Q
mazda 3 มีปริมาณเท่าไหร่ลิตร
Mazda 3 ในตลาดประเทศไทยมีตัวเลือกเครื่องยนต์หลายแบบ ขึ้นอยู่กับปีรุ่นและรุ่นย่อย รุ่นที่พบได้บ่อยคือเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G ขนาด 1.5 ลิตรและ 2.0 ลิตร รุ่น 1.5 ลิตรมีแรงม้าสูงสุดประมาณ 115 แรงม้า เหมาะสำหรับการเดินทางในเมืองและประหยัดน้ำมัน ส่วนรุ่น 2.0 ลิตรให้แรงม้าประมาณ 162 แรงม้า มีสมรรถนะสูง เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่ นอกจากนี้ Mazda 3 ยังได้รับความนิยมในประเทศไทยด้วยภาษาการออกแบบ Kodo และวัสดุภายในคุณภาพสูง ตัวรถมีขนาดกะทัดรัดแต่ใช้พื้นที่ภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะกับถนนแคบในเมืองใหญ่เช่นกรุงเทพฯ ควรสังเกตว่ารุ่นในไทยมักติดตั้งชุดเทคโนโลยีความปลอดภัย i-Activsense ซึ่งรวมถึงระบบครูซคอนโทรลอัตโนมัติและระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ในสภาพอากาศร้อนของไทย แนะนำตรวจสอบระบบระบายความร้อนและไส้กรองแอร์เป็นประจำเพื่อให้รถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ข้อเสียของ Mazda 3 นีอะไรบ้าง?
แม้ว่า Mazda3 จะได้รับความนิยมในตลาดไทยจากดีไซน์ที่สวยงามและสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม แต่ก็ยังมีข้อสังเกตบางประการที่ควรพิจารณา
อย่างแรกคือพื้นที่เบาะหลังค่อนข้างแคบ ซึ่งอาจไม่ตอบโจทย์ความต้องการของครอบครัวไทยที่มักโดยสารหลายคน โดยเฉพาะในกรณีเดินทางไกล พื้นที่วางขาอาจรู้สึกอึดอัด
นอกจากนี้ ช่วงล่างของ Mazda3 ถูกเซ็ตมาในแนวสปอร์ต แม้จะให้ความมั่นคงและควบคุมดีในทางโค้ง แต่เมื่อเจอสภาพถนนที่ไม่เรียบในบางพื้นที่ของไทย จะรู้สึกกระด้างและไม่ค่อยสบาย
อีกจุดที่ควรพิจารณาคือค่าบำรุงรักษาที่ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะอะไหล่แท้จากศูนย์ซึ่งมีราคาสูงกว่ารถญี่ปุ่นรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน อาจเป็นภาระกับผู้ใช้งานบางกลุ่ม
แม้เทคโนโลยี Skyactiv จะช่วยประหยัดน้ำมันได้ดี แต่เมื่อเปิดแอร์ในสภาพอากาศร้อนแบบไทย อัตราการสิ้นเปลืองจะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
สุดท้ายคือเรื่องของระบบเก็บเสียง ที่ยังมีจุดให้พัฒนา โดยเฉพาะเวลาขับเร็วหรือใช้งานในเมืองที่มีเสียงรบกวนมาก
ถึงแม้จะมีข้อด้อยเหล่านี้ แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงจุดยืนของ Mazda3 ที่เน้นความสนุกในการขับขี่มากกว่าความอเนกประสงค์ เหมาะกับผู้บริโภคชาวไทยรุ่นใหม่ที่ชอบความโดดเด่นและประสบการณ์หลังพวงมาลัยเป็นหลัก
Q
Mazda 3 อยู่ใน Segment ไหน?
