Q

Honda Fit มีกี่รุ่น?

ปัจจุบัน Honda Fit ในตลาดไทยมีทั้งหมด 4 รุ่นหลักให้เลือก คือ 1.5 S CVT 1.5 V CVT 1.5 RS CVT และรุ่น e:HEV RS แบบไฮบริด โดย 3 รุ่นแรกใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แบบปกติ ส่วนรุ่น e:HEV RS นั้นมาพร้อมระบบไฮบริดเทคโนโลยีล่าสุดจากฮอนด้าที่ช่วยประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น สำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย Fit ทุกรุ่นติดตั้งระบบแอร์และกระจกกันยูวีมาตรฐานซึ่งใช้งานได้ดีมาก โดยเฉพาะรุ่น e:HEV ที่ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันในสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ได้ชัดเจน ต้องบอกว่า Fit ผลิตในประเทศไทยเลยทำให้หาอะไหล่และบริการหลังการขายสะดวก แถมการออกแบบภายในที่ยืดหยุ่นและความทนทานยังเป็นที่นิยมในหมู่ครอบครัววัยรุ่นไทยอีกด้วย หลังจากที่อัพเดตเล็กน้อยในปี 2023 ฟิตยังเพิ่มระบบ Honda SENSING สำหรับความปลอดภัย เช่น ระบบช่วยเบรกเมื่ออาจเกิดการชนและระบบช่วยควบคุมเลน ทำให้คุ้มค่าเงินยิ่งขึ้น
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
  • รถยอดนิยม

  • รุ่นปีรถยนต์

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

Q&A ล่าสุด

Q
CX-5 รุ่น Sport และ Touring ปี 2021 มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง?
รุ่น 2021 CX-5 Sport กับ Touring ต่างกันที่อุปกรณ์และความสะดวกสบายครับ Sport เป็นรุ่นเริ่มต้น มีล้อ 17 นิ้ว เก้าอี้ผ้า แอร์มือปรับ และระบบเสียงพื้นฐาน ส่วน Touring อัพเกรดมาด้วยล้อ 19 นิ้ว เก้าอี้หนัง แอร์อัตโนมัติ 2 โซน หลังคากระจกเปิดไฟฟ้า และระบบเสียง Bose แถมยังมีฟังก์ชันความปลอดภัยเพิ่มเติม เช่น เตือนจุดบอด เตือนรถตัดหลัง ทั้งสองรุ่นใช้เครื่องยนต์ 2.5 ลิตรแบบดูดธรรมดา คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แต่ Touring จะเหนือกว่าในเรื่องระบบช่วยขับขี่และวัสดุภายในครับ สำหรับคนที่ขับทางไกลบ่อยหรือเน้นความสะดวกสบาย Touring น่าจะตอบโจทย์กว่า เช่น แอร์ 2 โซนช่วยให้สบายขึ้นในวันที่อากาศร้อน ส่วนระบบเสียง Bose ก็เพิ่มความบันเทิง แต่ถ้าเน้นงบประมาณและใช้ฟังก์ชันพื้นฐานก็พอ Sport จะคุ้มค่ากว่า แนะนำให้ลองขับเปรียบเทียบโดยเฉพาะเรื่องการรองรับของเบาะและความเงียบภายในรถ เพราะรายละเอียดพวกนี้มีผลต่อความสบายเวลาเจอรถติดหรือขับบนทางด่วนครับ
Q
เครื่องยนต์อะไรอยู่ใน Mazda CX-5 ปี 2021?
Mazda CX-5 ปี 2021 นำเสนอเครื่องยนต์เบนซิน SkyActiv สองแบบให้เลือกในตลาดท้องถิ่น ได้แก่ เครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร และ 2.5 ลิตร แบบไม่มีระบบอัดอากาศ ให้กำลัง 165 แรงม้า และ 194 แรงม้า ตามลำดับ จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เครื่องยนต์เหล่านี้ขึ้นชื่อเรื่องการส่งกำลังที่ราบรื่นและประหยัดน้ำมัน ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่ในเมืองที่มีการจราจรติดขัดและการเดินทางไกล ที่สำคัญ เทคโนโลยี SkyActiv สร้างสมดุลระหว่างกำลังและประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันผ่านอัตราส่วนการอัดสูงและการเผาไหม้ที่เหมาะสม ในขณะที่การออกแบบที่น้ำหนักเบาช่วยเพิ่มการตอบสนองในการควบคุม ไม่มีรุ่นดีเซลให้เลือก แต่รุ่นเบนซินก็เพียงพอต่อความต้องการในการขับขี่ประจำวัน และค่าบำรุงรักษาก็ค่อนข้างสมเหตุสมผล ในขณะที่คู่แข่งในระดับเดียวกัน เช่น Honda CR-V หรือ Toyota RAV4 ส่วนใหญ่ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จหรือไฮบริด แต่ CX-5 เลือกใช้เครื่องยนต์แบบไม่มีระบบอัดอากาศและการปรับแต่งเกียร์ที่ราบรื่น ทำให้เหมาะสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการประสบการณ์การขับขี่ที่ประณีตกว่าและไวต่ออาการหน่วงของเทอร์โบ ปัจจุบันเครือข่ายบริการหลังการขายของมาสด้าครอบคลุมเมืองใหญ่ๆ หลายแห่ง และมีอะไหล่พร้อมใช้งาน แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องที่ผู้ผลิตแนะนำเป็นประจำเพื่อรักษาประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ให้อยู่ในระดับสูงสุด
Q
สิ่งที่แตกต่างระหว่าง Mazda CX-5 รุ่นปี 2021 และ 2022 คืออะไร?
ความแตกต่างหลักระหว่าง Mazda CX-5 รุ่นปี 2021 และ 2022 อยู่ที่ฟีเจอร์ที่ได้รับการอัพเกรดและการปรับแต่งเล็กน้อย แม้จะยังคงใช้เครื่องยนต์เดิม (เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร/2.5 ลิตร แบบไม่มีระบบอัดอากาศ) แต่รุ่นปี 2022 เพิ่มฟีเจอร์ที่ใช้งานได้จริง เช่น ระบบชาร์จไร้สายและพอร์ต USB-C ในรุ่นสเปคสูงบางรุ่น นอกจากนี้ยังปรับปรุงวัสดุฉนวนกันเสียงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้าน NVH (เสียงและการสั่นสะเทือน) และภายนอกมีการออกแบบล้อใหม่และปรับแต่งกระจังหน้าเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความสปอร์ต ทั้งสองรุ่นติดตั้งระบบปรับอากาศที่เหมาะสมกับสภาพอากาศเขตร้อน แต่รุ่นปี 2022 ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำความเย็นให้ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญคือ Mazda ได้ปรับปรุงประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาด้วยเทคโนโลยี Skyactiv ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องเผชิญกับสภาพการจราจรติดขัดบ่อยครั้ง ทั้งสองรุ่นรองรับน้ำมันเบนซิน 95 ออกเทน ซึ่งตรงตามมาตรฐานน้ำมันเชื้อเพลิงทั่วไป หากงบประมาณเอื้ออำนวย รุ่นปี 2022 จะมีการอัพเกรดที่สำคัญกว่า แต่รุ่นปี 2021 จะคุ้มค่ากว่าเมื่อมีส่วนลดมากมาย แนะนำให้พิจารณาตัวเลือกต่างๆ โดยคำนึงถึงความต้องการที่แท้จริงของคุณเป็นหลัก
Q
ปัญหาเกี่ยวกับเครื่องยนต์ของ Mazda CX-5 ปี 2021 คืออะไร?
ปัญหาของเครื่องยนต์ในรุ่น Mazda CX-5 ปี 2021 ส่วนใหญ่พบในรถบางคันที่เจ้าของรายงานว่ามีการใช้น้ำมันเครื่องผิดปกติ โดยเฉพาะในกรณีของเครื่องยนต์ 2.5L Skyactiv-G ที่อาจมีระดับน้ำมันเครื่องลดลงค่อนข้างเร็ว ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับการออกแบบลูกสูบหรือช่วงการใช้งานแรกของเครื่องยนต์ แนะนำให้เจ้าของรถตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องด้วยก้านวัดเป็นประจำและปฏิบัติตามระยะเวลาบำรุงรักษาที่ผู้ผลิตกำหนดไว้ ควรสังเกตว่าในสภาพอากาศร้อน เครื่องยนต์จะมีอุณหภูมิการทำงานสูงขึ้นซึ่งอาจทำให้การใช้น้ำมันเครื่องมากขึ้นได้ ดังนั้นการใช้น้ำมันเครื่องความหนืดสูง (เช่น 5W-30) หรือเปลี่ยนถ่ายบ่อยขึ้นจะช่วยเพิ่มความมั่นใจได้ เทคโนโลยี Skyactiv ของมาสด้าโดยตัวมันเองมีชื่อเรื่องความมีประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือ ปัญหาแบบนี้บางครั้งก็พบได้ในเครื่องยนต์เทอร์โบของแบรนด์อื่นๆ หากพบความผิดปกติควรรีบไปที่ศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาตเพื่อทำการวินิจฉัย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วสามารถแก้ไขได้ด้วยการอัปเดตซอฟต์แวร์หรือเปลี่ยนชิ้นส่วนที่ได้รับการปรับปรุง สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาซื้อรถมือสอง แนะนำให้ตรวจสอบประวัติการบำรุงรักษาอย่างละเอียด โดยเฉพาะสภาพเครื่องยนต์และประวัติการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง รวมถึงควรทราบว่ามาตรการรับประกันระบบขับเคลื่อน 5 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตรจากผู้ผลิตก็สามารถให้ความคุ้มครองได้อย่างเพียงพอ ในชีวิตประจำวันควรหลีกเลี่ยงการขับด้วยความเร็วสูงเป็นเวลานาน พร้อมทั้งทำความสะอาด throttle body และเปลี่ยนไส้กรองอากาศเป็นประจำ จะช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ได้ดีขึ้น
Q
"ระยะทางที่ MINI Aceman 2024 สามารถวิ่งได้คือเท่าไหร่?"
MINI Aceman ปี 2024 รถครอสโอเวอร์ไฟฟ้าล้วนรุ่นแรกของแบรนด์ มีให้เลือกสองรุ่นระยะทางตามมาตรฐานการทดสอบ WLTP ได้แก่ รุ่นเริ่มต้น Aceman E มาพร้อมแบตเตอรี่ 40.7 kWh ระยะทางประมาณ 300 กิโลเมตร และรุ่น Aceman SE ที่มีแบตเตอรี่ 54.2 kWh ระยะทางสูงสุด 400 กิโลเมตร ระยะทางนี้เพียงพอสำหรับการเดินทางในเมืองและการเดินทางระยะสั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จในพื้นที่ที่เพิ่มมากขึ้น พร้อมสถานีชาร์จเร็วที่มีให้บริการในเมืองใหญ่และแหล่งท่องเที่ยว รถรองรับการชาร์จเร็ว DC 100kW ชาร์จจาก 10% ถึง 80% ในเวลาเพียง 30 นาที และสามารถวางแผนเส้นทางการชาร์จอย่างชาญฉลาดด้วยแอป MINI อย่างไรก็ตาม ควรทราบว่าระยะทางจริงของรถยนต์ไฟฟ้าอาจได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมการขับขี่ การใช้เครื่องปรับอากาศ และสภาพภูมิประเทศ ตัวอย่างเช่น การใช้เครื่องปรับอากาศบ่อยครั้งในสภาพอากาศร้อนอาจลดระยะทางลงประมาณ 10% แนะนำให้รักษาระดับแบตเตอรี่ให้อยู่ระหว่าง 20% ถึง 80% เพื่อยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ ประสิทธิภาพระยะทางนี้เทียบได้กับรถยนต์ไฟฟ้าบางรุ่นจากญี่ปุ่นในระดับเดียวกัน แต่การควบคุมรถสไตล์โกคาร์ทที่เป็นเอกลักษณ์ของ MINI ยังคงเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ
ดูเพิ่มเติม