Q

น้ำมันเครื่องที่แนะนำสำหรับ Peugeot 3008

สำหรับรุ่น Peugeot 3008 แบบเบนซิน แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องชนิดสังเคราะห์เต็มรูปแบบที่ตรงตามมาตรฐาน PSA B71 2312 หรือ B71 2290 โดยความหนืดที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนของไทยคือ 5W-30 หรือ 0W-30 เพราะช่วยปกป้องเครื่องยนต์เทอร์โบและประหยัดน้ำมันได้ดี น้ำมันสังเคราะห์เต็มรูปแบบทนความร้อนสูงได้ดีกว่า ซึ่งสำคัญมากสำหรับเมืองร้อนแบบไทยๆ ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 10,000 กิโลเมตรหรือ 12 เดือน (แล้วแต่อย่างไหนถึงก่อน) แต่ถ้าขับแค่ระยะสั้นๆ หรือติดสตาร์ทเครื่องบ่อยๆ อาจต้องเปลี่ยนถี่กว่านี้ สำหรับรุ่นปี 2017 เป็นต้นไป ต้องระวังเป็นพิเศษ ควรเลือกน้ำมันเครื่องแบบ Low SAPS (เกลือแร่ต่ำ) เพื่อลดความเสี่ยงอุดตันในกรองดักอนุภาค แนะนำให้ซื้อน้ำมันเครื่องจากแบรนด์ดังเช่น Total Shell หรือของท้องถิ่นอย่าง PTT ที่ผ่านมาตรฐานตามที่กำหนด ถ้ายังอยู่ในระยะประกัน ควรใช้น้ำมันเครื่องที่ศูนย์บริการกำหนดไว้จะดีที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเรื่องการรับประกัน สำหรับเครื่องยนต์เทอร์โบแบบฉีดตรง การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องคุณภาพดีเป็นประจำสำคัญมาก เพราะช่วยลดการเกิดคาร์บอนสะสมและปกป้องลูกปืนเทอร์โบ แนะนำให้ตรวจสอบก้นถังน้ำมันเครื่องทุกๆ 2 ครั้งที่เปลี่ยนน้ำมันว่าไม่มีสิ่งสกปรกตกค้าง จะช่วยรักษาสภาพเครื่องยนต์ให้ทำงานได้ดีในระยะยาว
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
Peugeot 3008 วิธีการเชื่อมต่อบลูทู ธ
ขั้นตอนการเชื่อมต่อบลูทูธของรถ Peugeot 3008 ในประเทศไทยมีดังนี้ ก่อนอื่นต้องแน่ใจว่ารถอยู่ในสถานะพร้อมใช้งาน จากนั้นไปที่หน้าจอกลางระบบ หาเมนู "ตั้งค่า" หรือ "บลูทูธ" แล้วเลือก "เพิ่มอุปกรณ์ใหม่" ระหว่างนี้ให้เปิดฟังก์ชันบลูทูธบนโทรศัพท์มือถือและค้นหาอุปกรณ์ที่ใช้ได้ เมื่อพบชื่อ "Peugeot 3008" ให้กดจับคู่ จะมีรหัสยืนยันปรากฏบนหน้าจอรถ ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ารหัสบนโทรศัพท์กับหน้าจอรถตรงกันจึงจะเชื่อมต่อสำเร็จ หลังจากนั้นก็สามารถเปิดเพลงหรือรับสายผ่านระบบเสียงของรถได้ ข้อควรระวังคือรุ่น Peugeot 3008 บางรุ่นอาจต้องไปเปิดการมองเห็นบลูทูธในระบบรถก่อนถึงจะค้นพบได้ นอกจากนี้สภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทยอาจส่งผลต่อความเสถียรของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ถ้าเกิดปัญหาการเชื่อมต่อ แนะนำให้ลองรีสตาร์ททั้งโทรศัพท์และระบบรถใหม่ บลูทูธในรถยนต์สมัยนี้กลายเป็นมาตรฐานไปแล้ว นอกจากสตรีมเพลงแล้ว หลายรุ่นยังรองรับการโทรผ่านบลูทูธและควบคุมด้วยเสียง ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่บนถนนที่วุ่นวายของไทย ถ้า Peugeot 3008 ของคุณมีระบบอินโฟเทนเมนต์รุ่นล่าสุด อาจจะสนับสนุน Apple CarPlay หรือ Android Auto แบบไร้สาย ทำให้การเชื่อมต่อในรถสะดวกสบายยิ่งขึ้น
Q
เครื่องยนต์ใดที่ดีที่สุดใน Peugeot 3008?
สำหรับตลาดไทย Peugeot 3008 มีตัวเลือกเครื่องยนต์ที่โดดเด่นอย่าง 1.6 ลิตร PureTech เทอร์โบชาร์จ เบนซิน ที่ให้กำลังสูงถึง 180 แรงม้า คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ไม่เพียงเร่งความเร็วได้ลื่นไหล แต่ยังประหยัดน้ำมันเหมาะกับทั้งการขับขี่ในเมืองและทางไกลในประเทศไทย พร้อมผ่านมาตรฐานการระบายมลพิษที่เข้มงวดของไทย นอกจากนี้ยังอาจมีตัวเลือกเครื่องยนต์ดีเซลสำหรับผู้ที่ต้องการแรงบิดสูงและเหมาะกับการเดินทางไกล เวลาเลือกเครื่องยนต์ คนไทยควรคำนึงถึงสภาพอากาศและถนนในประเทศ เช่น อากาศร้อนและการจราจรติดขัด โดยเฉพาะความเสถียรของเครื่องยนต์เทอร์โบในความร้อนสูงและความสะดวกของเกียร์อัตโนมัติ เทคโนโลยีเครื่องยนต์ของ Peugeot เป็นที่รู้จักกันดีในตลาดยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมรรถนะที่สมดุลในด้านพละกำลังและประสิทธิภาพที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผู้ใช้ชาวไทยสามารถเลือกรูปแบบที่เหมาะสมที่สุดตามนิสัยและความต้องการในการขับขี่
Q
Peugeot 3008 มีที่นั่งกี่ที่
Peugeot 3008 เป็น SUV ขนาดกลางที่ขายดีในตลาดไทย มาพร้อมการจัดเรียงเบาะมาตรฐาน 5 ที่นั่งที่ตอบโจทย์การใช้งานของครอบครัวไทยได้อย่างดี เบาะนั่งออกแบบมาให้เน้นความสบายและการรองรับร่างกายโดยเฉพาะ เหมาะกับการขับทางไกลในสภาพอากาศร้อนของไทย ที่พิเศษไปกว่านั้นคือเบาะแถวหลังของ Peugeot 3008 สามารถพับลงได้แบบแบ่งส่วน ทำให้พื้นที่กระโปรงหลังขยายจาก 520 ลิตรเป็น 1,482 ลิตรได้ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน เหมาะมากสำหรับคนไทยที่ชอบไปเที่ยวสุดสัปดาห์หรือต้องขนของชิ้นใหญ่ ในตลาดไทย Peugeot 3008 มีตัวเลือกเครื่องยนต์หลากหลาย ทั้งเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบประสิทธิภาพสูงและรุ่นปลั๊กอินไฮบริดที่เหมาะกับเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ช่วยประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบห้องโดยสาร i-Cockpit ล่าสุดจาก Peugeot ที่รวมทั้งพวงมาลัยขนาดเล็กและหน้าปัดสูง ทำให้รู้สึกเหมือนขับรถสปอร์ต แต่ต้องการเวลาปรับตัวสักหน่อย สำหรับคนไทยแล้ว Peugeot 3008 นั้นโดดเด่นทั้งในแง่ดีไซน์สไตล์ฝรั่งเศสและอุปกรณ์มาตรฐานครบครัน เช่น หลังคากระจกพาโนรามา เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ ที่ทำให้สามารถแข่งขันกับรถในระดับเดียวกันได้ แนะนำว่าให้ไปทดลองขับที่โชว์รูม Peugeot ในไทยเพื่อสัมผัสประสบการณ์การขับขี่และพื้นที่ภายในด้วยตัวเองจะดีที่สุด
Q
Peugeot 3008 ผลิตที่ไหน
รถยนต์รุ่น Peugeot 3008 ที่วางขายในตลาดไทยตอนนี้ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าจากฝรั่งเศส รุ่น SUV ขนาดกะทัดรัดนี้โด่งดังในหมู่คนไทยเพราะดีไซน์ไม่เหมือนใครและเทคโนโลยีล้ำสมัย โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ขนาดตัวรถที่กำลังดีเหมาะกับการขับขี่ในเมืองสุดๆ ตลาดไทยตอบรับ 3008 ได้ดี โดยเฉพาะรุ่นไฮบริดที่ได้เปรียบด้านราคาเพราะรัฐบาลไทยมีนโยบายลดภาษีสำหรับรถรักษ์สิ่งแวดล้อม ระบบขับเคลื่อนของ 3008 ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.6 ลิตร ผสมผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าในระบบปลั๊กอินไฮบริด ให้กำลังรวมสูงถึง 300 แรงม้า วิ่งได้ประมาณ 50 กิโลเมตรด้วยไฟฟ้าล้วนๆ เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมืองในไทย ส่วนภายในห้องโดยสารออกแบบฟิวเจอร์ริสติก พร้อมหน้าจอแสดงผลดิจิตอล 12.3 นิ้วและหน้าจอสัมผัส 8 นิ้วที่รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ระบบเหล่านี้ทำงานได้เสถียรแม้ในสภาพอากาศร้อนของไทย ด้านบริการหลังการขาย Peugeot ในไทยก็มีเครือข่ายศูนย์บริการครอบคลุมในเมืองหลักๆ ทำให้เจ้าของรถมั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลอย่างทันท่วงที แม้การซื้อรถนำเข้าจะต้องคำนึงถึงเรื่องภาษีนำเข้า แต่โดยรวมแล้ว 3008 ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในตลาด SUV ไฮบริดที่กำลังมาแรง
Q
วิธีการเปิดฝากระโปรงใน Peugeot 3008
ขั้นตอนการเปิดฝากระโปรงหน้ารถ Peugeot 3008 ที่ใช้ในประเทศไทยนั้นง่ายมาก ก่อนอื่นต้องมั่นใจว่ารถอยู่ในสภาวะดับเครื่องแล้ว จากนั้นให้มองหาแถบดึงที่ติดสัญลักษณ์ฝากระโปรงหน้ารถบริเวณใกล้ๆ Pedal ด้านคนขับ ดึงแรงๆ จะได้ยินเสียง "คลิก" เบาๆ ฝากระโปรงจะเปิดขึ้นมาเล็กน้อย หลังจากนั้นให้ใช้มือสอดเข้าไปที่บริเวณกลางฝากระโปรงด้านหน้า จะเจอแกนปลดล็อคขั้นที่สอง (ส่วนใหญ่ต้องดันไปทางซ้ายหรือขวา) เพียงเท่านี้ก็เปิดฝากระโปรงได้เต็มที่แล้ว ข้อควรระวังคือสภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุกอาจทำให้ชิ้นส่วนเหล่านี้มีฝุ่นหรือสนิมได้ แนะนำให้ทำความสะอาดและทาจารบีเป็นประจำเพื่อให้การเปิดปิดลื่นไหล ส่วนฝากระโปรงของ Peugeot 3008 นั้นทำจากอลูมิเนียมน้ำหนักเบา ช่วยทั้งลดน้ำหนักรถและระบายความร้อนได้ดี เหมาะกับสภาพการขับขี่ในเมืองที่ต้องหยุด-เดินบ่อยๆ ของไทย ถ้าเปิดไม่ขึ้นอย่าใช้แรงดึงเด็ดขาด ให้ติดต่อศูนย์บริการอย่าง Euro Automobile ในกรุงเทพฯ พวกเขามีบริการอัพเกรดสปริงยกระโปรงแบบไฮดรอลิกของแท้ ทำให้การดูแลรักษารถสะดวกขึ้นมาก
Q
รถยนต์ Peugeot 3008
รถยนต์รุ่น Peugeot 3008 ที่ได้รับความนิยมในตลาดประเทศไทย ด้วยดีไซน์สไตล์ฝรั่งเศสและฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.6T ที่ให้กำลังขับเคลื่อนเนียนลื่นทั้งในเมืองและนอกเมือง เมื่อทำงานคู่กับเกียร์ออโต้ 6 สปีด ก็ช่วยประหยัดน้ำมันได้ดี เหมาะกับการเดินทางในชีวิตประจำวันหรือทริปครอบครัวของคนไทย ภายในห้องโดยสารออกแบบด้วยคอนเซปต์ i-Cockpit พร้อมหน้าจอสัมผัสลอยตัว ที่ให้ความรู้สึกล้ำสมัย ขนาดตัวรถที่กำลังดี ทำให้ขับเคลื่อนในซอยแคบๆ หรือห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพได้อย่างคล่องตัว ระบบความปลอดภัยมาครบด้วยฟังก์ชั่นเบรกอัตโนมัติและช่วยรักษาช่องทางเดินรถ ซึ่งเหมาะกับสภาพการจราจรที่ค่อนข้างซับซ้อนของไทย ควรกล่าวถึงว่า ระยะความสูงจากพื้นรถที่มากกว่ารุ่นอื่นๆ ทำให้สามารถขับบนถนนลูกรังในต่างจังหวัดได้สบายๆ เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน 3008 โดดเด่นด้วยสไตล์การออกแบบเฉพาะตัวและระบบช่วงล่างที่มั่นคง แนะนำให้เลือกติดตั้งม่านบังแดดหลังคากระจกและระบบแอร์ประสิทธิภาพสูงสำหรับอากาศร้อนของไทย สำหรับการดูแลรักษา ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะทาง 15,000 กม.หรือทุก 1 ปีตามที่ผู้ผลิตแนะนำ เพื่อความมั่นใจในการใช้งานเครื่องยนต์ภายใต้สภาพอากาศร้อน
Q
peugeot 3008 วิธีการเชื่อมต่อบลูทูธ
ขั้นตอนการเชื่อมต่อบลูทูธของรถ Peugeot 3008 ในประเทศไทยมีดังนี้ ก่อนอื่นต้องมั่นใจว่ารถอยู่ในสภาวะพร้อมใช้งานและระบบมัลติมีเดียทำงานแล้ว จากนั้นเข้าไปที่เมนู "ตั้งค่า" บนหน้าจอกลาง เลือก "บลูทูธ" พร้อมกับเปิดฟังก์ชันบลูทูธบนโทรศัพท์มือถือและตั้งค่าให้อยู่ในโหมดที่มองเห็นได้ จากนั้นค้นหาชื่อโทรศัพท์ของคุณในรายการบลูทูธของรถและเลือก พิมพ์รหัสการจับคู่ (ส่วนใหญ่จะเป็น 0000 หรือ 1234) ตามที่ปรากฏบนหน้าจอเพื่อเสร็จสิ้นการเชื่อมต่อ ข้อควรระวังคือโทรศัพท์บางรุ่นอาจต้องขอสิทธิ์ในการเข้าถึงรายชื่อติดต่อหรือข้อความเพื่อใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้สภาพอากาศร้อนในประเทศไทยอาจส่งผลต่อความเสถียรของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หากพบปัญหาการเชื่อมต่ออาจลองรีสตาร์ทระบบรถหรือโทรศัพท์ใหม่ การเชื่อมต่อบลูทูธนอกจากจะใช้เล่นเพลงแล้ว ยังสามารถใช้พูดโทรศัพท์แบบhands-free ได้ซึ่งสำคัญมากในการขับขี่บนถนนที่การจราจรหนาแน่นของไทย ทั้งช่วยให้มีความบันเทิงระหว่างขับรถและยังรักษาความปลอดภัยได้อีกด้วย แนะนำให้ตรวจสอบอัปเดตซอฟต์แวร์ของระบบรถเป็นประจำเพื่อประสิทธิภาพการเชื่อมต่อที่ดียิ่งขึ้น และควรหลีกเลี่ยงการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในพื้นที่เสี่ยงเช่นปั๊มน้ำมันเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่น
Q
วิธีการใช้งานจั้มสตาร์ทให้รถ Peugeot 3008
ก่อนจะสตาร์ทรถ Peugeot 3008 ในประเทศไทย สิ่งแรกที่ต้องทำคือตรวจสอบให้แน่ใจว่ารถอยู่ในเกียร์ P และอยู่ในสถานะจอดแล้ว จากนั้นให้เหยียบแป้นเบรกแล้วกดปุ่มสตาร์ทเพื่อติดเครื่องยนต์ ถ้ารถของคุณมีระบบกุญแจอัจฉริยะ ต้องมั่นใจว่ากุญแจอยู่ในระยะที่รถสามารถรับสัญญาณได้ เนื่องจากอากาศในประเทศไทยร้อนมาก แนะนำให้ตรวจสอบระดับแบตเตอรี่เป็นประจำเพื่อป้องกันปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมจากความร้อนซึ่งอาจทำให้สตาร์ทรถไม่ได้ นอกจากนี้ระบบ Start-Stop ของ Peugeot 3008 จะช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีในสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ แต่ถ้าต้องขับรถระยะสั้นบ่อยๆ อาจปิดระบบชั่วคราวเพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ หากเจอปัญหาสตาร์ทรถยาก ลองนำกุญแจมาใกล้ๆ ปุ่มสตาร์ทเพื่อเพิ่มสัญญาณ แต่ถ้ายังไม่แก้ไขแนะนำให้ติดต่อศูนย์บริการ Peugeot อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เพื่อตรวจเช็คอย่างมืออาชีพ และในการดูแลรักษาปกติ ควรทำความสะอาดจุดสัมผัสของกุญแจและหลีกเลี่ยงการวางใกล้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ เพื่อลดการรบกวนสัญญาณ วิธีเหล่านี้จะช่วยให้รถของคุณสตาร์ทได้อย่างมั่นใจในทุกสภาพถนนของประเทศไทย
Q
peugeot 3008 มีที่นั่งกี่ที่
รถยนต์รุ่น Peugeot 3008 เป็น SUV ขนาดกะทัดรัดที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย มาพร้อมกับการจัดวางห้องโดยสารแบบ 5 ที่นั่งมาตรฐาน ที่ออกแบบมาให้ทั้งความสบายและใช้งานได้จริง เหมาะกับไลฟ์สไตล์ครอบครัวไทยทั้งการใช้งานในเมืองและการท่องเที่ยวช่วงวันหยุด ด้วยดีไซน์ห้องโดยสารแบบ i-Cockpit ที่ให้มุมมองการขับขี่ที่กว้างไกล พร้อมพื้นที่ขารองรับที่กว้างขวางสำหรับผู้โดยสาร และยังสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังได้อย่างยืดหยุ่นตามความต้องการ ถือเป็นจุดเด่นที่ตอบโจทย์การใช้รถที่หลากหลายของคนไทย สิ่งที่ขาดไม่ได้คือระบบความปลอดภัยครบครันของ 3008 ที่มาพร้อมถุงลมนิรภัยหลายจุดและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ซึ่งสำคัญมากสำหรับการขับขี่ในสภาพการจราจรที่ค่อนข้างซับซ้อนของไทย ในกลุ่มรถระดับเดียวกัน 3008 ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจด้วยดีไซน์สไตล์ฝรั่งเศสและสมรรถนะที่ลงตัว พร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.6 ลิตร ที่ให้ทั้งความประหยัดและความแรง เพียงพอสำหรับทุกสภาพถนนในไทย สำหรับคนไทยที่กำลังมองหา SUV ขนาดกะทัดรัดสักคัน Peugeot 3008 นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ควรพิจารณา แนะนำให้แวะไปทดลองขับที่โชว์รูมใกล้บ้านเพื่อสัมผัสประสบการณ์การขับขี่และพื้นที่ภายในด้วยตัวเองครับ
Q
วิธีการเปิดฝากระโปรง Peugeot 3008
ก่อนจะเปิดฝากระโปรงหน้า Peugeot 3008 สิ่งแรกที่ต้องทำคือให้แน่ใจว่ากดปุ่มดับเครื่องยนต์เรียบร้อยแล้ว จากนั้นให้มองหาแถบดึงปลดล็อกฝากระโปรงที่ด้านขวาของพวงมาลัยหรือแถบเหยียบใกล้ๆกับเท้าคนขับ ดึงแถบนี้จะได้ยินเสียงฝากระโปรงกระเด้งขึ้นเล็กน้อย แล้วเดินไปที่หน้าตัวรถ ใช้นิ้วมือสอดเข้าไปในช่องกลางขอบฝากระโปรง หาจุดล็อกชั้นสองแล้วดันขึ้นพร้อมกับยกฝากระโปรงขึ้น เรียบร้อยจ้า! โดยสภาพอากาศเมืองไทยที่ทั้งร้อนและชื้น แนะนำให้ตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องและสภาพท่อเป็นประจำ โดยเฉพาะน้ำหล่อเย็นและน้ำมันเบรค จะได้มั่นใจว่าทุกอย่างทำงานปกติ ฝากระโปรงรุ่นนี้ทำจากวัสดุน้ำหนักเบา ยกง่าย แต่ก็อย่าลืมตรวจสอบค้ำยันให้แน่นหนาด้วยนะ เดี๋ยวหล่นมาทับมือเอา ส่วนกรณีที่ฝากระโปรงเปิดไม่ออก อาจเป็นเพราะล็อกขัดหรือสายดึงหลวม แนะนำให้ไปที่อู่ตัวแทนจำหน่ายดีกว่า อย่าพยายามงัดเองเด็ดขาด เสียหายแล้วเสียดายตังค์!

ข้อดี

การขับขี่สบาย
ภายในเนื้อเย็น
ดีไซน์ภายนอกยอดเยี่ยม ทรงกลมและคมคอก ดีไซน์ไฟหน้าทันสมัย ได้รับการยกย่องจากหลายองค์กร มีหน้าต่างทอดไกลที่ทำให้รถดูหรูหราขึ้น
ภายในกว้างขวาง ที่นั่งด้านหลังยกระดับที่นั่งสบาย การออกแบบที่นั่งเหมาะสมสำหรับการนั่งนาน
ออกแบบภายในโมเดิร์น ใช้ระบบ i-Cockpit สามารถปรับแต่งหน้าจอตามความต้องการ
พื้นที่จัดเก็บขนาดใหญ่ สามารถพับที่นั่งด้านหลังเพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บสูงสุด 1,000 ลิตร
เครื่องยนต์ตอบสนองดี เป็นเครื่องยนต์ THP 1.6 ลิตร ร่วมกับระบบฉีดน้ำมันโดยตรงแรงดันสูง ตอบสนองการขับขี่ได้ดี ไม่ค่อยเร็ว

ข้อเสีย

การขับขี่ที่ความเร็วสูงไม่ค่อยเสถียร,ไฟหน้ารถไม่ได้ระบบไฟสูงอัตโนมัติ
คุณภาพวัสดุข้างในไม่ดีพอ, ใช้พลาสติกที่แข็ง, ไม่สูง급
ปัญหาในการใช้งานอุปกรณ์, แม้ว่าฟังก์ชั่นควบคุมจากหน้าจอจะดี, แต่การดำเนินการมันซับซ้อน
จำนวนพอร์ต USB น้อย, จำนวนของพอร์ต USB และพอร์ตเติมพลังงานในสิ่งอำนวยความสะดวกภายในรถน้อย
การตั้งค่าความปลอดภัยน้อย, ยังไม่ได้รับการติดตั้งที่สูงสุด, ตรงกับมาตรฐานการใช้งานเท่านั้น

Q&A ล่าสุด

Q
Jaecoo 7 มีซันรูฟหรือไม่?
รถยนต์รุ่น Jaecoo 7 ที่วางตำแหน่งเป็น SUV ระดับพรีเมียมในตลาดประเทศไทย ได้ติดตั้งระบบซันรูฟแบบพาโนราม่าที่ไม่เพียงช่วยเพิ่มแสงสว่างภายในรถ แต่ยังมอบประสบการณ์การนั่งที่โปร่งสบายเหมาะกับสภาพอากาศร้อนของไทย โดยเฉพาะเมื่อขับชมวิวภูเขาที่เชียงใหม่หรือเส้นทางชายฝั่งพัทยา อย่างไรก็ตาม เนื่องจากประเทศไทยมีอากาศร้อนและฝนตกชุกระยะยาว ขอแนะนำให้เจ้าของรถตรวจสอบสภาพยางซีลของซันรูฟเป็นประจำ และหลีกเลี่ยงการเปิดซันรูฟทันทีหลังจากจอดรถตากแดดเป็นเวลานานเพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของชิ้นส่วนยาง นอกจากนี้ตัวแทนจำหน่ายบางแห่งอาจมีบริการอัพเกรดกระจกป้องกันรังสียูวีให้ด้วย เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน การติดตั้งซันรูฟอาจแตกต่างกันไปตามเวอร์ชัน ดังนั้นควรตรวจสอบสเปคอย่างละเอียดบนเว็บไซต์ทางการของ Jaecoo ประเทศไทย หรือทดลองสักการะที่โชว์รูมในกรุงเทพฯหรือภูเก็ตก่อนตัดสินใจ ซันรูฟจะช่วยบรรเทาความอึดอัดภายในรถในช่วงฤดูฝนได้มาก แต่ควรทราบว่ารุ่นระดับพื้นฐานบางรุ่นอาจไม่รวมฟีเจอร์นี้มาให้
Q
Jaecoo 7 มีติดตั้งกล้องหน้ารถหรือไม่?
รถยนต์ Jaecoo 7 ในรุ่นปัจจุบันยังไม่มีระบบกล้องติดรถยนต์ (dashcam) มาให้ในตัว แต่เจ้าของรถสามารถซื้ออุปกรณ์เสริมจากร้านอื่นมาติดตั้งเองได้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติมากในตลาดเมืองไทย ร้านขายอุปกรณ์รถยนต์หรือเว็บขายของออนไลน์ก็มีกล้องให้เลือกเพียบ แนะนำให้เลือกรุ่นที่ถ่ายภาพความละเอียดสูงคุณภาพกลางคืนก็เห็นชัด และมีระบบบันทึกวนลูปเพื่อความปลอดภัยเวลาขับรถ ส่วนในไทยเนี่ย กล้องติดรถยนต์ถือเป็นไอเทมจำเป็นมาก เพราะช่วยบันทึกอุบัติเหตุเวลามีเรื่องรวมถึงรับมือสภาพการจราจรวุ่นวาย เช่น รถติดหนักในกรุงเทพฯ หรือมอเตอร์ไซค์ตัดหน้ากะทันหัน บางรุ่นแพงหน่อยยังมีฟังก์ชัน GPS กับระบบบันทึกตอนจอดรถเหมาะกับอากาศเมืองไทยทั้งร้อนทั้งฝน นอกจากนี้ แม้ว่ากฎหมายไทยจะไม่ได้บังคับให้ติดตั้งกล้องบันทึกการขับขี่ แต่ตํารวจมักจะอ้างอิงหลักฐานวิดีโอเมื่อจัดการกับอุบัติเหตุ ดังนั้นการติดตั้งอุปกรณ์ที่คุ้มค่าจึงเป็นทางเลือกที่ฉลาด เมื่อติดตั้งให้ใส่ใจกับการเดินสายที่ซ่อนอยู่เพื่อหลีกเลี่ยงการบดบังสายตาหรือส่งผลกระทบต่อการทํางานของถุงลมนิรภัย
Q
Jaecoo J7 เหมาะสำหรับการขับขี่แบบออฟโรดหรือไม่?
Jaecoo J7 นับเป็น SUV ที่ตอบโจทย์การขับขี่แบบ Light Off-Road ในสภาพแวดล้อมหลายภูมิประเทศของไทย ด้วยระยะความสูงจากพื้นรถขั้นต่ำ 215 มม. มุมเข้า 24 องศา และมุมออก 30 องศา ที่ออกแบบมาเพื่อรับมือกับถนนลูกรัง ทางดินลาดชัน หรือเส้นทางที่มีน้ำขังเล็กน้อยได้อย่างคล่องตัว ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะร่วมกับโหมดขับขี่หลายภูมิประเทศ (โหมดโคลน/ทราย/หิมะ) ช่วยเพิ่มความมั่นใจบนเส้นทางชนบทช่วงฤดูฝนหรือแถบภูเขาภาคเหนือ แต่อย่าลืมว่าเจ้า J7 นี้ไม่ใช่รถออฟโรดระดับฮาร์ดคอร์ ถ้าจะไปลุยดอยเชียงใหม่หรือโคลนลึกๆ แนะนำให้มองหารถที่เชี่ยวชาญด้านออฟโรดโดยเฉพาะจะเหมาะกว่า สำหรับคนไทยแล้ว จุดเด่นของ J7 อยู่ที่การผสมผสานระหว่างการใช้งานในเมืองกับทริปสั้นๆ วันหยุด เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.6L ให้แรงบิดต่ำที่เพียงพอสำหรับการสตาร์ต-ดับเครื่องบ่อยครั้ง ส่วนระบบกล้องรอบทิศทาง 540 องศาก็ช่วยได้มากเวลาจอดในซอยแคบๆ แต่ถ้าคิดจะลุยกลางป่าหรือทางวิบากเป็นประจำ แนะนำให้อัพเกรดยาง AT และเสริมการป้องกันช่วงล่างจะดีกว่า ในตลาดไทย รุ่นใกล้เคียงมักเน้นความ Multifunctional มากกว่าการออฟโรดสุดโต่ง แนะนำให้เลือกตามความถี่ของการใช้งานจริง ถ้าแค่ลุยเบาๆ เป็นครั้งคราว J7 ก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าอยากลุยหนักจริงๆ อาจต้องมองหารถที่ออกแบบมาสำหรับออฟโรดโดยเฉพาะหรือปรับแต่งเพิ่มเติม
Q
ระยะทางของแบตเตอรี่ใน Jaecoo J7 คือเท่าไหร่?
สำหรับรถ SUV อย่าง Jaecoo J7 ที่ออกแบบมาสำหรับตลาดเกิดใหม่ ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่จะแตกต่างกันไปตามการกำหนดค่าและสภาพการขับขี่ ในสภาพอากาศร้อนของไทยและเส้นทางแบบผสม รุ่น Pure Electric คาดว่าจะให้ระยะทางประมาณ 400-450 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) ซึ่งเพียงพอสำหรับการเดินทางในกรุงเทพฯ หรือทริปสั้นๆ ส่วนรุ่นปลั๊กอินไฮบริดนั้นสามารถวิ่งได้ไกลถึง 800 กิโลเมตรขึ้นไป เหมาะมากสำหรับคนไทยที่ชอบเดินทางไกล อย่างไรก็ตาม อากาศร้อนของไทยอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพแบตเตอรี่ แนะนำให้ตรวจสอบระบบระบายความร้อนเป็นประจำ และควรจอดรถในที่ร่มเพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ ตอนนี้รัฐบาลไทยกำลังส่งเสริมรถไฟฟ้าอย่างเต็มที่ การซื้อ Jaecoo J7 รุ่นไฟฟ้าจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีสูงสุด 150,000 บาท และสถานีชาร์จในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ๆ ก็กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้ใช้งานสะดวกขึ้นเรื่อยๆ สำหรับคนไทยที่สนใจ นอกจากจะดูตัวเลขระยะทางตามที่ประกาศแล้ว ควรคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ ด้วย เช่น การใช้แอร์ การจราจรติดขัด แนะนำให้ทดลองขับและสังเกตการทำงานของระบบจัดการแบตเตอรี่ในสภาพอากาศของไทยให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ
Q
Jaecoo J7 มีระบบช่วยจอดหรือไม่?
Jaecoo J7 ได้รับการติดตั้งระบบ Park Assist (ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ) ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ใช้งานได้จริงในสภาพแวดล้อมการจอดรถที่ซับซ้อนของเมืองไทย โดยเฉพาะในพื้นที่อย่างกรุงเทพฯ ที่ช่องจอดรถมักคับแคบ ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถจอดรถแนวขนานและจอดแนวตั้งได้อย่างง่ายดาย พร้อมลดความเสี่ยงการเกิดรอยขีดข่วน ระบบ Park Assist นี้ใช้เซ็นเซอร์อัลตราโซนิกรอบคันรถเพื่อจดจำช่องจอดที่ว่างได้เอง และควบคุมพวงมาลัยเพื่อดำเนินการจอดรถอัตโนมัติ ผู้ขับขี่เพียงทำตามคำแนะนำเพื่อควบคุมเกียร์และเบรก นอกจาก Park Assist แล้ว Jaecoo J7 ยังมาพร้อมระบบช่วยขับขี่อื่นๆ เช่น กล้องรอบทิศทาง 360 องศา และระบบเตือนจุดบอด ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่บนถนนที่แออัดของไทย สำหรับผู้บริโภคไทย ฟีเจอร์ช่วยขับขี่อัจฉริยะเหล่านี้ไม่เพียงช่วยลดความเครียดในการจอดรถประจำวัน แต่ยังเหมาะกับสภาพถนนหลากหลายแบบของไทย ไม่ว่าจะเป็นถนนลื่นในช่วงฤดูฝนหรือการมองเห็นที่ลดลงในเวลากลางคืน ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งความสะดวกและความปลอดภัย
ดูเพิ่มเติม