Q
Nissan March มีกี่รุ่นย่อย? รุ่นไหนบ้าง?
รถ Nissan March มีหลายรุ่นให้เลือก เช่น Nissan March 1.2L S MT ปี 2020 ราคา 420,000 บาท ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.2L พร้อมเกียร์ธรรมดา MT ส่วนรุ่น 1.2L E MT ปีเดียวกันราคา 480,000 บาท ก็ใช้เครื่องยนต์ 1.2L และเกียร์ MT เช่นกัน ถ้าชอบเกียร์ออโต้ CVT ที่เปลี่ยนเกียร์ลื่นๆ นุ่มสบาย ลองดูรุ่น 1.2L E CVT ราคา 495,000 บาท หรือจะอัพเกรดไปที่รุ่น 1.2L EL CVT ในราคา 510,000 บาท ที่มาพร้อมฟีเจอร์ครบกว่า แต่ละรุ่นราคาต่างกันเพราะอุปกรณ์และความสะดวกสบายที่ได้ ใครชอบขับรถสปอร์ตๆ แรงๆ แนะนำเกียร์ MT จะรู้สึกถึงการควบคุม แต่ถ้าชอบความนุ่มนวลไม่สะดุด เลือกเกียร์ CVT จะเหมาะกว่า ลูกค้าสามารถเลือกได้ตามงบประมาณและสไตล์การขับขี่ที่ชอบครับ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ข้อเสียของ Nissan March มีอะไรบ้าง
รถยนต์ Nissan March ในตลาดไทยถูกมองว่าเป็นรถประหยัดตัวท็อปที่ขายดี ด้วยความประหยัดน้ำมัน ขับเคลื่อนคล่องตัว และราคาไม่แรงจนเกินไป แต่ก็มีจุดอ่อนบ้าง เช่น เรื่องพื้นที่ภายในรถที่ค่อนข้างจำกัด โดยเฉพาะช่วงขาหลังและกระโปรงท้ายที่อาจอึดอัดสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ ส่วนเวลาขับบนทางด่วนก็จะได้ยินเสียงลมและเสียงยางค่อนข้างชัดเจนเพราะระบบกันเสียงยังไม่สุดยอด อีกทั้งวัสดุภายในห้องโดยสารเป็นพลาสติกแข็งที่อาจดูไม่พรีเมียมเท่ารถคู่แข่งบางรุ่นในระดับเดียวกัน สภาพอากาศเมืองไทยที่ร้อนจัดก็ทำให้ระบบแอร์ของรุ่นพื้นฐานอาจเย็นไม่พอเวลาติดรถนานๆ แนะนำให้อัพเกรดเป็นรุ่นสูงหรือติดฟิล์มกันความร้อนเพิ่ม ส่วนเครื่องยนต์ 1.2L แบบธรรมดานั้นเพียงพอสำหรับขับในเมือง แต่เวลาขึ้นเขาหรือโหลดเต็มคันจะรู้สึกว่าแรงยังไม่ค่อยพอ ต้องบอกว่าคนไทยนิยมรถกระบะกับ SUV มากกว่าเพราะเหมาะกับสภาพถนนบางพื้นที่ แต่จุดเด่นของ March คือขนาดกะทัดรัดที่จอดง่ายในกรุงเทพฯที่รถติดหนัก เลยขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ซื้อว่าจะเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ตัวเองยังไง
Q
Nissan March อยู่ในกลุ่ม Segment ไหน?
Nissan March จัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ A-segment หรือที่เรียกกันว่ารถอีโคคาร์ขนาดเล็ก ซึ่งเป็นประเภทของรถยนต์นั่งที่มีขนาดเล็กที่สุดตามมาตรฐานสากล เหมาะมากสำหรับการใช้งานในเมืองที่การจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯ เพราะสามารถขับเคลื่อนและจอดได้คล่องตัวในพื้นที่แคบ ตัวรถมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตรแบบไม่มีเทอร์โบ จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ซึ่งอยู่ในกลุ่มที่ได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีของประเทศไทยสำหรับรถที่มีขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 1,200cc
ด้วยความยาวตัวถังไม่เกิน 4 เมตร และรัศมีวงเลี้ยวแคบเพียง 5.2 เมตร ทำให้เหมาะมากกับการใช้งานในตรอกซอกซอยในเมืองไทย คู่แข่งในกลุ่มนี้ ได้แก่ Honda Brio, Suzuki Swift และ Toyota Yaris Ativ ซึ่งมีจุดเด่นคล้ายกัน เช่น ประหยัดน้ำมัน ขับง่าย และค่าดูแลรักษาต่ำ
ผู้บริโภคในกลุ่ม A-segment ของไทยมักให้ความสำคัญกับพื้นที่ศีรษะและความสูงจากพื้นถนน ทำให้รถรุ่นอย่าง March มักจะมีการออกแบบให้ตัวรถสูงกว่ารุ่นที่ขายในตลาดอื่น และมีการปรับช่วงล่างให้เหมาะกับสภาพถนนที่ขรุขระของไทย แม้ว่าในอนาคตจะมีทางเลือกในรูปแบบรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นตามนโยบาย EV 3.5 ของรัฐบาล แต่ในปัจจุบัน Nissan March ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปยังคงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและเชื่อถือได้ ด้วยระบบบริการหลังการขายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ
Q
มูลค่าขายต่อของ Nissan March เท่าไหร่?
ราคาขายต่อของรถมือสอง Nissan March จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพรถ, อายุรถ, ระยะทางที่ใช้งาน, และความต้องการในตลาด ตัวอย่างราคาสำหรับรุ่นปี 2020 เช่น รุ่น 1.2L S MT ราคา 420,000 บาท, รุ่น 1.2L E MT ราคา 480,000 บาท, รุ่น 1.2L E CVT ราคา 495,000 บาท, และรุ่น 1.2L EL CVT ราคา 510,000 บาท ถ้ารถสภาพดี ใช้งานน้อย อายุไม่มาก ราคาขายต่อก็จะสูง อาจใกล้เคียงกับราคาเดิมในสัดส่วนหนึ่ง แต่ถ้ารถสภาพไม่ดี ระยะทางมาก อายุเยอะ ราคาก็จะตกฮวบได้เหมือนกัน ถ้าตลาดมีความต้องการสูง ราคาขายต่อก็อาจจะเพิ่มขึ้น แต่ถ้ามีรถรุ่นเดียวกันในตลาดเยอะ ราคาก็อาจจะลดลงได้ เว้าซื้อรถมือสอง แนะนำให้ตรวจสอบประวัติรถให้ดี ว่ามีประวัติอุบัติเหตุหรือน้ำท่วมหรือเปล่า แล้วก็ลองเช็คราคาในแพลตฟอร์มขายรถมือสองในพื้นที่เพื่อเปรียบเทียบราคา จะได้รู้แนวทางไม่เสียเปรียบ
Q
Nissan March มีกี่ซีซี
Nissan March ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1,198 ซีซี ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ A-Segment ขนาดเล็ก เครื่องยนต์รุ่นนี้ถูกออกแบบมาให้มีสมรรถนะเพียงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน พร้อมกับความประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม ด้วยขนาดเครื่องยนต์ที่ไม่ใหญ่เกินไป ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่ในเมือง ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันในระยะยาว
แม้ว่าจะมีหลายรุ่นย่อยให้เลือก แต่ทุกรุ่นของ Nissan March จะใช้เครื่องยนต์ขนาด 1,198 ซีซี เท่ากัน ซึ่งให้พละกำลังที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานทั่วไปบนถนนในเมือง ไม่ว่าจะเลือกรุ่นไหน ก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานประจำวันได้อย่างมั่นใจ ทั้งในเรื่องของความคล่องตัวและความคุ้มค่าด้านการดูแลรักษา
Q
Nissan March ใช้เครื่องยนต์อะไร
รถ Nissan March ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร รหัสเครื่อง 1198mL เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบแบบเรียง ความเรียบของเครื่องดี ให้กำลังพอเหมาะกับการใช้งานในเมืองประจำวัน จุดเด่นของเครื่องยนต์ขนาดเล็กแบบนี้คือประหยัดน้ำมัน ช่วยให้เจ้าของรถลดค่าใช้จ่ายเรื่องน้ำมันได้อีกด้วย แถมโครงสร้างยังไม่ซับซ้อน ทำให้ดูแลรักษาได้ง่ายและค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาก็ไม่สูงด้วย รุ่นต่างๆของ Nissan March จะมีสเปกและราคาแตกต่างกันไป แต่ทุกรุ่นใช้เครื่องยนต์ตัวนี้เหมือนกัน ผู้ซื้อสามารถเลือกรุ่นที่ตรงกับความต้องการและงบประมาณได้ตามสะดวก
Q
“Nissan March มีเกียร์ธรรมดาหรือเกียร์ออโต้
รถ Nissan March มีให้เลือกทั้งเกียร์ MT (เกียร์ธรรมดา) และเกียร์ CVT (เกียร์อัตโนมัติแบบต่อเนื่อง) สำหรับรุ่นปี 2020 นั้น รุ่น 1.2L S MT และ 1.2L E MT จะมาแบบเกียร์ธรรมดา ที่ให้ความรู้สึกสนุกกว่าเวลาขับ เพราะคนขับสามารถเปลี่ยนเกียร์เองได้ตามต้องการ ช่วยให้ควบคุมความเร็วและกำลังเครื่องได้อย่างเต็มที่ ส่วนรุ่น 1.2L E CVT และ 1.2L EL CVT จะใช้เกียร์ CVT ที่เปลี่ยนเกียร์ลื่นไหล ไม่สะดุด ทำให้การขับขี่นุ่มนวลขึ้น โดยเฉพาะในเมืองที่ต้องขับ停ขับบ่อยๆ เกียร์ CVT จะช่วยลดอาการกระตุกเวลเปลี่ยนเกียร์ได้ดีกว่า ทำให้ขับสบายกว่าในชีวิตประจำวัน
Q
PCD Nissan March เท่าไหร่
รถ Nissan March มีขนาด PCD (ระยะวงกลมรูสลัก) แบบ 4x100 ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานของล้อรถขนาดเล็กที่นิยมใช้ในตลาดไทย เหมาะสำหรับล้อขนาด 14 หรือ 15 นิ้ว ในไทยรถหลายรุ่นที่ฮิตๆ เช่น Honda Jazz หรือ Toyota Yaris ก็ใช้ขนาด PCD แบบเดียวกันนี้ ทำให้เจ้าของรถหาล้อที่เข้ากันได้ง่ายขึ้นหรือจะอัพเกรดก็สะดวก PCD นี่เป็นพารามิเตอร์สำคัญเวลาติดตั้งล้อ เลือกขนาดให้ถูกต้องเพื่อความปลอดภัยเวลาขับขี่ แนะนำว่าเวลาจะเปลี่ยนล้อควรตรวจสอบค่าอื่นๆ ด้วย เช่น Center Bore (CB) และ Offset (ET) เพื่อให้ล้อเข้าได้พอดี สภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุกแบบนี้ต้องใส่ใจเรื่องความทนทานของยางและล้อเป็นพิเศษ แนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์คุณภาพดีที่มีการรับรอง และตรวจสอบการยึดสลักболท์อย่างสม่ำเสมอ สำหรับคนที่ชอบแต่งรถให้สวยโดนใจ ในไทยมีร้านขายล้อมืออาชีพหลายเจ้า ที่มีล้อขนาด 4x100 ให้เลือกเพียบ ทั้งล้ออัลลอยน้ำหนักเบาไปจนถึงล้อดีไซน์สวยๆ แต่ต้องอย่าลืมว่าหลังแต่งล้อแล้วต้องผ่านมาตรฐานการรับรองจากกรมการขนส่งทางบกด้วยนะ
Q
Nissan March รองรับ Apple Carplay หรือไม่?
