Q

วิธีเปิดส่วนหน้าของรถ Honda Civic 2024

ก่อนจะเปิดฝากระโปรงหน้ารุ่นฮอนด้าซิวิค 2024 สิ่งแรกที่ต้องทำคือนั่งในที่นั่งคนขับ แล้วมองหาคันปลดล็อกฝากระโปรงหน้า ซึ่งจะมีสัญลักษณ์รูปเครื่องยนต์อยู่ด้านล่างซ้ายของพวงมาลัย ดึงคันนี้เบาๆจนได้ยินเสียงฝากระโปรงหน้ายกขึ้น จากนั้นเดินไปที่หน้าตัวรถ ใช้มือสอดเข้าไปในช่องกลางฝากระโปรง แล้วหาล็อกนิรภัยตัวที่สองให้เจอ ให้ดันล็อกนี้ไปทางซ้ายหรือขวาพร้อมกับยกฝากระโปรงขึ้น สำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย แนะนำให้ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นและน้ำมันเบรกในห้องเครื่องเป็นประจำ เพื่อให้รถทำงานได้ปกติ และควรทำความสะอาดห้องเครื่องด้วย ระวังอย่าให้ใบไม้หรือเศษอุดตันท่อระบายน้ำ ถ้าต้องขับในพื้นที่ติดขัดอย่างกรุงเทพฯ บ่อยๆ ควรเช็กด้วยว่าฟิลเตอร์อากาศอุดตันฝุ่นหรือไม่ เพราะจะช่วยรักษาสมรรถนะเครื่องยนต์และประหยัดน้ำมันได้ ส่วนเวลาปลดล็อกฝากระโปรงถ้าได้ยินเสียงเฮียกที่บานพับ ให้ทาจาระบีเล็กน้อย และเนื่องจากอากาศไทยร้อนจัดทำให้ยางซีลเสื่อมสภาพเร็ว ควรตรวจสอบความแน่นของซีลทุกๆครึ่งปี
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
Honda City มี CarPlay ไหม?
รุ่นล่าสุดของ Honda City ในตลาดไทยตอนนี้ มีฟีเจอร์ Apple CarPlay มาให้ใช้กันแล้ว ทำให้ผู้ขับขี่สามารถใช้งานแอปพลิเคชันบน iPhone อย่างเช่น แผนที่การนำทาง เพลง หรือแอปติดต่อสื่อสารต่างๆ ผ่านหน้าจอในรถได้สะดวกขึ้น ช่วยอัพเกรดประสบการณ์การขับขี่โดยเฉพาะในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรค่อนข้างติดขัด ฟังก์ชันนำทางแบบเรียลไทม์ของ CarPlay ถือว่ามีประโยชน์มากๆ อย่างไรก็ตาม ต้องระวังนิดนึงว่า CarPlay อาจจะไม่ได้มีในทุกรุ่นหรือทุกปีผลิตนะครับ แนะนำให้สอบถามรายละเอียดกับทางโชว์รูมอีกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อ นอกจาก CarPlay แล้ว Honda City ยังรองรับ Android Auto สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนระบบ Android ด้วยนะ ถือว่าให้ประสบการณ์การเชื่อมต่อที่คล้ายกัน ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เทคโนโลยีการเชื่อมต่อในรถกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่คนไทยให้ความสำคัญเวลาซื้อรถ ยี่ห้อต่างๆ จึงพยายามอัพเกรดฟีเจอร์ส่วนนี้เพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านความสะดวกและความอัจฉริยะของผู้บริโภค Honda City ในฐานะรถซีดานคอมแพคต์ยอดนิยมของตลาดไทย การที่ Honda คอยอัปเดตฟีเจอร์เทคโนโลยีแบบนี้ ก็แสดงให้เห็นว่าฮอนด้าให้ความสำคัญกับความต้องการของคนไทยจริงๆ ครับ
Q
วิธีสตาร์ทรถ Honda City ด้วยกุญแจ
ก่อนจะสตาร์ทรถ Honda City ต้องแน่ใจว่าเกียร์อยู่ตำแหน่ง P แล้ว จากนั้นใส่กุญแจเข้าไปในช่องสตาร์ท เหยียบแป้นเบรกสำหรับเกียร์ออโต้ หรือแป้นคลัทช์สำหรับเกียร์ธรรมดา แล้วบิดกุญแจตามเข็มนาฬิกาไปที่ตำแหน่ง "START" พอเครื่องยนต์ติดก็ปล่อยกุญแจได้เลย ในสภาพอากาศร้อนของไทย แนะนำให้วอร์มเครื่องสัก 30 วินาทีให้น้ำมันเครื่องไหลเวียนก่อนออกรถ จะช่วยถนอมเครื่องดีครับ ถ้าเป็นรุ่นที่ใช้สมาร์ทคีย์ แค่ถือกุญแจเข้าไปในรถ แล้วเหยียบเบรกกดปุ่มสตาร์ทเครื่องก็ได้แล้ว ใส่ใจกับการตรวจสอบระดับแบตเตอรี่ที่สำคัญอย่างสม่ำเสมอในการใช้งานประจำวันเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในการเริ่มต้นเนื่องจากไฟฟ้าต่ำ ในฤดูฝนของประเทศไทย หากพบระบบจุดระเบิดที่ชื้นและไม่สามารถสตาร์ทได้ คุณสามารถลองใช้ฟังก์ชั่นกุญแจรีโมทเพื่อปลดล็อก/ล็อกประตูหลายครั้งก่อนเพื่อให้ระบบจดจําสัญญาณใหม่ นอกจากนี้ยังแนะนำให้ตรวจสอบหน้าสัมผัสสวิตช์จุดระเบิดทุก 2 ปีสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงเช่นกรุงเทพมหานครมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดการเกิดออกซิเดชันของหน้าสัมผัสส่งผลกระทบต่อความไวในการเริ่มต้น
Q
ยางรถยนต์สำหรับ Honda City รุ่นปี 2021 มีขนาดเท่าไหร่?
ยางมาตรฐานของ Honda City รุ่นปี 2021 ในตลาดไทยมีขนาด 185/55 R16 ซึ่งเป็นขนาดที่ตอบโจทย์ทั้งความนุ่มสบายและความคล่องตัว เหมาะสมกับสภาพถนนทั้งในเมืองและชานเมืองของไทย โดยตัวเลข 185 หมายถึงความกว้างของยางมีหน่วยเป็นมิลลิเมตร ส่วน 55 คืออัตราส่วนความสูงของแก้มยางต่อความกว้างยาง (ร้อยละ 55) และ R16 หมายถึงล้อแม็กซ์ขนาด 16 นิ้ว สำหรับสภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก แนะนำให้เลือกยางแบรนด์ดังอย่างบริจสโตนหรือมิชลินที่มีคุณสมบัติการรีดน้ำดีและทนความร้อนสูง ซึ่งทั้งสองแบรนด์มีรุ่นที่เหมาะกับซิตี้โดยเฉพาะ ข้อควรระวังคือแม้การอัพเกรดไปใช้ยางที่กว้างขึ้นจะช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะแต่ก็อาจทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้นและอาจส่งผลต่อความแม่นยำของมาตรวัดระยะทาง ดังนั้นควรปรึกษาช่างผู้ชำนาญก่อนตัดสินใจเปลี่ยน นอกจากนี้กฎหมายไทยกำหนดให้ดอกยางต้องมีความลึกไม่ต่ำกว่า 1.6 มม. และควรตรวจสอบสภาพดอกยางกับความดันลมยางเป็นประจำ (ปกติลมยางหน้าอยู่ที่ 32 psi ลมยางหลัง 30 psi) โดยเฉพาะก่อนเดินทางไกลหรือช่วงเข้าหน้าฝนเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
Q
Honda City 2021 ประหยัดน้ำมันหรือไม่?
