Q
Denza D9 มีสีอะไรบ้าง คุณชอบสีไหน
Denza D9 ในตลาดไทยมีให้เลือก 4 สีคุณภาพสูง ได้แก่ สีน้ำเงิน Whale Sea Blue โทนสีน้ำเงินทะเลลึกที่ให้มิติหลากหลายเมื่อโดนแสง เหมาะทั้งงานธุรกิจและความสดใส สีดำ Quantum Black ให้ความรู้สึกสง่างามและหนักแน่น ด้วยการผสมเม็ดสีโลหะพิเศษที่สะท้อนประกายดุจดาวบนผิวรถ สีขาว Arctic White สีคลาสสิกของ MPV หรู ดูสะอาดตาและทนต่อคราบสกปรก สีเทา Harbour Grey โทนกลางที่เรียบง่ายและทันสมัย ทั้ง 4 สีใช้เทคนิคการเคลือบสีแบบโลหะหรือมุกคุณภาพสูง ทนทานต่อการใช้งานและไม่ซีดง่าย เคลือบผิวพิเศษช่วยต้านการออกซิเดชันและสะท้อนรังสียูวีในประเทศไทยได้ดี ทำให้สีรถสดใหม่ยาวนาน การเลือกสีควรคำนึงถึงสภาพอากาศไทย สีอ่อนเช่นขาวและเทาจะดูดซับความร้อนน้อยกว่า ส่วนสีเข้มควรจอดในที่ร่มเพื่อลดผลกระทบจากแสงแดด
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
Denza D9 มีข้อเสียอะไรบ้าง
Denza D9 ไม่ใช่รถที่สมบูรณ์แบบในทุกด้าน ยังมีบางจุดที่สามารถปรับปรุงได้ ด้านระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ รุ่นที่วางจำหน่ายในประเทศไทยรองรับเพียงระดับ L2 ซึ่งเมื่อเทียบกับรุ่นท็อปในประเทศจีนแล้ว จะขาดฟังก์ชันช่วยขับขั้นสูงบางอย่าง จึงไม่สามารถมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกและชาญฉลาดได้อย่างเต็มที่ ในส่วนของรายละเอียดภายใน กล่องคอนโซลกลางมีตู้แช่เย็นติดตั้งอยู่ด้านล่าง ทำให้ความลึกของกล่องเก็บของลดลง เหมาะสำหรับใส่ของขนาดบาง ๆ เท่านั้น จึงจำกัดการใช้งานในการจัดเก็บ ขณะที่พวงมาลัยใช้ระบบสัมผัสแบบทัช ซึ่งให้แรงสะท้อนกลับที่ไม่ชัดเจนนัก อาจทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดว่าไม่ได้กดหรือสั่งงาน ต่างจากปุ่มกดแบบดั้งเดิมที่ให้สัมผัสชัดเจน นอกจากนี้ ยังพบอาการหน้ารถทิ่มเมื่อเบรกอย่างกะทันหัน โดยเฉพาะขณะหยุดที่สัญญาณไฟแดง อาการนี้ส่งผลให้ผู้โดยสารตอนหลังรู้สึกไม่สบายขณะเดินทาง
Q
Denza D9 อยู่ใน Segment อะไร
Denza D9 จัดอยู่ในกลุ่มรถ MPV (Multi-Purpose Vehicle) หรือรถอเนกประสงค์ โดยมีการวางตำแหน่งเป็นรถ MPV ระดับพรีเมียมหรูหรา เหมาะทั้งสำหรับการเดินทางของครอบครัวและการรับรองลูกค้าทางธุรกิจ รุ่นนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศจีน ด้วยห้องโดยสารแบบ 7 ที่นั่งที่กว้างขวาง การตกแต่งภายในหรูหรา และเทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง เช่น หน้าจอกลางขนาดใหญ่ เบาะปรับอุณหภูมิได้ทั้งร้อนและเย็น ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยที่เน้นความสะดวกสบายและการใช้งานจริง ในประเทศไทย รถ MPV ก็เป็นที่นิยม โดยเฉพาะรุ่นหรูอย่าง Toyota Alphard และ Honda Odyssey ซึ่งการมาของ Denza D9 ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะมีทั้งเวอร์ชันไฟฟ้าล้วนและปลั๊กอินไฮบริด ซึ่งตอบรับแนวทางการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลไทย หากคุณกำลังพิจารณาซื้อรถ MPV ควรดูทั้งเรื่องความกว้างขวาง ความสะดวกสบาย รวมถึงระยะทางต่อการชาร์จและความสะดวกในการชาร์จ เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จในไทยกำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รถไฟฟ้าจะมีบทบาทมากขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ ระบบอัจฉริยะใน Denza D9 เช่น การควบคุมด้วยเสียงและระบบช่วยขับขี่กึ่งอัตโนมัติ ยังช่วยให้การขับขี่ในเมืองที่การจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯ เป็นเรื่องง่ายขึ้นอีกด้วย
Q
Reslae Value ของ Denza D9 คืออะไร
Denza D9 เปิดตัวในประเทศไทยด้วยรุ่น DENZA D9 Premium 2024 และ DENZA D9 Performance AWD 2024 โดยมีราคาจำหน่ายที่ 1,999,900 บาท และ 2,699,900 บาทตามลำดับ ราคาขายต่อในตลาดมือสองมักจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยหลายประการ เช่น สภาพการใช้งาน ระยะทางที่วิ่ง อายุของรถ และอุปสงค์อุปทานในตลาด หากรถถูกใช้งานในระยะเวลาสั้น มีระยะทางน้อย และสภาพดี ราคาขายต่อจะค่อนข้างสูง ในทางกลับกัน หากรถมีความเสียหายชัดเจน หรือวิ่งมาไกล ราคาจะลดลงอย่างมาก นอกจากนี้ ความต้องการของตลาดยังเป็นปัจจัยสำคัญ หากความต้องการรถ Denza D9 สูงและมีรถในตลาดจำนวนน้อย ราคาจะรักษาระดับได้ดี แต่หากอุปทานมากเกินความต้องการ ราคาขายต่อก็อาจลดลงได้เช่นกัน
Q
PCD Size ของ Denza D9 คืออะไร
PCD ของล้อรถยนต์ Denza D9 คือ 5×120 มิลลิเมตร หมายความว่าล้อถูกยึดด้วยน็อต 5 ตัว โดยน็อตจะกระจายอยู่บนวงกลมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 120 มิลลิเมตร ข้อมูลนี้สำคัญมากสำหรับผู้ใช้ในประเทศไทย โดยเฉพาะเมื่อต้องเปลี่ยนล้อหรืออัปเกรดยางรถยนต์ ต้องมั่นใจว่าขนาด PCD ของล้อใหม่ตรงกับสเปกโรงงาน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการติดตั้งไม่พอดีหรือเสี่ยงต่อความปลอดภัยในการขับขี่ เนื่องจากสภาพอากาศร้อนชื้นและฝนตกบ่อยในไทย แนะนำให้เลือกล้อที่น้ำหนักเบาและระบายความร้อนได้ดี เช่น ล้ออะลูมิเนียม เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันและการระบายความร้อนของระบบเบรก นอกจากนี้ สภาพถนนในไทยมีความหลากหลาย ทั้งเส้นทางภูเขาและในเมือง การเลือกขนาดยางและดีไซน์ล้อที่เหมาะสมจะช่วยให้ขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น ผู้ใช้ควรใส่ใจพารามิเตอร์อื่นๆ เช่น ค่า ET (Offset) และขนาดรูตรงกลาง (Center Bore) เพื่อให้ล้อที่ติดตั้งเข้ากันได้ดีกับระบบช่วงล่างและระบบเบรก ป้องกันการสั่นสะเทือนหรือการสึกหรอที่ไม่จำเป็น หากไม่คุ้นเคยกับการแต่งล้อ ควรปรึกษาช่างมืออาชีพหรือไปที่ศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาต เพื่อให้แน่ใจว่าการเปลี่ยนล้อเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยและรักษาประสิทธิภาพของรถยนต์ไว้ได้อย่างดีที่สุด
Q
Denza D9 มี Apple Carplay หรือไม่
Denza D9 ไม่มีระบบ Apple CarPlay แต่ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้าที่มีคุณสมบัติเด่นมากมาย ด้วยความยาว 5,250 มม. กว้าง 1,960 มม. สูง 1,920 มม. และระยะฐานล้อ 3,110 มม. มอบพื้นที่ภายในกว้างขวางและสะดวกสบาย พร้อมที่นั่ง 7 ที่นั่ง เหมาะสำหรับการเดินทางของครอบครัว ด้านพละกำลังมีหลายรุ่น โดยมอเตอร์ไฟฟ้ามีกำลังแรงม้า กำลังไฟฟ้า และแรงบิดแตกต่างกันไป นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบความปลอดภัยมาตรฐานครบครัน เช่น ถุงลมนิรภัย 8 จุด ระบบ ABS ระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ ช่วยเสริมความปลอดภัยในการขับขี่ แม้ว่าจะไม่มี Apple CarPlay แต่หน้าจอกลางขนาด 15.6 นิ้ว พร้อมลำโพง 12 ตัว ก็ให้ประสบการณ์ความบันเทิงที่ดีแก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
Q
ยี่ห้อยางของ Denza D9 คืออะไร
Denza D9 ในฐานะ MPV พลังงานใหม่ระดับไฮเอนด์ ยางมาตรฐานจากโรงงานจะแตกต่างกันตามรุ่นรถและตลาดแต่ละภูมิภาค โดยในตลาดจีนมักติดตั้งยางคุณภาพสูงเพื่อความนุ่มนวล เช่น Michelin PRIMACY 4 หรือ Continental UltraContact UC6 ซึ่งทั้งสองแบรนด์นี้ก็เป็นที่นิยมและได้รับการยอมรับในตลาดไทยด้วย ผู้บริโภคในไทยสามารถอ้างอิงประสิทธิภาพด้านความเงียบและการรีดน้ำบนถนนเปียกของรุ่นเหล่านี้ได้ สภาพภูมิอากาศร้อนชื้นและฝนตกชุกในไทย ทำให้ความสามารถในการรีดน้ำและความทนทานต่อความร้อนของยางมีความสำคัญมาก จึงควรตรวจสอบความดันลมยางและความลึกของร่องยางอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน หากต้องเปลี่ยนยาง นอกจากแบรนด์มาตรฐานจากโรงงานแล้ว ตัวเลือกคุณภาพในไทยยังมี Bridgestone TURANZA T005A และ Dunlop VEURO VE303 ที่ให้ความนุ่มนวลและประหยัดพลังงาน เหมาะกับการใช้งานของ MPV หรูอย่าง D9 ไม่ว่าจะเลือกแบรนด์ใด ควรซื้อจากช่องทางที่ถูกต้องและตรวจสอบให้มีเครื่องหมายรับรองมาตรฐาน “DOT” หรือ “ECE” เพื่อให้มั่นใจว่ายางนั้นสอดคล้องกับมาตรฐานความปลอดภัยของกรมการขนส่งทางบกไทย
Q
Denza D9 เป็นรถที่ดีหรือไม่ เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
Denza D9 ในฐานะ MPV พลังงานใหม่ระดับไฮเอนด์ มีความสามารถในการแข่งขันในตลาดไทย จุดเด่นคือพื้นที่ภายในกว้างขวางและสะดวกสบายแบบ 7 ที่นั่ง เหมาะสำหรับการเดินทางแบบครอบครัวหรือการรับรองแขกทางธุรกิจ โดยเฉพาะเบาะแถวที่สองแบบที่นั่งเครื่องบินที่ปรับระดับได้หลายทิศทางพร้อมฟังก์ชันอุ่นและระบายอากาศ ช่วยเพิ่มประสบการณ์การโดยสาร นอกจากนี้ รุ่นไฟฟ้าและรุ่นไฮบริดที่มีในตลาดช่วยลดต้นทุนการใช้งานได้ดีในสภาพราคาน้ำมันสูงของไทย เทคโนโลยีแบตเตอรี่แบบใบมีดยังเพิ่มความปลอดภัยสูง แต่ข้อจำกัดคือขนาดตัวถังที่ค่อนข้างใหญ่ ทำให้การขับขี่และการจอดรถในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ อาจไม่คล่องตัวนัก และโครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ซึ่งส่งผลต่อความสะดวกของรุ่นไฟฟ้า ด้านความทนทานระยะยาวและเครือข่ายบริการหลังการขาย ผู้บริโภคไทยอาจมีความกังวลในฐานะแบรนด์จีน หากสนใจ MPV พลังงานใหม่ ยังมีตัวเลือกที่มีชื่อเสียงอย่าง Toyota Alphard ไฮบริด แต่ Denza D9 นำเสนอเทคโนโลยีและความคุ้มค่าที่น่าสนใจกว่า แนะนำให้ทดลองขับเปรียบเทียบและตรวจสอบบริการของตัวแทนจำหน่ายพร้อมเงื่อนไขการรับประกัน นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังมีมาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับรถยนต์พลังงานใหม่ จึงควรติดตามนโยบายล่าสุดเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้อรถ
Q
ความกว้างของ Denza D9 คือเท่าไร
Denza D9 มีความกว้างตัวถัง 1960 มิลลิเมตร ซึ่งถือเป็นขนาดกว้างในกลุ่ม MPV ขนาดใหญ่ ช่วยเพิ่มพื้นที่ด้านข้างภายในรถให้กว้างขวาง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเดินทางแบบครอบครัวหรือการรับรองแขกในธุรกิจ ในภูมิภาคเขตร้อนอย่างประเทศไทย พื้นที่ภายในที่กว้างขวางยังช่วยเพิ่มความสบายขณะนั่ง พร้อมกับระบบแอร์ที่ดีสามารถรับมือกับสภาพอากาศร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ Denza D9 ในฐานะ MPV พลังงานใหม่ การออกแบบตัวถังที่กว้างไม่เพียงแต่เพิ่มประสบการณ์การโดยสารที่ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงสมรรถนะด้านอากาศพลศาสตร์ ช่วยลดการใช้พลังงานอีกด้วย สำหรับผู้ใช้ในประเทศไทย ขนาดความกว้างนี้เมื่อนำไปใช้งานบนถนนในเมืองหรือในลานจอดรถ อาจต้องระมัดระวังบ้าง แต่โดยทั่วไปห้างสรรพสินค้าหรือโรงแรมในไทยส่วนใหญ่รองรับรถขนาดนี้ได้ หากต้องการความมั่นใจ แนะนำให้ไปทดลองนั่งรถจริงที่ตัวแทนจำหน่ายก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อประเมินความเหมาะสมกับการใช้งานประจำวัน
Q
ราคาภาษีรถยนต์ของ Denza D9 คืออะไร วิธีการคำนวณเป็นอย่างไร
Denza D9 เป็นรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งภาษีการใช้ทางบกในประเทศไทยจะแตกต่างจากรถยนต์ใช้น้ำมันที่คำนวณตามขนาดความจุเครื่องยนต์ โดยรถยนต์ไฟฟ้าไม่ถูกเก็บภาษีตามขนาดเครื่องยนต์ อัตราภาษีจึงขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละช่วงเวลา ผู้ใช้ต้องชำระภาษีประจำปีภายในวันที่ครบรอบทะเบียน พร้อมเตรียมเอกสารสำคัญ เช่น เล่มทะเบียนรถสีฟ้า และประกันภัยภาคบังคับ (พรบ. หรือ CTPL) หากรถมีอายุมากกว่า 6 ปี จำเป็นต้องผ่านการตรวจสภาพก่อนชำระภาษี จึงแนะนำให้ติดต่อกรมขนส่งทางบกหรือผู้จำหน่ายที่ได้รับอนุญาต เพื่อรับข้อมูลภาษีที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันสำหรับ Denza D9 ค่ะ
Q
ราคามือสองของ Denza D9 คืออะไร ตรวจสอบราคามือสองได้ที่นี่
ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลราคามือสองของ DENZA D9 โดยตรง แต่รุ่นใหม่ของ DENZA D9 ในตลาดไทยมีหลายเวอร์ชัน ได้แก่ DENZA D9 Premium 2024 ราคาขาย 1,999,900 บาท และ DENZA D9 Performance AWD 2024 ราคาขาย 2,699,900 บาท ราคามือสองโดยทั่วไปจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุการใช้งาน กิโลเมตรที่วิ่ง สภาพรถ และอุปสงค์อุปทานในตลาด โดยรถที่อายุใช้งานสั้น วิ่งน้อย และสภาพดี มักมีราคาสูงกว่า ส่วนรถที่มีประวัติอุบัติเหตุหรือสภาพไม่ดี ราคาจะลดลงอย่างมาก หากต้องการทราบราคามือสองที่แม่นยำ แนะนำให้ติดตามแพลตฟอร์มซื้อขายรถมือสองที่เชื่อถือได้ในท้องถิ่น หรือติดต่อผู้จำหน่ายรถมือสองที่มีใบอนุญาตอย่างเป็นทางการค่ะ
Q&A ล่าสุด
Q
2020 Yaris เป็นรถยนต์แบบ 3 หรือ 4 สูบ?
รถยนต์โตโยต้า Yaris รุ่นปี 2020 ที่วางขายในตลาดไทยใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตร 4 สูบแบบแถวเรียง รหัส 3NR-FE ให้กำลังสูงสุด 86 แรงม้า คู่กับเกียร์ CVT เครื่องยนต์ตัวนี้ขึ้นชื่อในเรื่องความทนทานและประหยัดน้ำมัน เหมาะมากกับการใช้งานในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่ต้องเจอกับการจราจรที่ต้องหยุดและเคลื่อนตัวบ่อยๆ ที่น่าสนใจคือบางตลาดต่างประเทศอาจใช้เครื่องยนต์ 3 สูบเทอร์โบ แต่สำหรับรุ่นไทยยังคงเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบเพื่อตอบโจทย์ความนิยมของคนไทยที่ชอบความเรียบและสะดวกในการดูแลรักษา สำหรับผู้บริโภคไทยควรทราบว่าในปี 2020 ทางโตโยต้ายังมี Yaris อีกรุ่นที่ใช้แพลตฟอร์มของ Mazda2 (รหัส YP210) ซึ่งเป็นระบบไฮบริดที่ใช้ชุดขับเคลื่อนต่างออกไป สำหรับคนไทยที่ต้องการประหยัดงบประมาณ การเลือกเครื่องยนต์ 4 สูบแบบธรรมดาจะดูแลรักษาง่ายและหาอะไหล่สะดวก ส่วนใครที่ต้องการประหยัดน้ำมันมากขึ้นอาจรอเลือกรุ่นไฮบริดที่ออกมาทีหลัง ควรระวังเรื่องการตรวจสอบระบบระบายความร้อนและระดับน้ำมันเครื่องบ่อยๆ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนของไทย เพราะเครื่องยนต์ขนาดเล็กแบบนี้เมื่อต้องทำงานหนักต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจมีปัญหาเรื่องความร้อนได้
Q
ความเร็วสูงสุดของ Toyota Yaris 2020 คือเท่าไร
รถยนต์โตโยต้า Yaris รุ่นปี 2020 ที่วางขายในตลาดไทยมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 170-180 กม./ชม. แต่ตัวเลขที่แท้จริงอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นเครื่องยนต์และระบบเกียร์ เช่น รุ่นเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร แบบดูดธรรมดาคู่กับเกียร์ CVT ในสภาพอากาศร้อนและสภาพถนนในเมืองของไทยอาจทำความเร็วสูงสุดได้ต่ำกว่าค่ามาตรฐานเล็กน้อย แต่ก็ยังตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปทั้งในเมืองและบนทางหลวงได้อย่างดี อย่างไรก็ตาม กฎหมายจราจรไทยกำหนดให้ความเร็วบนถนนทั่วไปอยู่ที่ 80-120 กม./ชม. ส่วนทางหลวงสูงสุดไม่เกิน 120 กม./ชม. ดังนั้นถึงรถจะทำความเร็วได้มากกว่าก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย สำหรับคนไทยแล้ว จุดเด่นของ Yaris อยู่ที่ความประหยัดน้ำมันและการขับขี่ที่คล่องตัว โดยเฉพาะในเมืองติดขัดอย่างกรุงเทพฯ เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร พร้อมโหมด ECO ของโตโยต้าช่วยลดการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้ดี ขนาดตัวรถที่กะทัดรัดยังเหมาะกับการขับเคลื่อนในซอยแคบๆ อีกด้วย ถ้าอยากได้สมรรถนะ更高ขึ้น ลองดูรุ่น GR Sport ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ซึ่งให้พลังมากขึ้น แต่ต้องระวังผลกระทบจากอากาศร้อนของไทยต่อการทำงานของเครื่องยนต์ในช่วงเวลานานๆ ควรดูแลระบบหล่อเย็นให้ดีเป็นพิเศษ
Q
โตโยต้า ยาริส 2020 คือกี่ลิตร
รถยนต์โตโยต้า Yaris รุ่นปี 2020 ที่วางจำหน่ายในตลาดประเทศไทยมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ แบบดูดธรรมดา ขนาด 1.2 ลิตร และ 1.5 ลิตร โดยรุ่น 1.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 86 แรงม้า ส่วนรุ่น 1.5 ลิตร ทำกำลังได้ถึง 107 แรงม้า ทั้งคู่ใช้เกียร์ CVT ที่ช่วยประหยัดน้ำมันและตอบโจทย์การขับขี่ในชีวิตประจำวันได้ดี เหมาะสมกับสภาพถนนทั้งในเมืองและนอกเมืองของไทยเป็นอย่างยิ่ง สำหรับตลาดไทยแล้ว Yaris ได้รับความนิยมจากความทนทานและค่าบำรุงรักษาที่ไม่สูง โดยรุ่น 1.2 ลิตร เหมาะกับผู้ที่ต้องการประหยัดงบ ส่วนรุ่น 1.5 ลิตร จะให้พลังการขับเคลื่อนที่มากขึ้นกว่า อย่างไรก็ดี รายละเอียดการแต่งรถอาจแตกต่างกันไปในแต่ละปีและแต่ละพื้นที่ ดังนั้นควรสอบถามตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่เพื่อข้อมูลที่ถูกต้อง Yaris ถือเป็นรถขนาดเล็กขายดีระดับโลกที่ได้รับความนิยมในไทยเช่นกัน ด้วยขนาดตัวรถที่คล่องตัวและความน่าเชื่อถือของโตโยต้า ทำให้มันเป็นตัวเลือกเหมาะๆ สำหรับการเดินทางในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรหนาแน่น
Q
รถโตโยต้ายาริสปี 2020 เป็นรถที่เชื่อถือได้ไหม
Toyota Yaris 2020 ในตลาดไทยเป็นรถที่เชื่อถือได้และคุ้มค่า เครื่องยนต์ 12 ลิตรแบบดูดอากาศธรรมชาติมีเทคโนโลยีที่ผ่านการพิสูจน์แล้ว จับคู่กับเกียร์ CVT ขับขี่ได้ดีแม้ถนนกรุงเทพติดขัด ประหยัดน้ำมัน เหมาะกับการเดินทางในเมืองไทย รถสืบทอดความทนทานตามแบบ Toyota สภาพอากาศร้อนชื้นและฝนตกไม่ส่งผลต่อระบบอิเล็กทรอนิกส์หรือการกันสนิม การบำรุงรักษาสะดวก มีเครือข่าย 4S ครอบคลุมพร้อมอะไหล่เพียงพอและราคาสมเหตุสมผล อัตราการคืนทุนในตลาดมือสองสูง รุ่นไทยปรับปรุงระบบปรับอากาศให้รองรับอุณหภูมิสูงและช่วงล่างปรับแต่งให้เหมาะกับถนนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การใช้พื้นที่ภายในและการจัดเก็บเหมาะกับครอบครัว เช่น เบาะหลังปรับได้หลายรูปแบบเหมาะกับการท่องเที่ยววันหยุด โดยรวม Yaris เป็นรถขนาดเล็กประหยัดน้ำมันที่เหมาะกับผู้บริโภค
Q
กล่องเกียร์ประเภทใดคือ Toyota Yaris 2020
รุ่น Toyota Yaris ปี 2020 ที่วางขายในตลาดไทยมีระบบเกียร์ที่แตกต่างกันไปตามรุ่นย่อย โดยรุ่นเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร แบบดูดธรรมดาจะใช้เกียร์ CVT (รุ่น K120) ที่โดดเด่นในเรื่องการเปลี่ยนเกียร์ที่ลื่นไหลและช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ดี เหมาะสมกับการขับขี่ในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่ต้องหยุดและสตาร์ทบ่อยครั้ง เกียร์ CVT นี้ทำงานผ่านระบบสายพานเหล็กที่ช่วยเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้เครื่องยนต์ทำงานอยู่ในรอบที่เหมาะสมเสมอ เมื่อเทียบกับเกียร์ออโตเมติกแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ระบบระบายความร้อนยังได้รับการปรับแต่งให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนของไทยเพื่อความทนทาน ส่วนรุ่นแข่งอย่าง Honda City และ Nissan Almera ก็ใช้เทคโนโลยี CVT เช่นกัน แต่แต่ละแบรนด์จะมีการตั้งค่าอัตราทดเกียร์และความ responsive ของคันเร่งที่แตกต่างกันไป สำหรับคนไทยแล้ว เกียร์ CVT นั้นดูแลรักษาง่าย เพราะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์แค่ทุก 6 หมื่นกิโลเมตร (แนะนำให้ใช้น้ำมันเกียร์มาตรฐาน Toyota ATF-WS) และเข้ากันได้ดีกับน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศ แต่ถ้าชอบความรู้สึกการขับขี่ที่สมจริงมากกว่านี้ อาจต้องมองหาเกียร์แบบคลัตช์คู่หรือเกียร์มือในบางรุ่นของแบรนด์อื่น เพราะ Yaris ในไทยไม่มีตัวเลือกเหล่านี้ให้เลือก
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย