Q

Nissan March มีกี่รุ่นย่อย? รุ่นไหนบ้าง?

รถ Nissan March มีหลายรุ่นให้เลือก เช่น Nissan March 1.2L S MT ปี 2020 ราคา 420,000 บาท ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.2L พร้อมเกียร์ธรรมดา MT ส่วนรุ่น 1.2L E MT ปีเดียวกันราคา 480,000 บาท ก็ใช้เครื่องยนต์ 1.2L และเกียร์ MT เช่นกัน ถ้าชอบเกียร์ออโต้ CVT ที่เปลี่ยนเกียร์ลื่นๆ นุ่มสบาย ลองดูรุ่น 1.2L E CVT ราคา 495,000 บาท หรือจะอัพเกรดไปที่รุ่น 1.2L EL CVT ในราคา 510,000 บาท ที่มาพร้อมฟีเจอร์ครบกว่า แต่ละรุ่นราคาต่างกันเพราะอุปกรณ์และความสะดวกสบายที่ได้ ใครชอบขับรถสปอร์ตๆ แรงๆ แนะนำเกียร์ MT จะรู้สึกถึงการควบคุม แต่ถ้าชอบความนุ่มนวลไม่สะดุด เลือกเกียร์ CVT จะเหมาะกว่า ลูกค้าสามารถเลือกได้ตามงบประมาณและสไตล์การขับขี่ที่ชอบครับ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Nissan March มีอะไรบ้าง
รถยนต์ Nissan March ในตลาดไทยถูกมองว่าเป็นรถประหยัดตัวท็อปที่ขายดี ด้วยความประหยัดน้ำมัน ขับเคลื่อนคล่องตัว และราคาไม่แรงจนเกินไป แต่ก็มีจุดอ่อนบ้าง เช่น เรื่องพื้นที่ภายในรถที่ค่อนข้างจำกัด โดยเฉพาะช่วงขาหลังและกระโปรงท้ายที่อาจอึดอัดสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ ส่วนเวลาขับบนทางด่วนก็จะได้ยินเสียงลมและเสียงยางค่อนข้างชัดเจนเพราะระบบกันเสียงยังไม่สุดยอด อีกทั้งวัสดุภายในห้องโดยสารเป็นพลาสติกแข็งที่อาจดูไม่พรีเมียมเท่ารถคู่แข่งบางรุ่นในระดับเดียวกัน สภาพอากาศเมืองไทยที่ร้อนจัดก็ทำให้ระบบแอร์ของรุ่นพื้นฐานอาจเย็นไม่พอเวลาติดรถนานๆ แนะนำให้อัพเกรดเป็นรุ่นสูงหรือติดฟิล์มกันความร้อนเพิ่ม ส่วนเครื่องยนต์ 1.2L แบบธรรมดานั้นเพียงพอสำหรับขับในเมือง แต่เวลาขึ้นเขาหรือโหลดเต็มคันจะรู้สึกว่าแรงยังไม่ค่อยพอ ต้องบอกว่าคนไทยนิยมรถกระบะกับ SUV มากกว่าเพราะเหมาะกับสภาพถนนบางพื้นที่ แต่จุดเด่นของ March คือขนาดกะทัดรัดที่จอดง่ายในกรุงเทพฯที่รถติดหนัก เลยขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ซื้อว่าจะเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ตัวเองยังไง
Q
Nissan March อยู่ในกลุ่ม Segment ไหน?
Nissan March จัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ A-segment หรือที่เรียกกันว่ารถอีโคคาร์ขนาดเล็ก ซึ่งเป็นประเภทของรถยนต์นั่งที่มีขนาดเล็กที่สุดตามมาตรฐานสากล เหมาะมากสำหรับการใช้งานในเมืองที่การจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯ เพราะสามารถขับเคลื่อนและจอดได้คล่องตัวในพื้นที่แคบ ตัวรถมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตรแบบไม่มีเทอร์โบ จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ซึ่งอยู่ในกลุ่มที่ได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีของประเทศไทยสำหรับรถที่มีขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 1,200cc ด้วยความยาวตัวถังไม่เกิน 4 เมตร และรัศมีวงเลี้ยวแคบเพียง 5.2 เมตร ทำให้เหมาะมากกับการใช้งานในตรอกซอกซอยในเมืองไทย คู่แข่งในกลุ่มนี้ ได้แก่ Honda Brio, Suzuki Swift และ Toyota Yaris Ativ ซึ่งมีจุดเด่นคล้ายกัน เช่น ประหยัดน้ำมัน ขับง่าย และค่าดูแลรักษาต่ำ ผู้บริโภคในกลุ่ม A-segment ของไทยมักให้ความสำคัญกับพื้นที่ศีรษะและความสูงจากพื้นถนน ทำให้รถรุ่นอย่าง March มักจะมีการออกแบบให้ตัวรถสูงกว่ารุ่นที่ขายในตลาดอื่น และมีการปรับช่วงล่างให้เหมาะกับสภาพถนนที่ขรุขระของไทย แม้ว่าในอนาคตจะมีทางเลือกในรูปแบบรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นตามนโยบาย EV 3.5 ของรัฐบาล แต่ในปัจจุบัน Nissan March ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปยังคงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและเชื่อถือได้ ด้วยระบบบริการหลังการขายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ
Q
มูลค่าขายต่อของ Nissan March เท่าไหร่?
ราคาขายต่อของรถมือสอง Nissan March จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพรถ, อายุรถ, ระยะทางที่ใช้งาน, และความต้องการในตลาด ตัวอย่างราคาสำหรับรุ่นปี 2020 เช่น รุ่น 1.2L S MT ราคา 420,000 บาท, รุ่น 1.2L E MT ราคา 480,000 บาท, รุ่น 1.2L E CVT ราคา 495,000 บาท, และรุ่น 1.2L EL CVT ราคา 510,000 บาท ถ้ารถสภาพดี ใช้งานน้อย อายุไม่มาก ราคาขายต่อก็จะสูง อาจใกล้เคียงกับราคาเดิมในสัดส่วนหนึ่ง แต่ถ้ารถสภาพไม่ดี ระยะทางมาก อายุเยอะ ราคาก็จะตกฮวบได้เหมือนกัน ถ้าตลาดมีความต้องการสูง ราคาขายต่อก็อาจจะเพิ่มขึ้น แต่ถ้ามีรถรุ่นเดียวกันในตลาดเยอะ ราคาก็อาจจะลดลงได้ เว้าซื้อรถมือสอง แนะนำให้ตรวจสอบประวัติรถให้ดี ว่ามีประวัติอุบัติเหตุหรือน้ำท่วมหรือเปล่า แล้วก็ลองเช็คราคาในแพลตฟอร์มขายรถมือสองในพื้นที่เพื่อเปรียบเทียบราคา จะได้รู้แนวทางไม่เสียเปรียบ
Q
Nissan March มีกี่ซีซี
Nissan March ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1,198 ซีซี ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ A-Segment ขนาดเล็ก เครื่องยนต์รุ่นนี้ถูกออกแบบมาให้มีสมรรถนะเพียงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน พร้อมกับความประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม ด้วยขนาดเครื่องยนต์ที่ไม่ใหญ่เกินไป ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่ในเมือง ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันในระยะยาว แม้ว่าจะมีหลายรุ่นย่อยให้เลือก แต่ทุกรุ่นของ Nissan March จะใช้เครื่องยนต์ขนาด 1,198 ซีซี เท่ากัน ซึ่งให้พละกำลังที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานทั่วไปบนถนนในเมือง ไม่ว่าจะเลือกรุ่นไหน ก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานประจำวันได้อย่างมั่นใจ ทั้งในเรื่องของความคล่องตัวและความคุ้มค่าด้านการดูแลรักษา
Q
Nissan March ใช้เครื่องยนต์อะไร
รถ Nissan March ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร รหัสเครื่อง 1198mL เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบแบบเรียง ความเรียบของเครื่องดี ให้กำลังพอเหมาะกับการใช้งานในเมืองประจำวัน จุดเด่นของเครื่องยนต์ขนาดเล็กแบบนี้คือประหยัดน้ำมัน ช่วยให้เจ้าของรถลดค่าใช้จ่ายเรื่องน้ำมันได้อีกด้วย แถมโครงสร้างยังไม่ซับซ้อน ทำให้ดูแลรักษาได้ง่ายและค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาก็ไม่สูงด้วย รุ่นต่างๆของ Nissan March จะมีสเปกและราคาแตกต่างกันไป แต่ทุกรุ่นใช้เครื่องยนต์ตัวนี้เหมือนกัน ผู้ซื้อสามารถเลือกรุ่นที่ตรงกับความต้องการและงบประมาณได้ตามสะดวก
Q
“Nissan March มีเกียร์ธรรมดาหรือเกียร์ออโต้
รถ Nissan March มีให้เลือกทั้งเกียร์ MT (เกียร์ธรรมดา) และเกียร์ CVT (เกียร์อัตโนมัติแบบต่อเนื่อง) สำหรับรุ่นปี 2020 นั้น รุ่น 1.2L S MT และ 1.2L E MT จะมาแบบเกียร์ธรรมดา ที่ให้ความรู้สึกสนุกกว่าเวลาขับ เพราะคนขับสามารถเปลี่ยนเกียร์เองได้ตามต้องการ ช่วยให้ควบคุมความเร็วและกำลังเครื่องได้อย่างเต็มที่ ส่วนรุ่น 1.2L E CVT และ 1.2L EL CVT จะใช้เกียร์ CVT ที่เปลี่ยนเกียร์ลื่นไหล ไม่สะดุด ทำให้การขับขี่นุ่มนวลขึ้น โดยเฉพาะในเมืองที่ต้องขับ停ขับบ่อยๆ เกียร์ CVT จะช่วยลดอาการกระตุกเวลเปลี่ยนเกียร์ได้ดีกว่า ทำให้ขับสบายกว่าในชีวิตประจำวัน
Q
PCD Nissan March เท่าไหร่
รถ Nissan March มีขนาด PCD (ระยะวงกลมรูสลัก) แบบ 4x100 ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานของล้อรถขนาดเล็กที่นิยมใช้ในตลาดไทย เหมาะสำหรับล้อขนาด 14 หรือ 15 นิ้ว ในไทยรถหลายรุ่นที่ฮิตๆ เช่น Honda Jazz หรือ Toyota Yaris ก็ใช้ขนาด PCD แบบเดียวกันนี้ ทำให้เจ้าของรถหาล้อที่เข้ากันได้ง่ายขึ้นหรือจะอัพเกรดก็สะดวก PCD นี่เป็นพารามิเตอร์สำคัญเวลาติดตั้งล้อ เลือกขนาดให้ถูกต้องเพื่อความปลอดภัยเวลาขับขี่ แนะนำว่าเวลาจะเปลี่ยนล้อควรตรวจสอบค่าอื่นๆ ด้วย เช่น Center Bore (CB) และ Offset (ET) เพื่อให้ล้อเข้าได้พอดี สภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุกแบบนี้ต้องใส่ใจเรื่องความทนทานของยางและล้อเป็นพิเศษ แนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์คุณภาพดีที่มีการรับรอง และตรวจสอบการยึดสลักболท์อย่างสม่ำเสมอ สำหรับคนที่ชอบแต่งรถให้สวยโดนใจ ในไทยมีร้านขายล้อมืออาชีพหลายเจ้า ที่มีล้อขนาด 4x100 ให้เลือกเพียบ ทั้งล้ออัลลอยน้ำหนักเบาไปจนถึงล้อดีไซน์สวยๆ แต่ต้องอย่าลืมว่าหลังแต่งล้อแล้วต้องผ่านมาตรฐานการรับรองจากกรมการขนส่งทางบกด้วยนะ
Q
Nissan March รองรับ Apple Carplay หรือไม่?
สำหรับ Nissan March ในตลาดไทย รุ่นท็อปบางรุ่นมีการรองรับระบบ Apple CarPlay แล้วนะ แต่รายละเอียดอาจแตกต่างกันไปตามปีและรุ่นที่เลือก แนะนำให้สอบถามตัวแทนจำหน่ายโดยตรงก่อนซื้อเพื่อความชัดเจน เพราะบางทีสเปคอาจมีการอัปเดต Apple CarPlay เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ใช้งานแอปจาก iPhone บนหน้าจอรถได้สะดวกมากๆ โดยเฉพาะในเมืองไทยที่รถติดบ่อย แบบนี้จะใช้แผนที่ ฟังเพลง หรือโทรศัพท์ก็ง่ายไปเลย นอกจาก Nissan March แล้ว รุ่นอื่นๆ ในตลาดอย่าง Toyota Yaris หรือ Honda City ก็เริ่มมีฟีเจอร์นี้กันมากขึ้น แสดงว่าเดี๋ยวนี้คนไทยเน้นความสะดวกสบายด้านคอนเนคติวิตี้พอสมควร แต่ละค่ายระบบอาจใช้งานต่างกันนิดหน่อย แนะนำให้ลองใช้งานจริงก่อนตัดสินใจซื้อจะดีที่สุด เพราะอนาคตไทยกำลังขับเคลื่อนสู่สมาร์ทซิตี้และรถ EV ฟีเจอร์เชื่อมต่อแบบนี้คงกลายเป็นมาตรฐานของรถรุ่นใหม่ๆ แน่นอน
Q
ยางติดรถ Nissan March ใช้ยี่ห้ออะไร?
ในตลาดประเทศไทย Nissan March แต่ละรุ่นและแต่ละออปชันจะมียี่ห้อยางที่ติดรถแตกต่างกันไป โดยส่วนใหญ่จะใช้ยางแบรนด์ญี่ปุ่น เช่น Bridgestone และ Dunlop รวมถึงแบรนด์ที่นิยมในไทยอย่าง Deestone และ Vee Rubber ซึ่งได้รับความเชื่อมั่นในด้านความทนทานและการยึดเกาะถนนเปียก เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นและฝนตกบ่อยของประเทศไทย เวลาซื้อยาง ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าขนาดและสเปกตรงกับที่โรงงานกำหนดไว้ เช่น ขนาดยอดนิยมคือ 165/70 R14 หรือ 175/60 R15 สามารถดูได้จากคู่มือรถหรือตรงสติกเกอร์ที่กรอบประตูด้านคนขับ นอกจากนี้ คนขับในไทยอาจพิจารณาคุณสมบัติเพิ่มเติมอย่างความประหยัดน้ำมันและความเงียบในการขับขี่ เพราะสภาพการจราจรในเมืองค่อนข้างติดขัด ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้จะช่วยให้ขับสบายมากขึ้น หากต้องการเปลี่ยนยาง แนะนำให้เลือกซื้อกับตัวแทนจำหน่ายหรือศูนย์บริการที่เชื่อถือได้ เพื่อความมั่นใจในคุณภาพและบริการหลังการขาย และควรตรวจสอบแรงดันลมและสภาพยางเป็นประจำเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
Q
รถ Nissan March เป็นรถที่ดีหรือไม่? เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
รถยนต์ Nissan March เป็นรถขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย เหมาะสำหรับการเดินทางในเมือง ข้อดีของ March คือ ประหยัดน้ำมันมาก ทั้งรุ่นเครื่องยนต์ 1.2 ลิตรและ 1.5 ลิตร ที่วิ่งในสภาพการจราจรติดขัดของไทยได้อย่างคุ้มค่า ค่าบำรุงรักษาไม่สูง ชิ้นส่วนอะไหล่มีพร้อมและราคาไม่แรง ขนาดตัวรถกะทัดรัด ขับเคลื่อนคล่องตัวในซอยแคบๆของกรุงเทพหรือลานจอดรถที่คับคั่ง ภายในห้องโดยสารออกแบบเรียบง่ายแต่ใช้งานได้จริง มีอุปกรณ์พื้นฐานเช่นแอร์และระบบเสียงที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวัน แถมยังตั้งราคาเหมาะสม ให้ความคุ้มค่า เหมาะกับผู้บริโภคที่ต้องการความประหยัด อย่างไรก็ตาม March ก็มีข้อด้อยบ้าง เช่น พื้นที่เบาะหลังค่อนข้างจำกัด อาจไม่สะดวกสบายในการเดินทางไกล ระบบกันเสียงไม่ค่อยดี เวลาขับความเร็วสูงจะได้ยินเสียงลมค่อนข้างชัด ส่วนระบบความปลอดภัยก็เรียบง่าย รุ่นเริ่มต้นมีแถมแค่ถุงลมนิรภัยและ ABS เท่านั้น ดูจะขาดความทันสมัยเมื่อเทียบกับรถรุ่นใหม่ในระดับเดียวกัน ในตลาดไทย March เหมาะกับหนุ่มสาวออฟฟิศหรือครอบครัวเล็กที่มองหาความประหยัดและใช้งานจริง หากต้องการความสบายหรืออุปกรณ์ครบครันกว่า อาจลองเปรียบเทียบกับ Honda Brio หรือ Toyota Yaris แต่ March ก็ยังคงมีความแข่งแกร่งในเรื่องความทนทานและต้นทุนการใช้ต่ำ แนะนำให้ทดลองขับก่อนซื้อ และพิจารณาตามความต้องการส่วนตัวให้ดี

ข้อดี

น่ารักตามหน้าตา ที่ดึงดูดสนใจผู้คนมาก
รัศมีการเลี้ยวเล็ก สะดวกเวลาขับรถในเมือง
ประหยัดน้ำมันอย่างมาก

ข้อเสีย

พลังงานอ่อนแอไม่ว่าจะขับอยู่ในความเร็วต่ำหรือสูง
การตกแต่งภายในธรรมดาเกินไปไม่มีความสดใหม่
มีเสียงดังขณะขับขี่
เครื่องยนต์สั่น

Q&A ล่าสุด

Q
ราคา VinFast VF Wild เท่าไหร่?
ขณะนี้ VinFast VF Wild ยังไม่ได้ประกาศราคาอย่างเป็นทางการ แต่ด้วยการที่เป็นรถกระบะไฟฟ้าเต็มรูปแบบ คาดว่าตำแหน่งทางการตลาดน่าจะอยู่ในระดับกลางถึงสูง คาดการณ์ว่าราคาน่าจะอยู่ที่ประมาณ 2-3 ล้านบาทในตลาดไทย ซึ่งใกล้เคียงกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันอย่าง Rivian R1T หรือ Ford F-150 Lightning แต่ราคาที่แท้จริงต้องรอการประกาศจากบริษัทอย่างเป็นทางการ ปัจจุบันความสนใจรถไฟฟ้าในไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลก็มีมาตรการสนับสนุนหลายอย่าง เช่น การลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต ซึ่งอาจทำให้ VF Wild มีความน่าสนใจในตลาดไทยมากขึ้น VinFast ในฐานะแบรนด์รถไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่กำลังขยายตลาดไปทั่วโลก ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัยและเทคโนโลยีไฟฟ้า อาจดึงดูดกลุ่มลูกค้าไทยที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมและความล้ำสมัย ส่วนตลาดรถกระบะในไทยนั้นได้รับความนิยมสูงอยู่แล้ว โดยเฉพาะรถกระบะไฟฟ้าที่ผสมผสานความใช้งานได้จริงกับนวัตกรรมใหม่ๆ ทำให้ VF Wild มีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นทางเลือกแทนรถกระบะแบบเดิมๆ ถ้าสนใจรถกระบะไฟฟ้ารุ่นนี้ สามารถติดตามข้อมูลราคาและสเปคที่อัปเดตได้ที่เว็บไซต์ VinFast ประเทศไทยหรือตัวแทนจำหน่ายในท้องถิ่น
Q
VinFast เป็นแบรนด์จีนหรือเปล่า?
VinFast ไม่ใช่แบรนด์รถจากจีน แต่เป็นผู้ผลิตรถยนต์ชื่อดังจากเวียดนาม ภายใต้กลุ่ม Vingroup ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทเอกชนที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2017 VinFast เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมุ่งเน้นการวิจัยและผลิตรถยนต์ทั้งแบบไฟฟ้าและน้ำมัน ปัจจุบันเป็นแบรนด์สำคัญในตลาดเวียดนามและกำลังขยายไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย รุ่นต่างๆ ของ VinFast ถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์เทรนด์สากลและความต้องการของท้องถิ่น เช่น รุ่น VF e34 ที่ออกแบบมาสำหรับตลาดไทย โดยเน้นทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อมและความใช้งานได้จริง เหมาะกับการขับขี่ของคนไทย สำหรับผู้บริโภคไทย VinFast เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในตลาดรถไฟฟ้า ที่มีการพัฒนาสถานีชาร์จและบริการอย่างต่อเนื่อง คาดว่าในอนาคตจะมีการแข่งขันเชิงบวกกับแบรนด์ท้องถิ่นและแบรนด์ต่างชาติในไทย ประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญในอาเซียนที่มีความต้องการรถพลังงานใหม่เพิ่มขึ้น การลงทุนของ VinFast สะท้อนแนวโน้มนี้ได้ชัดเจน ลูกค้าสามารถติดตามรุ่นใหม่ๆ และบริการที่ปรับให้เหมาะกับคนไทยได้ในอนาคต
Q
“VinFast VF Wild วิ่งได้กี่กิโลต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง”
VinFast VF Wild เป็นรถกระบะไฟฟ้าเต็มรูปแบบที่คาดว่าจะมีระยะทางขับขี่สูงสุดประมาณ 500 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP) ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อความต้องการของผู้ใช้ในไทยทั้งการเดินทางในชีวิตประจำวันและการท่องเที่ยวระยะใกล้ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนของไทย ระบบจัดการความร้อนของแบตเตอรี่ที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยรักษาระยะทางขับขี่ให้คงที่ นอกจากนี้ประเทศไทยซึ่งเป็นตลาดเกิดใหม่สำหรับรถไฟฟ้าในอาเซียน กำลังมีการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการชาร์จอย่างรวดเร็ว โดยในเมืองหลักอย่างกรุงเทพฯและเชียงใหม่ มีจำนวนสถานีชาร์จสาธารณะเพิ่มขึ้นทุกปี VF Wild รองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว ที่สามารถชาร์จได้ถึง 80% ในเวลาเพียง 30 นาที เหมาะกับการเดินทางไกลหรือการใช้เพื่อการค้าในไทย อีกทั้งรถกระบะไฟฟ้ายังมีความโดดเด่นในด้านการใช้งานจริงทั้งในภาคเกษตรกรรมและการท่องเที่ยวของไทย เช่น การขนส่งสินค้าหรือการขับขี่บนเส้นทางชนบท ขณะที่เครือข่ายบริการของ VinFast ในไทย (เช่น ความร่วมมือในการติดตั้งสถานีชาร์จ) จะช่วยลดข้อจำกัดในการใช้งานลงไปอีก หากพูดถึงสภาพอากาศในไทยที่มักมีฝนตกบ่อย รถรุ่นนี้คาดว่าจะมีมาตรฐานการกันน้ำระดับ IP67 ทำให้มั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัยของแบตเตอรี่ สำหรับผู้บริโภคไทยที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม รถกระบะไฟฟ้ายังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากรัฐบาล และในระยะยาวแล้วค่าใช้จ่ายจะต่ำกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน อย่างไรก็ตาม ผู้ที่สนใจควรติดตามข้อมูลรายละเอียดสเปคและราคาในประเทศไทยที่จะประกาศในภายภาคหน้า รวมถึงเปรียบเทียบกับรถกระบะไฟฟ้ายี่ห้ออื่นอย่าง BYD SHARK เพื่อเลือกให้เหมาะสมกับความต้องการในการขนส่งและความสะดวกในการชาร์จของแต่ละคน
Q
VinFast VF Wild เป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนหรือเปล่า?
ใช่แล้ว VinFast VF Wild เป็นคอนเซปต์รถกระบะไฟฟ้าแบบเต็มรูปแบบ ใช้ระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าแบบ 100% ที่อาศัยพลังงานจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว ไม่ต้องพึ่งน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์อุตสาหกรรมยานยนต์โลกที่กำลังเปลี่ยนไปสู่รถไฟฟ้า รุ่นนี้ได้รับการออกแบบให้ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีสมัยใหม่กับประโยชน์ใช้สอยที่ตอบโจทย์ตลาดไทย โดยเฉพาะความต้องการด้านสิ่งแวดล้อมและนวัตกรรม ซึ่งตรงกับนโยบายส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลไทยด้วย รถกระบะไฟฟ้าแบบ VF Wild นี้น่าจะได้รับความสนใจไม่น้อย เพราะตลาดไทยมีความต้องการรถกระบะค่อนข้างสูง ส่วนรถกระบะไฟฟ้านอกจากจะใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดีแล้ว ยังช่วยลดต้นทุนการใช้งานและลดการปล่อยมลพิษอีกด้วย ยิ่งเมื่อโครงสร้างพื้นฐานเช่นสถานีชาร์จในไทยพัฒนามากขึ้น ความสะดวกในการใช้รถกระบะไฟฟ้าก็จะเพิ่มตามไปด้วย VinFast ในฐานะแบรนด์รถไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่กำลังขยายตัวในตลาดโลก การนำเสนอ VF Wild ถือเป็นการแสดงศักยภาพในตลาดรถกระบะไฟฟ้า หากในอนาคตมีการผลิตจริง ก็น่าจะเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภคไทย ตอนนี้ตลาดไทยเริ่มเปิดรับรถไฟฟ้ามากขึ้นเรื่อยๆ รุ่นอย่าง VF Wild ก็มีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นทางเลือกทดแทนรถกระบะน้ำมันแบบดั้งเดิมที่ทั้งประหยัดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า
Q
VinFast VF Wild วิ่งได้เร็วสุดกี่กิโลเมตรต่อชั่วโมง?”
VinFast VF Wild เป็นรถกระบะไฟฟ้าแนวคิดที่มาพร้อมสมรรถนะระดับสูง แม้ข้อมูลสเปคเต็มยังไม่เปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่จากประสิทธิภาพของรุ่นอื่นๆ ในตระกูล VF อย่าง VF e34 และ VF 8 ที่เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 5-6 วินาที คาดว่า VF Wild น่าจะมีอัตราเร่งที่แซงหน้ารุ่นเดียวกัน ส่วนความเร็วสูงสุดคาดการณ์ไว้ที่ 180-200 กม./ชม. ซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนไทยทั้งขับขี่ในเมืองและทริปสั้นๆ ด้วยสภาพอากาศร้อนของไทยที่ส่งผลต่อแบตเตอรี่ ระบบระบายความร้อนแบบ Liquid Cooling ของ VinFast ถือเป็นจุดแข็งที่ช่วยจัดการปัญหาได้ดี นโยบายสนับสนุนรถ EV ของรัฐบาลไทย ทั้งลดภาษีนำเข้าและค่าจดทะเบียน ก็ทำให้รถกระบะไฟฟ้าสมรรถนะสูงแบบนี้ดูน่าสนใจขึ้นมาก ต้องยอมรับว่ารถกระบะไฟฟ้ายังเป็นตลาดใหม่ในไทย การขนส่งอาจสู้รุ่นดีเซลไม่ได้เต็มที่ แต่จุดเด่นเรื่อง Zero Emission และเสียงเงียบเหมาะกับกรุงเทพฯ ที่รถติดสุดๆ แนะนำให้จับตาข้อมูลสำคัญที่จะประกาศในอนาคต เช่น ระยะทางต่อการชาร์จและระบบชาร์จเร็ว เพราะเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการขับขี่ในพื้นที่ภูเขาและการเดินทางไกลของไทย
ดูเพิ่มเติม