Q

Yaris Cross มีสีอะไรบ้าง

รถยนต์ Yaris Cross รุ่นปี 2023 ในตลาดประเทศไทยมีตัวเลือกสีสันให้เลือกหลากหลาย ทั้งโทนสีเดียวและแบบสองโทน สำหรับสีเดียวเริ่มจาก ATTITUDE BLACK สีดำคลาสสิกที่ให้ความรู้สึกมั่นคงแต่ก็ดูสปอร์ต เหมาะกับคนที่ชอบสไตล์เรียบๆ, URBAN METAL สีเทาเมทัลลิกโทนเย็นที่ให้ความรู้สึกโมเดิร์นเหมาะกับชีวิตในเมือง, METAL STREAM METALLIC สีเงินเมทัลลิกที่ให้ความหรูหราด้วยประกายเมทัลลิกสวยงาม, PLATINUM WHITE PEARL สีขาวไข่มุกที่คลาสสิกและดูหรู เป็นหนึ่งในสียอดนิยมของไทย, SPICY SCARLET สีแดงสดที่โดดเด่นเหมาะกับคนชอบสไตล์จัดจ้าน, และ DARK TURQUOISE สีเขียวเทอร์ควอยซ์โทนเข้มที่ดูแตกต่างและมีชีวิตชีวา ให้ความรู้สึกสดชื่นเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีแบบสองโทนให้เลือกอีก 4 แบบ คือ METAL STREAM METALLIC/หลังคาดำ, PLATINUM WHITE PEARL/หลังคาดำ, SPICY SCARLET/หลังคาดำ และ DARK TURQUOISE/หลังคาดำ โดยดีไซน์สองโทนนี้ใช้หลังคาสีดำตัดกับตัวถังเพื่อเพิ่มความโมเดิร์นและมิติให้รถ ยิ่งไปกว่านั้นหลังคาดำยังช่วยลดความร้อนจากแสงอาทิตย์ได้จริงๆ แถมยังดูเท่ห์โดนใจวัยรุ่นไทยอีกด้วย!
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Toyota Yaris Cross มีอะไรบ้าง?
Toyota Yaris Cross มีข้อเสียอยู่บ้าง เช่น พื้นที่ภายในรถค่อนข้างแคบ โดยเฉพาะสำหรับคนตัวสูง หากผู้ขับมีความสูงมาก อาจปรับเบาะให้นั่งสบายได้ยาก และหากมีผู้โดยสารที่สูงเกิน 180 ซม. นั่งด้านหน้า คนที่นั่งเบาะหลังจะรู้สึกอึดอัด ในด้านสมรรถนะ รถรุ่นนี้ไม่ได้เน้นความแรง การเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ไม่ได้โดดเด่น และไม่ค่อยให้ความรู้สึก “แรงดึงหลัง” เท่าไหร่ ภายในห้องโดยสารใช้พลาสติกแข็งค่อนข้างมาก ทำให้ความรู้สึกของวัสดุและคุณภาพสัมผัสดูธรรมดา นอกจากนี้ การใช้งานบางฟังก์ชันก็ไม่สะดวก เช่น การปิดบางระบบต้องเข้าไปตั้งค่าลึกในเมนูหน้าจอ บางเมนูใช้งานได้เฉพาะตอนรถจอดเท่านั้น และบางฟังก์ชันต้องทำตามขั้นตอนตามข้อกำหนดของยุโรปทุกครั้งที่ใช้งาน
Q
Toyota Yaris Cross อยู่ใน Segment ไหน?
Toyota Yaris Cross เป็นรถในระดับ C-Segment หรือก็คือรถคอมแพคที่มีขนาดกำลังดี ความยาว 4,310 มม. กว้าง 1,770 มม. สูง 1,615 มม. ระยะฐานล้อ 2,620 มม. ทำให้ขับขี่ในชีวิตประจำวันได้สะดวกและจอดง่าย มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5L แบบธรรมชาติ (NA) ให้กำลังสูงสุด 67 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 121 นิวตันเมตร และยังมีมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยเสริมกำลัง ทำให้ระบบรวมให้กำลังสูงถึง 82 กิโลวัตต์ เพียงพอต่อการขับขี่ทั่วไป ราคาอยู่ที่ 789,000 ถึง 899,000 บาท ซึ่งเป็นช่วงราคาที่เหมาะสมสำหรับหลายครอบครัวที่กำลังมองหารรถสักคัน นอกจากนี้ Toyota Yaris Cross ยังมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยและความสะดวกสบายครบครัน ทั้งระบบควบคุมเสถียรภาพ ถุงลมนิรภัย 6 ตัน แอร์หลัง ให้ความสบายทุกที่นั่ง เหมาะสำหรับการเดินทางในเมือง ท่องเที่ยวใกล้ๆ หรือใช้เป็นรถครอบครัวในชีวิตประจำวัน
Q
ราคารถมือสองของ Toyota Yaris Cross ประมาณเท่าไหร่?
ราคารถมือสองของ Toyota Yaris Cross ขึ้นอยู่กับรุ่น ปีที่ผลิต สภาพรถ และระยะทางที่ใช้งาน ปัจจุบันรุ่นปี 2023 เช่น Yaris Cross HEV Smart มีราคาประมาณ 789,000 บาท, รุ่น HEV Premium ราคา 849,000 บาท และรุ่น HEV Premium Luxury ราคา 899,000 บาท ส่วนรุ่นปี 2020 ยังไม่มีข้อมูลการขายชัดเจน ถ้ารถปีใหม่ สภาพดี และวิ่งน้อย ราคาขายต่อก็จะสูงกว่า แต่ถ้ารถเก่า มีรอยหรือวิ่งมาเยอะ ราคาจะลดลงมาก โดยทั่วไปแล้วรถที่ใช้งานไปแล้ว ราคาขายต่อจะลดลงจากราคาป้ายแดงพอสมควร ซึ่งราคาที่แน่นอนควรให้ผู้ประเมินรถมือสองเป็นคนดูโดยตรงเพื่อความแม่นยำ
Q
เครื่องยนต์ของ Toyota Yaris Cross มีความจุกี่ซีซี?
Toyota Yaris Cross ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1,496 ซีซี หรือที่เรียกกันว่า 1.5 ลิตร เป็นเครื่องยนต์แบบเบนซินธรรมดา 4 สูบ ระบบดูดอากาศเป็นแบบธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีรุ่นไฮบริดที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังเพียงพอต่อการขับขี่ในชีวิตประจำวัน มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นแบบแม่เหล็กถาวร (Permanent Magnet Synchronous Motor) ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน และมาพร้อมเกียร์ E-CVT ที่ช่วยให้ขับขี่นุ่มนวลและประหยัดน้ำมันอีกด้วย.
Q
Toyota Yaris Cross ใช้เครื่องยนต์แบบไหน?
Toyota Yaris Cross มีหลายรุ่นให้เลือก โดยบางรุ่นใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร แบบธรรมดา (NA) เครื่องยนต์แบบ 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 91 แรงม้า (67 กิโลวัตต์) ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 121 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที นอกจากนี้ยังมีรุ่นไฮบริด ซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าแบบแม่เหล็กถาวรซิงโครนัส ให้กำลังสูงสุด 80 แรงม้า (59 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตร เมื่อรวมทั้งระบบแล้ว ให้กำลังรวม 111 แรงม้า และแรงบิดรวม 121 นิวตันเมตร การจับคู่ระหว่างเครื่องยนต์และระบบไฮบริดนี้ ให้ทั้งความแรงและประหยัดน้ำมัน ขับขี่นุ่มนวล เหมาะกับทั้งการใช้งานในเมืองและขับทางไกล ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย
Q
เกียร์ของ Toyota Yaris Cross เป็นแบบไหน?
Toyota Yaris Cross ใช้เกียร์แบบ E-CVT ซึ่งเป็นเกียร์ที่ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานในรอบที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้การส่งกำลังนุ่มนวล ประหยัดน้ำมัน และขับขี่สบาย เกียร์ E-CVT ยังสามารถปรับอัตราทดได้ตามสภาพถนนและความต้องการของผู้ขับขี่ ช่วยให้รถตอบสนองได้ดีในทุกสถานการณ์ รุ่นต่างๆ ของ Yaris Cross เช่น Smart, Premium และ Premium Luxury ก็ใช้เกียร์แบบนี้ทั้งหมด เพื่อให้มั่นใจในสมรรถนะที่มั่นคงของตัวรถ
Q
ขนาด PCD ของ Toyota Yaris Cross คือเท่าไหร่?
Toyota Yaris Cross ที่วางขายในไทยใช้ล้อที่มีขนาด PCD 5×100 (หมายถึงมีรูน็อต 5 รู วัดระยะวงกลมได้ 100 มม.) ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานเดียวกับรถ SUV ขนาดเล็กหลายรุ่น เช่น Honda HR-V หรือ Toyota Corolla Cross ก็ใช้ขนาดนี้เช่นกัน ถ้าคิดจะเปลี่ยนล้อแม็ก แนะนำให้ตรวจสอบขนาดรูดุมกลาง (CB) และค่า Offset (ET) ให้เหมาะสมด้วย ร้านแต่งรถในไทยส่วนใหญ่จะแนะนำล้อที่ผ่านมาตรฐาน JWL/VIA เพื่อความปลอดภัย และมักแนะนำแบรนด์ดัง เช่น Enkei หรือ Rays ที่เป็นล้อแบบน้ำหนักเบา ช่วยประหยัดน้ำมัน อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนล้อที่มีขนาดแตกต่างมากจากเดิม อาจกระทบระบบช่วงล่างหรือเงื่อนไขการรับประกันของศูนย์ แนะนำให้ปรึกษาศูนย์บริการ Toyota ในไทยก่อนตัดสินใจเปลี่ยนครับ
Q
Toyota Yaris Cross มีฟังก์ชัน Apple CarPlay ไหม?
Toyota Yaris Cross รองรับฟังก์ชัน Apple CarPlay ขึ้นอยู่กับรุ่นและปีของรถ โดยทั่วไปแล้ว รุ่นปี 2022 ขึ้นไปจะมาพร้อม CarPlay แบบไร้สายที่สามารถเชื่อมต่อกับ iPhone ผ่านหน้าจอกลางเพื่อใช้งานแผนที่ ฟังเพลง หรือโทรศัพท์ได้ทันที แต่สำหรับรุ่นก่อนหน้าหรือรุ่นย่อยบางรุ่นอาจต้องเชื่อมต่อผ่านสาย USB แนะนำให้ตรวจสอบกับตัวแทนจำหน่าย Toyota ในประเทศไทยก่อนตัดสินใจซื้อ หากพบปัญหาในการเชื่อมต่อ สามารถนำรถเข้ารับบริการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่ศูนย์บริการ Toyota ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดได้ฟรีภายในระยะเวลารับประกัน เพื่อให้ระบบรองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้เต็มรูปแบบ.
Q
ยางติดรถ Toyota Yaris Cross ใช้ยี่ห้ออะไร?
ยางติดรถเดิมของ Toyota Yaris Cross จะขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและออปชั่นที่เลือก โดยส่วนใหญ่ใช้ยี่ห้อระดับโลก เช่น Bridgestone หรือ Dunlop รุ่นยอดนิยมก็เช่น Bridgestone Ecopia หรือ Dunlop Enasave ที่เน้นความประหยัดน้ำมันและเงียบขณะขับขี่ ขนาดยางที่พบได้บ่อยคือ 215/60 R17 หรือ 215/55 R18 แล้วแต่รุ่น เวลาจะเปลี่ยนยาง แนะนำให้เลือกยี่ห้อและขนาดเดียวกับของเดิม โดยเฉพาะถ้าขับบ่อยช่วงหน้าฝน อาจเลือกยางที่รีดน้ำดีอย่าง Michelin Primacy 4 ก็ได้ แต่หลังเปลี่ยนควรตั้งค่าระบบตรวจเช็คลมยาง (TPMS) ใหม่ และควรหมุนสลับยางตามระยะที่ศูนย์บริการ Toyota เพื่อลดการสึกหรอ เพราะสภาพอากาศร้อนในไทยทำให้ยางเสื่อมเร็ว.
Q
Toyota Yaris Cross เป็นรถดีไหม? มาดูข้อดีข้อเสียกันเลย
Toyota Yaris Cross ถือว่าเป็นรถที่ดีรุ่นหนึ่ง มีข้อดีหลายด้าน โดยตัวรถถูกพัฒนาบนแพลตฟอร์ม DNGA เป็น SUV ขนาดกะทัดรัด ดีไซน์ทันสมัย โดดเด่นด้วยกระจังหน้าใหญ่และไฟหน้า LED ที่ดูเฉียบคม กันชนหน้าเสริมมิติให้รถดูสปอร์ตมากขึ้น ด้านความปลอดภัยก็จัดเต็ม มาพร้อม ABS, ระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ และถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ให้ความมั่นใจในการขับขี่ ส่วนระบบขับเคลื่อนเป็นแบบไฮบริด ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยเพียง 3.8 ลิตรต่อ 100 กม. เหมาะกับการใช้งานในเมือง ภายในออกแบบลงตัว พื้นที่ใช้สอยพอเหมาะ ระยะฐานล้อ 2,620 มม. และความสูง 1,615 มม. เพียงพอต่อการใช้งานประจำวัน อย่างไรก็ตาม ยังมีจุดที่ควรพิจารณา เช่น สมรรถนะเครื่องยนต์อาจยังไม่ตอบโจทย์การเร่งแซงบนทางด่วน และวัสดุบางจุดในห้องโดยสารอาจไม่หรูหรามากนัก อาจไม่ถูกใจสายเน้นพรีเมียม.

ข้อดี

ขับได้สบายในพื้นที่
ระบบขับเคลื่อนประหยัดน้ำมันรถวิ่งแบบไหลลื่นบนถนนในเมืองที่สภาพถนนไม่ดี,สามารถผ่านทางน้ำที่สะสมอยู่เล็กน้อย
สามารถนำของหายนะหลายตัวไปได้โดยที่ไม่ต้องขูดสระ
ไม่มีคู่แข่งที่เทียบเท่าในชั้นเดียวกันมีสไตล์เป็นเอกลักษณ์
มาตรฐานด้วยกล้องถ่ายภาพหน้าและหลังบนรถ

ข้อเสีย

พื้นที่สำหรับสัมภาระอาจมากขึ้น
ราคาสูงเมื่อเทียบกับพลังงานและข้อมูลจำเพาะ
พลาสติกของภายในมากเกินไป
ระบบความปลอดภัยน้อยลง ไม่มีระบบความปลอดภัยริเริ่ม
เครื่องเสียงไม่รองรับ Apple CarPlay หรือ Android Auto ไม่มีแผนที่ภายใน

Q&A ล่าสุด

Q
จะมี M2 ในปี 2025 หรือไม่?
ขณะนี้ทาง BMW ยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการเปิดตัวรุ่น M2 ปี 2025 แต่จากแนวทางการอัปเดตรุ่นใหม่ของแบรนด์และความนิยมในซีรีส์ M คาดว่า M2 รุ่นปี 2025 น่าจะออกมาอย่างแน่นอน โดยอาจมีการอัปเกรดเล็กน้อยในรายละเอียดการออกแบบ ลูกเล่นของระบบขับเคลื่อน หรือเทคโนโลยีภายในรถ ยกตัวอย่างเช่น ชุดแต่งสปอร์ตที่ดุดันขึ้น หรือเครื่องยนต์ S58 6 สูบตรงที่ได้รับการปรับแต่งให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น สำหรับตลาดไทยซึ่งมีความต้องการรถสปอร์ตคูเป้สมรรถนะสูงอย่างสม่ำเสมอก็มีแนวโน้มว่าจะได้เห็นรุ่นนี้เช่นกัน สำหรับคนไทยที่ชื่นชอบการขับขี่สมรรถนะ M2 ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะมากกับการลัดเลาะเส้นทางคดเคี้ยวอย่างเส้นทางรอบเขาในเชียงใหม่อย่างถนนสายแม่ฮ่องสอน ด้วยขนาดตัวรถที่กะทัดรัดและการควบคุมที่แม่นยำ ทำให้เต็มอิ่มกับความสนุกในการขับขี่ แถมนโยบายภาษีนำเข้ารถยนต์ของไทยยังให้การสนับสนุนรถยนต์ที่มีความจุเครื่องยนต์ไม่เกิน 3.0 ลิตร ซึ่งเป็นจุดแข็งที่ทำให้ M2 น่าสนใจในตลาดไทย ถ้าสนใจอยากได้รถรุ่นนี้ แนะนำให้ติดตามข่าวสารทางเว็บไซต์ BMW ประเทศไทยในช่วงครึ่งปีหลัง และลองเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นในระดับเดียวกันอย่าง Mercedes-AMG A45 S หรือ Audi RS3 อย่างไรก็ตาม รุ่นหลังนี้ใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อซึ่งให้ความรู้สึกมั่นคงกว่า ในขณะที่ M2 ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลังเหมาะสำหรับคนที่ชอบความรู้สึกการควบคุมแบบเน้นๆ สุดท้ายแล้วการเลือกรถควรขึ้นอยู่กับสไตล์การขับขี่และงบประมาณของแต่ละคนด้วย
Q
“2025 M2 มีราคาเท่าไหร่?”
รุ่น BMW M2 ปี 2025 คาดว่าจะวางขายในประเทศไทยด้วยราคาประมาณ 4.5 - 5 ล้านบาท โดยราคาสุดท้ายอาจมีการปรับขึ้นลงตามอุปกรณ์เสริมที่เลือก ส่วนลดจากตัวแทนจำหน่าย รวมถึงภาษีนำเข้าที่อาจมีการเปลี่ยนแปลง รุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 6 สูบแบบเรียงเทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุดถึง 453 แรงม้า ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดหรือเกียร์ธรรมดา 6 สปีด สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.1 วินาที ตลาดรถสปอร์ตสมรรถนะในไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มคนมีรายได้สูงในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ที่ให้ความสนใจรถที่ทั้งขับเคลื่อนสนุกและใช้งานในชีวิตประจำวันได้สะดวก อย่างไรก็ตาม ต้องคำนึงว่าประเทศไทยมีอัตราภาษีนำเข้ารถค่อนข้างสูง ซึ่งส่งผลต่อราคาขายปลีก แนะนำให้เปรียบเทียบราคาจากตัวแทนจำหน่ายหลายๆ แห่งก่อนตัดสินใจ และคอยติดตามโปรโมชั่นจากเว็บไซต์ BMW ประเทศไทยอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ สภาพอากาศร้อนชื้นของไทยยังต้องดูแลรักษารถเป็นพิเศษ โดยเฉพาะระบบระบายความร้อนและยางรถยนต์ของรุ่นสปอร์ตสมรรถนะที่ควรตรวจสอบบ่อยกว่าปกติ
Q
“รถ M2 ปี 2025 มีแรงม้าเท่าไหร่?”
รถ BMW M2 รุ่นปี 2025 มาพร้อมเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 6 สูบเรียง เทอร์โบชาร์จคู่ ให้กำลังสูงสุดถึง 453 แรงม้า (ประมาณ 338 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร มาพร้อมเกียร์ธรรมดา 6 สปีดหรือเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดแบบปรับเองได้ ด้วยระบบขับเคลื่อนล้อหลังทำให้รถคูเป้สมรรถนะสูงคันนี้สามารถโชว์ศักยภาพการขับขี่ที่สนุกสุดเหวี่ยงบนถนนคดเคี้ยวและอากาศร้อนของไทยได้อย่างดี สำหรับแฟนรถไทยแล้ว ขนาดกะทัดรัดของ M2 นี่แหละที่เหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ส่วนกำลังเครื่องที่เหลือเฟือก็เหมาะจะปลดปล่อยบนถนนภูเขาสวยๆ แบบในเชียงใหม่ ต้องบอกเลยว่าสภาพอากาศร้อนๆ ของไทยนี่เป็นตัวทดสอบประสิทธิภาพระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จได้ดี แนะนำให้เจ้าของรถตรวจสอบระบบหล่อเย็นเป็นประจำและใช้น้ำมันเครื่องคุณภาพสูง เพื่อให้รถยังคงแสดงสมรรถนะได้เต็มที่ในสภาพอากาศแบบเขตร้อน ถึงจะเป็นรถสมรรถนะสูงที่ยังถือว่าเฉพาะกลุ่มในไทย แต่ด้วยขนาดที่คล่องตัวและกำลังเครื่องอันทรงพลัง ก็ยังคงเป็นที่นิยมในหมู่คนไทยที่ชื่นชอบความมันส์ในการขับขี่อยู่ดี
Q
จะมี BMW M2 ปี 2026 หรือไม่?
ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการจาก BMW เกี่ยวกับรุ่น M2 ปี 2026 แต่ถ้าดูจากรอบการอัปเดตรุ่นและธรรมเนียมของซีรี่ส์ M แล้ว ค่อนข้างมั่นใจได้ว่าเราน่าจะได้เห็น M2 รุ่นใหม่แน่นอน โดยคาดว่าจะยังคงดีเอ็นเอด้านสปอร์ตเหมือนรุ่นปัจจุบัน และอาจอัปเกรดเครื่องยนต์ S58 3.0T เส้น 6 สูบ ให้มีกำลังผลิตเกิน 460 แรงม้า พร้อมอาจเพิ่มเทคโนโลยี Hybrid แบบ 48V เพื่อให้ผ่านมาตรฐานการปล่อยมลพิษของไทยที่เข้มงวดขึ้นเรื่อยๆ สำหรับคนไทยแล้ว ขนาดกะทัดรัดของ M2 นี่เหมาะมากกับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ส่วนระบบขับเคลื่อนล้อหลังและตัวเลือก M xDrive ก็ตอบโจทย์ทั้งการใช้ชีวิตประจำวันและความสนุกบนสนามแข่ง ที่สำคัญตลาดรถนำเข้าในไทยยังมีความต้องการรถสปอร์ตสมรรถนะคงที่ โดยปกติ BMW ประเทศไทยจะนำเข้าโมเดลซีรี่ส์ M พร้อมตลาดโลก แต่เรื่องภาษีอาจทำให้ราคาในไทยสูงกว่าตลาดยุโรปหรืออเมริกา แนะนำให้ผู้ที่สนใจคอยติดตามข้อมูลอย่างเป็นทางการจากตัวแทนจำหน่ายในประเทศ ส่วนใครที่ชอบรถสปอร์ตสมรรถนะ อาจจะลองดูคู่แข่งอย่าง Mercedes-AMG CLA 45 หรือ Audi RS3 ด้วยก็ได้ เพราะทั้งสองรุ่นนี้ก็เป็นที่นิยมไม่แพ้กันในไทย
Q
2025 M2 ถูกผลิตที่ไหน?
รุ่นปี 2025 ของ BMW M2 จะผลิตที่โรงงานเมืองไลป์ซิกในเยอรมนี ซึ่งเป็นโรงงานที่ขึ้นชื่อในเรื่องระบบอัตโนมัติระดับสูงและความปราณีตในการผลิต ถือเป็นฐานการผลิตรถสปอร์ตระดับเพอร์ฟอร์แมนซ์สำคัญของ BMW สำหรับคนไทยแล้ว นี่หมายความว่ารถรุ่นนี้จะยังคงมาตรฐานคุณภาพแบบเยอรมันแท้ๆ และคาดว่าจะเข้ามาจำหน่ายในไทยผ่านช่องทางนำเข้า ต้องบอกเลยว่ารถสปอร์ตจากเยอรมนีที่เข้ามาไทยมักต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศร้อนชื้น บางครั้งผู้ผลิตอาจต้องปรับปรุงระบบระบายความร้อนหรือเปลี่ยนวัสดุยางบางส่วน สำหรับแฟนๆ BMW ในไทย สามารถติดตามข้อมูลสเปคและบริการหลังการขายของ M2 รุ่น 2025 นี้ได้ผ่านช่องทางทางการของ BMW ประเทศไทย โดยปกติแล้วรถสปอร์ตระดับนี้ในไทยมักจะมีโปรแกรมประกันพิเศษรวมถึงกิจกรรมขับขี่บนสนามแข่งให้ร่วมสนุก ด้วยกฎหมายไทยที่ต้องใช้รถพวงมาลัยขวา กระบวนการนำเข้าอาจใช้เวลานานขึ้น แนะนำให้ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการรับรองมาตรฐานและระยะเวลาจัดส่งล่วงหน้ากับตัวแทนจำหน่ายโดยตรงจะดีที่สุด
ดูเพิ่มเติม