Q

ora แมวดีชาติอะไร

ไม่ค่อยเข้าใจความหมายเฉพาะของ “ora แมวดีชาติอะไร” ที่คุณพูดถึง หากคุณหมายถึงรถยนต์ของแบรนด์ ORA ในตลาดของประเทศไทย รถยนต์เฉพาะของ ORA ได้รับความสนใจเนื่องจากมีราคาที่คุ้มค่าและการตั้งค่าที่ดี ตัวอย่างเช่น ORA Good Cat มีการออกแบบที่ทันสมัย สมรรถนะการขับขี่และการออกแบบที่สามารถตอบสนองความต้องการในการเดินทางในเมืองประจำวัน
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Ora Good Cat มีอะไรบ้าง?
แม้ Ora Good Cat จะมีจุดเด่นหลายด้าน แต่ก็มีข้อด้อยบางประการที่ควรพิจารณาเช่นกัน เริ่มจากพื้นที่เก็บของด้านหลังที่ค่อนข้างเล็ก ถ้าขับรถออกทริปกับครอบครัวแล้วต้องขนของเยอะ อาจรู้สึกว่าไม่เพียงพอ รถรุ่นนี้จะเหมาะกับการเดินทางคนเดียวมากกว่า เบาะหลังนั่งไม่ค่อยสบายนัก โดยเฉพาะเวลาเจอถนนขรุขระ เพราะขนาดตัวรถและระบบช่วงล่างมีผลต่อความนุ่มนวลของการโดยสาร นอกจากนี้ ระบบเบรกบางครั้งจะมีเสียงดังขณะใช้งาน ซึ่งอาจสร้างความรำคาญ ระบบอินโฟเทนเมนต์ในรถก็ยังไม่ค่อยลื่นไหล การใช้งานยุ่งยาก ผู้ช่วยเสียงบางทีก็ค้างหรือเด้งขึ้นมาเองโดยไม่มีเหตุผล อีกทั้งยังมีข้อจำกัดในเรื่องความสะดวก เช่น ประตูฝั่งคนขับเท่านั้นที่สามารถปลดล็อกแยกได้ เวลาพาเด็กขึ้นรถอาจไม่สะดวก เบาะปรับไฟฟ้าก็มีแค่ฝั่งคนขับ บางจุดของรถยังให้วัสดุที่ดูเป็นพลาสติกเกินไป เช่น ที่ปัดน้ำฝน และในวันที่ฝนตกหนัก ความเร็วสูงสุดของที่ปัดน้ำฝนอาจไม่เพียงพอ ด้านหลังไม่มีช่องแอร์หรือไฟในห้องโดยสาร การซับแรงกระแทกของช่วงล่างยังทำได้แค่ระดับทั่วไป และเพลงในระบบก็มีให้เลือกไม่มากนัก โดยรวมคือยังมีหลายจุดที่ควรปรับปรุงสำหรับการใช้งานที่สมบูรณ์แบบมากขึ้นค่ะ
Q
ORA Good Cat อยู่ในกลุ่มรถ Segment ไหน?
ORA Good Cat จัดอยู่ในกลุ่มรถ B-Segment หรือที่เราเรียกกันง่ายๆ ว่า “รถขนาดเล็ก” ซึ่งรถประเภทนี้จะมีขนาดตัวถังที่เล็ก กะทัดรัด คล่องตัว เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นถนนแคบๆ หรือที่จอดรถจำกัดก็เอาอยู่ สำหรับ ORA Good Cat ตัวรถมีความยาว 4,254 มม. กว้าง 1,848 มม. สูง 1,596 มม. และระยะฐานล้อ 2,650 มม. ซึ่งถือว่าขนาดกำลังดี ใช้งานง่ายในชีวิตประจำวัน ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่มีระยะทางขับขี่สูงสุด 480 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง และอัตราการใช้พลังงานเฉลี่ยอยู่ที่ 11.9 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อ 100 กิโลเมตร ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เหมาะมากกับคนที่ใช้รถในเมืองเป็นประจำ ทั้งประหยัดทั้งใช้งานได้จริงค่ะ
Q
มูลค่าการขายต่อของ Ora Good Cat ประมาณเท่าไหร่?
ราคาขายต่อของรถยนต์มือสองอย่าง Ora Good Cat นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นปีรุ่น ระยะทางที่ใช้งาน สภาพรถโดยรวม และความต้องการในตลาด โดยทั่วไปแล้ว รถไฟฟ้าแบบ Ora Good Cat มักจะได้รับผลกระทบจากสภาพแบตเตอรี่และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ล่าสุด ราคาเริ่มต้นของรถมือสองรุ่น Ora Good Cat GT อยู่ที่ 65,520 บาท ส่วนรุ่นมาตรฐาน Ora Good Cat เริ่มต้นที่ 50,000 บาท แต่นี่เป็นแค่ราคาเบื้องต้นเท่านั้น ราคาจริงอาจแตกต่างกันไป เวลาขายรถ Ora Good Cat มือสอง ถ้ารถได้รับการดูแลดี ใช้งานน้อย และมีเอกสารครบถ้วน ก็มีโอกาสได้ราคาดี นอกจากนี้ ถ้ารุ่นนั้นมีฟีเจอร์พิเศษหรือเป็นที่นิยมในตลาด ก็อาจช่วยเพิ่มมูลค่ารถได้ ในทางกลับกัน ถ้ามีการอัปเกรดสำคัญในรุ่นใหม่ๆ หรือตลาดรถไฟฟ้ามีการเปลี่ยนแปลง ก็อาจทำให้ราคาขายต่อลดลงได้
Q
Ora Good Cat มีกี่ซีซี
คำถามและคำตอบนี้ยกเลิกแล้ว ไม่ต้องแปลหรือนำขึ้นแสดง
Q
PCD ของล้อ ORA Good Cat คือขนาดเท่าไหร่?
ขนาด PCD (ระยะรูดุมล้อ) ของรถ ORA Good Cat คือ 5×114.3 มม. หมายความว่ามีรูน็อต 5 รู วางเรียงบนวงกลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 114.3 มม. ซึ่งเป็นขนาดที่ใช้กันทั่วไปในรถญี่ปุ่นหลายรุ่น เช่น Honda City, Toyota Yaris และ Nissan Almera ที่ผลิตขายในไทย ทำให้การหาล้อแม็กรุ่นอื่นๆ มาเปลี่ยนหรือแต่งล้อในไทยทำได้ง่าย มีตัวเลือกเยอะ อย่างไรก็ตาม เวลาจะเปลี่ยนล้อ ควรดูนอกจาก PCD แล้ว ยังต้องเช็กขนาดรูดุมกลาง (CB) และค่า Offset (ET) ให้ตรงด้วย โดย ORA Good Cat มีขนาดรูดุมกลางประมาณ 63.4 มม. (แนะนำให้เช็กกับรถจริงอีกครั้งเพื่อความชัวร์) ควรเลือกร้านล้อที่ได้มาตรฐาน ให้ช่างช่วยลองใส่จริงก่อนซื้อ เพื่อให้แน่ใจว่าใส่ได้พอดี ไม่สั่น ในช่วงหน้าฝนของไทยที่ถนนลื่น ควรเลือกยางที่มีประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนดีเพื่อความปลอดภัย และถ้าคิดจะเปลี่ยนล้อใหม่ แนะนำให้ใช้ล้อที่ผ่านการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก. หรือ TISI) และขนาดต้องตรงกับที่จดทะเบียนไว้ เพื่อไม่ให้มีปัญหาเวลาไปตรวจสภาพรถหรือเคลมประกันค่ะ
Q
รถ ORA Good Cat รองรับระบบ Apple CarPlay ไหม?
รถ ORA Good Cat รองรับระบบ Apple CarPlay ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ iPhone ได้อย่างลงตัว แค่เชื่อมต่อมือถือกับพอร์ต USB ในรถด้วยสายเคเบิลก็ใช้ได้ทันที โดยฟีเจอร์นี้เหมาะมากกับอากาศร้อนๆ แบบไทยๆ เพราะเวลาขับรถคุณไม่ต้องก้มไปกดโทรศัพท์ให้เสี่ยงอันตราย แค่ใช้ผ่าน CarPlay ก็จัดการแผนที่ ฟังเพลง หรือรับสายได้สะดวกเลย แต่ต้องระวังหน่อยนะครับ บางรุ่นอาจต้องอัปเดตระบบผ่าน OTA ก่อนถึงจะใช้ CarPlay ได้ แนะนำให้ถามพนักงานขายตอนซื้อรถว่าซอฟต์แวร์เป็นเวอร์ชันล่าสุดหรือเปล่า อีกเรื่องที่ควรจำไว้คือต้องอัปเดต iOS บน iPhone ให้ใหม่เสมอจะได้ใช้งานได้ลื่นๆ และควรใช้สายเคเบิลแท้จาก Apple ครับ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่ถนนวุ่นวาย CarPlay จะช่วยนำทางคุณได้แบบเรียลไทม์ ช่วยให้ขับรถสะดวกขึ้นมาก แถมรถรุ่นนี้ยังรองรับ Android Auto สำหรับคนใช้สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ด้วย ช่วยลดความเสี่ยงเวลาต้องจับโทรศัพท์ขณะขับรถในช่วงหน้าฝนได้ดีเลยทีเดียว
Q
ยี่ห้อยางรถของ Ora Good Cat มีอะไรบ้าง?
ORA Good Cat ที่วางจำหน่ายในไทย ส่วนใหญ่จะมาพร้อมยางติดรถจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียง เช่น Giti หรือ Maxxis โดยยี่ห้อของยางอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นย่อยและล็อตการผลิต ขนาดยางที่พบได้บ่อยคือ 215/50 R17 หรือ 215/55 R18 ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่ให้ทั้งความนุ่มนวลในการขับขี่และการยึดเกาะถนนได้ดี เหมาะกับสภาพถนนในเมืองที่หลากหลายของไทย รวมถึงถนนลื่นในช่วงหน้าฝน แนะนำให้เจ้าของรถในไทยหมั่นตรวจเช็คลมยางและการสึกหรอของยางอยู่เสมอ โดยเฉพาะในช่วงอากาศร้อนที่ลมยางมีแนวโน้มจะขยายตัว ควรรักษาค่าลมยางให้อยู่ในระดับที่ผู้ผลิตแนะนำ ซึ่งมักจะระบุไว้ที่ขอบประตูฝั่งคนขับหรือฝาถังน้ำมัน เพื่อความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของยาง หากต้องเปลี่ยนยางในไทย สามารถเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการรถยนต์อย่าง B-Quik ซึ่งมีบริการตรวจเช็คและเปลี่ยนยางอย่างมืออาชีพ หรือจะเลือกใช้ยางแบรนด์เดิมหรือระดับพรีเมียมอย่าง Michelin หรือ Bridgestone ก็ได้ เพื่อความเงียบในการขับขี่และประสิทธิภาพบนถนนเปียกที่ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูฝนที่เส้นทางลื่นง่ายค่ะ
Q
ORA Good Cat เป็นรถดีไหม? มาดูข้อดีข้อเสียกัน
ORA Good Cat ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียเหมือนรถรุ่นอื่นๆ ค่ะ ในส่วนของข้อดี รถรุ่นนี้มาพร้อมระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะระดับ L2 เช่น กล้องมองรอบคัน 360 องศา และระบบจอดรถอัตโนมัติด้วย AI ซึ่งช่วยให้ขับง่ายขึ้น โดยเฉพาะมือใหม่หรือผู้หญิงที่ต้องการความมั่นใจเวลาใช้งาน นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์สตาร์ทรถโดยไม่ต้องใช้กุญแจ และสามารถสั่งงานผ่าน Bluetooth ได้อีกด้วย การชาร์จไฟก็รวดเร็วพอสมควร ชาร์จจาก 15% ไปถึง 80% ด้วยระบบชาร์จเร็วแบบ DC ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าแบบแม่เหล็กถาวรด้านหน้าให้แรงบิดที่ต่อเนื่อง ทำให้การเร่งความเร็วลื่นไหลดี แต่ก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกัน เช่น พื้นที่เก็บของด้านหลังค่อนข้างเล็ก ถ้าต้องเดินทางไกลหรือขนของเยอะอาจไม่สะดวก และเนื่องจากขนาดตัวรถกับช่วงล่าง ทำให้เบาะหลังนั่งไม่ค่อยสบาย โดยเฉพาะเวลาวิ่งผ่านถนนขรุขระ บางคนที่ใช้งานจริงยังบ่นเรื่องเบรกมีเสียงแปลกๆ ระบบความบันเทิงบางทีรวน เช่น ผู้ช่วยสั่งงานด้วยเสียงใช้งานไม่ได้เป็นบางครั้ง ระบบปลดล็อกประตูทีละบานไม่สะดวก ปรับเบาะอัตโนมัติได้น้อย ที่ปัดน้ำฝนไม่ค่อยดี ไม่มีช่องแอร์หรือไฟอ่านหนังสือด้านหลัง ระบบกันเสียงไม่ค่อยดี และเพลงที่ติดมากับรถก็ค่อนข้างธรรมดา สุดท้าย รถรุ่นนี้จะเหมาะกับเราหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคนค่ะ ถ้าชอบดีไซน์น่ารัก ขับในเมืองเป็นหลัก และเน้นความประหยัด ก็ถือว่าน่าใช้ไม่น้อยเลยค่ะ
Q
ความกว้างของ Ora Good Cat คือเท่าไร
ความกว้างของรถ ORA Good Cat ในแต่ละรุ่นนั้นมีความแตกต่างกัน โดยรุ่นปี 2022 และ 2021 จะมีความกว้างอยู่ที่ 1,825 มม. ส่วนรุ่นปี 2024 นั้นกว้างขึ้นมาอีกหน่อยอยู่ที่ 1,848 มม. ความกว้างของรถถือเป็นพารามิเตอร์สำคัญที่ส่งผลต่อการจัดวางพื้นที่ภายใน การควบคุมรถ รวมไปถึงการขับขี่บนถนนด้วยนะครับ ถ้ารถกว้างมากขึ้นก็จะทำให้มีพื้นที่ด้านข้างเพิ่มขึ้น ผู้โดยสารและคนขับก็จะนั่งสบายขึ้น แต่ข้อควรระวังคือเวลาเจอถนนแคบๆ หรือต้องจอดในที่จำกัด อาจต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้นนิดหน่อยครับ
Q
ภาษีรถยนต์ของ ORA Good Cat อยู่ที่เท่าไหร่ ?คำนวณยังไง?
รถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) มักจะได้รับอัตราภาษีที่พิเศษกว่าปกติ อย่างเช่น ORA Good Cat ที่เป็นรถไฟฟ้า 100% ก็เสียภาษีรถยนต์ปีละแค่ประมาณ 800-1,500 บาทเท่านั้น ซึ่งถูกกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทั่วไปมาก นี่เป็นนโยบายส่งเสริมจากรัฐบาลไทยที่อยากให้คนหันมาใช้รถไฟฟ้าให้มากขึ้น แนะนำให้เจ้าของรถในไทยจ่ายภาษีรถยนต์ระหว่างวันที่ 1 มกราคมถึง 30 เมษายนของทุกปี จะไปจ่ายที่กรมการขนส่งทางบก (Department of Land Transport) หรือที่สาขาธนาคารบางแห่งก็ได้ แต่ถ้าช้ากว่านี้อาจโดนค่าปรับเพิ่มนะ นอกจากภาษีรถยนต์ที่ถูกแล้ว การซื้อ ORA Good Cat ยังได้สิทธิประโยชน์อื่นๆ จากรัฐบาลอีก เช่น ส่วนลดสูงสุด 150,000 บาท และยังได้สิทธิ์ไม่ต้องเสียค่าผ่านทางในกรุงเทพฯ และปริมณฑลด้วย สำหรับใครที่ต้องขับรถในเมืองบ่อยๆ สิทธิ์พวกนี้ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้เยอะเลยล่ะ!

ข้อดี

ออกแบบภายนอกที่น่ารักและไม่เหมือนใคร
ส่วนที่อยู่ในรถที่สบายด้วยพื้นที่ที่ดี
ระยะทางการใช้งานแบตเตอรี่เพียงพอสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน
คุณสมบัติความปลอดภัยและเทคโนโลยีล้ำหน้า

ข้อเสีย

ประสิทธิภาพที่ความเร็วสูงจำกัด
บางคนอาจรู้สึกว่าความเร็วในการชาร์จช้า
มูลค่าการขายรถเก็บอาจไม่สูงมาก

Q&A ล่าสุด

Q
การใช้เชื้อเพลิงของ Neta V คืออะไร
Neta V ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้าล้วน มีการวัดประสิทธิภาพการใช้พลังงานโดยใช้ค่าการใช้ไฟฟ้า (kWh ต่อ 100 กิโลเมตร) แทนการวัดอัตราการใช้น้ำมันแบบรถยนต์ทั่วไป โดยจากข้อมูลทางการและการทดสอบในสภาพถนนจริงของประเทศไทย Neta V มีอัตราการใช้ไฟฟ้ารวมประมาณ 12-14 kWh ต่อ 100 กิโลเมตร คำนวณตามราคาค่าไฟฟ้าปัจจุบันในไทย จะมีต้นทุนต่อการขับขี่ 1 กิโลเมตร ประมาณ 0.5-0.7 บาท ต่ำกว่ารถน้ำมันอย่างชัดเจน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในเมืองไทย โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่มีการจราจรหนาแน่น ซึ่งรถไฟฟ้าจะประหยัดพลังงานมากขึ้นเพราะไม่ใช้พลังงานในขณะจอดนิ่ง ส่วนการชาร์จไฟ Neta V รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว สามารถชาร์จได้ถึง 80% ภายใน 30 นาที พร้อมทั้งระบบสถานีชาร์จที่กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย ทำให้การใช้งานสะดวกมากขึ้น นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังมีนโยบายส่งเสริมและลดหย่อนภาษีสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้ผู้ซื้อ Neta V ได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม แนะนำให้ผู้บริโภคพิจารณารุ่นที่เหมาะสมตามระยะทางใช้งานและความพร้อมของสถานีชาร์จไฟ รวมทั้งดูแลบำรุงรักษาแบตเตอรี่เป็นประจำเพื่อรักษาประสิทธิภาพสูงสุดของรถยนต์ไฟฟ้า
Q
Neta V คุ้มค่าที่จะซื้อหรือไม่ ตรวจสอบคุณสมบัติของมันที่นี่
Neta V เป็น SUV ไฟฟ้าที่เน้นกลุ่มผู้บริโภควัยรุ่น มีความสามารถแข่งขันในตลาดไทย ด้วยระยะทางวิ่งประมาณ 380 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC เหมาะกับการใช้งานในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ สำหรับการเดินทางประจำวัน รองรับการชาร์จเร็วที่ชาร์จไฟได้ถึง 80% ภายใน 30 นาที ระบบควบคุมอุณหภูมิแบตเตอรี่ช่วยรักษาความเสถียรท่ามกลางสภาพอากาศร้อนของไทย ภายในติดตั้งหน้าจอสัมผัสกลางขนาด 10.1 นิ้ว พร้อมรองรับการสั่งงานด้วยเสียง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้รุ่นใหม่ พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถมีขนาด 335 ลิตร เหมาะสำหรับซื้อของที่ตลาดหรืองานท่องเที่ยวระยะสั้น เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน Neta V มีราคาที่เข้าถึงได้มากกว่า อีกทั้งยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากรัฐบาลไทย เช่น การลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต ทำให้ต้นทุนการซื้อรถถูกลง ควรตรวจสอบแผนที่สถานีชาร์จไฟผ่านแอปพลิเคชัน เช่น EV Station Planner เพื่อให้มั่นใจว่ามีจุดชาร์จเพียงพอในพื้นที่ที่ใช้บ่อย ระยะยาวรถไฟฟ้าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันอย่างมาก แต่ต้องระวังการเสื่อมของแบตเตอรี่ซึ่งได้รับผลกระทบจากอุณหภูมิสูง ควรนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อเช็คสภาพแบตเตอรี่เป็นประจำเพื่อรักษาประสิทธิภาพสูงสุด
Q
วันที่เปิดตัว Neta V คือเมื่อไร
Neta V เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับความสนใจอย่างมากในตลาดประเทศไทย โดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคม 2023 ผ่านพันธมิตรท้องถิ่นที่รับผิดชอบด้านการจำหน่ายและบริการหลังการขาย ตัวรถเป็น SUV ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองและเน้นความคุ้มค่า รองรับระยะทางวิ่งสูงสุด 384 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC รองรับการชาร์จเร็วโดยใช้เวลาประมาณ 30 นาทีในการชาร์จจาก 30% ถึง 80% พร้อมระบบจัดการความร้อนของแบตเตอรี่ที่เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนของไทย ภายในห้องโดยสารออกแบบเรียบง่ายแต่ตอบโจทย์การใช้งาน มาพร้อมหน้าจอสัมผัสกลางขนาด 10.1 นิ้วและฟังก์ชันเชื่อมต่ออัจฉริยะเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภควัยรุ่น รัฐบาลไทยยังมีนโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าผ่านมาตรการลดภาษีมูลค่าสูงสุดประมาณ 150,000 บาท อีกทั้งสถานีชาร์จไฟในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ Neta V เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้าราคาเข้าถึงได้ และมีแนวโน้มว่าจะได้รับความนิยมมากขึ้นตามการเติบโตของตลาด EV ในประเทศไทย
Q
วันที่วางจำหน่ายของ Neta V คือเมื่อไร
Neta V เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ได้รับความสนใจอย่างมากในตลาดประเทศไทย โดยเปิดตัวเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2023 ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่นในไทย รถรุ่นนี้จัดอยู่ในกลุ่ม SUV ไฟฟ้าราคาประหยัด มุ่งเป้ากลุ่มผู้บริโภควัยรุ่นในเมือง มีให้เลือกสองรุ่นตามระยะทางวิ่งคือประมาณ 384 กิโลเมตร และ 401 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC รองรับระบบชาร์จเร็วที่สามารถชาร์จจาก 30% ถึง 80% ได้ภายในประมาณ 30 นาที พร้อมระบบจัดการความร้อนแบตเตอรี่ที่ปรับให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนของไทย รัฐบาลไทยมีนโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าผ่านการลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต ช่วยให้รถรุ่นนี้มีราคาที่แข่งขันได้ ขณะเดียวกันโครงสร้างพื้นฐานด้านสถานีชาร์จไฟก็ขยายตัวอย่างรวดเร็วในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ ทำให้การใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมกิจกรรมทดลองขับกับตัวแทนจำหน่ายเพื่อสัมผัสประสบการณ์จริงและเปรียบเทียบกับรถไฟฟ้ารุ่นอื่นในระดับราคาใกล้เคียงก่อนตัดสินใจซื้อ
Q
ความยาวของ Neta V คือเท่าไร
Neta V มีความยาวตัวถัง 4070 มิลลิเมตร เป็นรถ SUV พลังงานไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดที่เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมือง ขนาดตัวรถทำให้เหมาะกับถนนแคบและที่จอดรถแออัดในประเทศไทย ทั้งยังขับขี่คล่องตัวและมีพื้นที่ภายในเพียงพอ ในฐานะที่เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า Neta V ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดไทย เนื่องจากรัฐบาลไทยกำลังส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจัง โดยมีนโยบายลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต ทำให้รถรุ่นนี้มีความคุ้มค่ามากขึ้น Neta V มีระยะทางวิ่งประมาณ 384 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งเพียงพอต่อการเดินทางในชีวิตประจำวันและทริประยะสั้น นอกจากนี้ โครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จไฟฟ้าในประเทศไทยก็มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยศูนย์การค้าและพื้นที่สาธารณะจำนวนมากเริ่มติดตั้งสถานีชาร์จไฟ เพิ่มความสะดวกให้ผู้ใช้งาน หากคุณกำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าที่ราคาประหยัด ขนาดเหมาะสม และเหมาะกับสภาพแวดล้อมในเมืองของไทย Neta V เป็นตัวเลือกที่ดี ทั้งช่วยประหยัดค่าน้ำมัน ลดการปล่อยคาร์บอน และตอบโจทย์แนวโน้มการเดินทางแบบรักษ์โลกในประเทศไทย
ดูเพิ่มเติม