สำหรับ Nissan March ในตลาดไทย รุ่นท็อปบางรุ่นมีการรองรับระบบ Apple CarPlay แล้วนะ แต่รายละเอียดอาจแตกต่างกันไปตามปีและรุ่นที่เลือก แนะนำให้สอบถามตัวแทนจำหน่ายโดยตรงก่อนซื้อเพื่อความชัดเจน เพราะบางทีสเปคอาจมีการอัปเดต Apple CarPlay เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ใช้งานแอปจาก iPhone บนหน้าจอรถได้สะดวกมากๆ โดยเฉพาะในเมืองไทยที่รถติดบ่อย แบบนี้จะใช้แผนที่ ฟังเพลง หรือโทรศัพท์ก็ง่ายไปเลย นอกจาก Nissan March แล้ว รุ่นอื่นๆ ในตลาดอย่าง Toyota Yaris หรือ Honda City ก็เริ่มมีฟีเจอร์นี้กันมากขึ้น แสดงว่าเดี๋ยวนี้คนไทยเน้นความสะดวกสบายด้านคอนเนคติวิตี้พอสมควร แต่ละค่ายระบบอาจใช้งานต่างกันนิดหน่อย แนะนำให้ลองใช้งานจริงก่อนตัดสินใจซื้อจะดีที่สุด เพราะอนาคตไทยกำลังขับเคลื่อนสู่สมาร์ทซิตี้และรถ EV ฟีเจอร์เชื่อมต่อแบบนี้คงกลายเป็นมาตรฐานของรถรุ่นใหม่ๆ แน่นอน
Q
ยางติดรถ Nissan March ใช้ยี่ห้ออะไร?
ในตลาดประเทศไทย Nissan March แต่ละรุ่นและแต่ละออปชันจะมียี่ห้อยางที่ติดรถแตกต่างกันไป โดยส่วนใหญ่จะใช้ยางแบรนด์ญี่ปุ่น เช่น Bridgestone และ Dunlop รวมถึงแบรนด์ที่นิยมในไทยอย่าง Deestone และ Vee Rubber ซึ่งได้รับความเชื่อมั่นในด้านความทนทานและการยึดเกาะถนนเปียก เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นและฝนตกบ่อยของประเทศไทย
เวลาซื้อยาง ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าขนาดและสเปกตรงกับที่โรงงานกำหนดไว้ เช่น ขนาดยอดนิยมคือ 165/70 R14 หรือ 175/60 R15 สามารถดูได้จากคู่มือรถหรือตรงสติกเกอร์ที่กรอบประตูด้านคนขับ
นอกจากนี้ คนขับในไทยอาจพิจารณาคุณสมบัติเพิ่มเติมอย่างความประหยัดน้ำมันและความเงียบในการขับขี่ เพราะสภาพการจราจรในเมืองค่อนข้างติดขัด ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้จะช่วยให้ขับสบายมากขึ้น หากต้องการเปลี่ยนยาง แนะนำให้เลือกซื้อกับตัวแทนจำหน่ายหรือศูนย์บริการที่เชื่อถือได้ เพื่อความมั่นใจในคุณภาพและบริการหลังการขาย และควรตรวจสอบแรงดันลมและสภาพยางเป็นประจำเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
Q
รถ Nissan March เป็นรถที่ดีหรือไม่? เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
รถยนต์ Nissan March เป็นรถขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย เหมาะสำหรับการเดินทางในเมือง ข้อดีของ March คือ ประหยัดน้ำมันมาก ทั้งรุ่นเครื่องยนต์ 1.2 ลิตรและ 1.5 ลิตร ที่วิ่งในสภาพการจราจรติดขัดของไทยได้อย่างคุ้มค่า ค่าบำรุงรักษาไม่สูง ชิ้นส่วนอะไหล่มีพร้อมและราคาไม่แรง ขนาดตัวรถกะทัดรัด ขับเคลื่อนคล่องตัวในซอยแคบๆของกรุงเทพหรือลานจอดรถที่คับคั่ง ภายในห้องโดยสารออกแบบเรียบง่ายแต่ใช้งานได้จริง มีอุปกรณ์พื้นฐานเช่นแอร์และระบบเสียงที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวัน แถมยังตั้งราคาเหมาะสม ให้ความคุ้มค่า เหมาะกับผู้บริโภคที่ต้องการความประหยัด
อย่างไรก็ตาม March ก็มีข้อด้อยบ้าง เช่น พื้นที่เบาะหลังค่อนข้างจำกัด อาจไม่สะดวกสบายในการเดินทางไกล ระบบกันเสียงไม่ค่อยดี เวลาขับความเร็วสูงจะได้ยินเสียงลมค่อนข้างชัด ส่วนระบบความปลอดภัยก็เรียบง่าย รุ่นเริ่มต้นมีแถมแค่ถุงลมนิรภัยและ ABS เท่านั้น ดูจะขาดความทันสมัยเมื่อเทียบกับรถรุ่นใหม่ในระดับเดียวกัน
ในตลาดไทย March เหมาะกับหนุ่มสาวออฟฟิศหรือครอบครัวเล็กที่มองหาความประหยัดและใช้งานจริง หากต้องการความสบายหรืออุปกรณ์ครบครันกว่า อาจลองเปรียบเทียบกับ Honda Brio หรือ Toyota Yaris แต่ March ก็ยังคงมีความแข่งแกร่งในเรื่องความทนทานและต้นทุนการใช้ต่ำ แนะนำให้ทดลองขับก่อนซื้อ และพิจารณาตามความต้องการส่วนตัวให้ดี
Q&A ล่าสุด
Q
ราคา VinFast VF Wild เท่าไหร่?
ขณะนี้ VinFast VF Wild ยังไม่ได้ประกาศราคาอย่างเป็นทางการ แต่ด้วยการที่เป็นรถกระบะไฟฟ้าเต็มรูปแบบ คาดว่าตำแหน่งทางการตลาดน่าจะอยู่ในระดับกลางถึงสูง คาดการณ์ว่าราคาน่าจะอยู่ที่ประมาณ 2-3 ล้านบาทในตลาดไทย ซึ่งใกล้เคียงกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันอย่าง Rivian R1T หรือ Ford F-150 Lightning แต่ราคาที่แท้จริงต้องรอการประกาศจากบริษัทอย่างเป็นทางการ ปัจจุบันความสนใจรถไฟฟ้าในไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลก็มีมาตรการสนับสนุนหลายอย่าง เช่น การลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต ซึ่งอาจทำให้ VF Wild มีความน่าสนใจในตลาดไทยมากขึ้น VinFast ในฐานะแบรนด์รถไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่กำลังขยายตลาดไปทั่วโลก ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัยและเทคโนโลยีไฟฟ้า อาจดึงดูดกลุ่มลูกค้าไทยที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมและความล้ำสมัย ส่วนตลาดรถกระบะในไทยนั้นได้รับความนิยมสูงอยู่แล้ว โดยเฉพาะรถกระบะไฟฟ้าที่ผสมผสานความใช้งานได้จริงกับนวัตกรรมใหม่ๆ ทำให้ VF Wild มีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นทางเลือกแทนรถกระบะแบบเดิมๆ ถ้าสนใจรถกระบะไฟฟ้ารุ่นนี้ สามารถติดตามข้อมูลราคาและสเปคที่อัปเดตได้ที่เว็บไซต์ VinFast ประเทศไทยหรือตัวแทนจำหน่ายในท้องถิ่น
Q
VinFast เป็นแบรนด์จีนหรือเปล่า?
