Q
รถ Audi TT Roadster มีแรงม้าเท่าไหร่
Audi TT รุ่นเปิดประทุนมีเครื่องยนต์หลากหลายกำลังแรงต่างกัน เครื่องยนต์ 2.0T ทั่วไปมีบางรุ่นให้กำลังสูงสุด 230 แรงม้า บางรุ่นสูงสุด 228 แรงม้า เช่น เครื่องยนต์ 2.0T บางรุ่นสามารถให้กำลังสูงสุด 147 กิโลวัตต์ หรือประมาณ 200 แรงม้า ที่รอบเครื่อง 5100 ถึง 6000 รอบต่อนาที นอกจากนี้ยังมีรุ่นเครื่องยนต์ 3.2L V6 ที่เคยเปิดตัวซึ่งให้กำลังสูงถึง 250 แรงม้า รุ่นเปิดประทุนของ Audi TT ในแต่ละปีมีการปรับจูนเครื่องยนต์และพัฒนาเทคโนโลยีจึงมีแรงม้าแตกต่างกันไป การมีตัวเลือกกำลังแรงต่าง ๆ เหล่านี้ช่วยตอบโจทย์ความต้องการด้านพละกำลังและความสนุกในการขับขี่ที่หลากหลาย ทำให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนกันในแต่ละสถานการณ์
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
Audi TT roadster วิ่งเร็วเท่าไหร่
Audi TT รุ่นเปิดประทุนสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง Audi TT รุ่นเปิดประทุนเป็นรถสปอร์ตที่มีชื่อเสียงด้านสมรรถนะการขับขี่ ด้วยเครื่องยนต์ทรงพลังและเทคโนโลยีวิศวกรรมขั้นสูงจึงสามารถทำความเร็วสูงสุดได้อย่างน่าประทับใจนี้ ช่วยให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจบนถนนที่เหมาะสม รุ่น 2021 Audi TT Roadster 45 TFSI quattro S line และ 2020 Audi TT Roadster 2.0 45 TFSI Quattro S line มีความเร็วสูงสุดเท่ากันที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความเร็วสูงนี้เป็นเครื่องพิสูจน์สมรรถนะของรถและมอบประสบการณ์ขับขี่ที่น่าตื่นเต้นสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความเร็วและสมรรถนะของรถเปิดประทุน
Q
Audi TT Roadster มีที่นั่งกี่ที่
Audi TT Roadster มีรุ่นที่นั่ง 2 ที่นั่ง สำหรับรุ่นที่แนะนำได้แก่ 2021 Audi TT Roadster 45 TFSI quattro S line และ 2020 Audi TT Roadster 2.0 45 TFSI Quattro S line ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้เป็นรุ่น 2 ที่นั่ง นอกจากรุ่น 2 ที่นั่งแล้ว Audi TT ยังมีรุ่นที่นั่ง 4 ที่นั่งด้วย แต่เบาะหลังมีพื้นที่จำกัด ไม่เหมาะสำหรับผู้ใหญ่ที่นั่งเป็นเวลานาน เหมาะกับคนตัวเล็กหรือเด็กมากกว่า รุ่น 2 ที่นั่งจะไม่มีเบาะหลัง เหมาะสำหรับผู้ที่เน้นประสบการณ์การขับขี่เป็นหลัก หากคุณขับคนเดียวหรือมีผู้โดยสารเพียงหนึ่งคน รุ่น 2 ที่นั่ง Audi TT Roadster เป็นตัวเลือกที่ดี แต่หากต้องการพาผู้โดยสารหลายคนบ้าง รุ่น 4 ที่นั่งจะใช้งานได้สะดวกกว่า
Q
Audi TT Roadster มีความน่าเชื่อถือหรือไม่
Audi TT Roadster เป็นรถยนต์ที่เชื่อถือได้ด้วยระบบความปลอดภัยชั้นยอดติดตั้งระบบควบคุมเสถียรภาพรถช่วยป้องกันการสูญเสียการควบคุมและลื่นไถลเพิ่มความมั่นคงในการขับขี่ นอกจากนี้ยังมีระบบตรวจสอบความดันลมยางช่วยให้ผู้ขับขี่ทราบสถานะลมยางแบบเรียลไทม์ป้องกันอันตรายจากลมยางผิดปกติ ถุงลมนิรภัยคู่หน้าให้การปกป้องสำคัญแก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ด้านระบบเบรกมีประสิทธิภาพสูงลดการเสื่อมประสิทธิภาพเมื่อใช้งานหนัก Audi ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงทั้งระบบควบคุมวาล์ว ระบบควบคุมเกียร์และระบบควบคุมเบรก ช่วยให้กำลังเครื่องยนต์ไหลลื่นและเกียร์เปลี่ยนอย่างนุ่มนวลมอบประสบการณ์ขับขี่ที่ยอดเยี่ยม ภายในใช้วัสดุคุณภาพสูงดีไซน์โดดเด่นพร้อมเทคโนโลยีทันสมัยเพื่อความสะดวกสบายและความหรูหรา ดีไซน์ภายนอกเรียบง่ายแต่ดูมีสไตล์และโดดเด่น พร้อมบริการก่อนและหลังการขายที่ครบครัน
Q
ความแตกต่างระหว่าง Audi TT coupe และ roadster คืออะไร
Audi TT Coupe เป็นรถสปอร์ตคูเป้หลังคาแข็ง 2 ประตูโดยปกติมี 4 ที่นั่งแม้ว่าพื้นที่เบาะหลังอาจจะแคบ ส่วนรุ่น Convertible เป็นหลังคาผ้าเปิดประทุนมี 2 ที่นั่ง ด้านสมรรถนะรุ่นเปิดประทุนจะมีน้ำหนักรถเพิ่มขึ้นจากระบบเปิดหลังคาทำให้เร่งความเร็วได้ช้ากว่ารุ่นคูเป้ เช่น รุ่น 2020 Audi TT Roadster 2.0 45 TFSI Quattro S line มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ประมาณ 5.6 วินาที ส่วนรุ่นหลังคาแข็งอาจจะเร็วกว่านี้ ในแง่ดีไซน์รุ่น Coupe มีเส้นสายตัวถังที่ลื่นไหลและแข็งแรง ส่วนรุ่น Convertible มอบประสบการณ์ขับขี่เปิดประทุนและมุมมองเปิดกว้าง หลังคาผ้าใช้เวลาเปิดปิดเพียง 10 วินาทีและสามารถทำงานได้ที่ความเร็วสูงสุด 50 กม./ชม. ทั้งสองรุ่นใช้เครื่องยนต์ 2.0 TFSI เทอร์โบ 4 สูบ ให้กำลังแรงขับที่ดีไม่แตกต่างกันมาก
Q
Audi TT Roadster เป็นรถที่ดีหรือไม่
Audi TT Roadster เป็นรถยนต์ที่น่าสนใจด้วยดีไซน์โดดเด่นหลังคาผ้าเปิดปิดได้ในเวลาเพียง 10 วินาทีและสามารถทำงานได้ขณะขับขี่ที่ความเร็วถึง 50 กม./ชม. มอบบรรยากาศการขับขี่แบบอิสระ ในด้านสมรรถนะรถมีความเร็วสูงสุดถึง 250 กม./ชม. ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 2.0 TFSI พร้อมเกียร์อัตโนมัติและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro ให้พละกำลังและการยึดเกาะถนนที่ยอดเยี่ยม สามารถเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาประมาณ 5.5 วินาที ระบบควบคุมการเลี้ยวอัจฉริยะช่วยเพิ่มความมั่นคงในการเข้าโค้ง ระบบช่วงล่างมาตรฐานให้ความนุ่มนวลลดแรงสั่นสะเทือนและควบคุมการโคลงตัวได้ดี ภายในติดตั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้าและสัญญาณเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยเพื่อความปลอดภัย ราคาอยู่ระหว่าง 3.6 ถึง 3.699 ล้านบาท หากคุณต้องการความสนุกในการขับขี่และประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร Audi TT Roadster คือทางเลือกที่ควรพิจารณา
Q
ราคาอาวดี้ TT Roadster เท่าไหร่
Audi TT Roadster มีหลายรุ่นตามปีที่ผลิต โดยมีระดับราคาที่แตกต่างกัน เช่น รุ่นปี 2021 Audi TT Roadster 45 TFSI quattro S line ราคา 3699000 บาท และรุ่นปี 2020 Audi TT Roadster 2.0 45 TFSI Quattro S line ราคา 3600000 บาท ซึ่งราคารถยนต์อาจผันผวนตามปัจจัยหลายด้าน เช่น ความต้องการของตลาด ความแตกต่างด้านอุปกรณ์ หรือแคมเปญส่งเสริมการขายต่างๆ เมื่อต้องการซื้อรถ แนะนำให้สอบถามข้อมูลจากผู้จำหน่ายในพื้นที่เพื่อให้ได้ราคาที่แม่นยำที่สุด เนื่องจากรุ่นที่มีอุปกรณ์และระบบขับเคลื่อนต่างกันจะมีผลต่อราคา ผู้ซื้อควรเลือกให้เหมาะกับความต้องการและงบประมาณของตนเอง
Q&A ล่าสุด
Q
Jaecoo 7 มีซันรูฟหรือไม่?
รถยนต์รุ่น Jaecoo 7 ที่วางตำแหน่งเป็น SUV ระดับพรีเมียมในตลาดประเทศไทย ได้ติดตั้งระบบซันรูฟแบบพาโนราม่าที่ไม่เพียงช่วยเพิ่มแสงสว่างภายในรถ แต่ยังมอบประสบการณ์การนั่งที่โปร่งสบายเหมาะกับสภาพอากาศร้อนของไทย โดยเฉพาะเมื่อขับชมวิวภูเขาที่เชียงใหม่หรือเส้นทางชายฝั่งพัทยา อย่างไรก็ตาม เนื่องจากประเทศไทยมีอากาศร้อนและฝนตกชุกระยะยาว ขอแนะนำให้เจ้าของรถตรวจสอบสภาพยางซีลของซันรูฟเป็นประจำ และหลีกเลี่ยงการเปิดซันรูฟทันทีหลังจากจอดรถตากแดดเป็นเวลานานเพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของชิ้นส่วนยาง นอกจากนี้ตัวแทนจำหน่ายบางแห่งอาจมีบริการอัพเกรดกระจกป้องกันรังสียูวีให้ด้วย เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน การติดตั้งซันรูฟอาจแตกต่างกันไปตามเวอร์ชัน ดังนั้นควรตรวจสอบสเปคอย่างละเอียดบนเว็บไซต์ทางการของ Jaecoo ประเทศไทย หรือทดลองสักการะที่โชว์รูมในกรุงเทพฯหรือภูเก็ตก่อนตัดสินใจ ซันรูฟจะช่วยบรรเทาความอึดอัดภายในรถในช่วงฤดูฝนได้มาก แต่ควรทราบว่ารุ่นระดับพื้นฐานบางรุ่นอาจไม่รวมฟีเจอร์นี้มาให้
Q
Jaecoo 7 มีติดตั้งกล้องหน้ารถหรือไม่?
รถยนต์ Jaecoo 7 ในรุ่นปัจจุบันยังไม่มีระบบกล้องติดรถยนต์ (dashcam) มาให้ในตัว แต่เจ้าของรถสามารถซื้ออุปกรณ์เสริมจากร้านอื่นมาติดตั้งเองได้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติมากในตลาดเมืองไทย ร้านขายอุปกรณ์รถยนต์หรือเว็บขายของออนไลน์ก็มีกล้องให้เลือกเพียบ แนะนำให้เลือกรุ่นที่ถ่ายภาพความละเอียดสูงคุณภาพกลางคืนก็เห็นชัด และมีระบบบันทึกวนลูปเพื่อความปลอดภัยเวลาขับรถ ส่วนในไทยเนี่ย กล้องติดรถยนต์ถือเป็นไอเทมจำเป็นมาก เพราะช่วยบันทึกอุบัติเหตุเวลามีเรื่องรวมถึงรับมือสภาพการจราจรวุ่นวาย เช่น รถติดหนักในกรุงเทพฯ หรือมอเตอร์ไซค์ตัดหน้ากะทันหัน บางรุ่นแพงหน่อยยังมีฟังก์ชัน GPS กับระบบบันทึกตอนจอดรถเหมาะกับอากาศเมืองไทยทั้งร้อนทั้งฝน นอกจากนี้ แม้ว่ากฎหมายไทยจะไม่ได้บังคับให้ติดตั้งกล้องบันทึกการขับขี่ แต่ตํารวจมักจะอ้างอิงหลักฐานวิดีโอเมื่อจัดการกับอุบัติเหตุ ดังนั้นการติดตั้งอุปกรณ์ที่คุ้มค่าจึงเป็นทางเลือกที่ฉลาด เมื่อติดตั้งให้ใส่ใจกับการเดินสายที่ซ่อนอยู่เพื่อหลีกเลี่ยงการบดบังสายตาหรือส่งผลกระทบต่อการทํางานของถุงลมนิรภัย
Q
Jaecoo J7 เหมาะสำหรับการขับขี่แบบออฟโรดหรือไม่?
Jaecoo J7 นับเป็น SUV ที่ตอบโจทย์การขับขี่แบบ Light Off-Road ในสภาพแวดล้อมหลายภูมิประเทศของไทย ด้วยระยะความสูงจากพื้นรถขั้นต่ำ 215 มม. มุมเข้า 24 องศา และมุมออก 30 องศา ที่ออกแบบมาเพื่อรับมือกับถนนลูกรัง ทางดินลาดชัน หรือเส้นทางที่มีน้ำขังเล็กน้อยได้อย่างคล่องตัว ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะร่วมกับโหมดขับขี่หลายภูมิประเทศ (โหมดโคลน/ทราย/หิมะ) ช่วยเพิ่มความมั่นใจบนเส้นทางชนบทช่วงฤดูฝนหรือแถบภูเขาภาคเหนือ แต่อย่าลืมว่าเจ้า J7 นี้ไม่ใช่รถออฟโรดระดับฮาร์ดคอร์ ถ้าจะไปลุยดอยเชียงใหม่หรือโคลนลึกๆ แนะนำให้มองหารถที่เชี่ยวชาญด้านออฟโรดโดยเฉพาะจะเหมาะกว่า สำหรับคนไทยแล้ว จุดเด่นของ J7 อยู่ที่การผสมผสานระหว่างการใช้งานในเมืองกับทริปสั้นๆ วันหยุด เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.6L ให้แรงบิดต่ำที่เพียงพอสำหรับการสตาร์ต-ดับเครื่องบ่อยครั้ง ส่วนระบบกล้องรอบทิศทาง 540 องศาก็ช่วยได้มากเวลาจอดในซอยแคบๆ แต่ถ้าคิดจะลุยกลางป่าหรือทางวิบากเป็นประจำ แนะนำให้อัพเกรดยาง AT และเสริมการป้องกันช่วงล่างจะดีกว่า ในตลาดไทย รุ่นใกล้เคียงมักเน้นความ Multifunctional มากกว่าการออฟโรดสุดโต่ง แนะนำให้เลือกตามความถี่ของการใช้งานจริง ถ้าแค่ลุยเบาๆ เป็นครั้งคราว J7 ก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าอยากลุยหนักจริงๆ อาจต้องมองหารถที่ออกแบบมาสำหรับออฟโรดโดยเฉพาะหรือปรับแต่งเพิ่มเติม
Q
ระยะทางของแบตเตอรี่ใน Jaecoo J7 คือเท่าไหร่?
สำหรับรถ SUV อย่าง Jaecoo J7 ที่ออกแบบมาสำหรับตลาดเกิดใหม่ ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่จะแตกต่างกันไปตามการกำหนดค่าและสภาพการขับขี่ ในสภาพอากาศร้อนของไทยและเส้นทางแบบผสม รุ่น Pure Electric คาดว่าจะให้ระยะทางประมาณ 400-450 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) ซึ่งเพียงพอสำหรับการเดินทางในกรุงเทพฯ หรือทริปสั้นๆ ส่วนรุ่นปลั๊กอินไฮบริดนั้นสามารถวิ่งได้ไกลถึง 800 กิโลเมตรขึ้นไป เหมาะมากสำหรับคนไทยที่ชอบเดินทางไกล อย่างไรก็ตาม อากาศร้อนของไทยอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพแบตเตอรี่ แนะนำให้ตรวจสอบระบบระบายความร้อนเป็นประจำ และควรจอดรถในที่ร่มเพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ ตอนนี้รัฐบาลไทยกำลังส่งเสริมรถไฟฟ้าอย่างเต็มที่ การซื้อ Jaecoo J7 รุ่นไฟฟ้าจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีสูงสุด 150,000 บาท และสถานีชาร์จในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ๆ ก็กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้ใช้งานสะดวกขึ้นเรื่อยๆ สำหรับคนไทยที่สนใจ นอกจากจะดูตัวเลขระยะทางตามที่ประกาศแล้ว ควรคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ ด้วย เช่น การใช้แอร์ การจราจรติดขัด แนะนำให้ทดลองขับและสังเกตการทำงานของระบบจัดการแบตเตอรี่ในสภาพอากาศของไทยให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ
Q
Jaecoo J7 มีระบบช่วยจอดหรือไม่?
Jaecoo J7 ได้รับการติดตั้งระบบ Park Assist (ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ) ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ใช้งานได้จริงในสภาพแวดล้อมการจอดรถที่ซับซ้อนของเมืองไทย โดยเฉพาะในพื้นที่อย่างกรุงเทพฯ ที่ช่องจอดรถมักคับแคบ ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถจอดรถแนวขนานและจอดแนวตั้งได้อย่างง่ายดาย พร้อมลดความเสี่ยงการเกิดรอยขีดข่วน ระบบ Park Assist นี้ใช้เซ็นเซอร์อัลตราโซนิกรอบคันรถเพื่อจดจำช่องจอดที่ว่างได้เอง และควบคุมพวงมาลัยเพื่อดำเนินการจอดรถอัตโนมัติ ผู้ขับขี่เพียงทำตามคำแนะนำเพื่อควบคุมเกียร์และเบรก นอกจาก Park Assist แล้ว Jaecoo J7 ยังมาพร้อมระบบช่วยขับขี่อื่นๆ เช่น กล้องรอบทิศทาง 360 องศา และระบบเตือนจุดบอด ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่บนถนนที่แออัดของไทย สำหรับผู้บริโภคไทย ฟีเจอร์ช่วยขับขี่อัจฉริยะเหล่านี้ไม่เพียงช่วยลดความเครียดในการจอดรถประจำวัน แต่ยังเหมาะกับสภาพถนนหลากหลายแบบของไทย ไม่ว่าจะเป็นถนนลื่นในช่วงฤดูฝนหรือการมองเห็นที่ลดลงในเวลากลางคืน ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งความสะดวกและความปลอดภัย
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Audi Concept C เผยโฉม: ก้าวใหม่ของดีไซน์สปอร์ตไฟฟ้า ที่อาจแซงหน้า Tesla Roadster
สุรเดชSep 5, 2025

AUDI E5 Sportback เริ่มเปิดให้จองล่วงหน้าในประเทศจีน แบรนด์หรูยังถูกบีบบังคับให้เข้าร่วมการแข่งขันด้านราคาต่ำ
พงศธรAug 20, 2025

Audi Q3 2026 จะมีการเปลี่ยนแปลงด้านการออกแบบครั้งใหญ่หรือไม่? การปรับเปลี่ยนคันเกียร์ก่อให้เกิดข้อโต้แย้ง
AshleyJun 25, 2025

Audi Q3 เจเนอเรชันใหม่เปิดตัวทั่วโลก 16 มิถุนายน 2025 มาพร้อมนวัตกรรมหลากหลายด้าน
LienJun 13, 2025

Audi A5 เปิดตัวรุ่น PHEV เป็นครั้งแรก โดยสามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้เร็วสุดในเวลาเพียง 5.1 วิ
ธนวัฒน์Mar 27, 2025
ดูเพิ่มเติม


ข้อดี
ข้อเสีย