Q
รุ่นที่แตกต่างกันของ Honda City มีอะไรบ้าง
Honda City มีรุ่นย่อย ได้แก่ Honda City 1.0 Turbo S 2024 Honda City 1.0 V 2024 Honda City 1.0 SV 2024 Honda City e HEV SV 2024 Honda City 1.0 RS 2024 และ Honda City e HEV RS 2024 รุ่นย่อยเหล่านี้มีความแตกต่างในด้านราคาและอุปกรณ์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เช่น ในด้านความปลอดภัย บางรุ่นมีถุงลมนิรภัย 4 จุด บางรุ่นมี 6 จุด ด้านกำลังขับมีทั้งรุ่นเครื่องยนต์น้ำมันและรุ่นไฮบริด ราคาตั้งแต่ 599000 ถึง 799000 บาท ผู้บริโภคสามารถเลือกได้ตามงบประมาณและความต้องการอุปกรณ์
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ฮอนด้า ซิตี้ คุ้มค่ากับการซื้อหรือไม่ ตรวจสอบคุณสมบัติของรถคันนี้ได้ที่นี่
การพิจารณาว่า Honda City คุ้มค่าที่จะซื้อหรือไม่ สามารถมองจากหลายด้านได้ รถยนต์รุ่นนี้เป็นรถยนต์ขนาดกะทัดรัดที่ได้รับความนิยม เหมาะสำหรับการใช้งานในครอบครัว ดีไซน์ภายนอกโดดเด่นใช้ภาษาการออกแบบแบบครอบครัว บางรุ่นเน้นความสปอร์ต มีการปรับกระจังหน้าและกันชนเพิ่มความโดดเด่น ในด้านความปลอดภัยมีระบบ Honda Sensing เป็นมาตรฐานทุกรุ่น รวมถึงระบบ ABS ระบบควบคุมเสถียรภาพ และถุงลมนิรภัยหลายจุดช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ด้านขุมพลังมีทั้งเครื่องยนต์เทอร์โบและระบบไฮบริด e HEV เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย โดยอัตราสิ้นเปลืองอย่างเป็นทางการของรุ่น e HEV อยู่ที่ 3.6 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร พื้นที่ภายในกว้างขวางด้วยความยาวตัวถังประมาณ 4580 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2589 มิลลิเมตร พร้อมห้องเก็บสัมภาระขนาด 536 ลิตรที่รองรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ รุ่นสูงยังติดตั้งระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ HONDA Connect เพิ่มความสะดวกสบาย ราคาจำหน่ายอยู่ระหว่าง 599000 ถึง 799000 บาท โดยรวมแล้ว Honda City ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ขนาดกะทัดรัดที่ครบครันและคุ้มค่า
Q
เมื่อไรคือวันเปิดตัว Honda City
ข้อมูลวันวางจำหน่ายของ Honda City แต่ละรุ่นแตกต่างกัน รุ่น Honda City ตัวถังแฮทช์แบ็กปี 2021 เปิดตัวในประเทศไทยในปี 2021 ล่าสุดเมื่อต้นปี 2024 ฮอนด้าได้เปิดตัว Honda City แฮทช์แบ็กรุ่นปรับโฉมในตลาดไทย รุ่นใหม่นี้มีการปรับปรุงดีไซน์ให้ดูสปอร์ตมากขึ้น พร้อมเสริมฟังก์ชันใหม่ๆ ทุกรุ่นติดตั้งระบบความปลอดภัย Honda SENSING เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ รุ่นท็อปมาพร้อมระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ Honda CONNECT ให้การเชื่อมต่อที่สะดวกสบาย ระบบขับเคลื่อนมีสองแบบ คือ เครื่องยนต์เทอร์โบและระบบไฮบริด e HEV ราคาจำหน่ายอยู่ระหว่าง 599000 ถึง 799000 บาท
Q
เมื่อไรคือวันวางจำหน่ายของ Honda City
Honda City เจเนอเรชันที่ 6 เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2020 โดยบริษัทฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย ในกรุงเทพฯ และเริ่มผลิตก่อนใคร เจเนอเรชันนี้มาพร้อมดีไซน์ใหม่หมดและเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร DOHC i VTEC รวมถึงระบบไฮบริด e HEV ที่สำคัญ ไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดแรกของโลกที่ได้เปิดตัว Honda City รุ่นนี้ก่อนญี่ปุ่น สำหรับรุ่นปรับโฉมปี 2024 ฮอนด้าประเทศไทยวางแผนจะเปิดตัวภายในปลายปี 2024 (ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามประกาศอย่างเป็นทางการ) แนะนำให้ติดตามข้อมูลผ่านหน้า Facebook อย่างเป็นทางการของฮอนด้าประเทศไทย หรือสอบถามจากตัวแทนจำหน่าย เนื่องจากตลาดไทยมักได้รับการอัปเดตก่อนพื้นที่อื่น หากคุณกำลังวางแผนซื้อรถ การรอข่าวสารรุ่นใหม่จะเป็นโอกาสดีเพราะมักมีโปรโมชั่นสำหรับรุ่นปัจจุบันก่อนเปิดตัวรุ่นใหม่
Q
แบตเตอรี่ของ Honda City มีขนาดเท่าไร
Honda City e HEV รุ่นไฮบริดติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1.05 กิโลวัตต์ชั่วโมง แบตเตอรี่ชุดนี้ทำงานร่วมกับระบบมอเตอร์คู่ที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยให้ประหยัดน้ำมันอย่างยอดเยี่ยม ระบบไฮบริดใช้เทคโนโลยีเฉพาะของฮอนด้า i MMD (Intelligent Multi-Mode Drive) ที่สามารถสลับโหมดการขับขี่ได้อย่างชาญฉลาดระหว่างไฟฟ้าล้วน ไฮบริด และขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์โดยตรง ควรทราบว่าสภาพอากาศร้อนในไทยมีผลต่อประสิทธิภาพแบตเตอรี่ แต่ฮอนด้าได้ปรับระบบระบายความร้อนให้เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศแบบเขตร้อน ทำให้แบตเตอรี่ยังคงเสถียรในอุณหภูมิสูง ตามข้อมูลอย่างเป็นทางการของฮอนด้าประเทศไทย แบตเตอรี่ชุดนี้มีอายุการใช้งานออกแบบไว้ที่ 8 ถึง 10 ปี ขึ้นอยู่กับนิสัยการขับขี่และการดูแลรักษา โดยผู้ใช้รถในไทยส่วนใหญ่ประเมินว่าแบตเตอรี่มีความทนทานสูง หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการบำรุงรักษาแบตเตอรี่ แนะนำให้นำรถเข้าศูนย์บริการฮอนด้าที่ได้รับอนุญาตเพื่อตรวจเช็คสภาพแบตเตอรี่ด้วยบริการมืออาชีพ
Q
ราคาบริการของ Honda City คือเท่าไหร่ ดูที่นี่ก่อนดีกว่า
ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาปกติของ Honda City จะแตกต่างกันตามรุ่นรถยนต์ทั้งรุ่นน้ำมันและไฮบริด รวมถึงศูนย์บริการที่เลือกใช้งาน ยกตัวอย่างศูนย์บริการ Honda 4S ในกรุงเทพฯ การบำรุงรักษาเล็กๆ เช่น การเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง กรองน้ำมัน และตรวจเช็คพื้นฐาน มีค่าใช้จ่ายประมาณ 2500 ถึง 3500 บาท ส่วนการบำรุงรักษาใหญ่ที่รวมการเปลี่ยนวัสดุสิ้นเปลืองหลายรายการและตรวจเช็ครถอย่างละเอียด ราคาจะอยู่ระหว่าง 6000 ถึง 8000 บาท สำหรับรุ่น e HEV ไฮบริด ราคาจะสูงกว่ารุ่นน้ำมันประมาณ 10 ถึง 15 