Q

รถยนต์ Nissan Navara ปี 2020 มีความน่าเชื่อถือหรือไม่?

รถปิคอัพ Nissan Navara รุ่นปี 2020 ในตลาดไทยแสดงความน่าเชื่อถือได้ค่อนข้างดี โดยเครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตร ที่ผ่านการทดสอบการใช้จริงมาหลายปี มีความประหยัดน้ำมันและความทนทานเหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย โดยเฉพาะการขนส่งทางการเกษตรและการเดินทางไกล ตัวถังรถใช้เหล็กความแข็งแรงสูงและได้รับการออกแบบเสริมให้เหมาะกับถนนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนระบบช่วงล่างหลังแบบสปริงเกลียวช่วยสร้างสมดุลระหว่างการบรรทุกและความนุ่มสบาย เหมาะมากกับสภาพถนนแบบผสมผสานในไทย ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะทำงานได้มั่นใจบนถนนชนบทช่วงฤดูฝน แม้ห้องโดยสารจะออกแบบมาเพื่อความใช้งานจริงแต่ก็ติดตั้งระบบแอร์ที่เหมาะกับอากาศร้อน ส่วนค่าบำรุงรักษาอยู่ในระดับกลางเมื่อเทียบกับรถประเภทเดียวกัน และเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายของนิสสันในไทยที่ครอบคลุมก็ช่วยให้การซ่อมบำรุงสะดวกขึ้น แต่แนะนำให้เจ้าของรถในไทยดูแลเป็นพิเศษเรื่องการทำความสะอาดระบบระบายความร้อนเป็นประจำเพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นสะสมในสภาพอากาศร้อน影響ประสิทธิภาพการระบายความร้อน และควรตรวจสอบระบบไฟฟ้าเรื่องความกันน้ำก่อนเข้าฤดูฝน การดูแลรายละเอียดเหล่านี้จะช่วยยืดอายุการใช้งานของรถในสภาพแวดล้อมที่ร้อนชื้นได้อย่างมีนัยสำคัญ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
คะแนนความปลอดภัยของ Nissan Navara ปี 2021 คือเท่าไหร่?
รถยนต์ Nissan Navara รุ่นปี 2021 มีผลการประเมินความปลอดภัยในระดับดีมาก จากผลทดสอบของ ASEAN NCAP ที่ให้คะแนนเต็ม 5 ดาว โดยคะแนนนี้มาจากการประเมินในหลายด้าน ทั้งการปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ การปกป้องเด็ก รวมถึงระบบช่วยเหลือความปลอดภัย ส่วนตัวรถ Navara รุ่นนี้ก็มาพร้อมกับอุปกรณ์ความปลอดภัยทั้งแบบแอคทีฟและพาสซีฟมากมาย เช่น ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบควบคุมเสถียรภาพ VDC ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่บนถนนสภาพซับซ้อนของไทยได้ดี แถมยังใช้โครงสร้างตัวถังเหล็กความแข็งแรงสูง ที่ช่วยเสริมความปลอดภัยเวลเกิดอุบัติเหตุอีกด้วย สำหรับคนไทยแล้ว Navara ถือว่าเหมาะมากกับคนที่ต้องขับทางไกลบ่อยๆ หรือต้องใช้บนถนนชนบท อีกทั้งความทนทานและความเชื่อถือได้ก็เข้ากับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยได้ดี ถ้าอยากได้รถปิคอัพที่ความปลอดภัยสูงกว่านี้ ก็อาจจะมองตัวอื่นๆ อย่าง Toyota Hilux หรือ Isuzu D-MAX ที่ก็ทำคะแนนได้ดีในทดสอบ ASEAN NCAP เช่นกัน แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องเลือกให้เหมาะกับความต้องการและงบประมาณของแต่ละคน
Q
ประหยัดนํา้มันของ Nissan Navara ปี 2021 เป็นอย่างไร
รุ่นต่างๆ ของ Nissan Navara ปี 2021 มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่แตกต่างกัน โดยอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงตามมาตรฐานของทางโรงงานอยู่ที่ 6.5 - 8.1 ลิตร/100 กม. ตัวอย่างเช่น รุ่น King Cab 2.5 E 6MT มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันตามมาตรฐานที่ 6.5 ลิตร/100 กม. ส่วนรุ่น Double Cab 2.3 4WD VL 7AT มีอัตราสิ้นเปลืองที่ 8.1 ลิตร/100 กม. อย่างไรก็ตาม อัตราการใช้น้ำมันจริงอาจแตกต่างจากข้อมูลของทางโรงงาน เพราะมันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สไตล์การขับขี่ ถนนหนทาง หรือน้ำหนักบรรทุก สมมติถ้าคุณขับแบบเหยียบๆ เบรคๆ บ่อยๆ หรือติดอยู่ในรถติดนานๆ น้ำมันก็จะหมดเร็ว แต่ถ้าขับด้วยความเร็วคงที่ ใช้แอร์อย่างเหมาะสม ก็จะช่วยประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น
Q
Nissan Navara ปี 2021 ใช้เครื่องยนต์ประเภทไหน?
