Q

ora good cat 400 pro มีสีอะไรบ้าง

Ora Good Cat มี 5 สีให้เลือกในตลาดไทย โดยมี 3 สีที่เป็นการผสมสีสองสี ได้แก่:ตัวรถสีเบจ+หลังคาสีน้ำตาล ตัวรถสีเขียวมรกต+หลังคาสีขาว ตัวรถสีขาว+หลังคาสีดำ ส่วนอีก 2 สีเป็นสีเดียว คือ สีเขียวและสีขาว
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Ora Good Cat มีอะไรบ้าง?
แม้ Ora Good Cat จะมีจุดเด่นหลายด้าน แต่ก็มีข้อด้อยบางประการที่ควรพิจารณาเช่นกัน เริ่มจากพื้นที่เก็บของด้านหลังที่ค่อนข้างเล็ก ถ้าขับรถออกทริปกับครอบครัวแล้วต้องขนของเยอะ อาจรู้สึกว่าไม่เพียงพอ รถรุ่นนี้จะเหมาะกับการเดินทางคนเดียวมากกว่า เบาะหลังนั่งไม่ค่อยสบายนัก โดยเฉพาะเวลาเจอถนนขรุขระ เพราะขนาดตัวรถและระบบช่วงล่างมีผลต่อความนุ่มนวลของการโดยสาร นอกจากนี้ ระบบเบรกบางครั้งจะมีเสียงดังขณะใช้งาน ซึ่งอาจสร้างความรำคาญ ระบบอินโฟเทนเมนต์ในรถก็ยังไม่ค่อยลื่นไหล การใช้งานยุ่งยาก ผู้ช่วยเสียงบางทีก็ค้างหรือเด้งขึ้นมาเองโดยไม่มีเหตุผล อีกทั้งยังมีข้อจำกัดในเรื่องความสะดวก เช่น ประตูฝั่งคนขับเท่านั้นที่สามารถปลดล็อกแยกได้ เวลาพาเด็กขึ้นรถอาจไม่สะดวก เบาะปรับไฟฟ้าก็มีแค่ฝั่งคนขับ บางจุดของรถยังให้วัสดุที่ดูเป็นพลาสติกเกินไป เช่น ที่ปัดน้ำฝน และในวันที่ฝนตกหนัก ความเร็วสูงสุดของที่ปัดน้ำฝนอาจไม่เพียงพอ ด้านหลังไม่มีช่องแอร์หรือไฟในห้องโดยสาร การซับแรงกระแทกของช่วงล่างยังทำได้แค่ระดับทั่วไป และเพลงในระบบก็มีให้เลือกไม่มากนัก โดยรวมคือยังมีหลายจุดที่ควรปรับปรุงสำหรับการใช้งานที่สมบูรณ์แบบมากขึ้นค่ะ
Q
ORA Good Cat อยู่ในกลุ่มรถ Segment ไหน?
ORA Good Cat จัดอยู่ในกลุ่มรถ B-Segment หรือที่เราเรียกกันง่ายๆ ว่า “รถขนาดเล็ก” ซึ่งรถประเภทนี้จะมีขนาดตัวถังที่เล็ก กะทัดรัด คล่องตัว เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นถนนแคบๆ หรือที่จอดรถจำกัดก็เอาอยู่ สำหรับ ORA Good Cat ตัวรถมีความยาว 4,254 มม. กว้าง 1,848 มม. สูง 1,596 มม. และระยะฐานล้อ 2,650 มม. ซึ่งถือว่าขนาดกำลังดี ใช้งานง่ายในชีวิตประจำวัน ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่มีระยะทางขับขี่สูงสุด 480 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง และอัตราการใช้พลังงานเฉลี่ยอยู่ที่ 11.9 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อ 100 กิโลเมตร ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เหมาะมากกับคนที่ใช้รถในเมืองเป็นประจำ ทั้งประหยัดทั้งใช้งานได้จริงค่ะ
Q
มูลค่าการขายต่อของ Ora Good Cat ประมาณเท่าไหร่?
ราคาขายต่อของรถยนต์มือสองอย่าง Ora Good Cat นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นปีรุ่น ระยะทางที่ใช้งาน สภาพรถโดยรวม และความต้องการในตลาด โดยทั่วไปแล้ว รถไฟฟ้าแบบ Ora Good Cat มักจะได้รับผลกระทบจากสภาพแบตเตอรี่และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ล่าสุด ราคาเริ่มต้นของรถมือสองรุ่น Ora Good Cat GT อยู่ที่ 65,520 บาท ส่วนรุ่นมาตรฐาน Ora Good Cat เริ่มต้นที่ 50,000 บาท แต่นี่เป็นแค่ราคาเบื้องต้นเท่านั้น ราคาจริงอาจแตกต่างกันไป เวลาขายรถ Ora Good Cat มือสอง ถ้ารถได้รับการดูแลดี ใช้งานน้อย และมีเอกสารครบถ้วน ก็มีโอกาสได้ราคาดี นอกจากนี้ ถ้ารุ่นนั้นมีฟีเจอร์พิเศษหรือเป็นที่นิยมในตลาด ก็อาจช่วยเพิ่มมูลค่ารถได้ ในทางกลับกัน ถ้ามีการอัปเกรดสำคัญในรุ่นใหม่ๆ หรือตลาดรถไฟฟ้ามีการเปลี่ยนแปลง ก็อาจทำให้ราคาขายต่อลดลงได้
Q
Ora Good Cat มีกี่ซีซี
คำถามและคำตอบนี้ยกเลิกแล้ว ไม่ต้องแปลหรือนำขึ้นแสดง
Q
PCD ของล้อ ORA Good Cat คือขนาดเท่าไหร่?
ขนาด PCD (ระยะรูดุมล้อ) ของรถ ORA Good Cat คือ 5×114.3 มม. หมายความว่ามีรูน็อต 5 รู วางเรียงบนวงกลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 114.3 มม. ซึ่งเป็นขนาดที่ใช้กันทั่วไปในรถญี่ปุ่นหลายรุ่น เช่น Honda City, Toyota Yaris และ Nissan Almera ที่ผลิตขายในไทย ทำให้การหาล้อแม็กรุ่นอื่นๆ มาเปลี่ยนหรือแต่งล้อในไทยทำได้ง่าย มีตัวเลือกเยอะ อย่างไรก็ตาม เวลาจะเปลี่ยนล้อ ควรดูนอกจาก PCD แล้ว ยังต้องเช็กขนาดรูดุมกลาง (CB) และค่า Offset (ET) ให้ตรงด้วย โดย ORA Good Cat มีขนาดรูดุมกลางประมาณ 63.4 มม. (แนะนำให้เช็กกับรถจริงอีกครั้งเพื่อความชัวร์) ควรเลือกร้านล้อที่ได้มาตรฐาน ให้ช่างช่วยลองใส่จริงก่อนซื้อ เพื่อให้แน่ใจว่าใส่ได้พอดี ไม่สั่น ในช่วงหน้าฝนของไทยที่ถนนลื่น ควรเลือกยางที่มีประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนดีเพื่อความปลอดภัย และถ้าคิดจะเปลี่ยนล้อใหม่ แนะนำให้ใช้ล้อที่ผ่านการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก. หรือ TISI) และขนาดต้องตรงกับที่จดทะเบียนไว้ เพื่อไม่ให้มีปัญหาเวลาไปตรวจสภาพรถหรือเคลมประกันค่ะ
Q
รถ ORA Good Cat รองรับระบบ Apple CarPlay ไหม?
รถ ORA Good Cat รองรับระบบ Apple CarPlay ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ iPhone ได้อย่างลงตัว แค่เชื่อมต่อมือถือกับพอร์ต USB ในรถด้วยสายเคเบิลก็ใช้ได้ทันที โดยฟีเจอร์นี้เหมาะมากกับอากาศร้อนๆ แบบไทยๆ เพราะเวลาขับรถคุณไม่ต้องก้มไปกดโทรศัพท์ให้เสี่ยงอันตราย แค่ใช้ผ่าน CarPlay ก็จัดการแผนที่ ฟังเพลง หรือรับสายได้สะดวกเลย แต่ต้องระวังหน่อยนะครับ บางรุ่นอาจต้องอัปเดตระบบผ่าน OTA ก่อนถึงจะใช้ CarPlay ได้ แนะนำให้ถามพนักงานขายตอนซื้อรถว่าซอฟต์แวร์เป็นเวอร์ชันล่าสุดหรือเปล่า อีกเรื่องที่ควรจำไว้คือต้องอัปเดต iOS บน iPhone ให้ใหม่เสมอจะได้ใช้งานได้ลื่นๆ และควรใช้สายเคเบิลแท้จาก Apple ครับ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่ถนนวุ่นวาย CarPlay จะช่วยนำทางคุณได้แบบเรียลไทม์ ช่วยให้ขับรถสะดวกขึ้นมาก แถมรถรุ่นนี้ยังรองรับ Android Auto สำหรับคนใช้สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ด้วย ช่วยลดความเสี่ยงเวลาต้องจับโทรศัพท์ขณะขับรถในช่วงหน้าฝนได้ดีเลยทีเดียว
Q
ยี่ห้อยางรถของ Ora Good Cat มีอะไรบ้าง?
ORA Good Cat ที่วางจำหน่ายในไทย ส่วนใหญ่จะมาพร้อมยางติดรถจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียง เช่น Giti หรือ Maxxis โดยยี่ห้อของยางอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นย่อยและล็อตการผลิต ขนาดยางที่พบได้บ่อยคือ 215/50 R17 หรือ 215/55 R18 ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่ให้ทั้งความนุ่มนวลในการขับขี่และการยึดเกาะถนนได้ดี เหมาะกับสภาพถนนในเมืองที่หลากหลายของไทย รวมถึงถนนลื่นในช่วงหน้าฝน แนะนำให้เจ้าของรถในไทยหมั่นตรวจเช็คลมยางและการสึกหรอของยางอยู่เสมอ โดยเฉพาะในช่วงอากาศร้อนที่ลมยางมีแนวโน้มจะขยายตัว ควรรักษาค่าลมยางให้อยู่ในระดับที่ผู้ผลิตแนะนำ ซึ่งมักจะระบุไว้ที่ขอบประตูฝั่งคนขับหรือฝาถังน้ำมัน เพื่อความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของยาง หากต้องเปลี่ยนยางในไทย สามารถเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการรถยนต์อย่าง B-Quik ซึ่งมีบริการตรวจเช็คและเปลี่ยนยางอย่างมืออาชีพ หรือจะเลือกใช้ยางแบรนด์เดิมหรือระดับพรีเมียมอย่าง Michelin หรือ Bridgestone ก็ได้ เพื่อความเงียบในการขับขี่และประสิทธิภาพบนถนนเปียกที่ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูฝนที่เส้นทางลื่นง่ายค่ะ
Q
ORA Good Cat เป็นรถดีไหม? มาดูข้อดีข้อเสียกัน
ORA Good Cat ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียเหมือนรถรุ่นอื่นๆ ค่ะ ในส่วนของข้อดี รถรุ่นนี้มาพร้อมระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะระดับ L2 เช่น กล้องมองรอบคัน 360 องศา และระบบจอดรถอัตโนมัติด้วย AI ซึ่งช่วยให้ขับง่ายขึ้น โดยเฉพาะมือใหม่หรือผู้หญิงที่ต้องการความมั่นใจเวลาใช้งาน นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์สตาร์ทรถโดยไม่ต้องใช้กุญแจ และสามารถสั่งงานผ่าน Bluetooth ได้อีกด้วย การชาร์จไฟก็รวดเร็วพอสมควร ชาร์จจาก 15% ไปถึง 80% ด้วยระบบชาร์จเร็วแบบ DC ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าแบบแม่เหล็กถาวรด้านหน้าให้แรงบิดที่ต่อเนื่อง ทำให้การเร่งความเร็วลื่นไหลดี แต่ก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกัน เช่น พื้นที่เก็บของด้านหลังค่อนข้างเล็ก ถ้าต้องเดินทางไกลหรือขนของเยอะอาจไม่สะดวก และเนื่องจากขนาดตัวรถกับช่วงล่าง ทำให้เบาะหลังนั่งไม่ค่อยสบาย โดยเฉพาะเวลาวิ่งผ่านถนนขรุขระ บางคนที่ใช้งานจริงยังบ่นเรื่องเบรกมีเสียงแปลกๆ ระบบความบันเทิงบางทีรวน เช่น ผู้ช่วยสั่งงานด้วยเสียงใช้งานไม่ได้เป็นบางครั้ง ระบบปลดล็อกประตูทีละบานไม่สะดวก ปรับเบาะอัตโนมัติได้น้อย ที่ปัดน้ำฝนไม่ค่อยดี ไม่มีช่องแอร์หรือไฟอ่านหนังสือด้านหลัง ระบบกันเสียงไม่ค่อยดี และเพลงที่ติดมากับรถก็ค่อนข้างธรรมดา สุดท้าย รถรุ่นนี้จะเหมาะกับเราหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคนค่ะ ถ้าชอบดีไซน์น่ารัก ขับในเมืองเป็นหลัก และเน้นความประหยัด ก็ถือว่าน่าใช้ไม่น้อยเลยค่ะ
Q
ความกว้างของ Ora Good Cat คือเท่าไร
ความกว้างของรถ ORA Good Cat ในแต่ละรุ่นนั้นมีความแตกต่างกัน โดยรุ่นปี 2022 และ 2021 จะมีความกว้างอยู่ที่ 1,825 มม. ส่วนรุ่นปี 2024 นั้นกว้างขึ้นมาอีกหน่อยอยู่ที่ 1,848 มม. ความกว้างของรถถือเป็นพารามิเตอร์สำคัญที่ส่งผลต่อการจัดวางพื้นที่ภายใน การควบคุมรถ รวมไปถึงการขับขี่บนถนนด้วยนะครับ ถ้ารถกว้างมากขึ้นก็จะทำให้มีพื้นที่ด้านข้างเพิ่มขึ้น ผู้โดยสารและคนขับก็จะนั่งสบายขึ้น แต่ข้อควรระวังคือเวลาเจอถนนแคบๆ หรือต้องจอดในที่จำกัด อาจต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้นนิดหน่อยครับ
Q
ภาษีรถยนต์ของ ORA Good Cat อยู่ที่เท่าไหร่ ?คำนวณยังไง?
รถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) มักจะได้รับอัตราภาษีที่พิเศษกว่าปกติ อย่างเช่น ORA Good Cat ที่เป็นรถไฟฟ้า 100% ก็เสียภาษีรถยนต์ปีละแค่ประมาณ 800-1,500 บาทเท่านั้น ซึ่งถูกกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทั่วไปมาก นี่เป็นนโยบายส่งเสริมจากรัฐบาลไทยที่อยากให้คนหันมาใช้รถไฟฟ้าให้มากขึ้น แนะนำให้เจ้าของรถในไทยจ่ายภาษีรถยนต์ระหว่างวันที่ 1 มกราคมถึง 30 เมษายนของทุกปี จะไปจ่ายที่กรมการขนส่งทางบก (Department of Land Transport) หรือที่สาขาธนาคารบางแห่งก็ได้ แต่ถ้าช้ากว่านี้อาจโดนค่าปรับเพิ่มนะ นอกจากภาษีรถยนต์ที่ถูกแล้ว การซื้อ ORA Good Cat ยังได้สิทธิประโยชน์อื่นๆ จากรัฐบาลอีก เช่น ส่วนลดสูงสุด 150,000 บาท และยังได้สิทธิ์ไม่ต้องเสียค่าผ่านทางในกรุงเทพฯ และปริมณฑลด้วย สำหรับใครที่ต้องขับรถในเมืองบ่อยๆ สิทธิ์พวกนี้ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้เยอะเลยล่ะ!

ข้อดี

ออกแบบภายนอกที่น่ารักและไม่เหมือนใคร
ส่วนที่อยู่ในรถที่สบายด้วยพื้นที่ที่ดี
ระยะทางการใช้งานแบตเตอรี่เพียงพอสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน
คุณสมบัติความปลอดภัยและเทคโนโลยีล้ำหน้า

ข้อเสีย

ประสิทธิภาพที่ความเร็วสูงจำกัด
บางคนอาจรู้สึกว่าความเร็วในการชาร์จช้า
มูลค่าการขายรถเก็บอาจไม่สูงมาก

Q&A ล่าสุด

Q
คุณภาพการขับขี่ของ Honda Accord 2023 เป็นอย่างไร
รถ Honda Accord 2023 ในตลาดไทยโดดเด่นเรื่องความสบายในการนั่ง ซึ่งมาจากระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งมาอย่างดีและห้องโดยสารที่กว้างขวาง ระบบช่วงล่างใช้แบบแมคเฟอร์สันด้านหน้าและมัลติลิงค์ด้านหลัง ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนจากถนนขรุขระและสะพานชะลอความเร็วที่พบได้บ่อยในไทย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนเบาะนั่งก็มีความนุ่มที่พอดี ให้การรองรับที่ดีแม้ในการเดินทางไกล เหมาะสมทั้งสำหรับการขับในเมืองกรุงเทพฯที่รถติดและทริปท่องเที่ยวทางไกลในไทย แถมยังมีเทคโนโลยี Active Noise Cancellation ที่ช่วยลดเสียงลมและเสียงถนนเวลาขับความเร็วสูง ทำให้ภายในรถเงียบขึ้นมาก ในสภาพอากาศร้อนของไทย ระบบแอร์อัตโนมัติแบบสองโซนและช่องระบายอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลังก็ช่วยเพิ่มความสบายได้ไม่น้อย ที่น่าสนใจคือความสูงของช่วงล่างที่ทำงานได้ดีกับสภาพถนนไทย ทั้งในเมืองและบนทางด่วนที่ความเร็วสูง ก็ไม่รู้สึกเหินเลย ส่วนเรื่องการใช้งานพื้นที่ในรถนั้น Accord ทำได้ดีกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน โดยเฉพาะพื้นที่สำหรับขาที่ด้านหลังซึ่งกว้างขวางใกล้เคียงรถหรูบางรุ่น สำหรับคนไทยที่เน้นการใช้รถครอบครัว นี่ถือเป็นจุดแข็งสำคัญ นอกจากนี้รุ่น 2023 ยังปรับปรุงระบบพวงมาลัยให้คงความสบายแต่เพิ่มความมั่นคงเวลาเข้าโค้ง เหมาะมากกับถนนคดเคี้ยวในเขาหรือทางด่วนของไทย
Q
รถ Honda Accord ปี 2023 มีระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถหรือไม่
แน่นอนว่า Honda Accord รุ่นปี 2023 ที่วางขายในตลาดไทยได้ติดตั้งระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถหรือ LKAS ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชุดความปลอดภัย Honda Sensing ระบบนี้ใช้กล้องหน้าจับภาพเส้นแบ่งช่องทางรถ เมื่อความเร็วเกิน 65 กม./ชม. จะช่วยควบคุมพวงมาลัยให้รถอยู่กลางช่องทางเดินรถโดยอัตโนมัติ โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพการขับขี่บนทางหลวงหรือการเดินทางไกลในไทย ที่สำคัญระบบ LKAS ของ Honda ยังมีฟังก์ชั่นแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง ถ้ารถเบี่ยงออกจากเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ ระบบจะสั่นพวงมาลัยพร้อมแสดงข้อความเตือนบนหน้าปัด ซึ่งช่วยได้มากในเส้นทางชนบทที่เส้นแบ่งช่องทางไม่ชัดเจน หรือกรณีผู้ขับเหนื่อยล้า นอกจาก LKAS แล้ว Accord 2023 ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยขั้นสูงอื่นๆ เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับตามรถคันหน้า ระบบช่วยเบรกป้องกันการชน ซึ่งทำให้คันนี้แข่งขันได้ดีในระดับเดียวกัน สำหรับคนไทยที่กำลังเลือกซื้อรถ แนะนำให้ลองขับจริงเพื่อทดสอบการทำงานของระบบเหล่านี้ โดยเฉพาะความแม่นยำของ LKAS ในสภาพการจราจรที่ต้องแบ่งช่องทางกับรถมอเตอร์ไซค์แบบไทยๆ รวมถึงความนุ่มนวลเวลาระบบทำงานว่าจะเข้ากับสไตล์การขับของแต่ละคนหรือไม่ ทุกวันนี้กรมการขนส่งไทยได้ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของรถยนต์ ทำให้ระบบช่วยขับขี่แบบนี้กลายเป็นสิ่งที่รถระดับกลางถึงสูงต้องมีกันแล้ว
Q
มูลค่าขายต่อของ Honda Accord ปี 2023 คือเท่าไร?
รถยนต์มือสอง Honda Accord รุ่นปี 2023 ในประเทศไทยยังคงมีอัตราการรักษามูลค่าที่ค่อนข้างดี สืบเนื่องมาจากความน่าเชื่อถือของแบรนด์ Honda ในตลาดไทย รวมถึงภาพลักษณ์ความทนทานและประโยชน์ใช้สอยของ Accord ที่สั่งสมมายาวนาน ตามหลักการทั่วไปของตลาดรถไทย รถใหม่จะเสียมูลค่าไปประมาณ 15-20% ในปีแรก จากนั้นจะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ สำหรับ Accord ที่เป็นรุ่นยอดนิยมในตลาดรถเก๋งขนาดกลาง มักจะมีอัตราการรักษามูลค่าสูกว่าค่าเฉลี่ยของรถระดับเดียวกัน คาดว่าหลังจาก 3 ปียังสามารถรักษามูลค่าไว้ได้ประมาณ 60% คนไทยให้ความสำคัญกับเรื่องความประหยัดน้ำมันและค่าบำรุงรักษาเป็นพิเศษ ซึ่ง Honda Accord 2023 ตอบโจทย์ได้ดีด้วยระบบเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5L และระบบไฮบริดที่ช่วยประหยัดน้ำมัน แถมยังมีเครือข่ายบริการหลังการขายครอบคลุมทั่วประเทศและมีอะไหล่พร้อมให้บริการเสมอ ปัจจัยเหล่านี้ช่วยเสริมมูลค่ารถมือสองได้ไม่น้อย เคล็ดลับอีกอย่างคือสีรถก็มีผลต่อราคาขายต่อด้วย สีขาวและสีเงินจะขายได้ราคาดีกว่าสีสันแปลกๆ นอกจากนี้การมีประวัติการบริการที่ครบถ้วนและไม่เคยเกิดอุบัติเหตุจะช่วยรักษาราคารถได้มาก แนะนำให้บริการตามศูนย์บริการอย่างสม่ำเสมอ ส่วนในสภาพอากาศร้อนชื้นแบบไทยๆ การจอดรถในที่ร่มและตรวจสอบระบบอิเล็กทรอนิกส์กับยางเป็นประจำจะช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของรถ ทำให้ขายต่อได้ราคาดีขึ้น
Q
รถ Honda Accord ปี 2023 มีระบบเสียง Bose หรือไม่?
รุ่น Honda Accord 2023 ในตลาดไทยบางรุ่นระดับสูงมีการติดตั้งระบบเสียงคุณภาพสูงจาก Bose ซึ่งระบบนี้มักมาพร้อมกับลำโพง 12 ตัว และใช้เทคโนโลยี Centerpoint พิเศษร่วมกับเทคโนโลยีประมวลผลสัญญาณดิจิทัล SurroundStage ของ Bose ที่มอบประสบการณ์เสียงรอบทิศทางที่สมจริงให้กับผู้โดยสารในรถยนต์ เหมาะอย่างยิ่งกับแนวเพลงป็อปและเพลงไทยที่คนไทยชื่นชอบ อย่างไรก็ตาม การติดตั้งระบบเสียงอาจแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นย่อย แนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดอุปกรณ์กับตัวแทนจำหน่าย Honda ในไทยก่อนตัดสินใจซื้อ สำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ระบบเสียง Bose ผ่านการออกแบบพิเศษให้ทนทานต่อความร้อนและความชื้นสูง เพื่อความเสถียรในการใช้งานระยะยาว นอกจาก Honda Accord 2023 ยังมาพร้อมกับชุดความปลอดภัย Honda SENSING ล่าสุดและระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ Honda CONNECT ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการด้านเทคโนโลยีและความสบายของตลาดไทย แนะนำให้ผู้บริโภคไทยทดลองฟังเสียงจริงก่อนซื้อ พร้อมเปรียบเทียบความแตกต่างของอุปกรณ์ในแต่ละรุ่น เพื่อเลือกรุ่นที่ตรงความต้องการมากที่สุด
Q
ตารางการบำรุงรักษาสำหรับ Honda Accord ปี 2023 คืออะไร?
สำหรับรถ Honda Accord รุ่นปี 2023 ในประเทศไทย แนะนำให้ทำการบำรุงรักษาตามระยะเวลาทุก 6 เดือนหรือทุก 10,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างไหนถึงก่อน) โดยบริการปกติจะรวมถึงการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองน้ำมันเครื่อง พร้อมกับการตรวจเช็คสภาพยาง ระบบเบรก ไฟรถ และส่วนสำคัญอื่นๆ เนื่องจากสภาพอากาศในไทยที่ทั้งร้อนและชื้น ควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการตรวจสอบและเปลี่ยนไส้กรองแอร์และน้ำยาคูลแลนท์เพื่อให้ระบบทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ส่วนรุ่น Hybrid ต้องตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่เป็นประจำด้วย แนะนำให้ใช้บริการที่ Honda 4S ที่ได้รับการรับรองเท่านั้นและใช้อะไหล่แท้จาก Honda เพื่อรักษาสิทธิ์การรับประกัน ช่วงหน้าฝนของไทยควรเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบที่ปัดน้ำฝนและป้องกันสนิมใต้ท้องรถ ส่วนการขับขี่ในเมืองที่ติดขัดบ่อยๆ อาจทำให้ต้องเปลี่ยนผ้าเบรกก่อนกำหนดได้ สามารถจองบริการบำรุงรักษาผ่านแอป MyHonda ในเว็บไซต์ Hondaไทยได้เลย ซึ่งบริการแบบดิจิทัลนี้สะดวกมากในไทย อีกเรื่องที่สำคัญคือ น้ำมันในไทยส่วนใหญ่เป็นแบบเอทานอล ควรใช้น้ำมันตามเลข octane ที่คู่มือระบุไว้อย่างเคร่งครัดเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาคาร์บอนสะสมในเครื่องยนต์ นอกจากนี้ อู่ Honda ในไทยยังมีบริการตรวจเช็คฟรี 21 จุดที่จะช่วยให้คุณเข้าใจสภาพรถได้อย่างละเอียดอีกด้วย
ดูเพิ่มเติม