Q

Yaris Cross ดีไหม

Yaris Cross มีข้อได้เปรียบในตลาดประเทศไทย โดยมีดีไซน์ทันสมัยและเส้นสายโค้งมนที่ตอบโจทย์รสนิยมผู้บริโภคในปัจจุบัน ภายในตกแต่งใช้งานได้จริง ตอบสนองความต้องการในการขับขี่ประจำวัน ด้านสมรรถนะขับขี่มีความสมูท ประหยัดน้ำมัน ช่วยลดต้นทุนในการใช้งาน ส่วนพื้นที่ภายในก็เพียงพอสำหรับการเดินทางของครอบครัวทั่วไป แต่ในบางจุด เช่น คุณภาพวัสดุภายในอาจยังมีจุดที่สามารถพัฒนาได้เพิ่มเติม โดยรวมแล้ว Yaris Cross เป็นรถที่มีศักยภาพในการแข่งขันในตลาด
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Toyota Yaris Cross มีอะไรบ้าง?
Toyota Yaris Cross มีข้อเสียอยู่บ้าง เช่น พื้นที่ภายในรถค่อนข้างแคบ โดยเฉพาะสำหรับคนตัวสูง หากผู้ขับมีความสูงมาก อาจปรับเบาะให้นั่งสบายได้ยาก และหากมีผู้โดยสารที่สูงเกิน 180 ซม. นั่งด้านหน้า คนที่นั่งเบาะหลังจะรู้สึกอึดอัด ในด้านสมรรถนะ รถรุ่นนี้ไม่ได้เน้นความแรง การเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ไม่ได้โดดเด่น และไม่ค่อยให้ความรู้สึก “แรงดึงหลัง” เท่าไหร่ ภายในห้องโดยสารใช้พลาสติกแข็งค่อนข้างมาก ทำให้ความรู้สึกของวัสดุและคุณภาพสัมผัสดูธรรมดา นอกจากนี้ การใช้งานบางฟังก์ชันก็ไม่สะดวก เช่น การปิดบางระบบต้องเข้าไปตั้งค่าลึกในเมนูหน้าจอ บางเมนูใช้งานได้เฉพาะตอนรถจอดเท่านั้น และบางฟังก์ชันต้องทำตามขั้นตอนตามข้อกำหนดของยุโรปทุกครั้งที่ใช้งาน
Q
Toyota Yaris Cross อยู่ใน Segment ไหน?
Toyota Yaris Cross เป็นรถในระดับ C-Segment หรือก็คือรถคอมแพคที่มีขนาดกำลังดี ความยาว 4,310 มม. กว้าง 1,770 มม. สูง 1,615 มม. ระยะฐานล้อ 2,620 มม. ทำให้ขับขี่ในชีวิตประจำวันได้สะดวกและจอดง่าย มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5L แบบธรรมชาติ (NA) ให้กำลังสูงสุด 67 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 121 นิวตันเมตร และยังมีมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยเสริมกำลัง ทำให้ระบบรวมให้กำลังสูงถึง 82 กิโลวัตต์ เพียงพอต่อการขับขี่ทั่วไป ราคาอยู่ที่ 789,000 ถึง 899,000 บาท ซึ่งเป็นช่วงราคาที่เหมาะสมสำหรับหลายครอบครัวที่กำลังมองหารรถสักคัน นอกจากนี้ Toyota Yaris Cross ยังมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยและความสะดวกสบายครบครัน ทั้งระบบควบคุมเสถียรภาพ ถุงลมนิรภัย 6 ตัน แอร์หลัง ให้ความสบายทุกที่นั่ง เหมาะสำหรับการเดินทางในเมือง ท่องเที่ยวใกล้ๆ หรือใช้เป็นรถครอบครัวในชีวิตประจำวัน
Q
ราคารถมือสองของ Toyota Yaris Cross ประมาณเท่าไหร่?