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากต้องตรวจสอบระบบไฮบริดเพิ่มเติม ผู้ใช้รถในไทยควรสังเกตว่าแต่ละตัวแทนจำหน่ายอาจมีแพ็กเกจและโปรโมชั่นแตกต่างกัน จึงควรเปรียบเทียบราคาและบริการหลายๆ แห่ง นอกจากนี้ ฮอนด้าแนะนำให้บำรุงรักษาทุก 10000 กิโลเมตร หรือทุก 6 เดือน ตามระยะใดถึงก่อน หากใช้งานบ่อย โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือที่มีอากาศร้อนและฝุ่นมาก อาจต้องลดระยะเวลาระหว่างการบำรุงรักษาได้ สำหรับผู้มีงบจำกัด ควรติดตามโปรโมชั่นบำรุงรักษาของฮอนด้า หรือเลือกซื้อแพ็กเกจบำรุงรักษาที่รับรองจากศูนย์ เช่น แพ็กเกจ 3 ครั้ง หรือ 5 ครั้ง ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
Q
ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถ Honda City เป็นอย่างไร ดูรายละเอียดได้ที่นี่
ต้นทุนการบำรุงรักษา Honda City ขึ้นอยู่กับรุ่นบริการและตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาต การบำรุงรักษาพื้นฐานทุก 6 เดือน หรือทุก 10000 กิโลเมตร เช่น การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและกรองน้ำมันเครื่อง รวมถึงตรวจเช็คทั่วไป รุ่นเครื่องยนต์น้ำมันมีค่าใช้จ่ายประมาณ 2500 ถึง 3500 บาท ส่วนรุ่นไฮบริด e HEV เนื่องจากต้องตรวจสอบระบบมอเตอร์ไฟฟ้าด้วย ค่าบริการจะสูงขึ้นเล็กน้อยประมาณ 3000 ถึง 4000 บาท สำหรับการบำรุงรักษาแบบใหญ่ที่รวมการเปลี่ยนกรองอากาศ กรองแอร์ และน้ำมันเบรก รุ่นน้ำมันมีค่าใช้จ่ายประมาณ 6000 ถึง 8000 บาท รุ่นไฮบริดอาจสูงถึง 7000 ถึง 9000 บาท ควรทราบว่าแต่ละโชว์รูมในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะกรุงเทพฯ อาจมีราคาที่แตกต่างกัน แนะนำให้สอบถามก่อนนัดหมายหรือดูโปรโมชั่นในเว็บไซต์ฮอนด้าประเทศไทย ตัวแทนจำหน่ายมักมีแพ็กเกจบำรุงรักษาแบบเหมา เช่น ซื้อแพ็กเกจ 3 ครั้งหรือ 5 ครั้งจะได้รับส่วนลดช่วยลดค่าใช้จ่ายระยะยาว สำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดสามารถเลือกแพ็กเกจบำรุงรักษาพื้นฐานได้ แต่ควรตรวจเช็คสภาพรถอย่างละเอียดทุก 20000 กิโลเมตรเพื่อความมั่นใจ
Q
Honda City หนักเท่าไหร่ ตรวจสอบที่นี่เพื่อรู้
Honda City รุ่นต่างๆ มีน้ำหนักรถแตกต่างกัน รุ่น Honda City 1.0 Turbo S 2024 และ 1.0 V 2024 น้ำหนักรถเท่ากันที่ 1152 กิโลกรัม รุ่น 1.0 SV 2024 น้ำหนัก 1156 กิโลกรัม รุ่น Honda City e HEV SV 2024 น้ำหนัก 1224 กิโลกรัม รุ่น 1.0 RS 2024 น้ำหนัก 1174 กิโลกรัม และรุ่น Honda City e HEV RS 2024 น้ำหนัก 1232 กิโลกรัม น้ำหนักรถมีผลต่อการควบคุมและอัตราการใช้เชื้อเพลิง รถที่น้ำหนักเบากว่าจะช่วยให้ประหยัดน้ำมันและควบคุมได้คล่องตัวมากขึ้น ขณะที่รถที่น้ำหนักมากกว่าจะให้ความมั่นคงในการขับขี่มากกว่า
Q
ราคาประกันภัยของ Honda City คือเท่าไร ดูว่าคุณควรจ่ายเท่าไหร่
ค่าเบี้ยประกันรถยนต์ Honda City แตกต่างกันตามรุ่น ประเภทประกัน อายุผู้ขับขี่ และประวัติการขับขี่ โดยทั่วไป ประกันชั้นหนึ่งมีค่าเบี้ยปีละประมาณ 15000 ถึง 25000 บาท ประกันชั้นสองซึ่งคุ้มครองเฉพาะความเสียหายเบื้องต้น มีค่าเบี้ยปีละประมาณ 10000 ถึง 18000 บาท ส่วนประกันชั้นสามซึ่งคุ้มครองเฉพาะบุคคลที่สาม มีค่าเบี้ยปีละประมาณ 5000 ถึง 10000 บาท สำหรับรุ่นไฮบริด Honda City e HEV ค่าเบี้ยอาจสูงกว่ารุ่นน้ำมัน 10 ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากต้นทุนซ่อมบำรุงและความซับซ้อนทางเทคนิคสูงกว่า นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ที่อายุน้อยหรือมีประวัติไม่มีเคลม อาจได้รับส่วนลดพิเศษ บริษัทประกันรายใหญ่เช่น Viriyah และ Dhipaya มักจัดโปรโมชั่นแนะนำให้เปรียบเทียบราคาหลายบริษัทก่อนทำประกัน หรือซื้อผ่านโชว์รูม 4S ที่มักมีแพ็กเกจประกันจากโรงงานพร้อมบริการเสริมเช่น การรับประกันซ่อมบำรุงหรือบริการลากรถฟรี ในไทยยังนิยมซื้อประกันแบบไม่มีค่าเสียหายส่วนแรกเพื่อเพิ่มความคุ้มครองแต่จะทำให้ค่าเบี้ยสูงขึ้นเล็กน้อย
Q
รถยนต์ Honda City มีขนาดเท่าไร มาทำความรู้จักกันที่นี่
Honda City เป็นรถยนต์ระดับ C-Segment มีความยาวตัวถัง 4580 มิลลิเมตร กว้าง 1748 มิลลิเมตร สูง 1467 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2589 มิลลิเมตร รุ่นต่างๆ อาจมีความแตกต่างเล็กน้อยในด้านความยาวและความสูง ขนาดนี้ช่วยให้ Honda City ขับขี่คล่องตัวในสภาพการจราจรในเมือง จอดรถสะดวก และยังมอบพื้นที่ภายในที่สะดวกสบาย เช่น ระยะฐานล้อช่วยเพิ่มพื้นที่วางขาสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ความกว้างช่วยเพิ่มความสบายในการนั่งข้างกัน ส่วนความสูงช่วยให้มีพื้นที่เหนือศีรษะเพียงพอ ทำให้ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารไม่รู้สึกอึดอัด เหมาะสำหรับการเดินทางในเมืองและการใช้งานในครอบครัว
Q
ฮอนด้าซิตี้มีพื้นที่กระโปรงท้ายขนาดเท่าไร นี่คือความจุของกระโปรงท้าย
Honda City มีความจุห้องเก็บของท้ายรถ 536 ลิตร ขนาดนี้เพียงพอสำหรับการช็อปปิงในชีวิตประจำวัน การเดินทาง หรือการย้ายของขนาดเล็ก เช่น การซื้อของใช้จำนวนมาก หรือนำอุปกรณ์กีฬาอย่างจักรยาน กอล์ฟ มาเก็บได้อย่างสะดวก รูปทรงห้องเก็บของถูกออกแบบให้จัดวางสิ่งของเป็นระเบียบและใช้พื้นที่ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ บางรุ่นยังมีเบาะหลังที่พับได้ ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของเมื่อต้องบรรทุกสิ่งของขนาดใหญ่ ทำให้การใช้งานมีความยืดหยุ่นและสะดวกมากขึ้น
Q&A ล่าสุด
Q
Toyota Yaris ATIV หนักกี่กิโลกรัม? ดูรายละเอียด
น้ำหนักของ Toyota Yaris ATIV ในตลาดประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นย่อย รุ่นเกียร์ธรรมดาจะหนักประมาณ 1,060–1,080 กิโลกรัม ส่วนรุ่นเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ซึ่งเป็นรุ่นที่นิยมมากกว่า จะอยู่ที่ประมาณ 1,090–1,120 กิโลกรัม ความแตกต่างของน้ำหนักนี้มาจากอุปกรณ์ที่ติดตั้งในแต่ละรุ่น เช่น รุ่นท็อปที่มีถุงลมนิรภัย 6 จุด หรือหน้าจอสัมผัสระบบมัลติมีเดีย ก็จะมีน้ำหนักมากกว่ารุ่นพื้นฐานเล็กน้อย
เมื่อเปรียบเทียบกับรถในระดับเดียวกัน เช่น Honda City (ประมาณ 1,100–1,150 กิโลกรัม) หรือ Nissan Almera (ประมาณ 1,080–1,120 กิโลกรัม) จะเห็นว่า Yaris ATIV มีน้ำหนักค่อนข้างเบา ซึ่งเหมาะกับการใช้งานในเมืองที่รถติดบ่อยอย่างในกรุงเทพฯ ช่วยให้เครื่องยนต์ 1.2 ลิตรตอบสนองได้ดี และประหยัดน้ำมัน (เฉลี่ยประมาณ 15–18 กม./ลิตร)
อีกจุดที่น่าสนใจคือ วิศวกรโตโยต้าได้ออกแบบวัสดุของตัวถังให้รองรับอุณหภูมิสูงตามสภาพอากาศเมืองไทยได้ดี แม้รถจะเบาแต่โครงสร้างยังแข็งแรง เพราะใช้เทคโนโลยี GOA ที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาวของ ASEAN NCAP มาแล้ว
Q
ราคาเบี้ยประกันของ Toyota Yaris ATIVประมาณเท่าไหร่? คุณควรต้องจ่ายประมาณกี่บาท
ค่าเบี้ยประกันของ Toyota Yaris ATIV โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณปีละ 15,000 ถึง 25,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของประกัน (เช่น ประกันชั้น 1, ชั้น 2 หรือชั้น 3) รวมถึงอายุผู้ขับขี่ ประสบการณ์การขับขี่ และพื้นที่ที่อยู่อาศัย เช่น ในกรุงเทพฯ ค่าเบี้ยจะสูงกว่าต่างจังหวัดเล็กน้อย เพราะมีความเสี่ยงจากการจราจรและอุบัติเหตุมากกว่า
หากเลือกทำประกันชั้น 1 ซึ่งคุ้มครองครอบคลุมทั้งอุบัติเหตุ การโจรกรรม และภัยธรรมชาติ ราคาจะอยู่ใกล้เคียง 25,000 บาท ส่วนประกันชั้น 2 หรือชั้น 3 ที่คุ้มครองน้อยกว่าจะมีราคาอยู่ประมาณ 15,000 - 20,000 บาท
นอกจากนี้ บางบริษัทประกันยังมีส่วนลดเบี้ยประกันกรณีไม่มีการเคลมในปีที่ผ่านมา (No Claim Bonus) ทำให้เบี้ยลดลงในปีถัดไปอีกด้วย สำหรับ Yaris ATIV ซึ่งเป็นรถยอดนิยมในไทย อะไหล่หาง่าย ค่าซ่อมไม่แพง ทำให้ค่าเบี้ยประกันถือว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่สูงเหมือนรถนำเข้า
แนะนำว่าควรเปรียบเทียบราคาจากหลายบริษัท และเลือกแบบที่มีบริการเสริม เช่น บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน หรือรถยก เพื่อความคุ้มค่ามากที่สุด
Q
Toyota Yaris ATIV มีขนาดเท่าไหร่? มาดูรายละเอียด
Toyota Yaris ATIV มีขนาดตัวถังยาว 4,425 มม. กว้าง 1,740 มม. และสูง 1,480 มม. โดยมีระยะฐานล้อ 2,620 มม. ขนาดแบบนี้ทำให้รถคล่องตัวเวลาใช้งานในเมือง ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่หรือลานจอดรถก็ทำได้ง่ายขึ้น ฐานล้อยาวช่วยเพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสาร โดยเฉพาะพื้นที่วางขาสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ทำให้นั่งสบายมากขึ้น
เมื่อดูจากสัดส่วนของตัวรถแล้ว ถือว่ามีการจัดวางพื้นที่อย่างลงตัว ทั้งด้านความสวยงามภายนอกและการใช้งานภายใน ไม่ว่าจะขับไปทำงานในเมืองหรือพาครอบครัวไปเที่ยว ก็รองรับได้สบายทั้งคนและของ ใช้งานได้จริงและยังคงความสะดวกสบายไว้อย่างครบถ้วน
Q
พื้นที่เก็บของด้านท้าย (ท้ายรถ) ของ Toyota Yaris ATIV กว้างขนาดไหน?
Toyota Yaris ATIV มีปริมาตรกระโปรงหลังเพียง 272 ลิตร ซึ่งถือว่าค่อนข้างจำกัดเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อพับเบาะหลังลง полностью ความลึกจะเพิ่มขึ้นถึง 1,430 มม. ทำให้สามารถขนส่งสิ่งของขนาดใหญ่ได้ แต่ต้องระวังเรื่องช่องว่างระหว่างเบาะกับกระโปรงที่ค่อนข้างกว้าง อาจทำให้การบรรทุกสิ่งของทรงยาวไม่สะดวกนัก แม้ว่าพื้นที่เก็บของจะไม่ใช่จุดเด่น แต่ถ้าใช้งานอย่างเหมาะสม ก็ยังตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันได้ดี ไม่ว่าจะเป็นช้อปปิ้งหรือทริปสั้นๆ เช่น สามารถใส่กระเป๋าเดินทางขนาดปกติหรือของใช้ทั่วไปได้สบายๆ
Q
ค่าบำรุงรักษา Toyota Yaris ATIV ประมาณเท่าไหร่? มาดูรายละเอียด
ค่าบำรุงรักษาปกติของ Toyota Yaris ATIV จะอยู่ที่ประมาณ 2,000–3,000 บาท ซึ่งรวมถึงค่าน้ำมันเครื่อง (แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ของ Toyota เบอร์ 0W-20 หรือ 5W-30 ที่เหมาะกับอากาศร้อนของไทย) ค่ากรองน้ำมันเครื่อง และค่าตรวจเช็กพื้นฐานต่างๆ โดยศูนย์บริการ Toyota ในไทยแนะนำให้เข้ารับบริการทุกๆ 10,000 กิโลเมตร หรือทุก 6 เดือน เพื่อให้รถอยู่ในสภาพที่ดีเสมอ
นอกจากนี้ ในช่วงก่อนและหลังฤดูฝน ควรตรวจเช็กระบบแอร์และเบรกเป็นพิเศษ ซึ่งบริการส่วนนี้จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมประมาณ 500–800 บาท
เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน Yaris ATIV ถือว่ามีค่าบำรุงรักษาที่ประหยัด เพราะ Toyota มีระบบอะไหล่และบริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศ มีศูนย์บริการมาตรฐานกว่า 150 แห่งทั่วไทย ทำให้เจ้าของรถมั่นใจได้ทั้งเรื่องราคาและคุณภาพการดูแล อีกทั้งยังตอบโจทย์การใช้งานบนถนนเมืองไทยที่หลากหลายได้เป็นอย่างดี
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไม่ควรพลาดรถยนต์เกโรของญี่ปุ่น, รุ่น Honda City ใดคุ้มค่าที่สุดในการเลือก?
ณัฐวุฒิNov 6, 2024

Honda City e:HEV ลดราคา THB40,000! มาราธอน 800km, ประหยัดน้ำมันและสบาย!
AshleyAug 5, 2024

2024 Honda City Sedan ราคาตั้งแต่ THB 599,000 จะเลือก Turbo หรือ e: HEV?
LienApr 16, 2024

มอเตอร์โชว์กรุงเทพฯ: Honda City 2024, เพิ่มรูปแบบ 1.0 Turbo S, ราคา 599000 บาท
Kevin WongMar 26, 2024

Honda เปิดตัว Super EV ขนาดใกล้เคียงกับ Kei Car เจาะตลาดยุโรป
LienJun 20, 2025
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย