Q
วิธีการชาร์จ Tesla Model 3 ที่บ้าน
ในประเทศไทย การชาร์จรถ Tesla Model 3 ที่บ้านมีวิธีหลักๆ 2 แบบ แบบแรกคือการติดตั้ง Wall Connector หรือเครื่องชาร์จแบบติดผนังของ Tesla โดยเครื่องนี้รองรับกำลังไฟสูงสุด 11kW เหมาะสำหรับคนที่มีที่จอดรถส่วนตัว แต่ต้องจ้างช่างไฟฟ้ามืออาชีพมาติดตั้งระบบไฟฟ้า 3 เฟส และต้องขออนุญาตจากการไฟฟ้าด้วย ในเมืองใหญ่ๆอย่างกรุงเทพฯระบบไฟฟ้า 3 เฟสค่อนข้างเสถียร แต่ถ้าเป็นพื้นที่ห่างไกลควรตรวจสอบความเข้ากันได้ของแรงดันไฟฟ้าก่อน
อีกวิธีคือใช้ Mobile Connector หรือเครื่องชาร์จแบบพกพา โดยเสียบกับปลั๊กบ้าน 220V แบบทั่วไปในไทย แต่อัตราการชาร์จจะช้ากว่า (ประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เหมาะสำหรับใช้ยามฉุกเฉินหรือคนที่อยู่ในคอนโดที่ติดตั้งเครื่องชาร์จแบบติดผนังไม่ได้ แต่แนะนำให้ใช้กับวงจรไฟฟ้าเฉพาะที่ 16A ขึ้นไปเพื่อป้องกันการลัดวงจร
เนื่องจากอากาศไทยร้อนชื้น แนะนำให้เลือกอุปกรณ์ชาร์จที่มีมาตรฐาน IP54 กันน้ำและฝุ่นได้ และอย่าให้จุดเชื่อมต่อชาร์จโดนแสงแดดโดยตรง นอกจากนี้คอนโดใหม่ๆบางแห่งในไทยเริ่มมีจุดชาร์จรถ EV ให้แล้ว ลองสอบถามการไฟฟ้าภายในอาคารดู ถ้าต้องเดินทางบ่อยๆก็วางแผนล่วงหน้าโดยใช้สถานี Supercharger ที่มีอยู่ 6 แห่งรอบกรุงเทพฯได้ แอป Tesla จะแสดงสถานะเครื่องชาร์จแบบเรียลไทม์
ที่สำคัญการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯของไทยมีกฎเกณฑ์เข้มงวดเกี่ยวกับการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้ากำลังสูง แนะนำให้จองบริการติดตั้งผ่านช่างที่ Tesla ไทยรับรองเท่านั้น เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ความจุแบตเตอรี่ของ Tesla Model 3 คือเท่าไหร่
ความจุแบตเตอรี่ของ Tesla Model 3 จะแตกต่างกันไปตามรุ่นรถ ในตลาดไทยปัจจุบัน รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) มีความจุแบตเตอรี่ประมาณ 57.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ส่วนรุ่น Long Range และ Performance จะติดตั้งแบตเตอรี่ประมาณ 75 กิโลวัตต์-ชั่วโมง และ 82 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ตามลำดับ ข้อมูลเหล่านี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยขึ้นอยู่กับปีที่ผลิตหรือการอัปเดตคอนฟิก จึงแนะนำให้ตรวจสอบสเปกล่าสุดผ่านเว็บไซต์ Tesla ประเทศไทยหรือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการก่อนตัดสินใจซื้อรถ
สำหรับสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า เช่น การเปิดแอร์บ่อยขึ้นในสภาพอากาศร้อนจะทำให้ใช้พลังงานมากขึ้น ดังนั้นเจ้าของรถควรวางแผนการชาร์จให้เหมาะสม และใช้ประโยชน์จากเครือข่าย Supercharger ของ Tesla ที่กำลังขยายตัวในประเทศไทย
ที่น่าสนใจคือระบบจัดการแบตเตอรี่ (BMS) ของ Tesla สามารถตรวจสอบและควบคุมอุณหภูมิแบตเตอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสำคัญมากสำหรับประเทศเขตร้อนอย่างไทย ช่วยยืดอายุแบตเตอรี่และรักษาความปลอดภัยในการขับขี่
Q
วิธีเปิดที่นั่งที่ทำความร้อนด้านหลัง Tesla Model 3
การเปิดใช้งานระบบทำความร้อนเบาะหลังใน Tesla Model 3 นั้นง่ายมาก แค่เข้าไปที่เมนูควบคุมแอร์ผ่านหน้าจอกลาง จากนั้นแตะไอคอนทำความร้อนเบาะที่ด้านล่างของหน้าจอ เลือกเบาะหลังก็สามารถปรับระดับความร้อนได้แล้ว โดยปกติแล้ว Model 3 จะมีให้เลือก 3 ระดับ เหมาะกับอากาศเย็นๆ ในช่วงฤดูฝนหรือทางเหนือของไทย ที่ควรรู้คือรุ่นเก่าบางคันอาจต้องอัปเดตซอฟต์แวร์ก่อนถึงจะใช้ฟีเจอร์นี้ได้ แนะนำให้ตรวจสอบการอัปเดตระบบรถอย่างสม่ำเสมอ เวลาใช้ในไทยแนะนำให้เปิดแอร์ควบคู่ไปด้วยเพื่อควบคุมความชื้นในรถ เพราะอากาศร้อนชื้นของไทยอาจทำให้รู้สึกไม่ค่อยสบายตัว ระบบทำความร้อนเบาะของ Tesla ใช้เทคโนโลยีคาร์บอนไฟเบอร์ที่ให้ความร้อนสม่ำเสมอและประหยัดไฟกว่าวิธีแบบเดิมๆ ซึ่งเหมาะกับค่ากระแสไฟฟ้าในไทยที่ค่อนข้างสูง ถ้าใช้เป็นเวลานานแนะนำให้ปรับความร้อนอยู่ที่ระดับกลางแทนการเปิดเต็มกำลัง จะได้ทั้งความสบายและประหยัดพลังงาน นอกจากนี้ในวันที่อากาศร้อนควรปิดระบบนี้เมื่อลงจากรถเพื่อไม่ให้เปลืองไฟโดยเปล่าประโยชน์ การดูแลรายละเอียดเล็กน้อยแบบนี้จะช่วยให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น
Q
การปรับความสูงและตำแหน่งของพวงมาลัย Tesla Model 3 ต้องทำอย่างไร
การปรับความสูงและตำแหน่งพวงมาลัยของ Tesla Model 3 เมื่อขับขี่ในประเทศไทยนั้นทำได้ง่ายมาก แค่เข้าไปที่เมนู "ควบคุม" ในหน้าจอกลาง แล้วเลือก "คันเร่งและพวงมาลัย" จากนั้นกด "ปรับพวงมาลัย" ก็สามารถปรับพวงมาลัยด้วยมือให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะกับท่านได้ พอปรับเสร็จก็กดบันทึก แบบนี้คนไทยรูปร่างต่างกันก็ขับสบาย แถมยังช่วยให้ขับทางยาวๆ ไม่เมื่อยล้า อีกอย่างพวงมาลัยของ Model 3 ยังปรับโหมดการขับได้ตามใจเลย เช่น ในกรุงเทพฯ ที่รถติดๆ สามารถเลือกโหมด "สบายๆ" เพื่อให้พวงมาลัยเบาขึ้น หรือถ้าขับนอกเมืองหรือขึ้นทางด่วนก็สลับไปโหมด "สปอร์ต" ให้รู้สึกมันส์ๆ มากขึ้น แถมช่วงหน้าฝนหรืออากาศเย็นๆ ฟังก์ชันทำความร้อนพวงมาลัยก็ช่วยให้อุ่นมือได้ดี การออกแบบที่ชาญฉลาดของ Tesla ทําให้การปรับเปลี่ยนเหล่านี้ใช้งานง่ายมาก แม้แต่ผู้ใช้ชาวไทยที่สัมผัสกับรถยนต์ไฟฟ้าเป็นครั้งแรกก็สามารถเริ่มต้นได้อย่างรวดเร็ว
Q
วิธีการลบควันในรถ Tesla Model 3
สำหรับเจ้าของ Tesla Model 3 ที่ต้องเผชิญกับอากาศร้อนชื้นในประเทศไทย การเปิดโหมด "Bio Weapon Defense Mode" จะช่วยกำจัดควันหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในรถได้อย่างรวดเร็ว ระบบนี้ใช้แผ่นกรอง HEPA พร้อมระบบปรับอากาศประสิทธิภาพสูง ที่สามารถฟอกอากาศให้สะอาดได้ภายในไม่กี่นาที โดยเฉพาะเวลาติดรถยนต์ในกรุงเทพฯ ที่เจอกับไอเสีย หรือช่วงฤดูฝนที่ความชื้นสูง แนะนำให้เปลี่ยนไส้กรองแอร์เป็นประจำ (ในไทยควรตรวจสอบทุก 1-1.5 หมื่นกิโลเมตร) และใช้แอป Tesla เปิดระบบระบายอากาศล่วงหน้าเพื่อลดอุณหภูมิในรถ รถ EV นั้นมีความแน่นกระชับกว่าหากเทียบกับรถน้ำมัน แต่สภาพอากาศร้อนของไทยอาจทำให้สารระเหยจากวัสดุภายในรถกระจายตัวเร็วขึ้น อาจเสริมด้วยถ่านกัมมันต์หรือสเปรย์ photocatalyst ช่วยฟอกอากาศ แต่ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่อาจทำลายหน้าจอควบคุมส่วนกลาง หากต้องจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน ควรเลือกที่ร่มและใช้ม่านบังแดด พร้อมเปิดฟังก์ชัน cabin overheat protection ของ Tesla เพื่อควบคุมอุณหภูมิภายในรถไม่ให้เกิน 40 องศา วิธีเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้รถในเขตร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Q
สีที่ดีที่สุดสำหรับ Tesla Model 3 คืออะไร
การเลือกสีที่ดีที่สุดสำหรับ Tesla Model 3 ในประเทศไทยขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวและความต้องการในการใช้งาน แต่สี Pearl White และ Midnight Silver Metallic เป็นตัวเลือกยอดนิยม สี Pearl White ไม่เพียงแต่ดูแลง่ายและสะท้อนแสงแดดได้ดี เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนของไทย ในขณะที่สี Midnight Silver Metallic ให้ความรู้สึกหรูหราเรียบร้อยและไม่ค่อยเห็นฝุ่น นอกจากนี้สีแดงและสีน้ำเงินก็เป็นตัวเลือกสำหรับคนชอบความโดดเด่น แต่ต้องดูแลทำความสะอาดบ่อยครั้งเพื่อคงความสวยงาม สภาพแวดล้อมในไทยทั้งฝนตกบ่อยและอากาศร้อนมีผลต่อสีรถ ดังนั้นแนะนำให้เลือกการเคลือบสีหลายชั้นหรือขัดแว็กซ์เป็นประจำเพื่อยืดอายุสีรถ แม้ว่ารุ่น Model 3 จะมีกระบวนการทาสีที่ค่อนข้างดี แต่ด้วยมลภาวะและรังสี UV ในไทยที่ค่อนข้างแรง ไม่ว่าคุณจะเลือกสีไหนก็ควรดูแลรักษาอย่างเหมาะสม นอกจากนี้สภาพการจราจรในไทยที่ค่อนข้างแออัด รถสีอ่อนจะทำให้ผู้ขับขี่คนอื่นมองเห็นได้ง่ายขึ้นในเวลากลางคืน จึงปลอดภัยกว่า แต่สุดท้ายแล้วการเลือกสีควรคำนึงถึงความชอบส่วนตัวและงบประมาณ เพราะสีพิเศษบางสีอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
Q
Tesla Model 3 จะเปิดตัวเมื่อไหร่
Tesla Model 3 เป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้ายอดนิยมของ Tesla ที่ตอนนี้ยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับวันวางจำหน่ายในประเทศไทย แต่จากแผนการตลาดระดับโลกของเทสลาและนโยบายส่งเสริมรถยนต์พลังงานสะอาดของรัฐบาลไทย คาดว่ารถรุ่นนี้น่าจะเข้ามาในตลาดไทยภายใน 1-2 ปีนี้ ลูกค้าชาวไทยสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดได้ทางเว็บไซต์ Tesla หรือตัวแทนจำหน่ายในประเทศ Model 3 ได้รับความนิยมทั่วโลกจากสมรรถนะการขับขี่ที่ยาวไกล ระบบช่วยขับอัตโนมัติอันล้ำสมัย และดีไซน์ภายในที่เรียบหรู ถ้าเข้ามาไทยก็จะเพิ่มทางเลือกให้คนรักสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งช่วยผลักดันให้โครงสร้างพื้นฐานด้าน EV ของไทยพัฒนาขึ้นอีกขั้น รัฐบาลไทยตอนนี้มีมาตรการลดภาษีสำหรับรถ EV นำเข้า และกำลังขยายเครือข่ายสถานีชาร์จให้ครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณดีสำหรับ Model 3 และรถ EV รุ่นอื่นๆ ที่จะมาแน่นอน ถ้าสนใจก็เตรียมตัวไว้ก่อนได้เลย ศึกษาข้อมูลการใช้รถ EV และจุดชาร์จให้พร้อม จะได้จับจองเมื่อถึงเวลา
Q
วิธีการเปิดใช้งานฟังก์ชัน Summon บน Tesla Model 3 ปี 2023
หากต้องการใช้ฟังก์ชัน Summon หรือระบบเรียกรถอัตโนมัติใน Tesla Model 3 รุ่นปี 2023 ที่ประเทศไทย สิ่งแรกที่ต้องตรวจสอบคือรถต้องติดตั้ง Hardware 3.0 และต้องซื้อชุด Full Self-Driving (FSD) หรือสมัครบริการนี้ไว้แล้ว หลังจากนั้นก็แค่เปิดฟังก์ชันนี้ผ่านแอป Tesla ในส่วน "Summon" เนื่องจากประเทศไทยมีอากาศร้อนและฝนชุก แนะนำให้ใช้ในพื้นที่โล่งเพื่อป้องกันไม่ให้เซ็นเซอร์ได้รับผลกระทบจากฝนหรือความร้อนสูง ต้องระวังไว้ว่า Summon ในประเทศไทยถูกจัดอยู่ในระดับ L2 ซึ่งหมายความว่าคุณยังต้องคอยดูตลอดเวลาและพร้อมที่จะควบคุมรถได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะในที่จอดรถแคบๆ แบบไทย ฟังก์ชันนี้จะช่วยให้รถเข้าออกจากช่องจอดได้เอง แต่ต้องคอยสังเกตสิ่งกีดขวางรอบข้าง ส่วนเรื่องพวงมาลัยที่ไทยเป็นแบบซ้ายมือนั้น ไม่มีปัญหากับการทำงานของ Summon เลย ไม่ต้องปรับอะไรเพิ่มเติม หากเจอปัญหาเรื่องสัญญาณเน็ตเวิร์ก ลองเชื่อมต่อกับเครือข่าย 4G/5G ของผู้ให้บริการในไทยอย่าง AIS หรือ TRUE เพื่อให้ระบบตอบสนองเร็วขึ้น Tesla จะอัปเดตระบบผ่าน OTA อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ Summon ทำงานได้ดีขึ้นในสภาพอากาศแบบร้อนชื้นของไทย
Q
วิธีการดูแรงดันลมในยาง Tesla Model 3
ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย การรักษาความดันลมยางที่เหมาะสมสำหรับ Tesla Model 3 (แนะนำให้อยู่ที่ 2.9-3.1 bar เมื่อยางเย็น) เป็นเรื่องสำคัญมาก คุณสามารถตรวจสอบความดันลมยางแบบเรียลไทม์ผ่านหน้าจอสัมผัสในรถโดยไปที่ "บริการ - ระบบตรวจสอบความดันยาง" หรือจะใช้เครื่องวัดความดันยางแบบธรรมดาก็ได้ เนื่องจากอากาศร้อนในไทยมักทำให้ความดันลมยางเพิ่มขึ้น แนะนำให้ตรวจเช็คตอนเช้าที่รถยังเย็นจะได้ค่าที่แม่นยำกว่า ระบบตรวจสอบความดันยาง (TPMS) ของ Tesla จะแจ้งเตือนอัตโนมัติหากมีความผิดปกติ แต่การตรวจเช็คด้วยตนเองเป็นประจำก็เป็นนิสัยที่ดี โดยเฉพาะก่อนเดินทางไกล ในช่วงฤดูฝนของไทย ควรเช็คความลึกของดอกยางด้วยว่าเพียงพอสำหรับการระบายน้ำหรือไม่ เพื่อป้องกันการลื่นไถล หากไฟเตือนความดันยางขึ้น ควรจอดรถในที่ปลอดภัยและตรวจสอบทันที หากจำเป็นให้ไปที่ศูนย์บริการ การรักษาความดันลมยางที่เหมาะสมไม่เพียงช่วยเพิ่มระยะทางในการขับขี่ แต่ยังช่วยให้ปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของยางอีกด้วย
Q
วิธีการใช้ควบคุมความเร็วอัตโนมัติในรถยนต์ Tesla Model 3
การใช้ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติของ Tesla Model 3 ในประเทศไทยนั้นง่ายมาก แค่ดึงก้านบังคับด้านขวาของพวงมาลัยลงหนึ่งครั้งก็จะเปิดใช้งานระบบ Cruise Control แต่ถ้าดึงสองครั้งติดกันจะเป็นการเปิดระบบ Autopilot ที่สามารถปรับความเร็วและรักษาระยะห่างจากรถข้างหน้าอัตโนมัติ เหมาะมากสำหรับขับบนทางด่วนกรุงเทพฯที่รถติดหรือเส้นทางขึ้นเขาที่เชียงใหม่ แต่อย่าลืมว่าอากาศร้อนและฝนตกบ่อยในไทยอาจส่งผลต่อความแม่นยำของเซนเซอร์ แนะนำให้ล้างกล้องและเรดาร์บริเวณตัวรถเป็นประจำ ส่วนป้ายจราจรในไทยก็ต่างจากมาตรฐานสากลนิดหน่อย ควรจับพวงมาลัยไว้เสมอเพื่อพร้อมควบคุมรถทุกเมื่อ Model 3 ยังมีระบบจดจำสัญญาณไฟจราจรได้ แต่บางสี่แยกที่ไม่มาตรฐานในไทยอาจทำให้ระบบทำงานไม่ถูกต้อง จะมีเสียงเตือนให้ผู้ขับเข้าไปควบคุมแทน ระบบความปลอดภัยเช่นเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติของ Tesla ช่วยลดความเครียดในการขับขี่ในสภาพการจราจรที่วุ่นวายของไทยได้ดี แต่ต้องจำไว้เสมอว่าระบบเหล่านี้ไม่สามารถแทนที่การตัดสินใจของมนุษย์ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
Q
วิธีปิดไฟเตือนภัยบนรถยนต์ Tesla Model 3
ถ้าคุณใช้ Tesla Model 3 และอยากปิดไฟเตือน อันดับแรกให้เข้าไปที่ไอคอนควบคุมรถทางซ้ายล่างของหน้าจอสัมผัส แล้วเลือกเมนู "ไฟรถ" จากนั้นกดปุ่ม "ปิดไฟเตือน" เป็นอันเรียบร้อย แต่ถ้าหน้าจอไม่ทำงาน ให้กดลูกล้อด้านซ้ายของพวงมาลัยค้างไว้ประมาณ 10 วินาทีเพื่อรีสตาร์ทระบบบังคับ ในสภาพอากาศของไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก แนะนำให้ตรวจสอบระบบไฟรถเป็นประจำ โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนควรเช็คให้แน่ใจว่าไฟอัตโนมัติทำงานปกติ จะได้ไม่เกิดปัญหาไฟเตือนเปิดเองเพราะน้ำเข้า ต้องบอกเลยว่าระบบไฟเตือนของ Tesla ต่างจากรถน้ำมันทั่วไป เพราะมีเซ็นเซอร์อัจฉริยะมากขึ้น เช่น แฟลชสองครั้งโดยอัตโนมัติเมื่อตรวจพบว่ารถเอียงผิดปกติหรือชน ไฟฉุกเฉินจะเปิดอัตโนมัติ ซึ่งดีต่อความปลอดภัยในสภาพการจราจรที่วุ่นวายของกรุงเทพฯ ถ้าไฟเตือนเปิดบ่อยๆ โดยไม่มีสาเหตุ อาจเป็นเพราะเซ็นเซอร์ถูกบังหรือระบบต้องการอัปเดต แนะนำให้ติดต่อศูนย์บริการ Tesla ในไทยเพื่อตรวจเช็คอย่างมืออาชีพ ที่นี่มีสาขาราชการทั้งในกรุงเทพฯ และพัทยา อีกอย่างกฎหมายไทยกำหนดว่ารถทุกคันต้องมีระบบไฟเตือนที่ใช้งานได้ปกติ ดังนั้นไม่แนะนำให้ผู้ใช้รถถอดหรือดัดแปลงชิ้นส่วนเอง เพราะอาจมีผลต่อการต่อทะเบียนรถปีต่อไป
Q&A ล่าสุด
Q
รุ่นไหนของ Hyundai ที่ถูกเรียกคืนในปี 2024?
ในปี 2024 Hyundai ได้เรียกคืนรถบางรุ่นในบางตลาดเนื่องจากปัญหาเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ระบบควบคุมความมั่นคงของรถหรือ ESC ซึ่งรวมถึงรถรุ่น Tucson รุ่นใหม่และ Kona Electric สาเหตุหลักเพราะซอฟต์แวร์อาจส่งผลต่อการทำงานของระบบควบคุมความมั่นคง Hyundai ได้จัดบริการอัปเกรดซอฟต์แวร์ฟรีผ่านตัวแทนจำหน่ายสำหรับรถที่ได้รับผลกระทบแล้ว เรื่องที่น่าสนใจคือการเรียกคืนรถไฟฟ้าในท้องถิ่นนั้นค่อนข้างหายาก ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มของอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกที่เพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมความปลอดภัยของรถไฟฟ้า แนะนำให้เจ้าของรถตรวจสอบสถานะรถอย่างสม่ำเสมอผ่านเว็บไซต์ทางการของฮุนไดหรือแอป MyHyundai หากหมายเลข VIN อยู่ในรายการเรียกคืน ควรนัดหมายเพื่อดำเนินการทันที สำหรับเจ้าของรถไฮบริดแม้ว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับการเรียกคืนครั้งนี้ แต่ก็ควรดูแลแบตเตอรี่ 12V เสริมเป็นพิเศษ เพราะสภาพอากาศร้อนชื้นอาจเร่งให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น Hyundai ในท้องถิ่นมีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครบวงจร โดยตัวแทนจำหน่ายส่วนใหญ่มีอุปกรณ์วินิจฉัยที่ได้มาตรฐาน UNECE R155 สามารถทำงานเรียกคืนซอฟต์แวร์ดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 30 นาทีเท่านั้น ผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องกังวลมากเกินไป การเรียกคืนซอฟต์แวร์ดังกล่าวเป็นมาตรการป้องกันล่วงหน้า Hyundai ในระยะหลังนี้ให้ความสำคัญกับการเรียกคืนเชิงรุกเป็นอย่างดี ในปี 2023 ความเร็วในการตอบสนองการเรียกคืนทั่วโลกของฮุนไดถูกจัดโดย J.D. Power ให้อยู่ในอันดับ Top 5 ของอุตสาหกรรม สะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยของแบรนด์นี้
Q
BMW X7 รุ่นปี 2023 ราคาเท่าไหร่?
รุ่น 2023 ของ BMW X7 ที่ไทยเริ่มต้นราคาประมาณ 5.5 ล้านบาท แต่ราคาอาจสูงขึ้นตามอุปกรณ์เสริมที่เลือก เช่น รุ่น xDrive40i ใช้เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 6 สูบเทอร์โบ ส่วนรุ่น M60i ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 4.4 ลิตร V8 และรุ่นท็อปสุดอาจพุ่งเกิน 8 ล้านบาท SUV หรูขนาดใหญ่คันนี้มาพร้อมระบบช่วงล่างปรับอัตโนมัติและหน้าจอคู่ขนาด 12.3 นิ้วแบบมาตรฐาน ส่วนอุปกรณ์เสริมที่เลือกได้มีทั้งระบบความบันเทิงแถวหลัง ชุดตกแต่งคริสตัล และชุดช่วยขับขี่อัจฉริยะรวมถึงระบบจอดรถอัตโนมัติ ควรทราบว่าราคาสุดท้ายอาจเพิ่มขึ้นจากภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต นอกจากนี้ตัวแทนจำหน่าย BMW มักเสนอประกัน 5 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่าง Mercedes-Benz GLS ที่เริ่มต้นประมาณ 5.2 ล้านบาท และ Lexus LX ที่เริ่มต้น 6.8 ล้านบาท ลูกค้าสามารถเลือกได้ตามความต้องการด้านสมรรถนะ เครื่องยนต์ และความชอบในแบรนด์ บางทีตัวแทนจำหน่ายอาจมีโปรโมชั่นดอกเบี้ยต่ำสำหรับการซื้อแบบผ่อน ช่วยแวะไปที่โชว์รูมเพื่อสอบถามราคาล่าสุดและข้อเสนอพิเศษได้
Q
รถ BMW X7 ปี 2023 เป็นรถที่ดีไหม?
รถ BMW X7 รุ่นปี 2023 เป็น SUV หรูที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน เหมาะสำหรับคนที่ชอบความหรูหราพร้อมความสบายในการขับขี่ มาพร้อมเครื่องยนต์ 3.0T แถวเรียง 6 สูบ หรือ 4.4T V8 ที่ให้กำลังสมบูรณ์แบบและลื่นไหล คู่กับเกียร์ออโต้ 8 สปีด ทำให้ขับทั้งในเมืองหรือท่องเที่ยวทางไกลได้อย่างมั่นใจ ภายในตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูง พร้อมหน้าจอคู่ขนาด 12.3 นิ้ว ที่ดูทันสมัย และยังมีพื้นที่เบาะแถวที่สามที่กว้างขวางกว่าเพื่อนๆ ในระดับเดียวกัน เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ สำหรับการใช้งานในไทย ระบบช่วงล่างของ X7 ถูกตั้งค่ามาให้ทั้งนุ่มนวลและควบคุมง่าย เข้าโค้งเนียน รับมือกับทุกสภาพถนนได้ดี แถมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ที่มาพร้อมทุกรุ่นยังช่วยเพิ่มความมั่นใจเวลาฝนตกถนนลื่นอีกด้วย ที่สำคัญ เซอร์วิสหลังการขายของ BMW ในไทยครอบคลุมทั่วประเทศ หาซ่อมบำรุงง่าย ถ้ามีงบประมาณเพียงพอและกำลังมองหา SUV 7 ที่นั่งที่ทั้งหรูและใช้งานได้จริง X7 รุ่นปี 2023 นี่แหละที่น่าจับตา แต่แนะนำให้ลองขับดูก่อนนะว่าจะถูกใจหรือเปล่า
Q
"เครื่องยนต์ของ BMW X7 2023 มีระยะการเคลื่อนที่เท่าไร"
รุ่น BMW X7 ปี 2023 ที่วางขายในตลาดประเทศไทยมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์เบนซิน 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 6 สูบเรียงเทอร์โบชาร์จ (รหัส B58B30) และเครื่องยนต์ 4.4 ลิตร V8 เทอร์โบคู่ (รหัส N63B44) ซึ่งมีความจุกระบอกสูบอยู่ที่ 2,998 ซีซี และ 4,395 ซีซี ตามลำดับ สำหรับรุ่น 6 สูบให้กำลังสูงสุดที่ 340 แรงม้า ส่วนรุ่น V8 จะพุ่งไปถึง 530 แรงม้า ทั้งคู่ใช้เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ที่ตอบโจทย์ทั้งการขับขี่ในเมืองและการเดินทางไกล ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่าง TwinPower Turbo และระบบ Valvetronic ที่ช่วยปรับวาล์วแปรผัน ทำให้เครื่องยนต์ทรงพลังแต่ยังประหยัดน้ำมันได้ในระดับน่าพอใจ อย่างไรก็ตาม เครื่องยนต์ขนาดใหญ่แบบนี้ย่อมต้องเจอกับภาษีสูงในไทย แต่จุดเด่นคือความนุ่มลื่นและแรงบิดสูงที่รอบต่ำ เหมาะสมกับสภาพถนนหลากหลายแบบทั้งในเมืองที่รถติดหรือทางขึ้นเขานอกเมือง ถ้าเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่าง Mercedes-Benz GLS และ Lexus LX ที่ก็มีเครื่องยนต์ความจุใกล้เคียงกัน ผู้ซื้อสามารถเลือกได้ตามความชอบของแบรนด์และสเปคที่ต้องการ
Q
รถยนต์ BMW รุ่นที่ขายดีที่สุดในปี 2023 คือรุ่นใด?
รถ BMW X3 เป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดของ BMW ทั่วโลกในปี 2023 ด้วยความสามารถรอบด้านและอุปกรณ์หรูหราที่ยังคงเป็นที่นิยม โดยเฉพาะในกลุ่มครอบครัวในเมือง ส่วนรุ่นปลั๊กอินไฮบริด X3 xDrive30e ก็เริ่มมาแรงเพราะช่วยประหยัดน้ำมันได้ดี ในตลาดไทย X3 ก็ทำผลงานโดดเด่นไม่แพ้กัน โครงสร้างภายในกว้างขวางเหมาะสำหรับครอบครัว ส่วนเครื่องยนต์เทอร์โบ 2.0L ก็ประหยัดน้ำมันแม้เจอรถติด แถมยังมีเครือข่ายบริการหลังการขายครอบคลุมในกรุงเทพฯและเมืองใหญ่ๆ ที่น่าสนใจคือรุ่น iX3 แบบไฟฟ้าล้วนที่ BMW ปล่อยออกมาเมื่อไม่นานนี้ เริ่มดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ด้วยระยะทางสูงสุด 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง พร้อมระบบชาร์จเร็วที่สะดวกยิ่งขึ้น เมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกัน ข้อได้เปรียบของ X3 คือยังคงรักษาความสนุกในการขับขี่แบบฉบับ BMW ไว้ได้ ขณะเดียวกันก็เพิ่มระยะฐานล้อเพื่อความสบายของผู้โดยสารเบาะหลัง แนวคิดที่ผสมผสานระหว่างความมันส์และประโยชน์ใช้สอยนี้แหละที่เป็นเหตุผลให้ X3 ขายดีต่อเนื่อง
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Tesla เจอศึกหนัก ลดราคา Model 3 สู้ตลาดจีน
ธนวัฒน์Sep 2, 2025

Tesla เตรียมเปิดตัว Model 3+ รุ่นใหม่ในประเทศจีน
ธนวัฒน์Jul 28, 2025

นอกจาก Model Y L แล้ว Tesla ยังจะเปิดตัว Model 3+ ในประเทศจีน
Kevin WongJul 18, 2025

Tesla Model 3ได้รับคะแนนสูงสุดจากEuro NCAPในปี 2025 กลายเป็นรถใหม่ที่ปลอดภัยที่สุดในยุโรป
Kevin WongJul 8, 2025

Tesla Model 3 รุ่นปี 2025 คว้ามาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาวจาก Euro NCAP
พงศธรMay 23, 2025
ดูเพิ่มเติม


ข้อดี
ข้อเสีย