Mazda3 ในตลาดไทยจัดอยู่ในกลุ่ม C-segment หรือรถยนต์นั่งขนาดคอมแพ็ค ไม่ว่าจะเป็นตัวถังแบบซีดานหรือแฮทช์แบ็ก ซึ่งถือเป็นเซกเมนต์ยอดนิยมในประเทศไทย คู่แข่งหลักคือรถญี่ปุ่นอย่าง Toyota Corolla และ Honda Civic
Mazda3 ได้รับความนิยมเป็นพิเศษในกลุ่มผู้บริโภควัยรุ่นไทย ด้วยดีไซน์ “KODO – Soul of Motion” ที่โดดเด่น และสมรรถนะการขับขี่ที่สนุก มาพร้อมเทคโนโลยี Skyactiv ที่เน้นความประหยัดน้ำมัน เหมาะกับสภาพการจราจรที่ติดขัดของกรุงเทพฯ
ในตลาดไทย Mazda3 มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร และ 2.0 ลิตร โดยรุ่น 2.0 ลิตรจะมาพร้อมระบบ G-Vectoring Control ที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการเข้าโค้ง ช่วยให้การขับขี่มีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ Mazda3 รุ่นที่จำหน่ายในไทยยังมีการปรับจูนช่วงล่างให้เหมาะกับสภาพถนนในประเทศไทยโดยเฉพาะ รองรับทั้งถนนเมืองและพื้นที่ที่มีสภาพพื้นผิวไม่เรียบ
ราคาจำหน่ายของรถในกลุ่มนี้อยู่ที่ประมาณ 800,000 – 1,200,000 บาท ถือเป็นกำลังหลักของตลาดรถบ้านในไทย ผู้บริโภคจำนวนมากเลือกซื้อด้วยระบบผ่อนรายเดือน เพราะ Mazda3 ถือว่ามีมูลค่าคงเหลือ (resale value) ดีในระยะยาว ขายต่อแล้วขาดทุนน้อยเมื่อเทียบกับหลายรุ่นในระดับเดียวกัน
Q
มูลค่าขายต่อของ Mazda 3 คือเท่าไหร่?
Mazda3 ในตลาดรถมือสองของไทยจัดว่ามีมูลค่าคงเหลืออยู่ในระดับกลางค่อนไปทางดี โดยรถที่มีอายุการใช้งานประมาณ 3 ปี จะมีมูลค่าคงเหลือราว 60-65% ส่วนรถอายุ 5 ปีจะอยู่ที่ประมาณ 50-55% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพรถ รุ่นย่อย และความต้องการของตลาดในช่วงเวลานั้น
ในไทย รถญี่ปุ่นได้รับการยอมรับสูง และ Mazda3 ก็เป็นที่นิยมด้วยดีไซน์ KODO ที่โดดเด่น รวมถึงเทคโนโลยี Skyactiv ที่เน้นความประหยัดและทนทาน ทำให้รุ่นนี้เป็นที่ต้องการในตลาดรถมือสอง โดยเฉพาะรุ่นที่มีออปชันสูงหรือรุ่นดีเซล จะมีราคาขายต่อที่ดีกว่า
ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาขายต่อ ได้แก่ ประวัติการเข้าศูนย์บริการ การเกิดอุบัติเหตุ และสภาพของตัวถังรถที่อาจได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศชื้นของไทย แนะนำให้เจ้าของรถเก็บบันทึกการเข้ารับบริการที่ศูนย์ให้ครบถ้วน เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือเวลาขายต่อ
เมื่อเปรียบเทียบกับรถในระดับเดียวกัน Mazda3 มีอัตราการคงมูลค่าที่ต่ำกว่า Toyota Corolla เล็กน้อย แต่ดีกว่า Honda Civic ส่วนหนึ่งมาจากภาพลักษณ์ของแบรนด์และต้นทุนในการบำรุงรักษาที่ต่างกัน
นอกจากนี้ นโยบายส่งเสริมรถยนต์ประหยัดพลังงาน (Eco Car) และมาตรการภาษีของรัฐบาล อาจทำให้ราคารถใหม่ผันผวน ส่งผลกระทบทางอ้อมต่อราคารถมือสองด้วย ดังนั้นก่อนขาย ควรตรวจสอบราคาตลาดปัจจุบัน โดยทั่วไปแล้ว ราคาขายต่อในกรุงเทพฯ จะสูงกว่าจังหวัดอื่นประมาณ 5-10%
Q
Mazda 3 มีกี่ CC
มาสด้า 3 รุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1,998 ซีซี หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า 2.0L แรงม้าเยอะพอสมควร ขับสบายทั้งในเมืองและบนทางด่วน จะแซงหรือเร่งเมื่อไหร่ก็มั่นใจ ทุกรุ่นย่อยของมาสด้า 3 ใช้เครื่องยนต์ขนาดเดียวกันเลย แม้จะต่างกันที่ราคา ยาง หรืออุปกรณ์เสริมบางอย่าง แต่เรื่องกำลังไม่ต้องห่วง ให้ความรู้สึกการขับขี่ที่มั่นคงและแรงดีทั้งตอนจอดๆ ไปๆ ในเมืองหรือเวลาครูดความเร็วสูงบนทางหลวง เรียกว่าเอาอยู่ทุกสถานการณ์จริงๆ
Q
Mazda3 ใช้เครื่องยนต์อะไร?
Mazda3 ที่จำหน่ายในตลาดไทย ส่วนใหญ่จะมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร Skyactiv-G แบบไม่มีเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 158 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 202 นิวตันเมตร โดยกำลังสูงสุดจะออกที่รอบเครื่องยนต์ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุดที่ 4,000 รอบ/นาที
เครื่องยนต์นี้ใช้เทคโนโลยีหัวฉีดตรง (Direct Injection) พร้อมฝาสูบและเสื้อสูบผลิตจากอะลูมิเนียม ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดที่สามารถเปลี่ยนเกียร์เองได้ (แบบ Manual Mode)
Mazda3 ยังมีตัวเลือกเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร สำหรับผู้ที่ต้องการความประหยัดน้ำมันและมีงบประมาณจำกัด ส่วนเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรจะเหมาะกับผู้ที่เน้นสมรรถนะในการขับขี่มากกว่า ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกได้ตามความต้องการและสไตล์การใช้งานของตนเอง
Q
Mazda3 ใช้เกียร์แบบไหน?
Mazda3 ใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด (6AT) ซึ่งเป็นเกียร์อัตโนมัติที่ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวลและต่อเนื่อง ช่วยให้การขับขี่ทั้งในเมืองที่ต้องเจอการหยุด-เคลื่อนตัวบ่อย ๆ หรือการวิ่งทางไกลบนถนนความเร็วสูงเป็นไปอย่างราบรื่น
เกียร์ 6AT นี้สามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ได้อัตโนมัติตามสภาพการขับขี่และลักษณะการเหยียบคันเร่งของผู้ขับ ช่วยให้ขับง่าย ประหยัดแรง และเหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป นอกจากนี้ยังมีความทนทานและเชื่อถือได้ ช่วยลดความกังวลเรื่องปัญหาเกียร์ในระยะยาว ทำให้ใช้งานได้อย่างสบายใจ
Q
PCD (รูน็อตล้อ) ของ Mazda3 คือขนาดเท่าไหร่?
PCD (Pitch Circle Diameter) ของ Mazda3 อยู่ที่ขนาด 5x114.3 มม. หมายความว่าล้อแม็กของรถรุ่นนี้มีรูน็อต 5 รู และตำแหน่งของรูน็อตจะเรียงกันเป็นวงกลมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 114.3 มม.
ขนาดนี้ถือว่าเป็นสเปกมาตรฐานที่พบได้บ่อยในรถญี่ปุ่นหลายรุ่น เช่น Honda และ Toyota ทำให้ในไทยสามารถหาอะไหล่หรือเปลี่ยนล้อแม็กได้ง่าย และสะดวกเวลาต้องการอัปเกรดระบบเบรกหรือเปลี่ยนล้อใหม่
การรู้ขนาด PCD เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะหากเลือกล้อที่มีขนาดไม่ตรง อาจทำให้ไม่สามารถติดตั้งได้ หรืออาจเกิดปัญหาในการขับขี่ เช่น การสั่นหรือไม่ปลอดภัยในระยะยาว
ในสภาพอากาศร้อนชื้นและฝนตกบ่อยของประเทศไทย ควรเลือกใช้ล้อแม็กและยางที่มีคุณภาพดี เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ โดยเฉพาะในสภาพถนนที่ลื่นหรือขรุขระ และการเลือกรุ่นของยางหรือขนาดล้อที่เหมาะสม ยังช่วยเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่และยืดอายุการใช้งานได้อีกด้วย
Q
Mazda3 รองรับ Apple CarPlay ไหม?
Mazda3 รุ่นล่าสุดที่วางจำหน่ายในประเทศไทยรองรับฟังก์ชัน Apple CarPlay แล้ว ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ iPhone สามารถใช้งานแอปต่าง ๆ บนหน้าจอรถยนต์ได้โดยตรง เช่น แผนที่นำทาง เพลง หรือการโทรออก-รับสาย เพิ่มความสะดวกในการขับขี่อย่างมาก
โดยทั่วไปแล้ว Mazda3 ตั้งแต่ปี 2019 ขึ้นไป จะมี Apple CarPlay เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แต่สำหรับรุ่นที่เก่ากว่านั้น อาจต้องนำรถไปอัปเกรดระบบที่ศูนย์บริการ Mazda ที่ได้รับอนุญาตในประเทศไทย
ในไทย ผู้ใช้จำนวนมากนิยมเชื่อมต่อ CarPlay เพื่อใช้ Google Maps หรือ Waze ในการหลีกเลี่ยงรถติด โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ รวมถึงใช้งานแอปเพลงอย่าง Spotify หรือ Joox เพื่อความบันเทิงระหว่างเดินทาง
แนะนำให้ใช้สายชาร์จแท้หรือสายคุณภาพดีเมื่อต่อ CarPlay เพื่อป้องกันปัญหาการเชื่อมต่อไม่เสถียร และนอกจาก Apple CarPlay แล้ว Mazda3 ยังรองรับ Android Auto สำหรับผู้ใช้มือถือระบบแอนดรอยด์อีกด้วย
Mazda3 เป็นรถที่ได้รับความนิยมในไทยด้วยจุดเด่นด้านการควบคุมที่ดีและความประหยัดน้ำมัน ยิ่งเมื่อผสานกับระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะเหล่านี้ ก็ยิ่งเพิ่มความคุ้มค่าและน่าใช้งานมากขึ้นอีกขั้น
Q
Mazda3 ใช้ยางยี่ห้ออะไร?
ยางติดรถเดิมของ Mazda3 ที่จำหน่ายในประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามปีรุ่นและรุ่นย่อย โดยส่วนใหญ่มักใช้ยางจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก เช่น Bridgestone, Dunlop หรือ Yokohama ซึ่งเป็นยางที่ได้รับความนิยมในไทยด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะด้านการยึดเกาะบนถนนเปียกและความทนทานที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย
เมื่อต้องเปลี่ยนยางใหม่ ผู้ใช้ในไทยสามารถเลือกแบรนด์อื่นที่ได้รับความนิยมเช่นกัน เช่น Michelin รุ่น Primacy หรือ Goodyear รุ่น Assurance ซึ่งมีสมรรถนะดีทั้งในช่วงฤดูฝนและอุณหภูมิสูงของไทย อีกทั้งยังหาซื้อได้ง่ายตามร้านยางหรือศูนย์บริการทั่วไป
คำแนะนำสำหรับเจ้าของรถคือ เลือกยางตามลักษณะการใช้งาน เช่น ถ้าต้องการความเงียบและนุ่มสบาย หรือเน้นความทนทานก็ควรเลือกรุ่นที่เหมาะสม และอย่าลืมตรวจสอบลมยางและความลึกของดอกยางอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนของไทย ควรเน้นยางที่มีประสิทธิภาพในการรีดน้ำเพื่อลดความเสี่ยงในการลื่นไถล
Q
Mazda 3 เป็นรถที่ดีหรือไม่?
มาสด้า 3 เป็นรถเก๋งขนาดกลางที่ขายดีในตลาดไทย ด้วยดีไซน์ภายนอกที่ดูสปอร์ตและทันสมัย พร้อมด้วยการตกแต่งภายในที่หรูหราและให้ความรู้สึกพรีเมียม แถมยังขับเคลื่อนได้อย่างคล่องตัวเหมาะกับสภาพถนนทั้งในเมืองและนอกเมืองของไทย นอกจากนี้เทคโนโลยี Skyactiv ยังช่วยประหยัดน้ำมันซึ่งเป็นข้อดีในเมื่อราคาน้ำมันไทยค่อนข้างสูง ระบบความปลอดภัยอย่าง i-Activsense ก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ในสภาพการจราจรที่ค่อนข้างวุ่นวายของไทย อย่างไรก็ตาม มาสด้า 3 มีข้อเสียคือพื้นที่เบาะหลังค่อนข้างคับ สำหรับครอบครัวไทยที่ชอบเดินทางพร้อมหน้าพร้อมตาอาจจะรู้สึกอึดอัดหน่อย ส่วนค่าบำรุงรักษาก็สูงกว่ารถญี่ปุ่นรุ่นอื่นๆ เล็กน้อย และที่สำคัญในอากาศร้อนๆ แบบไทย บางคนอาจรู้สึกว่าแอร์ไม่ค่อยเย็นเท่าที่ควร ถ้าคุณเป็นคนชอบความสปอร์ตและความสวยงามของดีไซน์ มาสด้า 3 ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ถ้าอยากได้รถที่กว้างขวางและค่าดูแลถูกกว่านี้ อาจต้องมองหารุ่นอื่น ในตลาดไทยยังมีคู่แข่งอย่างโตโยต้า คอร์ลล่า หรือฮอนด้า ซีวิค ที่น่าสนใจเหมือนกัน แนะนำว่าก่อนซื้อควรลองขับเปรียบเทียบดูให้ดี และอย่าลืมเลือกรุ่นที่เหมาะกับอากาศร้อนแบบไทย เช่น มีกระจกกันความร้อนและระบบแอร์ที่แรงพอสู้กับแดดเมืองไทยได้
Q&A ล่าสุด
Q
Honda เป็นรถยนต์ราคาประหยัดหรือไม่?
ในตลาดไทย Honda มีไลน์อัพผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมหลายเซ็กเมนต์ตั้งแต่รถประหยัดราคาจนถึงระดับกลางและพรีเมียม ดังนั้นการจะบอกว่าเป็น "รถประหยัด" หรือไม่ต้องวิเคราะห์เป็นรุ่นๆไป รุ่นเริ่มต้นอย่าง Honda Brio และHonda City ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายประมาณ 5-8 แสนบาท ประหยัดน้ำมัน (เช่นรุ่นซิตี้ไฮบริดที่กินน้ำมันแค่ 3.5ลิตร/100กม.) และความได้เปรียบด้านต้นทุนจากการผลิตในประเทศ จัดว่าเหมาะกับความต้องการของคนไทยที่มองหาราคาประหยัด โดยเฉพาะครอบครัวที่ใช้รถในกรุงเทพฯที่การจราจรติดขัด แต่ Honda ก็มีรุ่นพรีเมียมอย่าง CR-V และแอคคอร์ดที่ราคาเกิน 1.5 ล้านบาท ซึ่งให้ฟีเจอร์ที่ดีกว่าในเรื่องวัสดุกันเสียงและระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ (เช่น Honda SENSING) ที่น่าสนใจคือคนไทยควรพิจารณาความเข้ากันได้กับน้ำมัน E20 (เช่นเครื่องยนต์ 1.5ลิตรใน Jazz ที่ออกแบบมาสำหรับเชื้อเพลิงชีวภาพโดยเฉพาะ) และสภาพถนนที่น้ำท่วมบ่อย (แนะนำให้เลือกรุ่นอย่าง HR-V ที่มีความสูงช่วงล่าง 160มม.ขึ้นไป) ซึ่งทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าฮอนด้าให้ความสำคัญกับตลาดไทย แนะนำว่าก่อนซื้อควรไปทดลองขับที่โชว์รูมในกรุงเทพฯ หรือเชียงใหม่เพื่อสัมผัสสมรรถนะจริง
Q
"รถ Honda Civic Hatchback ปี 2021 มีมูลค่าเท่าไหร่?"