รถ Nissan Navara รุ่นปี 2021 มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลให้เลือก 2 แบบ คือแบบ 2.3 ลิตร และ 2.5 ลิตร สำหรับเครื่อง 2.3 ลิตรเป็นระบบเทอร์โบชาร์จ 4 สูบ มีกำลังผลิตหลายระดับ ทั้งแบบ 160 แรงม้าและ 190 แรงม้า กำลังสูงสุดอยู่ที่ 118 กิโลวัตต์และ 140 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 403 นิวตันเมตรและ 450 นิวตันเมตร ส่วนเครื่อง 2.5 ลิตรก็เป็น 4 สูบเหมือนกัน แต่ค่าสเปคจะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น เครื่องยนต์เหล่านี้ให้กำลังขับเคลื่อนที่แข็งแรง พอสำหรับทั้งการใช้ชีวิตประจำวันและการใช้งานหนักอย่างการบรรทุกหรือออฟโรด แถมเครื่องดีเซลยังประหยัดน้ำมันและให้แรงบิดสูง ซึ่งเหมาะกับรถปิคอัพที่ต้องลากจูงหรือบรรทุกของหนักเป็นประจำ
Q
รถ Nissan Navara ปี 2021 มี Apple CarPlay หรือไม่?
รถปิคอัพ Nissan Navara รุ่นปี 2021 ที่วางขายในตลาดไทยนั้นมาพร้อมกับฟังก์ชัน Apple CarPlay โดยเฉพาะในรุ่นท็อปอย่าง Pro-4X และ VL ที่ติดตั้งมาอยู่แล้วแบบมาตรฐาน ทำให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อ iPhone เข้ากับหน้าจอกลางรถเพื่อใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการนำทาง การฟังเพลง หรือการโทร ได้อย่างสะดวกสบาย ช่วยเพิ่มความสะดวกในการขับขี่ โดยฟีเจอร์นี้ตอบโจทย์คนไทยโดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ที่ต้องเผชิญกับการจราจรติดขัด บวกกับการรองรับแผนที่ท้องถิ่นที่ช่วยให้การวางแผนเส้นทางมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม รุ่นย่อยบางรุ่นอาจต้องติดตั้งเพิ่มหรืออัปเกรดระบบความบันเทิงผ่านตัวแทนจำหน่ายก่อนจึงจะใช้ CarPlay ได้ นอกจาก Apple CarPlay แล้ว Navara 2021 ยังรองรับ Android Auto สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนระบบ Android อีกด้วย โดยหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วของรถคันนี้ทำงานได้อย่างเสถียรแม้ในสภาพอากาศร้อนของไทย และมีการออกแบบป้องกันแสงสะท้อนที่เหมาะกับสภาพแสงจ้าในเขตร้อน หากต้องการความสามารถด้านคอนเน็กต์ความบันเทิงที่มากขึ้น ลูกค้าสามารถสอบถามตัวแทนจำหน่าย Nissan ในไทยเกี่ยวกับบริการอัปเดตระบบล่าสุด โดยบางคันที่ผลิตหลังปี 2021 อาจได้รับฟังก์ชันเพิ่มเติมผ่านการอัปเดตซอฟต์แวร์ สำหรับตลาดไทยแล้ว ผู้ใช้รถปิคอัปให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีในรถ และ Navara ก็ตอบโจทย์นี้ได้ดีด้วยระบบสมาร์ทคอนเน็กต์ที่ปรับให้รองรับการแสดงผลภาษาไทยและแอปพลิเคชันท้องถิ่นบางตัว ทำให้ใช้งานได้อย่างคุ้นเคย
Q
รถ Nissan Navara ปี 2021 มีความน่าเชื่อถือหรือไม่?
Nissan Navara รุ่นปี 2021 ในตลาดไทยแสดงความน่าเชื่อถือได้ค่อนข้างดี โดยระบบเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.5 ลิตร (190 แรงม้า) คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ที่ผ่านการทดสอบมานาน เหมาะกับสภาพพื้นที่หลากหลายในไทย โดยเฉพาะภาคเหนือแบบภูเขาและภาคใต้แถบชายทะเล โหมดออฟโรดมาตรฐานและระบบล็อกเฟืองท้ายอิเล็กทรอนิกส์ช่วยให้มีเสถียรภาพบนถนนโคลนในฤดูฝน จุดเด่นที่ผู้ใช้ในไทยพูดถึงบ่อยคือระบบขับเคลื่อนที่เสียยากและโครงสร้างช่วงล่างทนทาน แต่อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าเจ้าของรถบางรายรายงานว่าระบบปรับอากาศมีปัญหาการหน่วงเวลาทำความเย็นภายใต้อุณหภูมิที่สูงเกินไป ขอแนะนำให้ทำความสะอาดคอนเดนเซอร์เป็นประจำ ส่วนระบบช่วงล่างแบบ Double Wishbone ด้านหน้าและใบสปริงด้านหลังนั้นได้สมดุลระหว่างการบรรทุก (สูงสุด 1.1 ตัน) และความนุ่มสบาย เหมาะกับการขนส่งสินค้าเกษตรในไทย ที่น่าสนใจคือเครือข่ายอะไหล่ของ Navara ในไทยครอบคลุมดี โดยศูนย์บริการ Nissan ทั้งในกรุงเทพและจังหวัดใหญ่ๆ มีอะไหล่แท้พร้อมบริการ ซ่อมบำรุงรอไม่นาน เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกัน นโยบายประกัน 5 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตรถือว่าแข่งขันได้ แต่แนะนำให้ผู้ใช้ในไทยเปลี่ยนฟิลเตอร์น้ำมันดีเซลทุก 20,000 กิโลเมตรเพื่อป้องกันปัญหาระบบคอมมอนเรลจากคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศ
Q
2021 Nissan Navara ราคาเท่าไหร่?
รถ Nissan Navara รุ่นปี 2021 มีหลายรุ่นให้เลือก ราคาเริ่มตั้งแต่ 599,000 บาท ไปจนถึง 1,149,000 บาท อย่างรุ่น Nissan Navara King Cab 2.5 S 6MT ราคา 599,000 บาท ส่วนรุ่น King Cab 2.5 SL 6MT ราคา 609,000 บาท และรุ่น King Cab 2.5 E 6MT ราคาอยู่ที่ 689,000 บาท ส่วนรุ่นโปรอย่าง Nissan Navara PRO-4X นั้นราคาสูงถึง 1,149,000 บาท แต่ละรุ่นมีความแตกต่างทั้งในเรื่องของอุปกรณ์สมรรถนะและอื่นๆ ที่ส่งผลต่อราคา เช่น ความจุเครื่องยนต์ ระบบขับเคลื่อน ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกรุ่นที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณที่มีได้
Q
Nissan Navara 2020 เป็นรถ 4x4 หรือไม่?
ใช่แล้วครับ สำหรับ Nissan Navara 2020 ในตลาดไทยมีการเปิดตัวรุ่น 4x4 ด้วย โดยเจ้ารุ่นนี้มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบพาร์ทไทม์ ที่สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับได้ตามสภาพถนน ไม่ว่าจะเป็นโหมดขับสองล้อ (2H) โหมดขับสี่ล้อความเร็วสูง (4H) หรือโหมดขับสี่ล้อความเร็วต่ำ (4L) ซึ่งตอบโจทย์สภาพเส้นทางหลากหลายในไทยได้ดี ไม่ว่าจะเป็นถนนภูเขาทางเหนือหรือเส้นทางลุยโคลนช่วงฤดูฝน รุ่น 4x4 ของ Navara 2020 นี้ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.5 ลิตร ที่ให้แรงบิดต่ำสูง พ่วงกับเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ทำให้ทั้งลุยได้สะดวกและขับสบายในชีวิตประจำวัน สำหรับคนไทยแล้ว รถปิคอัพไม่ใช่แค่รถใช้งานแต่ยังเป็นรถครอบครัวด้วยครับ และ Navara รุ่น 4x4 ก็เป็นที่นิยมเพราะความทนทาน ความสูงของช่วงล่างที่มากพอ และระบบช่วงหลังแบบ Multi-Link Spring ที่แข็งแรง ทนทาน นอกจากนี้เวลาคนไทยเลือกรถรุ่น 4x4 ก็มักจะดูเรื่องความสามารถในการบรรทุก ประหยัดน้ำมัน และความสะดวกในการบริการหลังการขาย ซึ่ง Navara ก็ทำได้ดีทุกด้าน แถมยังมีเครือข่ายผู้จำหน่ายของนิสสันในไทยที่ครอบคลุม ทำให้เจ้านี้ค่อนข้างแข่งขันได้ในตลาดครับ
Q
คะแนนความปลอดภัยของ Nissan Navara 2020 คืออะไร?
รถยนต์ Nissan Navara รุ่นปี 2020 มีความแข็งแกร่งในด้านความปลอดภัย โดยได้คะแนนการทดสอบการชนจาก Global NCAP ระดับ 4 ดาวจากเต็ม 5 ดาว โดยเฉพาะในส่วนของการปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ที่ได้คะแนนสูง ซึ่งตรงกับความต้องการด้านความปลอดภัยหลักของตลาดรถปิคอัพในไทย รุ่นนี้มีอุปกรณ์มาตรฐานพื้นฐานเช่น ถุงลมนิรภัยคู่ ระบบ ABS+EBD ระบบควบคุมความมั่นคงของรถ (ESC) ส่วนรุ่นระดับสูงยังเพิ่มฟังก์ชันช่วยบนทางลาดชันและระบบตรวจสอบความดันลมยาง เหมาะกับสภาพ地形ที่เป็นภูเขาและการขับขี่ระยะไกลในไทย สิ่งที่ควรสังเกตคือรุ่นไทยของ Navara ได้เสริมการป้องกันสนิมใต้ท้องรถและระบบระบายความร้อนให้เหมาะกับสภาพถนนในประเทศ แต่หากต้องการระบบความปลอดภัยเชิงรุกที่ครบครันมากขึ้น (เช่น ระบบเบรกอัตโนมัติ ระบบรักษาช่องทางเดินรถ) อาจพิจารณารุ่นอื่นในระดับเดียวกัน แนะนำให้ผู้บริโภคไทยทดลองขับก่อนซื้อ และควรติดตามข้อมูลการเรียกคืนรถจากกรมการขนส่งทางบกด้วย เพราะบางรุ่นเคยมีการเรียกคืนจากปัญหาโมดูลไฟหน้า ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ารถที่เลือกได้ผ่านการซ่อมแซมแล้ว
Q
2020 Nissan Navara สามารถลากจูงได้มากแค่ไหน
รถยนต์ Nissan Navara รุ่นปี 2020 ในประเทศไทยมีความสามารถในการลากจูงที่แตกต่างกันไปตามรุ่น โดยรุ่นที่ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.5 ลิตร สามารถลากจูงได้สูงสุดถึง 3.5 ตัน เหมาะสำหรับการลากรถบ้าน เรือยอชต์ขนาดเล็ก หรืออุปกรณ์ก่อสร้าง ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการทั้งการขนส่งและการพักผ่อนของคนไทยได้เป็นอย่างดี เมื่อต้องใช้งานในสภาพภูมิประเทศที่เป็นภูเขาและอากาศร้อนแบบประเทศไทย แนะนำให้ตรวจสอบระดับน้ำมันเกียร์และระบบระบายความร้อนเป็นประจำ พร้อมทั้งต้องมั่นใจว่าตัวรถที่ถูกลากจูงมีระบบเบรกแยกต่างหากเพื่อความปลอดภัยที่มากขึ้น ข้อควรระวังคือ กฎหมายไทยกำหนดให้รถที่ลากจูงพ่วงที่มีน้ำหนักเกิน 1.5 ตัน ต้องมีใบขับขี่พิเศษ และความยาวรวมของรถพ่วงต้องไม่เกิน 18 เมตร เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Toyota Hilux และ Mitsubishi Triton ที่มีความสามารถลากจูงอยู่ที่ 3-3.5 ตัน เช่นกัน แต่ Navara โดดเด่นด้วยโครงสร้างแบบขั้นบันไดและเทคโนโลยีไฮดรอลิกฟอร์มมิ่งที่ให้ความแข็งแรงในการรับแรงบิดเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเมื่อต้องใช้งานบนถนนลูกรังในชนบทของไทย นอกจากนี้ในการลากจูงจริง ต้องระวังไม่ให้น้ำหนักรวมของรถเกินค่าที่ระบุในทะเบียนรถ แนะนำให้ติดตั้งอุปกรณ์ลากจูงและปรับตั้งระบบ ECU ที่ศูนย์บริการ Nissan ในกรุงเทพฯหรือเชียงใหม่เพื่อความเหมาะสมและปลอดภัยที่สุด
Q
ซีรีส์ What ของ Navara ปี 2020 คืออะไร
รถปิคอัพ Nissan Navara รุ่นปี 2020 เป็นหนึ่งในซีรี่ย์ D23 ที่ขายดีในประเทศไทย ด้วยโครงสร้างช่วงล่างแกร่งและสมรรถนะที่ตอบโจทย์สภาพถนนไทยแบบครบเครื่อง Navara 2020 มีให้เลือกทั้งแบบห้องโดยสารเดี่ยวและห้องโดยสารคู่ พร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.5 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร มาพร้อมเกียร์ 6 สปีดมือถือหรือเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ช่วยตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย แถมยังติดตั้งระบบความปลอดภัยเพียบ ทั้งระบบช่วยออกรถบนทางลาดชัน ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ทำให้ขับขี่มั่นใจขึ้น Navara เป็นที่นิยมทั้งการใช้งานในครอบครัวและการขนส่งสินค้า ด้วยความสามารถในการบรรทุกสูงและ性能ออฟโรดที่โดดเด่น เหมาะสมทั้งถนนในเมืองและเส้นทางต่างจังหวัดของไทย สำหรับคนไทยที่กำลังมองหารถปิคอัพดีๆ Nissan Navara 2020 ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะไม่เพียงแค่ความน่าเชื่อถือจากแบรนด์ Nissan แต่ยังใช้งานได้หลากหลายตามสไตล์ชีวิตของคุณ

ข้อดี

เครื่องยนต์และส่วนประกอบที่เกี่ยวข้องน่าเชื่อถือ
นั่งอยู่ที่ดูดีและมีความรู้สึกรักซิ่ง ได้รับการแต่งตัวด้วยชุดพิเศษ เจ้าของรถ, แกนหน้า, กระจกส่องหลังและบันไดข้างมีสติกเกอร์สีส้มทำให้เด่นขึ้น
ขอบล้อใหญ่ช่วยในการขับขี่ ทำให้รถสกปรกน้อยลง
ที่นั่งสบาย ใช้ที่นั่งสีดำสร้างความเหมาะสมกับเส้นปักสีส้ม ออกแบบที่เข้ากับรูปร่างบริการรับภาระที่ดีนุ่มนวลและสบาย
มีการตั้งค่าเทคโนโลยีอย่างมาก เช่น กระจกมองหลังอัตโนมัติ กล้องทัศนียภาพรอบทิศทาง สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน รองรับการควบคุมด้วยเสียงอัจฉริยะ
การแสดงของชั้นล่างทำได้ดี สตาร์ทอย่างมีพลัง การเปลี่ยนแถวและหักมุมตอบสนองที่ดี

ข้อเสีย

การออกแบบภายในรถดูมักจะร้อน
ความเสถียรขณะขับรถด้วยความเร็วสูงไม่ดีพอ
ไม่มีด้ามประตูเพื่อช่วยเข้ารถ การขึ้นรถนั้นค่อนข้างยาก
การปรับเปลี่ยนเบาะเป็นแบบธรรมดา
กำหนดการหลายรายการไม่โดดเด่น เช่น การปรับเบาะเป็นแบบธรรมดา ไม่มีสวิทซ์ปรับอากาศหลัง ไม่มีพอร์ตชาร์จ USB ฯลฯ
ไม่มีก้านเปลี่ยนเกียร์ ซึ่งทำให้ความสนุกในการขับขี่น้อยลง
ไม่มีถุงลมด้านข้างและถุงลมแบบม่าน

Q&A ล่าสุด

Q
ราคา BYD SEALION 7 เท่าไหร่
รถ BYD Sealion 7 เป็นรุ่น SUV ไฟฟ้ารุ่นล่าสุดจาก BYD ที่เพิ่งเปิดตัวในตลาดไทย ตอนนี้ยังไม่มีประกาศราคาอย่างเป็นทางการ แต่ถ้าดูจากนโยบายการตั้งราคาของ BYD ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงสเปกของรถรุ่นนี้ คาดว่าราคาน่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.5-2 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ความจุแบตเตอรี่ ระบบขับเคลื่อน และอุปกรณ์เสริมต่างๆ รุ่นนี้ใช้เทคโนโลยี e-platform 3.0 ล่าสุดจาก BYD ที่ให้ระยะทางวิ่งมากกว่า 500 กม. (ตามมาตรฐาน CLTC) และรองรับระบบชาร์จเร็ว ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยที่มองหารถไฟฟ้าระยะทางไกลและชาร์จสะดวก ในตลาดไทย BYD Sealion 7 จะแข่งกับรถ SUV ไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ เช่น Tesla Model Y และ MG Marvel R แต่ BYD ได้เปรียบเรื่องการผลิตในประเทศที่อาจทำให้ราคาดีกว่าและมีเครือข่ายบริการที่ครอบคลุมมากกว่า ที่สำคัญตอนนี้รัฐบาลไทยมีนโยบายสนับสนุนรถ EV ค่อนข้างดี ทั้งการลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต ซึ่งช่วยให้ราคารถถูกลงอีก ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความต้องการรถยนต์อีโคคาร์ที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค รถเอสยูวีพลังงานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงอย่าง BYD Sealion 7 คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาด
Q
BYD SEALION 7 มีที่นั่งกี่ที่
BYD SEALION 7 เป็น SUV ขนาดกลางที่ออกแบบมา 5 ที่นั่ง ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันของครอบครัวไทยหรือการออกทริปกับเพื่อนๆ ได้เป็นอย่างดี โอกาสนี้ยังมีพื้นที่ด้านหลังและกระโปรงหลังที่กว้างขวาง เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไทยที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวหรือต้องขนสัมภาระจำนวนมาก รถรุ่นนี้มาพร้อมเทคโนโลยี Hybrid แบบ Plug-in (DM-i Super Hybrid) ของ BYD ที่ช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีแม้ในสภาพอากาศร้อนของไทย โหมด EV ก็เหมาะกับการใช้ชีวิตในเมือง ส่วนเรื่องที่สำคัญคือ ตลาดไทยกำลังเติบโตในเรื่องรถพลังงานสะอาด ซึ่ง Sealion 7 เป็น Plug-in Hybrid ที่ได้สิทธิประโยชน์เหมือนรถ EV แถมยังไม่ต้องกังวลกับสถานีชาร์จที่อาจยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ อีกทั้งยังติดตั้งระบบปรับอากาศแรงๆ สำหรับเมืองร้อน และระบบจัดการความร้อนของแบตเตอรี่ ที่สำคัญแบตเตอรี่มีมาตรฐานกันน้ำระดับ IP67 ทนสภาพฝนตกชุกของไทยได้ดี เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Toyota RAV4 ที่ก็เป็น 5 ที่นั่งเหมือนกัน แต่ Sealion 7 โดดเด่นกว่าในเรื่องเทคโนโลยีเชื่อมต่อและนวัตกรรมพลังงานสะอาด อย่างไรก็ตามผู้ซื้อควรเลือกตามความต้องการและงบประมาณที่มี เพราะตอนนี้รัฐบาลไทยกำลังสนับสนุนนโยบาย EV 3.5 ทำให้ SUV ประหยัดพลังงานแบบนี้จะเป็นทางเลือกยอดนิยมของครอบครัวไทยมากขึ้นเรื่อยๆ
Q
Isuzu MU-X 1.9 ต้องเสียภาษีเท่าไหร่
ในประเทศไทย ภาษีของรถ Isuzu MU-X 1.9 จะประกอบไปด้วยภาษีนำเข้า ภาษีสรรพสามิต และภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยจำนวนเงินที่ต้องจ่ายจริงจะขึ้นอยู่กับราคา CIF ของรถ (รวมค่าการขนส่งและประกัน) รวมถึงปัจจัยอื่นๆ เช่นขนาดเครื่องยนต์ ตามนโยบายภาษีของไทย รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตรจะถูกจัดอยู่ในอัตราภาษีสรรพสามิต 20% และต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% โดยรวมแล้วภาษีจะอยู่ที่ประมาณ 30% ของราคา CIF แต่จำนวนสุดท้ายต้องรอการประเมินจากศุลกากร นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีสิทธิประโยชน์สำหรับรถที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยถ้า Isuzu MU-X 1.9 ซึ่งเป็นรุ่นเครื่องดีเซลสามารถผ่านมาตรฐาน Euro ก็อาจจะได้รับส่วนลดภาษีบางส่วน ควรระวังไว้ว่ารัฐบาลไทยอาจมีการปรับอัตราภาษีรถยนต์เป็นครั้งคราว ดังนั้นก่อนซื้อควรสอบถามข้อมูลล่าสุดจากตัวแทนจำหน่ายหรือหน่วยงานด้านภาษีในพื้นที่ สุดท้ายแล้ว Isuzu MU-X 1.9 เป็นรถที่ได้รับความนิยมในตลาดไทยเนื่องจากความทนทานและประหยัดน้ำมัน แม้ว่าภาษีจะเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนการซื้อรถ แต่ในระยะยาวการประหยัดน้ำมันและค่าบำรุงรักษาที่ต่ำก็ช่วยให้เจ้าของรถประหยัดเงินได้ไม่น้อย
Q
รีโมทคอนโทรลของ Isuzu MU-X รุ่นอะไร?
สำหรับรถยนต์ Isuzu MU-X ในตลาดไทย รีโมทคีย์ที่นิยมใช้จะเป็นยี่ห้อ 4D-TECH ซึ่งมักเป็นรุ่น 4D-60 หรือ 4D-63 ขึ้นอยู่กับปีที่ผลิตและระดับเครื่องของรถ แนะนำให้เจ้าของรถตรวจสอบป้ายด้านหลังของกุญแจหรือสอบถามตัวแทนจำหน่ายอีซูสุอย่างเป็นทางการในไทยเพื่อความถูกต้อง ส่วนการเปลี่ยนหรือตั้งค่ารีโมทคีย์ในประเทศไทย ต้องทำผ่านช่องทางมืออาชีพโดยเฉพาะรถที่ติดตั้งระบบอิมโมบิไลเซอร์ (Immobilizer) ควรเลือกบริการศูนย์บริการทางการของอีซูสุหรืออู่ที่ได้รับการรับรอง เพื่อความปลอดภัยและความเข้ากันได้ของระบบ นอกจากนี้สภาพอากาศที่ร้อนชื้นของไทยอาจส่งผลต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่ของรีโมท (ปกติใช้แบตเตอรี่รุ่น CR2032) ถ้ารีโมททำงานไม่ดีหรือกดแล้วไม่ค่อยตอบสนอง ลองเปลี่ยนแบตเตอรี่ดูก่อน สำหรับการดูแลรักษารีโมทคีย์ในชีวิตประจำวัน ควรหลีกเลี่ยงการวางทิ้งไว้ในที่ร้อนเช่นแผงหน้าปัด และระวังไม่ให้น้ำเข้า เพราะจะช่วยยืดอายุการใช้งานของรีโมทได้ หากต้องการทำกุญแจเพิ่ม ในไทยมีร้านค้าชิ้นส่วนรถยนต์ขนาดใหญ่เช่น Zeer Rangsit หรือร้านอิเล็กทรอนิกส์รถยนต์เฉพาะทางที่ให้บริการได้ แต่ต้องมั่นใจว่าชิปที่ใช้เข้ากันได้กับของเดิมเพื่อป้องกันระบบรักษาความปลอดภัยของรถทำงานล็อกโดยไม่จำเป็น
Q
ยางขนาด 18 นิ้ว Isuzu MU-X ควรเลือกแบบไหน?
สำหรับรถ SUV อย่าง Isuzu MU-X การเลือกยางขนาด 18 นิ้วต้องคำนึงถึงสภาพอากาศในไทยที่ฝนชุกและถนนหลากหลายรูปแบบ แนะนำให้ใช้ยางออฟโรด (AT) หรือยางสำหรับ SUV แบบทางเรียบ (HT) ถ้าขับในเมืองบ่อย ยาง HT เช่น Bridgestone Dueler H/P Sport หรือ Michelin Primacy SUV+ จะให้ความรู้สึกเงียบกว่าและเกาะถนนดีเวลาฝนตก เหมาะกับฤดูฝนของไทย แต่ถ้าต้องเจอทางลูกรังหรือโคลนบ้างเป็นครั้งคราว ยาง AT อย่าง Toyo Open Country A/T หรือ Pirelli Scorpion ATR จะทนทานกว่าและเหมาะกับการขับออฟโรดเล็กน้อย อย่าลืมว่าอากาศร้อนของไทยส่งผลต่อการระบายความร้อนของยาง แนะนำให้เลือกยางที่มีมาตรฐานรับความร้อนสูง (เช่น TEMP ระดับ A) และตรวจสอบลมยางสม่ำเสมอ (ควรอยู่ที่ 32-35 psi ตามที่ผู้ผลิตกำหนด) นอกจากนี้กฎหมายไทยกำหนดว่าดอกยางต้องเหลือไม่ต่ำกว่า 1.6 มม. ช่วงก่อนฝนควรเปลี่ยนยางใหม่เพื่อการระบายน้ำที่ดี ส่วนขนาดยางที่เหมาะกับกระทะล้อ 18 นิ้วของ MU-X จะเป็น 255/60R18 ต้องเช็คดัชนีรับน้ำหนัก (Load Index) อย่างน้อย 110 ขึ้นไปเพื่อให้รับน้ำหนักรถได้ และอัตราความเร็ว (Speed Rating) อย่างน้อยระดับ H (210km/h) เพื่อให้เหมาะสมกับการขับบนทางด่วนในไทย
ดูเพิ่มเติม