Q
Toyota Yaris Cross 2023 มีสีอะไรบ้าง
Toyota Yaris Cross 2023 มีตัวเลือกสีตัวถังทั้งแบบสองสีและสีเดียว ตัวถังสองสีมีสีให้เลือกดังนี้: DARK TURQUOISE / BLACK ROOF, SPICY SCARLET / BLACK ROOF, PLATINUM WHITE PEARL / BLACK ROOF, METAL STREAM METALLIC / BLACK ROOF ส่วนตัวถังสีเดียวมีสีให้เลือกได้แก่ DARK TURQUOISE, SPICY SCARLET, PLATINUM WHITE PEARL, METAL STREAM METALLIC, URBAN METAL, ATTITUDE BLACK MICA
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ข้อเสียของ Toyota Yaris Cross มีอะไรบ้าง?
Toyota Yaris Cross มีข้อเสียอยู่บ้าง เช่น พื้นที่ภายในรถค่อนข้างแคบ โดยเฉพาะสำหรับคนตัวสูง หากผู้ขับมีความสูงมาก อาจปรับเบาะให้นั่งสบายได้ยาก และหากมีผู้โดยสารที่สูงเกิน 180 ซม. นั่งด้านหน้า คนที่นั่งเบาะหลังจะรู้สึกอึดอัด
ในด้านสมรรถนะ รถรุ่นนี้ไม่ได้เน้นความแรง การเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ไม่ได้โดดเด่น และไม่ค่อยให้ความรู้สึก “แรงดึงหลัง” เท่าไหร่
ภายในห้องโดยสารใช้พลาสติกแข็งค่อนข้างมาก ทำให้ความรู้สึกของวัสดุและคุณภาพสัมผัสดูธรรมดา นอกจากนี้ การใช้งานบางฟังก์ชันก็ไม่สะดวก เช่น การปิดบางระบบต้องเข้าไปตั้งค่าลึกในเมนูหน้าจอ บางเมนูใช้งานได้เฉพาะตอนรถจอดเท่านั้น และบางฟังก์ชันต้องทำตามขั้นตอนตามข้อกำหนดของยุโรปทุกครั้งที่ใช้งาน
Q
Toyota Yaris Cross อยู่ใน Segment ไหน?
Toyota Yaris Cross เป็นรถในระดับ C-Segment หรือก็คือรถคอมแพคที่มีขนาดกำลังดี ความยาว 4,310 มม. กว้าง 1,770 มม. สูง 1,615 มม. ระยะฐานล้อ 2,620 มม. ทำให้ขับขี่ในชีวิตประจำวันได้สะดวกและจอดง่าย มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5L แบบธรรมชาติ (NA) ให้กำลังสูงสุด 67 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 121 นิวตันเมตร และยังมีมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยเสริมกำลัง ทำให้ระบบรวมให้กำลังสูงถึง 82 กิโลวัตต์ เพียงพอต่อการขับขี่ทั่วไป ราคาอยู่ที่ 789,000 ถึง 899,000 บาท ซึ่งเป็นช่วงราคาที่เหมาะสมสำหรับหลายครอบครัวที่กำลังมองหารรถสักคัน นอกจากนี้ Toyota Yaris Cross ยังมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยและความสะดวกสบายครบครัน ทั้งระบบควบคุมเสถียรภาพ ถุงลมนิรภัย 6 ตัน แอร์หลัง ให้ความสบายทุกที่นั่ง เหมาะสำหรับการเดินทางในเมือง ท่องเที่ยวใกล้ๆ หรือใช้เป็นรถครอบครัวในชีวิตประจำวัน
Q
ราคารถมือสองของ Toyota Yaris Cross ประมาณเท่าไหร่?
ราคารถมือสองของ Toyota Yaris Cross ขึ้นอยู่กับรุ่น ปีที่ผลิต สภาพรถ และระยะทางที่ใช้งาน ปัจจุบันรุ่นปี 2023 เช่น Yaris Cross HEV Smart มีราคาประมาณ 789,000 บาท, รุ่น HEV Premium ราคา 849,000 บาท และรุ่น HEV Premium Luxury ราคา 899,000 บาท ส่วนรุ่นปี 2020 ยังไม่มีข้อมูลการขายชัดเจน
ถ้ารถปีใหม่ สภาพดี และวิ่งน้อย ราคาขายต่อก็จะสูงกว่า แต่ถ้ารถเก่า มีรอยหรือวิ่งมาเยอะ ราคาจะลดลงมาก โดยทั่วไปแล้วรถที่ใช้งานไปแล้ว ราคาขายต่อจะลดลงจากราคาป้ายแดงพอสมควร ซึ่งราคาที่แน่นอนควรให้ผู้ประเมินรถมือสองเป็นคนดูโดยตรงเพื่อความแม่นยำ
Q
เครื่องยนต์ของ Toyota Yaris Cross มีความจุกี่ซีซี?
Toyota Yaris Cross ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1,496 ซีซี หรือที่เรียกกันว่า 1.5 ลิตร เป็นเครื่องยนต์แบบเบนซินธรรมดา 4 สูบ ระบบดูดอากาศเป็นแบบธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีรุ่นไฮบริดที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังเพียงพอต่อการขับขี่ในชีวิตประจำวัน มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นแบบแม่เหล็กถาวร (Permanent Magnet Synchronous Motor) ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน และมาพร้อมเกียร์ E-CVT ที่ช่วยให้ขับขี่นุ่มนวลและประหยัดน้ำมันอีกด้วย.
Q
Toyota Yaris Cross ใช้เครื่องยนต์แบบไหน?
Toyota Yaris Cross มีหลายรุ่นให้เลือก โดยบางรุ่นใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร แบบธรรมดา (NA) เครื่องยนต์แบบ 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 91 แรงม้า (67 กิโลวัตต์) ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 121 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที
นอกจากนี้ยังมีรุ่นไฮบริด ซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าแบบแม่เหล็กถาวรซิงโครนัส ให้กำลังสูงสุด 80 แรงม้า (59 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตร เมื่อรวมทั้งระบบแล้ว ให้กำลังรวม 111 แรงม้า และแรงบิดรวม 121 นิวตันเมตร
การจับคู่ระหว่างเครื่องยนต์และระบบไฮบริดนี้ ให้ทั้งความแรงและประหยัดน้ำมัน ขับขี่นุ่มนวล เหมาะกับทั้งการใช้งานในเมืองและขับทางไกล ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย
Q
เกียร์ของ Toyota Yaris Cross เป็นแบบไหน?
Toyota Yaris Cross ใช้เกียร์แบบ E-CVT ซึ่งเป็นเกียร์ที่ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานในรอบที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้การส่งกำลังนุ่มนวล ประหยัดน้ำมัน และขับขี่สบาย เกียร์ E-CVT ยังสามารถปรับอัตราทดได้ตามสภาพถนนและความต้องการของผู้ขับขี่ ช่วยให้รถตอบสนองได้ดีในทุกสถานการณ์ รุ่นต่างๆ ของ Yaris Cross เช่น Smart, Premium และ Premium Luxury ก็ใช้เกียร์แบบนี้ทั้งหมด เพื่อให้มั่นใจในสมรรถนะที่มั่นคงของตัวรถ
Q
ขนาด PCD ของ Toyota Yaris Cross คือเท่าไหร่?
Toyota Yaris Cross ที่วางขายในไทยใช้ล้อที่มีขนาด PCD 5×100 (หมายถึงมีรูน็อต 5 รู วัดระยะวงกลมได้ 100 มม.) ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานเดียวกับรถ SUV ขนาดเล็กหลายรุ่น เช่น Honda HR-V หรือ Toyota Corolla Cross ก็ใช้ขนาดนี้เช่นกัน
ถ้าคิดจะเปลี่ยนล้อแม็ก แนะนำให้ตรวจสอบขนาดรูดุมกลาง (CB) และค่า Offset (ET) ให้เหมาะสมด้วย ร้านแต่งรถในไทยส่วนใหญ่จะแนะนำล้อที่ผ่านมาตรฐาน JWL/VIA เพื่อความปลอดภัย และมักแนะนำแบรนด์ดัง เช่น Enkei หรือ Rays ที่เป็นล้อแบบน้ำหนักเบา ช่วยประหยัดน้ำมัน
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนล้อที่มีขนาดแตกต่างมากจากเดิม อาจกระทบระบบช่วงล่างหรือเงื่อนไขการรับประกันของศูนย์ แนะนำให้ปรึกษาศูนย์บริการ Toyota ในไทยก่อนตัดสินใจเปลี่ยนครับ
Q
Toyota Yaris Cross มีฟังก์ชัน Apple CarPlay ไหม?
Toyota Yaris Cross รองรับฟังก์ชัน Apple CarPlay ขึ้นอยู่กับรุ่นและปีของรถ โดยทั่วไปแล้ว รุ่นปี 2022 ขึ้นไปจะมาพร้อม CarPlay แบบไร้สายที่สามารถเชื่อมต่อกับ iPhone ผ่านหน้าจอกลางเพื่อใช้งานแผนที่ ฟังเพลง หรือโทรศัพท์ได้ทันที แต่สำหรับรุ่นก่อนหน้าหรือรุ่นย่อยบางรุ่นอาจต้องเชื่อมต่อผ่านสาย USB แนะนำให้ตรวจสอบกับตัวแทนจำหน่าย Toyota ในประเทศไทยก่อนตัดสินใจซื้อ หากพบปัญหาในการเชื่อมต่อ สามารถนำรถเข้ารับบริการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่ศูนย์บริการ Toyota ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดได้ฟรีภายในระยะเวลารับประกัน เพื่อให้ระบบรองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้เต็มรูปแบบ.
Q
ยางติดรถ Toyota Yaris Cross ใช้ยี่ห้ออะไร?
ยางติดรถเดิมของ Toyota Yaris Cross จะขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและออปชั่นที่เลือก โดยส่วนใหญ่ใช้ยี่ห้อระดับโลก เช่น Bridgestone หรือ Dunlop รุ่นยอดนิยมก็เช่น Bridgestone Ecopia หรือ Dunlop Enasave ที่เน้นความประหยัดน้ำมันและเงียบขณะขับขี่ ขนาดยางที่พบได้บ่อยคือ 215/60 R17 หรือ 215/55 R18 แล้วแต่รุ่น
เวลาจะเปลี่ยนยาง แนะนำให้เลือกยี่ห้อและขนาดเดียวกับของเดิม โดยเฉพาะถ้าขับบ่อยช่วงหน้าฝน อาจเลือกยางที่รีดน้ำดีอย่าง Michelin Primacy 4 ก็ได้ แต่หลังเปลี่ยนควรตั้งค่าระบบตรวจเช็คลมยาง (TPMS) ใหม่ และควรหมุนสลับยางตามระยะที่ศูนย์บริการ Toyota เพื่อลดการสึกหรอ เพราะสภาพอากาศร้อนในไทยทำให้ยางเสื่อมเร็ว.
Q
Toyota Yaris Cross เป็นรถดีไหม? มาดูข้อดีข้อเสียกันเลย
Toyota Yaris Cross ถือว่าเป็นรถที่ดีรุ่นหนึ่ง มีข้อดีหลายด้าน โดยตัวรถถูกพัฒนาบนแพลตฟอร์ม DNGA เป็น SUV ขนาดกะทัดรัด ดีไซน์ทันสมัย โดดเด่นด้วยกระจังหน้าใหญ่และไฟหน้า LED ที่ดูเฉียบคม กันชนหน้าเสริมมิติให้รถดูสปอร์ตมากขึ้น
ด้านความปลอดภัยก็จัดเต็ม มาพร้อม ABS, ระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ และถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ให้ความมั่นใจในการขับขี่ ส่วนระบบขับเคลื่อนเป็นแบบไฮบริด ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยเพียง 3.8 ลิตรต่อ 100 กม. เหมาะกับการใช้งานในเมือง
ภายในออกแบบลงตัว พื้นที่ใช้สอยพอเหมาะ ระยะฐานล้อ 2,620 มม. และความสูง 1,615 มม. เพียงพอต่อการใช้งานประจำวัน อย่างไรก็ตาม ยังมีจุดที่ควรพิจารณา เช่น สมรรถนะเครื่องยนต์อาจยังไม่ตอบโจทย์การเร่งแซงบนทางด่วน และวัสดุบางจุดในห้องโดยสารอาจไม่หรูหรามากนัก อาจไม่ถูกใจสายเน้นพรีเมียม.
Q&A ล่าสุด
Q
รถ E-Class ปลอดภัยหรือไม่?
Mercedes-Benz E-Class ในตลาดประเทศไทยเป็นรถยนต์ที่มีความปลอดภัยสูงมากติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัยหลายรายการเช่นระบบ PRE-SAFE ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่โดยเฉพาะในสภาพจราจรที่ซับซ้อนอย่างกรุงเทพมหานคร ระบบความปลอดภัยเชิงรุกช่วยลดความเสี่ยงจากการชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ E-Class ได้รับคะแนนระดับห้าดาวจากการทดสอบการชน Euro NCAP โครงสร้างตัวถังแข็งแรงและติดตั้งถุงลมนิรภัยครบถ้วนเพื่อปกป้องผู้โดยสารอย่างรอบด้าน นอกจากนี้ระบบเบรกและโปรแกรมควบคุมเสถียรภาพอิเล็กทรอนิกส์ถูกปรับแต่งให้เหมาะสมกับสภาพถนนเปียกชื้นของประเทศไทย เพื่อเพิ่มความมั่นคงในการขับขี่ สำหรับผู้บริโภคไทยที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย E-Class เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและมีสมรรถนะความปลอดภัยเป็นผู้นำในกลุ่มรถระดับเดียวกันทั้งในชีวิตประจำวันและการเดินทางไกล
Q
Is E-Class เป็นรถที่เชื่อถือได้หรือไม่?
เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส ในฐานะรถยนต์หรูขนาดกลางใหญ่ที่วางขายในตลาดไทย มีความน่าเชื่อถือในภาพรวมค่อนข้างดี เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จและเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะที่ใช้ในรุ่นนี้เป็นเทคโนโลยีที่ผ่านการพัฒนามาอย่างดีแล้ว โดยเฉพาะระบบระบายความร้อนที่ได้รับการปรับปรุงให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนในไทยได้เป็นอย่างดี ระบบอิเล็กทรอนิกส์ของอี-คลาสในรุ่นปีหลังๆ นั้นมีความเสถียรมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แถมเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายเมอร์เซเดสในไทยก็ครอบคลุม พร้อมนโยบายประกันจากโรงงานที่ให้ความคุ้มครอง 5 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร ซึ่งช่วยลดความกังวลเรื่องการบำรุงรักษาในระยะยาวได้ดี อย่างไรก็ตาม สภาพความชื้นสูงของไทยอาจเป็นปัจจัยที่กระทบต่อระบบอิเล็กทรอนิกส์ในรถหรู แนะนำให้ตรวจสอบวงจรไฟฟ้าเป็นประจำ ส่วนสภาพการจราจรที่ติดขัดในเมืองไทยอาจทำให้รุ่นไฮบริดอย่าง E 300e มีความเหมาะสมมากขึ้น ในกลุ่มรถระดับเดียวกัน อี-คลาสมีอัตราการถือครองที่มั่นคงในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ๆ แต่ควรระวังเรื่องระยะเวลารออะไหล่สำหรับบางรุ่นที่นำเข้า โดยรวมแล้ว หากดูแลรักษาตามคู่มืออย่างเคร่งครัด อี-คลาสจะให้ประสบการณ์การใช้งานที่คุ้มค่าตามมาตรฐานรถหรู แนะนำให้ผู้ใช้ในไทยเลือกรุ่นดีเซลหรือปลั๊ก-อินไฮบริดที่ประกอบในประเทศ เพราะให้ความประหยัดและเหมาะกับสภาพการใช้งานในไทยมากกว่า
Q
เมอร์เซเดส อี-คลาส ทนทานไหม?
เมอร์เซเดส-เบนซ์ คลาสอี ในตลาดไทยแสดงความทนทานในระยะยาวได้ดีเยี่ยม ซึ่งเป็นผลมาจากงานฝีมือมาตรฐานเยอรมันและการออกแบบที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้น เช่น ระบบระบายความร้อนที่เสริมความแข็งแกร่งและการป้องกันสนิม สภาพอากาศที่ร้อนและฝนชุกของไทยถือเป็นการทดสอบที่หนักหนาสำหรับชิ้นส่วนโลหะและระบบอิเล็กทรอนิกส์ของรุ่นอี แต่รถที่ได้รับการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอมักจะวิ่งได้เกิน 300,000 กิโลเมตร สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามช่วงเวลาบำรุงรักษาที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ไทยแนะนำ โดยเฉพาะการตรวจสอบระบบแอร์ แบตเตอรี่ และชิ้นส่วนยาง ถนนไทยมีความซับซ้อน แนะนำให้เลือกแบบที่มีระบบกันสะเทือนลมเพื่อเพิ่มความทนทานของช่วงล่าง อะไหล่แท้จากตัวแทนจำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในประเทศไทยและน้ำมันเครื่องที่ปรับสูตรสำหรับอากาศร้อนสามารถยืดอายุเครื่องยนต์ได้อย่างเห็นได้ชัด อัตราการรักษามูลค่ารถมือสองของคลาสอีในตลาดรถหรูไทยยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งสะท้อนถึงความน่าเชื่อถือ สำหรับเจ้าของที่ต้องการใช้งานระยะยาว แนะนำให้ซื้อรถมือสองที่ผ่านการรับรองจากทางบริษัทและเพิ่มบริการรับประกันระยะยาว พร้อมทั้งระวังการสึกหรอของเกียร์จากการขับ停สลับกันบ่อยในเมืองอย่างกรุงเทพฯ การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์บ่อยขึ้นจะช่วยให้ใช้งานได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
Q
E-Class บำรุงรักษาสูงหรือไม่?
Mercedes-Benz E-Class ในประเทศไทยมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาอยู่ในระดับกลางถึงสูง แม้ว่าชิ้นส่วนและค่าบำรุงรักษาจะสูงกว่ารถทั่วไปแต่ความน่าเชื่อถือโดยรวมดีและค่าใช้จ่ายระยะยาวยังคงควบคุมได้อย่างเหมาะสม ในประเทศไทยตัวแทนจำหน่ายเมอร์เซเดสเบนซ์อย่างเป็นทางการมีแพ็กเกจบำรุงรักษารายระยะที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายแนะนำให้เจ้าของรถปฏิบัติตามคู่มือบำรุงรักษาอย่างเคร่งครัด เช่น การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรองทุก 10000 กิโลเมตรหรือทุก 12 เดือน เพื่อป้องกันค่าใช้จ่ายซ่อมแซมที่สูงจากการละเลย สภาพอากาศร้อนชื้นในประเทศไทยส่งผลต่อระบบอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนยางจึงควรตรวจสอบระบบปรับอากาศ ผ้าเบรกและสภาพยางอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้เครือข่ายตัวแทนจำหน่ายเมอร์เซเดสเบนซ์ในไทยมีความครบครันโดยเฉพาะในเมืองหลักเช่นกรุงเทพ เชียงใหม่และภูเก็ต ทำให้เจ้าของรถเข้าถึงอะไหล่แท้และบริการมืออาชีพได้สะดวก หากงบประมาณจำกัดสามารถเลือกใช้บริการขยายประกันอย่างเป็นทางการหรือศูนย์ซ่อมที่เชื่อถือได้โดยใช้ชิ้นส่วนทดแทนที่มีมาตรฐานแต่ควรระวังว่าการเลือกใช้วิธีนี้อาจส่งผลต่อมูลค่าขายต่อ เมื่อเทียบกับแบรนด์หรูในระดับเดียวกัน E-Class มีช่วงเวลาบำรุงรักษาที่ยาวนานและมีจำนวนรถในตลาดไทยมากช่วยลดความยุ่งยากและค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาต่อเนื่อง
Q
รถ Mercedes E-Class คงมูลค่าได้ดีหรือไม่
เมอร์เซเดส-เบนซ์ คลาสอี ในตลาดประเทศไทยมีอัตราการรักษามูลค่ารถที่ค่อนข้างดี สาเหตุหลักมาจากความน่าเชื่อถือของแบรนด์ คุณภาพผลิตภัณฑ์ที่มั่นคง และความต้องการในตลาดที่สูง โดยเฉพาะในตลาดรถหรูของไทย คลาสอีได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเนื่องจากสามารถตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในเชิงธุรกิจและครอบครัวได้เป็นอย่างดี อัตราการรักษามูลค่ารถหลังจาก 3 ปีมักจะอยู่ที่ประมาณ 60% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของรถในระดับเดียวกัน ในตลาดไทยยังมีการยอมรับรุ่นดีเซลของคลาสอีค่อนข้างสูง เนื่องจากปัจจัยเรื่องราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศ ทำให้รถดีเซลมีสภาพคล่องในตลาดมือสองมากกว่า ส่วนรุ่นไฮบริดก็ได้รับความนิยมจากนโยบายสนับสนุนของรัฐบาลที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับรถเช่นกัน อย่างไรก็ตาม อัตราการรักษามูลค่ารถจะขึ้นอยู่กับสภาพรถ ระยะทาง การใช้งาน ระดับอุปกรณ์ และประวัติการบำรุงรักษา ดังนั้นควรซื้อขายผ่านช่องทางรถมือสองรับรองโดยทางการเพื่อให้ได้มูลค่าคงเหลือที่สูงกว่า หากมองในภาพกว้าง ผู้บริโภคไทยเมื่อซื้อรถหรูมือสองมักให้ความสำคัญกับการรับประกันจากศูนย์และประวัติการบริการตามระยะ ดังนั้นรถที่มีเอกสารบริการจากศูนย์ครบถ้วนจะรักษามูลค่าได้ดีกว่า นอกจากนี้เทคโนโลยีช่วยขับขี่ของคลาสอีอย่าง Distronic ก็ช่วยเพิ่มมูลค่าในตลาดมือสองได้ แต่ต้องระวังเรื่องผลกระทบจากสภาพอากาศร้อนชื้นต่ออายุการใช้งานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในรถ ควรตรวจสอบระบบแอร์และป้องกันสนิมเป็นประจำเพื่อรักษาสภาพรถให้ดีที่สุด
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Mitsubishi Xforce HEV กำลังจะวางจำหน่ายในประเทศไทย และเริ่มการแข่งขันกับ Yaris Cross
AshleyFeb 25, 2025

"SUV ที่ดีกว่า Toyota Yaris Cross, ขนาดของรถที่ใหญ่ขึ้น, ประหยัดน้ำมันมากขึ้น, แรงขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งขึ้น"
LienNov 20, 2024

ซื้อรถทำความเข้าใจหลักๆ: Toyota Yaris Cross พอเหมาะสำหรับครอบครัวทั่วไปหรือไม่?
พงศธรOct 17, 2024

"ราคาเริ่มต้นที่ THB 789,000, Yaris Cross มีความเหมาะสมมากกว่าสำหรับผู้ที่เยาว์?"
วิรุฬห์Sep 9, 2024

2024 Toyota Yaris Cross ราคาตั้งแต่ 789,000 บาท รุ่น HEV Premium มีราคาคุ้มค่าที่สุดไหม?
LienJun 18, 2024
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย