอากาศร้อนๆ และถนนซับซ้อนของไทย เครื่องยนต์ทั้งสองแบบถูกปรับแต่งมาเฉพาะให้การระบายความร้อนและการทนอุณหภูมิสูงทำได้ดีเยี่ยม พร้อมผ่านมาตรฐานไอเสีย Euro 5 ที่เป็นไปตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมไทย ที่น่าสนใจคือเครื่องยนต์ของ Honda City ใช้เทคโนโลยีลดแรงเสียดทาน ช่วยลดการกินน้ำมันได้ชัดเจน โดยเฉพาะเวลาติดรถติดบนถนนไทยที่เจอกันบ่อยๆ แถมยังมีโหมด ECON ช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกขึ้นไป ทำให้รถรุ่นนี้ยังคงความโดดเด่นในตลาดรถเก๋งคอมแพคต์ของไทย เหมาะทั้งขับขี่ในเมืองและใช้เป็นรถครอบครัว
Q
ฮอนด้าซิตี้ 2024 มีความจุซีซีเท่าไหร่
รถฮอนด้าซิตี้รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ 2 แบบ คือเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตรและเครื่องยนต์แบบธรรมดา 1.5 ลิตร โดยเครื่องเทอร์โบ 1.0 ลิตรมีความจุกระบอกสูบ 998 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ส่วนเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรแบบธรรมดามีความจุ 1,498 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า เครื่องยนต์ทั้งสองแบบถูกออกแบบมาให้สมดุลระหว่างประหยัดน้ำมันและสมรรถนะการขับขี่ เหมาะกับทั้งการใช้งานในเมืองและการเดินทางไกลในไทย ฮอนด้าซิตี้เป็นที่นิยมในตลาดไทยเสมอมาด้วยความน่าเชื่อถือ ค่าซ่อมบำรุงไม่แพง และประหยัดน้ำมัน ส่วนรุ่นปี 2024 ยังเพิ่มเทคโนโลยีความปลอดภัย Honda SENSING เข้ามา ทำให้ยิ่งโดดเด่นขึ้น สำหรับลูกค้าชาวไทยที่กำลังตัดสินใจเลือกเครื่องยนต์ แนะนำว่าเครื่องเทอร์โบ 1.0 ลิตรเหมาะกับคนที่เน้นประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในขณะที่เครื่อง 1.5 ลิตรแบบธรรมดาจะให้ความรู้สึกการขับขี่ที่ลื่นไหลมากกว่า ทั้งสองแบบตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้ดีอยู่แล้ว แค่เลือกให้เหมาะกับสไตล์การขับและงบประมาณของคุณก็พอ
Q
คะแนนความปลอดภัยของ Honda City 2024 คืออะไร
รถฮอนด้าซิตี้รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยแสดงผลงานด้านความปลอดภัยได้ดีเยี่ยม ด้วยระบบ Honda SENSING ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นช่วยเหลือผู้ขับขี่อย่างครบครัน ทั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบช่วยรักษาเลน และระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยแบบพาสซีฟที่ครบถ้วน เช่น ถุงลมนิรภัย 6 จุด ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว และระบบเบรก ABS ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้รถรุ่นนี้มีความโดดเด่นในกลุ่มรถระดับเดียวกัน จากการทดสอบตามมาตรฐาน NCAP ของไทย คาดว่ารถรุ่นนี้จะได้คะแนนความปลอดภัยระดับ 5 ดาว เหมาะสมกับสภาพถนนทั้งในเมืองและชนบทของไทยที่หลากหลาย สำหรับผู้บริโภคชาวไทย นอกจากเรื่องความปลอดภัยแล้ว ยังควรพิจารณาค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและค่าประกันรถด้วย เพราะเครือข่ายบริการหลังการขายของฮอนด้าในไทยมีความพร้อมสูง มีอะไหล่ครบครัน ทำให้ค่าใช้จ่ายในการใช้งานระยะยาวค่อนข้างต่ำ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่คนไทยมักคำนึงถึงเมื่อเลือกซื้อรถเช่นกัน
Q
วิธีเปิดส่วนหน้าของรถ Honda Civic 2024
ก่อนจะเปิดฝากระโปรงหน้ารุ่นฮอนด้าซิวิค 2024 สิ่งแรกที่ต้องทำคือนั่งในที่นั่งคนขับ แล้วมองหาคันปลดล็อกฝากระโปรงหน้า ซึ่งจะมีสัญลักษณ์รูปเครื่องยนต์อยู่ด้านล่างซ้ายของพวงมาลัย ดึงคันนี้เบาๆจนได้ยินเสียงฝากระโปรงหน้ายกขึ้น จากนั้นเดินไปที่หน้าตัวรถ ใช้มือสอดเข้าไปในช่องกลางฝากระโปรง แล้วหาล็อกนิรภัยตัวที่สองให้เจอ ให้ดันล็อกนี้ไปทางซ้ายหรือขวาพร้อมกับยกฝากระโปรงขึ้น สำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย แนะนำให้ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นและน้ำมันเบรกในห้องเครื่องเป็นประจำ เพื่อให้รถทำงานได้ปกติ และควรทำความสะอาดห้องเครื่องด้วย ระวังอย่าให้ใบไม้หรือเศษอุดตันท่อระบายน้ำ ถ้าต้องขับในพื้นที่ติดขัดอย่างกรุงเทพฯ บ่อยๆ ควรเช็กด้วยว่าฟิลเตอร์อากาศอุดตันฝุ่นหรือไม่ เพราะจะช่วยรักษาสมรรถนะเครื่องยนต์และประหยัดน้ำมันได้ ส่วนเวลาปลดล็อกฝากระโปรงถ้าได้ยินเสียงเฮียกที่บานพับ ให้ทาจาระบีเล็กน้อย และเนื่องจากอากาศไทยร้อนจัดทำให้ยางซีลเสื่อมสภาพเร็ว ควรตรวจสอบความแน่นของซีลทุกๆครึ่งปี
Q
ความจุของกระโปรงท้ายรถฮอนด้าซิตี้ 2024 คือเท่าไร
รถฮอนด้า ซิตี้ รุ่นปี 2024 ที่วางขายในตลาดไทยมีปริมาตรกระโปรงหลังขนาด 536 ลิตร ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันของครอบครัวหรือการท่องเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์ สามารถบรรจุกระเป๋าเดินทางหลายใบหรือของช้อปปิ้งได้อย่างสบายๆ เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนไทยที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเองหรือช้อปปิ้งบ่อยๆ การออกแบบกระโปรงหลังทำได้อย่างสมเหตุสมผล มีช่องเปิดที่กว้าง ทำให้สะดวกในการลำเลียงสิ่งของ นอกจากนี้เบาะหลังยังสามารถพับลงได้ตามสัดส่วน ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ในสภาพอากาศของไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก กระโปรงหลังของซิตี้ยังมีการป้องกันการรั่วซึมที่ดี ช่วยปกป้องสิ่งของจากความชื้นหรือความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกันแล้ว ปริมาตรกระโปรงหลังขนาดนี้จัดอยู่ในระดับกลางถึงดี และเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่างโตโยต้า ยาริส แอททีฟแล้วยังได้เปรียบอยู่บ้าง สำหรับผู้ใช้งานไทยที่มักต้องพกพาสิ่งของจำนวนมาก พื้นที่กระโปรงหลังของซิตี้ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่值得พิจารณา แนะนำให้ไปทดลองบรรจุของที่ตัวแทนจำหน่ายด้วยตัวเองเพื่อความสะดวก และควรเปรียบเทียบกับการออกแบบกระโปรงหลังของรถรุ่นอื่นๆ ในราคาใกล้เคียงกัน เพื่อเลือกรถที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ดีที่สุด

ข้อดี

พื้นที่ภายในรถกว้างขวางและสบาย
ระบบดีเซลที่มีประสิทธิภาพและเต็มไปด้วยเทคโนโลยี รุ่น RS ยอดนิยมมีชุดสไตล์กีฬารอบคัน RS ซึ่งประกอบด้วยกริดหน้าของรถสีดำและกระจกข้าง กันชนหน้าสไตล์กีฬา ไฟหน้า LED ที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด พร้อมกับไฟวิ่งกลางวันและไฟหมอก LED
ภายในรถเรือนสวยงามและมีอุปกรณ์ครบครัน มีบรรยากาศกีฬาในรถ มีหน้าจอวิทยุชั้นสูงที่สามารถสัมผัสได้ 8 นิ้ว สนับสนุน Apple CarPlay และมีระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT
เครื่องยนต์ที่แข็งแรง DOHC VTEC TURBO ขนาด 1.0 ลิตรแบบ 3 ลูกสูบ 12 วาล์ว ที่ 5500 รอบ/นาทีมีกำลังสูงสุดถึง 122 ม้า ซึ่งเป็นค่าที่สุดในหมวดเดียวกัน

ข้อเสีย

ความสบายและความสะดวกสบายมีข้อจำกัด
ประสิทธิภาพที่ความเร็วต่ำน้อย
ราคาสูงถึง 739000 บาท ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน และคู่แข่งมีระบบที่ไม่เยี่ยมเท่า City
ระบบความปลอดภัยไม่พอ ในด้านความปลอดภัย City แย่กว่าคู่แข่ง รุ่นใหม่ของ City ไม่มีชุด Honda Sensing เท่าที่มีเพียงระบบความปลอดภัยพื้นฐาน

Q&A ล่าสุด

Q
Audi TT ใช้สายพานหรือโซ่?
Audi TT ใช้ระบบไทม์มิ่งเชนแทนที่จะเป็นสายพาน ซึ่งการออกแบบนี้ให้ความทนทานและประหยัดค่าบำรุงรักษามากกว่า โดยปกติแล้วไทม์มิ่งเชนมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าและสามารถใช้งานไปพร้อมกับเครื่องยนต์ได้ตลอดอายุการใช้งาน ลดความยุ่งยากในการเปลี่ยนตามระยะ ซึ่งเหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย เพราะความร้อนและความชื้นสูงอาจเร่งให้สายพานเสื่อมสภาพได้เร็วขึ้น ในตลาดไทย Audi TT เป็นรถสปอร์ตนำเข้าที่ได้รับความนิยม และการออกแบบระบบส่งกำลังแบบเชนยังช่วยลดภาระการดูแลรักษาในระยะยาวให้กับเจ้าของรถ ทำให้ไม่ต้องคอยเปลี่ยนสายพานบ่อยๆ ข้อที่น่าสนใจคือ แม้ว่าระบบเชนอาจจะมีเสียงดังกว่าเล็กน้อย แต่เทคโนโลยีสมัยใหม่ก็ช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้มากแล้ว และระบบเชนยังเหมาะกับความต้องการของเครื่องยนต์สมรรถนะสูงอีกด้วย นี่คือเหตุผลที่แบรนด์หรูหลายแห่งเลือกใช้ระบบเชน สำหรับผู้บริโภคไทย การเลือกรถที่ใช้ระบบเชนหมายถึงประสบการณ์การใช้งานที่สะดวกสบายมากขึ้น โดยเฉพาะในสภาพการจราจรและสภาพอากาศที่ซับซ้อนของไทย ซึ่งลดความเสี่ยงที่เครื่องยนต์จะเสียหายจากการขาดของสายพานได้
Q
ถัดจาก Audi TT ควรเลือกซื้อรถยนต์รุ่นไหนดี?
ถ้าคุณกำลังมองหารถแทน Audi TT ในตลาดไทยมีตัวเลือกที่น่าสนใจหลายรุ่นที่ทั้งให้ความสนุกในการขับขี่และเหมาะกับสภาพถนนรวมถึงไลฟ์สไตล์คนไทย ถ้าชอบคูเป้สปอร์ต BMW Z4 หรือ Mercedes SLC ก็เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะให้ประสบการณ์การขับและความหรูหราใกล้เคียงกัน แถมยังเหมาะกับการขับในเมืองไทยอีกด้วย แต่ถ้าอยากได้รถที่ใช้งานได้หลากหลายกว่า Toyota GR86 หรือ Subaru BRZ ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะสองรุ่นนี้ขายดีในไทย ราคาไม่แรง แถมยังขับสนุกและเหมาะกับคนชอบแต่งรถสุดๆ ส่วนคนที่ชอบรถไฟฟ้า Tesla Model 3 Performance ก็ตอบโจทย์ด้วยสมรรถนะแรงและเทคโนโลยีล้ำๆ แถมสถานีชาร์จในไทยก็เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ตลาดไทยยังนิยมรถปิกอัพและ SUV ถ้าต้องการรถที่ขับทั้งในเมืองและลุยทางวิบากบ้าง Ford Ranger Raptor หรือ Toyota Fortuner ก็ใช้ได้ทั้งงานประจำและงานอดิเรก แนะนำว่าก่อนตัดสินใจควรลองขับทุกรุ่นให้แน่ใจว่าเหมาะกับสไตล์ตัวเอง และอย่าลืมว่าอากาศเมืองไทยร้อนมาก ควรตรวจสอบระบบระบายความร้อนและแอร์ให้ดีเป็นพิเศษเวลาซื้อรถ
Q
เครื่องยนต์ของ Audi TT ใช้งานได้นานแค่ไหน?
อายุการใช้งานของเครื่องยนต์ Audi TT โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 200,000 ถึง 300,000 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับการบำรุงรักษาประจำวันและสภาพแวดล้อมในการใช้งาน สำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย แนะนำให้เจ้าของรถให้ความสำคัญกับการดูแลระบบระบายความร้อนและระบบหล่อลื่นเป็นพิเศษ การเปลี่ยนน้ำหล่อเย็นและน้ำมันเครื่องตามกำหนดเวลาจะช่วยยืดอายุเครื่องยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในเมืองไทยที่การจราจรคับคั่งบ่อยครั้ง เครื่องยนต์มักทำงานที่รอบต่ำเป็นเวลานานซึ่งทำให้เกิดการสะสมของคาร์บอนได้ง่าย แนะนำให้ทำความสะอาดระบบเชื้อเพลิงทุก 20,000 กิโลเมตร สำหรับเจ้าของรถที่ชอบท่องเที่ยวแบบขับรถเอง ขณะขับขี่ในพื้นที่ภูเขาของประเทศไทย ควรระวังไม่ให้เครื่องยนต์ทำงานหนักเป็นเวลานานเกินไป การจอดรถให้เครื่องยนต์เย็นลงบ้างเป็นระยะจะช่วยปกป้องเครื่องยนต์ได้ ข้อสำคัญคือต้องใช้อะไหล่แท้ที่ได้มาตรฐานตามที่ผู้ผลิตกำหนด เพื่อยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ ในตลาดไทยมีแบรนด์น้ำมันเครื่องให้เลือกหลายยี่ห้อ แต่ต้องมั่นใจว่าได้มาตรฐาน VW50200 หรือ 50500 หากพบว่าเครื่องยนต์มีเสียงผิดปกติหรือกำลังลดลง ควรนำรถไปตรวจเช็กที่อู่ซ่อมมืออาชีพทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาเล็กๆ ลุกลามเป็นอาการใหญ่ นอกจากนี้นิสัยการขับขี่ที่ดี เช่น การเร่งเครื่องอย่างนุ่มนวล หลีกเลี่ยงการหมุนรอบสูงขณะเครื่องเย็น ก็จะช่วยเพิ่มความทนทานให้เครื่องยนต์ได้อย่างเห็นได้ชัด
Q
“ราคา Audi TT Roadster อยู่ที่เท่าไหร่?”
ราคาของ Audi TT Roadster ในประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นปี ตัวเลือกอุปกรณ์ และโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่าย โดยราคาประมาณการสำหรับรถใหม่จะอยู่ที่ 3-4 ล้านบาท แต่เพื่อความแน่นอนแนะนำให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเพื่อขอราคาล่าสุดด้วย รุ่นนี้เป็นที่นิยมมากด้วยดีไซน์คันเบอร์เปิดประทุนสุดคลาสสิกและสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จที่ให้ทั้งพลังและความคล่องตัวเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขับบนถนนเลียบชายฝั่งหรือในเมืองของไทย ในตลาดไทยคู่แข่งหลักของ Audi TT Roadster ก็จะมี BMW Z4 และ Mercedes-Benz SLC แต่ด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์และราคาที่คุ้มค่ากว่าทำให้ TT Roadster ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ อีกทั้งสภาพอากาศร้อนๆของไทยก็ทำให้ระบบแอร์และวัสดุผ้าประทุนต้องพิเศษหน่อย ซึ่งรุ่นนี้ตอบโจทย์ได้ดีเลยครับ ทั้งในเรื่องการกันเสียงและกันความร้อน ช่วยให้ขับขี่สบายๆ ส่วนถ้าคิดจะซื้อรถมือสองก็อาจจะเจอราคาที่น่าสนใจขึ้น แต่ต้องเช็คประวัติการบริการและประกันให้ดีๆ ก่อน
Q
จะมี M2 ในปี 2025 หรือไม่?
ขณะนี้ทาง BMW ยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการเปิดตัวรุ่น M2 ปี 2025 แต่จากแนวทางการอัปเดตรุ่นใหม่ของแบรนด์และความนิยมในซีรีส์ M คาดว่า M2 รุ่นปี 2025 น่าจะออกมาอย่างแน่นอน โดยอาจมีการอัปเกรดเล็กน้อยในรายละเอียดการออกแบบ ลูกเล่นของระบบขับเคลื่อน หรือเทคโนโลยีภายในรถ ยกตัวอย่างเช่น ชุดแต่งสปอร์ตที่ดุดันขึ้น หรือเครื่องยนต์ S58 6 สูบตรงที่ได้รับการปรับแต่งให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น สำหรับตลาดไทยซึ่งมีความต้องการรถสปอร์ตคูเป้สมรรถนะสูงอย่างสม่ำเสมอก็มีแนวโน้มว่าจะได้เห็นรุ่นนี้เช่นกัน สำหรับคนไทยที่ชื่นชอบการขับขี่สมรรถนะ M2 ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะมากกับการลัดเลาะเส้นทางคดเคี้ยวอย่างเส้นทางรอบเขาในเชียงใหม่อย่างถนนสายแม่ฮ่องสอน ด้วยขนาดตัวรถที่กะทัดรัดและการควบคุมที่แม่นยำ ทำให้เต็มอิ่มกับความสนุกในการขับขี่ แถมนโยบายภาษีนำเข้ารถยนต์ของไทยยังให้การสนับสนุนรถยนต์ที่มีความจุเครื่องยนต์ไม่เกิน 3.0 ลิตร ซึ่งเป็นจุดแข็งที่ทำให้ M2 น่าสนใจในตลาดไทย ถ้าสนใจอยากได้รถรุ่นนี้ แนะนำให้ติดตามข่าวสารทางเว็บไซต์ BMW ประเทศไทยในช่วงครึ่งปีหลัง และลองเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นในระดับเดียวกันอย่าง Mercedes-AMG A45 S หรือ Audi RS3 อย่างไรก็ตาม รุ่นหลังนี้ใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อซึ่งให้ความรู้สึกมั่นคงกว่า ในขณะที่ M2 ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลังเหมาะสำหรับคนที่ชอบความรู้สึกการควบคุมแบบเน้นๆ สุดท้ายแล้วการเลือกรถควรขึ้นอยู่กับสไตล์การขับขี่และงบประมาณของแต่ละคนด้วย
ดูเพิ่มเติม