Q

รถยนต์รุ่น ES 2025 รุ่นใดประหยัดน้ำมันที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Lexus?

รุ่นใหม่ล่าสุดของ Lexus ES Series ปี 2025 นี้ รุ่น ES 300h Hybrid คาดว่าจะเป็นรุ่นที่ประหยัดน้ำมันที่สุดในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ ด้วยระบบขับเคลื่อนไฮบริด 2.5 ลิตร 4 สูบ ที่ผสานเทคโนโลยีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนรุ่นใหม่ ทำให้สามารถทำระยะทางได้ถึง 25-28 กิโลเมตรต่อลิตรในสภาพการขับขี่แบบผสมผสานทั้งในเมืองและทางหลวงของไทย ซึ่งเหมาะมากกับการใช้งานในกรุงเทพฯ ที่มีการจราจรหนาแน่นและต้องหยุด-เริ่มบ่อยครั้ง ที่พิเศษไปกว่านั้น ES 300h ยังมาพร้อมระบบปรับอากาศที่ออกแบบมาสำหรับภูมิอากาศร้อนชื้นโดยเฉพาะ และยางรถยนต์ที่มีแรงต้านการหมุนต่ำ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานให้เหมาะกับการใช้งานในไทย สำหรับคนไทยแล้ว รถไฮบริดไม่เพียงช่วยประหยัดค่าน้ำมันได้อย่างชัดเจน แต่ยังได้รับสิทธิประโยชน์จากการลดภาษีสำหรับยานพาหนะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย เทคโนโลยีไฮบริดของ Lexus ที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่องหลายรุ่น ได้รับการรับรองแล้วว่าแบตเตอรี่สามารถทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้นของตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เป็นอย่างดี ในขณะที่ความเงียบสงบและความสบายในการขับขี่ของ ES Series ก็ตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยที่มองหารถยนต์หรูได้อย่างลงตัว หากคุณต้องขับรถเป็นระยะทางไกลในชีวิตประจำวัน ES 300h จะช่วยประหยัดค่าน้ำมันได้มากถึง 30% เมื่อเทียบกับรุ่นที่ใช้น้ำมันเพียงอย่างเดียว แถมยังมีช่วงเวลาการบำรุงรักษาเหมือนรถทั่วไปทุกประการ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ความเร็วสูงสุดของ Lexus ES คือเท่าไร?
ความเร็วสูงสุดของรถยนต์ Lexus ES นั้นขึ้นอยู่กับรุ่นและการกำหนดค่าพลังงาน โดยหากยกตัวอย่างรุ่น ES 350 ที่ใช้เครื่องยนต์ 3.5 ลิตร V6 แบบดูดอากาศธรรมชาติ จะมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 230 กม./ชม. ส่วนรุ่นไฮบริด ES 300h ที่มีการปรับแต่งระบบขับเคลื่อนและข้อจำกัดของแบตเตอรี่ จะมีความเร็วสูงสุดที่ต่ำกว่าเล็กน้อยคือประมาณ 180 กม./ชม. ในประเทศไทย ด้วยสภาพการจราจรที่ติดขัดในเมืองและข้อจำกัดความเร็วบนทางด่วน (ส่วนใหญ่จำกัดที่ 120 กม./ชม.) ทำให้ความสามารถในเรื่องความเร็วสูงไม่ใช่จุดเด่นในการใช้งานประจำวัน แต่จุดแข็งของเลกซัส ES อยู่ที่ประสบการณ์การขับขี่ที่ลื่นไหลและห้องโดยสารหรูหรา ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเดินทางในเมืองอย่างกรุงเทพฯ นอกจากนี้ สภาพอากาศร้อนของไทยยังต้องการระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเลกซัส ES ออกแบบระบบระบายความร้อนมาเพื่อรับมือกับสภาพนี้ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะรุ่นไฮบริดที่ช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีในสภาพการจราจรติดขัด หากคุณต้องการสมรรถนะที่สูงขึ้น อาจพิจารณารุ่นที่ติดตั้ง F SPORT ซึ่งมีการปรับแต่งระบบช่วงล่างและพวงมาลัยให้สมรรถนะการขับขี่ด้านกีฬามากขึ้น แต่ควรคำนึงถึงสภาพถนนในไทยที่อาจส่งผลต่อการขับขี่ด้วย
Q
การเปลี่ยนแปลงของ Lexus ES ปี 2025 มีอะไรบ้าง?
รุ่นปี 2025 ของ Lexus ES ที่วางจำหน่ายในตลาดไทยมีการอัปเกรดที่น่าสนใจหลายจุด โดยเฉพาะด้านดีไซน์ที่ปรับให้คมชัดขึ้นทั้งกรอบหน้ากากหน้าและชุดไฟหน้า LED แบบใหม่ พร้อมเพิ่มสีตัวถังอีก 2 สีให้เลือกตามความนิยมของคนไทย ส่วนภายในปรับปรุงวัสดุให้ดูพรีเมียมยิ่งขึ้น และติดตั้งระบบมัลติมีเดีย Lexus Interface รุ่นล่าสุดที่รองรับการควบคุมด้วยเสียงภาษาไทยและระบบนำทางที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับประเทศไทย ด้านเครื่องยนต์ยังคงใช้ตัวเลือกเดิมทั้งแบบ 2.5 ลิตร 4 สูบและ 3.5 ลิตร V6 แต่ปรับปรุงเรื่องประหยัดน้ำมันให้เหมาะกับการใช้งานในเมืองไทยที่รถติดบ่อย ระบบความปลอดภัยมาพร้อม Lexus Safety System+ 3.0 ในทุกรุ่น โดยเพิ่มฟังก์ชันช่วยเลี่ยงการชนกรณีที่มีรถจักรยานยนต์แทรกบ่อย สำหรับคนไทยแล้ว Lexus ES รุ่นนี้ยังคงความหรูหราและนั่งสบายเหมือนเดิม โดยเฉพาะรุ่นไฮบริดที่ช่วยประหยัดน้ำมันได้ชัดเจนในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ควรระวังเรื่องภาษีรถยนต์ของไทยที่คำนวณตามขนาดเครื่องยนต์ แนะนำให้สอบถามรายละเอียดกับตัวแทนจำหน่ายก่อนซื้อ ส่วนบริการหลังการขายของ Lexus ในไทยมีความพร้อมทั้งเครือข่ายศูนย์บริการและอะไหล่แท้ พร้อมทีมช่างมืออาชีพที่ดูแลลูกค้าได้อย่างเต็มที่เวลานัดเข้าตรวจเช็คระยะ
Q
รถยนต์ Lexus ES ทุกรุ่นจำเป็นต้องใช้แก๊สพรีเมียมหรือไม่?
การเลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์รุ่น Lexus ES ที่จำหน่ายในตลาดไทยว่าจะต้องใช้ Premium Gas หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับรุ่นเครื่องยนต์เป็นหลัก อย่างเช่นรุ่น ES 250 ที่ใช้เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร แนะนำให้ใช้น้ำมันที่มีออกเทน 95 ขึ้นไปเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ส่วนรุ่น ES 300h แบบไฮบริดสามารถใช้น้ำมันออกเทน 91 ปกติได้ เพราะเครื่องยนต์แบบ Atkinson Cycle ไม่ต้องการออกเทนสูง ในประเทศไทยมีน้ำมันให้เลือกทั้งแบบ 91 95 และ E20 แนะนำให้ดูป้ายแนะนำในฝาถังน้ำมันหรือคู่มือการใช้รถฉบับไทยเพื่อความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม การใช้น้ำมันที่มีออกเทนต่ำกว่าเป็นเวลานานอาจทำให้เครื่องยนต์น็อคหรือสมรรถนะลดลง แต่หากเติมปนบ้างเป็นครั้งคราวก็ไม่ส่งผลมากนัก สภาพอากาศร้อนของไทยทำให้น้ำมันออกเทนสูงมีข้อได้เปรียบเรื่องป้องกันการน็อค โดยเฉพาะเมื่อขับในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่รถติดบ่อยหรือในเส้นทางภูเขา แม้ว่า Lexus จะออกแบบเครื่องยนต์ให้เหมาะกับน้ำมันเชื้อเพลิงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว แต่การปฏิบัติตามคำแนะนำของบริษัทจะช่วยให้รถแสดงสมรรถนะสูงสุดและยืดอายุเครื่องยนต์ได้ดีที่สุด
Q
ถังน้ำมันของ Lexus ES 2025 มีความจุเท่าไหร่?
รุ่น 2025 ของ Lexus ES มีความจุถังน้ำมัน 17.7 แกลลอน (ประมาณ 67 ลิตร) ซึ่งการออกแบบนี้เหมาะกับตลาดไทยมาก เพราะช่วยให้ขับทางไกลได้สบายๆ ไม่ต้องแวะเติมน้ำมันบ่อยๆ ตัวอย่างเช่น ถ้าขับจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ระยะทางประมาณ 700 กิโลเมตร ก็สามารถทำได้แบบไม่ต้องหยุดเติมน้ำมันเลย ในสภาพอากาศร้อนๆ ของไทย ระบบไฮบริดของ ES ยังช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีมาก ถ้ารวมกับถังน้ำมันขนาดใหญ่แบบนี้ ก็ยิ่งลดจำนวนครั้งที่ต้องแวะปั๊มลงไปอีก สิ่งที่ต้องระวังคือ ปั๊มน้ำมันในไทยส่วนใหญ่จะมีทั้งเบนซิน 91/95 และแก๊สโซฮอล์ E20 แต่ Lexus ES แนะนำให้ใช้เบนซิน 95 ขึ้นไปเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด สำหรับใครที่ชอบขับรถเที่ยวหรือเดินทางบ่อยระหว่างกรุงเทพและเมืองท่องเที่ยวต่างๆ ถังน้ำมันขนาดนี้ถือว่าคุ้มค่าและใช้งานได้จริง แถมเครือข่ายบริการหลังการขายของ Lexus ในไทยก็ครอบคลุมดี มีศูนย์บริการมืออาชีพในเมืองหลักๆ ทั้งกรุงเทพ เชียงใหม่ และอื่นๆ มั่นใจได้เลยว่าจะได้รับการดูแลอย่างแน่นอน
Q
2025 Lexus ES ใช้แก๊สชนิดใด?
สำหรับรถยนต์รุ่น Lexus ES ปี 2025 ที่วางจำหน่ายในตลาดไทย แนะนำให้ใช้เชื้อเพลิงแบบไร้สารตะกั่ว 95 ขึ้นไป เพื่อประสิทธิภาพและการประหยัดน้ำมันที่ดีที่สุดของเครื่องยนต์ โดยทั่วไปในประเทศไทยจะมีตัวเลือกเชื้อเพลิงเช่น 91 95 และ E20 (เชื้อเพลิงผสมเอทานอล 20%) แต่สำหรับเครื่องยนต์ที่มีอัตราส่วนการอัดสูงอย่างรุ่น ES ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ 2.5L 4 สูบ หรือ 3.5L V6 ควรใช้น้ำมันที่มีค่าออกเทนสูงเพื่อป้องกันการน็อคของเครื่องยนต์ นอกจากนี้สภาพอากาศร้อนของประเทศไทยอาจทำให้เกิดการสะสมของคาร์บอนในระบบเชื้อเพลิงได้ง่าย จึงควรตรวจสอบความสะอาดของระบบเชื้อเพลิงเป็นประจำ หากจำเป็นต้องใช้ E20 เป็นครั้งคราว ควรตรวจสอบความเข้ากันได้กับรถยนต์ แต่การใช้งานในระยะยาวอาจส่งผลต่ออายุการใช้งานของเครื่องยนต์ ทาง Lexus แนะนำให้ปฏิบัติตามมาตรฐานเชื้อเพลิงที่ระบุในคู่มือผู้ใช้เพื่อรักษาสิทธิ์การรับประกัน และควรเลือกเติมน้ำมันจากปั๊มที่น่าเชื่อถือเพื่อให้ได้น้ำมันที่มีคุณภาพ เจ้าของรถยนต์ชาวไทยควรให้ความสำคัญกับการเลือกสถานีบริการน้ำมันที่มีชื่อเสียง เพื่อรับประกันคุณภาพของน้ำมันเครื่อง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเครื่องยนต์หัวฉีดตรง ขณะเดียวกัน การบำรุงรักษาไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างสม่ำเสมอก็ช่วยปกป้องระบบหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงแรงดันสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นกัน
Q
เครื่องยนต์ Lexus ในปี 2025 จะเป็นรุ่นไหน?
รุ่นปี 2025 ของ Lexus ในตลาดไทยมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 2.0 ลิตรที่ประหยัดน้ำมัน ระบบไฮบริด 2.5 ลิตร หรือรุ่นสมรรถนะสูง V6 ไฮบริด 3.5 ลิตร ที่โดดเด่นทั้งในเรื่องการประหยัดและพลังขับเคลื่อน เหมาะสมทั้งสำหรับการขับขี่ในเมืองที่การจราจรหนาแน่นและการเดินทางไกลในประเทศไทย เทคโนโลยีไฮบริดของ Lexus ตอบโจทย์ตลาดไทยเป็นพิเศษ เพราะช่วยประหยัดค่าน้ำมันและลดการปล่อยมลพิษ ซึ่งไม่เพียงช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าแต่ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้เครือข่ายบริการหลังการขายของ Lexus ในไทยยังครอบคลุมและได้มาตรฐาน ทำให้เจ้าของรถสามารถเข้าถึงบริการดูแลรักษาและซ่อมแซมได้อย่างสะดวกสบาย การเลือก Lexus สำหรับคนไทยไม่ใช่แค่ได้รถที่ขับขี่มั่นใจ แต่ยังได้สัมผัสความหรูหราและเทคโนโลยีล้ำสมัย อย่างระบบช่วยเหลือผู้ขับขั้นสูงและห้องโดยสารที่ออกแบบมาเพื่อความสบายเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางประจำวันหรือทริปครอบครัว Lexus รุ่นปี 2025 ก็พร้อมตอบสนองทุกความต้องการได้อย่างยอดเยี่ยม
Q
สีของ Lexus ES 2025 มีอะไรบ้าง?
สำหรับรุ่นปี 2025 ของ Lexus ES ในส่วนของสีภายนอกนั้น มีให้เลือกหลากหลายโทนสีที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นโทนสี Sonic Titanium Sonic Chrome Sonic Iridium Red Mica Crystal Shine Ice Ecr Sunlight Green Deep Blue Mica Sonic Quartz Black และ Graphite Black Glass Flake ที่แต่ละสีล้วนดึงดูดสายตาไม่เหมือนกัน ส่วนสีภายในห้องโดยสารก็มีให้เลือกเช่นกัน ทั้งโทนสี Black Semi Aniline Leather Black Smooth Leather Hazel Semi Aniline Leather และ Hazel Smooth Leather ที่ให้ความรู้สึกหรูหราและน่าสัมผัสในแบบฉบับของ Lexus
Q
2025 Lexus IS เป็นรถยนต์แบบ 4 สูบหรือไม่?
รุ่นปี 2025 ของ Lexus IS บางรุ่นมาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบ โดยรถคันนี้มีตัวเลือกเครื่องยนต์ให้เลือกหลากหลาย โดยรุ่น IS 300 จะใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 4 สูบ ที่ให้กำลัง 241 แรงม้าและแรงบิด 258 ปอนด์-ฟุต นอกจากรุ่นเครื่องยนต์ 4 สูบแล้ว เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ที่ชอบความแรงอย่างแท้จริง อย่างรุ่น IS 500 F SPORT Performance จะใช้เครื่องยนต์ V8 ขนาด 5.0 ลิตร ที่ให้กำลังสูงถึง 472 แรงม้าและแรงบิด 395 ปอนด์-ฟุต ส่วนรุ่น IS 350 จะใช้เครื่องยนต์ V6 3.5 ลิตร ด้วยตัวเลือกเครื่องยนต์ที่หลากหลายแบบนี้ ผู้ซื้อสามารถเลือกรุ่นที่เหมาะกับสไตล์การขับขี่ของตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นรุ่น 4 สูบที่ประหยัดน้ำมันและใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือถ้าชอบความแรงและอารมณ์สปอร์ตก็สามารถเลือกรุ่น V6 และ V8 ได้ตามใจชอบ
Q
รถยนต์ Lexus รุ่นปี 2025 รุ่นใดบ้างที่มีเครื่องยนต์ 6 สูบ?
รุ่นปี 2025 ของ Lexus IS 500 จะมาพร้อมเครื่องยนต์ V6 5.0 ลิตร แบบสูบธรรมชาติ ที่ให้กำลังสูงถึง 472 แรงม้า การขับเคลื่อนล้อหลังทำให้การควบคุมสมรรถนะเต็มไปด้วยความสนุก โดยเฉพาะบนเส้นทางคดเคี้ยวในภูเขาหรือทางด่วนในเมืองของไทย ที่สำคัญเครื่องยนต์รุ่นนี้ยังคงความคลาสสิกด้วยการเร่งที่ลื่นไหลและเสียงเครื่องที่เป็นเอกลักษณ์ เวลาขับในกรุงเทพฯ แล้วดูโดดเด่นมากๆ สำหรับตลาดไทยแล้ว เครื่องยนต์ 6 สูบแบบนี้ขายดีเพราะคนไทยชอบความนุ่มนวลและความทนทานของเครื่อง ต้องบอกว่าในยุคที่ตลาดรถหันไปทางไฟฟ้า รถเครื่องใหญ่แบบนี้เริ่มหายากแล้ว ถ้าสนใจแนะนำให้ติดตามข้อมูลสเปกและราคาจากโชว์รูม Lexus ในไทย นอกจาก IS 500 แล้ว Lexus ยังมีรุ่นเรือธงอย่าง LC 500 ที่ใช้เครื่อง V8 แต่ถ้าคิดถึงเรื่องภาษีนำเข้าที่ค่อนข้างสูงในไทย IS 500 น่าจะเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่า
Q
คู่แข่งของ Lexus ES 2025 มีใครบ้าง?
คู่แข่งหลักของ Lexus ES รุ่นปี 2025 ในตลาดไทยรวมถึงรถยุโรปอย่าง BMW 5 Series และ Mercedes-Benz E-Class ที่ดึงดูดผู้บริโภคระดับไฮเอนด์ด้วยแบรนด์หรูและเทคโนโลยีล้ำสมัย ส่วนรุ่นญี่ปุ่นอย่าง Toyota Camry Hybrid และ Honda Accord Hybrid ก็เป็นตัวเลือกประหยัดด้วยราคาคุ้มค่าและเทคโนโลยี Hybrid ที่น่าเชื่อถือ ขณะที่ Genesis G80 จากเกาหลีก็มาแรงด้วยดีไซน์พิเศษและอุปกรณ์มาตรฐานครบครัน ที่สำคัญคนไทยให้ความสำคัญกับเรื่องประหยัดน้ำมันและบริการหลังการขาย รถยนต์ที่ปล่อยมลพิษต่ำอย่าง Lexus ES300h ก็ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากรัฐบาลไทยสำหรับรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเช่นกัน คู่แข่งจากเยอรมนีมักขึ้นชื่อเรื่องการควบคุมการขับขี่ ก่อนตัดสินใจซื้อรถยนต์ ขอแนะนำให้ไปที่โชว์รูมรถยนต์ขนาดใหญ่ในกรุงเทพฯ หรือพัทยาเพื่อทดลองขับและเปรียบเทียบ เพื่อสัมผัสประสิทธิภาพการทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศจากหลากหลายแบรนด์ในสภาพอากาศร้อนชื้น และความสามารถในการปรับสภาพตัวถังให้เหมาะสมกับสภาพถนนที่ซับซ้อนในท้องถิ่น

ข้อดี

การออกแบบยานพาหนะสวยงามและสอดคล้องกัน มีเส้นทางที่ตัดสินใจ ด้านหน้าและด้านหลังโดดเด่น แสดงคุณภาพของผู้บริหารสมัยใหม่
การกำหนดค่าความปลอดภัยมากมาย ใช้งานด้วยความมั่นใจและความสบายใจมากขึ้น
ความสบายภายในรถเป็นจุดแข็ง การออกแบบที่นั่งสอดคล้องกับวิทยาศาสตร์มนุษย์ชนิด การเดินทางสบาย คุณภาพเสียงดี ระดับเสียงภายในรถต่ำ
แม้ว่าจะมีขนาดใหญ่ แต่ประหยัดน้ำมันอย่างยอดเยี่ยม การใช้งานประจำวันสามารถทำได้ถึง 20 กิโลเมตร/ลิตร

ข้อเสีย

ราคาสูงกว่าผลิตภัณฑ์ที่แข่งขันในระดับเดียวกันเนื่องจากการนำเข้ารถทั้งคันจากญี่ปุ่น
ไม่มีรถแบบสปอร์ต ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ชอบรูปลักษณ์ที่แสนกระหายใจ
เครื่องยนต์ที่ใช้ร่วมกับรถยนต์จากแบรนด์อื่นๆ ทำให้ภาพลักษณ์ดูแย่ลง และมีประเภทที่เลือกได้ไม่หลากหลาย
ผู้แข่งขันได้รับการอัปเกรด การตั้งค่าและรูปลักษณ์บางส่วนของ ES 300h ไม่ได้ทันสมัยเท่ากับผลิตภัณฑ์ที่แข่งขัน

Q&A ล่าสุด

Q
วิธีทำเบิร์นเอาท์ในรถ Mustang ปี 2020
ถ้าจะทำเบิร์นเอาท์ด้วย Ford Mustang รุ่นปี 2020 ในไทย อันดับแรกต้องหาสถานที่ปลอดภัยและโล่ง เช่น สนามแข่งที่ถูกกฎหมายหรือถนนปิด ห้ามทำบนถนนสาธารณะเด็ดขาดเพราะจะผิดกฎหมายจราจรไทย สับ Mustang เข้าโหมดสปอร์ตหรือปิดระบบควบคุมแรงฉุด (กดปุ่มที่คอนโซลกลาง) เปลี่ยนไปใช้เกียร์ธรรมดาและเก็บบันไดไว้ที่เกียร์หนึ่ง ใช้เท้าซ้ายเหยียบเบรกค้างไว้ ค่อยๆ เหยียบคันเร่งด้วยเท้าขวาให้รอบเครื่องขึ้นไปประมาณ 3000-4000 รอบ จากนั้นปล่อยเบรกกะทันหันแล้วเหยียบคันเร่งเต็มที่ ล้อหลังจะหมุนฟรีเนื่องจากกำลังเครื่องเกินจนเกิดอาการเบิร์นเอาท์ ต้องระวังว่าอากาศร้อนของไทยอาจทำให้ยางสึกเร็วเป็นพิเศษ แนะนำให้ใช้ยางสมรรถนะสูงและควบคุมเวลาทำให้เหมาะสมเพื่อไม่ให้ยางร้อนเกิน เบิร์นเอาท์แม้จะโชว์พลังรถได้แต่ก็ทำให้ยางและระบบส่งกำลังเสียหายเร็ว ถ้าทำบ่อยๆ อาจลดอายุการใช้งานรถได้ ส่วนในไทยที่วัฒนธรรมแต่งรถกำลังบูม ถ้าอยากให้เอฟเฟกต์เด็ดขึ้นก็อัพเกรดดิฟเฟอร์เรนเชียลล้อหลังหรือสูตรยางให้แรงขึ้นได้ แต่ต้องทำถูกกฎหมาย
Q
วิธีเปิดฝากระโปรงหน้ารถ Ford Mustang รุ่นปี 2020
ถ้าจะเปิดฝากระโปรงหน้ารถ Mustang รุ่นปี 2020 อันดับแรกให้คุณเข้าไปในห้องโดยสารด้านคนขับ แล้วมองหาปุ่มเปิดฝากระโปรงซึ่งเป็นห่วงรูปสี่เหลี่ยมอยู่ด้านล่างซ้ายใกล้ๆ เท้าคนขับ ปุ่มนี้ต้องดึงสองครั้งถึงจะปลดล็อก ไม่เหมือนรถบางคันที่ดึงแค่ครั้งเดียว หลังจากดึงสองครั้งแล้ว คุณจะรู้สึกว่าฝากระโปรงเริ่มยกตัวขึ้นเล็กน้อย ให้คุณเดินไปที่หน้าตัวรถ แล้วใช้มือลอดเข้าไปในช่องฝากระโปรงที่เปิดอยู่ ค่อยๆ คลำหาปุ่มปลอดภัยซึ่งซ่อนอยู่ตรงกลางขอบฝากระโปรงด้านหน้า ดึงปุ่มนี้เบาๆ ฝากระโปรงก็จะเปิดขึ้น ถ้ารุ่นของคุณไม่มีแกนไฮดรอลิกช่วยยก คุณต้องหาแกนค้ำฝากระโปรงมาเสียบเข้าช่องที่เตรียมไว้ เพื่อให้ฝากระโปรงตั้งขึ้นอย่างมั่นคง จะได้ตรวจสอบหรือซ่อมบำรุงเครื่องยนต์และส่วนอื่นๆ ได้สะดวก
Q
วิธีเปิดหลังคาแบบเปิดได้บน Mustang ปี 2020?
หากต้องการเปิดหลังคาแบบเปิดประทุนของ Ford Mustang รุ่นปี 2020 ก่อนอื่นต้องมั่นใจว่าตัวรถหยุดสนิทแล้ว โดยเกียร์อยู่ในตำแหน่ง P (สำหรับเกียร์อัตโนมัติ) หรือเกียร์ว่าง (สำหรับเกียร์มือถือ) จากนั้นให้กดปุ่มเปิดหลังคาบนแผงคอนโซลกลางค้างไว้ประมาณ 2 วินาที ระบบจะเริ่มทำงานโดยอัตโนมัติเพื่อพับหลังคา ซึ่งใช้เวลาประมาณ 10 วินาทีในการดำเนินการให้เสร็จสมบูรณ์ สำหรับสภาพอากาศในประเทศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก แนะนำให้ตรวจสอบระดับน้ำมันไฮดรอลิกและสภาพยางซีลของระบบหลังคาเปิดประทุนเป็นประจำ เพื่อป้องกันไม่ให้ชิ้นส่วนยางเสื่อมสภาพจากความร้อนและน้ำฝน หากต้องการเปิดหลังคาขณะจอดรถชั่วคราวในพื้นที่จอแจอย่างกรุงเทพฯ ต้องระมัดระวังรถด้านหลังและคนเดินถนนเป็นพิเศษ หลังคาแบบผ้าไฟฟ้าของ Mustang นั้นออกแบบมาให้มีวัสดุกันความร้อนหลายชั้น ช่วยป้องกันรังสียูวีที่แรงจัดของประเทศไทยได้ดี แต่หากต้องจอดตากแดดเป็นเวลานานๆ ควรใช้แผ่นกันแดดเพื่อปกป้องส่วนภายในของรถ นอกจากนี้ เครื่องล้างรถความดันสูงในบางสถานที่ของไทยอาจส่งผลต่อความแน่นหนาของระบบหลังคาเปิดประทุน ดังนั้นควรเลือกใช้บริการสถานดูแลรถมืออาชีพเพื่อทำความสะอาดและบำรุงรักษาจะดีที่สุด
Q
2021 Nissan Navara ราคาเท่าไหร่?
รถ Nissan Navara รุ่นปี 2021 มีหลายรุ่นให้เลือก ราคาเริ่มตั้งแต่ 599,000 บาท ไปจนถึง 1,149,000 บาท อย่างรุ่น Nissan Navara King Cab 2.5 S 6MT ราคา 599,000 บาท ส่วนรุ่น King Cab 2.5 SL 6MT ราคา 609,000 บาท และรุ่น King Cab 2.5 E 6MT ราคาอยู่ที่ 689,000 บาท ส่วนรุ่นโปรอย่าง Nissan Navara PRO-4X นั้นราคาสูงถึง 1,149,000 บาท แต่ละรุ่นมีความแตกต่างทั้งในเรื่องของอุปกรณ์สมรรถนะและอื่นๆ ที่ส่งผลต่อราคา เช่น ความจุเครื่องยนต์ ระบบขับเคลื่อน ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกรุ่นที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณที่มีได้
Q
รถ Nissan Navara ปี 2021 มีความน่าเชื่อถือหรือไม่?
Nissan Navara รุ่นปี 2021 ในตลาดไทยแสดงความน่าเชื่อถือได้ค่อนข้างดี โดยระบบเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.5 ลิตร (190 แรงม้า) คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ที่ผ่านการทดสอบมานาน เหมาะกับสภาพพื้นที่หลากหลายในไทย โดยเฉพาะภาคเหนือแบบภูเขาและภาคใต้แถบชายทะเล โหมดออฟโรดมาตรฐานและระบบล็อกเฟืองท้ายอิเล็กทรอนิกส์ช่วยให้มีเสถียรภาพบนถนนโคลนในฤดูฝน จุดเด่นที่ผู้ใช้ในไทยพูดถึงบ่อยคือระบบขับเคลื่อนที่เสียยากและโครงสร้างช่วงล่างทนทาน แต่อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าเจ้าของรถบางรายรายงานว่าระบบปรับอากาศมีปัญหาการหน่วงเวลาทำความเย็นภายใต้อุณหภูมิที่สูงเกินไป ขอแนะนำให้ทำความสะอาดคอนเดนเซอร์เป็นประจำ ส่วนระบบช่วงล่างแบบ Double Wishbone ด้านหน้าและใบสปริงด้านหลังนั้นได้สมดุลระหว่างการบรรทุก (สูงสุด 1.1 ตัน) และความนุ่มสบาย เหมาะกับการขนส่งสินค้าเกษตรในไทย ที่น่าสนใจคือเครือข่ายอะไหล่ของ Navara ในไทยครอบคลุมดี โดยศูนย์บริการ Nissan ทั้งในกรุงเทพและจังหวัดใหญ่ๆ มีอะไหล่แท้พร้อมบริการ ซ่อมบำรุงรอไม่นาน เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกัน นโยบายประกัน 5 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตรถือว่าแข่งขันได้ แต่แนะนำให้ผู้ใช้ในไทยเปลี่ยนฟิลเตอร์น้ำมันดีเซลทุก 20,000 กิโลเมตรเพื่อป้องกันปัญหาระบบคอมมอนเรลจากคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศ
ดูเพิ่มเติม