Q

วิธีเปิดใช้งาน "โหมดสุนัข" ใน Tesla Model 3

ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย โหมด "Dog Mode" (โหมดสัตว์เลี้ยง) ของ Tesla Model 3 นับว่ามีประโยชน์มาก ช่วยให้สัตว์เลี้ยงของคุณอยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสมขณะอยู่ในรถ โดยวิธีการใช้งานคือหลังจากจอดรถแล้วให้แตะไอคอนควบคุมอุณหภูมิบนหน้าจอกลาง จากนั้นเลือก "Dog Mode" และตั้งค่าอุณหภูมิที่ต้องการ ระบบจะทำการระบายอากาศภายในรถ พร้อมแสดงอุณหภูมิปัจจุบันเพื่อแจ้งให้คนรอบข้างทราบว่าไม่ต้องกังวล อย่างไรก็ตาม เนื่องจากแดดประเทศไทยค่อนข้างแรง แนะนำให้ใช้ผ้าม่านบังแดดร่วมด้วยเพื่อลดการทำงานของแอร์ และควรตรวจสอบให้มั่นใจว่าระดับแบตเตอรี่เหลือเพียงพอ (แนะนำให้เหลือมากกว่า 20%) เพราะโหมดนี้จะใช้พลังงานอย่างต่อเนื่อง ระบบจัดการแบตเตอรี่ของ Tesla สามารถควบคุมอุณหภูมิได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ควรหลีกเลี่ยงการจอดทิ้งไว้นานในห้างสรรพสินค้า เนื่องจากสัญญาณในลานจอดรถบางแห่งในประเทศไทยอาจไม่ดี ส่งผลต่อการตรวจสอบสถานะผ่านแอปมือถือ เมื่อเทียบกับการใช้กรงสัตว์เลี้ยงบนรถปิคอัพที่นิยมในไทยแล้ว โหมดนี้ให้การควบคุมอุณหภูมิที่แม่นยำกว่า แต่เจ้าของรถยังไม่ควรทิ้งสัตว์เลี้ยงไว้ในรถตามลำพังเกิน 1 ชั่วโมง แม้ว่าระบบจะมีการแจ้งเตือนก็ตาม เพราะกฎหมายไทยมีข้อกำหนดชัดเจนเกี่ยวกับระยะเวลาการทิ้งสัตว์เลี้ยงไว้ในรถ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ความจุแบตเตอรี่ของ Tesla Model 3 คือเท่าไหร่
ความจุแบตเตอรี่ของ Tesla Model 3 จะแตกต่างกันไปตามรุ่นรถ ในตลาดไทยปัจจุบัน รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) มีความจุแบตเตอรี่ประมาณ 57.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ส่วนรุ่น Long Range และ Performance จะติดตั้งแบตเตอรี่ประมาณ 75 กิโลวัตต์-ชั่วโมง และ 82 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ตามลำดับ ข้อมูลเหล่านี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยขึ้นอยู่กับปีที่ผลิตหรือการอัปเดตคอนฟิก จึงแนะนำให้ตรวจสอบสเปกล่าสุดผ่านเว็บไซต์ Tesla ประเทศไทยหรือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการก่อนตัดสินใจซื้อรถ สำหรับสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า เช่น การเปิดแอร์บ่อยขึ้นในสภาพอากาศร้อนจะทำให้ใช้พลังงานมากขึ้น ดังนั้นเจ้าของรถควรวางแผนการชาร์จให้เหมาะสม และใช้ประโยชน์จากเครือข่าย Supercharger ของ Tesla ที่กำลังขยายตัวในประเทศไทย ที่น่าสนใจคือระบบจัดการแบตเตอรี่ (BMS) ของ Tesla สามารถตรวจสอบและควบคุมอุณหภูมิแบตเตอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสำคัญมากสำหรับประเทศเขตร้อนอย่างไทย ช่วยยืดอายุแบตเตอรี่และรักษาความปลอดภัยในการขับขี่
Q
วิธีเปิดที่นั่งที่ทำความร้อนด้านหลัง Tesla Model 3
การเปิดใช้งานระบบทำความร้อนเบาะหลังใน Tesla Model 3 นั้นง่ายมาก แค่เข้าไปที่เมนูควบคุมแอร์ผ่านหน้าจอกลาง จากนั้นแตะไอคอนทำความร้อนเบาะที่ด้านล่างของหน้าจอ เลือกเบาะหลังก็สามารถปรับระดับความร้อนได้แล้ว โดยปกติแล้ว Model 3 จะมีให้เลือก 3 ระดับ เหมาะกับอากาศเย็นๆ ในช่วงฤดูฝนหรือทางเหนือของไทย ที่ควรรู้คือรุ่นเก่าบางคันอาจต้องอัปเดตซอฟต์แวร์ก่อนถึงจะใช้ฟีเจอร์นี้ได้ แนะนำให้ตรวจสอบการอัปเดตระบบรถอย่างสม่ำเสมอ เวลาใช้ในไทยแนะนำให้เปิดแอร์ควบคู่ไปด้วยเพื่อควบคุมความชื้นในรถ เพราะอากาศร้อนชื้นของไทยอาจทำให้รู้สึกไม่ค่อยสบายตัว ระบบทำความร้อนเบาะของ Tesla ใช้เทคโนโลยีคาร์บอนไฟเบอร์ที่ให้ความร้อนสม่ำเสมอและประหยัดไฟกว่าวิธีแบบเดิมๆ ซึ่งเหมาะกับค่ากระแสไฟฟ้าในไทยที่ค่อนข้างสูง ถ้าใช้เป็นเวลานานแนะนำให้ปรับความร้อนอยู่ที่ระดับกลางแทนการเปิดเต็มกำลัง จะได้ทั้งความสบายและประหยัดพลังงาน นอกจากนี้ในวันที่อากาศร้อนควรปิดระบบนี้เมื่อลงจากรถเพื่อไม่ให้เปลืองไฟโดยเปล่าประโยชน์ การดูแลรายละเอียดเล็กน้อยแบบนี้จะช่วยให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น
Q
การปรับความสูงและตำแหน่งของพวงมาลัย Tesla Model 3 ต้องทำอย่างไร
การปรับความสูงและตำแหน่งพวงมาลัยของ Tesla Model 3 เมื่อขับขี่ในประเทศไทยนั้นทำได้ง่ายมาก แค่เข้าไปที่เมนู "ควบคุม" ในหน้าจอกลาง แล้วเลือก "คันเร่งและพวงมาลัย" จากนั้นกด "ปรับพวงมาลัย" ก็สามารถปรับพวงมาลัยด้วยมือให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะกับท่านได้ พอปรับเสร็จก็กดบันทึก แบบนี้คนไทยรูปร่างต่างกันก็ขับสบาย แถมยังช่วยให้ขับทางยาวๆ ไม่เมื่อยล้า อีกอย่างพวงมาลัยของ Model 3 ยังปรับโหมดการขับได้ตามใจเลย เช่น ในกรุงเทพฯ ที่รถติดๆ สามารถเลือกโหมด "สบายๆ" เพื่อให้พวงมาลัยเบาขึ้น หรือถ้าขับนอกเมืองหรือขึ้นทางด่วนก็สลับไปโหมด "สปอร์ต" ให้รู้สึกมันส์ๆ มากขึ้น แถมช่วงหน้าฝนหรืออากาศเย็นๆ ฟังก์ชันทำความร้อนพวงมาลัยก็ช่วยให้อุ่นมือได้ดี การออกแบบที่ชาญฉลาดของ Tesla ทําให้การปรับเปลี่ยนเหล่านี้ใช้งานง่ายมาก แม้แต่ผู้ใช้ชาวไทยที่สัมผัสกับรถยนต์ไฟฟ้าเป็นครั้งแรกก็สามารถเริ่มต้นได้อย่างรวดเร็ว
Q
วิธีการลบควันในรถ Tesla Model 3
สำหรับเจ้าของ Tesla Model 3 ที่ต้องเผชิญกับอากาศร้อนชื้นในประเทศไทย การเปิดโหมด "Bio Weapon Defense Mode" จะช่วยกำจัดควันหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในรถได้อย่างรวดเร็ว ระบบนี้ใช้แผ่นกรอง HEPA พร้อมระบบปรับอากาศประสิทธิภาพสูง ที่สามารถฟอกอากาศให้สะอาดได้ภายในไม่กี่นาที โดยเฉพาะเวลาติดรถยนต์ในกรุงเทพฯ ที่เจอกับไอเสีย หรือช่วงฤดูฝนที่ความชื้นสูง แนะนำให้เปลี่ยนไส้กรองแอร์เป็นประจำ (ในไทยควรตรวจสอบทุก 1-1.5 หมื่นกิโลเมตร) และใช้แอป Tesla เปิดระบบระบายอากาศล่วงหน้าเพื่อลดอุณหภูมิในรถ รถ EV นั้นมีความแน่นกระชับกว่าหากเทียบกับรถน้ำมัน แต่สภาพอากาศร้อนของไทยอาจทำให้สารระเหยจากวัสดุภายในรถกระจายตัวเร็วขึ้น อาจเสริมด้วยถ่านกัมมันต์หรือสเปรย์ photocatalyst ช่วยฟอกอากาศ แต่ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่อาจทำลายหน้าจอควบคุมส่วนกลาง หากต้องจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน ควรเลือกที่ร่มและใช้ม่านบังแดด พร้อมเปิดฟังก์ชัน cabin overheat protection ของ Tesla เพื่อควบคุมอุณหภูมิภายในรถไม่ให้เกิน 40 องศา วิธีเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้รถในเขตร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Q
สีที่ดีที่สุดสำหรับ Tesla Model 3 คืออะไร
การเลือกสีที่ดีที่สุดสำหรับ Tesla Model 3 ในประเทศไทยขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวและความต้องการในการใช้งาน แต่สี Pearl White และ Midnight Silver Metallic เป็นตัวเลือกยอดนิยม สี Pearl White ไม่เพียงแต่ดูแลง่ายและสะท้อนแสงแดดได้ดี เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนของไทย ในขณะที่สี Midnight Silver Metallic ให้ความรู้สึกหรูหราเรียบร้อยและไม่ค่อยเห็นฝุ่น นอกจากนี้สีแดงและสีน้ำเงินก็เป็นตัวเลือกสำหรับคนชอบความโดดเด่น แต่ต้องดูแลทำความสะอาดบ่อยครั้งเพื่อคงความสวยงาม สภาพแวดล้อมในไทยทั้งฝนตกบ่อยและอากาศร้อนมีผลต่อสีรถ ดังนั้นแนะนำให้เลือกการเคลือบสีหลายชั้นหรือขัดแว็กซ์เป็นประจำเพื่อยืดอายุสีรถ แม้ว่ารุ่น Model 3 จะมีกระบวนการทาสีที่ค่อนข้างดี แต่ด้วยมลภาวะและรังสี UV ในไทยที่ค่อนข้างแรง ไม่ว่าคุณจะเลือกสีไหนก็ควรดูแลรักษาอย่างเหมาะสม นอกจากนี้สภาพการจราจรในไทยที่ค่อนข้างแออัด รถสีอ่อนจะทำให้ผู้ขับขี่คนอื่นมองเห็นได้ง่ายขึ้นในเวลากลางคืน จึงปลอดภัยกว่า แต่สุดท้ายแล้วการเลือกสีควรคำนึงถึงความชอบส่วนตัวและงบประมาณ เพราะสีพิเศษบางสีอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
Q
Tesla Model 3 จะเปิดตัวเมื่อไหร่
Tesla Model 3 เป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้ายอดนิยมของ Tesla ที่ตอนนี้ยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับวันวางจำหน่ายในประเทศไทย แต่จากแผนการตลาดระดับโลกของเทสลาและนโยบายส่งเสริมรถยนต์พลังงานสะอาดของรัฐบาลไทย คาดว่ารถรุ่นนี้น่าจะเข้ามาในตลาดไทยภายใน 1-2 ปีนี้ ลูกค้าชาวไทยสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดได้ทางเว็บไซต์ Tesla หรือตัวแทนจำหน่ายในประเทศ Model 3 ได้รับความนิยมทั่วโลกจากสมรรถนะการขับขี่ที่ยาวไกล ระบบช่วยขับอัตโนมัติอันล้ำสมัย และดีไซน์ภายในที่เรียบหรู ถ้าเข้ามาไทยก็จะเพิ่มทางเลือกให้คนรักสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งช่วยผลักดันให้โครงสร้างพื้นฐานด้าน EV ของไทยพัฒนาขึ้นอีกขั้น รัฐบาลไทยตอนนี้มีมาตรการลดภาษีสำหรับรถ EV นำเข้า และกำลังขยายเครือข่ายสถานีชาร์จให้ครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณดีสำหรับ Model 3 และรถ EV รุ่นอื่นๆ ที่จะมาแน่นอน ถ้าสนใจก็เตรียมตัวไว้ก่อนได้เลย ศึกษาข้อมูลการใช้รถ EV และจุดชาร์จให้พร้อม จะได้จับจองเมื่อถึงเวลา
Q
วิธีการเปิดใช้งานฟังก์ชัน Summon บน Tesla Model 3 ปี 2023
หากต้องการใช้ฟังก์ชัน Summon หรือระบบเรียกรถอัตโนมัติใน Tesla Model 3 รุ่นปี 2023 ที่ประเทศไทย สิ่งแรกที่ต้องตรวจสอบคือรถต้องติดตั้ง Hardware 3.0 และต้องซื้อชุด Full Self-Driving (FSD) หรือสมัครบริการนี้ไว้แล้ว หลังจากนั้นก็แค่เปิดฟังก์ชันนี้ผ่านแอป Tesla ในส่วน "Summon" เนื่องจากประเทศไทยมีอากาศร้อนและฝนชุก แนะนำให้ใช้ในพื้นที่โล่งเพื่อป้องกันไม่ให้เซ็นเซอร์ได้รับผลกระทบจากฝนหรือความร้อนสูง ต้องระวังไว้ว่า Summon ในประเทศไทยถูกจัดอยู่ในระดับ L2 ซึ่งหมายความว่าคุณยังต้องคอยดูตลอดเวลาและพร้อมที่จะควบคุมรถได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะในที่จอดรถแคบๆ แบบไทย ฟังก์ชันนี้จะช่วยให้รถเข้าออกจากช่องจอดได้เอง แต่ต้องคอยสังเกตสิ่งกีดขวางรอบข้าง ส่วนเรื่องพวงมาลัยที่ไทยเป็นแบบซ้ายมือนั้น ไม่มีปัญหากับการทำงานของ Summon เลย ไม่ต้องปรับอะไรเพิ่มเติม หากเจอปัญหาเรื่องสัญญาณเน็ตเวิร์ก ลองเชื่อมต่อกับเครือข่าย 4G/5G ของผู้ให้บริการในไทยอย่าง AIS หรือ TRUE เพื่อให้ระบบตอบสนองเร็วขึ้น Tesla จะอัปเดตระบบผ่าน OTA อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ Summon ทำงานได้ดีขึ้นในสภาพอากาศแบบร้อนชื้นของไทย
Q
วิธีการดูแรงดันลมในยาง Tesla Model 3
ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย การรักษาความดันลมยางที่เหมาะสมสำหรับ Tesla Model 3 (แนะนำให้อยู่ที่ 2.9-3.1 bar เมื่อยางเย็น) เป็นเรื่องสำคัญมาก คุณสามารถตรวจสอบความดันลมยางแบบเรียลไทม์ผ่านหน้าจอสัมผัสในรถโดยไปที่ "บริการ - ระบบตรวจสอบความดันยาง" หรือจะใช้เครื่องวัดความดันยางแบบธรรมดาก็ได้ เนื่องจากอากาศร้อนในไทยมักทำให้ความดันลมยางเพิ่มขึ้น แนะนำให้ตรวจเช็คตอนเช้าที่รถยังเย็นจะได้ค่าที่แม่นยำกว่า ระบบตรวจสอบความดันยาง (TPMS) ของ Tesla จะแจ้งเตือนอัตโนมัติหากมีความผิดปกติ แต่การตรวจเช็คด้วยตนเองเป็นประจำก็เป็นนิสัยที่ดี โดยเฉพาะก่อนเดินทางไกล ในช่วงฤดูฝนของไทย ควรเช็คความลึกของดอกยางด้วยว่าเพียงพอสำหรับการระบายน้ำหรือไม่ เพื่อป้องกันการลื่นไถล หากไฟเตือนความดันยางขึ้น ควรจอดรถในที่ปลอดภัยและตรวจสอบทันที หากจำเป็นให้ไปที่ศูนย์บริการ การรักษาความดันลมยางที่เหมาะสมไม่เพียงช่วยเพิ่มระยะทางในการขับขี่ แต่ยังช่วยให้ปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของยางอีกด้วย
Q
วิธีการใช้ควบคุมความเร็วอัตโนมัติในรถยนต์ Tesla Model 3
การใช้ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติของ Tesla Model 3 ในประเทศไทยนั้นง่ายมาก แค่ดึงก้านบังคับด้านขวาของพวงมาลัยลงหนึ่งครั้งก็จะเปิดใช้งานระบบ Cruise Control แต่ถ้าดึงสองครั้งติดกันจะเป็นการเปิดระบบ Autopilot ที่สามารถปรับความเร็วและรักษาระยะห่างจากรถข้างหน้าอัตโนมัติ เหมาะมากสำหรับขับบนทางด่วนกรุงเทพฯที่รถติดหรือเส้นทางขึ้นเขาที่เชียงใหม่ แต่อย่าลืมว่าอากาศร้อนและฝนตกบ่อยในไทยอาจส่งผลต่อความแม่นยำของเซนเซอร์ แนะนำให้ล้างกล้องและเรดาร์บริเวณตัวรถเป็นประจำ ส่วนป้ายจราจรในไทยก็ต่างจากมาตรฐานสากลนิดหน่อย ควรจับพวงมาลัยไว้เสมอเพื่อพร้อมควบคุมรถทุกเมื่อ Model 3 ยังมีระบบจดจำสัญญาณไฟจราจรได้ แต่บางสี่แยกที่ไม่มาตรฐานในไทยอาจทำให้ระบบทำงานไม่ถูกต้อง จะมีเสียงเตือนให้ผู้ขับเข้าไปควบคุมแทน ระบบความปลอดภัยเช่นเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติของ Tesla ช่วยลดความเครียดในการขับขี่ในสภาพการจราจรที่วุ่นวายของไทยได้ดี แต่ต้องจำไว้เสมอว่าระบบเหล่านี้ไม่สามารถแทนที่การตัดสินใจของมนุษย์ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
Q
วิธีปิดไฟเตือนภัยบนรถยนต์ Tesla Model 3
ถ้าคุณใช้ Tesla Model 3 และอยากปิดไฟเตือน อันดับแรกให้เข้าไปที่ไอคอนควบคุมรถทางซ้ายล่างของหน้าจอสัมผัส แล้วเลือกเมนู "ไฟรถ" จากนั้นกดปุ่ม "ปิดไฟเตือน" เป็นอันเรียบร้อย แต่ถ้าหน้าจอไม่ทำงาน ให้กดลูกล้อด้านซ้ายของพวงมาลัยค้างไว้ประมาณ 10 วินาทีเพื่อรีสตาร์ทระบบบังคับ ในสภาพอากาศของไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก แนะนำให้ตรวจสอบระบบไฟรถเป็นประจำ โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนควรเช็คให้แน่ใจว่าไฟอัตโนมัติทำงานปกติ จะได้ไม่เกิดปัญหาไฟเตือนเปิดเองเพราะน้ำเข้า ต้องบอกเลยว่าระบบไฟเตือนของ Tesla ต่างจากรถน้ำมันทั่วไป เพราะมีเซ็นเซอร์อัจฉริยะมากขึ้น เช่น แฟลชสองครั้งโดยอัตโนมัติเมื่อตรวจพบว่ารถเอียงผิดปกติหรือชน ไฟฉุกเฉินจะเปิดอัตโนมัติ ซึ่งดีต่อความปลอดภัยในสภาพการจราจรที่วุ่นวายของกรุงเทพฯ ถ้าไฟเตือนเปิดบ่อยๆ โดยไม่มีสาเหตุ อาจเป็นเพราะเซ็นเซอร์ถูกบังหรือระบบต้องการอัปเดต แนะนำให้ติดต่อศูนย์บริการ Tesla ในไทยเพื่อตรวจเช็คอย่างมืออาชีพ ที่นี่มีสาขาราชการทั้งในกรุงเทพฯ และพัทยา อีกอย่างกฎหมายไทยกำหนดว่ารถทุกคันต้องมีระบบไฟเตือนที่ใช้งานได้ปกติ ดังนั้นไม่แนะนำให้ผู้ใช้รถถอดหรือดัดแปลงชิ้นส่วนเอง เพราะอาจมีผลต่อการต่อทะเบียนรถปีต่อไป

ข้อดี

ประสิทธิภาพดีทั้งในรูปลักษณ์และสไตล์ทันสมัย ออกแบบที่สอดคล้องกัน มีหน้าตาหล่อ
ทรงพลังแข็งแรง มอเตอร์ไฟฟ้าควบคุมช่วงหลัง กำลังสูงสุดพร้อมกำลังขับ 283 ม้า และความเร็วในการเร่งตัว
มีพลังงานแบตเตอรี่ที่ดี การขับรถได้ถึง 386 กิโลเมตรด้วยแบตเตอรี่เต็มสภาพ
มาพร้อมกับ 8 กล้องต่อรถ 12 เซนเซอร์โซนิก ระบบเรดาร์ด้านหน้า และระบบประมวลผล
เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่าย

ข้อเสีย

ศูนย์บริการมาตรฐานอย่างเป็นทางการขาดหายไป การดูแลหลังการขายขึ้นอยู่กับผู้นำเข้า การให้บริการค่อนข้างยาก
วัสดุพลาสติกบางส่วนในรถเป็นสามัญ จุดบางจุดไม่มีแผ่นรอง
ราคาสูง เนื่องจากต้องนำเข้าจำเป็นต้องชำระภาษีหลายอย่าง
เวลารอส่วนประกอบึกแพคภาคค่อนข้างยาวกว่ารถทั่วไป การซ่อมบำรุงเสียเวลา

Q&A ล่าสุด

Q
จะมีรถยนต์รุ่นใหม่เปิดตัวในปี 2025 ไหม?
ปี 2025 นี่มีรถใหม่น่าสนใจหลายรุ่นที่กำลังจะออกมา ทั้งแบบไฟฟ้าและแบบน้ำมัน เช่น Toyota ที่เตรียมปล่อย SUV ไฟฟ้ารุ่นใหม่ สร้างจากแพลตฟอร์มเฉพาะตัว คาดว่าวิ่งได้เกิน 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จ เหมาะกับสภาพการใช้งานในไทยมาก ส่วนฮอนด้าก็น่าจะอัพเดทรถไฮบริดรุ่นใหม่มาในปี 2025 ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น แบรนด์จีนอย่าง BYD ก็น่าจะนำเข้ารถไฟฟ้าพวงมาลัยขวาเพิ่มอีก ราคาดีกว่าแน่นอน นอกจากแบรนด์ใหญ่แล้ว บริษัทรถไฟฟ้าเกิดใหม่อีกหลายเจ้าก็อาจบุกตลาดไทยในปี 2025 ทำให้มีตัวเลือกมากขึ้น สำหรับคนที่อยากเปลี่ยนรถ ปี 2025 นี่ถือเป็นปีที่เทคโนโลยีรถยนต์อัพเกรดเร็วมาก โดยเฉพาะรถไฟฟ้าที่จะพัฒนาชาร์จเร็วและระบบขับขี่อัตโนมัติได้เห็นชัด แนะนำให้ติดตามข่าวสารจากทางบริษัทโดยตรง และถ้ามีโอกาสก็ไปเดินชมในงานมอเตอร์โชว์จะดีมาก เพราะจะได้เห็นและทดลองขับด้วยตัวเอง จะเข้าใจแต่ละรุ่นได้ชัดขึ้น
Q
จะมี Lexus ES รุ่นใหม่ในปี 2025 หรือไม่?
จากข่าวล่าสุดที่ได้รับมา รุ่น Lexus ES Series ในปี 2025 อาจจะมีการอัปเดตใหม่ แต่รายละเอียดยังไม่ชัดเจนทั้งหมด โดยปกติแล้วรถหรูระดับนี้มักจะมีการพัฒนาด้านการออกแบบภายนอก ระบบเทคโนโลยี และระบบขับเคลื่อน เช่น อาจจะใช้ระบบไฮบริดที่ทันสมัยขึ้น หรือระบบมัลติมีเดียในรถที่ฉลาดมากขึ้น สำหรับตลาดในไทย Lexus เป็นที่นิยมในเรื่องความสบายและการใช้งานที่เชื่อถือได้ รุ่นใหม่ ES นี้น่าจะยกระดับจุดแข็งเหล่านี้ไปอีก พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น เช่น การประหยัดน้ำมันที่ดีขึ้น หรือฟังก์ชันที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับตลาดไทย ถ้าสนใจรถรุ่นนี้ แนะนำให้ติดตามข้อมูลจากทางบริษัทผู้ผลิตโดยตรงหรือสอบถามที่ตัวแทนจำหน่าย เพราะ Lexus มักจะปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เพื่อให้รถยังคงความน่าสนใจอยู่เสมอ นอกจากนี้ รถระดับหรูมักจะมีบริการหลังการขายและการดูแลรักษาที่ค่อนข้างดี นี่ก็เป็นอีกปัจจัยที่ควรพิจารณาเวลาเลือกซื้อรถด้วย
Q
Lexus ES ปี 2025 ราคาเท่าไหร่?
ขณะนี้ราคาอย่างเป็นทางการของ Lexus ES รุ่นปี 2025 ยังไม่มีการประกาศออกมา แต่สามารถอ้างอิงราคาของรุ่นปัจจุบันได้ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 2.9 - 4.5 ล้านบาท คาดว่ารุ่นใหม่นี้อาจมีราคาสูงขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากอัพเกรดอุปกรณ์และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน โดย Lexus ES เป็นรถหรูที่ขึ้นชื่อในเรื่องความเงียบสมบูรณ์แบบ ระบบไฮบริดประสิทธิภาพสูง และการตกแต่งภายในที่ประณีต ส่วนรุ่นปี 2025 นี้อาจมาพร้อมกับระบบความปลอดภัย LSS+ ที่อัพเกรดแล้ว และมีการปรับปรุงประหยัดน้ำมันมากขึ้นในรุ่นไฮบริด สำหรับตลาดไทย คู่แข่งหลักของ ES ก็คือ BMW 5 Series และ Mercedes-Benz E-Class แต่ Lexus มีจุดเด่นในเรื่องบริการหลังการขายฟรีและอัตราค้างจำนำที่สูงกว่า หากสนใจอยากได้ แนะนำให้จับตาดูโปรโมชั่นในช่วงงานมอเตอร์โชว์สิ้นปีหรือรถมือสองรับประกันศูนย์ บางตัวแทนจำหน่ายอาจมีโปรโมชั่นเงินผ่อนดอกเบี้ยต่ำ อย่างไรก็ตาม รุ่นไฮบริดแม้ราคาจะสูงกว่าแต่ช่วยประหยัดค่าน้ำมันในระยะยาว โดยเฉพาะสำหรับการใช้งานในเมืองที่รถติดบ่อย
Q
รถ Lexus ES ปี 2025 ผลิตที่ไหน?
รุ่น 2025 ของ Lexus ES ยังคงผลิตที่โรงงานเดียวกันกับรุ่นปัจจุบัน ซึ่งคือโรงงาน Miyata ในจังหวัด Kyushu ประเทศญี่ปุ่น โรงงานแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านกระบวนการผลิตที่มีความแม่นยำสูงและมาตรฐานการตรวจสอบคุณภาพที่เข้มงวด รถที่ผลิตที่นี่จะถูกส่งออกไปยังตลาดทั่วโลก สำหรับคนที่ชื่นชอบแบรนด์ Lexus แล้ว การที่รถเป็นแบบนำเข้าจากญี่ปุ่นโดยตรงหมายถึงคุณภาพการผลิตและมาตรฐานการควบคุมที่สูงกว่า โดยเฉพาะในเรื่องของความประณีตและความทนทาน ซึ่งเป็นจุดแข็งที่เห็นได้ชัด Lexus ES เป็นรถหรั่งระดับกลางถึงใหญ่ที่ขายดีมากของแบรนด์ รุ่น Hybrid ES300h ใช้ระบบขับเคลื่อน Hybrid THS-II ที่ช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีในสภาพการจราจรที่ติดขัด ส่วนรุ่น ES250 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 2.5L แบบธรรมชาติที่ให้ความเรียบและน่าเชื่อถือ เหมาะกับการใช้งานประจำวัน ถ้าสนใจรถรุ่นนี้ แนะนำให้ไปที่ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเพื่อสอบถามข้อมูลสเปคและรถที่กำลังจะถึงประเทศไทย พร้อมทั้งทดลองสัมผัสความเงียบภายในห้องโดยสารและระบบเสียง Mark Levinson ที่เป็นจุดเด่นเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกัน
Q
การอัปเกรดในรุ่น 2025 ES มีอะไรบ้าง?
รุ่นปี 2025 ของ Lexus ES ที่มีการอัพเกรดนี้ถือเป็นการรีเฟรชแบบมิดไลฟ์ โดยเน้นการอัพเกรดด้านความอัจฉริยะและรายละเอียดการใช้งานเป็นหลัก รุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับระบบมัลติมีเดีย Lexus Interface เวอร์ชันล่าสุด ที่รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย พร้อมทั้งปรับปรุงความเร็วการตอบสนองของหน้าจอสัมผัส โดยหน้าจอกลางอาจขยายขนาดขึ้นเป็น 12.3 นิ้ว สำหรับรุ่นท็อปยังมีฟีเจอร์ดิจิทัลคีย์และ HUD โชว์ข้อมูลบนกระจกหน้า ส่วนระบบขับเคลื่อนคาดว่าจะยังคงใช้ระบบไฮบริด 2.5L เหมือนเดิม แต่อาจจะมีการปรับแต่ง ECU เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันให้ตอบโจทย์ความต้องการรถประหยัดพลังงานของตลาดท้องถิ่น จุดเด่นที่น่าสนใจคือรุ่นใหม่นี้อาจเสริมวัสดุกันเสียงมากขึ้น เช่น กระจกชั้นคู่บริเวณที่นั่งแถวหน้า ซึ่งเหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดบ่อยในกรุงเทพฯ นอกจากนี้ Lexus มักเสริมฟีเจอร์ความปลอดภัยทุกครั้งที่อัพเกรดรุ่น รุ่นปี 2025 ES อาจใช้ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ LSS + 2.5 เป็นมาตรฐาน ประกอบด้วยระบบเตือนการชนก่อนชนและฟังก์ชั่นการรักษาเลนที่ตอบสนองได้มากขึ้น ด้วยสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ฟังก์ชันระบายอากาศบนเบาะน่าจะถูกเพิ่มในหลายรุ่นย่อยมากขึ้น สำหรับการดูแลรักษาระบบไฮบริด ขอแนะนำให้ใส่ใจกับการเปลี่ยนน้ำหล่อเย็นอินเวอร์เตอร์เป็นประจำสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงและความชื้นสูงจะช่วยเร่งการลดทอนประสิทธิภาพของของเหลวซึ่งต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษในการบำรุงรักษา
ดูเพิ่มเติม