ราคารถมือสองของ Toyota Yaris Cross ขึ้นอยู่กับรุ่น ปีที่ผลิต สภาพรถ และระยะทางที่ใช้งาน ปัจจุบันรุ่นปี 2023 เช่น Yaris Cross HEV Smart มีราคาประมาณ 789,000 บาท, รุ่น HEV Premium ราคา 849,000 บาท และรุ่น HEV Premium Luxury ราคา 899,000 บาท ส่วนรุ่นปี 2020 ยังไม่มีข้อมูลการขายชัดเจน ถ้ารถปีใหม่ สภาพดี และวิ่งน้อย ราคาขายต่อก็จะสูงกว่า แต่ถ้ารถเก่า มีรอยหรือวิ่งมาเยอะ ราคาจะลดลงมาก โดยทั่วไปแล้วรถที่ใช้งานไปแล้ว ราคาขายต่อจะลดลงจากราคาป้ายแดงพอสมควร ซึ่งราคาที่แน่นอนควรให้ผู้ประเมินรถมือสองเป็นคนดูโดยตรงเพื่อความแม่นยำ
Q
เครื่องยนต์ของ Toyota Yaris Cross มีความจุกี่ซีซี?
Toyota Yaris Cross ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1,496 ซีซี หรือที่เรียกกันว่า 1.5 ลิตร เป็นเครื่องยนต์แบบเบนซินธรรมดา 4 สูบ ระบบดูดอากาศเป็นแบบธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีรุ่นไฮบริดที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังเพียงพอต่อการขับขี่ในชีวิตประจำวัน มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นแบบแม่เหล็กถาวร (Permanent Magnet Synchronous Motor) ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน และมาพร้อมเกียร์ E-CVT ที่ช่วยให้ขับขี่นุ่มนวลและประหยัดน้ำมันอีกด้วย.
Q
Toyota Yaris Cross ใช้เครื่องยนต์แบบไหน?
Toyota Yaris Cross มีหลายรุ่นให้เลือก โดยบางรุ่นใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร แบบธรรมดา (NA) เครื่องยนต์แบบ 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 91 แรงม้า (67 กิโลวัตต์) ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 121 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที นอกจากนี้ยังมีรุ่นไฮบริด ซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าแบบแม่เหล็กถาวรซิงโครนัส ให้กำลังสูงสุด 80 แรงม้า (59 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตร เมื่อรวมทั้งระบบแล้ว ให้กำลังรวม 111 แรงม้า และแรงบิดรวม 121 นิวตันเมตร การจับคู่ระหว่างเครื่องยนต์และระบบไฮบริดนี้ ให้ทั้งความแรงและประหยัดน้ำมัน ขับขี่นุ่มนวล เหมาะกับทั้งการใช้งานในเมืองและขับทางไกล ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย
Q
เกียร์ของ Toyota Yaris Cross เป็นแบบไหน?
Toyota Yaris Cross ใช้เกียร์แบบ E-CVT ซึ่งเป็นเกียร์ที่ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานในรอบที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้การส่งกำลังนุ่มนวล ประหยัดน้ำมัน และขับขี่สบาย เกียร์ E-CVT ยังสามารถปรับอัตราทดได้ตามสภาพถนนและความต้องการของผู้ขับขี่ ช่วยให้รถตอบสนองได้ดีในทุกสถานการณ์ รุ่นต่างๆ ของ Yaris Cross เช่น Smart, Premium และ Premium Luxury ก็ใช้เกียร์แบบนี้ทั้งหมด เพื่อให้มั่นใจในสมรรถนะที่มั่นคงของตัวรถ
Q
ขนาด PCD ของ Toyota Yaris Cross คือเท่าไหร่?
Toyota Yaris Cross ที่วางขายในไทยใช้ล้อที่มีขนาด PCD 5×100 (หมายถึงมีรูน็อต 5 รู วัดระยะวงกลมได้ 100 มม.) ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานเดียวกับรถ SUV ขนาดเล็กหลายรุ่น เช่น Honda HR-V หรือ Toyota Corolla Cross ก็ใช้ขนาดนี้เช่นกัน ถ้าคิดจะเปลี่ยนล้อแม็ก แนะนำให้ตรวจสอบขนาดรูดุมกลาง (CB) และค่า Offset (ET) ให้เหมาะสมด้วย ร้านแต่งรถในไทยส่วนใหญ่จะแนะนำล้อที่ผ่านมาตรฐาน JWL/VIA เพื่อความปลอดภัย และมักแนะนำแบรนด์ดัง เช่น Enkei หรือ Rays ที่เป็นล้อแบบน้ำหนักเบา ช่วยประหยัดน้ำมัน อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนล้อที่มีขนาดแตกต่างมากจากเดิม อาจกระทบระบบช่วงล่างหรือเงื่อนไขการรับประกันของศูนย์ แนะนำให้ปรึกษาศูนย์บริการ Toyota ในไทยก่อนตัดสินใจเปลี่ยนครับ
Q
Toyota Yaris Cross มีฟังก์ชัน Apple CarPlay ไหม?
Toyota Yaris Cross รองรับฟังก์ชัน Apple CarPlay ขึ้นอยู่กับรุ่นและปีของรถ โดยทั่วไปแล้ว รุ่นปี 2022 ขึ้นไปจะมาพร้อม CarPlay แบบไร้สายที่สามารถเชื่อมต่อกับ iPhone ผ่านหน้าจอกลางเพื่อใช้งานแผนที่ ฟังเพลง หรือโทรศัพท์ได้ทันที แต่สำหรับรุ่นก่อนหน้าหรือรุ่นย่อยบางรุ่นอาจต้องเชื่อมต่อผ่านสาย USB แนะนำให้ตรวจสอบกับตัวแทนจำหน่าย Toyota ในประเทศไทยก่อนตัดสินใจซื้อ หากพบปัญหาในการเชื่อมต่อ สามารถนำรถเข้ารับบริการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่ศูนย์บริการ Toyota ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดได้ฟรีภายในระยะเวลารับประกัน เพื่อให้ระบบรองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้เต็มรูปแบบ.
Q
ยางติดรถ Toyota Yaris Cross ใช้ยี่ห้ออะไร?
ยางติดรถเดิมของ Toyota Yaris Cross จะขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและออปชั่นที่เลือก โดยส่วนใหญ่ใช้ยี่ห้อระดับโลก เช่น Bridgestone หรือ Dunlop รุ่นยอดนิยมก็เช่น Bridgestone Ecopia หรือ Dunlop Enasave ที่เน้นความประหยัดน้ำมันและเงียบขณะขับขี่ ขนาดยางที่พบได้บ่อยคือ 215/60 R17 หรือ 215/55 R18 แล้วแต่รุ่น เวลาจะเปลี่ยนยาง แนะนำให้เลือกยี่ห้อและขนาดเดียวกับของเดิม โดยเฉพาะถ้าขับบ่อยช่วงหน้าฝน อาจเลือกยางที่รีดน้ำดีอย่าง Michelin Primacy 4 ก็ได้ แต่หลังเปลี่ยนควรตั้งค่าระบบตรวจเช็คลมยาง (TPMS) ใหม่ และควรหมุนสลับยางตามระยะที่ศูนย์บริการ Toyota เพื่อลดการสึกหรอ เพราะสภาพอากาศร้อนในไทยทำให้ยางเสื่อมเร็ว.
Q
Toyota Yaris Cross เป็นรถดีไหม? มาดูข้อดีข้อเสียกันเลย
Toyota Yaris Cross ถือว่าเป็นรถที่ดีรุ่นหนึ่ง มีข้อดีหลายด้าน โดยตัวรถถูกพัฒนาบนแพลตฟอร์ม DNGA เป็น SUV ขนาดกะทัดรัด ดีไซน์ทันสมัย โดดเด่นด้วยกระจังหน้าใหญ่และไฟหน้า LED ที่ดูเฉียบคม กันชนหน้าเสริมมิติให้รถดูสปอร์ตมากขึ้น ด้านความปลอดภัยก็จัดเต็ม มาพร้อม ABS, ระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ และถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ให้ความมั่นใจในการขับขี่ ส่วนระบบขับเคลื่อนเป็นแบบไฮบริด ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยเพียง 3.8 ลิตรต่อ 100 กม. เหมาะกับการใช้งานในเมือง ภายในออกแบบลงตัว พื้นที่ใช้สอยพอเหมาะ ระยะฐานล้อ 2,620 มม. และความสูง 1,615 มม. เพียงพอต่อการใช้งานประจำวัน อย่างไรก็ตาม ยังมีจุดที่ควรพิจารณา เช่น สมรรถนะเครื่องยนต์อาจยังไม่ตอบโจทย์การเร่งแซงบนทางด่วน และวัสดุบางจุดในห้องโดยสารอาจไม่หรูหรามากนัก อาจไม่ถูกใจสายเน้นพรีเมียม.

ข้อดี

ขับได้สบายในพื้นที่
ระบบขับเคลื่อนประหยัดน้ำมันรถวิ่งแบบไหลลื่นบนถนนในเมืองที่สภาพถนนไม่ดี,สามารถผ่านทางน้ำที่สะสมอยู่เล็กน้อย
สามารถนำของหายนะหลายตัวไปได้โดยที่ไม่ต้องขูดสระ
ไม่มีคู่แข่งที่เทียบเท่าในชั้นเดียวกันมีสไตล์เป็นเอกลักษณ์
มาตรฐานด้วยกล้องถ่ายภาพหน้าและหลังบนรถ

ข้อเสีย

พื้นที่สำหรับสัมภาระอาจมากขึ้น
ราคาสูงเมื่อเทียบกับพลังงานและข้อมูลจำเพาะ
พลาสติกของภายในมากเกินไป
ระบบความปลอดภัยน้อยลง ไม่มีระบบความปลอดภัยริเริ่ม
เครื่องเสียงไม่รองรับ Apple CarPlay หรือ Android Auto ไม่มีแผนที่ภายใน

Q&A ล่าสุด

Q
Ford Ranger มีขนาดเท่าไหร่ ใหญ่แค่ไหน
Ford Ranger เป็นกระบะยอดนิยมในตลาดไทย มาพร้อมมิติตัวรถยาว 5,370 มม. กว้าง 1,918 มม. สูง 1,880 มม. และระยะฐานล้อ 3,270 มม. ขนาดกระบะหลังอยู่ที่ 1,458×1,584×529 มม. พร้อมระยะต่ำสุดจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 237 มม. ทำให้ Ranger มีความคล่องตัวในเมือง และสมรรถนะลุยทางขรุขระได้ดี ขนาดโดยรวมเมื่อเทียบกับ Isuzu D-MAX (5,265×1,870×1,850 มม.) จะใหญ่กว่าเล็กน้อย และระยะฐานล้อยาวกว่า 145 มม. เหมาะกับภูมิประเทศหลากหลายในไทยและรองรับงานบรรทุกได้ดี ถังน้ำมันขนาด 80 ลิตร กับเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 3.2 ลิตร ให้ระยะทางวิ่งไกลและแรงบิดสูง พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดและยางขนาด 265/65R17 ที่ช่วยเพิ่มการควบคุมการขับขี่ ขณะที่เมื่อเทียบกับ Ford F-150 Raptor (5,930×2,199×1,992 มม.) Ranger มีขนาดกะทัดรัดกว่าและเหมาะกับถนนแคบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากกว่า อีกทั้งยังมาพร้อมเบาะหนังเทียมและไฟหน้า LED รวมฟังก์ชันใช้งานจริงอย่างสมดุลระหว่างการบรรทุก ลุย และความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสาร
Q
สีของ Ford Ranger มีอะไรบ้าง คุณชอบสีไหน
ในตลาดประเทศไทยตอนนี้ Ford Ranger มีตัวเลือกสีหลากหลายเพื่อตอบโจทย์ความชอบที่แตกต่างของผู้บริโภค เช่น สีขาว Arctic White, สีเทา Meteor Grey, สีน้ำเงิน Blue Lightning, สีดำ Absolute Black, สีแดง Race Red และสีเฉพาะรุ่น Wildtrak/Raptor อย่างสีส้มสดใส Orange กับสีเทา Conquer Grey ที่มีความโดดเด่น ส่วนตัวแนะนำสีเทา Meteor Grey เพราะให้ความรู้สึกเรียบหรู ดูพรีเมียม และทนต่อคราบสกปรกได้ดี เหมาะกับสภาพอากาศที่มีฝุ่นในไทยและการใช้งานทั่วไป หากชอบสไตล์สปอร์ต สีส้ม Wildtrak Orange ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ให้ความสดใสและโดดเด่นบนท้องถนน แน่นอนว่าการเลือกสีขึ้นอยู่กับรสนิยมส่วนตัวและการใช้งานจริง สีเข้มอย่างสีดำ Absolute Black ดูเป็นทางการและหรูหราแต่จะเห็นรอยขีดข่วนง่าย ขณะที่สีอ่อนอย่างขาว Arctic White จะทนความร้อนได้ดีและดูแลรักษาง่าย แนะนำให้ไปดูรถจริงที่โชว์รูมฟอร์ดในไทยเพื่อประเมินความชอบและคำนึงถึงต้นทุนการดูแลระยะยาวก่อนตัดสินใจซื้อจริงค่ะ
Q
ราคารถ Ford Ranger คือเท่าไหร่ มีค่าใช้จ่ายเท่าไร
Ford Ranger ในตลาดไทยมีช่วงราคาประมาณ 749,000 ถึง 1,499,000 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและเครื่องยนต์ รุ่นพื้นฐานเป็นรุ่น 2.0L XL กระบะตอนเดียว เครื่องยนต์ดีเซล เกียร์ธรรมดา ราคาประมาณ 749,000 บาท เน้นความคุ้มค่า เหมาะสำหรับลูกค้าธุรกิจที่มีงบจำกัด รุ่นกลาง 2.0L XLT SuperCab เกียร์อัตโนมัติ ราคาอยู่ที่ประมาณ 999,000 บาท เพิ่มความสะดวกสบายด้วยพื้นที่โดยสารที่กว้างขึ้นและจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รุ่นท็อป 2.0L Wildtrak 4x4 เกียร์อัตโนมัติ ราคาสูงสุดราว 1,499,000 บาท มาพร้อมหลังคากระจก Panoramic จอใหญ่ 12 นิ้ว ระบบช่วยขับขั้นสูง และชุดแต่งออฟโรด เหมาะกับผู้ที่ต้องการทั้งความหรูหราและสมรรถนะ สำหรับรุ่นพิเศษอย่าง Raptor หรือรุ่นสีพิเศษ ราคาจะสูงขึ้นอีก แต่บางดีลเลอร์อาจมีโปรโมชันผ่อนชำระหรือส่วนลดเงินสด โดยเฉพาะช่วงปลายปีหรือตอนเปิดตัวรถรุ่นใหม่ หากงบจำกัด ยังสามารถเลือกซื้อรถมือสองจากศูนย์รับรองที่มีอายุ 2-3 ปี โดยราคาจะถูกกว่ารถใหม่ประมาณ 30-40% แต่ควรซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือเพื่อป้องกันปัญหาสภาพรถ นอกจากนี้ต้องเผื่อค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ประกันภัย ค่าจดทะเบียน และภาษี ซึ่งภาษีรถกระบะในไทยอยู่ที่ประมาณ 3% ของราคารถ รวมแล้วจะมีผลต่อราคาสุทธิที่ลูกค้าต้องจ่าย
Q
Ford Ranger Specs คืออะไร นี่คือรายละเอียด specifications เต็มรูปแบบ
Ford Ranger ในตลาดไทยมีรุ่นเครื่องยนต์และฟังก์ชันหลากหลาย รุ่นยอดนิยม เช่น 2.0L Wildtrak และ 2.0L XL มีรายละเอียดสำคัญดังนี้ เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร 4 สูบ กำลัง 180-213 แรงม้า ขึ้นกับการจูน กำลังแรงบิดสูงสุดถึง 500 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด รุ่นเริ่มต้นมีเกียร์ธรรมดา 6 สปีดให้เลือก เหมาะกับภูมิประเทศและการบรรทุกของในไทย ตัวรถแบบแค็บคู่ ความยาว 5370 มิลลิเมตร ฐานล้อ 3270 มิลลิเมตร กระบะบรรจุของได้ประมาณ 1.5 ลูกบาศก์เมตร น้ำหนักบรรทุกสูงสุดประมาณ 1 ตัน รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อมีระบบแยกกำลังไฟฟ้า 4H/4L และล็อกดิฟเฟอเรนเชียล ออกแบบสำหรับการลุยภูเขาและเส้นทางโคลนในไทย รุ่น Wildtrak ระดับสูงติดตั้งจอสัมผัสกลาง 12 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย กล้อง 360 องศา ระบบครูซคอนโทรลปรับตามระยะ และระบบช่วยควบคุมรถในเลน รุ่นพื้นฐาน XL เน้นใช้งานจริง พร้อมแอร์ธรรมดาและจอ 8 นิ้ว ระบบความปลอดภัยครบทั้งถุงลม 7 จุด ระบบควบคุมเสถียรภาพ ESP และระบบช่วยลงทางลาดชัน แนะนำให้ผู้ใช้ Ford Ranger ในไทยเลือกเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตรที่ขายดีในประเทศ เนื่องจากประหยัดน้ำมันประมาณ 10-12 กิโลเมตรต่อลิตร หากขับในเมืองบ่อยควรติดตามรุ่นปลั๊กอินไฮบริดที่จะออกมาในอนาคต ต้นทุนการบำรุงรักษาสูงกว่ารถกระบะญี่ปุ่นเล็กน้อย แต่มีศูนย์บริการครอบคลุมและอะไหล่พร้อม ใช้เวลาทดลองขับและเปรียบเทียบกับรถระดับเดียวกัน เช่น Toyota Hilux หรือ Isuzu D-MAX เพื่อเลือกสเปกที่เหมาะสมตามงบประมาณและความต้องการ
Q
ข้อเสียของ Toyota Veloz คืออะไร
Toyota Veloz ในฐานะ MPV ขนาดเล็กสำหรับครอบครัวในตลาดไทย มีจุดเด่นด้านความใช้งานจริงอย่างชัดเจน แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการ แม้จะใช้เบาะ 2+3+2 แบบ 7 ที่นั่ง แต่ด้วยความยาวฐานล้อ 2750 มิลลิเมตรและความยาวตัวรถ 4475 มิลลิเมตร พื้นที่วางขาในแถวสามค่อนข้างจำกัด ผู้ใหญ่เมื่อนั่งเต็มจำนวนในระยะทางไกลอาจไม่สะดวกสบาย เหมาะกับการเดินทางระยะสั้นหรือเด็กนั่งมากกว่า ขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แบบดูดอากาศธรรมดา ให้กำลังสูงสุด 104 แรงม้า แรงบิด 136 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ในสภาพอากาศร้อนและเปิดแอร์พร้อมไต่เขา อาจพบว่ากำลังสำรองไม่เพียงพอ เกียร์ 4 สปีดรุ่นเก่าทำให้รอบเครื่องยนต์สูงขณะขับทางไกล ส่งผลต่อความประหยัดน้ำมันและเสียงรบกวนทั่วไป โดยทั่วไป MPV เครื่องยนต์เล็กมักมีข้อจำกัดระหว่างกำลังและพื้นที่ใช้งาน Veloz จึงเน้นการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด จุดแข็งคือเบาะ 7 ที่นั่งเป็นมาตรฐาน อัตราสิ้นเปลืองต่ำเพียง 6 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร และระบบบริการหลังการขายที่เชื่อถือได้ของโตโยต้า เหมาะกับครอบครัวที่ใช้ในเมืองใหญ่เช่นกรุงเทพฯ หากต้องการกำลังแรงขึ้น แนะนำพิจารณารุ่นที่ใช้เทคโนโลยีไฮบริดซึ่งผสานความประหยัดน้ำมันกับการตอบสนองกำลังได้ดีกว่า
ดูเพิ่มเติม