ราคาขายต่อของ Honda Civic Hatchback รุ่นปี 2021 ในตลาดมือสองประเทศไทยจะมีความแตกต่างกันไปตามสภาพรถ ระยะไมล์ อุปกรณ์และพื้นที่ โดยทั่วไปราคาอยู่ที่ประมาณ 700,000 ถึง 900,000 บาท ถ้าจะเจาะลึกหน่อย รุ่นที่ระยะไมล์ต่ำ (เช่นไม่เกิน 20,000 กิโลเมตร) และดูแลมาอย่างดีพร้อมอุปกรณ์สูงสุดอาจพุ่งไปถึง 900,000 บาท ส่วนรถที่ระยะไมล์สูงหรือเป็นรุ่นพื้นฐานก็จะถูกลง สำหรับในไทยแล้ว Civic เป็นที่นิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่เพราะความน่าเชื่อถือ ประหยัดน้ำมันและการออกแบบสปอร์ต โดยเฉพาะรุ่น Hatchback ที่ตอบโจทย์ทั้งความประหยัดและความสนุกในการขับขี่ ควรซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือและตรวจสอบประวัติรถให้ชัดเจน ทั้งประวัติการซ่อมและการบริการตามระยะ เพราะ Civic เป็นรถที่ครองราคาได้ดีในตลาดมือสอง แถมรถญี่ปุ่นในไทยยังมีอัตราคงราคาสูงอยู่แล้ว ถ้าอยากประหยัดกว่านี้ก็อาจมองรถยี่ห้ออื่นในปีเดียวกัน แต่ต้องระวังเรื่องศูนย์บริการและอะไหล่ในระยะยาวด้วย
Q
2021 Honda มีความน่าเชื่อถือหรือไม่?
รถ Honda รุ่นปี 2021 ในตลาดไทยแสดงความน่าเชื่อถือได้ค่อนข้างดี ทั้งนี้เพราะแบรนด์ Honda มีชื่อเสียงเรื่องความทนทานและการออกแบบที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้น โดยเฉพาะระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ผ่านการปรับแต่งให้ทำงานเสถียรในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงและความชื้นมาก เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนตลอดปีของไทย นอกจากนี้เครือข่ายบริการหลังการขายของ Honda ในไทยยังครอบคลุมทั่วประเทศและมีอะไหล่พร้อมสต็อก ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการบำรุงรักษาระยะยาว หากพูดถึงรุ่นยอดนิยมอย่าง Honda City และ Honda HR-V ปี 2021 จากรายงานของผู้บริโภคไทยพบว่ามีอัตราการเสียหายค่อนข้างต่ำ โดยเฉพาะเกียร์ CVT ที่ผ่านการพัฒนาหลายครั้งจนมีความนุ่มลื่นและทนทานมากขึ้น ที่น่าสนใจคือรถ Honda ที่ผลิตในไทยยังคงได้มาตรฐานการประกอบระดับโลกและมีการเสริมความแข็งแรงให้ระบบช่วงล่างเพื่อรองรับสภาพถนนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับคนที่กำลังมองหารถมือสอง แนะนำให้เลือกรถมือสองรับประกันจาก Honda โดยตรงซึ่งผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียดและมีประกันยาวนานกว่า ทำให้มั่นใจในความน่าเชื่อถือได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม การบริการรักษาตามระยะเป็นสิ่งสำคัญมากในการรักษาประสิทธิภาพของรถยนต์ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนของไทยที่ควรตรวจสอบระบบเบรกและป้องกันความชื้นในระบบไฟฟ้าเป็นพิเศษ
Q
ราคาแบตเตอรี่สำหรับ Honda Civic ปี 2021 อยู่ที่เท่าไหร่?
สำหรับรถ Honda Civic รุ่นปี 2021 ในตลาดไทย ค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่จะอยู่ที่ประมาณ 3,500-6,500 บาท ขึ้นอยู่กับประเภทและยี่ห้อของแบตเตอรี่ แบตเตอรี่แท้จากศูนย์มักจะราคาสูงกว่า ในขณะที่แบตเตอรี่จากแบรนด์อื่นอย่าง Boliden หรือ GS Yuasa จะคุ้มค่ากว่า สภาพอากาศร้อนของไทยส่งผลต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่ค่อนข้างมาก แนะนำให้ตรวจสอบแบตเตอรี่ทุก 2-3 ปี เมื่อเลือกซื้อควรดูค่า CCA (กระแสสตาร์ทเครื่องในสภาพอากาศเย็น) ด้วย โดยในเขตเมืองร้อนควรเลือกแบตเตอรี่ที่มีค่า CCA อย่างน้อย 500 ขึ้นไป ในกรุงเทพฯและเมืองใหญ่จะมีร้านจำหน่ายแบตเตอรี่รถยนต์มืออาชีพหลายแห่งที่บริการติดตั้งฟรี บางร้านยังรับซื้อคืนแบตเตอรี่เก่าเพื่อลดราคาให้ด้วย ในชีวิตประจำวันควรหลีกเลี่ยงการเปิดใช้เครื่องไฟฟ้าขณะดับเครื่องยนต์เป็นเวลานาน เพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ ก่อนเข้าฤดูฝนควรตรวจสอบแบตเตอรี่อย่างละเอียด ศูนย์บริการรถยนต์ส่วนใหญ่ในไทยก็มีบริการตรวจสอบและเปลี่ยนแบตเตอรี่ แต่ราคามักจะสูงกว่าร้านนอกประมาณ 20%-30%
Q
รถ Honda Civic ปี 2021 จะใช้งานได้นานแค่ไหน?
รถ Honda Civic รุ่นปี 2021 ในตลาดไทยทั่วไปสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 150,000-200,000 กิโลเมตรหรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาของเจ้าของรถและสภาพการขับขี่ สภาพอากาศที่ร้อนชื้นของไทยทำให้ต้องดูแลรถเป็นพิเศษ แนะนำให้เปลี่ยนน้ำหล่อเย็นและไส้กรองแอร์เป็นประจำเพื่อป้องกันความร้อนทำลายเครื่องยนต์และระบบแอร์ นอกจากนี้บางพื้นที่ในไทยถนนสภาพไม่ดี ต้องตรวจสอบช่วงล่างและระบบกันสะเทือนบ่อยๆ การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตรงเวลา (แนะนำทุก 6 เดือนหรือ 10,000 กิโลเมตร) และใช้อะไหล่แท้จะช่วยยืดอายุเครื่องยนต์ได้มาก สำหรับคนไทยควรเลือกน้ำมันเครื่องที่เหมาะกับอากาศร้อน (เช่น 5W-30 หรือ 10W-30) ส่วนเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5L ของซีวิคที่ต้องสตาร์ท-หยุดบ่อยในเมืองไทย แนะนำให้เข้าศูนย์บ่อยกว่าปกติเพื่อรักษาสภาพเครื่องให้ดีที่สุด ถ้าดูแลดี รถคันนี้ใช้งานในไทยเกิน 10 ปีแน่นอน ทั้งความทนทานและมูลค่าขายต่อในตลาดไทยก็อยู่ในระดับดีเลยทีเดียว
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Mazda 3 ดูดี แต่ไม่ตอบโจทย์? เผยปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยอดขายไม่ดี
ธนวัฒน์Sep 10, 2024

Mazda 3 Hatchback ราคาเริ่มต้นที่ 166,059 ริงกิต จะเลือกทั้งสองรุ่นนี้อย่างไรดีนะ?"
AshleyJul 15, 2024

Mazda 3 มีราคาตั้งแต่ THB 979,000 เป็นรถเก๋งซี-เซกเมนต์สง่างามที่สุดไหม?
LienJun 12, 2024

สงครามระหว่าง Sedan C-segment ในไทย: Honda Civic RS ปะทะ Toyota Corolla Altis ปะทะ Mazda 3
LienApr 15, 2024

ข่าวลือ: Toyota และ Mazda ร่วมมือกันพัฒนารถรุ่นถัดไป MX-5 และ GR86
ณัฐวุฒิOct 20, 2025
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย