Q

"รถ Rolls-Royce Wraith ราคาเท่าไหร่?"

ราคาของ Rolls-Royce Wraith ในประเทศไทยจะอยู่ที่ประมาณ 30-35 ล้านบาท โดยราคาอาจมีการปรับเปลี่ยนขึ้นอยู่กับสเปค ออปชั่นเพิ่มเติม และอัตราแลกเปลี่ยน รถคันนี้เป็นรุ่นที่ออกแบบมาในสไตล์สปอร์ตหรูหราของ Rolls-Royce พร้อมเครื่องยนต์ 6.6 ลิตร V12 เทอร์โบคู่ ที่ให้พลังขับเคลื่อนสูงสุดและตกแต่งภายในอย่างประณีตด้วยงานแฮนด์เมดระดับพรีเมียม ซึ่งสะท้อนถึงเอกลักษณ์ของการกำหนดแบบเฉพาะตัว สำหรับตลาดไทย รถหรูอย่าง Wraith มักจะต้องเสียภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิตในอัตราที่ค่อนข้างสูง นี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ราคาสูง แต่สำหรับคนที่มองหาความพิเศษและประสบการณ์การขับขี่ระดับท็อปแล้ว Wraith ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ตลาดรถหรูในไทยเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในกรุงเทพฯและเมืองใหญ่ก็มีเครือข่ายตัวแทนจำหน่าย Rolls-Royce ที่พร้อมให้บริการครบวงจร ทั้งให้คำปรึกษาก่อนการซื้อและบริการหลังการขาย รวมถึงออปชั่นบริการกำหนดแบบเฉพาะตัว เช่น สีรถ วัสดุภายในรถ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าไทย นอกจากนี้ Wraith ยังเป็นรถที่มูลค่าการขายต่อค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับรถหรูรุ่นอื่นๆ ซึ่งก็นับเป็นปัจจัยที่นักลงทุนหรือผู้ซื้อควรพิจารณาในการถือครองระยะยาว
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
รถ Rolls-Royce Ghost ปี 2020 ราคาเท่าไหร่?
ราคาของ Rolls-Royce Ghost รุ่นปี 2020 ในตลาดไทยจะแตกต่างกันไปตามปัจจัยต่างๆ เช่น สเปค สภาพรถ และภาษี โดยราคาขายใหม่มักอยู่ที่ประมาณ 25-35 ล้านบาท ส่วนรถมือสองราคาจะขึ้นอยู่กับระยะทางและสภาพการดูแลรักษา ซึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 18-28 ล้านบาท ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดรถหรูสำคัญของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีการเก็บภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิตในอัตราที่ค่อนข้างสูง ทำให้ราคารถในไทยสูงกว่าที่ประเทศอังกฤษอย่างเห็นได้ชัด Rolls-Royce Ghost ได้รับการยกย่องในเรื่องงานฝีมือระดับเทพ ความสะดวกสบายอันยอดเยี่ยม และเครื่องยนต์ V12 อันทรงพลัง ซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มคนชั้นสูงและผู้ประสบความสำเร็จในไทย การซื้อรถหรูระดับนี้ในไทยมักจะมีบริการปรับแต่งเพิ่มเติม เช่น การออกแบบภายในตามความชอบหรือสีรถพิเศษ ซึ่งจะส่งผลต่อราคาสุดท้ายอีกด้วย ต้องบอกว่าวัฒนธรรมรถหรูในไทยค่อนข้างเข้มข้น โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่มักจะเห็นรถหรูรุ่นต่างๆ มากมาย และ Rolls-Royce ก็เป็นสัญลักษณ์ของสถานะและรสนิยมที่ไม่มีใครเทียบได้
Q
2020 Wraith ราคาเท่าไร?
ราคาของรถ Rolls-Royce Wraith รุ่นปี 2020 ในตลาดไทยจะมีความแตกต่างค่อนข้างมาก ขึ้นอยู่กับการกำหนดค่า อุปกรณ์เสริมเลือกเพิ่ม และภาษีต่างๆ โดยราคาขายรวมภาษีของรถใหม่จะอยู่ที่ประมาณ 25-35 ล้านบาท แต่เพื่อความแม่นยำควรสอบถามจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในกรุงเทพฯ หรือพัทยา เป็นที่ทราบกันดีว่าประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญสำหรับรถหรูในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รถยนต์นำเข้าประเภทนี้ต้องเสียภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิตในอัตราที่สูง ทำให้ราคาสูงกว่าตลาดยุโรปหรืออเมริกาอย่างเห็นได้ชัด สำหรับ Wraith นั้นเป็นรถคูเป้ 2 ประตูสุดคลาสสิกของ Rolls-Royce ใช้เครื่องยนต์ 6.6 ลิตร V12 เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงถึง 624 แรงม้า พร้อมด้วยการตกแต่งภายในที่ทำด้วยมือและบริการปรับแต่งเฉพาะเช่น "Star Canopy" ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนชั้นสูงของไทย อย่างไรก็ตามรัฐบาลไทยมีนโยบายลดภาษีสำหรับรถยนต์ไฮบริดและไฟฟ้าในปีที่ผ่านมา แต่สำหรับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปขนาดใหญ่เช่น Wraith ยังคงต้องเสียภาษีเต็มอัตรา ข้อแนะนำคือควรซื้อผ่านช่องทางทางการเพื่อให้ได้รับบริการหลังการขายที่ครบวงจรจากศูนย์ Rolls-Royce ประเทศไทย ซึ่งรวมถึงการบริการประจำปีและการช่วยเหลือบนถนน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการดูแลรถหรูในสภาพอากาศร้อนชื้นแบบไทย
Q
ทำไม Rolls-Royce ถึงถูกเรียกว่า Wraith?
ชื่อของ Rolls-Royce Wraith มาจากคำภาษาอังกฤษว่า "Wraith" ที่แปลว่า "วิญญาณ" หรือ "ภาพลวงตา" ซึ่งชื่อนี้สะท้อนถึงความลึกลับและความหรูหราของรถรุ่นนี้ Wraith ในฐานะรถคูเป้หรูสองประตูของรอลส์-รอยซ์ ได้สืบทอดดีเอ็นเอความหรูหราของแบรนด์ พร้อมกับดีไซน์ที่ดูสปอร์ตมากขึ้น ในตลาดไทย รถรุ่นนี้ได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้บริโภคระดับสูงที่ชื่นชอบความเป็นเอกลักษณ์ เพราะมันผสมผสานระหว่างความหรูหราแบบอังกฤษกับประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจได้อย่างลงตัว ที่น่าสนใจคือรอลส์-รอยซ์มักจะตั้งชื่อรถตามตำนานเทพนิยายและคำศัพท์เชิงกวี เช่น Phantom (ภาพลวงตา) Ghost (โกสต์) ซึ่งล้วนเป็นปรัชญาการตั้งชื่อที่สื่อถึงความพิเศษของรถ และยังอุปมาอุปมัยถึงถึงความหายากและมีค่าดั่งงานศิลป์ ในสภาพอากาศร้อนของไทย ระบบแอร์และเทคโนโลยีกันเสียงขั้นสูงของ Wraith ยังคงรักษาความสบายภายในรถให้เหมือนอยู่ในคฤหาสน์อังกฤษ นี่คือสิ่งที่ Rolls-Royce ทุ่มเทในทุกรายละเอียดอย่างสมบูรณ์แบบ
Q
Rolls-Royce Wraith หายากไหม?
Rolls-Royce Wraith นับเป็นคูปองหรูที่หายากมากๆ ในตลาดไทย ด้วยดีไซน์สปอร์ตที่สุดในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ แถมยังผลิตจำกัดปีละไม่เกิน 1,500 คันทั่วโลก สำหรับเมืองไทยนี่หายากยิ่งกว่า แทบจะนับคันได้เลยเพราะแต่ละปีผ่านโชว์รูมหลักที่กรุงเทพฯ แค่ประมาณ 20 คันเท่านั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกระบวนการผลิตแบบแฮนด์เมดและราคาเริ่มต้นที่ 20 ล้านบาทขึ้นไป พูดถึงสเปคแล้ว Wraith ติดตั้งเครื่องยนต์ V12 เทอร์โบคู่ความจุ 6.6 ลิตร ที่ให้กำลังสูงถึง 624 แรงม้า ทำงานร่วมกับระบบส่งกำลังแบบดาวเทียมช่วย ทำให้การขับขี่บนเส้นทางเขียวอย่างเส้นเชียงใหม่-ปายลื่นไหลไม่เหมือนใคร แม้แต่ประตูแบบ suicide doors อันเป็นเอกลักษณ์ก็ยังเปิดปิดได้เนียนเสมอแม้ในอากาศร้อนจัดของไทย นี่แหละที่พิสูจน์ว่าวิศวกร Rolls-Royce ปรับแต่งเฉพาะสำหรับสภาพอากาศร้อนชื้น แม้ตอนนี้ Wraith จะทยอยถูกแทนที่ด้วยรุ่น Spectre ที่เป็นไฟฟ้าแล้ว แต่ในตลาดมือสอง Wraith สภาพดียังเป็นที่ล่าของนักสะสมไทย โดยเฉพาะรถโชว์ที่เคยลงงานมอเตอร์โชว์ที่ภูเก็ต มักมีมูลค่าสูงกว่าปกติถึง 15% เลยทีเดียว
Q
Rolls-Royce Wraith เร็วไหม?
รถยนต์หรูหราอย่าง Rolls-Royce Wraith นั้นถือเป็นคูปองสปอร์ตระดับเทพที่มาพร้อมสมรรถนะอันยอดเยี่ยม ด้วยเครื่องยนต์ V12 6.6 ลิตร เทอร์โบชาร์จคู่ ที่ให้กำลังสูงถึง 624 แรงม้าและแรงบิด 870 นิวตันเมตร เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.6 วินาที และมีความเร็วสูงสุดที่ถูกจำกัดไว้ที่ 250 กม./ชม. ซึ่งสมรรถนะระดับนี้ทำให้ขับเคลื่อนได้อย่างคล่องตัวทั้งบนถนนในเมืองหรือทางหลวงของไทย โดยเฉพาะบนทางหลวงรอบกรุงเทพฯ ที่ Wraith จะแสดงความเหนือชั้นทั้งในเรื่องแรงขับอันทรงพลังและความเงียบสงบ ให้ความรู้สึกขับขี่ที่สมบูรณ์แบบที่สุด สิ่งที่น่าสนใจคือ Wraith ไม่เพียงเร่งได้แรงเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมระบบช่วงล่างอากาศและโครงสร้างตัวถังที่ถูกปรับแต่งมาอย่างดีเยี่ยม ทำให้มั่นใจได้ว่าจะขับเคลื่อนได้อย่างนุ่มนวลบนสภาพถนนที่หลากหลายของไทย ไม่ว่าจะเป็นถนนลื่นในช่วงฤดูฝนหรือการจราจรที่ติดขัดในเมือง ก็ยังคงรักษาความสง่างามในการขับขี่ได้อย่างดี นอกจากนี้ ภายในห้องโดยสารยังตกแต่งด้วยหนังแท้และไม้เนื้อสูง พร้อมกับหลังคากล้องดาวสไตล์ Rolls-Royce ที่สร้างประสบการณ์ความหรูหราอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ให้กับผู้บริโภคไทย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มองหาประสบการณ์ยานยนต์ระดับสูงสุดทั้งในด้านคุณภาพและสมรรถนะ
  • รถยอดนิยม

  • รุ่นปีรถยนต์

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

ข้อดี

ส่วนภายในที่หรูหราโดยใช้วัสดุระดับสูง
เครื่องยนต์ V12 ที่แรงและราบรื่นเพื่อประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม
การออกแบบภายนอกที่งดงามและเป็นสัญลักษณ์ทำให้คนต่างหากสังเกต
การทำงานฝีมือยอดเยี่ยมปรากฏอยู่ในทุกรายละเอียด
มีทางเลือกในการปรับแต่งให้เป็นรถที่ไม่เหมือนใครมากมาย

ข้อเสีย

ราคาสูง ทำให้ไม่เหมาะสำหรับทุกกลุ่มผู้ใช้งาน
ขนาดตัวรถใหญ่ อาจจอดหรือขับในที่แคบได้ยาก
ค่าบำรุงรักษาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับรถทั่วไป
ดีไซน์อาจดูดั้งเดิมเกินไปสำหรับบางคน

Q&A ล่าสุด

Q
Chery Omoda 5 เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อหรือไม่?
รุ่น Chery Omoda 5 ที่วางจำหน่ายในตลาดไทยส่วนใหญ่จะเป็นระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ไม่ใช่ระบบสี่ล้อขับเคลื่อน โดยทั่วไปแล้ว รถยนต์รุ่นทั่วไปมักจะเน้นการส่งกำลังไปที่ล้อหน้าเป็นหลัก ระบบขับเคลื่อนแบบนี้เหมาะกับการขับขี่ในเมืองและสภาพถนนทั่วไป สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคส่วนใหญ่ได้ดี แถมยังช่วยประหยัดน้ำมันและลดต้นทุนได้อีกด้วย แต่ในบางตลาด เช่น อินโดนีเซีย อาจจะมีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหน้าและระบบสี่ล้อขับเคลื่อน ระบบขับเคลื่อนแต่ละแบบมีจุดเด่นต่างกัน ระบบสี่ล้อขับเคลื่อนมักจะแสดงประสิทธิภาพโดดเด่นในสภาพถนนที่ซับซ้อน อากาศเลวร้าย หรือเมื่อต้องการกำลังส่งและความมั่นคงสูงกว่า เช่น ในถนนหิมะ ถนนโคลน หรือสภาพถนนออฟโรด ส่วนระบบขับเคลื่อนล้อหน้ามีโครงสร้างไม่ซับซ้อน ต้นทุนต่ำกว่า และให้ความสะดวกสบายรวมถึงประหยัดน้ำมันได้ดีกว่าในการขับขี่ในเมือง
Q
Chery Omoda 5 เป็นรถยนต์น้ำมันเบนซินใช่หรือไม่?
ใช่แล้ว Chery Omoda 5 เป็นรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซิน แม้ว่าชื่อของมันอาจทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นรถพลังงานใหม่ แต่จริงๆ แล้วมันคือรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน Omoda 5 ถูกออกแบบมาในตำแหน่ง SUV ขนาดกะทัดรัด ด้วยดีไซน์ภายนอกที่โดดเด่น หน้าตาหน้ารถมาพร้อมกับคอนเซปต์แบบไร้กรอบโครเมี่ยม เน้นลวดลายกริลโล่ขนาดใหญ่เล็กสลับกัน พร้อมไฟหน้าแบบแยกส่วนที่ดูเฉียบคมและจัดเรียงในรูปแบบเมทริกซ์ ด้านข้างเป็นสไตล์เรียวลู่หลังคาแบบลอยตัว เส้นสายตัวรถที่ตัดเป็นช่วงๆ เพิ่มความรู้สึกด้านเทคโนโลยี มาพร้อมล้อสปอร์ตสีดำ ขนาดตัวรถคือ 4400/1830/1585 มม. ระยะฐานล้อ 2630 มม. รถน้ำมันรุ่นนี้ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานประจำวันและความสนุกในการขับขี่ แถมยังให้ประสบการณ์ด้านสมรรถนะที่คุ้มค่า
Q
รถยนต์ Chery Omoda 5 SUV กำลังถูกเรียกคืนทันทีหรือไม่?
ณ เวลานี้ยังไม่มีข่าวสารอย่างเป็นทางการจาก Chery ที่ระบุว่า SUV รุ่น Omoda 5 จะมีการเรียกกลับในทันที โดยปกติแล้วการเรียกกลับรถยนต์จะเกิดขึ้นเมื่อพบข้อบกพร่องที่อาจส่งผลต่อความปลอดภัยหรือประสิทธิภาพการทำงานของรถ ซึ่งบริษัทผู้ผลิตจะดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัดและแจ้งให้ผู้บริโภครับทราบผ่านช่องทางทางการ เช่น การประกาศจากเว็บไซต์ทางการ การแจ้งเตือนจากตัวแทนจำหน่าย เป็นต้น หากผู้ใช้งานต้องการติดตามข้อมูลการเรียกกลับของรถรุ่นนี้ สามารถติดตามได้ทางเว็บไซต์ทางการของ Chery บัญชีโซเชียลมีเดียทางการ หรือสอบถามโดยตรงที่ตัวแทนจำหน่ายท้องถิ่นที่ได้รับอนุญาต พวกเขาจะสามารถให้ข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัยเกี่ยวกับสถานะของรถรุ่นนี้ เพื่อให้เจ้าของรถสามารถรับทราบและดำเนินการแก้ไขในกรณีที่มีการเรียกกลับ
Q
รถ Chery Omoda 5 ประหยัดน้ำมันไหม?
Chery Omoda 5 รุ่นต่างๆ จะมีประสิทธิภาพในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่แตกต่างกันออกไป สำหรับรุ่น 1.5T ที่ระบุในรายการนั้นมีการสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 7.1 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ส่วนรุ่นพื้นฐานที่ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 4 สูบเทอร์โบ จะสิ้นเปลืองน้ำมันประมาณ 7.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าเหมาะสมกับการใช้งานในเมืองและการเดินทางระยะสั้นในช่วงวันหยุด ประสิทธิภาพการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอาจขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น พฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน หรือน้ำหนักบรรทุก ดังนั้นตัวเลขการใช้น้ำมันจริงของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป ถ้าอยากให้รถประหยัดน้ำมันที่สุด ควรขับขี่อย่างนุ่มนวล ใช้แอร์อย่างเหมาะสม และไม่ควรปล่อยให้เครื่องยนต์เดินเบานานเกินไป นอกจากนี้ Chery ยังแนะนำให้ใช้เชื้อเพลิง 95 RON สำหรับเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ส่วนเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรใช้เบนซิน 91 RON ก็เพียงพอ การเลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิงตามที่กำหนดจะช่วยรักษาประสิทธิภาพของรถและช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีขึ้น
Q
Chery Omoda 5 มีคะแนนความปลอดภัยเท่าไหร่?
รถ Chery Omoda 5 ในปี 2022 ได้รับการประเมินความปลอดภัย 5 ดาวจาก ANCAP ครับ ในส่วนการปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ได้คะแนน 87% ส่วนเด็กได้ 88% ส่วนผู้ใช้ถนนที่เปราะบางได้ 68% และระบบช่วยเหลือด้านความปลอดภัยได้ 83% รุ่นนี้ติดตั้งถุงลมนิรภัยถึง 7 ตัว รวมถึงถุงลมนิรภัยกลางสำหรับผู้โดยสารแถวหน้า นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีความปลอดภัยครบครัน ทั้งระบบเบรกอัตโนมัติความเร็วต่ำ (AEB) ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมช่วยควบคุมการทรงตัว ระบบช่วยรักษาเลนในกรณีฉุกเฉิน ระบบตรวจสอบจุดบอด ระบบเตือนเมื่อถอยหลังพร้อมเบรกอัตโนมัติ ระบบตรวจสอบการละสายตาของคนขับ ระบบช่วยควบคุมในจราจรติดขัด ระบบแสดงข้อมูลความเร็วตามป้ายจราจร ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ และกล้องมองรอบคัน 360 องศา ด้วยฟีเจอร์และคะแนนแบบนี้บอกได้เลยว่าเรื่องความปลอดภัยนั้นค่อนข้างดีทีเดียว ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรู้สึกมั่นใจได้ระดับนึงเลยล่ะ
ดูเพิ่มเติม