Q
รถ Nissan Navara 2024 มีความจุเครื่องยนต์กี่ลิตร?
สำหรับรุ่น Nissan Navara 2024 ที่วางขายในตลาดไทย มีตัวเลือกเครื่องยนต์หลายแบบให้เลือกตามความต้องการ โดยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.5 ลิตร (YD25DDTi) เป็นเวอร์ชั่นที่ได้รับความนิยมสูงสุด ด้วยความจุ 2.5 ลิตร (2,488 ซีซี) ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดหรือเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานบนถนนหลากหลายรูปแบบในไทย ทั้งการขับขี่ในเมืองและการลุยเส้นทางออฟโรดแบบเบาๆ นอกจากนี้ Navara ยังมีเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ 2.3 ลิตร (YS23DDTT) ที่ให้ประสิทธิภาพสูงกว่า โดยมีความจุ 2.3 ลิตร (2,299 ซีซี) แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือแบบเทอร์โบเดี่ยว (190 แรงม้า) และแบบเทอร์โบคู่ (231 แรงม้า) ที่ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไทยที่ต้องการสมดุลระหว่างพลังและความประหยัด เทคโนโลยีเครื่องยนต์ของ Navara ถูกออกแบบมาให้มีแรงบิดสูงที่รอบต่ำ ทำให้การขับขี่ในพื้นที่ภูเขาหรือการบรรทุกของในไทยเป็นเรื่องมั่นใจ แถมยังผ่านมาตรฐานไอเสียล่าสุดของไทยอีกด้วย ส่วนลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าจะใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อหรือ 2 ล้อ รวมถึงออปชัน PRO-4X สำหรับการออฟโรดที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการปรับตัวของยานพาหนะในสภาพอากาศเขตร้อนและสภาพภูมิประเทศที่หลากหลาย
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
เครื่องยนต์ขนาดไหนที่ติดตั้งใน Nissan Navara ปี 2024?
รถยนต์ Nissan Navara รุ่นปี 2024 ในตลาดประเทศไทยมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ดีเซล 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ YD25DDTi ขนาด 2.5 ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ YS23DDTT ขนาด 2.3 ลิตร โดยรุ่น 2.5 ลิตรให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ส่วนรุ่น 2.3 ลิตรมีการปรับระดับกำลังสองแบบ แบบกำลังสูงสุด 231 แรงม้าและแรงบิด 450 นิวตันเมตร ทั้งสองรุ่นสามารถเลือกได้ทั้งเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดหรือเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ซึ่งตอบโจทย์ทั้งสมรรถนะและการประหยัดน้ำมัน เหมาะสมกับการใช้งานในสภาพพื้นที่หลากหลายของประเทศไทย ทั้งการขับขี่ในเมืองและการขนส่งระยะไกล
ในไทย รถปิกอัพดีเซลเป็นที่นิยมมากเพราะความทนทานและแรงบิดสูง โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องขนของหรือลากจูงบ่อยๆ การที่ Navara มีตัวเลือกเครื่องยนต์ที่หลากหลายทำให้เป็นทางเลือกที่น่าเชื่อถือ นอกจากนี้เครือข่ายบริการหลังการขายของ Nissan ในไทยก็ครอบคลุม พร้อมให้การสนับสนุนทางเทคนิคและบริการดูแลรักษาอย่างทันท่วงที จุดแข็งเหล่านี้ทำให้ Navara เป็นหนึ่งในรถปิกอัพที่แข่งขันได้ดีในตลาดไทย
Q
อัตราประหยัดน้ำมันของ Nissan Navara 2024 คือเท่าไหร่?
รถยนต์ Nissan Navara รุ่นปี 2024 ในประเทศไทยมีประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่ค่อนข้างโดดเด่น โดยข้อมูลจำเพาะจะแตกต่างกันไปตามประเภทเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อน สำหรับรุ่นที่ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.5 ลิตร มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 13-14 กิโลเมตรต่อลิตรในสภาพถนนแบบผสม ซึ่งเหมาะกับสภาพถนนหลากหลายแบบของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองหรือการเดินทางไกลก็ยังคงรักษาประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันได้ดี ผู้บริโภคไทยเมื่อเลือกซื้อรถปิกอัพมักให้ความสำคัญกับเรื่องประหยัดน้ำมันและความทนทาน ซึ่ง Navara ถือว่ามีจุดแข็งที่สมดุลในด้านนี้ นอกจากนี้ลักษณะเฉพาะของเครื่องยนต์ดีเซลที่ให้แรงบิดสูงในรอบต่ำยังเหมาะกับการใช้งานบรรทุกของหรือขับเคลื่อนแบบออฟโรดเบาๆ ที่พบได้บ่อยในประเทศไทย ควรระลึกไว้เสมอว่าสภาพถนนและพฤติกรรมการขับขี่ในประเทศไทยสามารถส่งผลต่ออัตราสิ้นเปลืองน้ำมันจริงได้ จึงแนะนำให้เจ้าของรถดูแลรักษารถอย่างสม่ำเสมอและขับขี่อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น หลีกเลี่ยงการเร่งกระชากหรือบรรทุกหนักเกินไป เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้ง Navara ยังมีความสามารถในการแข่งขันด้านประหยัดน้ำมันเมื่อเทียบกับรถปิกอัพในระดับเดียวกัน จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้งานไทยที่ต้องการรถสำหรับทั้งการทำงานและครอบครัว
Q
Nissan Navara ปี 2024 มีเครื่องยนต์อะไร
รถยนต์ Nissan Navara รุ่นปี 2024 ที่วางขายในตลาดไทย ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบชาร์จ ขนาด 2.5 ลิตร รหัส YD25DDTi ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบที่ผ่านการปรับแต่งใหม่ให้มีกำลังสูงสุดถึง 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดหรือเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ทำให้ทั้งสมรรถนะการขับขี่ออฟโรดและประหยัดน้ำมันในชีวิตประจำวัน เครื่องยนต์รุ่นนี้ใช้เทคโนโลยีฉีดเชื้อเพลิงแบบคอมมอนเรลและเทอร์โบชาร์จเจอร์แบบปรับเปลี่ยนรูปทรงได้ของ Nissan ช่วยลดเสียงและแรงสั่นสะเทือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับภูมิประเทศที่เป็นภูเขาและการขนส่งระยะไกลในไทย สำหรับคนไทยแล้ว จุดแข็งของ Navara คือความทนทานและเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุม นอกจากนี้ตัวแทนจำหน่ายยังมีบริการแพ็กเกจดูแลพิเศษสำหรับสภาพอากาศร้อนชื้น เช่น ระบบระบายความร้อนแบบเสริมกำลังและการป้องกันสนิม เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Toyota Hilux และ Mitsubishi Triton ที่มีเครื่องยนต์ดีเซลขนาดใกล้เคียงกัน แต่ Navara ให้แรงบิดในรอบต่ำได้ดีกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องขนของหรือลากจูงบ่อยๆ รุ่นท็อปในตลาดไทยยังมาพร้อมระบบช่วยบนทางลาดชันและล็อกดิฟเฟอเรนเชียลแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใช้งานได้จริงบนถนนลื่นช่วงฤดูฝนหรือในสวนผลไม้และฟาร์ม
Q
"Nissan Navara รุ่น 2024 มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงในระดับใด?"
รถปิคอัพ Nissan Navara รุ่นปี 2024 ให้ประสบการณ์ด้านประหยัดน้ำมันที่น่าประทับใจด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.5 ลิตร คู่กับเกียร์ออโต้ 7 สปีด ตามข้อมูลทางการระบุว่ามีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรวมอยู่ที่ประมาณ 7.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ซึ่งเหมาะกับการใช้งานทั้งในเมืองและบนทางไกลแบบที่คนไทยใช้งานกันจริงๆ โดยเฉพาะสภาพอากาศร้อนๆ และถนนหลากหลายแบบในไทย ระบบระบายความร้อนประสิทธิภาพสูงและการตั้งค่าเครื่องยนต์ยังช่วยรักษาอัตราการกินน้ำมันให้คงที่แม้ในสภาวะเหล่านี้ แถมยังมาพร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่างระบบ Start-Stop ที่ช่วยประหยัดน้ำมันเวลาเจอรถติด ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนไทยเพราะราคานํ้ามันค่อนข้างสูงและปิคอัพมักถูกใช้ทั้งขับทำงานและขนของประจำวัน ถ้าอยากให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น แนะนำให้ดูแลรักษารถตามกำหนดและขับขี่อย่างถูกวิธี เช่น ไม่เร่งกระชากและตรวจสอบลมยางสม่ำเสมอ เทคนิคง่ายๆ แบบนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันได้อีก
Q
เครื่องยนต์ใน Nissan Navara 2024 คืออะไร?
รถกระบะ Nissan Navara รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยมาพร้อมตัวเลือกเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูง 2 แบบ ได้แก่ เครื่องดีเซล YD25DDTi ขนาด 2.5 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบชาร์จ และเครื่องเบนซิน 2.5 ลิตร โดยรุ่นดีเซลให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดพีค 450 นิวตันเมตร มาพร้อมเกียร์ธรรมดา 6 สปีดหรือเกียร์ออโต้ 7 สปีด ที่ทั้งแรงและประหยัดน้ำมัน เหมาะกับพื้นที่ภูเขาและการขนส่งระยะไกลในไทย แถมยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเทคโนโลยีล่าสุดจาก Nissan ที่สามารถรับมือกับถนนลื่นช่วงฝนหรือทางออฟโรดในชนบทได้สบายๆ สิ่งที่คนไทยให้ความสำคัญในรถกระบะคือความทนทานและโอกาสในการแต่ง ซึ่ง Navara ตอบโจทย์ด้วยโครงสร้างแบบแชสซีคานรูปสี่เหลี่ยมคางหมูและความสามารถในการบรรทุกสูงถึง 1 ตัน เหมาะมากสำหรับการทำเกษตรหรือใช้งานเชิงพาณิชย์ ในตลาดคู่แข่งอย่าง Toyota Hilux และ Isuzu D-MAX ก็มีเครื่องดีเซลคล้ายๆ กัน แต่จุดเด่นของ Navara อยู่ที่ระบบช่วงล่างที่เน้นความนุ่มสบายเวลาขับบนถนนทางหลวง เหมาะกับคนที่ต้องวิ่งระหว่างเมืองและชานเมืองเป็นประจำ สำหรับสภาพอากาศร้อนๆ แบบไทย แนะนำให้เปลี่ยนน้ำหล่อเย็นและกรองน้ำมันดีเซลตามกำหนด จะช่วยรักษาสภาพเครื่องยนต์ให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพตลอดเวลา
Q
Navara มีค่าบำรุงรักษาสูงไหม?
สำหรับรถปิคอัพ Nissan Navara ในประเทศไทย ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาจัดอยู่ในระดับกลางๆ ของกลุ่มปิคอัพขนาดกลาง ค่าบำรุงรักษาประจำวันถูกกว่า Toyota Hilux หรือ Isuzu D-MAX นิดหน่อยแต่ไม่ต่างกันมากนัก ส่วนใหญ่เป็นเพราะ Nissan มีเครือข่ายซัพพลายชิ้นส่วนภายในประเทศและศูนย์บริการที่ครอบคลุม การบริการพื้นฐาน (ทุก 10,000 กม. หรือ 6 เดือน) เช่นเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและกรองอากาศ จะเสียเงินประมาณ 2,500-3,500 บาท ส่วนการบริการใหญ่ (40,000 กม.) ที่รวมถึงการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก ฯลฯ จะใช้งบประมาณประมาณ 8,000-12,000 บาท ต้องระวังตรงที่เครื่องยนต์ดีเซลของ Navara ใช้เทคโนโลยีคอมมอนเรล ควรใช้น้ำมันเครื่องที่ได้มาตรฐาน API CJ-4 เพื่อการทำงานที่ยาวนานของเครื่องยนต์ และด้วยสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ควรตรวจสอบระบบแอร์และกันสนิมใต้ท้องรถเป็นประจำ ส่วนใครที่ใช้งานหนักหรือชอบขับออฟโรด แนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันดิฟเฟอเรนเชียลและน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์บ่อยกว่าปกติ โปรแกรมบริการจากศูนย์ Nissan ในไทยช่วยประหยัดได้ 15%-20% และยังมีบริการตรวจเช็คฟรีบ่อยๆ ซึ่งช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายระยะยาวได้ดี เลี่ยงการใช้อะไหล่ไม่ใช่ของแท้เพราะอาจลดอายุการใช้งานและค่าขายต่อ โดยเฉพาะ Navara รุ่นที่มีระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ
Q
รถยนต์ Navara ปี 2024 มีมูลค่าขายต่อดีไหม?
รถมือสอง Nissan Navara รุ่นปี 2024 ในตลาดประเทศไทยยังคงมีอัตราการรักษามูลค่าได้ค่อนข้างดี สาเหตุหลักมาจากความน่าเชื่อถือของแบรนด์ Nissan ในตลาดไทย ความต้องการสูงสำหรับรถปิกอัพ รวมถึงประสิทธิภาพของตัวรถ Navara เอง ประเทศไทยเป็นตลาดใหญ่สำหรับรถปิกอัพ โดย Navara ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องด้วยเครื่องยนต์ดีเซลที่ทนทาน โครงสร้างแข็งแรง และค่าบำรุงรักษาที่ไม่สูง สิ่งเหล่านี้ช่วยยันราคารถมือสองได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้เครือข่ายตัวแทนจำหน่ายของ Nissan ในไทยที่ครอบคลุมและบริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพก็สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค ส่งผลดีต่อมูลค่าของรถมือสองด้วย อย่างไรก็ตามอัตราการรักษามูลค่าจะขึ้นอยู่กับสภาพรถ ระยะทาง เวอร์ชั่นและอุปกรณ์ รวมถึงความต้องการในแต่ละพื้นที่ เจ้าของรถควรดูแลบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอและเก็บเอกสารทั้งหมดไว้เพื่อรักษามูลค่าให้สูงที่สุด ตลาดไทยให้ความสำคัญกับความทนทานและความสามารถในการขนส่งของรถปิกอัพ ซึ่ง Navara ตอบโจทย์ได้ดีกว่าคู่แข่งหลายรุ่น แต่อย่างไรก็ดีก่อนซื้อขายควรตรวจสอบราคาจริงจากแพลตฟอร์มขายรถมือสองหรือรายงานจากผู้ประเมินมืออาชีพในพื้นที่ด้วย
Q
รถยนต์ Nissan Navara มีน้ำหนักเท่าไหร่?
น้ำหนักของ Nissan Navara จะแตกต่างกันไปตามรุ่นและการกำหนดสเปค โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 1,900 ถึง 2,100 กิโลกรัม สำหรับรุ่น Double Cab 4WD ที่นิยมในตลาดไทยจะมีน้ำหนักประมาณ 2,050 กิโลกรัม ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์สภาพถนนและการบรรทุกของไทยโดยเฉพาะ ด้วยโครงสร้างช่วงล่างแข็งแรงและระบบช่วงล่างที่ได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษ นอกจากนี้ Navara ในตลาดไทยยังได้รับการปรับปรุงระบบระบายความร้อนให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้น และมีการป้องกันสนิมสำหรับช่วงฤดูฝน รวมถึงบางรุ่นยังเพิ่มการเคลือบกันรอยที่กระบะหลังเพื่อความทนทาน เวลาเลือกซื้อรถปิกอัพในไทย นอกจากน้ำหนักรถแล้ว ควรดูเรื่องน้ำหนักบรรทุกสูงสุด (GVWR) และการตั้งค่าช่วงล่างด้วย เพราะสภาพถนนในไทยมีทั้งในเมืองและทางลูกรัง ซึ่ง Navara ถือว่าจุดเด่นอยู่ที่การขับขี่ทั้งแบบไม่มีของและมีของบรรทุกจะให้ความรู้สึกไม่แตกต่างกันมาก เหมาะสำหรับคนที่ต้องสลับระหว่างการใช้งานบรรทุกของกับขับแบบทั่วไป ส่วนเรื่องภาษีรถปิกอัพในไทยก็ถือว่ามีนโยบายที่เอื้ออำนวย ทำให้ Navara เป็นที่นิยมในประเทสไทยด้วย
Q
"2024 Nissan Navara มีความปลอดภัยแค่ไหน?"
Nissan โดยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง เช่น ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบแจ้งเตือนเมื่อออกนอกเลน และระบบตรวจสอบจุดบอด ช่วยเพิ่มความปลอดภัยบนถนนไทยทั้งในเมืองและต่างจังหวัดที่การจราจรค่อนข้างซับซ้อน แถมยังติดตั้งถุงลมนิรภัยหลายจุดและโครงสร้างตัวถังแข็งแรง ทดสอบแล้วว่าได้มาตรฐานในเรื่องการชน เหมาะกับสภาพถนนทั้งทางเขาและทางไกลของไทย ที่สำคัญยังออกแบบระบบเบรกและระบายความร้อนให้เหมาะกับอากาศร้อนชื้นของไทย ทำให้มั่นใจได้ว่าจะขับเคลื่อนได้อย่างมั่นคงแม้อุณหภูมิสูง ส่วนคนไทยที่มองหารถปิกอัพนั้น Navara รุ่นนี้ตอบโจทย์ทั้งเรื่องการใช้งานและความปลอดภัย พร้อมขนของได้อย่างคล่องตัวและดูแลความปลอดภัยให้ทุกคนในครอบครัว หากอยากได้ระบบเพิ่มเติมก็มีกล้องรอบคันและระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติให้เลือกติดตั้ง ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยอำนวยความสะดวกทั้งในสภาพการจราจรติดขัดหรือเมื่อต้องขับบนทางหลวง
Q
2024 Navara คือรุ่นอะไร?
รถปิกอัพ Nissan Navara รุ่นปี 2024 เป็นรุ่นล่าสุดที่ทาง Nissan เปิดตัวมา ตอนนี้ในตลาดไทยกำลังเป็นที่พูดถึงมาก เพราะยังคงความแกร่งทนทานแบบฉบับ Navara แบบเดิม แต่ดีไซน์ภายนอกและเทคโนโลยีต่างๆ ได้รับการอัพเกรดให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในไทยได้หลากหลายมากขึ้น ทั้งขับในเมืองหรือทางต่างจังหวัดก็ทำได้สบายๆ รุ่นนี้มาพร้อมตัวเลือกเครื่องยนต์หลายแบบ โดยเฉพาะเครื่องดีเซลประสิทธิภาพสูงที่คนไทยนิยม เพราะประหยัดน้ำมันและแรงบิดสูง เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องขนของหรือลากจูงบ่อยๆ ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบาย พร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์และระบบความปลอดภัยล่าสุด เช่น ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ ที่ช่วยให้ขับขี่ทั้งสะดวกและปลอดภัยขึ้น สำหรับคนไทยแล้วรถปิกอัพไม่ใช่แค่รถใช้งาน แต่ยังเป็นรถครอบครัวด้วย Navara รุ่นนี้จึงตอบโจทย์ทั้งความสบายและประโยชน์ใช้สอยได้อย่างลงตัว ตอนนี้ตลาดปิกอัพในไทยแข่งขันสูง แต่ละแบรนด์ต่างออกรุ่นใหม่ๆ มาค่อนข้างบ่อย ก่อนตัดสินใจซื้อแนะนำให้เปรียบเทียบทั้งสเปคและบริการหลังการขายให้ดี เลือกให้เหมาะกับการใช้งานของตัวเองที่สุด
Q&A ล่าสุด
Q
ปัญหาทั่วไปของรถ Alphard คืออะไร?
รถ Toyota Alphard เป็นรถเอ็มพีวีหรูที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย ปัญหาที่พบมักจะเกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่นความล่าช้าของ Caton หรือภาพย้อนกลับเป็นครั้งคราวบนหน้าจอควบคุมกลาง ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยที่ส่งผลต่อความเสถียรของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แนะนำให้อัปเดตระบบที่ศูนย์บริการอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้บางเจ้าของรถอาจพบว่าประตูสไลด์ไฟฟ้าแถวสองหลังจากใช้งานมานานอาจมีเสียงดังเล็กน้อยจากฝุ่นที่สะสมในราง ซึ่งเป็นเรื่องปกติในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นมากแบบไทย แก้ไขได้ด้วยการทำความสะอาดรางและใช้น้ำมันหล่อลื่นเฉพาะ สำหรับระบบขับเคลื่อน เสียงรบกวนของพัดลมระบายความร้อนของชุดแบตเตอรี่อาจเด่นชัดกว่าในรุ่นไฮบริด 2.5 ลิตรเมื่อเริ่มต้นและหยุดบ่อยครั้งในเขตเมือง ซึ่งเป็นกลไกปกติของการระบายความร้อน Alphard เวอร์ชั่นไทยตอกย้ำระบบปรับอากาศแบบเขตร้อนโดยเฉพาะ แต่ควรเปลี่ยนไส้กรองแอร์ทุก 2 ปีเพื่อประสิทธิภาพการทำความเย็น ส่วนผู้ที่สนใจซื้ออัลฟาร์ดมือสอง แนะนำให้ตรวจสอบยางรองตัวถังเป็นพิเศษเพราะอาจเสื่อมจากความชื้นในฤดูฝนของไทย โดยรวมแล้วปัญหาเหล่านี้เป็นเรื่องปกติจากการใช้งาน แค่ดูแลตามคู่มือและเข้าศูนย์บริการอย่างถูกต้อง อัลฟาร์ดก็ยังคงเป็นรถที่ทนทานและใช้งานได้ดีในประเทศไทย
Q
Toyota Alphard คุ้มค่าจะซื้อหรือไม่
สำหรับรถยนต์ระดับหรูอย่าง Toyota Alphard ในตลาดไทยถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะสำหรับครอบครัวหรือกลุ่มธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายและความหรูหรา จุดเด่นของ Alphard อยู่ที่พื้นที่ภายในรถที่กว้างขวาง วัสดุภายในคุณภาพดี และระบบกันเสียงที่ยอดเยี่ยม ที่นั่งแถวสองแบบการบินสามารถปรับได้หลายทิศทาง ทำให้เดินทางไกลได้อย่างสบายตัว ส่วนระบบขับเคลื่อนมีทั้งแบบ 2.5L Hybrid และ 3.5L V6 ที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องประหยัดน้ำมันและพลังขับเคลื่อนที่เพียงพอ เหมาะกับทั้งสภาพการจราจรในเมืองและบนทางด่วนของไทย นอกจากนี้ Toyota ยังมีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุม และยังเป็นรถที่ทรงมูลค่าสูงเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ต้องระวังเรื่องขนาดตัวรถที่ค่อนข้างกว้าง โดยเฉพาะเมื่อขับในซอยแคบๆหรือจอดในกรุงเทพฯ ส่วนรุ่น Hybrid จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีบางประการในไทย หากเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่าง Honda Elgrand หรือ Mercedes-Benz V-Class แล้ว Alphard ยังคงได้เปรียบในเรื่องการปรับตัวให้เข้ากับตลาดไทยและความสะดวกในการซ่อมบำรุง ถ้ามีงบประมาณเพียงพอและต้องการความสบายพร้อมแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับ Alphard ก็เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัย แนะนำให้ลองขับทดสอบก่อนตัดสินใจซื้อจะดีที่สุด
Q
รถ Alphard รุ่นปี 2023 เป็นรถหรูหรือไม่?
รุ่นปี 2023 ของ Toyota Alphard ในตลาดไทยถือเป็น MPV ระดับหรูที่ตอบโจทย์ผู้ใช้กลุ่มสูงสุด โดยเฉพาะในประเทศร้อนๆ อย่างไทย ที่ความสบายและความประหยัดพื้นที่ถูกใจคนไทยเป็นพิเศษ ภายใน Alphard มีพื้นที่กว้างขวาง พร้อมเบาะหนังหรู ระบบความบันเทิงแถวหลัง กระจกกันเสียง และระบบปรับอากาศอัจฉริยะ ที่ช่วยให้ผู้โดยสารรู้สึกสบายแม้อากาศข้างนอกร้อนจัด แถมยังมาพร้อมระบบไฮบริดที่ช่วยประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเข้ากับเทรนด์รถสีเขียวของตลาดไทย ส่วนระบบความปลอดภัยก็ครบครัน ทั้งระบบเตือนการปะทะ ระบบช่วยควบคุมเลน และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ เหมาะกับทั้งขับขี่ในเมืองและทางไกลของไทย ที่นี่คนไทยนิยมใช้ Alphard ทั้งรับรองลูกค้าระดับสูงและเป็นรถครอบครัว แถมยังเป็นรุ่นที่มูลค่าการขายต่อสูง ถ้าคุณกำลังมองหา MPV ที่ทั้งหรูและใช้งานได้จริง แนะนำให้ลองพิจารณา Alphard 2023 ยิ่งสะท้อนจุดแข็งทางเศรษฐกิจในบริบทราคาน้ำมันไทยที่สูงขึ้น
Q
รถยนต์ที่สวยที่สุดในโลกในปี 2023 คือรุ่นอะไร?
ในวงสนทนาเกี่ยวกับรถที่สวยที่สุดในโลกปี 2023 Ferrari Purosangue ดึงดูดความสนใจด้วยเส้นสายคูเป้ SUV ที่ลื่นไหล พร้อมดีไซน์ภาษาการออกแบบม้าโลดโผนที่เป็นเอกลักษณ์ การผสมผสานระหว่างอากาศพลศาสตร์กับสุนทรียภาพแบบอิตาเลียนมักสร้างความตื่นตาตื่นใจในงานแสดงรถยนต์ระดับไฮเอนด์ที่ไทย นอกจากนี้สีด้านแบบแมทท์ที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนของไทยยังช่วยเพิ่มความหรูหราให้ตัวรถ ส่วนแอสตัน มาร์ติน ดีบี12 ด้วยสัดส่วนตัวรถที่สมบูรณ์แบบและอะลูมิเนียมขัดมือก็ติดโผรถยอดนิยมเช่นกัน โดยรุ่นเปิดประทุนเหมาะเป็นพิเศษสำหรับการขับขี่ริมถนนเลียบชายฝั่งที่ภูเก็ต หากพูดถึงความนิยมตามท้องถิ่น Lexus LC500 กับกรอบหน้ารถทรงกระสวยและไฟท้ายไล่ระดับสีถูกพบเห็นบ่อยในย่านธุรกิจใจกลางกรุงเทพฯ แถมรุ่นไฮบริดยังตอบโจทย์นโยบายรักษ์สิ่งแวดล้อมของไทย ต้องไม่ลืมว่าคนไทยเวลาเลือกรถนอกจากความสวยแล้วยังต้องคำนึงถึงความเหมาะสมกับสภาพอากาศร้อน เช่น ตัวเลือกกระจกเคลือบเซรามิกสำหรับ Bentley Continental GT ที่ช่วยป้องกันรังสียูวีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งรายละเอียดการออกแบบเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้มักเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้รถหรูสามารถแข่งขันในตลาดอาเซียนได้
Q
รถยนต์ที่มียอดขายสูงสุดในโลกปี 2023 คือรุ่นอะไร?
จากข้อมูลยอดขายรถยนต์ทั่วโลกปี 2023 ต้องยอมรับว่า Toyota RAV4 คว้าตำแหน่งรถขายดีที่สุดด้วยความน่าเชื่อถือและประโยชน์ใช้สอยที่ครบครัน รุ่น SUV คอมแพคต์คันนี้โด่งดังไปทั่วโลก แม้แต่ในไทยก็มีแฟนคลับไม่น้อย ด้วยจุดเด่นเรื่องประหยัดน้ำมันและทนทาน เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนชื้นและถนนหนทางที่หลากหลายของไทย พูดถึงตลาดไทยโดยเฉพาะแล้ว ปี 2023 รถขายดีอันดับหนึ่งคือ Toyota Hilux แท็กซี่ตัวเก่งที่ความสามารถในการบรรทุกและลุยทุก terrain ทำเอาเกษตรกรและพ่อค้าแม่ขายไทยติดใจจนถอนตัวไม่ขึ้น สะท้อนความนิยมรถใช้งานจริงในตลาดไทย ส่วนอนาคตเมื่อเทรนด์ EV เริ่มมาแรง รัฐบาลไทยก็ออกมาตรการส่งเสริมการซื้อรถไฟฟ้าเต็มที่ คาดว่าอีกไม่กี่ปีตลาดรถไทยจะมีตัวเลือก EV เพิ่มขึ้น เวลาเลือกซื้อรถนอกจากเรื่องประหยัดน้ำมันและค่าบำรุงแล้ว ควรดูความต้องการส่วนตัวด้วย โดยเฉพาะระบบแอร์และกันสนิมต้องเอาอยู่ สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยที่ผู้บริโภคในพื้นที่ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษในการเลือกซื้อรถ
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

NISSANเปิดตัว Navara Calibre SL Series ราคาเริ่มต้น 758,000 บาท
Kevin WongJul 10, 2025

Nissan ตั้งใจที่จะเปิดแพลตฟอร์มไฮบริดของ Rogue ให้กับคู่แข่งอย่าง Ford เป็นต้น เพื่อบรรเทาความกดดันทางการเงิน
Kevin WongOct 11, 2025

Nissan Leaf รุ่นใหม่เจเนอเรชัน 3 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ – วิ่งได้ไกลกว่า 600 กม.
ณัฐวุฒิOct 10, 2025

ประกาศเปิดตัว ProPILOT รุ่นถัดไป ที่อนุญาตให้ผู้ขับขี่ขับแบบไม่ต้องใช้มือบนถนนในเมือง
วิรุฬห์Sep 23, 2025

Nissanยืนยันว่าZ NISMOจะมีเวอร์ชั่นเกียร์ธรรมดา
สุรเดชSep 1, 2025
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย