Q

Yangwang U8 มีแรงม้าเท่าไหร่

รถยนต์ Yangwang U8 มาพร้อมเครื่องยนต์ที่ให้กำลังสูงสุด 272 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 1196 แรงม้า รวมกำลังสูงสุดทั้งระบบที่ 1197 แรงม้า กำลังสูงสุดรวมอยู่ที่ 880 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 1280 นิวตันเมตร ด้วยพลังขับเคลื่อนที่ทรงพลังนี้ ทำให้ Yangwang U8 มีสมรรถนะโดดเด่น อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รุ่น Luxury ใช้เวลาเพียง 36 วินาที รุ่น Off-road Player ใช้เวลา 39 วินาที ถือว่าโดดเด่นในกลุ่ม SUV ขนาดใหญ่ กำลังที่แข็งแกร่งช่วยให้ขับขี่ได้อย่างมั่นใจทั้งในเมือง ขณะเร่งแซง หรือเผชิญเส้นทางออฟโรดที่ท้าทาย
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
BYD Yangwang U8 ใช้แบตเตอรี่ประเภทอะไร
BYD หยางหวัง U8 ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอรอนฟอสเฟตขนาด 4905 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งมีข้อได้เปรียบหลายด้านและช่วยเสริมสมรรถนะของรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนได้ไกลถึง 180 กิโลเมตรตามมาตรฐาน CLTC เมื่อทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ 20 เทอร์โบและถังน้ำมันขนาด 75 ลิตร จะได้ระยะทางรวมสูงสุดถึง 1000 กิโลเมตร รองรับทั้งการขับขี่ในเมืองและการเดินทางไกล ด้านการชาร์จแบบเร็ว DC จาก 30 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ใช้เวลาเพียง 18 นาที ลดระยะเวลารอคอยอย่างมีนัยสำคัญ แบตเตอรี่ชนิดนี้ยังมีความปลอดภัยและเสถียรภาพสูง เพิ่มความมั่นใจในการใช้งาน ร่วมกับระบบขับเคลื่อน E4 และเทคโนโลยีล้ำสมัยอื่นๆ มอบประสบการณ์ขับขี่ที่ยอดเยี่ยมแก่ผู้ขับขี่
Q
u8 มีขนาดเท่าไหร่?
BYD Yangwang U8 เป็นรถ SUV ไฟฟ้าระดับหรูขนาดเต็ม มาพร้อมขนาดตัวถังยาว 5319 มิลลิเมตร กว้าง 2050 มิลลิเมตร สูง 1930 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 3050 มิลลิเมตร มอบพื้นที่ภายในกว้างขวาง เหมาะทั้งสำหรับครอบครัวระดับพรีเมียมหรือการใช้งานเชิงธุรกิจ ตัวรถใช้ระบบขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าอิสระทั้ง 4 ล้อ อัตราเร่ง 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 3.6 วินาที รองรับระยะทางวิ่งไฟฟ้าล้วนตามมาตรฐาน CLTC กว่า 1000 กิโลเมตร มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น ระบบหมุนกลับตัวในที่แคบด้วยการบังคับล้อแยก และโหมดฉุกเฉินลอยน้ำเพื่อฝ่าทางน้ำลึก ในตลาดประเทศไทย กลุ่มรถ SUV ไฟฟ้าระดับหรูยังคงถูกครองโดย Mercedes-Benz EQS SUV และ Tesla Model X หาก Yangwang U8 เปิดตัวในไทยในอนาคต คาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่โดดเด่นในด้านสมรรถนะและความล้ำหน้าทางเทคโนโลยี
Q
Yangwang U8 ทำงานอย่างไร
Yangwang U8 เป็นรถ SUV ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์จากจีนภายใต้แบรนด์ BYD มาพร้อมระบบขับเคลื่อนแบบปลั๊กอินไฮบริด PHEV ผสานมอเตอร์ไฟฟ้าสี่ล้อและระบบควบคุมตัวถังอัจฉริยะ มอบสมรรถนะและความสามารถในการลุยทางวิบากได้อย่างยอดเยี่ยม ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 20 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้าสี่ตัวที่แยกขับแต่ละล้อ ให้กำลังรวมกว่า 1100 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเพียง 39 วินาที วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ 180 กิโลเมตรตามมาตรฐาน CLTC รองรับการชาร์จเร็วและการจ่ายไฟออกภายนอก ใช้ระบบขับเคลื่อน E⁴ หรือ DMO ที่ควบคุมมอเตอร์แยกแต่ละล้ออย่างแม่นยำ ทำให้สามารถหมุนกลับทิศในที่แคบและลุยน้ำได้ด้วยมาตรฐานกันน้ำ IP68 พร้อมช่วงล่างอัจฉริยะแบบไฮดรอลิก Cloud-P ที่ปรับระดับความสูงและแรงหน่วงได้ตามสภาพถนน ช่วยให้การขับขี่ทั้งทางเรียบและทางวิบากเป็นไปอย่างมั่นใจและสะดวกสบาย
Q
Yangwang U8 เป็นแก๊สหรือไฟฟ้า
Yangwang U8 เป็นรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดที่ผสานข้อดีของเครื่องยนต์น้ำมันและระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเข้าด้วยกัน ระบบขับเคลื่อนลักษณะนี้ช่วยให้รถมีพลังแรงขับที่สูงพร้อมทั้งประหยัดน้ำมันและลดการปล่อยมลพิษ รถปลั๊กอินไฮบริดสามารถขับเคลื่อนด้วยโหมดไฟฟ้าล้วนในระยะทางสั้นๆ ในชีวิตประจำวัน โดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ลดการพึ่งพาน้ำมันและช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายพร้อมลดมลพิษ แต่หากเดินทางไกลหรือแบตเตอรี่ใกล้หมด เครื่องยนต์น้ำมันจะเข้าทำงานเพื่อเสริมพลัง ช่วยขจัดความกังวลเรื่องระยะทางขับเคลื่อนของรถไฟฟ้าล้วน การผสมผสานสองแหล่งพลังงานอย่างลงตัวทำให้การใช้งาน Yangwang U8 สะดวกและยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น
Q
BYD Yangwang U8 มีระยะทางเฉลี่ยเท่าไหร่
BYD Yangwang U8 รุ่น Luxury มีระยะทางวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนสูงสุด 180 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC และระยะทางวิ่งรวมสูงสุด 1000 กิโลเมตร CLTC หรือ China Light-duty Vehicle Test Cycle เป็นมาตรฐานการทดสอบที่จำลองการขับขี่บนถนนจริงเพื่อประเมินการใช้พลังงานและระยะทางได้แม่นยำยิ่งขึ้น การทราบระยะทางวิ่งของรถเป็นสิ่งสำคัญ ช่วยให้ผู้ขับวางแผนการเดินทางล่วงหน้าและรู้ว่าควรชาร์จเมื่อใด อย่างไรก็ตามพฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน น้ำหนักบรรทุก และการใช้ระบบไฟฟ้าภายในรถ ล้วนส่งผลต่อระยะทางวิ่งจริง เช่น การขับขี่แบบเร่งแรง การหยุดและออกตัวบ่อย หรือการเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าหลายอย่าง อาจทำให้ระยะทางวิ่งจริงน้อยกว่าค่าที่ประกาศไว้
Q
Yangwang U8 มีการรับประกันตลอดชีวิตอย่างไร
ยางหวัง U8 ให้แพ็กเกจประกันที่ครอบคลุม โดยให้ประกันรถยนต์แบบขยายระยะเวลา 6 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตรสำหรับรถทั้งคัน สำหรับเจ้าของคนแรก ระบบสามไฟฟ้า (แบตเตอรี่ มอเตอร์ และระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์) ได้รับการประกันตลอดอายุการใช้งาน ซึ่งหมายความว่าหากเกิดข้อบกพร่องหรือขัดข้องในส่วนประกอบหลักเหล่านี้ระหว่างการใช้งานปกติ ผู้ผลิตจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ นอกจากนี้ เจ้าของรถยังสามารถรับบริการบำรุงรักษาฟรีเป็นระยะเวลา 8 ปีหรือ 15 ครั้ง เพื่อให้รถอยู่ในสภาพดีและได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมในระยะยาว พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนฟรีเป็นเวลา 8 ปี เพื่อความอุ่นใจระหว่างการเดินทาง นอกจากนี้ยังมีสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น บริการรับ-ส่งรถฟรีเพื่อการบำรุงรักษา การติดตั้งสถานีชาร์จฟรี (สำหรับเจ้าของคนแรก) และข้อมูลเครือข่ายรถยนต์ 5G ฟรีเป็นเวลา 10 ปี มาตรการเหล่านี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของยางหวังในการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าและความมั่นใจในคุณภาพของ U8
Q
U8 มีขีดจำกัดเป็นอย่างไร
U8 อาจมีข้อจำกัดบางประการ ประการแรกคือจุดบอดสายตา การออกแบบเสา A และกระจกมองข้างก่อให้เกิดจุดบอดขนาดใหญ่ ส่งผลต่อการมองเห็นสภาพการจราจรรอบด้าน โดยเฉพาะขณะเลี้ยวหรือเปลี่ยนเลน ซึ่งอาจกระทบต่อความปลอดภัยและความสะดวกในการขับขี่ ประการต่อมาคือด้านการออกแบบ ผู้ใช้บางรายมองว่ารายละเอียดบางจุด เช่น สัญลักษณ์ภายนอกและช่องแอร์ภายใน มีความแหวกแนว ไม่สอดคล้องกับรสนิยมของผู้บริโภคส่วนใหญ่ อีกทั้งด้วยราคาจำหน่ายระดับหลายล้านบาท เมื่อเทียบกับรถทั่วไป อาจทำให้ผู้บริโภคจำนวนมากลังเล ส่งผลให้กลุ่มเป้าหมายจำกัดเฉพาะผู้ที่มีงบประมาณสูง
Q
Yangwang U8 มันเป็นรถหรือไฮบริดหรือไม่
Yangwang U8 เป็นรถยนต์ไฮบริดแบบเพิ่มระยะทางหรือเรียกได้ว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่มีเครื่องยนต์ช่วยชาร์จแบตเตอรี่โดยใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก ตัวรถติดตั้งระบบขยายระยะทางซึ่งประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 200 กิโลวัตต์ และมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว กำลังรวม 880 กิโลวัตต์ อัตราเร่ง 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 3.9 วินาที ระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าตามมาตรฐาน CLTC อยู่ที่ 120 กิโลเมตร และระยะทางรวมสูงสุด 780 กิโลเมตร ระบบขับเคลื่อนแบบนี้ช่วยให้รถมีสมรรถนะและความเงียบแบบรถไฟฟ้า พร้อมทั้งลดความกังวลเรื่องระยะทางด้วยเครื่องยนต์ที่ช่วยชาร์จ จึงเหมาะทั้งสำหรับการขับขี่ในเมืองแบบไฟฟ้าล้วนและการเดินทางไกลที่ต้องการความต่อเนื่อง
Q
ใช้เวลานานเท่าไหร่ในการชาร์จ Yangwang U8
Yangwang U8 รองรับการชาร์จเร็วแบบกระแสตรงสูงสุด 110 กิโลวัตต์ โดยสามารถชาร์จจาก 30 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ได้ภายในเวลาเพียง 18 นาทีในกรณีเร่งด่วน ส่วนการชาร์จแบบธรรมดาจะใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง ครอบคลุมช่วงแบตเตอรี่ตั้งแต่ 15 ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ ระยะเวลาชาร์จจริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับกำลังของอุปกรณ์ชาร์จ ระดับพลังงานคงเหลือของแบตเตอรี่ และสภาพของแบตเตอรี่เอง หากใช้อุปกรณ์ที่มีกำลังต่ำกว่าหรือแบตเตอรี่มีอายุการใช้งานนานแล้ว ระยะเวลาชาร์จจะเพิ่มขึ้น การเข้าใจข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้สามารถวางแผนการเดินทางและการชาร์จได้สะดวกยิ่งขึ้น
Q
U8 มีความเร็วสูงสุดเท่าใด
Yangwang U8 พัฒนาบนแพลตฟอร์ม e⁴ โดยรุ่น U8L มีกำลังรวมสูงถึง 880 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 1280 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใช้เวลาเพียง 3.6 วินาที อย่างไรก็ตามยังไม่มีการประกาศความเร็วสูงสุดอย่างเป็นทางการ โดยปกติความเร็วสูงสุดของรถจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น กำลังของระบบขับเคลื่อน ประสิทธิภาพการส่งกำลัง การออกแบบแอโรไดนามิกส์ของตัวถัง รวมถึงสมรรถนะของยาง เบรก และการตั้งค่าด้านความปลอดภัยต่างๆ จากสมรรถนะของตัวรถคาดว่าความเร็วสูงสุดจะอยู่ในระดับสูง แพลตฟอร์ม e⁴ ยังมาพร้อมเทคโนโลยีควบคุมแรงบิดแบบแยกแต่ละล้อ ช่วยให้สามารถควบคุมแรงส่งไปยังแต่ละล้อได้อย่างแม่นยำแม้ในความเร็วสูง เพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ อย่างไรก็ตามเพื่อความปลอดภัยไม่แนะนำให้ทดลองขับรถที่ความเร็วสูงสุดในสถานการณ์จริง

ข้อดี

การออกแบบที่น่าทึ่งรวมเทคโนโลยีสมัยใหม่กับสไตล์ที่แข็งแรง
ห้องในรถกว้างขวางเพื่อการใช้งานครอบครัวหรือธุรกิจอย่างสบายดี
กำลังขับเคลื่อนที่แข็งแรงนำมาซึ่งการเร่งความเร็วอย่างรวดเร็วและการขับรถที่ราบรื่น
ระยะทางการขับได้ที่ดีเพียงพอต่อการเดินทางประจำวันและการเดินทางระยะไกล
ห้องในรถหรูหราโดยใช้วัสดุคุณภาพสูงและที่นั่งให้ความสบาย
คุณสมบัติปัญญาประกอบขั้นสูงเพิ่มประสบการณ์การขับรถ

ข้อเสีย

ฟีเจอร์เทคโนโลยีล้ำบางอย่างอาจใช้งานจริงได้ไม่สะดวกเท่าที่คาด
ระบบอินโฟเทนเมนต์ในรถมีข้อบกพร่องด้านการใช้งาน และตอบสนองช้า
ราคาสูง อาจเป็นอุปสรรคสำหรับผู้บริโภคบางกลุ่ม
ขนาดตัวรถใหญ่ ทำให้ขับหรือจอดในพื้นที่แคบได้ยาก
การเก็บแรงสั่นสะเทือนตอนขับความเร็วต่ำยังทำได้ไม่ดีนัก
ความจุถังน้ำมันอาจไม่เพียงพอสำหรับการเดินทางไกล

Q&A ล่าสุด

Q
Jaecoo J7 เติมน้ำมันเต็มถังวิ่งได้กี่กิโลเมตร?
สำหรับรถ SUV อย่าง Jaecoo J7 ที่ออกแบบมาสำหรับการเดินทางในเมือง ระยะทางเต็มถังจะขึ้นอยู่กับสภาพถนนในไทย นิสัยการขับขี่ และคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิง โดยทั่วไปในสภาพการขับขี่แบบผสมผสานในเมือง ด้วยความจุถังเชื้อเพลิงประมาณ 50-55 ลิตร และประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันของเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5T คาดว่าระยะทางเต็มถังจะอยู่ที่ประมาณ 500-600 กิโลเมตร แต่แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลอย่างเป็นทางการจากผลทดสอบมาตรฐาน TCOS ที่ประกาศในประเทศไทย สำหรับผู้ใช้ในไทย สภาพการจราจรที่ติดขัดบ่อยในกรุงเทพฯ อาจทำให้ระยะทางจริงน้อยกว่าที่ระบุไว้ ส่วนการขับขี่ทางไกลบนทางหลวงอาจประหยัดน้ำมันมากกว่า ข้อควรระวังคือในสภาพอากาศร้อนของไทย ควรตรวจสอบความแน่นหนาของระบบเชื้อเพลิงเป็นประจำเพื่อป้องกันปัญหาอากาศในท่อน้ำมันที่อาจส่งผลต่อระยะทาง และควรใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเกรด 95 ขึ้นไปเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุดของเครื่องยนต์ หากต้องการเพิ่มระยะทางให้มากขึ้น สามารถทำได้โดยรักษาความดันลมยางที่เหมาะสม (ในสภาพอากาศร้อนของไทยแนะนำให้ต่ำกว่าค่ามาตรฐาน 0.1-0.2 บาร์) และหลีกเลี่ยงการเร่งเครื่องอย่างรุนแรง ซึ่งเทคนิคเหล่านี้สำคัญเป็นพิเศษเมื่อขับขี่ในพื้นที่ที่มีทางลาดชันเช่นเชียงใหม่หรือภูเขาที่ภูเก็ต
Q
ความเร็วสูงสุดของ JAECOO J7 คือเท่าไร?
JAECOO J7 เป็น SUV ที่เน้นสมรรถนะสปอร์ต ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 200 กม./ชม. ซึ่งถือว่าโดดเด่นในรุ่นเดียวกัน ช่วยตอบโจทย์คนไทยที่ชอบการขับขี่ความเร็วสูง ไม่ว่าจะเป็นบนทางด่วนรอบกรุงเทพฯ หรือเส้นทางคดเคี้ยวในเชียงใหม่ ก็ให้กำลังส่งที่มั่นคงได้อย่างดี เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 1.6T คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ไม่เพียงให้กำลังแรงเท่านั้น แต่ยังประหยัดน้ำมัน เหมาะสมกับสภาพถนนและการจราจรที่หลากหลายของไทย แถมยังมีโหมดขับขี่ให้เลือกหลากหลาย ทั้งโหมดสปอร์ต โหมดประหยัด และโหมดมาตรฐาน ช่วยให้ปรับการขับขี่ตามสภาพถนนได้อย่างคล่องตัว เพิ่มความสนุกในการขับขี่ อีกทั้งระบบระบายความร้อนที่ออกแบบมาอย่างมีประสิทธิภาพของ JAECOO J7 ยังช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพแม้ต้องขับเร็วเป็นเวลานานในสภาพอากาศร้อนของไทย สำหรับคนไทยที่มองหารถสมรรถนะดีแต่ยังคงความใช้งานได้จริง JAECOO J7 นับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะนอกจากความเร็วสูงแล้ว ยังมาพร้อมความปลอดภัยและความสบายที่ครบครัน
Q
Jaecoo 7 มีเบาะที่นั่งแบบปรับอุณหภูมิได้หรือไม่?
สำหรับรถ Jaecoo 7 นั้น ในข้อมูลสเปคอย่างเป็นทางการระบุว่ามีระบบทำความร้อนเบาะหน้าให้ในรุ่นท็อป ซึ่งฟีเจอร์นี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่โดยเฉพาะเมื่อต้องไปในเขตพื้นที่ภูเขาที่อากาศเย็นหรือช่วงฤดูฝนของไทย แต่แนะนำให้ผู้ซื้อตรวจสอบสเปครุ่นที่เลือกซื้อกับตัวแทนจำหน่ายอีกครั้งเพราะแต่ละรุ่นอาจมีฟีเจอร์แตกต่างกัน ปัจจุบันระบบทำความร้อนเบาะถือเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถ SUV หลายรุ่น โดยเฉพาะรุ่นระดับพรีเมี่ยม หลักการทำงานคือใช้ลวดความร้อนที่ฝังในเบาะซึ่งสามารถทำให้ร้อนถึงอุณหภูมิที่เหมาะสมภายในไม่กี่นาที นอกจากนี้สำหรับคนไทยอาจจะสนใจฟีเจอร์เบาะระบายอากาศที่ช่วยเพิ่มความสบายในสภาพอากาศร้อนด้วย แนะนำให้ลองทดสอบการใช้งานจริงระหว่างทดลองขับรถ และพิจารณาตามความต้องการใช้งานรวมถึงงบประมาณที่มี เพราะฟีเจอร์เหล่านี้จะช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ได้อย่างมาก
Q
"ระยะทางไฟฟ้าบริสุทธิ์ของ Jaecoo 7 คือเท่าไหร่?
Jaecoo 7 เป็น SUV แบบปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ที่มาแรง ในโหมดไฟฟ้าสามารถวิ่งได้ประมาณ 80-100 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมืองในไทยโดยเฉพาะ ช่วยแก้ปัญหารถติดในกรุงเทพฯ เพราะการเดินทางระยะสั้นๆ ในเมืองใช้โหมดไฟฟ้าล้วนก็เพียงพอ ทั้งประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ต้องระวังเรื่องอากาศร้อนของไทยที่อาจส่งผลต่อแบตเตอรี่ แนะนำให้จอดรถในที่ร่มหรือใต้ตึกเพื่อรักษาประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ให้ดีที่สุด ตอนนี้รถไฮบริดกำลังเป็นที่นิยมในไทย เพราะให้ความรู้สึกสงบเรียบเหมือนรถไฟฟ้า แถมยังไม่ต้องกังวลเรื่องสถานีชาร์จเวลาทำทางไกล โดยเฉพาะการเดินทางระหว่างเมืองอย่างจากกรุงเทพไปพัทยา โหมดไฮบริดจะช่วยลดการใช้น้ำมันได้มาก ที่สำคัญ รัฐบาลไทยกำลังสนับสนุนรถพลังงานสะอาดอย่างเต็มที่ ถ้าซื้อ PHEV แบบ Jaecoo 7 ก็จะได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ส่วนสถานีชาร์จก็มีเพียบ ทั้งในห้างสรรพสินค้าและปั๊มน้ำมัน ถือเป็นข่าวดีสำหรับคนที่กำลังมองหารุ่นนี้อยู่
Q
Jaecoo 7 มีเบาะนั่งที่ปรับความจำได้หรือไม่?
สำหรับข้อมูลเรื่อง Jaecoo 7 ที่มีฟังก์ชันความจำตำแหน่งเบาะหรือไม่ ตอนนี้ข้อมูลทางการระบุว่ารุ่นท็อปมาพร้อมกับที่นั่งหน่วยความจำที่เบาะคนขับ สามารถบันทึกการตั้งค่าตำแหน่งได้หลายแบบ ช่วยให้ปรับท่านั่งได้รวดเร็วเมื่อเปลี่ยนคนขับ ซึ่งเหมาะมากสำหรับการใช้รถร่วมกันในครอบครัวใหญ่แบบบ้านเรา ส่วนมากแล้วฟังก์ชันนี้จะทำงานร่วมกับการปรับเบาะไฟฟ้าและปรับกระจกมองหลังอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายเวลาใช้รถ โดยเฉพาะคนที่ต้องสลับขับกันบ่อยๆ แถมในเมืองร้อนแบบไทย บางรุ่นแพ็คเกจสูงอาจมีระบบเชื่อมโยงกับแอร์ในรถ ให้ปรับทุกอย่างอัตโนมัติตามที่ตั้งไว้ตั้งแต่แรก เวลาขึ้นรถมาก็เจอสภาพแวดล้อมที่สบายๆ แนะนำให้คนไทยที่สนใจเช็คข้อมูลสเปกแบบละเอียดในเว็บ Jaecoo ประเทศไทย หรือไม่ก็ไปทดลองขับที่ตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้าน ฟังก์ชันนี้ช่วยเพิ่มความสบายเวลาเดินทางไกลได้ชัดเจน แต่ต้องดูให้ดีว่ารุ่นที่ซื้อมีระบบนี้หรือเปล่า เพราะแต่ละเวอร์ชันอาจต่างกัน อีกเรื่องที่ควรสนใจคือความทนทานของมอเตอร์ที่นั่งหน่วยความจำ และการใช้งานจริงในสภาพอากาศร้อนชื้นแบบไทย ควรทดสอบให้แน่ใจว่าใช้ไปนานๆ แล้วยังทำงานลื่นไหลเหมือนเดิม
ดูเพิ่มเติม