Q
วิธีการเปลี่ยนแบตเตอรี่ในกุญแจรีโมท Mazda 3
การเปลี่ยนแบตเตอรี่รีโมทคีย์รถ Mazda 3 นั้นทำได้ง่ายมาก ก่อนอื่นต้องเตรียมแบตเตอรี่แบบ CR2025 ที่หาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อ ซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือร้านอะไหล่รถทั่วไปในไทย จากนั้นใช้ไขควงเล็กๆ หรือเหรียญสอดเข้าไปที่ร่องด้านข้างของรีโมท ค่อยๆ งัดฝาออก แล้วนำแบตเตอรี่เก่าออกโดยสังเกตขั้วบวกขั้วลบให้ดี เสร็จแล้วใส่แบตเตอรี่ใหม่โดยให้ขั้วบวกหงายขึ้น ประกอบฝาครอบกลับเข้าที่แล้วทดสอบว่ารีโมททำงานปกติไหม ต้องบอกก่อนนะครับว่าที่ไทยอากาศร้อนชื้น แบตเตอรี่อาจจะเสื่อมเร็วกว่าปกติ แนะนำให้ตรวจสอบทุก 1-2 ปี จะได้ไม่เจอปัญหาเวลาจำเป็น แต่ถ้าเปลี่ยนแบตแล้วยังไม่ทำงาน อาจเป็นเพราะวงจรภายในชื้นหรือการติดต่อที่ไม่ดี แนะนำให้ไปที่ศูนย์บริการของ Mazda ในไทย ไม่ว่าจะเป็นโชว์รูมที่กรุงเทพหรือศูนย์บริการตามจังหวัดต่างๆ ก็มีเครื่องมือตรวจเช็คและซ่อมแซมอย่างมืออาชีพ อยากเตือนคนใช้รถ อย่าวางรีโมทตากแดดนานๆ หรือโดนน้ำโดยเฉพาะช่วงฤดูฝน จะเสียหายง่ายๆ แถมถ้าอยากให้รีโมทอยู่กับเราไปนานๆ ลองหาซื้อซิลิโคลนหรือปลอกกันน้ำมาใช้ก็ดี
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
รถ MAZDA3 ปี 2022 ต้องการน้ำมันเบนซินเกรดพรีเมียมหรือไม่?
รถ Mazda 3 รุ่นปี 2022 นั้น ทางผู้ผลิตแนะนำให้ใช้เบนซินหมายเลข 91 หรือสูงกว่านั้นเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด แต่ไม่ได้บังคับว่าต้องใช้เบนซินระดับพรีเมียมเสมอไป จะใช้เบนซินธรรมดาหมายเลข 87 ก็ได้ตามปกติ แต่เครื่องยนต์อาจจะตอบสนองได้ไม่เต็มที่และประหยัดน้ำมันน้อยลงเล็กน้อย สาเหตุเป็นเพราะเครื่องยนต์ Skyactiv-G ของ Mazda ออกแบบมาให้มีอัตราส่วนการอัดสูง การใช้เบนซินคุณภาพสูงจะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงการน็อค โดยเฉพาะเวลาอากาศร้อนหรือเมื่อขับทางไกลบ่อยๆ แต่ถ้าใช้รถแค่ในเมืองเป็นหลัก การเติมเบนซินธรรมดาก็ไม่เป็นไร ไม่ทำลายเครื่องยนต์ แค่ถ้าจะขับทางไกลหรืออยากได้ความรู้สึกในการขับที่ดีขึ้น แนะนำให้อัพเกรดเป็นเบนซินคุณภาพสูงจะดีกว่า อย่างไรก็ตาม ต้องระวังเรื่องคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงด้วย เพราะแต่ละปั๊มอาจแตกต่างกัน แนะนำให้เลือกเติมปั๊มใหญ่ที่น่าเชื่อถือ เพื่อป้องกันปัญหาเครื่องยนต์ที่อาจเกิดจากน้ำมันคุณภาพต่ำ เวลานำรถเข้าศูนย์บริการก็ให้ช่างตรวจสอบการสะสมคาร์บอนในเครื่องยนต์ด้วย จะได้ปรับเลือกใช้เบนซินให้เหมาะกับการใช้งานจริงของเรา
Q
อัตราการประหยัดน้ำมันของ Mazda 3 รุ่นปี 2022 คือเท่าไร?
Mazda 3 รุ่นปี 2022 ให้ประสิทธิภาพด้านประหยัดน้ำมันที่ดีมาก โดยข้อมูลจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและระบบขับเคลื่อน สำหรับรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ Skyactiv-G ขนาด 2.0 ลิตร จะสิ้นเปลืองน้ำมันประมาณ 7.8 ลิตร/100 กม. ในเมือง และ 5.6 ลิตร/100 กม. บนทางหลวง ส่วนค่าเฉลี่ยรวมอยู่ที่ประมาณ 6.5 ลิตร/100 กม. ส่วนรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตร จะประหยัดยิ่งกว่า ด้วยอัตราสิ้นเปลืองรวมต่ำถึง 4.5 ลิตร/100 กม. เหมาะมากสำหรับคนที่ขับทางไกลบ่อยหรือเน้นเรื่องประหยัดน้ำมัน เทคโนโลยี Skyactiv ของ Mazda ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันได้อย่างชัดเจน ด้วยการปรับแต่งเครื่องยนต์ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ลดน้ำหนักตัวรถ และปรับเกียร์ให้เหมาะสม โดยยังคงความรู้สึกในการขับที่สนุกเหมือนเดิม สำหรับในเมืองไทยที่การจราจรค่อนข้างติดขัด แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีระบบ i-stop ที่จะช่วยดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อจอดรถไฟแดงหรือหยุดแป๊บๆ ช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกเยอะ Mazda 3 ยังมีโหมดขับขี่ให้เลือกหลายแบบ เช่น โหมดประหยัดหรือโหมดสปอร์ต ให้ปรับใช้ตามถนนและความชอบส่วนตัว เพื่อบาลานซ์ระหว่างสมรรถนะกับความประหยัด ถ้าอยากประหยัดน้ำมันยิ่งกว่านี้ก็อาจมองหารถไฮบริดหรือรถไฟฟ้า แต่ Mazda 3 รุ่นเครื่องยนต์ทั่วไปยังคงมีความเหนือกว่าในด้านการตอบสนองและความสนุกในการขับขี่ เหมาะสำหรับคนที่ชอบความรู้สึกของการขับรถจริงๆ
Q
รถ Mazda 3 รุ่นปี 2022 จำเป็นต้องใช้แก๊สโซฮอล์พรีเมียมหรือไม่?
คู่มือทางการของ Mazda 3 รุ่นปี 2022 แนะนำให้ใช้เชื้อเพลิงที่มีออกเทน 91 ขึ้นไปเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด แต่ไม่ได้บังคับว่าต้องใช้เท่านั้น ถ้าเติมน้ำมันธรรมดาอย่างเบนซิน 91 ลงไปเครื่องยนต์ก็สามารถปรับจังหวะการจุดระเบิดให้เหมาะสมได้ แต่กำลังเครื่องและประหยัดน้ำมันอาจลดลงนิดหน่อย เทคโนโลยี Skyactiv-G ของ Mazda ออกแบบมาให้สมดุลระหว่างประหยัดน้ำมันและกำลังส่ง แก๊สโซฮอล์ออกเทนสูงจะช่วยให้เครื่องยนต์อัตราส่วนอัดสูงทำงานได้เต็มที่ โดยเฉพาะเวลาอากาศร้อนหรือขับขึ้นเขา บรรเทาปัญหาการน็อคของเครื่องยนต์และช่วยให้เครื่องทำงานเรียบขึ้น ถ้าใช้รถแค่ในเมืองและอยากประหยัด ก็เติมน้ำมันธรรมดาได้ไม่มีปัญหา แต่ถ้าต้องขับทางไกลหรืออยากได้สมรรถนะการขับขี่เต็มที่ แนะนำให้เลือกน้ำมันออกเทนสูงไว้ก่อน ข้อควรระวังคือน้ำมันแต่ละปั๊มคุณภาพไม่เหมือนกัน ควรเลือกปั๊มที่ไว้ใจได้ และอย่าลืมเติมน้ำยาทำความสะอาดระบบเชื้อเพลิงตามที่ผู้ผลิตแนะนำเป็นประจำ เพื่อดูแลหัวฉีดและห้องเผาไหม้ ส่วนรถเทอร์โบมักจะอ่อนไหวกับเลขออกเทนมากกว่า แต่ Mazda 3 ปี 2022 ทุกรุ่นเป็นเครื่องยนต์แบบแอทโมสเฟียร์ เลยปรับตัวได้ดีกว่า
Q
เครื่องยนต์อะไรที่อยู่ใน Mazda 3 ปี 2022?
รุ่น Mazda 3 ปี 2022 มาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ Skyactiv-Technology 2 แบบ ให้เลือกตามสไตล์การขับขี่ เครื่องยนต์แรกเป็นแบบ 2.0 ลิตร 4 สูบ แบบดูดธรรมดา (กำลังสูงสุด 155 แรงม้า แรงบิดสูง 200 นิวตันเมตร) ส่วนอีกรุ่นเป็น 2.5 ลิตร 4 สูบ (กำลังสูงสุด 186 แรงม้า แรงบิดสูง 252 นิวตันเมตร) ทั้งคู่ใช้เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และบางรุ่นมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อให้เลือกด้วย เครื่องยนต์ทั้งสองแบบนี้ถูกออกแบบให้มีอัตราส่วนอัดสูง ช่วยประหยัดน้ำมันในเมืองแต่ยังเร่งฉิวเวลาแซง ส่วนใครที่ชอบขับทางไกล แนะนำรุ่น 2.5 ลิตรเลย เพราะแรงกว่านิดนึงเหมาะกับทางหลวง ส่วนรุ่น 2.0 ลิตรก็เพอร์เฟกต์สำหรับขับรถไปทำงานประจำวัน สิ่งที่น่าสนใจคือ Mazda 3 ทุกรุ่นไม่ใช้เทอร์โบ แต่ใช้เทคโนโลยีปรับระบบไอดี-ไอเสียและหัวฉีดน้ำมันให้ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้เวลาเจออากาศร้อนๆ เครื่องยังคงเสถียรและดูแลรักษาไม่ยาก แถมเติมน้ำมันแค่เบนซิน 91 ก็พอแล้ว หาเติมตามปั้มทั่วไปได้สบายๆ ใช้ไปนานๆ ก็ประหยัดค่าเชื้อเพลิงได้ดีเลยทีเดียว
Q
2022 Mazda 3 ผลิตที่ไหน?
รถ Mazda 3 รุ่นปี 2022 ส่วนใหญ่ผลิตที่ประเทศญี่ปุ่น เม็กซิโก และไทย โดยรุ่นที่ขายในไทยบางส่วนถูกประกอบที่โรงงานอาเซียนในจังหวัดชลบุรี โรงงานนี้ทำงานตามมาตรฐานคุณภาพระดับโลกของมาสด้าทุกขั้นตอน เพื่อให้รถยนต์มีคุณภาพเทียบเท่ารุ่นที่ผลิตในญี่ปุ่นเลยทีเดียว เครื่องยนต์สกายแอคทีฟและดีไซน์โคโดะที่มาพร้อมในรุ่นนี้เป็นที่นิยมมากในตลาดไทย เพราะประหยัดน้ำมันและขับเคลื่อนคล่องตัวเหมาะกับสภาพถนนในเมืองเป็นพิเศษ ที่น่าสนใจคือโรงงานอาเซียนแห่งนี้ไม่เพียงแต่ผลิตรถพวงมาลัยขวาเพื่อจำหน่ายในประเทศเท่านั้น แต่ยังส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย แสดงให้เห็นถึงความสามารถด้านการผลิตที่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง สำหรับผู้บริโภคแล้ว การเลือกรถที่ประกอบในประเทศจะได้รถเร็วขึ้นและได้รับบริการหลังการขายที่คุ้มค่ากว่า ในขณะที่รุ่นนำเข้าจะมีตัวเลือกอุปกรณ์สูงให้เลือกมากกว่า แนะนำให้เลือกตามความต้องการจริงๆ ของคุณจะดีที่สุด
Q
รถ Mazda3 ปี 2022 จะมีอายุการใช้งานได้นานแค่ไหน
รถ Mazda 3 รุ่นปี 2022 ในสภาพการใช้งานและการดูแลรักษาปกติ คาดว่าจะวิ่งได้เกิน 2 แสนถึง 3 แสนกิโลเมตร แต่อายุการใช้งานจริงขึ้นอยู่กับนิสัยการขับ ขั้นตอนการดูแลรักษา และปัจจัยสภาพแวดล้อมในพื้นที่ รถรุ่นนี้ใช้เทคโนโลยี Skyactiv ที่ให้ประสิทธิภาพความทนทานของเครื่องยนต์และเกียร์ในระดับดี รวมถึงการป้องกันสนิมตัวถังที่เหมาะกับสภาพอากาศชื้น แนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ และตรวจสอบระบบเบรกอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ นอกจากนี้ในเขตอากาศร้อนควรระวังเรื่องความร้อนที่อาจทำให้แบตเตอรี่และชิ้นส่วนยางเสื่อมสภาพเร็วขึ้น แนะนำให้ตรวจสอบระบบระบายความร้อนและแอร์ทุก 6 เดือน สำหรับเจ้าของที่ต้องการใช้รถยาวนาน การเลือกอะไหล่แท้จากศูนย์และการปฏิบัติตามคู่มือการดูแลรักษาของผู้ผลิตจะช่วยยืดอายุการใช้งานได้มากที่สุด เทคโนโลยี Skyactiv ของ Mazda ไม่เพียงช่วยประหยัดน้ำมัน แต่ยังเพิ่มความทนทานด้วยโครงสร้างตัวถังแข็งแรงพิเศษ ซึ่งเป็นจุดสำคัญสำหรับการใช้งานในเมืองที่การจราจรหนาแน่นหรือการขับบนถนนชนบทผสมกัน
Q
ปัญหาทั่วไปของ Mazda3 ปี 2022 มีอะไรบ้าง?
รถ Mazda 3 รุ่นปี 2022 ในตลาดบ้านเรานั้นถือว่าทนทานพอสมควร แต่ก็มีปัญหาบางจุดที่ควรระวัง เช่น มีเจ้าของรถบางรายรายงานว่าหม้อแบตเตอรี่ 12V อาจเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติในสภาพอากาศร้อนชื้น แนะนำให้ตรวจสอบขั้วแบตเตอรี่เป็นประจำว่ามีการกัดกร่อนหรือไม่ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศแบบร้อนชื้น นอกจากนี้ระบบ idle stop ของเครื่องยนต์ Skyactiv-G อาจเพิ่มภาระให้แบตเตอรี่เมื่อต้องเจอกับการจราจรที่ติดขัดบ่อยๆ สามารถปิดชั่วคราวเพื่อยืดอายุการใช้งานได้ ส่วนระบบมัลติมีเดียอาจมีปัญหาการเชื่อมต่อ CarPlay ไม่เสถียรบ้าง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการอัปเดตระบบให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดก็สามารถแก้ไขได้ แล้วยังมีเรื่องสีรถแบบ Soul Red ที่ถึงจะสวยงามแต่ค่าซ่อมแซมค่อนข้างสูง แนะนำให้ทำประกันสีรถจากศูนย์จะดีกว่า
ที่น่าสนใจคือเทคโนโลยี Skyactiv ของรถรุ่นนี้เหมาะมากสำหรับการขับบนเส้นทางขึ้นเขา เนื่องจากเครื่องยนต์อัตราส่วนกำลังอัดสูงช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีแม้ในพื้นที่ภูเขาอย่างเชียงใหม่ และระบบ GVC ยังช่วยเพิ่มความมั่นคงบนถนนลื่นๆ ขอแนะนำให้ใช้ยางที่แนะนำโดยโรงงานเดิมเมื่อขับรถในฤดูฝน การจัดแนวล้อสี่ล้อเป็นประจำสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาการบดเบี่ยงเบนได้
Q
มูลค่าขายต่อของ Mazda 3 ปี 2022 คือเท่าไร?
ในตลาดมือสองท้องถิ่น รถ Mazda 3 รุ่นปี 2022 มีอัตราการรักษามูลค่าค่อนข้างคงที่ โดยขึ้นอยู่กับสภาพรถ ระยะทาง และระดับอุปกรณ์ ส่วนใหญ่จะรักษามูลค่าได้ประมาณ 65%-75% ของราคารถใหม่ โดยเฉพาะรุ่นระดับกลางถึงสูงที่ติดตั้งเครื่องยนต์ Skyactiv-G 2.0L อย่างรุ่น Carbon Edition นั้นเป็นที่นิยมมากกว่า เพราะมีอุปกรณ์มาตรฐานเช่น ไฟ LED พวงมาลัยหนัง ทำให้เวลาขายต่อจะเสียมูลค่าน้อยกว่ารุ่นพื้นฐานประมาณ 5%-8% สีแดง Soul Red Crystal แม้จะต้องจ่ายเพิ่มตอนซื้อรถใหม่ แต่เวลาขายมือสองจะรักษามูลค่าได้มากกว่าสีอื่นประมาณ 3%-5% ปัจจัยสำคัญที่ช่วยรักษามูลค่าคือการมีประวัติการบริการจากตัวแทนจำหน่ายอย่างสม่ำเสมอ และการติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยจากโรงงานเช่น ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจเวลาขายต่อได้มาก เมื่อเทียบกับรถระดับเดียวกัน Mazda 3 ได้รับความนิยมในตลาดมือสองอย่างต่อเนื่องเนื่องจากเทคโนโลยี Skyactiv ที่ช่วยให้ประหยัดน้ำมันและขับเคลื่อนดี แนะนำว่าก่อนขายควรเปรียบเทียบราคาในแพลตฟอร์มขายมือสองชั้นนำ และเตรียมประวัติการซ่อมบำรุงให้ครบถ้วนเพื่อให้ได้ราคาดีที่สุด
Q
Mazda 3 รุ่นปี 2022 ควรใช้น้ำมันชนิดใด
สำหรับ Mazda 3 รุ่นปี 2022 ทางผู้ผลิตแนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องเกรดความหนืด SAE 0W-20 ซึ่งเป็นน้ำมันเครื่องความหนืดต่ำที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันเครื่องยนต์ขณะสตาร์ทเครื่องตอนเย็นและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ดี เหมาะสมเป็นพิเศษกับการขับขี่ในสภาพอากาศร้อนที่มีการสตาร์ทเครื่องบ่อยครั้ง แต่หากรถของคุณมีระยะทางใช้งานเกิน 80,000 กิโลเมตรหรือพบปัญหาน้ำมันเครื่องลดลงเล็กน้อย อาจพิจารณาอัพเกรดไปใช้เกรด 5W-30 เพื่อเพิ่มการป้องกันเครื่องยนต์ในอุณหภูมิสูง
แนะนำให้เลือกน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ (ทั้งแบบเต็มสังเคราะห์และกึ่งสังเคราะห์) เนื่องจากทนทานต่อการเกิดออกซิเดชันในอุณหภูมิสูงได้ดีกว่าน้ำมันเครื่องแร่ ควรเลือกน้ำมันเครื่องคุณภาพสูงที่ได้การรับรองมาตรฐาน API SP หรือ ILSAC GF-6 ยี่ห้อที่หาซื้อได้ทั่วไปในประเทศไทยเช่น เชลล์ เฮลิกซ์ อัลตรา มอบบิล 1 หรืออิเดมิตสึ ZEPRO ก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม
ระยะเวลาการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องควรอยู่ที่ทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 12 เดือน (แล้วแต่อย่างไหนมาถึงก่อน) แต่หากขับขี่ในสภาพรถติดนานหรือขับแบบอัดอาจลดระยะเหลือ 8,000 กิโลเมตร ควรตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องเป็นประจำและหากพบสัญญาณไฟเตือนสีเหลืองที่หน้าปัดควรรีบเติมน้ำมันเครื่องทันที
เมื่อทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ควรเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องแบบเดิมของผู้ผลิตไปพร้อมกันเพื่อประสิทธิภาพการกรองที่ดีที่สุด และไม่ควรผสมน้ำมันเครื่องต่างยี่ห้อกัน หากต้องการเปลี่ยนยี่ห้อควรล้างระบบน้ำมันเครื่องให้สะอาดก่อนเสมอ
Q
รถ Mazda 3 ปี 2022 มีความน่าเชื่อถือไหม?
รถ Mazda 3 รุ่นปี 2022 นี่เรื่องความน่าเชื่อถือถือว่าทำงานได้ดีเลยครับ เครื่องยนต์ Skyactiv-G และระบบเกียร์ Skyactiv-Drive ที่ผ่านการทดสอบจากตลาดมานั้นให้ความมั่นใจได้เรื่องความเสถียร แถมยังเจอปัญหาน้อยเวลาขับขี่ประจำวัน โดยเฉพาะการใช้งานในเมืองหรือเดินทางไกล โครงสร้างตัวรถใช้เหล็กความแข็งแรงสูง เรื่องความปลอดภัยถือว่าอยู่ในระดับดีเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในคลาสเดียวกัน แถมยังออกแบบมาให้ทนต่อสภาพอากาศและความชื้นในไทยได้เป็นอย่างดี ภายในห้องโดยสารทำออกมาได้ละเอียดและครบเครื่อง พร้อมระบบ i-Activsense ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยเวลาขับขี่ แต่อย่างไรก็ตามค่าบำรุงรักษาของมาสด้าจะสูงกว่ารถญี่ปุ่นบางยี่ห้ออยู่หน่อย แต่ถ้าเข้าศูนย์บริการตามกำหนดก็ช่วยให้รถสภาพดีได้ในระยะยาว ส่วนเรื่องค่าซื้อขายต่อนั้น Mazda 3 ในตลาดบ้านเราค่อนข้างทรงตัว ถ้าเป็นรถอายุ 3 ปีจะอยู่ที่ประมาณ 60% ของราคาใหม่ สำหรับคนที่ชอบความสนุกในการขับและต้องการความน่าเชื่อถือด้วย รุ่นนี้นับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แนะนำให้ลองทดลองขับดูก่อนตัดสินใจ เพราะระบบบังคับเลี้ยวที่แม่นยำของมันนี่แหละที่ทำให้การขับขี่สนุกมาก
รถยอดนิยม
รุ่นปีรถยนต์
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
Q&A ล่าสุด
Q
"รถที่มีราคาสูงที่สุดในโลกในปี 2024 คืออะไร?"
ในปี 2024 รถยนต์ที่แพงที่สุดในโลกคงหนีไม่พ้น Rolls-Royce Boat Tail รุ่นคัสตอมสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ราคาพุ่งไป 28 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากเรือยอร์ชโบราณ ตัวถังทาสีเมทัลลิกที่ขัดมืออย่างประณีต ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยอุปกรณ์สุดหรูเช่น ตู้เย็นเก็บแฮมพาร์มาและชุดเครื่องเงินสำหรับคาเวียร์ ตามมาติดๆ คือ Bugatti La Voiture Noire รถซุปเปอร์คาร์สัญชาติฝรั่งเศสที่ราคา 18.5 ล้านดอลลาร์ มาพร้อมเครื่องยนต์ W16 8.0 ลิตร ที่ทำความเร็วสูงสุดได้ 420 กม./ชม. สำหรับในตลาดรถไทย เราอาจจะเคยเห็น Rolls-Royce Phantom หรือ Lamborghini รุ่นลิมิเต็ดเอดิชันวิ่งอยู่แถวกรุงเทพฯบ้าง ซึ่งรถระดับนี้มักจะมีระบบป้องกันฝุ่นพิเศษ สําหรับผู้ที่ชื่นชอบการสะสมรถยนต์ นอกจากการให้ความสําคัญกับราคาแล้ว ควรเข้าใจศักยภาพในการรักษามูลค่าของรถยนต์เหล่านี้มากขึ้น เช่น ราคาของ Ferrari 250 GTO ในการประมูลเพิ่มขึ้นจาก 35 ล้านเป็น 70 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ความขาดแคลนนี้จึงเป็นคุณค่าหลักของรถยนต์หรูหราชั้นนํา
Q
อะไรทำให้ Revuelto มีราคาแพงขนาดนี้?
ราคาสูงลิ่วของ Lamborghini Revuelto เกิดจากการลงทุนด้านเทคโนโลยีขั้นสูงในฐานะซูเปอร์คาร์ไฮบริดแบบปลั๊กอินรุ่นแรกของแบรนด์ พร้อมด้วยคุณสมบัติการผลิตแบบลิมิเต็ดเอดิชัน ที่มาพร้อมระบบไฮบริดซึ่งประกอบด้วยเครื่องยนต์ 6.5 ลิตร V12 แบบดูดธรรมชาติและมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ให้กำลังสูงถึง 1,015 แรงม้า เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.5 วินาที สมรรถนะระดับนี้ต้องพึ่งพาวัสดุลดน้ำหนักจากคาร์บอนไฟเบอร์และระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งมาในระดับมาตรฐานการบิน เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถขับเคลื่อนอย่างเต็มประสิทธิภาพแม้ในสภาพอากาศร้อนระอุของประเทศไทย ระบบระบายความร้อนอัจฉริยะและจานเบรกเซรามิกจะช่วยรักษาความเสถียรระหว่างขับขี่แบบสุดเหวี่ยง ส่วนกรรมวิธีการผลิตแบบทำมือในอิตาลีทำให้ผลผลิตต่อเดือนไม่ถึง 100 คัน ความหายากนี้เองที่ดันราคาให้สูงขึ้น
ซูเปอร์คาร์ระดับนี้ส่วนใหญ่จะผลิตแบบออร์เดอร์เมด (สั่งทำตามใบสั่ง) โดยบริการปรับแต่งพิเศษเช่นสีรถเฉพาะหรือหนังหุ้มเบาะภายในย่อมเพิ่มต้นทุนเข้าไปอีก ในขณะที่ระบบไฮบริดซึ่งซับซ้อนกว่าซูเปอร์คาร์ทั่วไปก็ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาระยะยาวด้วย
ที่น่าสนใจคือ ไฮเปอร์คาร์ในระดับราคานี้มักมาพร้อมเทคโนโลยีระดับสนามแข่ง อย่างระบบแอคทีฟแอโรไดนามิกส์หรือระบบกระจายแรงบิด (Torque Vectoring) ซึ่งต้นทุนการวิจัยและพัฒนาที่สูงลิบเหล่านี้จะถูกเฉลี่ยเข้ากับแต่ละคันที่ผลิต ทำให้รถสมรรถนะขั้นสุดแบบนี้กลายเป็นสินค้าเฉพาะกลุ่มโดยธรรมชาติ
Q
มียอดขายรถ Lamborghini ในปี 2024 จำนวนเท่าไร?
ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับยอดขายทั่วโลกของ Lamborghini ในปี 2024 แต่จากผลงานในปีที่ผ่านมาของแบรนด์นี้ พบว่ายอดขายต่อปีมักจะอยู่ที่ประมาณ 8,000 ถึง 10,000 คัน โดยรุ่น Urus เป็นตัวหลักที่ทำยอดขายเกิน 60% ของทั้งหมด ในตลาดท้องถิ่น Lamborghini มีเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายครอบคลุมเมืองใหญ่ๆ พร้อมเสนอผลิตภัณฑ์ครบทุกรุ่นทั้ง Huracán Aventador รุ่นต่อเนื่อง และ Urus ซึ่งรุ่น Urus นั้นได้รับความนิยมเป็นพิเศษเพราะตอบโจทย์ทั้งความแรงและความประหยัดพื้นที่ ที่น่าสนใจคือแบรนด์ซูเปอร์คาร์ในยุคนี้กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบไฟฟ้า Lamborghini เองก็ประกาศแล้วว่าจะเปิดตัว Revuelto รุ่นไฮบริดแรก ซึ่งนับเป็นการเริ่มปรับตัวตามเทรนด์พลังงานสะอาด แต่ยังคงรักษาลักษณะเฉพาะของเครื่องยนต์ความจุสูงไว้ แนวทางนี้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในท้องถิ่นที่อยากได้ทั้งสมรรถนะสูงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สำหรับผู้ที่สนใจซื้อ นอกจากจะดูตัวเลขยอดขายแล้ว ควรให้ความสำคัญกับระยะเวลารอคอยและการบริการปรับแต่งเฉพาะตัวของรุ่นลิมิเต็ดเอดิชันเหล่านี้ ซึ่งปกติต้องติดต่อล่วงหน้ากับตัวแทนจำหน่ายอย่างน้อยหลายเดือนเพื่อกำหนดสเปค
Q
รถยนต์ที่ขายเร็วที่สุดในปี 2024 คือรุ่นใด
รถยนต์ที่ขายดีที่สุดในปี 2024 คือ Toyota Hilux Revo ซึ่งเป็นรถปิคอัพที่ครองใจผู้บริโภคด้วยความทนทาน ประหยัดน้ำมัน และความสามารถในการขับขี่บนทุกสภาพถนน โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องขนของหรือเดินทางไกลบ่อยๆ Hilux Revo ไม่เพียงแต่มีโครงสร้างแข็งแรงและระบบเครื่องยนต์อันล้ำสมัย แต่ยังมาพร้อมฟีเจอร์ช่วยขับขี่อัจฉริยะ ที่ช่วยเพิ่มทั้งความปลอดภัยและความสะดวกสบายให้ผู้ขับขี่ นอกจากรถปิคอัพแล้ว รถไฟฟ้าอย่าง BYD ATTO 3 ก็มาแรงไม่แพ้กัน ด้วยราคาคุ้มค่าและค่าใช้จ่ายในการใช้งานที่ต่ำ ดึงดูดผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงปีที่ผ่านมา ยอดขายรถไฮบริดและรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นชัดเจน สะท้อนให้เห็นว่าตลาดเริ่มยอมรับเทคโนโลยีประหยัดพลังงานมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ที่ใช้น้ำมันแบบเดิมหรือรถพลังงานใหม่ สิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญเวลาซื้อรถคือความคุ้มค่า ความทนทาน และค่าบำรุงรักษา ขณะที่การบริการหลังการขายและการจัดหาอุปกรณ์เสริมที่แปลเป็นภาษาท้องถิ่นก็เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อ
Q
รถที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในปี 2024 คืออะไร?
คาดว่าในปี 2024 รถยนต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจะเป็นรุ่นไฮบริดและไฟฟ้าเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะ Toyota bZ4X และ BYD ATTO 3 ที่ผสมผสานระหว่างความใช้งานได้จริงกับเทคโนโลยีรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งดึงดูดผู้บริโภคจำนวนมากด้วยต้นทุนการประหยัดพลังงานและนโยบายสนับสนุนจากรัฐบาล ส่วนรถปิกอัพอย่าง Toyota Hilux Revo และ Isuzu D-MAX ยังคงเป็นที่นิยมสูงเนื่องจากความทนทานและความหลากหลายในการใช้งานที่เหมาะกับสภาพถนนและไลฟ์สไตล์ของคนไทย นอกจากนี้รถหรูแบรนด์ดังอย่าง Mercedes-Benz EQ Series และ BMW iX ก็ยังครองใจกลุ่มตลาดบนด้วยภาพลักษณ์แบรนด์และเทคโนโลยีล้ำสมัย ด้วยการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จไฟและการเพิ่มความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมของผู้บริโภคตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในขณะที่ยานพาหนะเชื้อเพลิงแบบดั้งเดิมยังคงสามารถแข่งขันได้ด้วยเทคโนโลยีไฮบริด แนะนำให้ทดลองขับรถและเปรียบเทียบค่าบำรุงรักษาและประสิทธิภาพความทนทานของพลังงานประเภทต่าง ๆ ก่อนที่จะซื้อรถเพื่อให้เหมาะกับความต้องการส่วนบุคคล
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Mazda 3 ดูดี แต่ไม่ตอบโจทย์? เผยปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยอดขายไม่ดี
ธนวัฒน์Sep 10, 2024

Mazda 3 Hatchback ราคาเริ่มต้นที่ 166,059 ริงกิต จะเลือกทั้งสองรุ่นนี้อย่างไรดีนะ?"
AshleyJul 15, 2024

Mazda 3 มีราคาตั้งแต่ THB 979,000 เป็นรถเก๋งซี-เซกเมนต์สง่างามที่สุดไหม?
LienJun 12, 2024

ตารางผ่อน Mazda CX-30 ชำระครั้งแรกได้รับดอกเบี้ยต่ำ 25%
AshleyNov 18, 2025

Mazda เดินเกมใหม่! พัฒนา “รถยนต์ที่สามารถดูดควันของตัวเองได้”
สุรเดชNov 13, 2025
ดูเพิ่มเติม


ข้อดี
ข้อเสีย