Q
รถ Chevrolet Trailblazer ราคาเท่าไหร่?
ในตลาดไทย Chevrolet Trailblazer มีราคาอยู่ที่ประมาณ 1-1.5 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและอุปกรณ์ที่เลือก โดยราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงจากโปรโมชั่นหรือส่วนลดของตัวแทนจำหน่าย SUV คันนี้ได้รับความนิยมจากคนไทยด้วยพื้นที่ภายในกว้างขวางและฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ เหมาะสำหรับการเดินทางกับครอบครัวหรือขับขี่ในเมือง ประเทศไทยเป็นประเทศเขตร้อน Trailblazer ถูกออกแบบให้มีช่วงล่างสูงและระบบแอร์ที่ทำงานได้ดีในสภาพอากาศและถนนแบบไทย นอกจากนี้ยังประหยัดน้ำมันซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับผู้ใช้รถในไทย ถ้าคุณกำลังมองหา SUV นอกจากการดูเรื่องราคาแล้ว ลองเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันอย่าง Honda CR-V หรือ Toyota Fortuner ซึ่งแต่ละคันมีจุดเด่นต่างกัน แนะนำให้ไปทดลองขับที่ตัวแทนจำหน่ายก่อนตัดสินใจ โดยดูจากความต้องการและงบประมาณส่วนตัว ตลาดไทยมีภาษีนำเข้ารถค่อนข้างสูง ดังนั้นรุ่นที่ผลิตในประเทศมักจะมีราคาที่แข่งขันได้กว่า ก่อนซื้อควรตรวจสอบว่ามีรุ่นที่ผลิตภายในประเทศให้เลือกหรือไม่
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
เครื่องยนต์ของ Chevy Trailblazer คืออะไร?
Chevrolet Trailblazer ในตลาดไทยมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูง 2 แบบ รุ่นพื้นฐานติดตั้งเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 3 สูบ ให้กำลัง 137 แรงม้าและแรงบิด 220 นิวตันเมตร ที่เหมาะกับการขับขี่ในเมืองด้วยความประหยัดน้ำมัน ส่วนรุ่นท็อปใช้เครื่อง 1.3 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 3 สูบ กำลังสูงสุด 155 แรงม้า แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 236 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์ CVT ให้ความรู้สึกการขับที่ลื่นไหลกว่า เครื่องยนต์เทอร์โบขนาดเล็กทั้งสองรุ่นนี้ ตอบสนองความต้องการของตลาดไทยในด้านการปกป้องสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์พลังงาน และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับสภาพการจราจรที่คับคั่งในกรุงเทพฯ เทคโนโลยีการปิดการทำงานของกระบอกสูบยังช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงได้อีกด้วย สิ่งที่น่าสนใจคือการปรับแต่งเครื่องยนต์ของ Trailblazer เวอร์ชันแบบไทยมุ่งเน้นไปที่แรงบิดที่ความเร็วต่ำ ซึ่งเข้ากันได้ดีกับสภาพแวดล้อมการขับขี่ของประเทศไทยที่มีทางลาดชันและการออกตัว-หยุดบ่อยครั้ง เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Honda HR-V หรือ Toyota Corolla Cross ที่ก็ใช้ยุทธศาสตร์เครื่องยนต์เทอร์โบขนาดเล็กเช่นกัน แต่ Chevrolet ได้เปรียบด้วยระบบสตาร์ท-สต็อปอัตโนมัติมาตรฐานที่เพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน แนะนำให้ผู้บริโภคไทยเลือกรุ่นเครื่องยนต์ตามเส้นทางขับขี่ประจำวัน ถ้าต้องขับทางไกลบ่อยๆ อาจพิจารณารุ่น 1.3 ลิตรเป็นหลัก
Q
รุ่น Chevrolet รุ่นใดบ้างที่ผลิตในประเทศจีน?
Chevrolet ตผลิตรถยนต์หลากหลายรุ่นในประเทศจีน รวมถึง Chevrolet Cruze Cruze Malibu XL และรุ่น Chevrolet Menlo นั้นออกแบบมาสำหรับตลาดจีนเป็นหลัก แต่ก็ได้มาตรฐานระดับโลกด้วย ในไทยสามารถหาซื้อบางรุ่นได้ผ่านช่องทางนำเข้า สำหรับคนไทยแล้ว รุ่นเหล่านี้มีความคุ้มค่าและสเปกดี โดยเฉพาะ Menlo ที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม แต่ต้องระวังเรื่องภาษีนำเข้าและกฎหมายที่อาจทำให้ราคาสูงขึ้น แนะนำให้ศึกษากฎระเบียบก่อนซื้อให้ดี Chevrolet เป็นแบรนด์ระดับโลกที่ควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด แม้จะเป็นรุ่นที่ผลิตในจีนก็มั่นใจได้เลย และในอนาคตเมื่อตลาด EV ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โตขึ้น คงมีรุ่นไฟฟ้าจาก Chevrolet เข้ามาให้เลือกอีกเพียบ
Q
รถ Chevy Trailblazer สามารถวิ่งได้เร็วแค่ไหน?
Chevrolet Trailblazer นั้นมีความเร็วสูงสุดประมาณ 197 กม./ชม. โดย SUV คอมแพคต์รุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.3 ลิตร (155 แรงม้า) หรือ 1.2 ลิตร (137 แรงม้า) คู่กับเกียร์ CVT ที่ให้พลังขับเคลื่อนเพียงพอทั้งในเมืองและบนทางด่วนของไทย แต่ต้องระวังนะครับ เพราะกฎหมายไทยกำหนดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 120 กม./ชม. (ทางด่วน) และ 80 กม./ชม. (ถนนทั่วไป) ดังนั้นควรขับขี่ตามกฎหมายจะดีที่สุด สำหรับคนไทยแล้ว Trailblazer น่าดึงดูดตรงประหยัดน้ำมัน (ประมาณ 15-17 กม./ลิตร) และขนาดตัวที่กะทัดรัด (เหมาะกับซอยแคบๆในกรุงเทพฯ) รวมถึงความสูงช่วงล่าง 201 มม. ที่พอสู้กับถนนชนบทได้บ้าง ถ้าคิดจะขับทางไกล แนะนำให้ตรวจสอบสภาพยางและเบรกเป็นประจำเพราะอากาศร้อนๆของไทยอาจทำให้ยางเสื่อมสภาพเร็ว ในขณะเดียวกันในฤดูฝนถนนจะลื่นและควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับความปลอดภัยในการขับขี่
Q
"Trailblazer มีอะไรพิเศษ?"
Chevrolet Trailblazer ในตลาดไทยมีความพิเศษตรงที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์สภาพพื้นที่และอากาศที่หลากหลายของประเทศเรา เครื่องยนต์ 1.3 เทอร์โบชาร์จช่วยประหยัดน้ำมันในเมืองแต่ยังให้กำลังเพียบพร้อมเมื่อขับขึ้นเขา ช่วงล่างสูง 180 มม. พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ ทำให้มั่นใจทุกการเดินทางทั้งช่วงน้ำท่วมหรือถนนลูกรัง ส่วนเรื่องความชอบของคนไทยนั้น Trailblazer จัดเต็มด้วยการดีไซน์ห้องโดยสาร 7 ที่นั่งแบบปรับได้และระบบแอร์ที่แรงเย็นถึงที่นั่งหลัง รวมถึงระบบความปลอดภัย 10 ฟังก์ชันที่ได้มาตรฐาน 5 ดาวจาก ASEAN NCAP ที่สำคัญคือตัวถังที่ผสมระหว่างเหล็กกับอลูมิเนียมทนทานต่อสนิมแม้ในสภาพร้อนชื้น แถมยังใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศทำให้ค่าบำรุงรักษาไม่แพง การปรับตัวให้เหมาะกับสภาพอากาศแบบร้อนชื้นแบบนี้ทำให้ Trailblazer เป็น SUV ขนาดกะทัดรัดที่โดดเด่นและตอบโจทย์ครอบครัวใหญ่แบบไทยๆ ได้เป็นอย่างดี
Q
รถ Chevy Trailblazer ซ่อมถูกไหม?
ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง Chevrolet Trailblazerในประเทศไทยถือว่าค่อนข้างสมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับรถ SUV ระดับเดียวกัน โดยอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงค่อนข้างต่ำ สาเหตุหลักมาจากระบบเพาว์เวอร์เทรนที่พัฒนามาอย่างดีและการสนับสนุนจากซัพพลายเชนภายในประเทศของเจเนรัล มอเตอร์ส ในไทย ชิ้นส่วนอะไหล่สำหรับเครื่องยนต์ 1.3T และ 1.4T ที่พบได้บ่อยในตลาดไทยมีพร้อมจำหน่าย และอู่ซ่อมรถทั่วไปก็มีความคุ้นเคยกับแพลตฟอร์มเทคโนโลยีของ GM ทำให้ค่าแรงถูกกว่ายี่ห้อหรูประมาณ 20-30% แต่อย่างไรก็ตาม หากเป็นการซ่อมระบบเทอร์โบหรือระบบอิเล็กทรอนิกส์อาจมีค่าใช้จ่ายสูงได้ แนะนำให้เจ้าของรถเลือกใช้บริการศูนย์บริการที่ได้รับการรับรองจากทางบริษัทเพื่อความมั่นใจในคุณภาพอะไหล่ โดยเฉพาะในสภาพอากาศชื้นของไทย ควรให้ความสำคัญกับการป้องกันสนิมใต้ท้องรถและการบำรุงระบบไฟฟ้าเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น Trailblazer หรือ SUV ยี่ห้ออื่น การเปลี่ยนไส้กรองอากาศและน้ำมันเครื่องตามระยะเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยยืดอายุเครื่องยนต์ ส่วนในตลาดอะไหล่รถยนต์ท้องถิ่นของไทยก็สามารถหาอะไหล่ทดแทนที่มีราคาคุ้มค่าได้ แต่ต้องตรวจสอบความเข้ากันได้ก่อนการติดตั้งเสมอ
Q
“Trailblazer มีเทอร์โบหรือไม่?”
Chevrolet Trailblazer ที่วางขายในตลาดประเทศไทยจริงๆ แล้วใช้เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ โดยรุ่นที่ขายในไทยตอนนี้ส่วนใหญ่จะติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตรหรือ 1.3 ลิตรแบบเทอร์โบ เครื่องยนต์เทอร์โบขนาดเล็กแบบนี้เหมาะกับสภาพการขับขี่ในเมืองไทย เพราะช่วยประหยัดน้ำมันในขณะที่ยังให้กำลังขับเคลื่อนที่ดี เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสภาพแวดล้อมการจราจรที่มักเริ่ม-หยุดบ่อยครั้งในกรุงเทพฯ เทคโนโลยีเทอร์โบชาร์จช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ด้วยการอัดอากาศเข้าเครื่องยนต์ ทำให้ลดการปล่อยมลพิษและยังให้แรงบิดสูงที่รอบเครื่องต่ำ ช่วยได้มากในพื้นที่ที่เป็นภูเขาอย่างเชียงใหม่ ที่สำคัญคนไทยมักเลือกรถที่ประหยัดน้ำมัน เลยทำให้การจับคู่ระหว่างเครื่องเทอร์โบกับเกียร์ CVT กลายเป็นทางเลือกหลักของหลายแบรนด์ เห็นได้จากคู่แข่งอย่าง Honda HR-V หรือ Toyota Corolla Cross ที่ใช้เทคโนโลยีคล้ายกัน เวลาซื้อแนะนำให้เลือกรุ่นตามความต้องการจริง และอย่าลืมดูแลระบบเทอร์โบเป็นประจำ โดยเฉพาะในอากาศร้อนๆ แบบไทย ต้องตรวจสอบระบบระบายความร้อนให้ทำงานปกติเพื่อยืดอายุเครื่องยนต์
Q&A ล่าสุด
Q
Honda City 2015 มีกี่รุ่น
รถยนต์ Honda City รุ่นปี 2015 ที่วางขายในตลาดประเทศไทยมีทั้งหมด 4 รุ่นหลักด้วยกัน ได้แก่ รุ่นพื้นฐาน S, รุ่นกลาง SV, รุ่นสูง V และรุ่นสปอร์ตระดับสูงสุด RS ทุกรุ่นใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC พร้อมเกียร์ธรรมดา 5 สปีดหรือเกียร์ CVT โดยรุ่น RS ที่เป็นรุ่นพิเศษจะมาพร้อมกับชุดแอร์โรไดนามิกส์เฉพาะรุ่น ภายในตกแต่งด้วยเส้นเย็บสีแดง และล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว เพื่อเน้นสไตล์สปอร์ตยิ่งขึ้น ในขณะที่รุ่นอื่นๆ จะมีจุดเด่นต่างกันไป เช่น กริลโครเมี่ยม, กุญแจอัจฉริยะ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย
สิ่งที่ควรสังเกตคือ Honda City ในตลาดไทยถูกออกแบบมาให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนเป็นพิเศษ ระบบแอร์มีความเย็นสูงกว่ารุ่นที่ขายในบางประเทศ และช่วงล่างก็ถูกปรับให้เหมาะกับสภาพถนนในไทย นอกจากนี้ รุ่นนี้ยังเป็นที่นิยมมากจนติดอันดับรถยนต์คอมแพคต์ที่ขายดีที่สุดในปีนั้น ด้วยความน่าเชื่อถือและประหยัดน้ำมันสูงถึง 15.6 กม./ลิตร ระบบ ECO Assist ที่ช่วยแนะนำจังหวะเปลี่ยนเกียร์ผ่านไฟบนหน้าปัดยังเป็นฟีเจอร์ยอดนิยมในกลุ่มคนเมืองที่ใช้รถประจำวัน
แม้ว่าคู่แข่งอย่างโตโยต้า วีออส และมาสด้า 2 ในช่วงนั้นจะมีการเสนอสเปกใกล้เคียงกัน แต่จุดแข็งของซิตี้ที่ทำได้ดีกว่าคือแนวคิด MM (Man Maximum Machine Minimum) ของฮอนด้าที่เน้นการใช้พื้นที่ภายในให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะช่วงขาที่กว้างขวางซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับครอบครัวไทย
Q
Honda Civic 2011 มีกี่รุ่น
รถ Honda Civic ปี 2011 ที่วางขายในตลาดไทยมีทั้งหมด 4 รุ่นหลักด้วยกัน คือ 1.8E 1.8EL 1.8V และ 2.0S ทุกรุ่นมาพร้อมเทคโนโลยีเครื่องยนต์ i-VTEC ที่ทันสมัยของฮอนด้าในยุคนั้น ซึ่งทั้งประหยัดน้ำมันและให้กำลังขับเคลื่อนที่ดี โดยรุ่น 1.8 ลิตรเป็นที่นิยมในหมู่คนไทยมากที่สุด เพราะนโยบายภาษีของไทยให้ความ友ันดีกับรถยนต์ขนาดเล็กและกลาง พิเศษไปกว่านั้น ฮอนด้ายังออกแบบระบบแอร์ให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย และเพิ่มการป้องกันสนิมเพื่อรับมือกับสภาพแวดล้อมในเขตร้อน ซิวิคปี 2011 ยังคงความน่าเชื่อถือแบบฉบับฮอนด้า และมีอัตราการรองราคาสูงเมื่อเทียบกับรถยนต์ระดับเดียวกันในตลาดมือสองของไทย โดยคู่แข่งหลักในตลาดไทยตอนนั้นคือโตโยต้า คอร์ลล่า อัลติส และมาสด้า 3 แต่แต่ละรุ่นก็มีจุดขายและกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่แตกต่างกันออกไป
Q
Honda Civic 2006 มีกี่รุ่น?
รถ Honda Civic ปี 2006 ในตลาดไทยตอนนั้นมีให้เลือก 3 รุ่นหลักๆ คือรุ่น LX ที่เน้นความประหยัดและใช้งานง่าย เหมาะสำหรับครอบครัวที่ให้ความสำคัญกับเรื่องประหยัดน้ำมัน รุ่น EX ที่อัพเกรดมาพร้อมหลังคากระจกและระบบเสียงที่ดีขึ้น ส่วนรุ่น Si จะเป็นเวอร์ชั่นสปอร์ตที่มาพร้อมเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูงและการตั้งค่าสำหรับคนรักความเร็ว โดยเฉพาะวัยรุ่นที่ชอบความมันส์ จุดเด่นของรถรุ่นนี้คือความทนทานและค่าบำรุงรักษาที่ไม่หนักกระเป๋า ทำให้เป็นที่นิยมในหมู่คนไทยมาก ตอนนั้นซิวิคใช้เทคโนโลยี i-VTEC ของฮอนด้าที่ช่วยให้ทั้งแรงเครื่องดีและประหยัดน้ำมันไปพร้อมกัน ตัวถังออกแบบมาเหมาะกับอากาศร้อนๆ แบบบ้านเรา โดยเฉพาะระบบแอร์ที่เย็นฉ่ำขับสบายแม้อากาศจะร้อนจัด แม้ตอนนี้จะผ่านมาหลายปีแล้วแต่รถมือสองรุ่นนี้ในตลาดไทยยังขายดีและมีราคาค่อนข้างดี เพราะอะไหล่หาง่ายและราคาไม่แพง สำหรับคนไทยที่มองหาราคาประหยัดแต่ได้รถคุณภาพดี ฮอนด้าซิวิคปี 2006 ก็ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอยู่เลย
Q
Honda Jazz ปี 2018 มีทั้งหมดกี่รุ่น?
ในปี 2018 Honda Jazz ในตลาดประเทศไทยได้เปิดตัว 3 รุ่นหลักด้วยกัน คือ รุ่นเริ่มต้น Jazz S รุ่นกลาง Jazz V และรุ่นสูงสุด Jazz RS ซึ่งรุ่น RS เป็นรุ่นสปอร์ตที่มาพร้อมกับชุดแต่งภายนอกที่ดูดุดันกว่าและฟีเจอร์พิเศษเฉพาะรุ่น ทุกรุ่นใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC แบบสูบธรรมดา คู่กับเกียร์ CVT ที่เน้นความประหยัดและความใช้งานได้จริง เหมาะมากกับสภาพถนนในเมืองของไทย ตัวรถมีขนาดกะทัดรัดแต่ภายในถูกออกแบบให้ใช้พื้นที่ได้อย่างยืดหยุ่นด้วยระบบ "Magic Seat" ของฮอนด้า สำหรับตลาดไทยยังให้ความสำคัญกับระบบแอร์ที่เย็นแรงเพื่อรับมือสภาพอากาศร้อน ส่วนสีตัวรถก็มีให้เลือกหลายเฉดสีสดใสที่โดนใจวัยรุ่น โดยเฉพาะสีฟ้าใสและสีส้มแดงที่ฮิตมาก ทุกรุ่นผ่านมาตรฐานการปล่อยมลพิษของประเทศไทย และยังคงความน่าเชื่อถือในเรื่องการรักษามูลค่าซึ่งเป็นจุดแข็งของฮอนด้าในตลาดอาเซียน สำหรับคนรุ่นใหม่ที่งบน้อย การซื้อแจ๊สรุ่น 2018 ตลาดมือสองก็ถือเป็นตัวเลือกคุ้มค่าเหมือนกัน
Q
Honda City ปี 2012 ราคาเท่าไหร่
ราคาตลาดมือสองของ Honda City รุ่นปี 2012 ในประเทศไทยจะอยู่ที่ประมาณ 250,000 ถึง 400,000 บาท ขึ้นอยู่กับสภาพรถ ระยะไมล์ รุ่นย่อย และการแต่งเพิ่มเติม ส่วนตัวรถรุ่นนี้เป็นเซ็กเมนต์เอ็กโนมี่คาร์ที่ขายดีในตลาดอาเซียน เพราะประหยัดน้ำมันและค่าบำรุงถูก ที่ไทยเราผลิตซิตี้แบบเครื่อง 1.5L i-VTEC ที่ออกแบบมาให้เหมาะกับอากาศร้อนแบบเมืองไทยโดยเฉพาะ ถ้าคิดจะซื้อซิตี้มือสอง แนะนำให้เช็คแอร์ให้ดี (ของพวกนี้อยู่เมืองร้อนมันเสียง่าย) แล้วก็เกียร์ด้วย (ถ้าใช้ขับในเมืองติดขัดนานๆ อาจมีผลกับเกียร์ CVT) ลองดูรถมือสองรับประกันศูนย์จากฮอนด้าไทยก็ได้ แม้ราคาจะสูงกว่าหน่อยแต่ได้ความมั่นใจ ส่วนใครที่งบน้อยกว่านั้น ลองมองรถรุ่นเดียวกันอย่างโตโยต้า วีออส หรือมาสด้า 2 ที่ราคามือสองใกล้เคียงกัน แต่ระบบศูนย์บริการอาจแตกต่างกันบ้าง
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย