Q

"Mercedes C-Class 2024 สามารถวิ่งได้กี่ไมล์ต่อแกลลอน?"

รุ่นปี 2024 ของ Mercedes-Benz C-Class มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่แตกต่างกันไปตามระบบขับเคลื่อน สำหรับรุ่น C 200 ที่ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5 ลิตร จะกินน้ำมันประมาณ 8.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร (หรือประมาณ 28 ไมล์ต่อแกลลอน) เมื่อขับในเมือง แต่ถ้าขับทางไกลบนทางหลวงจะลดลงเหลือ 5.8 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร (ประมาณ 40 ไมล์ต่อแกลลอน) ส่วนรุ่นไฮบริดแบบปลั๊กอินอย่าง C 300e สามารถวิ่งได้ถึง 100 กิโลเมตรในโหมดไฟฟ้าล้วน และมีอัตราสิ้นเปลืองรวมต่ำสุดเพียง 1.4 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม อัตราน้ำมันจริงอาจขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรในกรุงเทพฯ ที่ต้องหยุด-บ่อยครั้งหรือการขับขี่ทางไกลบนทางหลวง แนะนำให้ตรวจสอบลมยางและสภาพเครื่องยนต์เป็นประจำเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ในตลาดรถระดับเดียวกัน เทคโนโลยีไฮบริดกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับคนที่ขับในเมืองบ่อยๆ เพราะมอเตอร์ไฟฟ้าจะให้แรงบิดสูงที่รอบต่ำ ช่วยลดการใช้น้ำมันได้อย่างชัดเจน ส่วนระบบ EQ Boost ของ Mercedes ยังช่วยเก็บพลังงานขณะเบรกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
เครื่องยนต์ที่อยู่ใน Mercedes C-Class 2024 คืออะไร?
รุ่นปี 2024 ของ Mercedes-Benz C-Class ได้ออกแบบระบบขับเคลื่อนที่หลากหลายตามตลาดเป้าหมาย โดยรวมทั้งเครื่องยนต์สันดาปประสิทธิภาพสูงและระบบไฮบริดแบบเสียบปลั๊ก สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ธรรมดานั้นใช้เครื่องยนต์เบนซิน M254 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 4 สูบ คู่กับระบบไมล์ด์ไฮบริด 48V ที่ให้กำลังสูงสุด 258 แรงม้าและแรงบิด 400 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ซึ่งตอบโจทย์ทั้งความแรงและประหยัดน้ำมัน ส่วนรุ่นไฮบริดแบบปลั๊กอินใช้เครื่องยนต์ 2.0T ผสมผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ช่วยให้วิ่งได้ราว 100 กิโลเมตรด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วน เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองเป็นหลัก สำหรับตลาดไทย ระบบไมล์ด์ไฮบริดช่วยลดปัญหาการสิ้นเปลืองน้ำมันในสภาพการจราจรติดขัดได้ดี ส่วนรุ่นปลั๊กอินยังได้สิทธิประโยชน์ตามนโยบายส่งเสริมรถพลังงานสะอาดอีกด้วย แถมดีไซน์เครื่องยนต์แบบโมดูลาร์ของ Mercedes ยังดูแลรักษาง่าย พร้อมเครือข่ายศูนย์บริการและอะไหล่ที่พร้อมสุดในไทย ถ้าพูดถึงรถหรูระดับกลางคันอื่นในตลาด BMW 3 Series หรือ Audi A4 ก็มีระบบขับเคลื่อนคล้ายๆ กัน แต่จุดขายของ C-Class อยู่ที่ความล้ำสมัยของห้องโดยสารและระบบช่วยขับขี่ โดยเฉพาะระบบ MBUX รุ่นล่าสุดที่รองรับการควบคุมด้วยเสียงภาษาไทย ทำให้ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น
Q
ราคา Mercedes C-Class 2024 เท่าไหร่?
รถ Mercedes-Benz C-Class รุ่นปี 2024 ราคาเริ่มต้นในประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 2.8 ล้านบาท แต่ราคาสุดท้ายอาจแตกต่างกันไปตามระดับเครื่องยนต์ ชุดอุปกรณ์เสริม และโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่าย ยกตัวอย่างเช่น รุ่น C 200 Avantgarde แบบพื้นฐาน กับรุ่น C 300 AMG Line แบบเต็มเครื่องอาจมีส่วนต่างราคาสูงถึง 6-8 แสนบาท รุ่นนี้มาพร้อมระบบ MBUX รุ่นที่ 2 ที่อัปเกรดแล้ว ส่วนรุ่นท็อปยังมีตัวเลือกแบบปลั๊กอินไฮบริดที่วิ่งได้ราว 100 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็ม เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองเป็นหลัก ข้อแนะนำคือลองสอบถามตัวแทนเรื่องโปรโมชั่นผ่อนสบายๆ ดอกเบี้ยถูกๆ หรือแพ็กเกจบริการหลังการขาย บางสาขาอาจแถมฟิล์มกรองแสงให้ฟรีๆ ด้วย เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง BMW 3 Series หรือ Audi A4 แล้ว รุ่น C-Class ราคาอาจสูงกว่าประมาณ 10-15% แต่จุดเด่นคือมูลค่าซื้อขายต่อยังดีมาก แม้ผ่านไป 3 ปีก็ยังคงมูลค่าได้ถึง 65% เลยทีเดียว สำหรับใครที่แวะไปทดลองขับที่โชว์รูมช่วงนี้ ยังได้ลองระบบขับช่วยอัจฉริยะรุ่นล่าสุด ทั้งระบบจอดอัตโนมัติและช่วยขับในรถติดอีกด้วย
Q
ความเร็วสูงสุดของ C-class ปี 2024 คือเท่าไหร่?
รุ่นปี 2024 ของ Mercedes-Benz C-Class จะมีความเร็วสูงสุดแตกต่างกันไปตามรุ่นและระบบขับเคลื่อน โดยรุ่นที่แรงที่สุดอย่าง AMG C 63 S E Performance ที่ใช้ระบบไฮบริด สามารถทำความเร็วได้สูงถึง 250 กม./ชม. เมื่อถูกจำกัดความเร็วด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ แต่ถ้าเลือกติดตั้ง AMG Driver's Package จะเพิ่มความเร็วสูงสุดได้ถึง 280 กม./ชม. ส่วนรุ่นมาตรฐานอย่าง C 200 หรือ C 300 จะมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 230-240 กม./ชม. สำหรับการใช้งานบนถนนไทยนั้น ความเร็วระดับนี้ถือว่าเพียงพอสำหรับการขับขี่บนทางด่วน แต่ควรระมัดระวังเรื่องกฎหมายจำกัดความเร็วและสภาพถนนจริงเพื่อความปลอดภัย C-Class ในฐานะรถหรูระดับกลางมีการตั้งค่าระบบขับเคลื่อนที่สมดุลทั้งความสบายในชีวิตประจำวันและศักยภาพด้านสปอร์ต โดยรุ่น AMG ยังติดตั้งระบบช่วงล่างปรับได้และระบบเบรกที่อัพเกรดมาเพื่อความมั่นคงในความเร็วสูง สำหรับคนที่ต้องการสมรรถนะมากขึ้นสามารถเลือก AMG Line Package หรือติดตั้งลิมิตเต็ดสลิปดิฟเฟอเรนเชียลเพื่อเพิ่มสมรรถนะการควบคุม และระบบช่วยขับ Drive Pilot ของ Mercedes-Benz ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับทางไกลบนทางด่วนอีกด้วย
Q
"ราคาของ C-Class Convertible ปี 2024 คือเท่าไหร่?"
ราคาขายท้องถิ่นของ Mercedes-Benz C-Class Convertible รุ่นปี 2024 อยู่ที่ประมาณ 3,500,000 ถึง 4,200,000 บาท โดยราคาอาจแตกต่างกันไปตามอุปกรณ์เสริม สเปคที่เลือก และโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่าย รุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จ หรือเครื่องยนต์ 6 สูบ 3.0 ลิตรสมรรถนะสูง คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ พร้อมระบบหลังคาแบบฮาร์ดท็อปที่เหมาะกับการใช้งานในสภาพอากาศร้อนแบบท้องถิ่ง จริงๆ แล้วรถแบบเปิดประทุนในตลาดไทยขายดีอยู่เพราะอากาศร้อนตลอดปี ทำให้เจ้าของรถได้เปิดประทุนบ่อยกว่า ควรสังเกตุดีลบริการจากตัวแทนจำหน่ายที่มักมาพร้อมประกัน 5 ปีหรือ 10 หมื่นกิโลเมตร ถ้าเทียบกับคู่แข่งอย่าง BMW 4 Series Convertible หรือ Audi A5 Cabriolet แล้ว C-Class Convertible ดูเหนือกว่าในเรื่องความหรูหราของห้องโดยสารและเทคโนโลยี โดยเฉพาะระบบมัลติมีเดีย MBUX ที่มาสแตนดาร์ด สำหรับถนนไทยแนะนำให้อัพเกรดระบบช่วงล่างแบบปรับได้เพื่อความนุ่มสบายเวลาใช้งาน ส่วนช่วงนี้บางศูนย์อาจมีโปรโมชั่นดีๆ เช่น ดอกเบี้ยพิเศษหรือประกันปีแรกฟรี ควรเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ เจ้าดีกว่า
  • รถยอดนิยม

  • รุ่นปีรถยนต์

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

ข้อดี

ยี่ห้อหรูหราที่มีชื่อเสียงสูง
การออกแบบและสไตล์ภายนอกที่สง่างาม
ภายในที่สบายด้วยวัสดุคุณภาพสูง
คุณสมบัติความปลอดภัยและเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า
ประสบการณ์ขับรถที่ราบรื่นและแรงแกร่ง

ข้อเสีย

ค่ารักษารุงสูงขึ้น
ผู้ใช้บางคนร้องเรียนว่าพื้นที่ภายในรถเล็ก
ระบบสื่อสารโทรคมนาคมอาจซับซ้อน
การใช้เชื้อเพลิงอาจสูงขึ้นเปรียบเทียบกับรถอื่นๆ

Q&A ล่าสุด

Q
"ราคาของ C-Class Convertible ปี 2024 คือเท่าไหร่?"
ราคาขายท้องถิ่นของ Mercedes-Benz C-Class Convertible รุ่นปี 2024 อยู่ที่ประมาณ 3,500,000 ถึง 4,200,000 บาท โดยราคาอาจแตกต่างกันไปตามอุปกรณ์เสริม สเปคที่เลือก และโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่าย รุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จ หรือเครื่องยนต์ 6 สูบ 3.0 ลิตรสมรรถนะสูง คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ พร้อมระบบหลังคาแบบฮาร์ดท็อปที่เหมาะกับการใช้งานในสภาพอากาศร้อนแบบท้องถิ่ง จริงๆ แล้วรถแบบเปิดประทุนในตลาดไทยขายดีอยู่เพราะอากาศร้อนตลอดปี ทำให้เจ้าของรถได้เปิดประทุนบ่อยกว่า ควรสังเกตุดีลบริการจากตัวแทนจำหน่ายที่มักมาพร้อมประกัน 5 ปีหรือ 10 หมื่นกิโลเมตร ถ้าเทียบกับคู่แข่งอย่าง BMW 4 Series Convertible หรือ Audi A5 Cabriolet แล้ว C-Class Convertible ดูเหนือกว่าในเรื่องความหรูหราของห้องโดยสารและเทคโนโลยี โดยเฉพาะระบบมัลติมีเดีย MBUX ที่มาสแตนดาร์ด สำหรับถนนไทยแนะนำให้อัพเกรดระบบช่วงล่างแบบปรับได้เพื่อความนุ่มสบายเวลาใช้งาน ส่วนช่วงนี้บางศูนย์อาจมีโปรโมชั่นดีๆ เช่น ดอกเบี้ยพิเศษหรือประกันปีแรกฟรี ควรเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ เจ้าดีกว่า
Q
ความเร็วสูงสุดของ C-class ปี 2024 คือเท่าไหร่?
รุ่นปี 2024 ของ Mercedes-Benz C-Class จะมีความเร็วสูงสุดแตกต่างกันไปตามรุ่นและระบบขับเคลื่อน โดยรุ่นที่แรงที่สุดอย่าง AMG C 63 S E Performance ที่ใช้ระบบไฮบริด สามารถทำความเร็วได้สูงถึง 250 กม./ชม. เมื่อถูกจำกัดความเร็วด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ แต่ถ้าเลือกติดตั้ง AMG Driver's Package จะเพิ่มความเร็วสูงสุดได้ถึง 280 กม./ชม. ส่วนรุ่นมาตรฐานอย่าง C 200 หรือ C 300 จะมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 230-240 กม./ชม. สำหรับการใช้งานบนถนนไทยนั้น ความเร็วระดับนี้ถือว่าเพียงพอสำหรับการขับขี่บนทางด่วน แต่ควรระมัดระวังเรื่องกฎหมายจำกัดความเร็วและสภาพถนนจริงเพื่อความปลอดภัย C-Class ในฐานะรถหรูระดับกลางมีการตั้งค่าระบบขับเคลื่อนที่สมดุลทั้งความสบายในชีวิตประจำวันและศักยภาพด้านสปอร์ต โดยรุ่น AMG ยังติดตั้งระบบช่วงล่างปรับได้และระบบเบรกที่อัพเกรดมาเพื่อความมั่นคงในความเร็วสูง สำหรับคนที่ต้องการสมรรถนะมากขึ้นสามารถเลือก AMG Line Package หรือติดตั้งลิมิตเต็ดสลิปดิฟเฟอเรนเชียลเพื่อเพิ่มสมรรถนะการควบคุม และระบบช่วยขับ Drive Pilot ของ Mercedes-Benz ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับทางไกลบนทางด่วนอีกด้วย
Q
ราคา Mercedes C-Class 2024 เท่าไหร่?
รถ Mercedes-Benz C-Class รุ่นปี 2024 ราคาเริ่มต้นในประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 2.8 ล้านบาท แต่ราคาสุดท้ายอาจแตกต่างกันไปตามระดับเครื่องยนต์ ชุดอุปกรณ์เสริม และโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่าย ยกตัวอย่างเช่น รุ่น C 200 Avantgarde แบบพื้นฐาน กับรุ่น C 300 AMG Line แบบเต็มเครื่องอาจมีส่วนต่างราคาสูงถึง 6-8 แสนบาท รุ่นนี้มาพร้อมระบบ MBUX รุ่นที่ 2 ที่อัปเกรดแล้ว ส่วนรุ่นท็อปยังมีตัวเลือกแบบปลั๊กอินไฮบริดที่วิ่งได้ราว 100 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็ม เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองเป็นหลัก ข้อแนะนำคือลองสอบถามตัวแทนเรื่องโปรโมชั่นผ่อนสบายๆ ดอกเบี้ยถูกๆ หรือแพ็กเกจบริการหลังการขาย บางสาขาอาจแถมฟิล์มกรองแสงให้ฟรีๆ ด้วย เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง BMW 3 Series หรือ Audi A4 แล้ว รุ่น C-Class ราคาอาจสูงกว่าประมาณ 10-15% แต่จุดเด่นคือมูลค่าซื้อขายต่อยังดีมาก แม้ผ่านไป 3 ปีก็ยังคงมูลค่าได้ถึง 65% เลยทีเดียว สำหรับใครที่แวะไปทดลองขับที่โชว์รูมช่วงนี้ ยังได้ลองระบบขับช่วยอัจฉริยะรุ่นล่าสุด ทั้งระบบจอดอัตโนมัติและช่วยขับในรถติดอีกด้วย
Q
เครื่องยนต์ที่อยู่ใน Mercedes C-Class 2024 คืออะไร?
รุ่นปี 2024 ของ Mercedes-Benz C-Class ได้ออกแบบระบบขับเคลื่อนที่หลากหลายตามตลาดเป้าหมาย โดยรวมทั้งเครื่องยนต์สันดาปประสิทธิภาพสูงและระบบไฮบริดแบบเสียบปลั๊ก สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ธรรมดานั้นใช้เครื่องยนต์เบนซิน M254 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 4 สูบ คู่กับระบบไมล์ด์ไฮบริด 48V ที่ให้กำลังสูงสุด 258 แรงม้าและแรงบิด 400 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ซึ่งตอบโจทย์ทั้งความแรงและประหยัดน้ำมัน ส่วนรุ่นไฮบริดแบบปลั๊กอินใช้เครื่องยนต์ 2.0T ผสมผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ช่วยให้วิ่งได้ราว 100 กิโลเมตรด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วน เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองเป็นหลัก สำหรับตลาดไทย ระบบไมล์ด์ไฮบริดช่วยลดปัญหาการสิ้นเปลืองน้ำมันในสภาพการจราจรติดขัดได้ดี ส่วนรุ่นปลั๊กอินยังได้สิทธิประโยชน์ตามนโยบายส่งเสริมรถพลังงานสะอาดอีกด้วย แถมดีไซน์เครื่องยนต์แบบโมดูลาร์ของ Mercedes ยังดูแลรักษาง่าย พร้อมเครือข่ายศูนย์บริการและอะไหล่ที่พร้อมสุดในไทย ถ้าพูดถึงรถหรูระดับกลางคันอื่นในตลาด BMW 3 Series หรือ Audi A4 ก็มีระบบขับเคลื่อนคล้ายๆ กัน แต่จุดขายของ C-Class อยู่ที่ความล้ำสมัยของห้องโดยสารและระบบช่วยขับขี่ โดยเฉพาะระบบ MBUX รุ่นล่าสุดที่รองรับการควบคุมด้วยเสียงภาษาไทย ทำให้ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น
Q
รถ Pajero Sport 2022 ราคาเท่าไหร่?
รถยนต์ Mitsubishi Pajero Sport รุ่นปี 2022 มีราคาอยู่ที่ประมาณ 1,199,000 ถึง 1,599,000 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและอุปกรณ์ที่เลือก โดยราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามโปรโมชั่นของตัวแทนจำหน่ายหรืออุปกรณ์เสริมที่เพิ่มเข้าไป รุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.4 ลิตร คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด มีทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหลัง (4WD) และขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD) โดยรุ่นท็อปยังติดตั้งระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Super Select 4WD-II ของมิตซูบิชิที่พร้อมลุยทุกสภาพถนน ด้านในตกแต่งด้วยจอทัชสกรีน 8 นิ้ว แอร์อัตโนมัติแบบสองโซน เก้าอี้หนัง รวมถึงระบบความปลอดภัยอย่างถุงลมนิรภัย 7 จุด ระบบเตือนจุดบอด และกล้องถอยหลัง Pajero Sport เป็น SUV ขนาดกลางที่โดดเด่นเรื่องสมรรถนะการขับขี่ออฟโรดและความประหยัดพื้นที่ รถคู่แข่งในระดับเดียวกันมีทั้ง Toyota Fortuner และ Isuzu MU-X แต่ Pajero Sport มีความโดดเด่นในด้านของการเก็บเสียงและการปรับแชสซีส์ หากพิจารณาซื้อแนะนำให้ทดลองขับที่ตัวแทนจำหน่าย พร้อมติดตามข้อเสนอทางการเงินที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการหรือแคมเปญ Exchange Official
ดูเพิ่มเติม