Q

ยางที่ดีที่สุดสำหรับ Acura MDX คืออะไร

สำหรับ Acura MDX แล้ว ยางที่เหมาะสมที่สุดจะขึ้นอยู่กับความต้องการในการขับขี่และสภาพอากาศรวมถึงถนนในประเทศไทย ถ้าคุณเน้นความสบายและความเงียบ ยาง Michelin Primacy หรือ Bridgestone Turanza T005 ถือเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะมีประสิทธิภาพดีในถนนลื่นช่วงฤดูฝนที่ไทยฝนบ่อย แต่ถ้าอยากได้สมรรถนะสปอร์ตและการควบคุมที่ดีขึ้น ลองดูยาง Goodyear Eagle F1 Asymmetric หรือ Pirelli P Zero ที่เกาะถนนแห้งได้ดี เหมาะกับถนนในเมืองและทางด่วนของไทย นอกจากนี้อากาศร้อนของไทยยังต้องการยางที่ทนความร้อนสูง แนะนำให้เลือกยางที่มีสูตรพิเศษรองรับและตรวจสอบลมยางกับดอกยางบ่อยๆ เพื่อความปลอดภัย ส่วน Acura MDX ที่เป็น SUV ระดับหรู ขนาดยางมาตรฐานที่แนะนำมักจะเป็น 255/50 R20 แต่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบและความต้องการ อย่างไรก็ตามต้องมั่นใจว่าขนาดยางตรงกับการออกแบบของรถเพื่อไม่ให้กระทบการควบคุมและประหยัดน้ำมัน
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
แพ็คเกจขั้นสูงของ Acura MDX คืออะไร
Acura MDX แพ็คเกจขั้นสูงนี่แหละคือชุดออปชั่นและเทคโนโลยีที่ทางแบรนด์เพิ่มมาให้รุ่นนี้เพื่ออัพเกรดประสบการณ์การขับขี่และความสะดวกสบายของผู้โดยสารแบบเต็มๆ โดยทั่วไปแล้วแพ็คเกจนี้จะมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยไฮเอนด์อย่าง AcuraWatch ที่รวมฟีเจอร์เด็ดๆ เช่น Adaptive Cruise Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Lane Keeping Assist ช่วยควบคุมเลน และ Collision Mitigation Braking System ระบบเบรกป้องกันการชน ส่วนเรื่องความบันเทิงและความสะดวกก็จัดเต็มไม่น้อย ทั้งระบบเสียงคุณภาพสูง เก้าอี้หุ้มหนังแท้ และระบบควบคุมอุณหภูมิแบบแบ่งโซน สำหรับเมืองไทยแล้วแพ็คเกจนี้ถือว่าเพิ่มมูลค่าให้รถได้ดีเลยทีเดียว โดยเฉพาะกับสภาพการจราจรที่ติดขัดและอากาศร้อนชื้น แถมยังช่วยให้การเดินทางทั้งสบายและปลอดภัยขึ้นอีกด้วย อีกเรื่องที่ควรคำนึงถึงคือการเลือกรุ่นที่มีแพ็คเกจเสริมแบบนี้จะทำให้รถมีโอกาสขายต่อได้ง่ายขึ้นในอนาคต เพราะคนซื้อรถมือสองส่วนใหญ่มักมองหารุ่นที่ออปชั่นครบครัน ฉะนั้นการลงทุนกับแพ็คเกจขั้นสูงอาจเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าในระยะยาวสำหรับใครที่อยากได้ประสบการณ์การขับขี่ระดับพรีเมียมใน Acura MDX แบบเต็มสูบ
Q
เมื่อ Acura MDX 2021 จะเปิดตัว
Acura MDX 2021 ได้เปิดตัวครั้งแรกในตลาดอเมริกาเหนือเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2021 และเริ่มส่งมารถให้ลูกค้าภายในฤดูใบไม้ผลิของปีเดียวกัน แต่สำหรับตลาดไทยยังไม่มีข่าวชัดเจนว่าจะเข้ามาเมื่อไร ลูกค้าชาวไทยสามารถติดตามข้อมูลล่าสุดได้ที่เว็บไซต์แอคิวร่า ประเทศไทยหรือตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ รถ SUV หรู 3 แถวที่นั่งรุ่นนี้มาพร้อมกับแพลตฟอร์มใหม่ทั้งหมด ใช้เครื่องยนต์ V6 3.5 ลิตรคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ SH-AWD และเทคโนโลยีความปลอดภัย AcuraWatch ที่อัปเกรดทั้งในเรื่องความสะดวกสบายและฟีเจอร์เทคโนโลยี ในตลาดไทยที่ความต้องการรถ SUV หรูกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง MDX จะต้องแข่งขันกับรถอย่าง Lexus RX และ BMW X 5 แต่สิ่งที่คนไทยให้ความสำคัญคือเรื่องประหยัดน้ำมันและบริการหลังการขาย ดังนั้นรุ่นไฮบริดและบริการที่ตอบโจทย์คนไทยน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญ สำหรับใครที่สนใจ MDX แนะนำให้เปรียบเทียบทั้งสเปกและราคากับรถระดับเดียวกัน พร้อมคำนึงถึงสภาพถนนไทยและไลฟ์สไตล์การใช้รถ เช่น ความสะดวกในการขับช่วงน้ำท่วมหรือการจอดในเมือง เพื่อเลือกรถที่เหมาะกับตัวเองที่สุด
Q
รถ SUV รุ่นใดที่เทียบเท่ากับ Acura MDX
ในตลาดประเทศไทย รุ่น SUV ที่อยู่ในระดับเดียวกันกับ Acura MDX ก็จะมี Lexus RX BMW X5 Mercedes-Benz GLE และ Volvo XC90 จากแบรนด์หรูๆ ด้วยกัน รุ่นเหล่านี้มีขนาด เครื่องยนต์ และอุปกรณ์ความสะดวกสบายที่เทียบเท่ากับ MDX เหมาะสำหรับคนที่มองหาความสบายและประสบการณ์การขับขี่ระดับพรีเมียม Acura MDX มีจุดเด่นที่เครื่องยนต์ V6 3.5 ลิตร และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ SH-AWD ที่ให้ความรู้สึกการขับขี่ที่ลื่นไหลและประสิทธิภาพการควบคุมที่ดี ส่วนคู่แข่งอย่าง Lexus RX จะเน้นเทคโนโลยีไฮบริดและความเงียบสงบ BMW X5 ถนัดด้านความสนุกในการขับขี่ Mercedes-Benz GLE โดดเด่นเรื่องความหรูหราของห้องโดยสารและเทคโนโลยี ส่วน Volvo XC90 ขายตรงเรื่องความปลอดภัยและการออกแบบสไตล์สแกนดิเนเวีย ในไทย รุ่นเหล่านี้ต่างก็เป็นที่รู้จักดีในหมู่ผู้บริโภค และมีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุม ผู้ซื้อสามารถเลือกรุ่นที่ตรงกับความชอบส่วนตัวได้ เช่น ถ้าชอบประหยัดน้ำมันก็อาจจะมองเป็น Lexus RX รุ่นไฮบริด หรือถ้าชอบการขับขี่สปอร์ตก็อาจจะเลือก BMW X5 นอกจากนี้ ตลาดไทยยังมีความต้องการ SUV ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะรถกลุ่มนี้ไม่เพียงแต่เหมาะกับการใช้ชีวิตในเมือง แต่ยังเหมาะกับการท่องเที่ยวในวันหยุด โดยเฉพาะเวลาที่ต้องเจอกับสภาพถนนบางพื้นที่ในไทยที่ค่อนข้างซับซ้อน ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและการออกแบบช่วงล่างสูงก็จะช่วยเพิ่มความสะดวกและปลอดภัยในการใช้งานได้ดีขึ้น
Q
ก๊าซทำความเย็นที่ใช้ใน Acura MDX คืออะไร?
Acura MDX ในฐานะรถ SUV ระดับหรูที่วางจำหน่ายในตลาดประเทศไทย ใช้สารทำความเย็นประเภท R134a ซึ่งเป็นสารทำความเย็นแบบรักษ์สิ่งแวดล้อมที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในระบบแอร์รถยนต์ปัจจุบัน ด้วยคุณสมบัติทางเคมีที่เสถียรและประสิทธิภาพการทำความเย็นสูง เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ควรระวังว่ารถยนต์นำเข้าที่จำหน่ายในประเทศไทยหลังปี 2017 อาจเริ่มเปลี่ยนไปใช้สารทำความเย็น R1234yf ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า แต่สำหรับรุ่น MDX นั้นควรตรวจสอบจากแผ่นป้ายข้อมูลรถหรือคู่มือผู้ใช้เพื่อความแน่ชัด เมื่อต้องบำรุงรักษาระบบแอร์ในประเทศไทย แนะนำให้เลือกใช้บริการจากศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาตจากผู้ผลิตโดยตรง เพราะมีอุปกรณ์มืออาชีพสำหรับรีไซเคิลสารทำความเย็นอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ป้องกันการปล่อยสารทำความเย็นสู่สิ่งแวดล้อมซึ่งขัดกับพระราชบัญญัติควบคุมวัตถุอันตรายของประเทศไทย ข้อมูลเพิ่มเติมคือ R134a ไม่สามารถใช้แทนที่สารทำความเย็นแบบเก่าอย่าง R12 ได้ เพราะอาจทำให้คอมเพรสเซอร์เสียหาย ส่วน R1234yf แม้จะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแต่มีต้นทุนสูงกว่า และการออกแบบช่องเติมสารทำความเย็นทั้งสองประเภทก็แตกต่างกันเพื่อป้องกันการเติมผิดประเภท ไม่ว่าจะใช้สารทำความเย็นแบบไหน การตรวจสอบความสมบูรณ์ของระบบและทำความสะอาดคอนเดนเซอร์เป็นประจำเป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาประสิทธิภาพการทำความเย็น โดยเฉพาะเมื่อต้องใช้งานบนถนนที่มีฝุ่นมากแบบประเทศไทย
Q
Acura MDX มีที่นั่งกี่ที่
Acura MDX คือ SUV หรูขนาด 7 ที่นั่ง มาพร้อมกับเบาะ 3 แถวมาตรฐาน จุผู้โดยสารได้ถึง 7 คน เหมาะมากสำหรับครอบครัวไทยหรือกลุ่มคนที่ต้องการเดินทางร่วมกัน แถวสองอาจเป็นเบาะแบบยาวหรือเบาะคัปเทน (ขึ้นอยู่กับปีและรุ่นที่เลือก) ส่วนแถวสามเหมาะสำหรับเด็กหรือผู้ใหญ่ในระยะทางสั้นๆ ในตลาดไทย MDX ได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าที่มองหาความหรูคู่กับประโยชน์ใช้สอย ด้วยพื้นที่ภายในกว้างขวาง เครื่องยนต์วี 6 3.5 ลิตร (หรือระบบไฮบริดเทอร์โบ 3.0 ลิตรในรุ่นใหม่) ที่ให้กำลังลื่นไหล และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ SH-AWD ที่ตอบโจทย์สภาพถนนหน้าฝนของไทย พิเศษสำหรับคนไทยที่สนใจซื้อ แนะนำให้เช็คว่ารถในท้องตลาดมีระบบเป่าลมเย็นที่เบาะ (เหมาะกับอากาศร้อน) หรือระบบความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารแถวหลัง (เพิ่มความสบายในระยะยาว) รวมถึงควรทดลองขึ้นลงแถวสามให้คล่องตัว ใช้ความระมัดระวังเล็กน้อยเมื่อจอดรถในซอยแคบๆ ของกรุงเทพฯ เพราะขนาดตัวถัง (ยาวประมาณ 5 เมตร) ส่วนคู่แข่งในระดับเดียวกันอย่าง เล็กซัส อาร์เอ็กซ์-แอล หรือ BMW เอ็กซ์7 ก็มีตัวเลือก 7 ที่นั่ง แต่ MDX มักได้เปรียบในเรื่องราคาค่าตอบแทนและแพ็กเกจหลังการขาย
Q
การกำหนดค่าทางเทคนิคที่ติดตั้ง Acura MDX ส่วนใหญ่ประกอบด้วยข้างต้น
Acura MDX มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ครบครัน โดยเฉพาะ AcuraWatch ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะที่รวมฟังก์ชันช่วยขับขี่มากมาย เช่น ระบบเตือนการชนด้านหน้า ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานในเมืองไทยทั้งในสภาพการจราจรที่คับคั่งและการเดินทางไกล แถมยังมีหน้าจอแสดงผลดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้วและระบบโปรเจคเตอร์แสดงข้อมูลบนกระจกหน้ารถ (HUD) ขนาด 10.5 นิ้ว ที่ช่วยให้ผู้ขับเห็นข้อมูลสำคัญได้อย่างชัดเจน ลดการเสียสมาธิขณะขับขี่ สำหรับอากาศร้อนๆ แบบไทยๆ MDX ก็ตอบทุกความต้องการด้วยระบบระบายอากาศบนเบาะและระบบปรับอากาศ 4 โซนอิสระ ที่เพิ่มความสบายให้ทุกที่นั่ง ส่วนคอเพลงต้องถูกใจกับระบบเสียง ELS Studio ที่ใช้เทคโนโลยีระดับมืออาชีพ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่คอนเสิร์ตจริงๆ และที่ขาดไม่ได้คือระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ SH-AWD ที่ช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะและความมั่นคงบนถนนลื่นๆ ในช่วงฤดูฝนของไทย เทคโนโลยีทั้งหมดนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความปลอดภัย แต่ยังทำให้การขับขี่สนุกและราบรื่นขึ้น สำหรับคนไทยที่มองหารถหรูแต่ใช้งานได้จริง MDX ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในระดับเดียวกัน เพราะตอบทั้งความต้องการความหรูหราและประโยชน์ใช้สอยครบจบในคันเดียว
Q
ความแตกต่างระหว่าง Acura MDX และ RDX คืออะไร
ความแตกต่างหลักระหว่าง Acura MDX และ RDX อยู่ที่ตำแหน่งการใช้งานและขนาดตัวรถ โดย MDX เป็น SUV ขนาดใหญ่ที่มีสามแถวที่นั่งจุได้ 7 ที่นั่ง เหมาะสำหรับครอบครัวที่ต้องการพื้นที่กว้างขวาง ส่วน RDX เป็น SUV ขนาดกลางแบบ 5 ที่นั่ง ที่ตอบโจทย์ครอบครัวเล็กหรือการเดินทางในชีวิตประจำวันมากกว่า ในส่วนของสมรรถนะ MDX มักติดตั้งเครื่องยนต์ V6 ที่ให้กำลังมากกว่า ในขณะที่ RDX ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 4 สูบ ซึ่งทั้งคู่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม แต่ MDX จะเหนือกว่าในเรื่องการบรรทุกและการลากจูง สำหรับภายในห้องโดยสารและเทคโนโลยี MDX ในฐานะรุ่นท็อปไลน์ใช้วัสดุที่หรูหรากว่าและมีระบบช่วยขับขี่ที่ทันสมัยกว่า ส่วน RDX ดึงดูดผู้บริโภครุ่นใหม่ด้วยขนาดตัวรถที่กะทัดรัดและความคล่องตัวในการควบคุม ในตลาดไทยที่ถนนหนทางค่อนข้างแออัด RDX อาจเหมาะกับการใช้งานประจำวันมากกว่าเพราะขนาดเล็กกว่า ในขณะที่ MDX เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางไกลบ่อยๆ หรือต้องการบรรทุกผู้โดยสารจำนวนมาก ทั้งสองรุ่นต่างติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยและระบบความบันเทิงล่าสุดจาก Acura เพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการขับขี่
Q
Acura MDX ระยะทางที่สุดท้ายคือเท่าไหร่
Acura MDX ในฐานะรถ SUV ระดับหรู ถังน้ำมันมีความจุประมาณ 72 ลิตร การบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงตามข้อมูลอย่างเป็นทางการในสภาพถนนที่ครอบคลุมประมาณ 9,4 ลิตร / 100 กิโลเมตร ดังนั้นระยะทางที่วิ่งได้เมื่อเติมเต็มถังจะอยู่ที่ประมาณ 750-800 กิโลเมตร (ประมาณ 466-497 ไมล์) แต่ตัวเลขจริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน และการดูแลรักษารถ ในประเทศไทยเนื่องจากการจราจรในเมืองมักติดขัด และมีเส้นทางหลวงค่อนข้างน้อย ระยะทางจริงอาจต่ำกว่าตัวเลขทางการเล็กน้อย แนะนำให้เจ้าของรถดูแลรักษารถอย่างสม่ำเสมอและขับขี่อย่างเหมาะสมเพื่อประหยัดน้ำมันให้ดีที่สุด นอกจากนี้รุ่น Hybrid ของ MDX จะมีประสิทธิภาพด้านการประหยัดน้ำมันที่ดีกว่า เหมาะกับสภาพถนนในประเทศไทยที่ต้องหยุดและเริ่มบ่อย สำหรับการเดินทางไกล แนะนำให้วางแผนจุดเติมน้ำมันล่วงหน้า โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลทางภาคเหนือหรือภาคใต้ของประเทศไทย ที่สถานีน้ำมันอาจไม่หนาแน่นเท่ากับในกรุงเทพฯ การเข้าใจระยะทางที่รถสามารถวิ่งได้จะช่วยให้วางแผนการเดินทางได้ดีขึ้น และลดความไม่สะดวกจากการน้ำมันหมด
Q
Acura MDX วิ่งได้กี่กิโลเมตร
Acura MDX ในประเทศไทย ถือเป็น SUV ระดับพรีเมียมที่ความทนทานอยู่ในเกณฑ์ดีมาก โดยเฉพาะระบบเครื่องยนต์และเกียร์ที่สามารถใช้งานได้เกิน 300,000 กิโลเมตร หรือประมาณ 186,000 ไมล์ หากได้รับการบำรุงรักษาตามมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม ระยะทางจริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพอากาศแบบร้อนชื้นของไทย การจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ และพฤติกรรมการดูแลรถของเจ้าของ แนะนำให้เปลี่ยนไส้กรองอากาศบ่อยขึ้นเพื่อป้องกันฝุ่นละออง และใช้น้ำมันเครื่องความหนืดสูงเพื่อรองรับการใช้งานในอุณหภูมิร้อนจัด จุดที่ควรสังเกตคือ ตลาดรถมือสองในไทยให้ความสำคัญกับเลขไมล์เป็นพิเศษ การมีประวัติการซ่อมบำรุงจากศูนย์บริการอย่างครบถ้วนจะช่วยรักษามูลค่ารถได้ดีมาก เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ SH-AWD ของ MDX ถือเป็นจุดเด่นที่เหมาะกับสภาพถนนลื่นในช่วงฤดูฝนของไทย นอกจากนี้ นโยบายบริการฟรี 5 ปีจากตัวแทนจำหน่ายท้องถิ่นยังช่วยยืดอายุการใช้งานรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับผู้ที่วางแผนใช้รถระยะยาว แนะนำให้ตรวจสอบระบบส่งกำลังทุก 80,000 กิโลเมตร และให้ความสำคัญกับการบำรุงระบบแอร์เป็นพิเศษ เพราะรายละเอียดเหล่านี้สำคัญมากสำหรับการใช้งานในภูมิอากาศร้อนชื้นแบบไทย
Q
Acura MDX และ RDX อันไหนใหญ่กว่า
ในตลาดไทย Acura MDX มีขนาดใหญ่กว่า RDX โดย MDX เป็น SUV หรูขนาดกลาง ความยาวตัวรถเกิน 5 เมตร มาในแบบ 3 แถวที่นั่ง เหมาะกับครอบครัวหรือการเดินทางไกลที่ต้องการพื้นที่กว้าง ส่วน RDX เป็น SUV ขนาดกะทัดรัด ความยาวตัวรถประมาณ 4.7 เมตร เน้นความคล่องตัวและประสบการณ์การขับขี่ในเมือง ทั้งสองรุ่นได้รับความนิยมในไทย MDX เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางพร้อมผู้โดยสารหลายคนบ่อยๆ ส่วน RDX ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันมากกว่า ผู้บริโภคไทยสามารถเลือกได้ตามความต้องการ ด้านบริการหลังการขายของ Acura ในไทยมีความพร้อมสูง ทำให้สะดวกในการดูแลรักษา ทั้งสองรุ่นมาพร้อมระบบช่วยขับขี่อันทันสมัย ให้ความปลอดภัยระดับสูง และระบบแอร์ที่ทำงานได้ดีแม้ในสภาพอากาศร้อนของไทย เครื่องยนต์ 3.5L V6 ของ MDX และ 2.0T ของ RDX ให้สมรรถนะที่เหมาะสมกับทุกสภาพถนนในไทย โดยยังคงความประหยัดน้ำมันในระดับที่คาดหวังจาก SUV หรู
  • รถยอดนิยม

  • รุ่นปีรถยนต์

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

ข้อดี

ห้องโดยสารกว้างขวางเพื่อการขับขี่ที่สบาย
เครื่องยนต์แรงให้พลังงานเพียงพอ
ระบบ SH - AWD ขั้นสูงสำหรับการควบคุมรถที่ดี
การออกแบบที่ดูดีและมีลักษณะที่คมชัด
ที่นั่งที่สบายเหมาะสำหรับการเดินทางระยะไกล

ข้อเสีย

ระบบขับเคลื่อนมาตรฐานแรงน้อยกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันค่อนข้างสูง ทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
พื้นที่เบาะแถวที่สามค่อนข้างจำกัด
ราคาตัวรถและค่าบำรุงรักษาสูง
ตัวเลือกแบบไฮบริดมีให้เลือกน้อย

Q&A ล่าสุด

Q
2022 CR-V เป็นรถที่ดีหรือไม่?
รถ CR-V รุ่นปี 2022 เป็น SUV ที่ตอบโจทย์การใช้งานในครอบครัวได้ดีทุกด้าน มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5T ที่ให้กำลังขับเคลื่อนแรงแต่ยังประหยัดน้ำมัน คู่กับเกียร์ CVT ที่ทำงานลื่นไหล ทำให้การขับขี่ในชีวิตประจำวันนุ่มนวลและสบายๆ ด้านพื้นที่ภายในยังคงเป็นจุดแข็งของ CR-V ซีรีส์ โดยมีระยะขาที่กว้างขวางสำหรับผู้โดยสารแถวหลัง และยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระหลังท้ายที่ใหญ่เพียงพอต่อการเดินทางแบบครอบครัว ในส่วนของอุปกรณ์ความปลอดภัยก็มีระบบ Honda SENSING ที่รวมฟังก์ชันช่วยขับขี่อย่าง Adaptive Cruise Control และ Lane Keeping Assist ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเดินทาง สำหรับสภาพถนนไทยนั้นระยะล่างตัวถังสูงเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป และระบบแอร์ก็เย็นฉ่ำเหมาะกับอากาศร้อนแบบไทย แค่จุดนิดนึงตรงที่วัสดุแผงคอนโซลบางส่วนยังเป็นพลาสติกแข็ง และเสียงอยู่ในระดับปานกลางในระดับเดียวกันของรถระดับเดียวกัน แต่ข้อดีคือค่าบำรุงรักษาไม่แพง อะไหล่ก็หาง่าย แถมยังขายต่อได้ราคาดี ถ้ามีงบประมาณเหลือแนะนำให้เลือกรุ่น Hybrid จะยิ่งช่วยประหยัดน้ำมันในเมืองได้มากขึ้น สรุปแล้ว CR-V 2022 นี่เป็นตัวเลือกที่น่าจับตามอง แนะนำให้ลองทดลองขับดูก่อนเพื่อเช็คความชอบส่วนตัวในเรื่องการตั้งค่าสปริง
Q
คุณควรจ่ายเท่าไหร่สำหรับรถ 2022 CR-V Hybrid?
ราคาที่เหมาะสมสำหรับ Honda CR-V Hybrid รุ่นปี 2022 จะอยู่ที่ประมาณ 1.2-1.5 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับระดับเครื่องแต่ง รายละเอียดการใช้งาน และสภาพรถ โดยถ้าเป็นรถใหม่แนะนำให้เช็คโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่ายหรือราคามาตรฐานจากช่องทางรถมือสองรับประกันคุณภาพจาก Honda โดยตรง รุ่นนี้ใช้ระบบไฮบริด i-MMD ของ Honda ที่ประหยัดน้ำมันเพียง 4.5 ลิตร/100 กม. เหมาะมากสำหรับขับในเมืองที่รถติด ค่าดูแลรักษาไม่ต่างจากรุ่นน้ำมันปกติ แต่ต้องระวังเรื่องระยะเวลาการรับประกันแบตเตอรี่ที่มักจะอยู่ที่ 5-10 ปี ถ้าเทียบกับคู่แข่งอย่าง Toyota RAV4 Hybrid รุ่นปีเดียวกันอาจจะแพงกว่าเล็กน้อยประมาณ 5-10% ส่วนสีที่คนไทยนิยมอย่างสีขาวหรือสีเทาเมทัลลิกจะช่วยให้รถทรงตัวดีในเรื่องมูลค่าค้างคลัง แนะนำให้ตรวจสอบประวัติการบริการจากฮอนด้าก่อนซื้อ โดยเฉพาะประวัติการลุยน้ำในช่วงฤดูฝนเพราะระบบไฮบริดต้องการการป้องกันวงจรไฟฟ้าที่ดีเป็นพิเศษ ถ้าต้องการประหยัดงบประมาณอาจจะมองหารุ่นปี 2020 ที่ราคาถูกกว่า 15-20% แต่ต้องทำความเข้าใจว่าระบบ i-MMD รุ่นที่ 2 จะตอบสนองเรื่องกำลังขับต่างไปเล็กน้อย
Q
เครื่องยนต์ของ Honda CR-V ปี 2022 เป็นแบบไหน?
รถ Honda CR-V รุ่นปี 2022 มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5 ลิตร 4 สูบ ให้กำลังสูงสุดถึง 193 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 243 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์ CVT ที่ทำงานลื่นไหล ชุดขับเคลื่อนนี้ทั้งประหยัดน้ำมันและให้พลังสมรรถนะสูง เหมาะกับการขับขี่ทั้งในเมืองและเดินทางไกล เครื่องยนต์นี้ใช้เทคโนโลยี VTEC ของ Honda ที่พัฒนาการทำงานของวาล์วให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้การเผาไหม้สมบูรณ์ขึ้น ลดทั้งการสิ้นเปลืองน้ำมันและมลพิษ ตอบโจทย์เทรนด์รักษ์สิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน โดยเฉพาะในตลาดไทยที่เครื่องยนต์นี้ทำงานได้ดีแม้ในสภาพอากาศร้อนและถนนหลากหลายภูมิประเทศ ทั้งถนนติดขัดในกรุงเทพฯ หรือเส้นทางคดเคี้ยวในเชียงใหม่ก็ขับสบาย นอกจากนี้ CR-V ยังมีรุ่นไฮบริดที่ผสานเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 4 สูบกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังรวมสูงถึง 215 แรงม้า ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้นและเงียบกว่า เป็นอีกตัวเลือกสำหรับคนที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง
Q
2022 CR-V เหมาะสมสำหรับการใช้งานในหิมะหรือไม่?
รถ Honda CR-V รุ่นปี 2022 แสดงสมรรถนะพอใช้ได้บนถนนหิมะ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Real Time AWD ที่มากับตัวรถมาตรฐานสามารถกระจายแรงบิดไปยังล้อหน้าและล้อหลังได้อัตโนมัติ เมื่อทำงานร่วมกับโหมดขับขี่บนหิมะจะช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะบนพื้นผิวลื่นได้ระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ยางที่ติดตั้งมาจากโรงงานนั้นออกแบบมาสำหรับการใช้งานบนถนนทั่วไปมากกว่า ดังนั้นหากคุณต้องเดินทางไปยังพื้นที่ภูเขาทางภาคเหนือหรือเขตอากาศหนาวบ่อยๆ แนะนำให้เปลี่ยนไปใช้ยางฤดูหนาวหรือติดโซ่ล้อเพื่อความปลอดภัยที่ดียิ่งขึ้น แม้ว่าพื้นที่กรุงเทพฯ จะมีหิมะตกน้อย แต่สภาพถนนที่เปียกลื่นในช่วงฤดูฝนที่ยาวนานก็คล้ายกัน CR-V ด้วยระยะความสูงจากพื้นรถ 187 มม. และระบบควบคุมเสถียรภาพอิเล็กทรอนิกส์จะช่วยให้รถผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมขังในฤดูฝนได้อย่างมั่นคง เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกันแล้ว ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ที่มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบเต็มเวลาหรือโตโยต้า RAV4 ที่มีระบบ Dynamic Torque Vectoring AWD อาจทำได้ดีกว่าในสภาพถนนสุดขั้ว แต่ CR-V ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับการขับขี่ในเมืองทั่วไปด้วยระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งมาเพื่อความนุ่มนวลเป็นพิเศษ ข้อควรระวังอีกอย่างสำหรับการใช้งานในพื้นที่อากาศหนาวคือความหนืดของน้ำมันเครื่องในอุณหภูมิต่ำ บางเจ้าของรถอาจเปลี่ยนไปใช้น้ำมันเครื่องเกรด 0W-20 เพื่อให้เครื่องยนต์สตาร์ทในอากาศเย็นได้สะดวกขึ้น ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้สำคัญมากโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ใช้งานรถในพื้นที่สูงอย่างเชียงใหม่
Q
"อัตราประหยัดน้ำมันของ Honda CR-V ปี 2022 เป็นเท่าไหร่?"
รถ Honda CR-V รุ่นปี 2022 มีประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยม โดยข้อมูลจะแตกต่างกันไปตามระบบขับเคลื่อนและเครื่องยนต์ รุ่นเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5T ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าจะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรวมประมาณ 6.4-6.7 ลิตร/100 กม. ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อจะสิ้นเปลืองมากกว่าหน่อยที่ 6.7-7.0 ลิตร/100 กม. ส่วนรุ่นไฮบริด e:HEV จะประหยัดน้ำมันที่สุด โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรวมเพียง 4.7-5.0 ลิตร/100 กม. เหมาะมากสำหรับการขับขี่ในเมืองที่รถติดหรือการเดินทางไกล ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันของ CR-V นี้มาจากเทคโนโลยี Earth Dreams ของฮอนด้าที่รวมถึงเครื่องยนต์เทอร์โบประสิทธิภาพสูงและระบบไฮบริดที่ได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษ รวมถึงเกียร์ CVT ที่ทำงานลื่นไหลก็ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันได้ด้วย ในตลาดไทย CR-V มีจุดแข็งด้านประหยัดน้ำมันเมื่อเทียบกับรถ SUV รุ่นเดียวกัน โดยเฉพาะรุ่นไฮบริดที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มากในยุคที่ราคาน้ำมันสูง แนะนำให้เลือกรุ่นตามความต้องการใช้งานจริง ถ้าขับในเมืองบ่อยรุ่นไฮบริดจะคุ้มค่ากว่า ส่วนรุ่นเบนซินเหมาะสำหรับคนที่เน้นความแรงและราคาที่จับต้องได้ นอกจากนี้การดูแลรักษาเป็นประจำ เช่น เปลี่ยนไส้กรองอากาศและใช้น้ำมันเครื่องตามที่แนะนำ ก็ช่วยให้รถประหยัดน้ำมันได้ดีตลอดการใช้งาน
ดูเพิ่มเติม