VinFast ไม่ใช่แบรนด์รถจากจีน แต่เป็นผู้ผลิตรถยนต์ชื่อดังจากเวียดนาม ภายใต้กลุ่ม Vingroup ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทเอกชนที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2017 VinFast เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมุ่งเน้นการวิจัยและผลิตรถยนต์ทั้งแบบไฟฟ้าและน้ำมัน ปัจจุบันเป็นแบรนด์สำคัญในตลาดเวียดนามและกำลังขยายไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย รุ่นต่างๆ ของ VinFast ถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์เทรนด์สากลและความต้องการของท้องถิ่น เช่น รุ่น VF e34 ที่ออกแบบมาสำหรับตลาดไทย โดยเน้นทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อมและความใช้งานได้จริง เหมาะกับการขับขี่ของคนไทย สำหรับผู้บริโภคไทย VinFast เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในตลาดรถไฟฟ้า ที่มีการพัฒนาสถานีชาร์จและบริการอย่างต่อเนื่อง คาดว่าในอนาคตจะมีการแข่งขันเชิงบวกกับแบรนด์ท้องถิ่นและแบรนด์ต่างชาติในไทย ประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญในอาเซียนที่มีความต้องการรถพลังงานใหม่เพิ่มขึ้น การลงทุนของ VinFast สะท้อนแนวโน้มนี้ได้ชัดเจน ลูกค้าสามารถติดตามรุ่นใหม่ๆ และบริการที่ปรับให้เหมาะกับคนไทยได้ในอนาคต
Q
“VinFast VF Wild วิ่งได้กี่กิโลต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง”
VinFast VF Wild เป็นรถกระบะไฟฟ้าเต็มรูปแบบที่คาดว่าจะมีระยะทางขับขี่สูงสุดประมาณ 500 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP) ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อความต้องการของผู้ใช้ในไทยทั้งการเดินทางในชีวิตประจำวันและการท่องเที่ยวระยะใกล้ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนของไทย ระบบจัดการความร้อนของแบตเตอรี่ที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยรักษาระยะทางขับขี่ให้คงที่ นอกจากนี้ประเทศไทยซึ่งเป็นตลาดเกิดใหม่สำหรับรถไฟฟ้าในอาเซียน กำลังมีการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการชาร์จอย่างรวดเร็ว โดยในเมืองหลักอย่างกรุงเทพฯและเชียงใหม่ มีจำนวนสถานีชาร์จสาธารณะเพิ่มขึ้นทุกปี VF Wild รองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว ที่สามารถชาร์จได้ถึง 80% ในเวลาเพียง 30 นาที เหมาะกับการเดินทางไกลหรือการใช้เพื่อการค้าในไทย อีกทั้งรถกระบะไฟฟ้ายังมีความโดดเด่นในด้านการใช้งานจริงทั้งในภาคเกษตรกรรมและการท่องเที่ยวของไทย เช่น การขนส่งสินค้าหรือการขับขี่บนเส้นทางชนบท ขณะที่เครือข่ายบริการของ VinFast ในไทย (เช่น ความร่วมมือในการติดตั้งสถานีชาร์จ) จะช่วยลดข้อจำกัดในการใช้งานลงไปอีก หากพูดถึงสภาพอากาศในไทยที่มักมีฝนตกบ่อย รถรุ่นนี้คาดว่าจะมีมาตรฐานการกันน้ำระดับ IP67 ทำให้มั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัยของแบตเตอรี่ สำหรับผู้บริโภคไทยที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม รถกระบะไฟฟ้ายังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากรัฐบาล และในระยะยาวแล้วค่าใช้จ่ายจะต่ำกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน อย่างไรก็ตาม ผู้ที่สนใจควรติดตามข้อมูลรายละเอียดสเปคและราคาในประเทศไทยที่จะประกาศในภายภาคหน้า รวมถึงเปรียบเทียบกับรถกระบะไฟฟ้ายี่ห้ออื่นอย่าง BYD SHARK เพื่อเลือกให้เหมาะสมกับความต้องการในการขนส่งและความสะดวกในการชาร์จของแต่ละคน
Q
VinFast VF Wild เป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนหรือเปล่า?
ใช่แล้ว VinFast VF Wild เป็นคอนเซปต์รถกระบะไฟฟ้าแบบเต็มรูปแบบ ใช้ระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าแบบ 100% ที่อาศัยพลังงานจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว ไม่ต้องพึ่งน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์อุตสาหกรรมยานยนต์โลกที่กำลังเปลี่ยนไปสู่รถไฟฟ้า รุ่นนี้ได้รับการออกแบบให้ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีสมัยใหม่กับประโยชน์ใช้สอยที่ตอบโจทย์ตลาดไทย โดยเฉพาะความต้องการด้านสิ่งแวดล้อมและนวัตกรรม ซึ่งตรงกับนโยบายส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลไทยด้วย
รถกระบะไฟฟ้าแบบ VF Wild นี้น่าจะได้รับความสนใจไม่น้อย เพราะตลาดไทยมีความต้องการรถกระบะค่อนข้างสูง ส่วนรถกระบะไฟฟ้านอกจากจะใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดีแล้ว ยังช่วยลดต้นทุนการใช้งานและลดการปล่อยมลพิษอีกด้วย ยิ่งเมื่อโครงสร้างพื้นฐานเช่นสถานีชาร์จในไทยพัฒนามากขึ้น ความสะดวกในการใช้รถกระบะไฟฟ้าก็จะเพิ่มตามไปด้วย
VinFast ในฐานะแบรนด์รถไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่กำลังขยายตัวในตลาดโลก การนำเสนอ VF Wild ถือเป็นการแสดงศักยภาพในตลาดรถกระบะไฟฟ้า หากในอนาคตมีการผลิตจริง ก็น่าจะเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภคไทย ตอนนี้ตลาดไทยเริ่มเปิดรับรถไฟฟ้ามากขึ้นเรื่อยๆ รุ่นอย่าง VF Wild ก็มีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นทางเลือกทดแทนรถกระบะน้ำมันแบบดั้งเดิมที่ทั้งประหยัดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า
Q
VinFast VF Wild วิ่งได้เร็วสุดกี่กิโลเมตรต่อชั่วโมง?”
VinFast VF Wild เป็นรถกระบะไฟฟ้าแนวคิดที่มาพร้อมสมรรถนะระดับสูง แม้ข้อมูลสเปคเต็มยังไม่เปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่จากประสิทธิภาพของรุ่นอื่นๆ ในตระกูล VF อย่าง VF e34 และ VF 8 ที่เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 5-6 วินาที คาดว่า VF Wild น่าจะมีอัตราเร่งที่แซงหน้ารุ่นเดียวกัน ส่วนความเร็วสูงสุดคาดการณ์ไว้ที่ 180-200 กม./ชม. ซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนไทยทั้งขับขี่ในเมืองและทริปสั้นๆ
ด้วยสภาพอากาศร้อนของไทยที่ส่งผลต่อแบตเตอรี่ ระบบระบายความร้อนแบบ Liquid Cooling ของ VinFast ถือเป็นจุดแข็งที่ช่วยจัดการปัญหาได้ดี นโยบายสนับสนุนรถ EV ของรัฐบาลไทย ทั้งลดภาษีนำเข้าและค่าจดทะเบียน ก็ทำให้รถกระบะไฟฟ้าสมรรถนะสูงแบบนี้ดูน่าสนใจขึ้นมาก
ต้องยอมรับว่ารถกระบะไฟฟ้ายังเป็นตลาดใหม่ในไทย การขนส่งอาจสู้รุ่นดีเซลไม่ได้เต็มที่ แต่จุดเด่นเรื่อง Zero Emission และเสียงเงียบเหมาะกับกรุงเทพฯ ที่รถติดสุดๆ แนะนำให้จับตาข้อมูลสำคัญที่จะประกาศในอนาคต เช่น ระยะทางต่อการชาร์จและระบบชาร์จเร็ว เพราะเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการขับขี่ในพื้นที่ภูเขาและการเดินทางไกลของไทย
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Nissan ขาดทุนไตรมาสแรกในรอบ 4 ปี สัญญาณวิกฤตธุรกิจเริ่มชัดเจน
Kevin WongAug 1, 2025

Nissan Rogue ปรับโฉมใหม่! เพิ่มรุ่นพิเศษ Dark Armor ดุดันยิ่งขึ้น
AshleyJul 31, 2025

Nissanวางแผนเปิดตัว N7 ในตลาดอาเซียน ตลาดไทยอาจได้ต้อนรับรถรุ่นใหม่นี้
Kevin WongJul 23, 2025

เนื่องจากอัตราการใช้กำลังการผลิตต่ำ Nissan วางแผนที่จะปิดโรงงาน Civac ในเม็กซิโกก่อนเดือนมีนาคมปีหน้า
ธนวัฒน์Jul 22, 2025

Nissan อาจจับมือผลิตกระบะให้ Honda ในสหรัฐฯ เพื่อแก้ปัญหาการเงิน?
พงศธรJul 15, 2025
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย