Q

Suzuki Celerio เป็นรถที่ดีหรือไม่?

Suzuki Celerio เป็นรถแฮทช์แบคขนาด A-Segment ที่มีความคุ้มค่าสูงมาก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคชาวไทย โดยเฉพาะในเขตเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น เช่น กรุงเทพมหานคร จุดเด่นของรถรุ่นนี้อยู่ที่ความประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ (ประมาณ 4.5–5.0 ลิตร/100 กม.) ตัวรถมีน้ำหนักเบาเพียง 800–830 กิโลกรัม และราคาจำหน่ายที่เป็นมิตร เริ่มต้นประมาณ 450,000–550,000 บาท แม้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.0 ลิตรแบบไม่มีเทอร์โบ (67 แรงม้า) จะไม่ได้ให้พละกำลังที่จัดจ้าน แต่ก็เพียงพอสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน อีกทั้งรุ่นที่ใช้เกียร์อัตโนมัติแบบ AMT ยังช่วยให้ผู้ขับขี่มือใหม่ควบคุมรถได้ง่ายขึ้น ภายในห้องโดยสารมีการจัดวางพื้นที่ได้ดี โดยเฉพาะพื้นที่เหนือศีรษะที่กว้างขวาง ส่วนพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายขนาด 254 ลิตร ก็เพียงพอสำหรับการจับจ่ายใช้สอยหรือเดินทางระยะสั้น ด้านอุปกรณ์ รุ่นท็อปของ Celerio มาพร้อมฟีเจอร์พื้นฐานที่จำเป็น เช่น หน้าจอสัมผัสระบบเสียง ระบบเบรก ABS+EBD ถุงลมนิรภัย แม้ว่าวัสดุตกแต่งภายในส่วนใหญ่จะเป็นพลาสติกแข็ง แต่ก็มีคุณภาพและความทนทานตามมาตรฐานของ Suzuki หากผู้บริโภคมีงบประมาณจำกัดและให้ความสำคัญกับความประหยัดและค่าใช้จ่ายในการใช้งาน Celerio คือหนึ่งในตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุดในตลาดรถยนต์ขนาดเล็กของไทย แต่หากต้องการรถที่มีกำลังแรงขึ้นหรืออุปกรณ์ครบครันมากกว่า อาจพิจารณาเพิ่มงบไปยัง Suzuki Swift หรือรุ่นในกลุ่มเดียวกัน
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
Celerio 2025 เป็นรถที่ปลอดภัยหรือไม่?
สำหรับเรื่องความปลอดภัยของ Suzuki Celerio รุ่นปี 2025 คาดว่ารถรุ่นนี้จะยังคงให้ความสำคัญกับอุปกรณ์ความปลอดภัยพื้นฐานเหมือนเดิม โดยในตลาดไทยอาจจะติดตั้งมาตรฐานอย่างถุงลมนิรภัยคู่ ระบบ ABS และระบบควบคุมเสถียรภาพรถ ซึ่งตรงตามข้อกำหนดความปลอดภัยของกรมการขนส่งทางบกสำหรับรถยนต์ระดับเริ่มต้น สภาพอากาศของไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุกก็ทำให้รถต้องมีความทนทานเป็นพิเศษ โดยเฉพาะระบบป้องกันสนิมและระบบแอร์ของ Celerio ที่น่าจับตามอง ขนาดตัวรถที่กะทัดรัดยังเหมาะกับถนนแคบๆ ในเมืองอย่างกรุงเทพฯ แต่อย่างไรก็ตาม รถขนาดเล็กอย่าง Celerio จะมีความมั่นคงบนทางหลวงน้อยกว่ารถขนาดใหญ่โดยธรรมชาติ ดังนั้นควรเลือกซื้อตามการใช้งานจริง ถ้าหากต้องขับทางไกลบ่อยๆ อาจพิจารณาติดตั้งอุปกรณ์เสริมอย่างหัวพนักเก้าอี้แถวหลัง ส่วนผลทดสอบความปลอดภัยจาก ASEAN NCAP ก็ยังเป็นข้อมูลสำคัญที่ควรดู โดยเฉพาะเมื่อรถมาถึงโชว์รูมแล้วควรตรวจสอบโครงสร้างความปลอดภัยแบบ passive อย่างคานกันชนประตูให้ดี แต่ไม่ว่าจะเลือกรถรุ่นไหน การตรวจสอบสภาพยางและระบบเบรกอย่างสม่ำเสมอก็สำคัญที่สุด โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนที่ถนนลื่นมากในไทย
Q
คะแนนความปลอดภัยของ Celerio 2025 คืออะไร
สำหรับการประเมินความปลอดภัยของ Suzuki Celerio รุ่นปี 2025 ตอนนี้ยังไม่มีผลทดสอบอย่างเป็นทางการออกมา แต่ถ้าดูจากรุ่นปี 2022 ที่เคยผ่านการทดสอบโดย ASEAN NCAP และได้คะแนน 3 ดาว (การปกป้องผู้ใหญ่ 73%, การปกป้องเด็ก 60%) คาดว่ารุ่นใหม่น่าจะมีการปรับปรุงในเรื่องโครงสร้างตัวถังและการใช้วัสดุเหล็กความแข็งแรงสูง ผู้บริโภคในไทยสามารถติดตามผลทดสอบจาก ASEAN NCAP หรือหน่วยงาน TISI ของไทยได้ในอนาคต ในตลาดไทย Celerio ได้รับความนิยมจากขนาดตัวถังกะทัดรัด ที่เหมาะกับสภาพถนนแคบๆ ในกรุงเทพฯ แต่แนะนำว่าเวลาซื้อควรตรวจสอบอุปกรณ์มาตรฐานให้ดี เช่น ถุงลมนิรภัยคู่ ระบบ ABS+EBD และจุดยึด ISOFIX เพราะอุปกรณ์พื้นฐานพวกนี้สำคัญมากสำหรับการขับขี่ประจำวัน อีกจุดที่ควรรู้คือ ASEAN NCAP เพิ่มน้ำหนักการให้คะแนนในส่วนของเทคโนโลยีความปลอดภัยแบบแอคทีฟมากขึ้น ถ้ารุ่นปี 2025 มีระบบเตือนเลนออกหรือระบบเบรกฉุกเฉอัตโนมัติ คะแนนน่าจะดีขึ้น ส่วนในไทยที่อากาศชื้นและฝนตกบ่อย ระบบควบคุมเสถียรภาพอิเล็กทรอนิกส์ควรได้มาตรฐาน แนะนำให้ลองขับในสภาพถนนลื่นๆ เพื่อทดสอบการทำงานของเบรก นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมไทยกำหนดว่าตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป รถทุกคันต้องมีเรดาร์ถอยหลัง ซึ่งอาจเป็นจุดอัพเกรดของรุ่นนี้ด้วย
Q
ความเร็วสูงสุดของ Celerio 2025 คือเท่าไร
จากข้อมูลทางการ รุ่น Suzuki Celerio 2025 จะมีความเร็วสูงสุดที่ประมาณ 155 กม./ชม. รุ่นนี้เป็นรถขนาดเล็กที่ใช้เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร 3 สูบ ออกแบบมาสำหรับการขับขี่ในเมืองที่เน้นความประหยัดและความคล่องตัว โดยเฉพาะในสภาพการจราจรที่ติดขัดของกรุงเทพฯ ในตลาดไทย Celerio มีจุดเด่นเรื่องประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน โดยอัตราสิ้นเปลืองทางการอยู่ที่ประมาณ 4.5 ลิตร/100 กม. ร่วมกับการออกแบบตัวรถที่น้ำหนักเบา ช่วยลดต้นทุนการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ความเร็วสูงสุดจริงอาจต่ำกว่าที่ระบุไว้เล็กน้อยเนื่องจากสภาพอากาศร้อนของไทย การใช้แอร์ หรือการบรรทุกสิ่งของ ส่วนรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันอย่าง Toyota Yaris Ativ หรือ Honda Brio อาจมีความเร็วใกล้เคียง แต่ Celerio ยังคงเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้บริโภคที่เน้นงบประมาณ เนื่องจากราคาที่เข้าถึงง่ายและความเชี่ยวชาญของ Suzuki ในตลาดรถขนาดเล็ก แนะนำให้เจ้าของรถในไทยบำรุงรักษาเครื่องยนต์และระบบหล่อเย็นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรักษาประสิทธิภาพของรถในสภาพอากาศร้อน และควรระมัดระวังกฎหมายจำกัดความเร็วบนทางหลวงบางสายในไทยเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
Q
ราคาของ Celerio 2025 คือเท่าไหร่?
รถยนต์ซูซูกิ เซเลริโอ รุ่นปี 2025 ที่วางขายในตลาดไทยมีราคาอยู่ระหว่าง 358,000 - 480,000 บาท โดยตัวนี้เป็นรุ่นแฮทช์แบ็กขนาดเล็กระบบเชื้อเพลิงเบนซิน มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร 3 สูบ แบบธรรมชาติ ทั้งซีรีส์ และยังมีตัวเลือกระบบเชื้อเพลิงแบบ CNG ให้เลือกด้วย เกียร์มาทั้งแบบ Manual 5 สปีดและ AMT เหมาะกับการใช้งานในเมืองประจำวันเพราะประหยัดน้ำมันดี ในเรื่องความปลอดภัย ทุกรุ่นอัพเกรดมาตรฐานมาพร้อมถุงลมนิรภัย 6 ใบ ส่วนภายในห้องโดยสารออกแบบแผงคอนโซลกลางแบบสมมาตร เรียบง่ายแต่ใช้งานได้จริง ตัวรถมีขนาดความยาว x ความกว้าง x ความสูง 3,695/1,655/1,555 มม. ระยะฐานล้อ 2,435 มม. จุผู้โดยสารได้ 5 ที่นั่ง โดยมีการจัดสรรพื้นที่อย่างคุ้มค่า ดีไซน์ภายนอกยังคงคล้ายกับรุ่นเดิม แต่มีให้เลือกถึง 6 สี เพื่อตอบโจทย์ความชอบที่หลากหลายของลูกค้า
Q
Suzuki Celerio มั่นคงแค่ไหน?
Suzuki Celerio มีความมั่นคงในการขับขี่ที่ดี โดยติดตั้งระบบความปลอดภัยพื้นฐาน เช่น ระบบเบรก ABS และระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ (ESC) ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการลื่นไถลหรือสูญเสียการควบคุม โดยเฉพาะในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือสภาพถนนที่ซับซ้อน ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้ดียิ่งขึ้น รถรุ่นนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีสตาร์ต/สต็อปเครื่องยนต์ (Engine Auto Start-Stop) ซึ่งช่วยดับเครื่องอัตโนมัติขณะหยุดนิ่งและสตาร์ตได้ทันทีเมื่อเริ่มขับเคลื่อน รวมถึงระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชันที่ช่วยป้องกันไม่ให้รถไหลถอยเมื่อต้องออกตัวบนทางชัน ระบบกันสะเทือนของรถใช้แบบแม็กเฟอร์สันสตรัทด้านหน้า และแบบทอร์ชั่นบีมด้านหลัง นอกจากนี้ระบบกันสะเทือนแบบนี้เป็นรูปแบบที่พบได้ทั่วไปและผ่านการปรับจูนมาอย่างลงตัว ช่วยลดแรงกระแทกจากพื้นถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้การขับขี่ที่นุ่มนวลเมื่อลงถนนจริง แม้ตัวรถจะมีขนาดเล็ก แต่ด้วยการเซ็ตช่วงล่างที่เหมาะสมและระบบความปลอดภัยที่ติดตั้งมา ช่วยเสริมความมั่นใจในด้านความเสถียรขณะขับขี่ได้เป็นอย่างดี
Q
Celerio มีระยะทางขับขี่เท่าไหร่
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของ Suzuki Celerio แตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่น โดยรุ่นปี 2023 มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยจากโรงงานอยู่ที่ 5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร รุ่นปี 2022 รุ่น Celerio 1.0 GA อยู่ที่ 4.7 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร และรุ่น Celerio 1.0 GL อยู่ที่ 4.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ระยะทางที่รถสามารถวิ่งได้จริงต่อเชื้อเพลิงหนึ่งหน่วยจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น พฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน และน้ำหนักบรรทุกของรถ ตัวอย่างเช่น การเร่งหรือเบรกอย่างรุนแรง หรือการจอดติดเครื่องเป็นเวลานาน อาจทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น ในทางกลับกัน การขับขี่อย่างนุ่มนวลและถนนที่สภาพดี จะช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น นอกจากนี้ การดูแลรักษารถตามระยะ ตรวจเช็กลมยางให้อยู่ในระดับปกติ ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้รถทำงานได้ใกล้เคียงกับตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองที่ระบุโดยผู้ผลิต และให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีในด้านระยะทางต่อเชื้อเพลิงที่ใช้
Q
Celerio ดีกว่าในรูปแบบแมนนวลหรืออัตโนมัติ?
โหมดเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติของ Suzuki Celerio ต่างมีข้อดีที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งานของแต่ละบุคคล เกียร์ธรรมดามีจุดเด่นในด้านประสิทธิภาพการส่งกำลังที่สูงกว่า สามารถควบคุมรอบเครื่องและแรงบิดได้แม่นยำกว่า โดยเฉพาะเมื่อต้องขับขึ้นเขา หรือเร่งแซงในสถานการณ์เฉพาะหน้า ผู้ขับสามารถเลือกเปลี่ยนเกียร์เองเพื่อให้ได้สมรรถนะตามต้องการ อีกทั้งยังมอบความรู้สึกมีส่วนร่วมในการขับขี่มากขึ้น ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นความสนุกอีกรูปแบบหนึ่ง อีกข้อดีคือ รถเกียร์ธรรมดามักมีราคาถูกกว่า และในเชิงทฤษฎี หากขับขี่อย่างเหมาะสมจะประหยัดน้ำมันมากกว่า ส่วนเกียร์อัตโนมัติเด่นในเรื่องความสะดวกสบาย เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองที่มีการจราจรติดขัดหรือสภาพการขับขี่ที่ต้องหยุดและออกตัวบ่อย ๆ เนื่องจากไม่ต้องเหยียบคลัตช์หรือเปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเอง ช่วยลดความเมื่อยล้าในการขับขี่ เหมาะกับผู้ขับมือใหม่ หรือผู้ที่ต้องการความง่ายในการใช้งาน นอกจากนี้ ระบบเกียร์อัตโนมัติโดยทั่วไปจะเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างราบรื่น ให้ความรู้สึกขับขี่ที่นุ่มนวลและสบาย โดยสรุป หากคุณชื่นชอบการขับขี่แบบมีส่วนร่วม และเน้นเรื่องสมรรถนะในการควบคุม เกียร์ธรรมดาคือทางเลือกที่น่าสนใจ แต่หากคุณให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายในการขับขี่แ เกียร์อัตโนมัติจะเหมาะกับคุณมากกว่า
Q
Celerio อัตโนมัติดีสำหรับการขับขี่ระยะไกลหรือไม่?
Suzuki Celerio ไม่ใช่รถยนต์ที่รองรับระบบขับขี่อัตโนมัติ ส่วนในด้านความเหมาะสมสำหรับการขับขี่ทางไกล Celerio มีทั้งข้อดีและข้อจำกัดบางประการ ข้อดีคือ Celerio มาพร้อมเครื่องยนต์ที่ประหยัดน้ำมัน โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยตามข้อมูลจากผู้ผลิตอยู่ที่ 5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ซึ่งช่วยลดความถี่ในการเติมน้ำมันระหว่างเดินทาง นอกจากนี้ยังมีที่นั่ง 5 ที่นั่ง รองรับการเดินทางของผู้โดยสารกลุ่มเล็กได้อย่างสะดวก อย่างไรก็ตาม Celerio เป็นรถขนาดเล็ก ตัวถังค่อนข้างกะทัดรัด ถังน้ำมันมีความจุ 35 ลิตร ซึ่งอาจทำให้ระยะทางวิ่งต่อการเติมน้ำมันหนึ่งครั้งไม่ไกลมากเท่ารถที่มีถังขนาดใหญ่ อีกทั้งขนาดตัวรถที่เล็กอาจส่งผลต่อความสะดวกสบายในการเดินทางไกล โดยเฉพาะสำหรับผู้โดยสารที่มีรูปร่างสูงใหญ่ ด้านสมรรถนะ Celerio มีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 175 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และใช้เวลา 15.5 วินาที ในการเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งอาจไม่ตอบโจทย์เท่ารถยนต์ขนาดใหญ่ในเรื่องของกำลังและการเร่งแซง โดยสรุป แม้ Celerio จะสามารถใช้เดินทางไกลได้ แต่ควรวางแผนการเดินทางให้เหมาะสม และพิจารณาถึงความสะดวกสบายของผู้โดยสารอย่างเหมาะสม
Q
Suzuki Celerio มีระบบปรับอากาศหรือไม่
ใช่ครับ Suzuki Celerio มาพร้อมระบบปรับอากาศ และยังมีแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐานด้วย Celerio เป็นรถยนต์กลุ่ม A-Segment ที่มีรุ่นปี 2023 ให้เลือกหลายรุ่นในตลาดปัจจุบัน รถรุ่นนี้ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.0 ลิตร แบบไม่มีระบบอัดอากาศ ให้กำลังเหมาะสมกับการใช้งานทั่วไป อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ 5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร จัดว่าเป็นรถที่ประหยัดน้ำมันและใช้งานคุ้มค่า ตัวถังมีขนาดความยาว 3600 มม. กว้าง 1600 มม. สูง 1540 มม. และมีระยะฐานล้อ 2425 มม. ภายในเป็นแบบ 5 ที่นั่ง เพียงพอสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวัน ในด้านความปลอดภัย Celerio ก็จัดว่าให้มาครบพอสมควร เช่น ระบบเบรก ABS และระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ (ESC) ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ช่วยเสริมความปลอดภัยให้กับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ขณะที่ระบบปรับอากาศด้านหลังที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ก็ช่วยให้ผู้โดยสารด้านหลังรู้สึกสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นในการเดินทาง
Q
Suzuki Celerio มีที่นั่งกี่ที่?
Suzuki Celerio มีจำนวนที่นั่งทั้งหมด 5 ที่นั่ง ซึ่งทำให้เป็นตัวเลือกที่ใช้งานได้จริงสำหรับครอบครัวขนาดเล็กหรือกลุ่มเพื่อนที่ต้องการเดินทางไปด้วยกัน ด้วยเบาะนั่งสำหรับผู้โดยสาร 5 คน ทุกคนสามารถนั่งได้อย่างสะดวกสบายตลอดการเดินทาง การจัดวางที่นั่งได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้พื้นที่ภายในของรถระดับ A00-Segment อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในชีวิตประจำวัน การเดินทางภายในเมือง หรือทริปสั้น ๆ นอกเมือง การมีที่นั่งครบ 5 ที่นั่งสามารถตอบสนองการใช้งานในหลายสถานการณ์ได้อย่างลงตัว ด้วยความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้ถึง 5 คน Celerio จึงเป็นตัวเลือกที่หลากหลายและเหมาะสมในตลาดรถยนต์

ข้อดี

ช่องว่างภายในรถกว้างขวาง
เครื่องยนต์ประหยัดน้ำมัน
ราคาถูกกว่ากับรุ่นเริ่มต้นที่เพียง 36.3 หมื่นบาท มาพร้อมกับระบบเปลี่ยนระดับความเร็วแบบธรรมดา
อัตราการใช้น้ำมันที่ยอดเยี่ยมสามารถทำได้ถึง 20 กิโลเมตร/ลิตร ทำให้เหมาะสำหรับการขับรถในเมือง

ข้อเสีย

เครื่องยนต์มีพลังงานไม่พอในรอบต่ำ และมีปฏิกิริยาช้า ม้าลายเพียง 68 แรงบี้ มวลโมเม้นท์ 90 นิวตันเมตร หนึ่งในจำนวนที่มีพลังงานต่ำในชั้นนั้น<div> ออกแบบภายนอกแนวๆ ไม่น่าสนใจ หัวรถ, ด้านข้าง, หางรถ และยางกระทัดรัดขนาด 14 นิ้ว ไม่มีจุดเด่นใดๆ<div> การตั้งค่าสะดวกสบายและระบบความปลอดภัยน้อยมาก, ไม่มีจอสัมผัส, มีเพียงแอร์แบ็กสด้านหน้าคู่, ระบบเบรก ABS และระบบเบรก EBS, แต่ไม่มีระบบช่วยขับขี่

Q&A ล่าสุด

Q
BMW X2 2020 ราคาเท่าไหร่?
ราคาของ BMW X2 รุ่นปี 2020 ในตลาดมือสองจะอยู่ที่ประมาณ 1.2 - 1.8 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น รุ่นย่อย ระยะทางที่ใช้งาน สภาพรถ และการซื้อจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่นรุ่น sDrive20i แบบพื้นฐานกับรุ่น xDrive25d แบบสูงจะมีความแตกต่างของราคาค่อนข้างชัดเจน รุ่นนี้ใช้แพลตฟอร์มขับเคลื่อนล้อหน้าของ BMW ที่ชื่อว่า UKL มีตัวเลือกเครื่องยนต์ทั้งแบบ 1.5T สามสูบและ 2.0T สี่สูบ มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดมาตรฐาน ระบบช่วงล่างถูกตั้งค่าให้เหมาะกับการขับขี่สปอร์ตและขนาดตัวที่กะทัดรัด ทำให้เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นพิเศษ นอกจากนี้ดีไซน์ที่โดดเด่นด้วยกริลล์รูปสี่เหลี่ยมคางหมูและสไตล์คูเป้ยังเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ สิ่งที่ควรระวังเวลาซื้อคือควรเลือกรถที่มีประวัติการรับประกันจากศูนย์อย่างเป็นทางการ และตรวจสอบปัญหาที่มักพบในรุ่นนี้ เช่น ระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่อาจมีปัญหาเป็นครั้งคราว ส่วนค่าบำรุงรักษาของ BMW จะสูงกว่ารุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันเล็กน้อย แต่เครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุมของแบรนด์ก็ช่วยให้มั่นใจได้ ถ้ามีงบประมาณจำกัด อาจพิจารณารุ่น X1 ปีเดียวกันซึ่งให้พื้นที่ใช้งานที่มากขึ้นแต่ความสนุกในการขับขี่อาจน้อยกว่าเล็กน้อย หรือจะเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่าง Mercedes-Benz GLA ก็ได้ แต่จุดแข็งของ X2 ยังคงอยู่ที่ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์และความรู้สึกเวลาขับที่เหนือชั้น
Q
BMW X2 2020 เป็นรถที่ดีหรือไม่?
รถ BMW X2 รุ่นปี 2020 เป็น SUV ขนาดกะทัดรัดที่ผสมผสานระหว่างความสปอร์ตและความใช้งานได้จริง ด้วยดีไซน์ภาษาที่เป็นเอกลักษณ์และประสบการณ์การขับที่แข่งขันในระดับเดียวกัน เครื่องยนต์ 2.0 เทอร์โบชาร์จให้กำลังสูงสุด 192 แรงม้า คู่กับเกียร์ 7 สปีด DCT หรือเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ที่ให้การควบคุมที่คล่องตัวและประหยัดน้ำมัน เหมาะสำหรับการเดินทางในเมืองหรือทริปสั้นๆ ภายในห้องโดยสารใช้วัสดุคุณภาพสูง พร้อมระบบ iDrive มาตรฐานที่รองรับ Apple CarPlay ทั้งความทันสมัยและประโยชน์ใช้สอย แต่พื้นที่เบาะหลังค่อนข้างจำกัด เหมาะสำหรับครอบครัวเล็กหรือกลุ่มผู้บริโภควัยหนุมสาว ในสภาพแวดล้อมการใช้งานท้องถิ่น ระบบช่วงล่างของ X2 สามารถปรับตัวได้ดีกับหลากหลายสภาพถนน แต่แนะนำให้เลือกติดตั้งระบบกันสะเทือนปรับได้เพื่อเพิ่มความสบายบนเส้นทางซับซ้อน สิ่งที่ควรทราบคืออัตราการรักษามูลค่ารถอยู่ในระดับปานกลาง ค่าบำรุงรักษาหลังการขายสูงกว่าคู่แข่งจากญี่ปุ่นเล็กน้อย แต่เครือข่ายบริการหลังการขายของ BMW มีความครอบคลุมและมีอะไหล่พร้อมเสมอ หากมีงบประมาณเพียงพอและชื่นชอบความรู้สึกการขับสไตล์เยอรมัน X2 นับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ก็ควรเปรียบเทียบกับรถระดับเดียวกันอย่าง Mercedes-Benz GLA หรือ Audi Q3 เพื่อชั่งน้ำหนักพื้นที่ด้วยคุณสมบัติของแบรนด์ตามความต้องการของแต่ละบุคคล
Q
จุดอ่อนของ BMW X2 คืออะไร?
BMW X2 เป็น SUV ขนาดกะทัดรัดที่มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตและความหรูหราของแบรนด์ แต่ก็มีข้อเสียบางอย่างที่ควรรู้ไว้ เช่น พื้นที่ด้านหลังค่อนข้างจำกัด อาจไม่สะดวกสบายเท่ารุ่นอื่นในระดับเดียวกันเมื่อต้องนั่งทางไกล ส่วนปริมาณกระโปรงหลังก็เล็ก ทำให้ไม่ค่อยเหมาะกับครอบครัวหรือคนที่ต้องขนของใหญ่บ่อยๆ ในสภาพอากาศร้อนแบบท้องถิ่ง มีเจ้าของบางคนบอกว่าแอร์อาจจะเย็นไม่พอเมื่อใช้งานหนักๆ และระบบช่วงล่างที่ตั้งมาแนวสปอร์ตอาจทำให้รู้สึกไม่ค่อยสบายเวลาเจอถนนสภาพไม่ดี แถมค่าบำรุงรักษาก็สูงกว่าปกติเพราะเป็นรถหรู ราคาอะไหล่ก็แพง ต้องเตรียมงบเผื่อไว้เยอะหน่อย ส่วนเครื่องยนต์เทอร์โบแม้จะแรงแต่ถ้าติดขัดในเมืองน้ำมันจะค่อนข้างกินเพิ่ม ซึ่งก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องคิดให้ดีก่อนตัดสินใจ รถคันนี้เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่ชอบความแตกต่างและความสปอร์ตมากกว่าจะเน้นความประหยัดหรือประโยชน์ใช้สอยแบบครอบครัว
Q
"BMW 2 Series รุ่นปี 2020 มีความน่าเชื่อถือหรือไม่?"
รุ่นปี 2020 ของ BMW 2 Series ให้ประสิทธิภาพด้านความทนทานในระดับกลางค่อนไปทางดี เครื่องยนต์ B48 2.0 เทอร์โบที่ใช้เทคโนโลยีที่ผ่านการทดสอบมาแล้ว ระบบระบายความร้อนได้รับการออกแบบมาเฉพาะสำหรับสภาพอากาศร้อน แนะนำให้เปลี่ยนน้ำหล่อเย็นตามกำหนดเพื่อป้องกันปัญหาจากการใช้งานหนักในอุณหภูมิสูง เกียร์อัตโนมัติ ZF 8AT ให้การทำงานที่ลื่นไหล แต่ควรตรวจสอบแรงดันน้ำมันวาล์วทุก 60,000 กิโลเมตรเพื่อความมั่นคงของระบบคลัทช์แบบเปียก สำหรับการขับขี่ในประเทศไทยที่มีถนนลื่นช่วงฤดูฝน ควรใช้ระบบ DSC ที่มากับตัวรถอย่างระมัดระวัง ส่วนยาง Runflat แม้จะเพิ่มความปลอดภัยแต่อาจทำให้เสียงยางดังขึ้นเมื่อขับบนถนนขรุขระ ค่าบำรุงรักษาจะสูงกว่าคู่แข่งจากญี่ปุ่นเล็กน้อย แต่น้ำมันเครื่องสูตรพิเศษจากโรงงานสามารถใช้งานในสภาพอากาศร้อนชื้นได้ดี ระบบ iDrive รุ่นที่สองรองรับการใช้งาน CarPlay แบบไร้สาย แต่หน้าจอสัมผัสอาจเกิดแสงสะท้อนได้ แนะนำให้ติดตั้งอุปกรณ์กันแสงแดดเพิ่มเติม หากมองหารุ่นมือสอง ควรตรวจสอบรางเบาะไฟฟ้าและท่อระบายน้ำบนหลังคากันแดดเป็นพิเศษ เพราะเป็นส่วนที่ใช้งานหนักในสภาพอากาศร้อน โดยรวมแล้ว รุ่นนี้มีความทนทานที่ดีพอสมควร หากดูแลตามโปรแกรมของ BMW และระวังปัญหาที่มักเกิดในสภาพอากาศร้อน
Q
แบตเตอรี่ของ BMW X2 รุ่นปี 2020 อยู่ที่ไหน
แบตเตอรี่ของ BMW X2 รุ่นปี 2020 จะอยู่ใต้พื้นห้องสัมภนะด้านหลัง ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ BMW นิยมใช้กัน เพื่อช่วยกระจายน้ำหนักรถให้สมดุลระหว่างด้านหน้าและหลัง และประหยัดพื้นที่ในห้องเครื่อง สำหรับการดูแลรักษา แนะนำให้ตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่ทุก 2 ปี โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนชื้น เพราะน้ำในแบตเตอรี่จะระเหยเร็วขึ้น การตรวจสอบเป็นประจำจะช่วยป้องกันปัญหารถดับไม่ทันตั้งตัวเวลาที่แบตเตอรี่หมดแบบกะทันหัน ถ้าต้องการเปลี่ยนแบตเตอรี่ ต้องเลือกแบบ AGM ที่ออกแบบมาสำหรับระบบ Start-Stop โดยเฉพาะ เพราะรถรุ่นนี้มีระบบนี้ติดตั้งมา แบตเตอรี่ธรรมดาทนการชาร์จ-จ่ายบ่อยๆ ไม่ไหว อีกตอนนี้มีร้านซ่อมหลายเจ้าให้บริการเปลี่ยนแบตเตอรี่ถึงที่ สะดวกมากๆ โดยปกติต้องระมัดระวังอย่าปล่อยให้รถจอดนานๆ โดยไม่สตาร์ท เพราะจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว ถ้าเป็นรถที่ติดตั้งระบบ Connected Drive เวลาจอดรถนานๆ อาจพิจารณาถอดขั้วลบของแบตเตอรี่ออกชั่วคราวก็ได้
ดูเพิ่มเติม