Q

ora good cat มีสีอะไร

ORA Good Cat ในตลาดประเทศไทยมีสีที่พบได้บ่อย ได้แก่ สีเบจพร้อมหลังคาสีน้ำตาล สีเขียว สีเขียวพร้อมหลังคาสีขาว สีขาวพร้อมหลังคาสีดำ และ สีขาว
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Ora Good Cat มีอะไรบ้าง?
แม้ Ora Good Cat จะมีจุดเด่นหลายด้าน แต่ก็มีข้อด้อยบางประการที่ควรพิจารณาเช่นกัน เริ่มจากพื้นที่เก็บของด้านหลังที่ค่อนข้างเล็ก ถ้าขับรถออกทริปกับครอบครัวแล้วต้องขนของเยอะ อาจรู้สึกว่าไม่เพียงพอ รถรุ่นนี้จะเหมาะกับการเดินทางคนเดียวมากกว่า เบาะหลังนั่งไม่ค่อยสบายนัก โดยเฉพาะเวลาเจอถนนขรุขระ เพราะขนาดตัวรถและระบบช่วงล่างมีผลต่อความนุ่มนวลของการโดยสาร นอกจากนี้ ระบบเบรกบางครั้งจะมีเสียงดังขณะใช้งาน ซึ่งอาจสร้างความรำคาญ ระบบอินโฟเทนเมนต์ในรถก็ยังไม่ค่อยลื่นไหล การใช้งานยุ่งยาก ผู้ช่วยเสียงบางทีก็ค้างหรือเด้งขึ้นมาเองโดยไม่มีเหตุผล อีกทั้งยังมีข้อจำกัดในเรื่องความสะดวก เช่น ประตูฝั่งคนขับเท่านั้นที่สามารถปลดล็อกแยกได้ เวลาพาเด็กขึ้นรถอาจไม่สะดวก เบาะปรับไฟฟ้าก็มีแค่ฝั่งคนขับ บางจุดของรถยังให้วัสดุที่ดูเป็นพลาสติกเกินไป เช่น ที่ปัดน้ำฝน และในวันที่ฝนตกหนัก ความเร็วสูงสุดของที่ปัดน้ำฝนอาจไม่เพียงพอ ด้านหลังไม่มีช่องแอร์หรือไฟในห้องโดยสาร การซับแรงกระแทกของช่วงล่างยังทำได้แค่ระดับทั่วไป และเพลงในระบบก็มีให้เลือกไม่มากนัก โดยรวมคือยังมีหลายจุดที่ควรปรับปรุงสำหรับการใช้งานที่สมบูรณ์แบบมากขึ้นค่ะ
Q
ORA Good Cat อยู่ในกลุ่มรถ Segment ไหน?
ORA Good Cat จัดอยู่ในกลุ่มรถ B-Segment หรือที่เราเรียกกันง่ายๆ ว่า “รถขนาดเล็ก” ซึ่งรถประเภทนี้จะมีขนาดตัวถังที่เล็ก กะทัดรัด คล่องตัว เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นถนนแคบๆ หรือที่จอดรถจำกัดก็เอาอยู่ สำหรับ ORA Good Cat ตัวรถมีความยาว 4,254 มม. กว้าง 1,848 มม. สูง 1,596 มม. และระยะฐานล้อ 2,650 มม. ซึ่งถือว่าขนาดกำลังดี ใช้งานง่ายในชีวิตประจำวัน ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่มีระยะทางขับขี่สูงสุด 480 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง และอัตราการใช้พลังงานเฉลี่ยอยู่ที่ 11.9 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อ 100 กิโลเมตร ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เหมาะมากกับคนที่ใช้รถในเมืองเป็นประจำ ทั้งประหยัดทั้งใช้งานได้จริงค่ะ
Q
มูลค่าการขายต่อของ Ora Good Cat ประมาณเท่าไหร่?
