Q

Toyota Rider รุ่นสปอร์ต มีกี่รุ่น

ปัจจุบัน Toyota Sport Rider ในตลาดประเทศไทยมีให้เลือก 2 รุ่นหลัก คือรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.4L และ 2.8L ทั้งสองรุ่นมาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ โดยรุ่น 2.8L มีกำลังสูงถึง 204 แรงม้าและแรงบิด 500 นิวตันเมตร เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพลังขับเคลื่อนสูง ในตลาดประเทศไทยรถกระบะรุ่นนี้ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค เนื่องด้วยความทนทานที่เชื่อถือได้ และสมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรดที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มักต้องเผชิญกับสภาพถนนที่ซับซ้อน ถือเป็นรุ่นน้องของ Toyota Hilux ที่สืบทอดคุณภาพมาตรฐานของ Toyota แต่เพิ่มความสบายขึ้นด้วยการติดตั้งอุปกรณ์อย่างเบาะหนังและระบบเสียงคุณภาพสูงในบางรุ่น ที่น่าสนใจคือตลาดไทยมีความต้องการรถปิคอัพสูง ทำให้แต่ละแบรนด์มักปรับแต่งรถให้เหมาะกับสภาพอากาศและถนนไทย เช่น เพิ่มประสิทธิภาพระบบแอร์และป้องกันรอยกัดกร่อนใต้ท้องรถ นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่รถปิคอัพผลิตในไทยได้รับความนิยมทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
  • รถยอดนิยม

  • รุ่นปีรถยนต์

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

Q&A ล่าสุด

Q
Nissan เป็นรถญี่ปุ่นหรือรถจีน?
Nissan เป็นผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองโยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น และเป็นสมาชิกของพันธมิตร Renault-Nissan-Mitsubishi โดยมีประวัติความเป็นมาย้อนไปถึงปี 1933 จากบริษัท "Jidosha Seizo Co. Ltd." ถือเป็นหนึ่งในบริษัทตัวแทนของอุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่น สำหรับตลาดในประเทศเรา รถยนต์ Nissan อย่าง Almera และ Navara ได้รับความนิยมเนื่องจากประหยัดน้ำมัน ทนทาน และมีราคาที่คุ้มค่า โดยเฉพาะ Navara ที่เป็นรถปิกอัพตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย Nissan มีจุดเด่นด้านเทคโนโลยีเช่นระบบช่วยขับอัจฉริยะ ProPILOT และเทคโนโลยีไฮบริด e-Power ซึ่งนวัตกรรมเหล่านี้ก็เริ่มนำมาใช้ในรุ่นที่จำหน่ายในประเทศเราแล้ว ข้อควรทราบคือแม้ว่า Nissan จะมีโครงการร่วมทุนกับบริษัทรถยนต์จีนในระดับโลก (เช่น Dongfeng Nissan) แต่ความเป็นแบรนด์ งานวิจัยพัฒนาแกนหลัก และการบริหารจัดการยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของญี่ปุ่น รถยนต์ญี่ปุ่นในประเทศเรามีจำนวนการใช้งานสูง มีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครบครัน และหาอะไหล่ได้ค่อนข้างสะดวก ซึ่งก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ผู้บริโภคหลายคนคำนึงถึง หากสนใจรถรุ่นใดเป็นพิเศษ แนะนำให้ไปทดลองขับที่ตัวแทนจำหน่ายเพื่อสัมผัสสมรรถนะและอุปกรณ์ต่างๆ ด้วยตัวเองว่าจะตรงกับความต้องการหรือไม่
Q
วิธีสตาร์ทรถ Nissan 2020
การใช้งานรถยนต์ Nissan รุ่นปี 2020 ให้เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบว่ากุญแจอยู่ในรถ หากเป็นระบบกุญแจอัจฉริยะ ให้เหยียบแป้นเบรกค้างไว้แล้วกดปุ่มสตาร์ทเพื่อสตาร์ทรถ ส่วนรุ่นที่ใช้ระบบกุญแจไร้กุญแจ ต้องตรวจสอบว่าแบตเตอรี่กุญแจยังมีไฟเหลือพอ หากเจอปัญหาสตาร์ทรถไม่ติด ให้ลองนำกุญแจมาใกล้ๆ ปุ่มสตาร์ทเพื่อเพิ่มสัญญาณ นอกจากนี้ควรตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่รถเป็นประจำเพื่อป้องกันปัญหาสตาร์ทไม่ติดเนื่องจากไฟหมด สำหรับสภาพอากาศร้อนแนะนำให้เปลี่ยนแบตเตอรี่ทุก 2 ปี ส่วนรุ่นที่ติดตั้งระบบรีโมทสตาร์ท สามารถวอร์มเครื่องล่วงหน้าผ่านกุญแจหรือแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์ ซึ่งมีประโยชน์มากในช่วงหน้าฝน หากต้องจอดรถทิ้งไว้นานๆ ควรถอดขั้วลบของแบตเตอรี่ออก หรือไม่ก็สัปดาห์ละครั้งให้สตาร์ทเครื่องทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีเพื่อเติมไฟให้แบตเตอรี่ สำหรับรถระบบไฮบริดอาจจะเงียบกว่าเวลาสตาร์ทเครื่อง ซึ่งเป็นเรื่องปกติไม่ต้องกังวล หากพบปัญหาซับซ้อนแนะนำให้ติดต่อศูนย์บริการ Nissan เพื่อตรวจสอบอย่างมืออาชีพ พวกเขามีความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีจากโรงงานโดยตรง
Q
คุณควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องบ่อยแค่ไหน?
โดยทั่วไปแล้ว น้ำมันเครื่องแบบธรรมดาแนะนำให้เปลี่ยนทุก 5,000 กิโลเมตร หรือทุก 6 เดือน ส่วนน้ำมันกึ่งสังเคราะห์สามารถยืดระยะทางออกไปได้ถึง 7,500 กิโลเมตร หรือทุก 8 เดือน ในขณะที่น้ำมันสังเคราะห์เต็มรูปแบบนั้นใช้งานได้ถึง 10,000 กิโลเมตร หรือทุก 12 เดือน แต่ทั้งนี้ก็ควรตรวจสอบคำแนะนำในคู่มือรถของคุณด้วย เพราะว่ารถแต่ละรุ่นและเครื่องยนต์แต่ละแบบอาจมีความต้องการน้ำมันเครื่องที่แตกต่างกันไป ถ้าคุณขับรถในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นบ่อยๆ หรือขับทางสั้นๆ เป็นประจำ รวมถึงขับในสภาพอากาศร้อนเป็นเวลานาน น้ำมันเครื่องอาจเสื่อมสภาพเร็วขึ้น แนะนำให้ลดระยะเวลาการเปลี่ยนให้น้อยลง นอกจากเรื่องระยะเวลาแล้ว คุณภาพและระดับความหนืดของน้ำมันเครื่องก็สำคัญมาก ควรเลือกให้เหมาะกับสภาพอากาศในพื้นที่ของคุณ เช่น ในเขตร้อนอาจต้องใช้น้ำมันเครื่องที่มีความหนืดสูงขึ้นเพื่อให้มั่นใจว่ายังคงประสิทธิภาพการหล่อลื่นได้ดีแม้อากาศร้อน และอย่าลืมตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องและสีของมันเป็นประจำด้วย ถ้าเห็นว่าน้ำมันเครื่องเริ่มดำหรือมีสิ่งเจือปนมากเกินไป แม้ยังไม่ถึงกำหนดเปลี่ยนก็ควรเปลี่ยนทันทีเพื่อปกป้องเครื่องยนต์ การดูแลรักษาเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอนอกจากจะช่วยยืดอายุการใช้งานแล้ว ยังช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย
Q
Nissan จำเป็นต้องใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้หรือไม่?
รถยนต์ Nissan จำเป็นต้องใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์เต็มรูปแบบหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับรุ่นรถและประเภทเครื่องยนต์ โดยทั่วไปแล้วเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จหรือรุ่นสมรรถนะสูงมักกำหนดให้ใช้น้ำมันสังเคราะห์เต็มรูปแบบเพื่อประสิทธิภาพการหล่อลื่นและระบายความร้อนที่ดีที่สุด เช่น รุ่นที่ใช้เทคโนโลยี VC-Turbo ที่มีการปรับอัตราส่วนการอัดตัวแปรได้ ส่วนเครื่องยนต์แบบดูดธรรมดารุ่นเก่าอาจอนุญาตให้ใช้น้ำมันกึ่งสังเคราะห์หรือน้ำมันแร่ได้ แต่การใช้น้ำมันสังเคราะห์เต็มรูปแบบจะช่วยป้องกันความร้อนสูงและทำความสะอาดได้ดีกว่า ช่วยยืดอายุเครื่องยนต์ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนแบบประเทศไทย น้ำมันสังเคราะห์เต็มรูปแบบจะมีความเสถียรและทนทานต่อการเสื่อมสภาพได้ดีกว่า ควรตรวจสอบคู่มือเจ้าของรถเกี่ยวกับข้อกำหนดน้ำมันเครื่องซึ่งมักระบุมาตรฐานเช่น API SN/SP หรือ ILSAC GF-6 จุดสำคัญคือน้ำมันสังเคราะห์เต็มรูปแบบสามารถใช้งานได้ถึง 10,000 กม. หรือมากกว่า แต่ควรปรับเปลี่ยนตามสภาพการขับขี่และเส้นทาง หากขับระยะสั้นบ่อยๆ หรือติดรถนานควรเปลี่ยนถี่ขึ้น สำหรับรถมือสองหรือรถที่ใช้งานมานานอาจพิจารณาน้ำมันสังเคราะห์สูตรพิเศษสำหรับรถระยะสูงซึ่งมีสารปรับสภาพซีลและสารป้องกันการสึกหรอเพิ่มเติม การเลือกความหนืดน้ำมันเช่น 5W-30 หรือ 0W-20 ก็สำคัญเช่นกัน หากเลือกความหนืดไม่เหมาะสมอาจทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันหรือหล่อลื่นไม่เพียงพอ ถ้าไม่แน่ใจควรปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญหรือศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาตเพื่อความปลอดภัย
Q
คุณสามารถใช้ 5W-20 แทน 0W-20 ได้หรือไม่?
ในกรณีส่วนใหญ่ น้ำมันเครื่องเกรด 5W-20 สามารถใช้แทน 0W-20 ชั่วคราวได้ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนหรือในพื้นที่ที่มีอากาศร้อน เนื่องจากทั้งสองเกรดมีค่าความหนืดที่อุณหภูมิสูงเท่ากัน (20) ข้อแตกต่างหลักอยู่ที่ประสิทธิภาพการไหลในอุณหภูมิต่ำ (0W ให้การปกป้องที่ดีกว่าในสภาพอากาศเย็นจัดเมื่อเริ่มสตาร์ทเครื่อง) แต่สำหรับการใช้งานระยะยาว ยังคงควรใช้น้ำมันเครื่องตามที่คู่มือรถแนะนำ โดยเฉพาะรถยนต์ที่ติดตั้งเทอร์โบชาร์จหรือระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงตรงเข้าในกระบอกสูบ เพราะเกรดที่ผู้ผลิตระบุจะเหมาะสมกับชิ้นส่วนที่มีความละเอียดอ่อนมากกว่า สำหรับสภาพอากาศในประเทศไทยที่ร้อนเป็นปกติ 5W-20 ก็มีประสิทธิภาพเพียงพอในอุณหภูมิต่ำสำหรับการใช้งานทั่วไป แต่หากต้องขับขี่บ่อยในพื้นที่ภูเขาทางเหนือที่มีอากาศเย็น การใช้ 0W-20 ยังเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า ควรระวังในการผสมน้ำมันเครื่องต่างยี่ห้อเพราะอาจส่งผลต่อความเข้ากันได้ของสารเติมแต่ง และแนะนำให้ล้างน้ำมันเครื่องเก่าออกให้หมดเมื่อเปลี่ยนน้ำมันเครื่องใหม่ นอกจากนี้ควรตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องเป็นประจำเพราะรถยนต์บางรุ่นโดยเฉพาะเครื่องยนต์สมรรถนะสูงอาจไวต่อการเปลี่ยนแปลงความหนืดของน้ำมันเครื่อง หากจำเป็นต้องใช้ 5W-20 ชั่วคราว อาจลดระยะการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องลงเหลือ 5,000 กิโลเมตรเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
ดูเพิ่มเติม