Q

วิธีการลบอุปกรณ์บลูทูธจาก Honda City

เมื่อต้องการลบอุปกรณ์บลูทูธที่เคยจับคู่ไว้จากรถยนต์ Honda City ให้เริ่มด้วยการสตาร์ทรถและเปิดหน้าจอกลาง จากนั้นเข้าไปที่เมนูหลักแล้วเลือก "โทรศัพท์" หรือ "การตั้งค่าบลูทูธ" ในรายการอุปกรณ์ที่จับคู่ไว้ ให้ค้นหาชื่ออุปกรณ์ที่ต้องการลบ แล้วกดปุ่ม "ลบ" หรือ "ยกเลิกการจับคู่" ที่ด้านขวา (สำหรับรุ่นบางรุ่นอาจต้องกดค้างที่ชื่ออุปกรณ์) ระบบจะแสดงกล่องยืนยัน ให้เลือก "ใช่" เพื่อดำเนินการเสร็จสิ้น ข้อควรระวังคือสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยอาจทำให้ระบบตอบสนองช้า แนะนำให้เปิดแอร์ทิ้งไว้สัก 5 นาทีก่อนดำเนินการเพื่อความเสถียรของระบบ สำหรับรถ Honda City ที่ผลิตหลังปี 2020 โมดูลบลูทูธได้รับการอัปเกรดให้เสถียรกว่าเดิม หากไม่สามารถลบได้ให้ลองกดปุ่มรับสายและปุ่มตัดสายบนพวงมาลัยค้างไว้ 10 วินาทีเพื่อรีเซ็ตระบบ นอกจากนี้ในการใช้บลูทูธในไทยควรทราบว่ามือถือบางรุ่นที่ขายโดยผู้ให้บริการท้องถิ่นอาจมีปัญหาเรื่องความเข้ากันได้ แนะนำให้ใช้อุปกรณ์แบรนด์ต่างประเทศเป็นหลัก และควรอัปเดตซอฟต์แวร์ระบบรถยนต์เป็นประจำที่ศูนย์บริการฮอนด้าอนุญาต เพื่อประสิทธิภาพการใช้งานที่ดีที่สุด โดยศูนย์บริการฮอนด้าในกรุงเทพฯ มักมีบริการตรวจสอบฟังก์ชันบลูทูธฟรีให้ด้วย
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ฮอนด้าซิตี้ 2024 มีความจุซีซีเท่าไหร่
รถฮอนด้าซิตี้รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ 2 แบบ คือเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตรและเครื่องยนต์แบบธรรมดา 1.5 ลิตร โดยเครื่องเทอร์โบ 1.0 ลิตรมีความจุกระบอกสูบ 998 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ส่วนเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรแบบธรรมดามีความจุ 1,498 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า เครื่องยนต์ทั้งสองแบบถูกออกแบบมาให้สมดุลระหว่างประหยัดน้ำมันและสมรรถนะการขับขี่ เหมาะกับทั้งการใช้งานในเมืองและการเดินทางไกลในไทย ฮอนด้าซิตี้เป็นที่นิยมในตลาดไทยเสมอมาด้วยความน่าเชื่อถือ ค่าซ่อมบำรุงไม่แพง และประหยัดน้ำมัน ส่วนรุ่นปี 2024 ยังเพิ่มเทคโนโลยีความปลอดภัย Honda SENSING เข้ามา ทำให้ยิ่งโดดเด่นขึ้น สำหรับลูกค้าชาวไทยที่กำลังตัดสินใจเลือกเครื่องยนต์ แนะนำว่าเครื่องเทอร์โบ 1.0 ลิตรเหมาะกับคนที่เน้นประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในขณะที่เครื่อง 1.5 ลิตรแบบธรรมดาจะให้ความรู้สึกการขับขี่ที่ลื่นไหลมากกว่า ทั้งสองแบบตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้ดีอยู่แล้ว แค่เลือกให้เหมาะกับสไตล์การขับและงบประมาณของคุณก็พอ
Q
คะแนนความปลอดภัยของ Honda City 2024 คืออะไร
รถฮอนด้าซิตี้รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยแสดงผลงานด้านความปลอดภัยได้ดีเยี่ยม ด้วยระบบ Honda SENSING ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นช่วยเหลือผู้ขับขี่อย่างครบครัน ทั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบช่วยรักษาเลน และระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยแบบพาสซีฟที่ครบถ้วน เช่น ถุงลมนิรภัย 6 จุด ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว และระบบเบรก ABS ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้รถรุ่นนี้มีความโดดเด่นในกลุ่มรถระดับเดียวกัน จากการทดสอบตามมาตรฐาน NCAP ของไทย คาดว่ารถรุ่นนี้จะได้คะแนนความปลอดภัยระดับ 5 ดาว เหมาะสมกับสภาพถนนทั้งในเมืองและชนบทของไทยที่หลากหลาย สำหรับผู้บริโภคชาวไทย นอกจากเรื่องความปลอดภัยแล้ว ยังควรพิจารณาค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและค่าประกันรถด้วย เพราะเครือข่ายบริการหลังการขายของฮอนด้าในไทยมีความพร้อมสูง มีอะไหล่ครบครัน ทำให้ค่าใช้จ่ายในการใช้งานระยะยาวค่อนข้างต่ำ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่คนไทยมักคำนึงถึงเมื่อเลือกซื้อรถเช่นกัน
Q
วิธีเปิดส่วนหน้าของรถ Honda Civic 2024
ก่อนจะเปิดฝากระโปรงหน้ารุ่นฮอนด้าซิวิค 2024 สิ่งแรกที่ต้องทำคือนั่งในที่นั่งคนขับ แล้วมองหาคันปลดล็อกฝากระโปรงหน้า ซึ่งจะมีสัญลักษณ์รูปเครื่องยนต์อยู่ด้านล่างซ้ายของพวงมาลัย ดึงคันนี้เบาๆจนได้ยินเสียงฝากระโปรงหน้ายกขึ้น จากนั้นเดินไปที่หน้าตัวรถ ใช้มือสอดเข้าไปในช่องกลางฝากระโปรง แล้วหาล็อกนิรภัยตัวที่สองให้เจอ ให้ดันล็อกนี้ไปทางซ้ายหรือขวาพร้อมกับยกฝากระโปรงขึ้น สำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย แนะนำให้ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นและน้ำมันเบรกในห้องเครื่องเป็นประจำ เพื่อให้รถทำงานได้ปกติ และควรทำความสะอาดห้องเครื่องด้วย ระวังอย่าให้ใบไม้หรือเศษอุดตันท่อระบายน้ำ ถ้าต้องขับในพื้นที่ติดขัดอย่างกรุงเทพฯ บ่อยๆ ควรเช็กด้วยว่าฟิลเตอร์อากาศอุดตันฝุ่นหรือไม่ เพราะจะช่วยรักษาสมรรถนะเครื่องยนต์และประหยัดน้ำมันได้ ส่วนเวลาปลดล็อกฝากระโปรงถ้าได้ยินเสียงเฮียกที่บานพับ ให้ทาจาระบีเล็กน้อย และเนื่องจากอากาศไทยร้อนจัดทำให้ยางซีลเสื่อมสภาพเร็ว ควรตรวจสอบความแน่นของซีลทุกๆครึ่งปี
Q
ความจุของกระโปรงท้ายรถฮอนด้าซิตี้ 2024 คือเท่าไร
