Q

Mazda 3 ขับเคลื่อนด้วยล้อหน้าหรือล้อหลัง?

Mazda3 มีรุ่นที่ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า สำหรับรุ่นปี 2022 ไม่ว่าจะเป็นตัวถัง Fastback หรือ Sedan ในรุ่นย่อย 2.0 C, 2.0 S และ 2.0 SP ล้วนใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า และมีน้ำหนักรถประมาณ 1,354 กิโลกรัม อย่างไรก็ตาม ระบบขับเคลื่อนอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นปีและสเปกของรถ เช่น ในบางรุ่นของปี 2019 ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 4 สูบ และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด จะใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ หากคุณต้องการทราบข้อมูลระบบขับเคลื่อนของ Mazda3 รุ่นใดรุ่นหนึ่งโดยเฉพาะ แนะนำให้สอบถามข้อมูลโดยตรงจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Mazda 3 นีอะไรบ้าง?
แม้ว่า Mazda3 จะได้รับความนิยมในตลาดไทยจากดีไซน์ที่สวยงามและสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม แต่ก็ยังมีข้อสังเกตบางประการที่ควรพิจารณา อย่างแรกคือพื้นที่เบาะหลังค่อนข้างแคบ ซึ่งอาจไม่ตอบโจทย์ความต้องการของครอบครัวไทยที่มักโดยสารหลายคน โดยเฉพาะในกรณีเดินทางไกล พื้นที่วางขาอาจรู้สึกอึดอัด นอกจากนี้ ช่วงล่างของ Mazda3 ถูกเซ็ตมาในแนวสปอร์ต แม้จะให้ความมั่นคงและควบคุมดีในทางโค้ง แต่เมื่อเจอสภาพถนนที่ไม่เรียบในบางพื้นที่ของไทย จะรู้สึกกระด้างและไม่ค่อยสบาย อีกจุดที่ควรพิจารณาคือค่าบำรุงรักษาที่ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะอะไหล่แท้จากศูนย์ซึ่งมีราคาสูงกว่ารถญี่ปุ่นรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน อาจเป็นภาระกับผู้ใช้งานบางกลุ่ม แม้เทคโนโลยี Skyactiv จะช่วยประหยัดน้ำมันได้ดี แต่เมื่อเปิดแอร์ในสภาพอากาศร้อนแบบไทย อัตราการสิ้นเปลืองจะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สุดท้ายคือเรื่องของระบบเก็บเสียง ที่ยังมีจุดให้พัฒนา โดยเฉพาะเวลาขับเร็วหรือใช้งานในเมืองที่มีเสียงรบกวนมาก ถึงแม้จะมีข้อด้อยเหล่านี้ แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงจุดยืนของ Mazda3 ที่เน้นความสนุกในการขับขี่มากกว่าความอเนกประสงค์ เหมาะกับผู้บริโภคชาวไทยรุ่นใหม่ที่ชอบความโดดเด่นและประสบการณ์หลังพวงมาลัยเป็นหลัก
Q
Mazda 3 อยู่ใน Segment ไหน?
Mazda3 ในตลาดไทยจัดอยู่ในกลุ่ม C-segment หรือรถยนต์นั่งขนาดคอมแพ็ค ไม่ว่าจะเป็นตัวถังแบบซีดานหรือแฮทช์แบ็ก ซึ่งถือเป็นเซกเมนต์ยอดนิยมในประเทศไทย คู่แข่งหลักคือรถญี่ปุ่นอย่าง Toyota Corolla และ Honda Civic Mazda3 ได้รับความนิยมเป็นพิเศษในกลุ่มผู้บริโภควัยรุ่นไทย ด้วยดีไซน์ “KODO – Soul of Motion” ที่โดดเด่น และสมรรถนะการขับขี่ที่สนุก มาพร้อมเทคโนโลยี Skyactiv ที่เน้นความประหยัดน้ำมัน เหมาะกับสภาพการจราจรที่ติดขัดของกรุงเทพฯ ในตลาดไทย Mazda3 มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร และ 2.0 ลิตร โดยรุ่น 2.0 ลิตรจะมาพร้อมระบบ G-Vectoring Control ที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการเข้าโค้ง ช่วยให้การขับขี่มีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ Mazda3 รุ่นที่จำหน่ายในไทยยังมีการปรับจูนช่วงล่างให้เหมาะกับสภาพถนนในประเทศไทยโดยเฉพาะ รองรับทั้งถนนเมืองและพื้นที่ที่มีสภาพพื้นผิวไม่เรียบ ราคาจำหน่ายของรถในกลุ่มนี้อยู่ที่ประมาณ 800,000 – 1,200,000 บาท ถือเป็นกำลังหลักของตลาดรถบ้านในไทย ผู้บริโภคจำนวนมากเลือกซื้อด้วยระบบผ่อนรายเดือน เพราะ Mazda3 ถือว่ามีมูลค่าคงเหลือ (resale value) ดีในระยะยาว ขายต่อแล้วขาดทุนน้อยเมื่อเทียบกับหลายรุ่นในระดับเดียวกัน
Q
มูลค่าขายต่อของ Mazda 3 คือเท่าไหร่?
Mazda3 ในตลาดรถมือสองของไทยจัดว่ามีมูลค่าคงเหลืออยู่ในระดับกลางค่อนไปทางดี โดยรถที่มีอายุการใช้งานประมาณ 3 ปี จะมีมูลค่าคงเหลือราว 60-65% ส่วนรถอายุ 5 ปีจะอยู่ที่ประมาณ 50-55% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพรถ รุ่นย่อย และความต้องการของตลาดในช่วงเวลานั้น ในไทย รถญี่ปุ่นได้รับการยอมรับสูง และ Mazda3 ก็เป็นที่นิยมด้วยดีไซน์ KODO ที่โดดเด่น รวมถึงเทคโนโลยี Skyactiv ที่เน้นความประหยัดและทนทาน ทำให้รุ่นนี้เป็นที่ต้องการในตลาดรถมือสอง โดยเฉพาะรุ่นที่มีออปชันสูงหรือรุ่นดีเซล จะมีราคาขายต่อที่ดีกว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาขายต่อ ได้แก่ ประวัติการเข้าศูนย์บริการ การเกิดอุบัติเหตุ และสภาพของตัวถังรถที่อาจได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศชื้นของไทย แนะนำให้เจ้าของรถเก็บบันทึกการเข้ารับบริการที่ศูนย์ให้ครบถ้วน เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือเวลาขายต่อ เมื่อเปรียบเทียบกับรถในระดับเดียวกัน Mazda3 มีอัตราการคงมูลค่าที่ต่ำกว่า Toyota Corolla เล็กน้อย แต่ดีกว่า Honda Civic ส่วนหนึ่งมาจากภาพลักษณ์ของแบรนด์และต้นทุนในการบำรุงรักษาที่ต่างกัน นอกจากนี้ นโยบายส่งเสริมรถยนต์ประหยัดพลังงาน (Eco Car) และมาตรการภาษีของรัฐบาล อาจทำให้ราคารถใหม่ผันผวน ส่งผลกระทบทางอ้อมต่อราคารถมือสองด้วย ดังนั้นก่อนขาย ควรตรวจสอบราคาตลาดปัจจุบัน โดยทั่วไปแล้ว ราคาขายต่อในกรุงเทพฯ จะสูงกว่าจังหวัดอื่นประมาณ 5-10%
Q
Mazda 3 มีกี่ CC
มาสด้า 3 รุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1,998 ซีซี หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า 2.0L แรงม้าเยอะพอสมควร ขับสบายทั้งในเมืองและบนทางด่วน จะแซงหรือเร่งเมื่อไหร่ก็มั่นใจ ทุกรุ่นย่อยของมาสด้า 3 ใช้เครื่องยนต์ขนาดเดียวกันเลย แม้จะต่างกันที่ราคา ยาง หรืออุปกรณ์เสริมบางอย่าง แต่เรื่องกำลังไม่ต้องห่วง ให้ความรู้สึกการขับขี่ที่มั่นคงและแรงดีทั้งตอนจอดๆ ไปๆ ในเมืองหรือเวลาครูดความเร็วสูงบนทางหลวง เรียกว่าเอาอยู่ทุกสถานการณ์จริงๆ
Q
Mazda3 ใช้เครื่องยนต์อะไร?
Mazda3 ที่จำหน่ายในตลาดไทย ส่วนใหญ่จะมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร Skyactiv-G แบบไม่มีเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 158 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 202 นิวตันเมตร โดยกำลังสูงสุดจะออกที่รอบเครื่องยนต์ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุดที่ 4,000 รอบ/นาที เครื่องยนต์นี้ใช้เทคโนโลยีหัวฉีดตรง (Direct Injection) พร้อมฝาสูบและเสื้อสูบผลิตจากอะลูมิเนียม ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดที่สามารถเปลี่ยนเกียร์เองได้ (แบบ Manual Mode) Mazda3 ยังมีตัวเลือกเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร สำหรับผู้ที่ต้องการความประหยัดน้ำมันและมีงบประมาณจำกัด ส่วนเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรจะเหมาะกับผู้ที่เน้นสมรรถนะในการขับขี่มากกว่า ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกได้ตามความต้องการและสไตล์การใช้งานของตนเอง
Q
Mazda3 ใช้เกียร์แบบไหน?
Mazda3 ใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด (6AT) ซึ่งเป็นเกียร์อัตโนมัติที่ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวลและต่อเนื่อง ช่วยให้การขับขี่ทั้งในเมืองที่ต้องเจอการหยุด-เคลื่อนตัวบ่อย ๆ หรือการวิ่งทางไกลบนถนนความเร็วสูงเป็นไปอย่างราบรื่น เกียร์ 6AT นี้สามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ได้อัตโนมัติตามสภาพการขับขี่และลักษณะการเหยียบคันเร่งของผู้ขับ ช่วยให้ขับง่าย ประหยัดแรง และเหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป นอกจากนี้ยังมีความทนทานและเชื่อถือได้ ช่วยลดความกังวลเรื่องปัญหาเกียร์ในระยะยาว ทำให้ใช้งานได้อย่างสบายใจ
Q
PCD (รูน็อตล้อ) ของ Mazda3 คือขนาดเท่าไหร่?
PCD (Pitch Circle Diameter) ของ Mazda3 อยู่ที่ขนาด 5x114.3 มม. หมายความว่าล้อแม็กของรถรุ่นนี้มีรูน็อต 5 รู และตำแหน่งของรูน็อตจะเรียงกันเป็นวงกลมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 114.3 มม. ขนาดนี้ถือว่าเป็นสเปกมาตรฐานที่พบได้บ่อยในรถญี่ปุ่นหลายรุ่น เช่น Honda และ Toyota ทำให้ในไทยสามารถหาอะไหล่หรือเปลี่ยนล้อแม็กได้ง่าย และสะดวกเวลาต้องการอัปเกรดระบบเบรกหรือเปลี่ยนล้อใหม่ การรู้ขนาด PCD เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะหากเลือกล้อที่มีขนาดไม่ตรง อาจทำให้ไม่สามารถติดตั้งได้ หรืออาจเกิดปัญหาในการขับขี่ เช่น การสั่นหรือไม่ปลอดภัยในระยะยาว ในสภาพอากาศร้อนชื้นและฝนตกบ่อยของประเทศไทย ควรเลือกใช้ล้อแม็กและยางที่มีคุณภาพดี เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ โดยเฉพาะในสภาพถนนที่ลื่นหรือขรุขระ และการเลือกรุ่นของยางหรือขนาดล้อที่เหมาะสม ยังช่วยเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่และยืดอายุการใช้งานได้อีกด้วย
Q
Mazda3 รองรับ Apple CarPlay ไหม?
Mazda3 รุ่นล่าสุดที่วางจำหน่ายในประเทศไทยรองรับฟังก์ชัน Apple CarPlay แล้ว ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ iPhone สามารถใช้งานแอปต่าง ๆ บนหน้าจอรถยนต์ได้โดยตรง เช่น แผนที่นำทาง เพลง หรือการโทรออก-รับสาย เพิ่มความสะดวกในการขับขี่อย่างมาก โดยทั่วไปแล้ว Mazda3 ตั้งแต่ปี 2019 ขึ้นไป จะมี Apple CarPlay เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แต่สำหรับรุ่นที่เก่ากว่านั้น อาจต้องนำรถไปอัปเกรดระบบที่ศูนย์บริการ Mazda ที่ได้รับอนุญาตในประเทศไทย ในไทย ผู้ใช้จำนวนมากนิยมเชื่อมต่อ CarPlay เพื่อใช้ Google Maps หรือ Waze ในการหลีกเลี่ยงรถติด โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ รวมถึงใช้งานแอปเพลงอย่าง Spotify หรือ Joox เพื่อความบันเทิงระหว่างเดินทาง แนะนำให้ใช้สายชาร์จแท้หรือสายคุณภาพดีเมื่อต่อ CarPlay เพื่อป้องกันปัญหาการเชื่อมต่อไม่เสถียร และนอกจาก Apple CarPlay แล้ว Mazda3 ยังรองรับ Android Auto สำหรับผู้ใช้มือถือระบบแอนดรอยด์อีกด้วย Mazda3 เป็นรถที่ได้รับความนิยมในไทยด้วยจุดเด่นด้านการควบคุมที่ดีและความประหยัดน้ำมัน ยิ่งเมื่อผสานกับระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะเหล่านี้ ก็ยิ่งเพิ่มความคุ้มค่าและน่าใช้งานมากขึ้นอีกขั้น
Q
Mazda3 ใช้ยางยี่ห้ออะไร?
ยางติดรถเดิมของ Mazda3 ที่จำหน่ายในประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามปีรุ่นและรุ่นย่อย โดยส่วนใหญ่มักใช้ยางจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก เช่น Bridgestone, Dunlop หรือ Yokohama ซึ่งเป็นยางที่ได้รับความนิยมในไทยด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะด้านการยึดเกาะบนถนนเปียกและความทนทานที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย เมื่อต้องเปลี่ยนยางใหม่ ผู้ใช้ในไทยสามารถเลือกแบรนด์อื่นที่ได้รับความนิยมเช่นกัน เช่น Michelin รุ่น Primacy หรือ Goodyear รุ่น Assurance ซึ่งมีสมรรถนะดีทั้งในช่วงฤดูฝนและอุณหภูมิสูงของไทย อีกทั้งยังหาซื้อได้ง่ายตามร้านยางหรือศูนย์บริการทั่วไป คำแนะนำสำหรับเจ้าของรถคือ เลือกยางตามลักษณะการใช้งาน เช่น ถ้าต้องการความเงียบและนุ่มสบาย หรือเน้นความทนทานก็ควรเลือกรุ่นที่เหมาะสม และอย่าลืมตรวจสอบลมยางและความลึกของดอกยางอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนของไทย ควรเน้นยางที่มีประสิทธิภาพในการรีดน้ำเพื่อลดความเสี่ยงในการลื่นไถล
Q
Mazda 3 เป็นรถที่ดีหรือไม่?
มาสด้า 3 เป็นรถเก๋งขนาดกลางที่ขายดีในตลาดไทย ด้วยดีไซน์ภายนอกที่ดูสปอร์ตและทันสมัย พร้อมด้วยการตกแต่งภายในที่หรูหราและให้ความรู้สึกพรีเมียม แถมยังขับเคลื่อนได้อย่างคล่องตัวเหมาะกับสภาพถนนทั้งในเมืองและนอกเมืองของไทย นอกจากนี้เทคโนโลยี Skyactiv ยังช่วยประหยัดน้ำมันซึ่งเป็นข้อดีในเมื่อราคาน้ำมันไทยค่อนข้างสูง ระบบความปลอดภัยอย่าง i-Activsense ก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ในสภาพการจราจรที่ค่อนข้างวุ่นวายของไทย อย่างไรก็ตาม มาสด้า 3 มีข้อเสียคือพื้นที่เบาะหลังค่อนข้างคับ สำหรับครอบครัวไทยที่ชอบเดินทางพร้อมหน้าพร้อมตาอาจจะรู้สึกอึดอัดหน่อย ส่วนค่าบำรุงรักษาก็สูงกว่ารถญี่ปุ่นรุ่นอื่นๆ เล็กน้อย และที่สำคัญในอากาศร้อนๆ แบบไทย บางคนอาจรู้สึกว่าแอร์ไม่ค่อยเย็นเท่าที่ควร ถ้าคุณเป็นคนชอบความสปอร์ตและความสวยงามของดีไซน์ มาสด้า 3 ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ถ้าอยากได้รถที่กว้างขวางและค่าดูแลถูกกว่านี้ อาจต้องมองหารุ่นอื่น ในตลาดไทยยังมีคู่แข่งอย่างโตโยต้า คอร์ลล่า หรือฮอนด้า ซีวิค ที่น่าสนใจเหมือนกัน แนะนำว่าก่อนซื้อควรลองขับเปรียบเทียบดูให้ดี และอย่าลืมเลือกรุ่นที่เหมาะกับอากาศร้อนแบบไทย เช่น มีกระจกกันความร้อนและระบบแอร์ที่แรงพอสู้กับแดดเมืองไทยได้

ข้อดี

ภายในรถมีการตกแต่งที่ดี ด้วยโทนสีดำที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยสปอร์ตหรู คุณภาพของวัสดุภายในรถดี การออกแบบทำให้รถดูหรูหราและขั้นสูง การจัดวางแผงอุปกรณ์สะดวกในการใช้งาน
ที่นั่งสบาย การออกแบบที่นั่งตรงกับร่างกาย รองรับด้านข้างที่ดีสำหรับคนขับและผู้โดยสาร สามารถนั่งนานๆ โดยไม่รู้สึกเหนื่อย และที่นั่งขับสามารถปรับได้ 10 ทิศทางโดยใช้ไฟฟ้า
ฟังก์ชันและคุณสมบัติที่ดี มีจอภาพที่คนขับสามารถดูได้ สามารถแสดงความเร็วในการเร่งและการใช้น้ำมัน มีกล้องทั่วรถที่ติดตั้งอย่างดี
สมรรถนะทางการจับคืนดินเป็นอย่างดี ระบบความแข็งแรงกับที่อยู่ใต้รถดีเยี่ยม สมรรถนะทางการจับคืนดินสูงในระหว่างการเลี้ยวหรือในส่วนที่อยู่ใต้รถที่เดินทาง ขับเคลื่อนไม่อย่างรวดเร็ว การเร่งและหมุนกำลังไม่เปลี่ยนแปลงมากจากรุ่นก่อนหน้านี้ น้ำหนักของรถเพิ่มขึ้น

ข้อเสีย

การปรับเปลี่ยนคุณลักษณะของที่นั่งคนขับและที่นั่งผู้โดยสารไม่ตรงกัน ที่นั่งของคนขับสามารถปรับได้ 10 ทิศทาง แต่ที่นั่งของผู้โดยสารไม่สามารถเติมเต็ม 10 ทิศทาง ฟีเจอร์ที่นั่งไม่ได้ตอบสนองความต้องการอย่างเต็มที่
แต่ฟังก์ชั่นของระบบควบคุมการท่องเที่ยวไม่เพียงพอ แม้ว่าจะสามารถเพิ่มหรือลดความเร็วของรถและตามรถที่อยู่ด้านหน้าผ่านเส้นทางที่กว้าง แต่ไม่มีฟังก์ชั่น Stop-and-go
พื้นที่ภายในรถไม่สะกดกว่าผลิตภัณฑ์ที่แข่งขัน มาสด้ามักมีข้อเสียด้านพื้นที่ที่นั่งด้านหลังในแทบทุกรุ่น แต่รุ่น Mazda 3 Sedan ปี 2019 กว้างขึ้นเล็กน้อยกว่าที่ผ่านมา แต่ยังไม่ตรงกับผลิตภัณฑ์ที่แข่งขัน
ความสบายของชานเส้นไม่ตรงกับผลิตภัณฑ์ที่แข่งขัน เมื่อขับขี่บนถนนที่ไม่ราบหรือถนนที่มีลูกรัง คุณจะรู้สึกถึงการสั่น โดยมีความรู้สึกว่ามีการสั่นสะเทือนจากพื้นผิวที่ยางกระทบ

Q&A ล่าสุด

Q
รถ SUV รุ่นใดที่เทียบเท่ากับ Acura MDX
ในตลาดประเทศไทย รุ่น SUV ที่อยู่ในระดับเดียวกันกับ Acura MDX ก็จะมี Lexus RX BMW X5 Mercedes-Benz GLE และ Volvo XC90 จากแบรนด์หรูๆ ด้วยกัน รุ่นเหล่านี้มีขนาด เครื่องยนต์ และอุปกรณ์ความสะดวกสบายที่เทียบเท่ากับ MDX เหมาะสำหรับคนที่มองหาความสบายและประสบการณ์การขับขี่ระดับพรีเมียม Acura MDX มีจุดเด่นที่เครื่องยนต์ V6 3.5 ลิตร และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ SH-AWD ที่ให้ความรู้สึกการขับขี่ที่ลื่นไหลและประสิทธิภาพการควบคุมที่ดี ส่วนคู่แข่งอย่าง Lexus RX จะเน้นเทคโนโลยีไฮบริดและความเงียบสงบ BMW X5 ถนัดด้านความสนุกในการขับขี่ Mercedes-Benz GLE โดดเด่นเรื่องความหรูหราของห้องโดยสารและเทคโนโลยี ส่วน Volvo XC90 ขายตรงเรื่องความปลอดภัยและการออกแบบสไตล์สแกนดิเนเวีย ในไทย รุ่นเหล่านี้ต่างก็เป็นที่รู้จักดีในหมู่ผู้บริโภค และมีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุม ผู้ซื้อสามารถเลือกรุ่นที่ตรงกับความชอบส่วนตัวได้ เช่น ถ้าชอบประหยัดน้ำมันก็อาจจะมองเป็น Lexus RX รุ่นไฮบริด หรือถ้าชอบการขับขี่สปอร์ตก็อาจจะเลือก BMW X5 นอกจากนี้ ตลาดไทยยังมีความต้องการ SUV ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะรถกลุ่มนี้ไม่เพียงแต่เหมาะกับการใช้ชีวิตในเมือง แต่ยังเหมาะกับการท่องเที่ยวในวันหยุด โดยเฉพาะเวลาที่ต้องเจอกับสภาพถนนบางพื้นที่ในไทยที่ค่อนข้างซับซ้อน ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและการออกแบบช่วงล่างสูงก็จะช่วยเพิ่มความสะดวกและปลอดภัยในการใช้งานได้ดีขึ้น
Q
เมื่อ Acura MDX 2021 จะเปิดตัว
Acura MDX 2021 ได้เปิดตัวครั้งแรกในตลาดอเมริกาเหนือเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2021 และเริ่มส่งมารถให้ลูกค้าภายในฤดูใบไม้ผลิของปีเดียวกัน แต่สำหรับตลาดไทยยังไม่มีข่าวชัดเจนว่าจะเข้ามาเมื่อไร ลูกค้าชาวไทยสามารถติดตามข้อมูลล่าสุดได้ที่เว็บไซต์แอคิวร่า ประเทศไทยหรือตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ รถ SUV หรู 3 แถวที่นั่งรุ่นนี้มาพร้อมกับแพลตฟอร์มใหม่ทั้งหมด ใช้เครื่องยนต์ V6 3.5 ลิตรคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ SH-AWD และเทคโนโลยีความปลอดภัย AcuraWatch ที่อัปเกรดทั้งในเรื่องความสะดวกสบายและฟีเจอร์เทคโนโลยี ในตลาดไทยที่ความต้องการรถ SUV หรูกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง MDX จะต้องแข่งขันกับรถอย่าง Lexus RX และ BMW X 5 แต่สิ่งที่คนไทยให้ความสำคัญคือเรื่องประหยัดน้ำมันและบริการหลังการขาย ดังนั้นรุ่นไฮบริดและบริการที่ตอบโจทย์คนไทยน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญ สำหรับใครที่สนใจ MDX แนะนำให้เปรียบเทียบทั้งสเปกและราคากับรถระดับเดียวกัน พร้อมคำนึงถึงสภาพถนนไทยและไลฟ์สไตล์การใช้รถ เช่น ความสะดวกในการขับช่วงน้ำท่วมหรือการจอดในเมือง เพื่อเลือกรถที่เหมาะกับตัวเองที่สุด
Q
แพ็คเกจขั้นสูงของ Acura MDX คืออะไร
Acura MDX แพ็คเกจขั้นสูงนี่แหละคือชุดออปชั่นและเทคโนโลยีที่ทางแบรนด์เพิ่มมาให้รุ่นนี้เพื่ออัพเกรดประสบการณ์การขับขี่และความสะดวกสบายของผู้โดยสารแบบเต็มๆ โดยทั่วไปแล้วแพ็คเกจนี้จะมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยไฮเอนด์อย่าง AcuraWatch ที่รวมฟีเจอร์เด็ดๆ เช่น Adaptive Cruise Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Lane Keeping Assist ช่วยควบคุมเลน และ Collision Mitigation Braking System ระบบเบรกป้องกันการชน ส่วนเรื่องความบันเทิงและความสะดวกก็จัดเต็มไม่น้อย ทั้งระบบเสียงคุณภาพสูง เก้าอี้หุ้มหนังแท้ และระบบควบคุมอุณหภูมิแบบแบ่งโซน สำหรับเมืองไทยแล้วแพ็คเกจนี้ถือว่าเพิ่มมูลค่าให้รถได้ดีเลยทีเดียว โดยเฉพาะกับสภาพการจราจรที่ติดขัดและอากาศร้อนชื้น แถมยังช่วยให้การเดินทางทั้งสบายและปลอดภัยขึ้นอีกด้วย อีกเรื่องที่ควรคำนึงถึงคือการเลือกรุ่นที่มีแพ็คเกจเสริมแบบนี้จะทำให้รถมีโอกาสขายต่อได้ง่ายขึ้นในอนาคต เพราะคนซื้อรถมือสองส่วนใหญ่มักมองหารุ่นที่ออปชั่นครบครัน ฉะนั้นการลงทุนกับแพ็คเกจขั้นสูงอาจเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าในระยะยาวสำหรับใครที่อยากได้ประสบการณ์การขับขี่ระดับพรีเมียมใน Acura MDX แบบเต็มสูบ
Q
Nissan X-Trail ควรใช้ยางอะไรดี
สำหรับรถ Nissan X-Trail ที่เหมาะกับสภาพถนนหลากหลายแบบในไทย แนะนำให้ใช้ยางรถยนต์แบบ All-Season ที่เน้นทั้งความนุ่มสบายและทนทาน เช่น Bridgestone Dueler H/T 684 II หรือ Michelin Primacy 4 SUV เพราะยางสองรุ่นนี้เก่งทั้งถนนเปียกและขับขี่ในเมือง ช่วยรับมือกับฝนที่ตกแบบไม่ทันตั้งตัวในช่วงฤดูฝนของไทยได้ดี แต่ถ้าชอบขับออกต่างจังหวัดหรือต้องเจอถนนลูกรังบ่อยๆ ลองมองหายางแบบ All-Terrain อย่าง Toyo Open Country A/T III ดูครับ แต่อย่างไรก็ตามยางแบบนี้เวลาขับบนถนนปกติอาจจะมีเสียงดังกว่ายางทั่วไปนิดหน่อย ด้วยอากาศร้อนๆ แบบบ้านเรา เวลาเลือกยางต้องเน้นเรื่องทนความร้อนและความแข็งของดอกยางเป็นพิเศษ แนะนำให้เลือกยางที่มีค่า TREADWEAR 300 ขึ้นไปและมีระบบระบายความร้อนในตัว นอกจากนี้ควรตรวจสอบความดันลมยางอย่างสม่ำเสมอ (อย่างน้อยเดือนละครั้ง) ซึ่งอาจทำให้ความดันลมยางสูงขึ้นจากความร้อนในประเทศไทย ควรปรับให้อยู่ที่ 32-35 PSI ตามที่ผู้ผลิตแนะนำ จะช่วยให้ปลอดภัยและยางใช้งานได้นานขึ้น อีกเรื่องที่อยาลืม กฎหมายไทยกำหนดว่าดอกยางต้องเหลือไม่ต่ำกว่า 1.6 มม. โดยเฉพาะก่อนเข้าฤดูฝนควรตรวจเช็คและเปลี่ยนยางใหม่หากจำเป็น เพื่อให้ยางยังรีดน้ำได้ดีเวลาฝนตกหนัก
Q
Nissan X-Trail 2.0 v 4wd มือสอง ดีไหม
รถมือสอง Nissan X-Trail 2.0 V 4WD เป็นรุ่นที่คุ้มค่ามากในตลาดไทย เพราะเป็นรถที่นิยมขายดี แถมยังเหมาะกับสภาพบ้านเรา ทั้งช่วงหน้าฝนถนนลื่นหรือทางต่างจังหวัด เครื่องยนต์ 2.0 แบบธรรมดาแต่อึดทน คู่กับระบบขับเคลื่อน 4WD ที่ให้ความรู้สึกมั่นคง ส่วนค่าซ่อมบำรุงก็ไม่แรงเกินไป อีกจุดเด่นคือการออกแบบภายในที่ใช้งานได้จริง โดยเฉพาะเบาะหลังที่พับลงได้ เพิ่มพื้นที่เก็บของเหมาะมากสำหรับครอบครัว แต่ต้องระวังรุ่นปี 2015-2018 ที่อาจมีปัญหาเกียร์ CVT ควรเช็คประวัติการเซอร์วิสให้ดี เวลาซื้อรถมือสองในไทย แนะนำให้เลือกรถที่เคยเข้าศูนย์ Nissan ตามระยะจะดีที่สุด และต้องตรวจสอบเรื่องสนิมที่ใต้ท้องรถให้ละเอียด เพราะอากาศร้อนชื้นของไทยทำให้เกิดสนิมได้ง่าย ถ้าเทียบกับรถระดับเดียวกันอย่าง Toyota Fortuner แล้ว X-Trail ราคาจะถูกกว่าแต่ค่าการขายต่ออาจจะสู้ไม่ได้ ส่วนถ้ามีงบมากขึ้นอาจมองทางเลือกอื่นอย่าง Honda CR-V รุ่น Hybrid ที่ประหยัดน้ำมันกว่าเหมาะกับการขับขี่ในเมืองสุดๆ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเลือกรถรุ่นไหน ต้องตรวจสภาพเครื่องยนต์ ระบบช่วงล่าง และอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างมืออาชีพ และควรเลือกรถที่ตัวแทนรับประกัน 3-6 เดือนจะดีที่สุด
ดูเพิ่มเติม