Q

honda city มีกำลังม้าเท่าไหร่

Honda City มีสองรุ่นกำลังเครื่องยนต์ รุ่น 1.0 ลิตร ให้กำลัง 122 แรงม้า และรุ่น 1.5 ลิตร ไฮบริด ให้กำลังรวม 205 แรงม้า
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Honda City คืออะไร
Honda City แม้จะมีข้อดีหลายประการ แต่ก็ยังมีจุดที่ต้องปรับปรุง ผู้ใช้บางส่วนให้ความเห็นว่าการออกแบบภายในดูธรรมดา ขาดความแปลกใหม่และความหรูหราในด้านวัสดุและรายละเอียดการผลิต ระบบเครื่องเสียงและเชื่อมต่อต่าง ๆ ยังขาดความเสถียร โดยในบางครั้งเกิดปัญหาสัญญาณหลุดหรือค้าง โดยเฉพาะเมื่อชาร์จมือถือในช่วงฤดูร้อนที่มีความร้อนสูง ปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อการเล่นเพลงและฟังก์ชันอื่น ๆ ระบบช่วงล่างทำงานได้ตามมาตรฐานทั่วไป เมื่อผ่านถนนขรุขระหรือทางลดความเร็ว รถจะมีอาการโยกคลอนชัดเจน ส่งผลต่อความสบายในการขับขี่และโดยสาร อย่างไรก็ตาม ข้อด้อยเหล่านี้ขึ้นอยู่กับมุมมองและความต้องการของแต่ละบุคคล ผู้ซื้อควรพิจารณาตามความชอบและความสำคัญส่วนตัวในการตัดสินใจเลือกซื้อรถ
Q
ฮอนด้า ซิตี้ อยู่ในเซกเมนต์ไหน
Honda City จัดอยู่ในกลุ่มตลาด C-Segment รุ่นนี้มีขนาดตัวถังค่อนข้างกะทัดรัดโดยมีความยาว 4580 หรือ 4589 มิลลิเมตร ความกว้าง 1748 มิลลิเมตร ความสูง 1467 หรือ 1480 มิลลิเมตร และฐานล้อยาว 2589 มิลลิเมตร ออกแบบเพื่อเน้นความคุ้มค่าในการใช้พื้นที่และความสะดวกสบายในการขับขี่ในชีวิตประจำวัน มีตัวเลือกขุมพลังหลายแบบทั้งเครื่องยนต์เบนซินและไฮบริดเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย ด้านอุปกรณ์มาตรฐานมีระบบความปลอดภัยอย่าง ABS และระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ บางรุ่นยังติดตั้งระบบความปลอดภัยและความสะดวกสบายระดับสูง ราคาจำหน่ายอยู่ระหว่าง 599000 ถึง 799000 บาท โดยมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าครอบครัวทั่วไปและผู้ที่ต้องการรถใช้งานประจำวันในเมืองอย่างคุ้มค่า
Q
มูลค่าการขายต่อของ Honda City คืออะไร
Honda City ในฐานะรถยนต์ขนาดกะทัดรัดที่ได้รับความนิยมสูง มักมีอัตราการรักษามูลค่ารถมือสองที่ดี ตัวอย่างเช่น รุ่นปี 2020 Honda City RS เมื่อใช้งานปกติและระยะทางไม่เกิน 5 หมื่นกิโลเมตร หลังผ่านไป 3 ปี มีอัตรามูลค่าคงเหลือประมาณ 65 ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ หมายความว่ารถที่มีราคาต้นทางราว 8 แสนบาท ยังสามารถขายต่อได้ในราคา 5 ถึง 5.6 แสนบาท มูลค่าคงเหลือขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ ระยะทางการใช้งาน ประวัติการดูแลรักษา และสภาพรถ รุ่นไฮบริด (e HEV) มักรักษามูลค่าได้ดีกว่ารุ่นเครื่องยนต์เบนซินประมาณ 3 ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ ข้อมูลจากสมาคมประเมินราคายานยนต์ไทยหรือ TAVA ระบุว่า รถ Honda City ที่มีอายุ 5 ปี ยังรักษามูลค่าได้ประมาณ 50 ถึง 55 เปอร์เซ็นต์ ดีกว่ารถในกลุ่มเดียวกันรุ่นอื่น ๆ
Q
Honda City มีกี่ซีซี
Honda City รุ่นต่างๆ มีขนาดความจุกระบอกสูบแตกต่างกันไปบางรุ่นเครื่องยนต์เบนซินมีความจุ 988 มิลลิลิตร และบางรุ่นไฮบริด eHEV มีความจุ 1498 มิลลิลิตรโดยทั่วไปขนาดความจุกระบอกสูบจะส่งผลต่อสมรรถนะและอัตราการใช้น้ำมันเครื่องยนต์ขนาดเล็กกว่าเช่น 988 มิลลิลิตรจะเน้นความประหยัดน้ำมันเหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงขณะที่เครื่องยนต์ขนาด 1498 มิลลิลิตรให้กำลังที่มากกว่าเหมาะกับการขับขี่ที่ต้องการแรงบิดสูงเช่นการเร่งแซงหรือขึ้นทางชันผู้บริโภคจึงควรเลือกขนาดเครื่องยนต์ที่เหมาะสมกับความต้องการและรูปแบบการใช้งานในชีวิตประจำวันของตน
Q
เครื่องยนต์ของ Honda City คืออะไร
Honda City มีเครื่องยนต์ให้เลือกหลากหลายรุ่นบางรุ่นมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 10 ลิตร VTEC Turbo แบบ 3 สูบพร้อมระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า กำลังสูงสุด 90 กิโลวัตต์ที่ 5500 รอบต่อนาทีแรงบิดสูงสุด 173 นิวตันเมตรที่ 4500 รอบต่อนาทีอีกรุ่นคือ eHEV ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 15 ลิตรแบบไม่มีระบบอัดอากาศหรือเครื่องอัดอากาศแบบตามธรรมชาติให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้ากำลังสูงสุด 72 กิโลวัตต์ที่ 6400 รอบต่อนาทีแรงบิดสูงสุด 127 นิวตันเมตรที่ 5000 รอบต่อนาทีเมื่อทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าจะให้สมรรถนะโดยรวมที่ทรงพลังยิ่งขึ้นเครื่องยนต์เหล่านี้มีเทคโนโลยีที่เชื่อถือได้ตอบสนองการใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดีโดยบางรุ่นยังผสานนวัตกรรมที่เน้นทั้งสมรรถนะและการประหยัดพลังงานควบคู่กับความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
Q
เกียร์ของ Honda City เป็นแบบไหน
Honda City ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยปัจจุบันมีระบบเกียร์ให้เลือก 2 แบบตามประเภทของขุมพลังรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 15 ลิตรเช่นรุ่น SV และ RS มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ที่พัฒนาโดย Honda ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มนวลในการเร่งความเร็วและประหยัดน้ำมันเหมาะอย่างยิ่งกับการใช้งานในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯส่วนรุ่นไฮบริด eHEV ใช้ระบบเกียร์ไฟฟ้าอัตโนมัติแบบ ECVT ที่ทำงานต่างจาก CVT ทั่วไปโดยอาศัยการทำงานร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวและเครื่องยนต์เพื่อควบคุมการจ่ายกำลังซึ่งเป็นจุดแข็งของเทคโนโลยีไฮบริดจาก Honda ผู้บริโภคในไทยควรทราบว่าไม่ว่าจะเป็นเกียร์ CVT หรือ ECVT ทาง Honda แนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุก 40000 กิโลเมตรหรือทุก 2 ปีตามสภาพอากาศร้อนในไทยและในช่วงฤดูฝนควรตรวจสอบการซีลของระบบเกียร์เป็นพิเศษเพราะจะส่งผลต่ออายุการใช้งานของเกียร์และมูลค่าขายต่อของรถในอนาคตโดยตรง
Q
PCD Size ของ Honda City คืออะไร
Honda City ทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซินและรุ่นไฮบริดใช้ล้อแม็กที่มีค่า PCD หรือระยะรูน็อตเป็น 4x1143 หมายถึงมีรูน็อต 4 รูเรียงบนวงกลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 1143 มิลลิเมตรซึ่งเป็นสเปกเดียวกับรถญี่ปุ่นรุ่นนิยมในไทยอย่าง Nissan Almera และ Mitsubishi Attrage ทำให้สะดวกในการเลือกเปลี่ยนล้อหรือยางอะไหล่สำหรับเจ้าของรถในประเทศไทยนอกจากค่า PCD แล้วควรตรวจสอบค่าหลักอื่นๆ ได้แก่รูดุมล้อหรือ Center Bore ขนาด 641 มิลลิเมตรเกลียวน็อตขนาด M12x15 และค่า Offset ที่แนะนำให้อยู่ในช่วงบวก 40 ถึง 50 เนื่องจากถนนในหลายจังหวัดของไทยมีสภาพไม่ราบเรียบแนะนำให้เลือกล้อแม็กขนาด 15 ถึง 16 นิ้ว J6 ถึง J7 แบบน้ำหนักเบาหรือฟอร์จเพื่อให้เหมาะสมกับระบบช่วงล่างและรองรับถนนในฤดูฝนได้ดียิ่งขึ้นหากต้องการเปลี่ยนแม็กในไทยควรซื้อจากร้านค้าที่จำหน่ายล้อที่ผ่านการรับรองจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมหรือ TISI เช่นแบรนด์ Racing Star หรือ RS Wheels เพื่อไม่ให้มีปัญหาในการตรวจสภาพรถประจำปี
Q
รถ Honda City มี Apple Carplay ไหม
Honda City ทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซินและรุ่นไฮบริด eHEV ในรุ่นกลางถึงรุ่นท็อปเช่นรุ่น RS มาพร้อมฟังก์ชัน Apple CarPlay เป็นอุปกรณ์มาตรฐานโดยสามารถเชื่อมต่อ iPhone แบบไร้สายผ่านหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วช่วยให้ผู้ขับขี่ใช้งานแผนที่เพลงและโทรศัพท์ได้สะดวกมากขึ้นในสภาพการจราจรที่หนาแน่นของประเทศไทยCarPlay ต้องใช้ iPhone ที่มีระบบปฏิบัติการ iOS 90 ขึ้นไประบบรถยนต์ในเวอร์ชันไทยยังรองรับเมนูภาษาไทยและมีตัวเลือกแผนที่ที่ปรับให้เหมาะกับการใช้งานในประเทศสำหรับรุ่นล่างอย่าง SV ที่ไม่มี CarPlay จากโรงงานสามารถติดตั้งเพิ่มเติมได้ที่ร้านอัปเกรดรถยนต์เฉพาะทางในเมืองใหญ่เช่นศูนย์เครื่องเสียงใน Fortune Town กรุงเทพหรือร้านประดับยนต์ในเชียงใหม่เนื่องจากอากาศร้อนในไทยอาจส่งผลต่อเสถียรภาพของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แนะนำให้ใช้ที่ยึดโทรศัพท์กับช่องแอร์เพื่อช่วยระบายความร้อนและตรวจสอบความเสถียรของพอร์ต USB ที่ศูนย์บริการฮอนด้าอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ใช้งาน CarPlay ได้อย่างราบรื่นหากต้องขับในพื้นที่ห่างไกลเป็นเวลานานควรดาวน์โหลดแผนที่แบบออฟไลน์ล่วงหน้าเนื่องจากบางพื้นที่ชนบทอาจไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต 4G ครอบคลุมเพียงพอ
Q
รถ Honda City เป็นรถที่ดีหรือไม่ เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
Honda City เป็นรถที่น่าสนใจและมีจุดเด่นหลายด้านด้านดีไซน์ภายนอกเพิ่มความสปอร์ตมากขึ้นโดยเฉพาะรุ่น City Hatchback ที่มาพร้อมกระจังหน้าแบบ Honey Comb กันชนหน้าใหม่และแถบตกแต่ง Honda Solid Wing สีดำแบบใหม่ที่มีขนาดเล็กลงไฟท้ายแบบสามมิติรมดำพร้อมสปอยเลอร์ดีไซน์สปอร์ตและล้อสีดำทั้งชุดให้ความรู้สึกดุดันภายในห้องโดยสารมีการเพิ่มรายละเอียดการตัดเย็บบริเวณแผงประตูพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วรุ่นย่อยบางรุ่นรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สายพร้อมแท่นชาร์จไร้สายอุปกรณ์ความปลอดภัยจัดเต็มทุกรุ่นด้วยระบบ Honda Sensing ที่มีฟังก์ชันช่วยขับขี่เช่นกล้องมองหลังและระบบเตือนรถออกนอกเลนช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานแต่อาจมีข้อจำกัดบางประการเช่นพื้นที่ภายในไม่ได้กว้างขวางเท่ารุ่นที่เน้นเรื่องความจุเป็นหลักและระบบเกียร์ CVT บางรุ่นอาจตอบสนองได้ไม่ทันใจในจังหวะขับขี่แบบเร่งเร้าโดยรวมแล้ว Honda City เป็นรถที่เหมาะกับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันและเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าน่าพิจารณา
Q
ราคาภาษีรถยนต์ของ Honda City คือเท่าไหร่ วิธีการคำนวณอย่างไร
การคำนวณภาษีรถยนต์สำหรับ Honda City ในประเทศไทยขึ้นอยู่กับความจุกระบอกสูบและอายุการใช้งานตามหลักเกณฑ์ของกรมการขนส่งทางบกรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินจะคิดภาษีโดย 1000cc แรกคิดที่ 2 บาทต่อ cc และส่วนที่เกิน 1000cc ถึง 1500cc คิดที่ 3 บาทต่อ cc ดังนั้นรุ่นเครื่องยนต์ 15 ลิตรหรือ 1497cc จะเสียภาษีปีละ 1000 คูณ 2 เท่ากับ 2000 บวก 497 คูณ 3 เท่ากับ 1491 รวมเป็น 3491 บาทสำหรับรุ่นไฮบริด eHEV ที่มีขนาดเครื่องยนต์ 15 ลิตรเช่นกันจะได้รับส่วนลดภาษี 20 เปอร์เซ็นต์ตามนโยบายส่งเสริมรถพลังงานใหม่ทำให้จ่ายจริงเพียง 2792 บาทภาษีรถยนต์ต้องชำระก่อนวันครบอายุทะเบียนในแต่ละปีที่สำนักงานขนส่งจังหวัดหรือผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หากล่าช้าจะมีค่าปรับวันละ 1 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นมาไทยมีนโยบายเพิ่มภาษีตามอายุรถกรณีรถมีอายุมากกว่า 10 ปีอัตราภาษีจะเพิ่มขึ้นแบบขั้นบันได 5 ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ผู้ใช้รถในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่น PM25 สูงเช่นกรุงเทพฯควรเก็บเอกสารผลตรวจไอเสียผ่านมาตรฐานไว้เพื่อแสดงเมื่อมีการตรวจสอบแม้อัตราภาษีจะเท่ากันทั่วประเทศแต่การจดทะเบียนในชื่อบริษัทสามารถใช้เป็นเครดิตภาษีมูลค่าเพิ่มได้บางส่วน

ข้อดี

พื้นที่ภายในรถกว้างขวางและสบาย
ระบบดีเซลที่มีประสิทธิภาพและเต็มไปด้วยเทคโนโลยี รุ่น RS ยอดนิยมมีชุดสไตล์กีฬารอบคัน RS ซึ่งประกอบด้วยกริดหน้าของรถสีดำและกระจกข้าง กันชนหน้าสไตล์กีฬา ไฟหน้า LED ที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด พร้อมกับไฟวิ่งกลางวันและไฟหมอก LED
ภายในรถเรือนสวยงามและมีอุปกรณ์ครบครัน มีบรรยากาศกีฬาในรถ มีหน้าจอวิทยุชั้นสูงที่สามารถสัมผัสได้ 8 นิ้ว สนับสนุน Apple CarPlay และมีระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT
เครื่องยนต์ที่แข็งแรง DOHC VTEC TURBO ขนาด 1.0 ลิตรแบบ 3 ลูกสูบ 12 วาล์ว ที่ 5500 รอบ/นาทีมีกำลังสูงสุดถึง 122 ม้า ซึ่งเป็นค่าที่สุดในหมวดเดียวกัน

ข้อเสีย

ความสบายและความสะดวกสบายมีข้อจำกัด
ประสิทธิภาพที่ความเร็วต่ำน้อย
ราคาสูงถึง 739000 บาท ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน และคู่แข่งมีระบบที่ไม่เยี่ยมเท่า City
ระบบความปลอดภัยไม่พอ ในด้านความปลอดภัย City แย่กว่าคู่แข่ง รุ่นใหม่ของ City ไม่มีชุด Honda Sensing เท่าที่มีเพียงระบบความปลอดภัยพื้นฐาน

Q&A ล่าสุด

Q
ค่าเบี้ยประกันของ Honda Accord อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่?
ในประเทศไทย ค่าเบี้ยประกันของ Honda Accord จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ปีรถ ขนาดเครื่องยนต์ ประเภทประกันภัย รวมถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ขับขี่ เช่น อายุและประวัติการขับขี่ โดยทั่วไปแล้ว ประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ซึ่งเป็นสิ่งที่กฎหมายกำหนดให้ต้องมี จะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างคงที่ อยู่ที่ประมาณ 1,500–3,000 บาทต่อปี ส่วนประกันภัยชั้นหนึ่ง (Comprehensive Insurance) ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมมากกว่า เช่น ความเสียหายต่อตัวรถ การโจรกรรม และภัยธรรมชาติ จะมีค่าเบี้ยประกันสูงกว่า โดยอยู่ที่ประมาณ 15,000–30,000 บาทต่อปี ขึ้นอยู่กับมูลค่ารถและบริษัทประกันที่เลือก หากมีการเพิ่มความคุ้มครองเพิ่มเติม เช่น คุ้มครองผู้โดยสาร หรือการเปลี่ยนอะไหล่แท้ ค่าเบี้ยก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย แนะนำให้เจ้าของรถเปรียบเทียบราคาและรายละเอียดความคุ้มครองจากหลายบริษัทก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ และควรตรวจสอบเงื่อนไขต่าง ๆ เช่น ค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) และขอบเขตความคุ้มครองให้ละเอียด เพื่อให้ได้แผนประกันที่เหมาะสมที่สุด นอกจากนี้ บริษัทประกันบางแห่งในไทยยังมีส่วนลดสำหรับผู้ที่ไม่มีประวัติการเคลม (No Claim Bonus) ดังนั้น การขับขี่อย่างปลอดภัยและไม่เกิดอุบัติเหตุจะช่วยลดค่าเบี้ยประกันในปีถัดไปได้อีกด้วย
Q
ความยาวของ Honda Accord คือเท่าไหร่?
ความยาวของ Honda Accord แต่ละรุ่นจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย โดยรุ่นปี 2023 มีความยาวอยู่ที่ 4,962 มิลลิเมตร ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ขนาดกลางถึงใหญ่ (D-Segment) ความยาวระดับนี้ช่วยให้ห้องโดยสารภายในกว้างขวางขึ้น เพิ่มความสะดวกสบายในการโดยสาร โดยเฉพาะพื้นที่วางขาของผู้โดยสารตอนหลัง สำหรับรุ่นก่อนหน้า เช่น ปี 2021 และ 2020 บางรุ่นจะมีความยาวอยู่ที่ประมาณ 4,894 มิลลิเมตร โดยความยาวของรถวัดจากปลายสุดด้านหน้าไปจนถึงปลายสุดด้านหลังในแนวตรง ซึ่งรถที่มีความยาวมากมักให้พื้นที่ภายในที่โปร่งโล่งกว่า ในการเลือกซื้อรถยนต์ ความยาวของตัวรถถือเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อทั้งการออกแบบภายนอก ความกว้างขวางภายในห้องโดยสาร และสมรรถนะในการควบคุมรถด้วยเช่นกัน
Q
แบตเตอรี่ของ Honda Accord มีความจุเท่าไหร่?
สำหรับรถ Honda Accord ในตลาดไทย แบตเตอรี่ที่นิยมใช้ส่วนใหญ่จะเป็นแบบ 12V 60Ah ซึ่งเหมาะกับรุ่นปีใหม่ๆ โดยเฉพาะรุ่นไฮบริด (เช่น Accord Hybrid) มักใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ทั่วไปมักใช้แบตเตอรี่ตะกั่วกรด สภาพอากาศร้อนของไทยส่งผลต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่ค่อนข้างมาก แนะนำให้เลือกแบตเตอรี่ยี่ห้อที่ทนความร้อนได้ดี เช่น Boliden หรือ Panasonic และควรตรวจสอบระดับน้ำกลั่น (สำหรับแบตเตอรี่ที่ต้องเติมน้ำ) หรือแรงดันไฟฟ้าเป็นประจำ ข้อควรระวังคือตำแหน่งแบตเตอรี่ของแอคคอร์ดจะแตกต่างกันไปตามปีรุ่น อาจอยู่ในห้องเครื่องหรือท้ายรถ เวลาเปลี่ยนต้องเช็คขั้วบวก-ลบให้ดี นอกจากนี้เจ้าของรถในไทยควรตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่ทุก 2 ปี โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนต้องระวังความชื้นเพราะจะทำให้ขั้วแบตเตอรี่สึกกร่อนเร็ว ถ้าใช้รถเฉพาะระยะสั้นบ่อยๆ อาจเสริมด้วยโซลาร์ชาร์จเจอร์เพื่อรักษาระดับไฟในแบตเตอรี่ จะช่วยยืดอายุการใช้งานไม่ให้เสื่อมเร็วจากการสตาร์ทรถบ่อย ส่วนรุ่นไฮบริดแนะนำให้ซ่อมบำรุงแบตเตอรี่ผ่านช่องทางของฮอนด้าโดยตรงเพราะเกี่ยวข้องกับระบบแรงดันสูง อาจเสี่ยงอันตรายหากแก้ไขเอง
Q
ค่าบำรุงรักษา Honda Accord อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่?
ในประเทศไทย ค่าบำรุงรักษารถฮอนด้าแอคคอร์ดจะแตกต่างกันไปตามปีที่ผลิต ประเภทเครื่องยนต์ และบริการที่เลือกใช้ โดยทั่วไป ค่าบำรุงรักษาแบบพื้นฐาน เช่น เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนไส้กรองอากาศ จะอยู่ที่ประมาณ 2,500-4,500 บาท ส่วนการบำรุงรักษาใหญ่ที่รวมการเปลี่ยนน้ำมันเบรก น้ำมันเกียร์ อาจมีค่าใช้จ่ายประมาณ 6,000-10,000 บาท แต่ราคาที่แน่นอนควรตรวจสอบกับทางศูนย์บริการฮอนด้าในพื้นที่อีกที ศูนย์บริการฮอนด้าในไทยมักมีแพ็กเกจบำรุงรักษาหลายแบบให้เลือก ให้เหมาะกับความต้องการของเจ้าของรถ และควรบำรุงรักษาเป็นประจำเพื่อยืดอายุการใช้งานและรักษาสภาพรถให้ดีอยู่เสมอ นอกจากนี้ ด้วยสภาพอากาศไทยที่ร้อนชื้น ควรให้ความสำคัญกับการตรวจสอบระบบแอร์และน้ำหล่อเย็นเป็นพิเศษในช่วงบำรุงรักษาด้วย ถ้าเลือกใช้บริการอู่นอกอาจจ่ายถูกกว่า แต่ต้องดูเรื่องคุณภาพอะไหล่และความชำนาญของช่างให้ดี เพื่อความปลอดภัยของรถ เมื่อทราบข้อมูลเหล่านี้แล้ว เจ้าของรถจะสามารถวางแผนงบประมาณและเลือกบริการที่เหมาะสมได้ และควรเก็บเอกสารการบำรุงรักษาไว้ด้วย เพราะมีประโยชน์เวลาขายรถมือสองในอนาคต
Q
ค่าบำรุงรักษา Honda Accord อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่?
ในประเทศไทย ค่าบำรุงรักษารถฮอนด้าแอคคอร์ดจะแตกต่างกันไปตามปีที่ผลิต ประเภทเครื่องยนต์ และนิสัยการขับขี่ แต่โดยรวมแล้วถือว่าอยู่ในระดับที่สมเหตุสมผลสำหรับรถเก๋งขนาดกลาง ถ้าเป็นรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.4L ที่นิยมใช้กัน ค่าบำรุงรักษาพื้นฐาน (เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนไส้กรอง และตรวจเช็ครอบรถ) ที่ศูนย์บริการอย่างเป็นทางการของฮอนด้าจะอยู่ที่ประมาณ 2,500-3,500 บาท แนะนำให้ทำทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือน ส่วนการบำรุงรักษาใหญ่ (รวมน้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก ฯลฯ) จะอยู่ที่ประมาณ 8,000-12,000 บาท มักจะทำทุก 40,000 กิโลเมตร สภาพอากาศร้อนของประเทศไทยอาจทำให้สารหล่อเย็นและแบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น แนะนำให้ตรวจสอบส่วนเหล่านี้เป็นประจำ โดยค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่แท้จะอยู่ที่ประมาณ 4,000-6,000 บาท สิ่งที่น่าสนใจคือฮอนด้าไทยมีแพ็กเกจบำรุงรักษาหลายแบบให้เลือก หากใช้บริการแพ็กเกจในระยะยาวจะช่วยประหยัดได้ 15%-20% สำหรับรุ่นไฮบริด แบตเตอรี่ของแอคคอร์ดมักมีอายุการใช้งาน 8-10 ปี แต่ค่าบำรุงรักษาจะสูงกว่ารุ่นเบนซินเล็กน้อยเนื่องจากระบบไฟฟ้าที่ซับซ้อนกว่า หากซ่อมบำรุงนอกศูนย์บริการในประเทศไทย ต้องมั่นใจว่าใช้อะไหล่แท้เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเรื่องความเข้ากันได้ นอกจากนี้ กรมการขนส่งไทยแนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องที่ได้มาตรฐาน API SN หรือสูงกว่าเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพถนนในประเทศ การวางแผนรอบการบำรุงรักษาอย่างเหมาะสมและการเก็บรักษาประวัติการบริการไว้อย่างครบถ้วน ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของรถแต่ยังช่วยรักษามูลค่าเมื่อต้องการขายต่อในอนาคตอีกด้วย
ดูเพิ่มเติม