Q

Honda City 2015 มีรุ่นอะไรบ้าง

ในปี 2015 Honda City ที่วางจำหน่ายในตลาดประเทศไทยมีทั้งหมด 4 รุ่น โดยทุกรุ่นทั้งก็ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC ได้แก่ รุ่น S ระดับเริ่มต้น (เกียร์ธรรมดา) รุ่น SV (เกียร์ CVT พร้อมกุญแจอัจฉริยะ) รุ่น V (มาพร้อมหน้าจอสัมผัสและกล้องถอยหลัง) และรุ่นสูงสุด RS (มีชุดแต่งแอโรไดนามิกและล้อขนาด 16 นิ้ว) รุ่นทั้งหมดมาพร้อมระบบ ECO Assist เพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยที่เน้นเรื่องประหยัดน้ำมัน โดยรุ่น RS ยังเพิ่มความสนุกสนานในการขับขี่ด้วยการติดตั้งพัดเลื่อนเกียร์อีกด้วย จุดที่น่าสนใจคือ Honda City รุ่นปี 2015 นี้ได้ใช้เทคโนโลยี Earth Dreams ล่าสุดจากฮอนด้าในขณะนั้น ด้วยการลดน้ำหนักตัวรถและเพิ่มประสิทธิภาพระบบส่งกำลัง ทำให้สามารถทำระยะทางได้เกิน 15 กม./ลิตร ซึ่งเหมาะมากกับการใช้งานในสภาพการจราจรที่ติดขัดของกรุงเทพฯ ในตลาดรถยนต์ระดับเดียวกันช่วงนั้น มีคู่แข่งอย่าง Toyota Vios และ Mazda 2 ที่ต่างก็ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แต่ Honda City ยังคงความโดดเด่นด้วยพื้นที่ขาเท้าเบาะหลังที่กว้างขวางกว่า และความนิยมในแบรนด์ฮอนด้าที่มีอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้ยังคงความสามารถในการแข่งขันได้ดี นอกจากนี้ อัตราการรักษามูลค่ารถมือสองของฮอนด้า ซิตี้ ยังติดอันดับ Top 3 ในตลาดรถเก๋งระดับ A ของประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
Honda City มี CarPlay ไหม?
รุ่นล่าสุดของ Honda City ในตลาดไทยตอนนี้ มีฟีเจอร์ Apple CarPlay มาให้ใช้กันแล้ว ทำให้ผู้ขับขี่สามารถใช้งานแอปพลิเคชันบน iPhone อย่างเช่น แผนที่การนำทาง เพลง หรือแอปติดต่อสื่อสารต่างๆ ผ่านหน้าจอในรถได้สะดวกขึ้น ช่วยอัพเกรดประสบการณ์การขับขี่โดยเฉพาะในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรค่อนข้างติดขัด ฟังก์ชันนำทางแบบเรียลไทม์ของ CarPlay ถือว่ามีประโยชน์มากๆ อย่างไรก็ตาม ต้องระวังนิดนึงว่า CarPlay อาจจะไม่ได้มีในทุกรุ่นหรือทุกปีผลิตนะครับ แนะนำให้สอบถามรายละเอียดกับทางโชว์รูมอีกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อ นอกจาก CarPlay แล้ว Honda City ยังรองรับ Android Auto สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนระบบ Android ด้วยนะ ถือว่าให้ประสบการณ์การเชื่อมต่อที่คล้ายกัน ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เทคโนโลยีการเชื่อมต่อในรถกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่คนไทยให้ความสำคัญเวลาซื้อรถ ยี่ห้อต่างๆ จึงพยายามอัพเกรดฟีเจอร์ส่วนนี้เพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านความสะดวกและความอัจฉริยะของผู้บริโภค Honda City ในฐานะรถซีดานคอมแพคต์ยอดนิยมของตลาดไทย การที่ Honda คอยอัปเดตฟีเจอร์เทคโนโลยีแบบนี้ ก็แสดงให้เห็นว่าฮอนด้าให้ความสำคัญกับความต้องการของคนไทยจริงๆ ครับ
Q
วิธีสตาร์ทรถ Honda City ด้วยกุญแจ
ก่อนจะสตาร์ทรถ Honda City ต้องแน่ใจว่าเกียร์อยู่ตำแหน่ง P แล้ว จากนั้นใส่กุญแจเข้าไปในช่องสตาร์ท เหยียบแป้นเบรกสำหรับเกียร์ออโต้ หรือแป้นคลัทช์สำหรับเกียร์ธรรมดา แล้วบิดกุญแจตามเข็มนาฬิกาไปที่ตำแหน่ง "START" พอเครื่องยนต์ติดก็ปล่อยกุญแจได้เลย ในสภาพอากาศร้อนของไทย แนะนำให้วอร์มเครื่องสัก 30 วินาทีให้น้ำมันเครื่องไหลเวียนก่อนออกรถ จะช่วยถนอมเครื่องดีครับ ถ้าเป็นรุ่นที่ใช้สมาร์ทคีย์ แค่ถือกุญแจเข้าไปในรถ แล้วเหยียบเบรกกดปุ่มสตาร์ทเครื่องก็ได้แล้ว ใส่ใจกับการตรวจสอบระดับแบตเตอรี่ที่สำคัญอย่างสม่ำเสมอในการใช้งานประจำวันเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในการเริ่มต้นเนื่องจากไฟฟ้าต่ำ ในฤดูฝนของประเทศไทย หากพบระบบจุดระเบิดที่ชื้นและไม่สามารถสตาร์ทได้ คุณสามารถลองใช้ฟังก์ชั่นกุญแจรีโมทเพื่อปลดล็อก/ล็อกประตูหลายครั้งก่อนเพื่อให้ระบบจดจําสัญญาณใหม่ นอกจากนี้ยังแนะนำให้ตรวจสอบหน้าสัมผัสสวิตช์จุดระเบิดทุก 2 ปีสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงเช่นกรุงเทพมหานครมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดการเกิดออกซิเดชันของหน้าสัมผัสส่งผลกระทบต่อความไวในการเริ่มต้น
Q
ยางรถยนต์สำหรับ Honda City รุ่นปี 2021 มีขนาดเท่าไหร่?
ยางมาตรฐานของ Honda City รุ่นปี 2021 ในตลาดไทยมีขนาด 185/55 R16 ซึ่งเป็นขนาดที่ตอบโจทย์ทั้งความนุ่มสบายและความคล่องตัว เหมาะสมกับสภาพถนนทั้งในเมืองและชานเมืองของไทย โดยตัวเลข 185 หมายถึงความกว้างของยางมีหน่วยเป็นมิลลิเมตร ส่วน 55 คืออัตราส่วนความสูงของแก้มยางต่อความกว้างยาง (ร้อยละ 55) และ R16 หมายถึงล้อแม็กซ์ขนาด 16 นิ้ว สำหรับสภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก แนะนำให้เลือกยางแบรนด์ดังอย่างบริจสโตนหรือมิชลินที่มีคุณสมบัติการรีดน้ำดีและทนความร้อนสูง ซึ่งทั้งสองแบรนด์มีรุ่นที่เหมาะกับซิตี้โดยเฉพาะ ข้อควรระวังคือแม้การอัพเกรดไปใช้ยางที่กว้างขึ้นจะช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะแต่ก็อาจทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้นและอาจส่งผลต่อความแม่นยำของมาตรวัดระยะทาง ดังนั้นควรปรึกษาช่างผู้ชำนาญก่อนตัดสินใจเปลี่ยน นอกจากนี้กฎหมายไทยกำหนดให้ดอกยางต้องมีความลึกไม่ต่ำกว่า 1.6 มม. และควรตรวจสอบสภาพดอกยางกับความดันลมยางเป็นประจำ (ปกติลมยางหน้าอยู่ที่ 32 psi ลมยางหลัง 30 psi) โดยเฉพาะก่อนเดินทางไกลหรือช่วงเข้าหน้าฝนเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
Q
Honda City 2021 ประหยัดน้ำมันหรือไม่?
รถ Honda City รุ่นปี 2021 ถือว่าประหยัดน้ำมันมากๆ โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในเมืองไทยและการขับขี่ระยะไกล รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร i-VTEC แบบ CVT นั้นวิ่งได้เฉลี่ย 17-18 กิโลเมตรต่อลิตร ส่วนรุ่นไฮบริด e:HEV นั้นยิ่งประหยัดขึ้นไปอีก ทำได้ถึง 27-28 กิโลเมตรต่อลิตร ช่วยลดค่าน้ำมันได้อย่างชัดเจน รถรุ่นนี้ขายดีในไทยไม่ใช่แค่เพราะความประหยัด แต่ยังเพราะขนาดตัวรถที่กำลังดี ขับลุยในซอยแคบๆ ในกรุงเทพหรือจอดก็ง่าย แถมความทนทานของ Honda ก็ผ่านการทดสอบในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยมานานแล้ว ที่สำคัญอย่าลืมว่าตัวเลขประหยัดน้ำมันที่ทางบริษัทประกาศอาจแตกต่างจากการใช้งานจริง ซึ่งขึ้นอยู่กับสไตล์การขับ การเปิดแอร์ และสภาพถนนด้วย แนะนำให้คนไทยหมั่นดูแลรถตามกำหนดและขับขี่อย่างนุ่มนวลเพื่อรักษาประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน ส่วนเรื่องบริการหลังการขายก็ไม่ต้องห่วง เพราะ Honda มีเครือข่ายบริการครอบคลุมทั่วไทย พร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างมืออาชีพ
Q
คะแนนความปลอดภัยของ Honda City 2021 คือเท่าไหร่?
รถ Honda City รุ่นปี 2021 ในตลาดไทยทำคะแนนด้านความปลอดภัยได้ดีมาก โดยเวอร์ชันผลิตไทยผ่านการทดสอบชนจากอาเซียน NCAP และได้คะแนนเต็ม 5 ดาว ส่วนหนึ่งมาจากระบบ Honda SENSING ที่มาพร้อมฟีเจอร์ช่วยเหลือผู้ขับขี่อย่างระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติและระบบช่วยรักษาระยะเลนรถ รวมถึงถุงลมนิรภัย 6 ใบ ระบบควบคุมเสถียรภาพรถ ที่ออกแบบมาเพื่อรับมือกับสภาพถนนทั้งในเมืองและชนบทของไทยที่ค่อนข้างซับซ้อน ต้องบอกว่ามาตรฐานการทดสอบของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ NCAP นั้นใกล้เคียงกับสภาพการจราจรจริงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีการเพิ่มการประเมินกรณีชนกับรถจักรยานยนต์ซึ่งสำคัญมากสำหรับไทยที่มีรถมอเตอร์ไซค์หนาแน่น เวลาเลือกซื้อรถนอกจากดูเรตติ้งดาวแล้ว ควรพิจารณาว่าฟีเจอร์ปลอดภัยไหนตรงกับความต้องการใช้งาน เช่น ถ้าขับทางไกลบ่อยก็เน้นระบบช่วยเหลือผู้ขับ ขณะที่ขับในเมืองอาจดูผลทดสอบการชนความเร็วต่ำ ส่วนสภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุกก็ส่งผลต่อความปลอดภัย ควรตรวจสอบยางและระบบเบรกเป็นประจำเพื่อให้ระบบความปลอดภัยทำงานได้เต็มประสิทธิภาพตลอดเวลา
Q
เครื่องยนต์ของ Honda City 2021 คืออะไร?
รถยนต์ Honda City รุ่นปี 2021 ที่วางขายในตลาดไทยมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร VTEC Turbo 3 สูบเทอร์โบชาร์จ และเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC 4 สูบแบบอัตโนมัติ รุ่น 1.0T ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า คู่กับเกียร์ CVT ที่เน้นประหยัดน้ำมันสุดๆ ส่วนรุ่น 1.5L ยังคงใช้เทคโนโลยี i-VTEC แบบคลาสสิกของ Honda เหมาะกับคนที่ชอบความลื่นไหลและดูแลง่าย ในสภาพอากาศร้อนๆ และถนนซับซ้อนของไทย เครื่องยนต์ทั้งสองแบบถูกปรับแต่งมาเฉพาะให้การระบายความร้อนและการทนอุณหภูมิสูงทำได้ดีเยี่ยม พร้อมผ่านมาตรฐานไอเสีย Euro 5 ที่เป็นไปตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมไทย ที่น่าสนใจคือเครื่องยนต์ของ Honda City ใช้เทคโนโลยีลดแรงเสียดทาน ช่วยลดการกินน้ำมันได้ชัดเจน โดยเฉพาะเวลาติดรถติดบนถนนไทยที่เจอกันบ่อยๆ แถมยังมีโหมด ECON ช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกขึ้นไป ทำให้รถรุ่นนี้ยังคงความโดดเด่นในตลาดรถเก๋งคอมแพคต์ของไทย เหมาะทั้งขับขี่ในเมืองและใช้เป็นรถครอบครัว
Q
ฮอนด้าซิตี้ 2024 มีความจุซีซีเท่าไหร่
รถฮอนด้าซิตี้รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ 2 แบบ คือเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตรและเครื่องยนต์แบบธรรมดา 1.5 ลิตร โดยเครื่องเทอร์โบ 1.0 ลิตรมีความจุกระบอกสูบ 998 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ส่วนเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรแบบธรรมดามีความจุ 1,498 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า เครื่องยนต์ทั้งสองแบบถูกออกแบบมาให้สมดุลระหว่างประหยัดน้ำมันและสมรรถนะการขับขี่ เหมาะกับทั้งการใช้งานในเมืองและการเดินทางไกลในไทย ฮอนด้าซิตี้เป็นที่นิยมในตลาดไทยเสมอมาด้วยความน่าเชื่อถือ ค่าซ่อมบำรุงไม่แพง และประหยัดน้ำมัน ส่วนรุ่นปี 2024 ยังเพิ่มเทคโนโลยีความปลอดภัย Honda SENSING เข้ามา ทำให้ยิ่งโดดเด่นขึ้น สำหรับลูกค้าชาวไทยที่กำลังตัดสินใจเลือกเครื่องยนต์ แนะนำว่าเครื่องเทอร์โบ 1.0 ลิตรเหมาะกับคนที่เน้นประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในขณะที่เครื่อง 1.5 ลิตรแบบธรรมดาจะให้ความรู้สึกการขับขี่ที่ลื่นไหลมากกว่า ทั้งสองแบบตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้ดีอยู่แล้ว แค่เลือกให้เหมาะกับสไตล์การขับและงบประมาณของคุณก็พอ
Q
คะแนนความปลอดภัยของ Honda City 2024 คืออะไร
รถฮอนด้าซิตี้รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยแสดงผลงานด้านความปลอดภัยได้ดีเยี่ยม ด้วยระบบ Honda SENSING ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นช่วยเหลือผู้ขับขี่อย่างครบครัน ทั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบช่วยรักษาเลน และระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยแบบพาสซีฟที่ครบถ้วน เช่น ถุงลมนิรภัย 6 จุด ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว และระบบเบรก ABS ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้รถรุ่นนี้มีความโดดเด่นในกลุ่มรถระดับเดียวกัน จากการทดสอบตามมาตรฐาน NCAP ของไทย คาดว่ารถรุ่นนี้จะได้คะแนนความปลอดภัยระดับ 5 ดาว เหมาะสมกับสภาพถนนทั้งในเมืองและชนบทของไทยที่หลากหลาย สำหรับผู้บริโภคชาวไทย นอกจากเรื่องความปลอดภัยแล้ว ยังควรพิจารณาค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและค่าประกันรถด้วย เพราะเครือข่ายบริการหลังการขายของฮอนด้าในไทยมีความพร้อมสูง มีอะไหล่ครบครัน ทำให้ค่าใช้จ่ายในการใช้งานระยะยาวค่อนข้างต่ำ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่คนไทยมักคำนึงถึงเมื่อเลือกซื้อรถเช่นกัน
Q
วิธีเปิดส่วนหน้าของรถ Honda Civic 2024
ก่อนจะเปิดฝากระโปรงหน้ารุ่นฮอนด้าซิวิค 2024 สิ่งแรกที่ต้องทำคือนั่งในที่นั่งคนขับ แล้วมองหาคันปลดล็อกฝากระโปรงหน้า ซึ่งจะมีสัญลักษณ์รูปเครื่องยนต์อยู่ด้านล่างซ้ายของพวงมาลัย ดึงคันนี้เบาๆจนได้ยินเสียงฝากระโปรงหน้ายกขึ้น จากนั้นเดินไปที่หน้าตัวรถ ใช้มือสอดเข้าไปในช่องกลางฝากระโปรง แล้วหาล็อกนิรภัยตัวที่สองให้เจอ ให้ดันล็อกนี้ไปทางซ้ายหรือขวาพร้อมกับยกฝากระโปรงขึ้น สำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย แนะนำให้ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นและน้ำมันเบรกในห้องเครื่องเป็นประจำ เพื่อให้รถทำงานได้ปกติ และควรทำความสะอาดห้องเครื่องด้วย ระวังอย่าให้ใบไม้หรือเศษอุดตันท่อระบายน้ำ ถ้าต้องขับในพื้นที่ติดขัดอย่างกรุงเทพฯ บ่อยๆ ควรเช็กด้วยว่าฟิลเตอร์อากาศอุดตันฝุ่นหรือไม่ เพราะจะช่วยรักษาสมรรถนะเครื่องยนต์และประหยัดน้ำมันได้ ส่วนเวลาปลดล็อกฝากระโปรงถ้าได้ยินเสียงเฮียกที่บานพับ ให้ทาจาระบีเล็กน้อย และเนื่องจากอากาศไทยร้อนจัดทำให้ยางซีลเสื่อมสภาพเร็ว ควรตรวจสอบความแน่นของซีลทุกๆครึ่งปี
Q
ความจุของกระโปรงท้ายรถฮอนด้าซิตี้ 2024 คือเท่าไร
รถฮอนด้า ซิตี้ รุ่นปี 2024 ที่วางขายในตลาดไทยมีปริมาตรกระโปรงหลังขนาด 536 ลิตร ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันของครอบครัวหรือการท่องเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์ สามารถบรรจุกระเป๋าเดินทางหลายใบหรือของช้อปปิ้งได้อย่างสบายๆ เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนไทยที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเองหรือช้อปปิ้งบ่อยๆ การออกแบบกระโปรงหลังทำได้อย่างสมเหตุสมผล มีช่องเปิดที่กว้าง ทำให้สะดวกในการลำเลียงสิ่งของ นอกจากนี้เบาะหลังยังสามารถพับลงได้ตามสัดส่วน ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ในสภาพอากาศของไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก กระโปรงหลังของซิตี้ยังมีการป้องกันการรั่วซึมที่ดี ช่วยปกป้องสิ่งของจากความชื้นหรือความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกันแล้ว ปริมาตรกระโปรงหลังขนาดนี้จัดอยู่ในระดับกลางถึงดี และเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่างโตโยต้า ยาริส แอททีฟแล้วยังได้เปรียบอยู่บ้าง สำหรับผู้ใช้งานไทยที่มักต้องพกพาสิ่งของจำนวนมาก พื้นที่กระโปรงหลังของซิตี้ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่值得พิจารณา แนะนำให้ไปทดลองบรรจุของที่ตัวแทนจำหน่ายด้วยตัวเองเพื่อความสะดวก และควรเปรียบเทียบกับการออกแบบกระโปรงหลังของรถรุ่นอื่นๆ ในราคาใกล้เคียงกัน เพื่อเลือกรถที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ดีที่สุด

ข้อดี

พื้นที่ภายในรถกว้างขวางและสบาย
ระบบดีเซลที่มีประสิทธิภาพและเต็มไปด้วยเทคโนโลยี รุ่น RS ยอดนิยมมีชุดสไตล์กีฬารอบคัน RS ซึ่งประกอบด้วยกริดหน้าของรถสีดำและกระจกข้าง กันชนหน้าสไตล์กีฬา ไฟหน้า LED ที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด พร้อมกับไฟวิ่งกลางวันและไฟหมอก LED
ภายในรถเรือนสวยงามและมีอุปกรณ์ครบครัน มีบรรยากาศกีฬาในรถ มีหน้าจอวิทยุชั้นสูงที่สามารถสัมผัสได้ 8 นิ้ว สนับสนุน Apple CarPlay และมีระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT
เครื่องยนต์ที่แข็งแรง DOHC VTEC TURBO ขนาด 1.0 ลิตรแบบ 3 ลูกสูบ 12 วาล์ว ที่ 5500 รอบ/นาทีมีกำลังสูงสุดถึง 122 ม้า ซึ่งเป็นค่าที่สุดในหมวดเดียวกัน

ข้อเสีย

ความสบายและความสะดวกสบายมีข้อจำกัด
ประสิทธิภาพที่ความเร็วต่ำน้อย
ราคาสูงถึง 739000 บาท ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน และคู่แข่งมีระบบที่ไม่เยี่ยมเท่า City
ระบบความปลอดภัยไม่พอ ในด้านความปลอดภัย City แย่กว่าคู่แข่ง รุ่นใหม่ของ City ไม่มีชุด Honda Sensing เท่าที่มีเพียงระบบความปลอดภัยพื้นฐาน

Q&A ล่าสุด

Q
อัตราประหยัดน้ำมันของ Toyota Sienna ปี 2022 คือเท่าไหร่?
รถ Toyota Sienta รุ่นปี 2022 เป็น MPV ไฮบริดที่ประหยัดน้ำมันมากๆ มาพร้อมระบบไฮบริดที่รวมเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 4 สูบกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยแค่ 5.7-5.9 ลิตร/100 กม. (อาจแตกต่างบ้างตามสภาพการขับขี่และรุ่นย่อย) รถคันนี้เหมาะมากทั้งสำหรับครอบครัวและรับรองลูกค้า เพราะระบบไฮบริดช่วยประหยัดน้ำมันได้ชัดเจนในเมืองที่ต้องหยุด-เริ่มบ่อย แถมยังออกตัวนุ่มๆด้วยแรงบิดจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ตอบสนองทันที แต่ต้องระวังหน่อยว่าอากาศร้อนๆอาจทำให้แบตเตอรี่ระบายความร้อนได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้สิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้นนิดหน่อย แนะนำให้ตรวจเช็คระบบแอร์และระบบระบายความร้อนของแบตเตอรี่เป็นประจำ ส่วนเรื่องพื้นที่ภายในก็จัดว่ายอดเยี่ยมเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆในระดับเดียวกัน โดยเฉพาะเบาะแถวกลางที่เลื่อนไปมาได้ไกลถึง 63.5 ซม. ปรับได้ทั้งระยะนั่งและพื้นที่เก็บของ สำหรับใครที่กำลังมองหา MPV ไฮบริด อย่าลืมตรวจสอบสิทธิ์ลดภาษีสำหรับรถพลังงานสะอาดในพื้นที่คุณด้วยนะ จะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น เวลาขับก็ลองขับแบบเนียนๆ ใช้โหมด EV ให้เป็นประโยชน์ แค่นี้ก็ช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้เต็มประสิทธิภาพแล้ว
Q
วิธีการเปิดใช้ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) ในรถ Toyota Sienna รุ่นปี 2022
การตั้งค่าครูซคอนโทรลใน Toyota Sienna รุ่นปี 2022 นั้นง่ายมากครับ ขั้นแรกให้มั่นใจว่าขับรถด้วยความเร็วเกิน 40 กม./ชม. ก่อน จากนั้นกดปุ่ม CRUISE ที่อยู่ด้านขวาของพวงมาลัย จะเห็นไฟสัญญาณครูซสีขาวขึ้นที่หน้าปัด เมื่อถึงความเร็วที่ต้องการ ก็แค่ดันก้าน SET/- ลงไป ระบบจะจับความเร็วปัจจุบันไว้ให้อัตโนมัติ เวลาใช้บนทางด่วนในกรุงเทพฯ แนะนำให้ระวังการเปลี่ยนแปลงของปริมาณรถนะครับ ถ้าต้องการปรับความเร็วนิดหน่อยก็ดันก้าน SET/+ หรือ SET/- ขึ้นลงได้ แต่ละครั้งจะปรับประมาณ 1.6 กม./ชม. กรณีต้องการเร่งแซงก็เหยียบคันเร่งได้เลย พอปล่อยคันเร่งระบบจะกลับไปใช้ความเร็วเดิมที่ตั้งไว้ แต่ถ้าเหยียบเบรกหรือกดปุ่ม CANCEL ระบบจะหยุดทำงานชั่วคราว ข้อสำคัญคือ Sienna รุ่นนี้ใช้ระบบครูซพื้นฐานครับ แตกต่างจาก Advanced Adaptive Cruise (DRCC) ที่จะไม่ตามหรือเบรกโดยอัตโนมัติดังนั้นควรระมัดระวังเมื่อใช้งานในส่วนที่พลุกพล่านอย่างทางหลวงหมายเลข 7 ต้องคอยระวังให้ดี นอกจากนี้ควรตรวจสอบสวิตช์เบรกกับเซนเซอร์วัดความเร็วล้อเป็นประจำ เพราะถ้าชำรุดอาจทำให้ระบบครูซทำงานผิดปกติได้ ถ้าเห็นไฟครูซสีเขาวับๆ ที่หน้าปัด แสดงว่าต้องนำรถเข้าศูนย์บริการแล้ว การใช้ครูซคอนโทรลให้ถูกวิธีนอกจากจะช่วยลดความเหนื่อยล้าเวลาเดินทางไกลแล้ว ยังช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกประมาณ 5-8% ซึ่งเป็นเรื่องที่ควรสนใจมากในยุคน้ำมันแพงแบบนี้ครับ
Q
“คะแนนความปลอดภัยของ Toyota Sienna 2022 คืออะไร?”
รถ Toyota Sienta รุ่นปี 2022 มีความโดดเด่นในเรื่องความปลอดภัย โดยได้รับรางวัล "Top Safety Pick+" จาก IIHS ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดด้านความปลอดภัย และยังได้คะแนนเต็ม 5 ดาวจากการทดสอบของ NHTSA อีกด้วย ระบบ Toyota Safety Sense 2.0 ที่มาพร้อมกับรถรุ่นนี้เป็นมาตรฐาน รวมถึงฟังก์ชั่นต่างๆ เช่น ระบบป้องกันการชน ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบเรดาร์ ระบบแจ้งเตือนเมื่อออกนอกเลน ซึ่งระบบเหล่านี้ก็มีให้ในตลาดท้องถิ่นเช่นกัน สำหรับรุ่นไฮบริด แบตเตอรี่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อความปลอดภัยในกรณีเกิดการชน พร้อมกับถุงลมนิรภัยทั้งหมด 10 ตัว ที่ต้องระวังคือ การใช้งานในสภาพอากาศร้อนเป็นเวลานานอาจส่งผลต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่ แนะนำให้ตรวจสอบระบบระบายความร้อนเป็นประจำ ส่วนในช่วงฤดูฝนควรดูแลความสะอาดของเซ็นเซอร์เรดาร์เพื่อให้ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รถรุ่นนี้ยังมีจุดเด่นที่พื้นที่กว้างขวางและประตูสไลด์อัตโนมัติ ที่เหมาะสำหรับการเดินทางพร้อมครอบครัว แต่ก่อนตัดสินใจซื้อแนะนำให้ทดลองขับเพื่อสัมผัสมุมมองการขับขี่และความไวของระบบเบรกอัตโนมัติด้วยตัวเอง
Q
รถ Toyota Hiace ปี 2022 ใช้น้ำมันเครื่องชนิดใด?
สำหรับรถ Toyota Hiace ปี 2022 รุ่น 2.8 ลิตรเครื่องดีเซล (1GD-FTV) แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องชนิดสังเคราะห์เต็มรูปแบบ เกรด 0W-20 หรือ 5W-30 ที่ได้มาตรฐาน API SN ขึ้นไป โดยเลือกความหนืดให้เหมาะสมกับสภาพอากาศและการใช้งานในพื้นที่ของคุณ ถ้าอยู่ในเขตอากาศร้อนหรือใช้งานหนักบ่อยๆ แนะนำให้เลือก 5W-30 เพื่อการปกป้องเครื่องยนต์ในอุณหภูมิสูงที่ดีกว่า เครื่องยนต์ดีเซลรุ่นนี้ต้องการน้ำมันเครื่องที่มีคุณสมบัติในการทำความสะอาดและป้องกันการสึกหรอที่ดีเป็นพิเศษ ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือน พร้อมกับเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องแท้จาก Toyota เพื่อประสิทธิภาพการกรองที่ดีที่สุด แต่ถ้าขับในเมืองแบบสตาร์ท-สต็อตบ่อยๆ เช่นในกรุงเทพฯ อาจต้องเปลี่ยนถี่ขึ้นเป็นทุก 8,000 กิโลเมตร เพราะการใช้งานแบบนี้ทำให้น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ระวังอย่าใช้น้ำมันเครื่องที่มีความหนืดสูงเกินไปเช่น 10W-40 เพราะอาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายตอนสตาร์ทเครื่องโดยเฉพาะในเขตภาคเหนือที่อากาศเย็นตอนเช้า แนะนำให้ซื้อน้ำมันเครื่องแท้จากศูนย์ Toyota ซึ่งมี Toyota Genuine Oil ที่ออกแบบมาสำหรับสภาพอากาศร้อนโดยเฉพาะ และควรตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องเป็นประจำเพราะเครื่องดีเซลมักมีการสิ้นเปลืองน้ำมันเครื่องเล็กน้อยตามปกติ ถ้าแต่งเครื่องเพิ่มเทอร์โบหรือขับทางไกลบ่อยๆ อาจพิจารณาน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ประสิทธิภาพสูงมาตรฐาน ACEA C3 แต่ต้องมั่นใจว่าผ่านการรับรองมาตรฐาน MB ของ Toyota
Q
วิธีการสตาร์ทรถ Toyota 2022 จากระยะไกลคืออะไร?
ถ้าจะรีโมตสตาร์ทรถ Toyota รุ่นปี 2022 ก่อนอื่นต้องเช็คว่ารถคุณมีระบบกุญแจอัจฉริยะและฟังก์ชันรีโมตสตาร์ท ซึ่งปกติแล้วฟีเจอร์พวกนี้จะมาเป็นมาตรฐานในรุ่นที่ออปชั่นสูง เวลาใช้งานให้กดปุ่มล็อกรถบนกุญแจก่อน แล้วตามด้วยปุ่มรีโมตสตาร์ท (ที่มักมีสัญลักษณ์ลูกศรวงกลม) สองครั้งติดกันภายใน 2 วินาที เครื่องยนต์จะติดพร้อมกับระบบแอร์ที่เปิดอัตโนมัติ แบบนี้เหมาะมากสำหรับวันร้อนๆ ที่อยากให้รถเย็นก่อนขึ้นรถ ส่วนถ้าใช้แอปบนมือถืออย่าง Toyota Remote Connect ต้องดาวน์โหลดแอปแล้วผูกบัญชีกับรถก่อน ถึงจะกดปุ่มสตาร์ทรถผ่านแอปได้ แถมยังเช็คสถานะรถหรือตั้งอุณหภูมิแอร์เพิ่มเติมได้อีกด้วย ข้อควรระวังคือหลังรีโมตสตาร์ทรถจะอยู่ในโหมดป้องกันขโมย ยังขับเคลื่อนไม่ได้ ต้องถือกุญแจเข้าไปในรถ แล้วเหยียบเบรกพร้อมกดปุ่มสตาร์ทถึงจะเข้าเกียร์ได้ บางรุ่นอาจใช้งานต่างกันไปตามสเปคหรือปัญหาสัญญาณเครือข่าย แนะนำให้อ่านคู่มือรถหรือปรึกษาโชว์รูมเพื่อความชัดเจน อีกอย่างฟังก์ชันรีโมตสตาร์ทด้วยกุญแจจะมีระยะทำงานประมาณ 30-50 เมตร ส่วนแอปมือถือจะใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตจึงควบคุมได้ไกลกว่า ถ้าใช้งานไม่ได้ลองเช็คแบตเตอรี่กุญแจหรือสัญญาณเน็ตก่อน ถ้ายังไม่แก้ไขควรไปที่ศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็คระบบเพิ่มเติม
ดูเพิ่มเติม