Q

โตโยต้าเวย์

Toyota Way เป็นระบบหลักที่สะท้อนปรัชญาการบริหารและแนวคิดการดำเนินธุรกิจของโตโยต้า มุ่งเน้นสองเสาหลักคือ "ไคเซ็น" (Kaizen) หรือการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง กับ "การเคารพในความเป็นมนุษย์" ซึ่งมีความสำคัญในการปฏิบัติจริงแม้แต่ในตลาดรถยนต์ไทย ตัวอย่างเช่น โรงงานโตโยต้าที่จังหวัดชลบุรี ใช้ระบบ "จิโดกะ" (ระบบอัตโนมัติที่มีมนุษย์เป็นแกนหลัก) และหลักการ "การผลิตแบบทันเวลา" (JIT) อย่างเคร่งครัด พนักงานมีส่วนร่วมผ่านระบบเสนอแนะไอเดีย ช่วยปรับปรุงกระบวนการผลิตปีละหลายพันรายการ ทำให้ไทยกลายเป็นฐานการผลิตสำคัญของโตโยต้าในอาเซียน สำหรับผู้บริโภคไทย Toyota Way ปรากฏในความทนทานของรถและบริการหลังการขาย เช่น ศูนย์บริการกว่า 900 แห่งทั่วประเทศที่ใช้มาตรฐานเดียวกัน หรืองานทดสอบความทนทานระบบแอร์ที่ออกแบบพิเศษสำหรับสภาพอากาศร้อนชื้น แม้แต่รถยนต์อย่าง Hilux Revo ก็มีการปรับปรุงเฉพาะท้องถิ่น เช่น ระบบช่วงล่างที่ออกแบบสำหรับถนนชนบท สะท้อนหลัก "เกนจิ เกนบุตสึ" (Genchi Genbutsu) ที่เน้นการแก้ปัญหาจากของจริง ลองสังเกตรถแท็กซี่โตโยต้าที่วิ่งบนถนนไทย หลายคันวิ่งเกิน 3 แสนกิโลเมตรยังสภาพดี นี่คือข้อพิสูจน์ระบบคุณภาพของโตโยต้า และตอนนี้โตโยต้ากำลังนำแนวทางเดียวกันมาปรับใช้กับรถไฟฟ้า เช่น bZ4X เพื่อตอบสนองนโยบาย 30/30 ของรัฐบาลไทย
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
  • รถยอดนิยม

  • รุ่นปีรถยนต์

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

Q&A ล่าสุด

Q
BMW X1 จำเป็นต้องใช้เชื้อเพลิงพรีเมียมหรือไม่?
ตามคำแนะนำอย่างเป็นทางการของ BMW เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จของ BMW X1 เหมาะที่สุดสำหรับการใช้งานกับน้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่วเกรดพรีเมียมที่มีค่าออกเทน 95 ขึ้นไป เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพเครื่องยนต์และการประหยัดน้ำมันที่ดีที่สุด โดยเฉพาะในสภาพอากาศเขตร้อนที่น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีค่าออกเทนสูงจะช่วยลดการเกิดการน็อคได้ดีกว่า แม้ว่ารถจะสามารถใช้น้ำมันเบนซิน 91 ออกเทนได้ แต่การใช้งานในระยะยาวอาจลดกำลังเครื่องยนต์และเพิ่มความเสี่ยงต่อการสะสมของคาร์บอน ปั๊มน้ำมันในท้องถิ่น เช่น PTT หรือในกรุงเทพฯ มีทั้งน้ำมันเบนซิน 95 และ 91 ออกเทนให้เลือก หากงบประมาณเอื้ออำนวย แนะนำให้ใช้น้ำมันเบนซิน 95 ออกเทนเพื่อยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ สารเติมแต่งน้ำมันเชื้อเพลิงแต่ละยี่ห้ออาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการเผาไหม้ การใช้สารทำความสะอาดน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นครั้งคราวจะช่วยบำรุงรักษาหัวฉีดน้ำมันและระบบไอดีได้ สำหรับรุ่นเทอร์โบชาร์จ การบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอและการเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่เหมาะสมก็มีความสำคัญเช่นกัน เนื่องจากรายละเอียดเหล่านี้ส่งผลต่อต้นทุนการใช้งานในระยะยาว
Q
ความเร็วสูงสุดของ BMW X1 ปี 2021 คือเท่าไหร่
รุ่น BMW X1 ปี 2021 ที่เป็นรุ่น sDrive20i มีความเร็วสูงสุดที่ 230 กม./ชม. ซึ่งถือว่าใช้ได้ดีในกลุ่ม SUV คอมแพคต์หรู เหมาะกับการขับขี่ในเมืองและใช้งานบนทางด่วนเป็นครั้งคราว ภายใต้กระโปรง X1 ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบ 2.0 ลิตร ที่ให้กำลัง 192 แรงม้า คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ทำให้เร่งเครื่องได้ลื่นไหลและประหยัดน้ำมัน เหมาะกับการใช้งานประจำวันสุดๆ ในสภาพอากาศร้อนๆ ของไทย ระบบแอร์และระบบระบายความร้อนของ X1 ก็ทำงานได้เสถียร แม้ขับนานๆ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเครื่องร้อนแต่อย่างใด ถ้าอยากได้สมรรถนะจัดเต็มขึ้น แนะนำรุ่น X1 M35i ที่อัดแน่นด้วยเครื่องเทอร์โบ 2.0 ลิตรแบบอัพเกรด กำลังสูงถึง 306 แรงม้า ความเร็วสุดพุ่งไปถึง 250 กม./ชม. แต่อย่างไรก็ตาม แม้ X1 จะทำความเร็วสูงได้ แต่เวลาขับจริงๆ ต้องเคารพกฎจราจรนะครับ โดยเฉพาะในเมืองที่รถติดหรือช่วงหน้าฝนถนนลื่น เรื่องความปลอดภัยต้องมาก่อนเสมอ จุดเด่นของ X1 คือการควบคุมที่แม่นยำแบบฉบับ BMW พร้อมช่วงล่างที่แข็งแรง แม้ขับเร็วก็ยังทรงตัวดี โดยเฉพาะเวลาขับบนเส้นทางคดเคี้ยวอย่างถนนบนเขา
Q
ราคา BMW X1 ปี 2021 ประมาณเท่าไหร่?
ราคาของ BMW X1 รุ่นปี 2021 ในตลาดมือสองจะมีความแตกต่างกันไปตามสภาพรถ ระยะไมล์ อุปกรณ์ และประวัติการบำรุงรักษา โดยทั่วไปราคาจะอยู่ที่ประมาณ 1.2 ถึง 1.6 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับรายละเอียดของรถแต่ละคัน เช่น รุ่น sDrive18i และ xDrive25i ที่มีราคาต่างกันค่อนข้างมาก ส่วนรุ่นที่ติดตั้งอุปกรณ์สูงหรือมีแพ็คเกจเสริมความหรูหราก็จะมีราคาสูงกว่า เมื่อคิดจะซื้อ X1 มือสอง แนะนำให้ตรวจสอบประวัติการซ่อมบำรุงและสภาพเครื่องยนต์โดยเฉพาะระบบเทอร์โบและเกียร์ให้ดี เพื่อให้มั่นใจว่ารถอยู่ในสภาพดี BMW X1 เป็น SUV ระดับคอมแพคต์ที่โดดเด่นด้านการขับขี่และความประหยัดพื้นที่ ภายในกว้างขวางกว่าเพื่อนๆ ในระดับเดียวกัน เหมาะกับการใช้งานในเมืองและครอบครัว ถ้าคิดว่ามีงบจำกัด อาจจะมองรถยี่ห้ออื่นในระดับเดียวกัน แต่จุดเด่นของ X1 อยู่ที่แบรนด์และประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า นอกจากนี้ ภาษีนำเข้ารถยนต์ในไทยค่อนข้างสูง ทำให้ราคารถหรูมือสองค่อนข้างนิ่ง แนะนำให้ซื้อผ่านช่องทางที่น่าเชื่อถือหรือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเพื่อความมั่นใจในแหล่งที่มา
Q
เครื่องยนต์ที่อยู่ใน BMW X1 ปี 2021 คืออะไร?
สำหรับรุ่น BMW X1 ปี 2021 ในตลาดท้องถิ่นนั้น มีตัวเลือกเครื่องยนต์เบนซินหลักๆ 2 แบบด้วยกัน แบบแรกคือเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบชาร์จจากซีรีส์ B48 (รุ่น sDrive20i/xDrive20i) ที่ให้กำลังสูงสุด 192 แรงม้าและแรงบิด 280 นิวตันเมตร ทำงานคู่กับเกียร์ 7 สปีด DCT หรือ 8 สปีดออโตเมติก ส่วนอีกแบบคือเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 3 สูบ เทอร์โบชาร์จ (รุ่น sDrive18i) ให้กำลัง 140 แรงม้าและแรงบิด 220 นิวตันเมตร ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า เครื่องยนต์ทั้งสองรุ่นนี้มาพร้อมเทคโนโลยี TwinPower Turbo ของ BMW ที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องประหยัดน้ำมันและความคล่องตัว โดยเฉพาะในสภาพการขับขี่ในเมืองที่รถติดหรือการขับทางไกล ต้องบอกว่า BMW ออกแบบเครื่องยนต์แบบโมดูลาร์ซึ่งช่วยให้ค่าบำรุงรักษาไม่สูงจนเกินไป และตัวแทนจำหน่ายในท้องถิ่นยังมีแพ็กเกจบริการที่ยืดหยุ่นอีกด้วย ถ้าเทียบกับรถ SUV คอมแพคต์ในระดับเดียวกัน ส่วนใหญ่จะใช้เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จขนาดเล็กแบบนี้แหละ เพราะช่วยลดภาษีและเหมาะกับการใช้งานประจำวัน แต่ถ้าอยากได้พลังมากขึ้น ก็สามารถอัพเกรดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการ แต่อย่าลืมว่าอาจมีผลกับเงื่อนไขการรับประกันนะ
Q
แบตเตอรี่สำหรับ BMW X1 ปี 2021 มีราคาเท่าไหร่?
ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ในรถ BMW X1 ปี 2021 ขึ้นอยู่กับประเภทของแบตเตอรี่และสถานที่ซื้อ โดยทั่วไปแบตเตอรี่จากโรงงานผู้ผลิตจะมีราคาอยู่ระหว่าง 15,000 ถึง 25,000 บาท ในขณะที่แบตเตอรี่จากแบรนด์อื่นอาจมีราคาต่ำสุดที่ 10,000 บาท ราคาที่แน่นอนจะแตกต่างกันไปตามความจุของแบตเตอรี่ ยี่ห้อ และว่ารวมค่าติดตั้งหรือไม่ ขอแนะนำให้ซื้อจากตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการเพื่อให้แน่ใจว่าแบตเตอรี่เข้ากันได้กับรถและได้รับบริการตามการรับประกัน ร้าน 4S หลายแห่งยังมีบริการตรวจสอบและติดตั้งฟรีอีกด้วย โดยทั่วไป BMW X1 ใช้แบตเตอรี่ AGM (Absorbent Glass Fiber) ซึ่งทนทานกว่าแบตเตอรี่ตะกั่วกรดแบบดั้งเดิมและเหมาะอย่างยิ่งสำหรับรุ่นที่มีระบบสตาร์ท-หยุดอัตโนมัติ แต่ก็มีราคาแพงกว่าเช่นกัน การตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอสามารถยืดอายุการใช้งานได้ โดยเฉพาะในสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิสูงซึ่งแบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น ขอแนะนำให้ตรวจสอบโดยช่างผู้เชี่ยวชาญทุกๆ 2-3 ปี หากคุณประสบปัญหาในการสตาร์ทรถ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทำงานผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณว่าแบตเตอรี่เสื่อมสภาพแล้ว และควรเปลี่ยนใหม่โดยเร็วเพื่อป้องกันรถเสีย
ดูเพิ่มเติม