รถ Honda City รุ่นปี 2021 ถือว่าประหยัดน้ำมันมากๆ โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในเมืองไทยและการขับขี่ระยะไกล รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร i-VTEC แบบ CVT นั้นวิ่งได้เฉลี่ย 17-18 กิโลเมตรต่อลิตร ส่วนรุ่นไฮบริด e:HEV นั้นยิ่งประหยัดขึ้นไปอีก ทำได้ถึง 27-28 กิโลเมตรต่อลิตร ช่วยลดค่าน้ำมันได้อย่างชัดเจน รถรุ่นนี้ขายดีในไทยไม่ใช่แค่เพราะความประหยัด แต่ยังเพราะขนาดตัวรถที่กำลังดี ขับลุยในซอยแคบๆ ในกรุงเทพหรือจอดก็ง่าย แถมความทนทานของ Honda ก็ผ่านการทดสอบในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยมานานแล้ว ที่สำคัญอย่าลืมว่าตัวเลขประหยัดน้ำมันที่ทางบริษัทประกาศอาจแตกต่างจากการใช้งานจริง ซึ่งขึ้นอยู่กับสไตล์การขับ การเปิดแอร์ และสภาพถนนด้วย แนะนำให้คนไทยหมั่นดูแลรถตามกำหนดและขับขี่อย่างนุ่มนวลเพื่อรักษาประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน ส่วนเรื่องบริการหลังการขายก็ไม่ต้องห่วง เพราะ Honda มีเครือข่ายบริการครอบคลุมทั่วไทย พร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างมืออาชีพ
Q
คะแนนความปลอดภัยของ Honda City 2021 คือเท่าไหร่?
รถ Honda City รุ่นปี 2021 ในตลาดไทยทำคะแนนด้านความปลอดภัยได้ดีมาก โดยเวอร์ชันผลิตไทยผ่านการทดสอบชนจากอาเซียน NCAP และได้คะแนนเต็ม 5 ดาว ส่วนหนึ่งมาจากระบบ Honda SENSING ที่มาพร้อมฟีเจอร์ช่วยเหลือผู้ขับขี่อย่างระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติและระบบช่วยรักษาระยะเลนรถ รวมถึงถุงลมนิรภัย 6 ใบ ระบบควบคุมเสถียรภาพรถ ที่ออกแบบมาเพื่อรับมือกับสภาพถนนทั้งในเมืองและชนบทของไทยที่ค่อนข้างซับซ้อน ต้องบอกว่ามาตรฐานการทดสอบของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ NCAP นั้นใกล้เคียงกับสภาพการจราจรจริงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีการเพิ่มการประเมินกรณีชนกับรถจักรยานยนต์ซึ่งสำคัญมากสำหรับไทยที่มีรถมอเตอร์ไซค์หนาแน่น เวลาเลือกซื้อรถนอกจากดูเรตติ้งดาวแล้ว ควรพิจารณาว่าฟีเจอร์ปลอดภัยไหนตรงกับความต้องการใช้งาน เช่น ถ้าขับทางไกลบ่อยก็เน้นระบบช่วยเหลือผู้ขับ ขณะที่ขับในเมืองอาจดูผลทดสอบการชนความเร็วต่ำ ส่วนสภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุกก็ส่งผลต่อความปลอดภัย ควรตรวจสอบยางและระบบเบรกเป็นประจำเพื่อให้ระบบความปลอดภัยทำงานได้เต็มประสิทธิภาพตลอดเวลา
Q
เครื่องยนต์ของ Honda City 2021 คืออะไร?
รถยนต์ Honda City รุ่นปี 2021 ที่วางขายในตลาดไทยมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร VTEC Turbo 3 สูบเทอร์โบชาร์จ และเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC 4 สูบแบบอัตโนมัติ รุ่น 1.0T ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า คู่กับเกียร์ CVT ที่เน้นประหยัดน้ำมันสุดๆ ส่วนรุ่น 1.5L ยังคงใช้เทคโนโลยี i-VTEC แบบคลาสสิกของ Honda เหมาะกับคนที่ชอบความลื่นไหลและดูแลง่าย ในสภาพอากาศร้อนๆ และถนนซับซ้อนของไทย เครื่องยนต์ทั้งสองแบบถูกปรับแต่งมาเฉพาะให้การระบายความร้อนและการทนอุณหภูมิสูงทำได้ดีเยี่ยม พร้อมผ่านมาตรฐานไอเสีย Euro 5 ที่เป็นไปตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมไทย ที่น่าสนใจคือเครื่องยนต์ของ Honda City ใช้เทคโนโลยีลดแรงเสียดทาน ช่วยลดการกินน้ำมันได้ชัดเจน โดยเฉพาะเวลาติดรถติดบนถนนไทยที่เจอกันบ่อยๆ แถมยังมีโหมด ECON ช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกขึ้นไป ทำให้รถรุ่นนี้ยังคงความโดดเด่นในตลาดรถเก๋งคอมแพคต์ของไทย เหมาะทั้งขับขี่ในเมืองและใช้เป็นรถครอบครัว
Q
ฮอนด้าซิตี้ 2024 มีความจุซีซีเท่าไหร่
รถฮอนด้าซิตี้รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ 2 แบบ คือเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตรและเครื่องยนต์แบบธรรมดา 1.5 ลิตร โดยเครื่องเทอร์โบ 1.0 ลิตรมีความจุกระบอกสูบ 998 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ส่วนเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรแบบธรรมดามีความจุ 1,498 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า เครื่องยนต์ทั้งสองแบบถูกออกแบบมาให้สมดุลระหว่างประหยัดน้ำมันและสมรรถนะการขับขี่ เหมาะกับทั้งการใช้งานในเมืองและการเดินทางไกลในไทย ฮอนด้าซิตี้เป็นที่นิยมในตลาดไทยเสมอมาด้วยความน่าเชื่อถือ ค่าซ่อมบำรุงไม่แพง และประหยัดน้ำมัน ส่วนรุ่นปี 2024 ยังเพิ่มเทคโนโลยีความปลอดภัย Honda SENSING เข้ามา ทำให้ยิ่งโดดเด่นขึ้น สำหรับลูกค้าชาวไทยที่กำลังตัดสินใจเลือกเครื่องยนต์ แนะนำว่าเครื่องเทอร์โบ 1.0 ลิตรเหมาะกับคนที่เน้นประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในขณะที่เครื่อง 1.5 ลิตรแบบธรรมดาจะให้ความรู้สึกการขับขี่ที่ลื่นไหลมากกว่า ทั้งสองแบบตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้ดีอยู่แล้ว แค่เลือกให้เหมาะกับสไตล์การขับและงบประมาณของคุณก็พอ
Q
คะแนนความปลอดภัยของ Honda City 2024 คืออะไร
รถฮอนด้าซิตี้รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยแสดงผลงานด้านความปลอดภัยได้ดีเยี่ยม ด้วยระบบ Honda SENSING ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นช่วยเหลือผู้ขับขี่อย่างครบครัน ทั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบช่วยรักษาเลน และระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยแบบพาสซีฟที่ครบถ้วน เช่น ถุงลมนิรภัย 6 จุด ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว และระบบเบรก ABS ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้รถรุ่นนี้มีความโดดเด่นในกลุ่มรถระดับเดียวกัน จากการทดสอบตามมาตรฐาน NCAP ของไทย คาดว่ารถรุ่นนี้จะได้คะแนนความปลอดภัยระดับ 5 ดาว เหมาะสมกับสภาพถนนทั้งในเมืองและชนบทของไทยที่หลากหลาย สำหรับผู้บริโภคชาวไทย นอกจากเรื่องความปลอดภัยแล้ว ยังควรพิจารณาค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและค่าประกันรถด้วย เพราะเครือข่ายบริการหลังการขายของฮอนด้าในไทยมีความพร้อมสูง มีอะไหล่ครบครัน ทำให้ค่าใช้จ่ายในการใช้งานระยะยาวค่อนข้างต่ำ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่คนไทยมักคำนึงถึงเมื่อเลือกซื้อรถเช่นกัน
Q
ความจุของกระโปรงท้ายรถฮอนด้าซิตี้ 2024 คือเท่าไร
รถฮอนด้า ซิตี้ รุ่นปี 2024 ที่วางขายในตลาดไทยมีปริมาตรกระโปรงหลังขนาด 536 ลิตร ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันของครอบครัวหรือการท่องเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์ สามารถบรรจุกระเป๋าเดินทางหลายใบหรือของช้อปปิ้งได้อย่างสบายๆ เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนไทยที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเองหรือช้อปปิ้งบ่อยๆ การออกแบบกระโปรงหลังทำได้อย่างสมเหตุสมผล มีช่องเปิดที่กว้าง ทำให้สะดวกในการลำเลียงสิ่งของ นอกจากนี้เบาะหลังยังสามารถพับลงได้ตามสัดส่วน ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ในสภาพอากาศของไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก กระโปรงหลังของซิตี้ยังมีการป้องกันการรั่วซึมที่ดี ช่วยปกป้องสิ่งของจากความชื้นหรือความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกันแล้ว ปริมาตรกระโปรงหลังขนาดนี้จัดอยู่ในระดับกลางถึงดี และเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่างโตโยต้า ยาริส แอททีฟแล้วยังได้เปรียบอยู่บ้าง สำหรับผู้ใช้งานไทยที่มักต้องพกพาสิ่งของจำนวนมาก พื้นที่กระโปรงหลังของซิตี้ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่值得พิจารณา แนะนำให้ไปทดลองบรรจุของที่ตัวแทนจำหน่ายด้วยตัวเองเพื่อความสะดวก และควรเปรียบเทียบกับการออกแบบกระโปรงหลังของรถรุ่นอื่นๆ ในราคาใกล้เคียงกัน เพื่อเลือกรถที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ดีที่สุด
Q
สีของ Honda City 2024 มีอะไรบ้าง
รถฮอนด้า ซิตี้ รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยมีให้เลือกหลายสีสันสไตล์โมเดิร์น ทั้งหมด 7 สีคลาสสิค ได้แก่ สีพลาตินัม ออบซิเดียน บลู เพิร์ล (น้ำเงินไข่มุก), อิกไนท์ เรด เมทัลลิก (แดงเมทัลลิก), แพลตตินัม ไวท์ เพิร์ล (ขาวไข่มุก), คริสตัล แบล็ค เพิร์ล (ดำไข่มุก), ลูนาร์ ซิลเวอร์ เมทัลลิก (เงินเมทัลลิก), อุกกาบาต เกรย์ เมทัลลิก (เทาเมทัลลิก) และทัฟเฟต้า ไวท์ (ขาวทาฟเฟต้า) เวลาเลือกสีรถควรคิดถึงเรื่องค่าดูแลรักษาด้วยนะครับ สีอ่อนๆ ในแดดเมืองไทยจะทนต่อคราบสกปรกกว่า ส่วนสีเข้มต้องล้างรถและขัดแว็กซ์บ่อยหน่อยเพื่อรักษาความเงางาม แถมบางสีพิเศษอาจต้องสั่งจองล่วงหน้าหรือรอรับรถนานกว่าปกติครับ

ข้อดี

พื้นที่ภายในรถกว้างขวางและสบาย
ระบบดีเซลที่มีประสิทธิภาพและเต็มไปด้วยเทคโนโลยี รุ่น RS ยอดนิยมมีชุดสไตล์กีฬารอบคัน RS ซึ่งประกอบด้วยกริดหน้าของรถสีดำและกระจกข้าง กันชนหน้าสไตล์กีฬา ไฟหน้า LED ที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด พร้อมกับไฟวิ่งกลางวันและไฟหมอก LED
ภายในรถเรือนสวยงามและมีอุปกรณ์ครบครัน มีบรรยากาศกีฬาในรถ มีหน้าจอวิทยุชั้นสูงที่สามารถสัมผัสได้ 8 นิ้ว สนับสนุน Apple CarPlay และมีระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT
เครื่องยนต์ที่แข็งแรง DOHC VTEC TURBO ขนาด 1.0 ลิตรแบบ 3 ลูกสูบ 12 วาล์ว ที่ 5500 รอบ/นาทีมีกำลังสูงสุดถึง 122 ม้า ซึ่งเป็นค่าที่สุดในหมวดเดียวกัน

ข้อเสีย

ความสบายและความสะดวกสบายมีข้อจำกัด
ประสิทธิภาพที่ความเร็วต่ำน้อย
ราคาสูงถึง 739000 บาท ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน และคู่แข่งมีระบบที่ไม่เยี่ยมเท่า City
ระบบความปลอดภัยไม่พอ ในด้านความปลอดภัย City แย่กว่าคู่แข่ง รุ่นใหม่ของ City ไม่มีชุด Honda Sensing เท่าที่มีเพียงระบบความปลอดภัยพื้นฐาน

Q&A ล่าสุด

Q
2023 Santa Fe มีระบบขับเคลื่อนทุกล้อ (AWD) ไหม?
รถยนต์ Hyundai Santa Fe รุ่นปี 2023 นั้นมีแบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) จริงๆ ระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ HTRAC จะปรับการกระจายกำลังระหว่างล้อหน้าและล้อหลังอัตโนมัติตามสภาพถนน ช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะในถนนลื่นหรือเวลาออฟโรดเล็กน้อย โดยเฉพาะเหมาะกับพื้นที่ที่ฝนตกบ่อยๆ นอกจากแบบ AWD แล้ว Santa Fe ยังมีแบบขับเคลื่อนล้อหน้าให้เลือกด้วยนะ ถ้าใช้วิ่งในเมืองเป็นประจำ แบบขับเคลื่อนล้อหน้าจะประหยัดน้ำมันกว่า ระบบ AWD ของ Santa Fe ยังมีโหมดขับขี่หลายแบบให้เลือกใช้ ทั้งโหมดสบายๆ โหมดประหยัด โหมดสปอร์ต และโหมดอัจฉริยะ ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามสภาพถนนและสไตล์การขับขี่ ส่วนเรื่องพื้นที่ภายในก็กว้างขวางกว่า SUV คลาสเดียวกัน ที่นั่งแถวสามก็พอใช้สำหรับครอบครัว ส่วนท้ายรถก็จุของได้เยอะ เหมาะสำหรับการเดินทางไกลจริงๆ เรื่องความปลอดภัยก็ครบครัน ทั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ ระบบเตือนจุดบอด ช่วยเพิ่มความมั่นใจเวลาขับบนถนนสภาพซับซ้อน ถ้ามีงบพอและต้องการความมั่นใจในการขับขี่มากขึ้น แบบ AWD ก็เป็นตัวเลือกที่ดี แนะนำให้ลองไปทดลองขับทั้งสองแบบที่ตัวแทนจำหน่ายก่อนตัดสินใจจะดีที่สุด
Q
ค่าประกันภัยสำหรับรถ Hyundai Santa Fe ปี 2023 เท่าไหร่?
ค่าเบี้ยประกันสำหรับ Hyundai Santa Fe รุ่นปี 2023 นั้นจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น รุ่นรถ (แบบเบนซิน 2.5L หรือแบบไฮบริด 1.6T), ราคาซื้อรถ, อายุและประวัติการขับขี่ของเจ้าของรถ รวมถึงนโยบายของบริษัทประกัน โดยทั่วไปค่าเบี้ยประกันต่อปีจะอยู่ที่ประมาณ 15,000-35,000 บาท แนะนำให้ตรวจสอบราคาที่แน่นอนผ่านเว็บไซต์บริษัทประกันหรือแพลตฟอร์มเปรียบเทียบราคา เพราะความแตกต่างระหว่างประกันเต็มรูปแบบ (ครอบคลุมการชน, ภัยธรรมชาติ และความรับผิดต่อบุคคลที่สาม) กับประกันพื้นฐานอาจสูงถึง 40% นอกจากนี้ รุ่นไฮบริดอาจมีค่าเบี้ยประกันสูงกว่ารุ่นเบนซินประมาณ 10%-15% เนื่องจากค่าซ่อมแซมที่สูงกว่า การติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันการขโมยแบบ GPS หรือการเลือกความรับผิดชอบส่วนแรกที่สูงขึ้นสามารถช่วยลดเบี้ยประกันได้ประมาณ 5%-10% ในตลาดไทย บริษัทประกันชั้นนำเช่น วิริยะ ธรรมภักดี มักมีส่วนลดสำหรับปีแรกเมื่อทำประกันรถใหม่ และการซื้อประกันผ่านสถาบันการเงินที่ให้บริการสินเชื่อรถยนต์อาจได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม ในการเลือกประกันรถยนต์ นอกจากราคาแล้ว ควรพิจารณาประสิทธิภาพในการเคลม (โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัยธรรมชาติ) และเครือข่ายศูนย์ซ่อมที่ครอบคลุม เพราะบางบริษัทอาจกำหนดให้ใช้ศูนย์ซ่อมเฉพาะซึ่งอาจส่งผลต่อสิทธิประกันจากศูนย์บริการของตัวแทนจำหน่าย
Q
รถ Hyundai Santa Fe ปี 2023 มีแถวที่สามหรือไม่?
รุ่น Hyundai Santa Fe ปี 2023 ในบางรุ่นระดับตัดแต่งนั้นมีตัวเลือกที่นั่งแถวที่สามให้เลือกจริงๆ รุ่นนี้จัดอยู่ในประเภท SUV ขนาดกลาง ที่มีการจัดเรียงที่นั่งแบบ 2+3+2 รวมเป็น 7 ที่นั่ง โดยแถวที่สามจะเหมาะกับเด็กหรือผู้ใหญ่สำหรับการเดินทางระยะสั้นมากกว่า สำหรับครอบครัวที่ต้องเดินทางพร้อมกันหลายคนบ่อยๆ ถือเป็นตัวเลือกที่ใช้งานได้จริง ในตลาดไทย Santa Fe มีให้เลือกทั้งรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร และรุ่นไฮบริดเทอร์โบ 1.6 ลิตร ซึ่งระบบไฮบริดนั้นช่วยประหยัดน้ำมันและยังให้กำลังขับเคลื่อนที่เพียงพอ เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นอย่างดี แถมยังมาพร้อมกับชุดความปลอดภัย SmartSense ของ Hyundai ที่มีระบบ cruise control อัตโนมัติและระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยทั้งในการขับขี่บนถนนติดขัดในกรุงเทพหรือการเดินทางไกล แต่อย่างไรก็ตาม รุ่น 7 ที่นั่งจะทำให้พื้นที่กระโปรงหลังลดลง แนะนำให้ลองชั่งน้ำหนักความต้องการก่อนซื้อ ถ้าเปรียบเทียบกับรถ SUV 3 แถวที่นั่งในระดับเดียวกันก็จะมี Toyota Fortuner Isuzu MU-X ให้เลือก แต่ Santa Fe ได้เปรียบในเรื่องเทคโนโลยีและความหรูหราของห้องโดยสาร แนะนำให้ไปทดลองสัมผัสพื้นที่ภายในด้วยตัวเองที่โชว์รูมก่อนตัดสินใจจะดีที่สุด
Q
2023 Santa Fe เปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่างไรบ้าง?
รุ่น 2023 ของ Hyundai Santa Fe ในตลาดบ้านเราเมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้วถือว่ามีจุดขายที่ดีไม่น้อย โฉมใหม่ที่ออกแบบมาให้ดูหนักแน่นและทรงพลังมากขึ้นเหมาะกับคนที่ชอบ SUV ฟีลลิ่งบึกบึน ส่วนภายในใช้วัสดุคุณภาพสูงขึ้น แถมยังอัพเกรดระบบเทคโนโลยีด้วยหน้าจอความบันเทิงล่าสุดที่รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย ทำให้ใช้งานได้สะดวกมาก ในส่วนเครื่องยนต์มีให้เลือกทั้งแบบ 2.5 ลิตร แอสปายร์ปกติ และแบบ 1.6 ลิตร เทอร์โบไฮบริดที่ประหยัดน้ำมันกว่า เหมาะกับคนที่ต้องการเซฟค่าน้ำมัน เมื่อเปรียบเทียบกับ Honda CR-V หรือ Toyota Highlander แล้ว Santa Fe ยังได้เปรียบในเรื่องความยืดหยุ่นของพื้นที่โดยสาร โดยเฉพาะเบาะแถวสามที่นั่งสบายกว่า เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ ด้านความปลอดภัยมาพร้อมระบบ SmartSense มาตรฐานครบทุกรุ่น ทั้งควบคุมความเร็วอัตโนมัติ เตือนออกเลน เรียกได้ว่าไม่เป็นรองใคร ส่วนบริการหลังการขายก็มีศูนย์บริการครอบคลุม ค่าบำรุงรักษาก็สมเหตุสมผล ใช้ยาวๆ ก็อุ่นใจ ถ้ามีงบประมาณพอและเน้นความคุ้มค่าแบบจัดเต็มพร้อมเทคโนโลยีครบเครื่อง รุ่นนี้น่าจับตามอง แนะนำให้ลองทดลองขับและเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันก่อนตัดสินใจ
Q
อัตราการบริโภคน้ำมันของ Hyundai Santa Fe 2023 เป็นเท่าไร?
รถ Hyundai Santa Fe รุ่นปี 2023 มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่แตกต่างกันไปตามรุ่นเครื่องยนต์ โดยแบบเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร แบบดูดธรรมดาจะกินน้ำมันเฉลี่ยประมาณ 8.5-9.2 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.2 ลิตรจะประหยัดน้ำมันกว่าคือเฉลี่ยประมาณ 6.5-7.2 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ตัวเลขจริงอาจแตกต่างกันไปบ้างขึ้นอยู่กับสไตล์การขับและสภาพถนน รุ่นนี้ถ้าขับในเมืองที่รถติดบ่อยๆจะกินน้ำมันมากหน่อย แต่พอขับทางไกลหรือบนทางหลวงจะประหยัดขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ชอบเดินทางไกล ส่วนรุ่นไฮบริดตอนนี้ยังไม่มีขายในประเทศไทย แต่คอยติดตามกันได้เลย ถ้าอยากให้รถประหยัดน้ำมันมากขึ้น ควรดูแลรักษารถให้ดี เช่น เติมลมยางให้เหมาะสม หลีกเลี่ยงการเหยียบกระแทกหรือเบรกกระทันหัน Santa Fe เป็น SUV ขนาดกลางที่กินน้ำมันพอๆกับรถระดับเดียวกัน แต่ได้ความสบายและพื้นที่กว้างขวาง พร้อมฟีเจอร์ครบครัน น่าจับตามองสำหรับครอบครัว สรุปว่าถ้าคุณขับทางไกลบ่อย รุ่นดีเซลน่าจะเหมาะกว่า แต่ถ้าขับแค่ในเมือง รุ่นเบนซินก็พอแล้วครับ
ดูเพิ่มเติม