ราคาขายต่อของรถยนต์มือสองอย่าง Ora Good Cat นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นปีรุ่น ระยะทางที่ใช้งาน สภาพรถโดยรวม และความต้องการในตลาด โดยทั่วไปแล้ว รถไฟฟ้าแบบ Ora Good Cat มักจะได้รับผลกระทบจากสภาพแบตเตอรี่และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ล่าสุด ราคาเริ่มต้นของรถมือสองรุ่น Ora Good Cat GT อยู่ที่ 65,520 บาท ส่วนรุ่นมาตรฐาน Ora Good Cat เริ่มต้นที่ 50,000 บาท แต่นี่เป็นแค่ราคาเบื้องต้นเท่านั้น ราคาจริงอาจแตกต่างกันไป เวลาขายรถ Ora Good Cat มือสอง ถ้ารถได้รับการดูแลดี ใช้งานน้อย และมีเอกสารครบถ้วน ก็มีโอกาสได้ราคาดี นอกจากนี้ ถ้ารุ่นนั้นมีฟีเจอร์พิเศษหรือเป็นที่นิยมในตลาด ก็อาจช่วยเพิ่มมูลค่ารถได้ ในทางกลับกัน ถ้ามีการอัปเกรดสำคัญในรุ่นใหม่ๆ หรือตลาดรถไฟฟ้ามีการเปลี่ยนแปลง ก็อาจทำให้ราคาขายต่อลดลงได้
Q
Ora Good Cat มีกี่ซีซี
คำถามและคำตอบนี้ยกเลิกแล้ว ไม่ต้องแปลหรือนำขึ้นแสดง
Q
PCD ของล้อ ORA Good Cat คือขนาดเท่าไหร่?
ขนาด PCD (ระยะรูดุมล้อ) ของรถ ORA Good Cat คือ 5×114.3 มม. หมายความว่ามีรูน็อต 5 รู วางเรียงบนวงกลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 114.3 มม. ซึ่งเป็นขนาดที่ใช้กันทั่วไปในรถญี่ปุ่นหลายรุ่น เช่น Honda City, Toyota Yaris และ Nissan Almera ที่ผลิตขายในไทย ทำให้การหาล้อแม็กรุ่นอื่นๆ มาเปลี่ยนหรือแต่งล้อในไทยทำได้ง่าย มีตัวเลือกเยอะ อย่างไรก็ตาม เวลาจะเปลี่ยนล้อ ควรดูนอกจาก PCD แล้ว ยังต้องเช็กขนาดรูดุมกลาง (CB) และค่า Offset (ET) ให้ตรงด้วย โดย ORA Good Cat มีขนาดรูดุมกลางประมาณ 63.4 มม. (แนะนำให้เช็กกับรถจริงอีกครั้งเพื่อความชัวร์) ควรเลือกร้านล้อที่ได้มาตรฐาน ให้ช่างช่วยลองใส่จริงก่อนซื้อ เพื่อให้แน่ใจว่าใส่ได้พอดี ไม่สั่น ในช่วงหน้าฝนของไทยที่ถนนลื่น ควรเลือกยางที่มีประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนดีเพื่อความปลอดภัย และถ้าคิดจะเปลี่ยนล้อใหม่ แนะนำให้ใช้ล้อที่ผ่านการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก. หรือ TISI) และขนาดต้องตรงกับที่จดทะเบียนไว้ เพื่อไม่ให้มีปัญหาเวลาไปตรวจสภาพรถหรือเคลมประกันค่ะ
Q
รถ ORA Good Cat รองรับระบบ Apple CarPlay ไหม?
รถ ORA Good Cat รองรับระบบ Apple CarPlay ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ iPhone ได้อย่างลงตัว แค่เชื่อมต่อมือถือกับพอร์ต USB ในรถด้วยสายเคเบิลก็ใช้ได้ทันที โดยฟีเจอร์นี้เหมาะมากกับอากาศร้อนๆ แบบไทยๆ เพราะเวลาขับรถคุณไม่ต้องก้มไปกดโทรศัพท์ให้เสี่ยงอันตราย แค่ใช้ผ่าน CarPlay ก็จัดการแผนที่ ฟังเพลง หรือรับสายได้สะดวกเลย แต่ต้องระวังหน่อยนะครับ บางรุ่นอาจต้องอัปเดตระบบผ่าน OTA ก่อนถึงจะใช้ CarPlay ได้ แนะนำให้ถามพนักงานขายตอนซื้อรถว่าซอฟต์แวร์เป็นเวอร์ชันล่าสุดหรือเปล่า อีกเรื่องที่ควรจำไว้คือต้องอัปเดต iOS บน iPhone ให้ใหม่เสมอจะได้ใช้งานได้ลื่นๆ และควรใช้สายเคเบิลแท้จาก Apple ครับ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่ถนนวุ่นวาย CarPlay จะช่วยนำทางคุณได้แบบเรียลไทม์ ช่วยให้ขับรถสะดวกขึ้นมาก แถมรถรุ่นนี้ยังรองรับ Android Auto สำหรับคนใช้สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ด้วย ช่วยลดความเสี่ยงเวลาต้องจับโทรศัพท์ขณะขับรถในช่วงหน้าฝนได้ดีเลยทีเดียว
Q
ยี่ห้อยางรถของ Ora Good Cat มีอะไรบ้าง?
ORA Good Cat ที่วางจำหน่ายในไทย ส่วนใหญ่จะมาพร้อมยางติดรถจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียง เช่น Giti หรือ Maxxis โดยยี่ห้อของยางอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นย่อยและล็อตการผลิต ขนาดยางที่พบได้บ่อยคือ 215/50 R17 หรือ 215/55 R18 ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่ให้ทั้งความนุ่มนวลในการขับขี่และการยึดเกาะถนนได้ดี เหมาะกับสภาพถนนในเมืองที่หลากหลายของไทย รวมถึงถนนลื่นในช่วงหน้าฝน แนะนำให้เจ้าของรถในไทยหมั่นตรวจเช็คลมยางและการสึกหรอของยางอยู่เสมอ โดยเฉพาะในช่วงอากาศร้อนที่ลมยางมีแนวโน้มจะขยายตัว ควรรักษาค่าลมยางให้อยู่ในระดับที่ผู้ผลิตแนะนำ ซึ่งมักจะระบุไว้ที่ขอบประตูฝั่งคนขับหรือฝาถังน้ำมัน เพื่อความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของยาง หากต้องเปลี่ยนยางในไทย สามารถเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการรถยนต์อย่าง B-Quik ซึ่งมีบริการตรวจเช็คและเปลี่ยนยางอย่างมืออาชีพ หรือจะเลือกใช้ยางแบรนด์เดิมหรือระดับพรีเมียมอย่าง Michelin หรือ Bridgestone ก็ได้ เพื่อความเงียบในการขับขี่และประสิทธิภาพบนถนนเปียกที่ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูฝนที่เส้นทางลื่นง่ายค่ะ
Q
ORA Good Cat เป็นรถดีไหม? มาดูข้อดีข้อเสียกัน
ORA Good Cat ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียเหมือนรถรุ่นอื่นๆ ค่ะ ในส่วนของข้อดี รถรุ่นนี้มาพร้อมระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะระดับ L2 เช่น กล้องมองรอบคัน 360 องศา และระบบจอดรถอัตโนมัติด้วย AI ซึ่งช่วยให้ขับง่ายขึ้น โดยเฉพาะมือใหม่หรือผู้หญิงที่ต้องการความมั่นใจเวลาใช้งาน นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์สตาร์ทรถโดยไม่ต้องใช้กุญแจ และสามารถสั่งงานผ่าน Bluetooth ได้อีกด้วย การชาร์จไฟก็รวดเร็วพอสมควร ชาร์จจาก 15% ไปถึง 80% ด้วยระบบชาร์จเร็วแบบ DC ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าแบบแม่เหล็กถาวรด้านหน้าให้แรงบิดที่ต่อเนื่อง ทำให้การเร่งความเร็วลื่นไหลดี แต่ก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกัน เช่น พื้นที่เก็บของด้านหลังค่อนข้างเล็ก ถ้าต้องเดินทางไกลหรือขนของเยอะอาจไม่สะดวก และเนื่องจากขนาดตัวรถกับช่วงล่าง ทำให้เบาะหลังนั่งไม่ค่อยสบาย โดยเฉพาะเวลาวิ่งผ่านถนนขรุขระ บางคนที่ใช้งานจริงยังบ่นเรื่องเบรกมีเสียงแปลกๆ ระบบความบันเทิงบางทีรวน เช่น ผู้ช่วยสั่งงานด้วยเสียงใช้งานไม่ได้เป็นบางครั้ง ระบบปลดล็อกประตูทีละบานไม่สะดวก ปรับเบาะอัตโนมัติได้น้อย ที่ปัดน้ำฝนไม่ค่อยดี ไม่มีช่องแอร์หรือไฟอ่านหนังสือด้านหลัง ระบบกันเสียงไม่ค่อยดี และเพลงที่ติดมากับรถก็ค่อนข้างธรรมดา สุดท้าย รถรุ่นนี้จะเหมาะกับเราหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคนค่ะ ถ้าชอบดีไซน์น่ารัก ขับในเมืองเป็นหลัก และเน้นความประหยัด ก็ถือว่าน่าใช้ไม่น้อยเลยค่ะ
Q
ความกว้างของ Ora Good Cat คือเท่าไร
ความกว้างของรถ ORA Good Cat ในแต่ละรุ่นนั้นมีความแตกต่างกัน โดยรุ่นปี 2022 และ 2021 จะมีความกว้างอยู่ที่ 1,825 มม. ส่วนรุ่นปี 2024 นั้นกว้างขึ้นมาอีกหน่อยอยู่ที่ 1,848 มม. ความกว้างของรถถือเป็นพารามิเตอร์สำคัญที่ส่งผลต่อการจัดวางพื้นที่ภายใน การควบคุมรถ รวมไปถึงการขับขี่บนถนนด้วยนะครับ ถ้ารถกว้างมากขึ้นก็จะทำให้มีพื้นที่ด้านข้างเพิ่มขึ้น ผู้โดยสารและคนขับก็จะนั่งสบายขึ้น แต่ข้อควรระวังคือเวลาเจอถนนแคบๆ หรือต้องจอดในที่จำกัด อาจต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้นนิดหน่อยครับ
Q
ภาษีรถยนต์ของ ORA Good Cat อยู่ที่เท่าไหร่ ?คำนวณยังไง?
รถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) มักจะได้รับอัตราภาษีที่พิเศษกว่าปกติ อย่างเช่น ORA Good Cat ที่เป็นรถไฟฟ้า 100% ก็เสียภาษีรถยนต์ปีละแค่ประมาณ 800-1,500 บาทเท่านั้น ซึ่งถูกกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทั่วไปมาก นี่เป็นนโยบายส่งเสริมจากรัฐบาลไทยที่อยากให้คนหันมาใช้รถไฟฟ้าให้มากขึ้น แนะนำให้เจ้าของรถในไทยจ่ายภาษีรถยนต์ระหว่างวันที่ 1 มกราคมถึง 30 เมษายนของทุกปี จะไปจ่ายที่กรมการขนส่งทางบก (Department of Land Transport) หรือที่สาขาธนาคารบางแห่งก็ได้ แต่ถ้าช้ากว่านี้อาจโดนค่าปรับเพิ่มนะ นอกจากภาษีรถยนต์ที่ถูกแล้ว การซื้อ ORA Good Cat ยังได้สิทธิประโยชน์อื่นๆ จากรัฐบาลอีก เช่น ส่วนลดสูงสุด 150,000 บาท และยังได้สิทธิ์ไม่ต้องเสียค่าผ่านทางในกรุงเทพฯ และปริมณฑลด้วย สำหรับใครที่ต้องขับรถในเมืองบ่อยๆ สิทธิ์พวกนี้ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้เยอะเลยล่ะ!

ข้อดี

ออกแบบภายนอกที่น่ารักและไม่เหมือนใคร
ส่วนที่อยู่ในรถที่สบายด้วยพื้นที่ที่ดี
ระยะทางการใช้งานแบตเตอรี่เพียงพอสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน
คุณสมบัติความปลอดภัยและเทคโนโลยีล้ำหน้า

ข้อเสีย

ประสิทธิภาพที่ความเร็วสูงจำกัด
บางคนอาจรู้สึกว่าความเร็วในการชาร์จช้า
มูลค่าการขายรถเก็บอาจไม่สูงมาก

Q&A ล่าสุด

Q
รถ Volkswagen Transporter Shuttle เป็นรถยนต์เชิงพาณิชย์หรือไม่
Volkswagen Transporter Shuttle ในประเทศไทยถูกจัดอยู่ในกลุ่มรถเพื่อการพาณิชย์เนื่องจากลักษณะการออกแบบและการใช้งานเป็นหลัก ตัวถังแบบตู้พร้อมที่นั่ง 7 ถึง 9 ที่นั่งเหมาะสำหรับการใช้งานเชิงธุรกิจ เช่น รับส่งพนักงานหรือรถเช่าเหมาท่องเที่ยว เมื่อนำไปจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกจะต้องติดป้ายทะเบียนพื้นเหลืองและอยู่ภายใต้ข้อบังคับการตรวจสภาพตามรอบสำหรับรถพาณิชย์ อย่างไรก็ตามการจัดประเภทในไทยยังพิจารณาจากจำนวนที่นั่งและวัตถุประสงค์การใช้งาน เช่นรุ่น Multivan ที่ใช้แพลตฟอร์มเดียวกันแต่มีจำนวนเบาะน้อยกว่าจะถูกจัดเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและใช้ป้ายทะเบียนพื้นขาว ผู้บริโภคไทยควรให้ความสำคัญกับประเภทการจดทะเบียนเนื่องจากส่งผลต่อภาษีและค่าใช้จ่าย เช่น รถพาณิชย์สามารถขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มได้แต่ต้องตรวจสภาพทุกสองปี ส่วนรถใช้ส่วนตัวแม้ไม่สามารถขอคืนภาษีได้แต่จะเสียภาษีและค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนในอัตราที่สูงกว่า รถในกลุ่มเดียวกันที่พบได้บ่อยในไทยยังมี Toyota Hiace Commuter และ Mercedes-Benz V-Class ซึ่งมีจุดเด่นต่างกันในด้านการจัดวางภายในและขุมพลัง แนะนำให้พิจารณารายละเอียดอย่างความยืดหยุ่นของเบาะแถวหลัง ระบบปรับอากาศ และความเหมาะสมกับการใช้งานจริงก่อนตัดสินใจ
Q
VW Transporter shuttle คืออะไร
Volkswagen Transporter Shuttle เป็นรถตู้เอนกประสงค์ที่พัฒนาบนพื้นฐานของรถตู้ตระกูล T ของ Volkswagen โดยมุ่งเน้นตลาดการเดินทางแบบกลุ่มและการรับรองลูกค้าเชิงธุรกิจ เหมาะอย่างยิ่งกับประเทศเขตร้อนอย่างไทยในการใช้งานเป็นรถรับส่งสนามบินหรือรถเช่าเหมาท่องเที่ยว มีตัวเลือกที่นั่งแบบ 9 หรือ 11 ที่นั่ง ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 TDI พร้อมพื้นที่เหนือศีรษะกว้างขวางและประตูสไลด์ด้านข้าง เหมาะกับการเดินทางแบบครอบครัวหรือกิจกรรมองค์กรภายในประเทศไทย จุดเด่นคือมีรุ่นหลังคาสูงจำหน่ายในไทยรองรับผู้โดยสารรูปร่างสูงได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งระบบปรับอากาศยังถูกปรับจูนให้เหมาะกับภูมิอากาศร้อนโดยเฉพาะ รุ่นที่ใช้แพลตฟอร์มเดียวกันอย่าง Multivan จะเน้นความหรูหราและภาพลักษณ์ธุรกิจในขณะที่ Transporter Shuttle เน้นความคุ้มค่าและการใช้งานจริง ความแตกต่างนี้ทำให้รถตู้เชิงพาณิชย์ของ Volkswagen สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้หลากหลายกลุ่มในตลาดไทย ด้วยอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่เติบโตดีในไทย รถรุ่นนี้จึงพบได้บ่อยในเมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ตและพัทยาโดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการเช่ารถที่เลือกใช้เป็นรถบริการหลัก
Q
รถตู้ VW Transporter ยาวเท่าไหร่
รถยนต์大众 Transporter Shuttle รุ่นมาตรฐานที่มีระยะฐานล้อปกติมีความยาวตัวรถ 5,304 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 3,400 มิลลิเมตร ขนาดนี้ถือว่าเหมาะสมกับการใช้งานบนถนนในเมืองและลานจอดรถในประเทศไทยเป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะให้พื้นที่ภายในกว้างขวางพอสำหรับผู้โดยสาร 9 ที่นั่งแล้ว ยังไม่ยาวเกินไปจนทำให้การขับขี่ขาดความคล่องตัว ในตลาดไทย Transporter Shuttle ได้รับความนิยมในฐานะรถรับส่งของโรงแรมหรือรถเช่าท่องเที่ยว เนื่องจากมีความทนทานและใช้งานได้หลากหลาย โดยเฉพาะรุ่นหลังคาสูงที่สามารถบรรจุกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ของนักท่องเที่ยวไทยได้อย่างสบายๆ จุดที่น่าสนใจคือเวลาชาวไทยเลือกซื้อรถประเภทนี้ มักจะให้ความสำคัญกับความสูงจากพื้นรถด้วย เพราะ Transporter Shuttle มีความสูงจากพื้นรถขั้นต่ำ 190 มิลลิเมตร ซึ่งเหมาะกับสภาพถนนบางสายในชนบทของไทย นอกจากนี้เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 TDI ยังผ่านการทดสอบแล้วว่าใช้งานได้เสถียรในสภาพอากาศร้อนของไทย และค่าบำรุงรักษาก็อยู่ในระดับสมเหตุสมผล นี่คือจุดเด่นที่เจ้าของรถเชิงพาณิชย์ในไทยให้ความสำคัญเป็นพิเศษ
Q
รถ Volkswagen Transporter Shuttle มีที่นั่งกี่ที่
Volkswagen Transporter Shuttle เป็นรถตู้เอนกประสงค์ที่ได้รับความนิยมในตลาดไทยโดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจและการท่องเที่ยว รุ่นมาตรฐานมาพร้อมที่นั่ง 9 ที่นั่งในรูปแบบ 2+2+2+3 และบางรุ่นมีตัวเลือก 11 ที่นั่งเพื่อตอบโจทย์การใช้งานเชิงพาณิชย์ที่หลากหลาย การออกแบบเบาะนั่งแบบโมดูล่าร์เหมาะสำหรับการใช้งานเป็นรถเช่าเหมาเพื่อการท่องเที่ยวหรือรถรับส่งพนักงานในองค์กร จุดเด่นคือในไทย Transporter มักถูกนำไปดัดแปลงเป็นรถแคมป์หรูแต่รุ่น Shuttle จากโรงงานจะเน้นการใช้งานจริงโดยใช้ระบบช่วงล่างหลังแบบแหนบเหล็กเพื่อรองรับน้ำหนักบรรทุกได้ดี ผู้บริโภคไทยควรทราบว่า Transporter Shuttle มีจุดยืนต่างจากรุ่น Multivan ซึ่งเน้นความหรูหราและใช้ช่วงล่างหลังแบบอิสระ ในขณะที่ Shuttle เน้นความคุ้มค่าและความยืดหยุ่นของพื้นที่ใช้งาน มักพบเห็นได้บ่อยในเมืองใหญ่เช่นกรุงเทพฯ โดยใช้เป็นรถรับส่งสนามบินหรือรถโรงแรม แนะนำให้ตรวจสอบปีรุ่นและรายละเอียดอุปกรณ์ให้ชัดเจนก่อนซื้อเนื่องจากบางรุ่นหลังปี 2020 มีการปรับช่วงการเลื่อนเบาะแถวสองซึ่งอาจมีผลต่อความสะดวกในการขนสัมภาระขนาดใหญ่สำหรับผู้ใช้งานในไทย
Q
แอสตัน มาร์ติน V8 Vantage เป็นรถที่ดีหรือไม่
แอสตัน มาร์ติน V8 Vantage คือสุดยอดรถสปอร์ตหรูที่มาพร้อมสมรรถนะอันยอดเยี่ยม ขุมพลังเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ความจุ 4.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุดถึง 503 แรงม้า เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.6 วินาที แสดงศักยภาพด้านความแรงได้อย่างน่าประทับใจ ไม่เพียงเท่านั้น การออกแบบสุดคลาสสิกแบบอังกฤษผสานงานฝีมือระดับมาสเตอร์พีซยังทำให้มันกลายเป็นรถในฝันของนักเลงรถหลายคน สำหรับในไทย V8 Vantage ถือว่ามีสมรรถนะการขับขี่และการปรับตัวได้ดีเป็นพิเศษ โดยเฉพาะระบบช่วงล่างที่ถูกตั้งค่าให้รับมือกับสภาพถนนซับซ้อนในกรุงเทพฯ ได้อย่างมั่นใจ แถมความต้องการรถหรูในไทยที่สูงยังทำให้ดีไซน์เฉพาะตัวและแบรนด์มูลค่าสูงของ V8 Vantage ดึงดูดผู้ซื้อได้ไม่น้อย แอสตัน มาร์ตินยังมีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย พร้อมให้บริการหลังการขายและดูแลรักษาอย่างครบวงจร มั่นใจได้ว่าคุณจะได้สัมผัสประสบการณ์การใช้งานระดับพรีเมียม สำหรับคนไทยที่หลงใหลรถสปอร์ตสมรรถนะสูง V8 Vantage ไม่ใช่แค่ให้ความสนุกในการขับเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวบอกระดับความชิคของผู้เป็นเจ้าของได้ดีเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ต้องบอกก่อนว่าราคารถและค่าดูแลรักษาที่ค่อนข้างสูงอาจเหมาะกับผู้ที่มีงบประมาณพอสมควรเท่านั้น ถ้าสนใจรถสปอร์ตหรูระดับนี้ ลองมองหาตัวเลือกอื่นในคลาสเดียวกันดูก็ได้ เช่น พอร์เช่ 911 หรือ เมอร์เซเดส-AMG GT ที่แต่ละรุ่นก็มีจุดเด่นแตกต่างกันไป เลือกให้เหมาะกับสไตล์การใช้งานของคุณจะดีที่สุด
ดูเพิ่มเติม