รถฮอนด้า ซิตี้ รุ่นปี 2024 ที่วางขายในตลาดไทยมีปริมาตรกระโปรงหลังขนาด 536 ลิตร ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันของครอบครัวหรือการท่องเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์ สามารถบรรจุกระเป๋าเดินทางหลายใบหรือของช้อปปิ้งได้อย่างสบายๆ เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนไทยที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเองหรือช้อปปิ้งบ่อยๆ การออกแบบกระโปรงหลังทำได้อย่างสมเหตุสมผล มีช่องเปิดที่กว้าง ทำให้สะดวกในการลำเลียงสิ่งของ นอกจากนี้เบาะหลังยังสามารถพับลงได้ตามสัดส่วน ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ในสภาพอากาศของไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก กระโปรงหลังของซิตี้ยังมีการป้องกันการรั่วซึมที่ดี ช่วยปกป้องสิ่งของจากความชื้นหรือความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกันแล้ว ปริมาตรกระโปรงหลังขนาดนี้จัดอยู่ในระดับกลางถึงดี และเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่างโตโยต้า ยาริส แอททีฟแล้วยังได้เปรียบอยู่บ้าง สำหรับผู้ใช้งานไทยที่มักต้องพกพาสิ่งของจำนวนมาก พื้นที่กระโปรงหลังของซิตี้ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่值得พิจารณา แนะนำให้ไปทดลองบรรจุของที่ตัวแทนจำหน่ายด้วยตัวเองเพื่อความสะดวก และควรเปรียบเทียบกับการออกแบบกระโปรงหลังของรถรุ่นอื่นๆ ในราคาใกล้เคียงกัน เพื่อเลือกรถที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ดีที่สุด
Q
สีของ Honda City 2024 มีอะไรบ้าง
รถฮอนด้า ซิตี้ รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยมีให้เลือกหลายสีสันสไตล์โมเดิร์น ทั้งหมด 7 สีคลาสสิค ได้แก่ สีพลาตินัม ออบซิเดียน บลู เพิร์ล (น้ำเงินไข่มุก), อิกไนท์ เรด เมทัลลิก (แดงเมทัลลิก), แพลตตินัม ไวท์ เพิร์ล (ขาวไข่มุก), คริสตัล แบล็ค เพิร์ล (ดำไข่มุก), ลูนาร์ ซิลเวอร์ เมทัลลิก (เงินเมทัลลิก), อุกกาบาต เกรย์ เมทัลลิก (เทาเมทัลลิก) และทัฟเฟต้า ไวท์ (ขาวทาฟเฟต้า) เวลาเลือกสีรถควรคิดถึงเรื่องค่าดูแลรักษาด้วยนะครับ สีอ่อนๆ ในแดดเมืองไทยจะทนต่อคราบสกปรกกว่า ส่วนสีเข้มต้องล้างรถและขัดแว็กซ์บ่อยหน่อยเพื่อรักษาความเงางาม แถมบางสีพิเศษอาจต้องสั่งจองล่วงหน้าหรือรอรับรถนานกว่าปกติครับ
Q
วิธีเปิดฝากระโปรงหน้ารถ Honda City 2024
ก่อนจะเปิดฝากระโปรงหน้ารถฮอนด้าซิตี้รุ่นปี 2024 สิ่งแรกที่ต้องทำคือนั่งบนที่นั่งคนขับแล้วมองหาแถบปลดล็อกฝากระโปรงซึ่งอยู่ด้านล่างซ้ายของแผงหน้าปัด มักจะอยู่แถวๆ Pedal ให้ดึงขึ้นจนได้ยินเสียงฝากระโปรงหน้ากระเด้งเล็กน้อย จากนั้นเดินไปที่หัวรถแล้วใช้นิ้วมือสอดเข้าไปในช่องกลางขอบฝากระโปรงหน้า จะพบกับล็อกความปลอดภัยตัวที่สอง ให้ดันขึ้นพร้อมกับยกฝากระโปรง ถ้ารู้สึกหนักไปอาจใช้ค้ำยันช่วย สำหรับสภาพอากาศร้อนๆ แบบไทย แนะนำให้ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นและน้ำมันเครื่องเป็นประจำ โดยเฉพาะก่อนขับทางไกล ต้องเช็กระบบระบายความร้อนให้ดี ภายในห้องเครื่องฮอนด้าซิตี้จัดวางเป็นระเบียบ ทำให้เจ้าของรถสามารถเติมน้ำฉีดกระจกหรือตรวจสอบน้ำมันเบรคได้เอง แต่ถ้าเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าหรือชิ้นส่วนเครื่องกลที่ซับซ้อน ควรไปที่ศูนย์บริการฮอนด้าจะดีกว่า ที่ศูนย์ใหญ่ๆ ในกรุงเทพหรือเชียงใหม่ยังมีบริการตรวจเช็คฟรีให้อีกด้วย ข้อสำคัญเวลาปิดฝากระโปรงหน้า ต้องปล่อยจากความสูงประมาณ 30 เซนติเมตรให้ปิดเองตามธรรมชาติ เพื่อให้ล็อกเข้าที่สนิท ป้องกันฝากระโปรงเปิดขณะขับรถ และช่วงหลังฤดูฝนของไทย ควรทำความสะอาดใบไม้ที่อาจตกค้างในห้องเครื่อง เพื่อไม่ให้ท่อระบายน้ำอุดตัน
Q
ฉันจะเปิดถังน้ำมันบนรถฮอนด้า 2024 ของฉันได้อย่างไร
วิธีเปิดฝาถังน้ำมันของฮอนด้ารุ่นปี 2024 ทำได้ง่าย มีสองแบบขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ของแต่ละรุ่น แบบแรกคือปุ่มกดภายในรถ จะอยู่ด้านซ้ายของผู้ขับขี่บนคอนโซลกลางหรือแผงประตู กดปุ่มที่มีสัญลักษณ์ถังน้ำมัน ฝาถังจะเด้งเปิด แบบที่สองคือกดตรงฝาถังภายนอก หลังจากปลดล็อกรถแล้วกดเบาๆ ฝาจะเปิด ทั้งสองแบบเหมาะกับสภาพอากาศร้อนและฝนตกของไทย ป้องกันการใช้งานผิดพลาดและรักษาการปิดสนิท ปั๊มน้ำมันส่วนใหญ่ในไทยมีพนักงานบริการเติมน้ำมัน จึงไม่จำเป็นต้องเติมเอง แต่ควรตรวจสอบชนิดน้ำมันว่าเป็นเบนซินหรือดีเซลก่อนเติม เนื่องจากอากาศร้อนอาจทำให้น้ำมันระเหย แนะนำไม่เติมเต็มเกินไปเพื่อเว้นพื้นที่ให้น้ำมันขยาย เพิ่มความปลอดภัยและประหยัดเชื้อเพลิง สำหรับรถที่ใช้งานระยะยาวควรตรวจสอบซีลฝาถังเป็นประจำ ป้องกันน้ำหรือฝุ่นเข้าช่วงฤดูฝนและคงคุณภาพน้ำมัน
Q
คุณสามารถสตาร์ทรถ Honda 2024 จากโทรศัพท์ของคุณได้ไหม
รุ่นฮอนด้า 2024 บางรุ่นในตลาดไทยรองรับฟังก์ชั่นสตาร์ทรถทางโทรศัพท์ได้จริง แต่ขึ้นอยู่กับรุ่นและระบบ Honda Connect ที่ติดตั้งมา เช่น รุ่นท็อปอย่าง CR-V หรือ Accord มักจะมีฟีเจอร์นี้ ผู้ใช้ต้องดาวน์โหลดแอป Honda และผูกบัญชีกับรถยนต์ก่อน หลังจากนั้นจะสามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ เปิดแอร์ล่วงหน้า หรือปลดล็อคประตูผ่านมือถือได้ ซึ่งเหมาะมากกับอากาศร้อนๆ แบบไทยๆ แต่อย่าลืมว่าฟีเจอร์นี้ต้องใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตและรถต้องอยู่ในพื้นที่ที่สัญญาณครอบคลุม รวมถึงควรตรวจสอบกับตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ด้วย เพราะบางฟังก์ชั่นอาจถูกจำกัดตามกฎหมายไทยหรือเครือข่ายโทรศัพท์ นอกจากนี้ เทคโนโลยีควบคุมระยะไกลแบบเดียวกันนี้ยังมีในแบรนด์อื่นๆ เช่น Toyota Connect ของโตโยต้าหรือ NissanConnect ของนิสสัน ซึ่งทำงานผ่านโมดูลสื่อสารในรถที่เชื่อมกับแอปบนมือถือ เมื่อ 5G แพร่หลายมากขึ้น ฟีเจอร์เหล่านี้จะทำงานเร็วและเสถียรขึ้น แน่นอนว่าทำให้ชีวิตคนใช้รถในไทยสะดวกสบายขึ้นอีกเยอะ
Q
รถฮอนด้าซิตี้ปี 2024 มีระบบ VTEC หรือไม่
รถยนต์ฮอนด้าซิตีรุ่นปี 2024 ที่วางขายในตลาดประเทศไทยยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ แบบธรรมชาติ โดยไม่ได้นำเทคโนโลยี VTEC มาใช้ แต่ยังคงใช้ระบบ i-VTEC ที่ปรับปรุงการทำงานของวาล์วให้ฉลาดขึ้น ระบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อประหยัดน้ำมันและเพิ่มแรงบิดในรอบต่ำถึงกลาง ซึ่งเหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดและการขับขี่ที่ต้องหยุดบ่อยในเมืองไทย แม้ว่า VTEC จะโดดเด่นในเรื่องพลังสปินสูง แต่ i-VTEC ให้ความนุ่มนวลและประหยัดน้ำมันมากกว่า ซึ่งตอบโจทย์ผู้บริโภคไทยในยุคที่ราคาน้ำมันแพง อีกจุดสำคัญคือฮอนด้าจะปรับตั้งค่าทางเทคนิคให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนในไทย โดยเสริมประสิทธิภาพระบบระบายความร้อนและแอร์ ส่วนการไม่ใช้ VTEC ก็แสดงว่าผู้ผลิตเข้าใจความต้องการของคนไทยจริงๆ เพราะในสภาพรถติดแบบกรุงเทพฯ การใช้พลังรอบสูงแทบไม่เกิดประโยชน์เท่าการประหยัดน้ำมันในชีวิตประจำวัน ถ้าอยากได้พลังมากขึ้น ลองดูรุ่น City RS ที่ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5 ลิตร ซึ่งให้แรงบิดดีกว่าในการแซง แต่ก็ยังไม่ใช้ระบบ VTEC แบบดั้งเดิมเช่นกัน
Q
รถ Honda City 2024 เฉลี่ยแล้ววิ่งได้กี่กิโลเมตรต่อลิตร
รถฮอนด้าซิตี้รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 15-18 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งตัวเลขอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนนและรุ่นย่อยของรถ สำหรับรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC จะให้สมรรถนะที่สมดุลในสภาพการขับขี่แบบผสม ส่วนรุ่น e:HEV แบบไฮบริดนั้นประหยัดน้ำมันได้มากกว่า โดยเฉพาะในสภาพการจราจรติดขัดแบบกรุงเทพฯ ที่ต้องเร่ง-หยุดบ่อยๆ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ในไทยควรระวังว่าอากาศร้อนและการเปิดแอร์อาจส่งผลให้สิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้นเล็กน้อย การดูแลรักษาเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอ เช่น การเปลี่ยนไส้กรองอากาศและปรับลมยางให้เหมาะสม จะช่วยประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกันอย่างโตโยต้ายาริสหรือมาสด้า 2 ที่มีอัตราสิ้นเปลืองใกล้เคียงกัน แต่ใช้เทคโนโลยีต่างกัน แนะนำให้ลองทดลองขับเพื่อเปรียบเทียบ นอกจากนี้ นโยบายลดภาษีของรัฐบาลไทยสำหรับรถประหยัดพลังงานยังทำให้ซิตี้เป็นตัวเลือกคุ้มค่า และในระยะยาว รุ่นไฮบริดจะช่วยประหยัดค่าน้ำมันได้มากกว่าชัดเจน

ข้อดี

พื้นที่ภายในรถกว้างขวางและสบาย
ระบบดีเซลที่มีประสิทธิภาพและเต็มไปด้วยเทคโนโลยี รุ่น RS ยอดนิยมมีชุดสไตล์กีฬารอบคัน RS ซึ่งประกอบด้วยกริดหน้าของรถสีดำและกระจกข้าง กันชนหน้าสไตล์กีฬา ไฟหน้า LED ที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด พร้อมกับไฟวิ่งกลางวันและไฟหมอก LED
ภายในรถเรือนสวยงามและมีอุปกรณ์ครบครัน มีบรรยากาศกีฬาในรถ มีหน้าจอวิทยุชั้นสูงที่สามารถสัมผัสได้ 8 นิ้ว สนับสนุน Apple CarPlay และมีระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT
เครื่องยนต์ที่แข็งแรง DOHC VTEC TURBO ขนาด 1.0 ลิตรแบบ 3 ลูกสูบ 12 วาล์ว ที่ 5500 รอบ/นาทีมีกำลังสูงสุดถึง 122 ม้า ซึ่งเป็นค่าที่สุดในหมวดเดียวกัน

ข้อเสีย

ความสบายและความสะดวกสบายมีข้อจำกัด
ประสิทธิภาพที่ความเร็วต่ำน้อย
ราคาสูงถึง 739000 บาท ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน และคู่แข่งมีระบบที่ไม่เยี่ยมเท่า City
ระบบความปลอดภัยไม่พอ ในด้านความปลอดภัย City แย่กว่าคู่แข่ง รุ่นใหม่ของ City ไม่มีชุด Honda Sensing เท่าที่มีเพียงระบบความปลอดภัยพื้นฐาน

Q&A ล่าสุด

Q
ฟังก์ชั่นลดฝ้ากระจกหน้า Tesla Model Y วิธีการเปิด
เวลาขับรถ Tesla Model Y ในประเทศไทย ถ้าอยากเปิดระบบไล่ฝ้าที่กระจกหน้ารถ (หรือที่เรียกว่า "ไฟประจุครึ่งหน้าแก้ว") ทำได้ง่ายๆผ่านหน้าจอควบคุมกลางครับ แค่กดไอคอน "สภาพอากาศ" ที่อยู่ด้านล่างของหน้าจอ แล้วเลือกโหมด "ไล่ฝ้า" (จะมีสัญลักษณ์รูปพัดลม) ระบบจะปรับช่องแอร์ไปที่กระจกหน้ารวมถึงเปิดระบบทำความร้อนอัตโนมัติ ช่วยแก้ปัญหากระจกเป็นฝ้าได้ดีเวลาอากาศร้อนชื้นหรือเปิดแอร์เย็นจัด สิ่งที่น่าสนใจคือ Tesla มีระบบควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะที่สามารถปรับระดับการไล่ฝ้าเองโดยอัตโนมัติตามความชื้นและอุณหภูมิทั้งนอกและในรถ ทำให้ไม่ต้องมาคอยปรับเองบ่อยๆ สำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นแบบประเทศไทย แนะนำให้ตรวจสอบสภาพฟิลเตอร์แอร์เป็นประจำ และใช้ฟังก์ชั่น "เตรียมรถล่วงหน้า" เพื่อทำความร้อนหรือความเย็นก่อนเริ่มขับขี่ นอกจากจะช่วยให้สบายขึ้นยังป้องกันการเกิดฝ้าอย่างกะทันหันเวลาขับรถด้วย ส่วนเทคโนโลยีเคลือบกระจกของ Tesla ก็ช่วยลดการเกิดหยดน้ำได้ระดับนึง แต่ถ้าวันไหนอากาศชื้นมากเป็นพิเศษ อาจเพิ่มความเร็วลมแอร์ชั่วคราวเพื่อให้กระจกใสเร็วขึ้น
Q
วิธีการปรับไฟหน้า Tesla Model Y
การปรับความสูงไฟหน้ารถ Tesla Model Y ในประเทศไทยสามารถทำได้ผ่านหน้าจอสัมผัสในรถ โดยเข้าไปที่เมนู "ควบคุม" เลือก "ไฟรถ" แล้วหาตัวเลือก "ปรับความสูงไฟหน้า" จากนั้นก็เลื่อนแถบปรับตามความต้องการในการขับขี่ได้เลย ระบบไฟอัตโนมัติของ Model Y นี่ใช้งานได้ดีในสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยของไทย โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนที่ทัศนวิสัยไม่ดี ไฟจะสลับไปมาระหว่างไฟสูง-ไฟต่ำอัตโนมัติ แต่ต้องระวังเรื่องกฎหมายจราจรของไทยนะครับ เพราะมีกำหนดความสว่างของไฟหน้ารถไว้ชัดเจน อย่าปรับไฟให้สูงเกินไปเดี๋ยวจะรบกวนรถสวนทางมา นอกจากนี้ Model Y ยังมีระบบ Adaptive Headlights ที่จะปรับทิศทางแสงไฟเมื่อเข้าโค้ง ซึ่งช่วยได้มากเวลาขับบนถนนคดเคี้ยวแถบภูเขาหรือทางต่างจังหวัดของไทย ถ้ารู้สึกว่าโหมดอัตโนมัติยังไม่ค่อยเหมาะ ก็ควรทำความสะอาดครอบไฟหน้าระยะๆ เพราะอากาศร้อนและฝุ่นเยอะในไทยทำให้ครอบไฟสกปรกได้ง่าย อีกอย่างแนะนำให้ใช้หลอด LED ที่ทาง Tesla แนะนำนะครับ เพราะสภาพอากาศแบบร้อนชื้นของไทยต้องการการระบายความร้อนที่ดี หลอดที่ไม่ใช่ของแท้อาจทำให้อายุการใช้งานสั้นลงได้
Q
เท่าไหร่เปลี่ยนกระจกหน้า Tesla Y
ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนกระจกหน้ารถ Tesla Model Y ที่ประเทศไทยมักจะอยู่ระหว่าง 15,000 ถึง 25,000 บาท ราคาที่แน่นอนขึ้นอยู่กับศูนย์บริการที่เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้กระจกจากโรงงานเดิม และการให้บริการสนับสนุนสำหรับระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง (ADAS) เช่น กล้องและเซ็นเซอร์ที่ปรับเทียบเพิ่มเติม เนื่องจากรถ Tesla ออกแบบมาแบบโครงสร้างรวมและใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก แนะนำให้เจ้าของรถเลือกใช้บริการจากศูนย์บริการที่ได้รับการรับรองจากทางบริษัทเพื่อให้มั่นใจในคุณภาพการซ่อมแซมและรักษาสิทธิการรับประกัน ภูมิอากาศของประเทศไทยที่ร้อนชื้นยังต้องการกระจกหน้ารถที่ทนทานต่อความร้อนและป้องกันการรั่วซึมได้ดี กระจกแบบเดิมจากโรงงานจะมีความเหนือกว่าในเรื่องการป้องกันรังสียูวีและการติดตั้งที่พอดีตัวรถอย่างสมบูรณ์ หากต้องการเคลมประกัน บริษัทประกันบางแห่งในประเทศไทยมีกรมธรรม์ที่ครอบคลุมการแตกหักของกระจกรถ แต่ควรตรวจสอบเงื่อนไขและจำนวนเงินที่ต้องจ่ายเองก่อน นอกจากนี้ระหว่างขับขี่ควรหลีกเลี่ยงการขับตามรถบรรทุกหรือรถขนาดใหญ่ใกล้เกินไปเพื่อป้องกันหินกระเด็น และควรตรวจสอบขอบกระจกเป็นประจำเพื่อหารอยร้าวที่อาจลุกลามได้ หากต้องการแก้ไขรอยร้าวเล็กน้อยชั่วคราว ในประเทศไทยก็มีบริการซ่อมแซมกระจกมืออาชีพให้เลือกใช้เช่นกัน
Q
Tesla Model Y มีที่นั่งกี่ที่
Tesla Model Y เป็นรถเอสยูวีไฟฟ้าขนาดกลางรุ่นมาตรฐาน 5 ที่นั่งสำหรับตลาดในประเทศไทย ด้วยเบาะนั่งแบบ 3 แถว (2+3) ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการในการเดินทางในชีวิตประจำวันของครอบครัวส่วนใหญ่ เบาะหลังรองรับสัดส่วน 60/40 และสามารถขยายพื้นที่เก็บของได้ถึง 1,158 ลิตร (ปริมาตรของกระโปรงหลัง) เหมาะสำหรับผู้ใช้ชาวไทยที่ต้องการเดินทางในวันหยุดสุดสัปดาห์ Tesla Model Y เป็นรถเอสยูวีไฟฟ้าขนาดกลางรุ่นมาตรฐาน 5 ที่นั่งสำหรับตลาดในประเทศไทย ด้วยเบาะนั่งแบบ 3 แถว (2+3) ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการในการเดินทางในชีวิตประจำวันของครอบครัวส่วนใหญ่ เบาะหลังรองรับสัดส่วน 60/40 และสามารถขยายพื้นที่เก็บของได้ถึง 1,158 ลิตร (ปริมาตรของกระโปรงหลัง) เหมาะสำหรับผู้ใช้ชาวไทยที่ต้องการเดินทางในวันหยุดสุดสัปดาห์ สำหรับผู้บริโภคชาวไทย Model Y มีความทนทานในการใช้งาน (ระยะทางประมาณ 350 กม. ในรุ่นขับเคลื่อนหลัง และ 480 กม. ในรุ่นยาว) สามารถตอบสนองต่อเส้นทางยอดนิยมอย่างกรุงเทพฯ-พัทยาได้อย่างง่ายดาย และระบบปรับอากาศแบบ Heat Pump ยังช่วยลดการใช้พลังงานเมื่อใช้งานในเขตร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนคู่แข่งระดับเดียวกันอย่าง BYD Atto 3 หรือ MG ZS EV ในไทยก็มี 5 ที่นั่ง แต่ Model Y มีความได้เปรียบทางเทคโนโลยีมากกว่าด้วยเครือข่าย Tesla Supercharge (ไทยสร้างเสร็จแล้ว 20+ สถานี) และฟังก์ชั่นการอัพเกรด OTA โปรดทราบว่ารุ่น 7 ที่นั่งยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในตลาดประเทศไทยซึ่งเกี่ยวข้องกับความชอบของผู้บริโภคในท้องถิ่นและนโยบายภาษีบนท้องถนน
Q
น้ำหนักของรถยนต์ Tesla Model Y คือเท่าไหร่
น้ำหนักของ Tesla Model Y จะแตกต่างกันไปตามรุ่น โดยรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังจะหนักประมาณ 1,971 กิโลกรัม ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ (Long Range และ Performance) จะหนักใกล้เคียง 2,003 กิโลกรัม ซึ่งจัดว่าอยู่ในระดับกลางค่อนไปทางหนักสำหรับ SUV ไฟฟ้า สาเหตุหลักมาจากแบตเตอรี่ความจุสูงและโครงสร้างตัวถังที่แข็งแรง ในตลาดไทย น้ำหนักของ Model Y ไม่ได้ส่งผลต่อการขับขี่ประจำวันมากนัก เพราะถนนในเมืองไทยส่วนใหญ่เรียบและแรงบิดเริ่มต้นที่สูงของรถไฟฟ้าช่วยให้ขับเคลื่อนในสภาพการจราจรติดขัดได้อย่างสบายๆ แต่อาจต้องระวังหน่อยเวลาเลี้ยวหรือจอดในซอยแคบๆ หรือลานจอดรถเก่าๆ ที่พื้นที่จำกัด จุดเด่นของรถไฟฟ้าคือการกระจายน้ำหนักที่สมดุลกว่าเครื่องยนต์สันดาป (เพราะแบตเตอรี่ถูกวางราบใต้พื้นรถ) ทำให้ Model Y ทรงตัวได้ดีกว่าในถนนลื่นหรือเมื่อต้องเปลี่ยนเลนกะทันหัน โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนที่ขับแล้วมั่นใจขึ้น สำหรับคนไทยควรรู้ไว้ว่าน้ำหนักรถจะส่งผลต่อการคำนวณภาษีประจำปี แต่ตอนนี้รถไฟฟ้าในไทยยังได้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีอยู่ ดังนั้นค่าใช้จ่ายจริงยังถูกกว่ารถน้ำหนักเท่ากันที่ใช้เครื่องยนต์ทั่วไป ถ้าชอบขับทางไกลบ่อยๆ น้ำหนักที่มากกว่าอาจเพิ่มการกินไฟหน่อยนึง แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องระยะทางมากเพราะไทยมีสถานีชาร์จครอบคลุมแล้ว โดยเฉพาะ Supercharger ของ Tesla ที่มีให้บริการในเมืองใหญ่และจุดท่องเที่ยวหลัก
ดูเพิ่มเติม