Q

พื้นที่เก็บสัมภาระของ Denza D9 มีขนาดเท่าไหร่

Denza D9 ในฐานะ MPV พลังงานใหม่ระดับพรีเมียม มีพื้นที่เก็บสัมภาระประมาณ 410 ลิตร เมื่อที่นั่ง 7 ที่นั่งเต็ม สามารถบรรจุกระเป๋าเดินทางหลายใบหรือของใช้ประจำวันได้อย่างเพียงพอ และเมื่อพับเบาะแถวที่สาม จะเพิ่มพื้นที่เก็บของได้มากขึ้น เหมาะกับการเดินทางแบบครอบครัวหรือธุรกิจ ในตลาดไทย การออกแบบพื้นที่เก็บของแบบนี้ใช้งานได้ดี ตอบโจทย์การเดินทางในเมืองอย่างกรุงเทพฯ และยังเหมาะกับการเดินทางไกลหรือรับส่งนักท่องเที่ยว ควรคำนึงถึงประสิทธิภาพแบตเตอรี่และแอร์ในสภาพอากาศร้อนซึ่งระบบไฟฟ้าของ Denza D9 ทำได้ดีในด้านประหยัดพลังงานและความเย็น อีกทั้งช่องเปิดท้ายรถต่ำช่วยให้ขนของหนักได้สะดวก นอกจากนี้ ผู้บริโภคไทยที่เลือกซื้อ MPV ยังสามารถเปรียบเทียบกับรุ่นอื่น เช่น Toyota Alphard ที่มีพื้นที่เก็บสัมภาระประมาณ 300 ลิตร Denza D9 จึงได้เปรียบด้านพื้นที่ และรุ่นไฟฟ้าล้วนยังได้รับสิทธิ์สนับสนุนจากภาครัฐด้านรถพลังงานใหม่ ทำให้ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานและความคุ้มค่า โดยชื่อรถ Denza เป็นการผสมคำที่สื่อถึงพลังและความก้าวหน้าในเทคโนโลยีรถยนต์พลังงานใหม่
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
Denza D9 มีข้อเสียอะไรบ้าง
Denza D9 ไม่ใช่รถที่สมบูรณ์แบบในทุกด้าน ยังมีบางจุดที่สามารถปรับปรุงได้ ด้านระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ รุ่นที่วางจำหน่ายในประเทศไทยรองรับเพียงระดับ L2 ซึ่งเมื่อเทียบกับรุ่นท็อปในประเทศจีนแล้ว จะขาดฟังก์ชันช่วยขับขั้นสูงบางอย่าง จึงไม่สามารถมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกและชาญฉลาดได้อย่างเต็มที่ ในส่วนของรายละเอียดภายใน กล่องคอนโซลกลางมีตู้แช่เย็นติดตั้งอยู่ด้านล่าง ทำให้ความลึกของกล่องเก็บของลดลง เหมาะสำหรับใส่ของขนาดบาง ๆ เท่านั้น จึงจำกัดการใช้งานในการจัดเก็บ ขณะที่พวงมาลัยใช้ระบบสัมผัสแบบทัช ซึ่งให้แรงสะท้อนกลับที่ไม่ชัดเจนนัก อาจทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดว่าไม่ได้กดหรือสั่งงาน ต่างจากปุ่มกดแบบดั้งเดิมที่ให้สัมผัสชัดเจน นอกจากนี้ ยังพบอาการหน้ารถทิ่มเมื่อเบรกอย่างกะทันหัน โดยเฉพาะขณะหยุดที่สัญญาณไฟแดง อาการนี้ส่งผลให้ผู้โดยสารตอนหลังรู้สึกไม่สบายขณะเดินทาง
Q
Denza D9 อยู่ใน Segment อะไร
Denza D9 จัดอยู่ในกลุ่มรถ MPV (Multi-Purpose Vehicle) หรือรถอเนกประสงค์ โดยมีการวางตำแหน่งเป็นรถ MPV ระดับพรีเมียมหรูหรา เหมาะทั้งสำหรับการเดินทางของครอบครัวและการรับรองลูกค้าทางธุรกิจ รุ่นนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศจีน ด้วยห้องโดยสารแบบ 7 ที่นั่งที่กว้างขวาง การตกแต่งภายในหรูหรา และเทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง เช่น หน้าจอกลางขนาดใหญ่ เบาะปรับอุณหภูมิได้ทั้งร้อนและเย็น ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยที่เน้นความสะดวกสบายและการใช้งานจริง ในประเทศไทย รถ MPV ก็เป็นที่นิยม โดยเฉพาะรุ่นหรูอย่าง Toyota Alphard และ Honda Odyssey ซึ่งการมาของ Denza D9 ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะมีทั้งเวอร์ชันไฟฟ้าล้วนและปลั๊กอินไฮบริด ซึ่งตอบรับแนวทางการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลไทย หากคุณกำลังพิจารณาซื้อรถ MPV ควรดูทั้งเรื่องความกว้างขวาง ความสะดวกสบาย รวมถึงระยะทางต่อการชาร์จและความสะดวกในการชาร์จ เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จในไทยกำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รถไฟฟ้าจะมีบทบาทมากขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ ระบบอัจฉริยะใน Denza D9 เช่น การควบคุมด้วยเสียงและระบบช่วยขับขี่กึ่งอัตโนมัติ ยังช่วยให้การขับขี่ในเมืองที่การจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯ เป็นเรื่องง่ายขึ้นอีกด้วย
Q
Reslae Value ของ Denza D9 คืออะไร
Denza D9 เปิดตัวในประเทศไทยด้วยรุ่น DENZA D9 Premium 2024 และ DENZA D9 Performance AWD 2024 โดยมีราคาจำหน่ายที่ 1,999,900 บาท และ 2,699,900 บาทตามลำดับ ราคาขายต่อในตลาดมือสองมักจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยหลายประการ เช่น สภาพการใช้งาน ระยะทางที่วิ่ง อายุของรถ และอุปสงค์อุปทานในตลาด หากรถถูกใช้งานในระยะเวลาสั้น มีระยะทางน้อย และสภาพดี ราคาขายต่อจะค่อนข้างสูง ในทางกลับกัน หากรถมีความเสียหายชัดเจน หรือวิ่งมาไกล ราคาจะลดลงอย่างมาก นอกจากนี้ ความต้องการของตลาดยังเป็นปัจจัยสำคัญ หากความต้องการรถ Denza D9 สูงและมีรถในตลาดจำนวนน้อย ราคาจะรักษาระดับได้ดี แต่หากอุปทานมากเกินความต้องการ ราคาขายต่อก็อาจลดลงได้เช่นกัน
Q
PCD Size ของ Denza D9 คืออะไร
PCD ของล้อรถยนต์ Denza D9 คือ 5×120 มิลลิเมตร หมายความว่าล้อถูกยึดด้วยน็อต 5 ตัว โดยน็อตจะกระจายอยู่บนวงกลมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 120 มิลลิเมตร ข้อมูลนี้สำคัญมากสำหรับผู้ใช้ในประเทศไทย โดยเฉพาะเมื่อต้องเปลี่ยนล้อหรืออัปเกรดยางรถยนต์ ต้องมั่นใจว่าขนาด PCD ของล้อใหม่ตรงกับสเปกโรงงาน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการติดตั้งไม่พอดีหรือเสี่ยงต่อความปลอดภัยในการขับขี่ เนื่องจากสภาพอากาศร้อนชื้นและฝนตกบ่อยในไทย แนะนำให้เลือกล้อที่น้ำหนักเบาและระบายความร้อนได้ดี เช่น ล้ออะลูมิเนียม เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันและการระบายความร้อนของระบบเบรก นอกจากนี้ สภาพถนนในไทยมีความหลากหลาย ทั้งเส้นทางภูเขาและในเมือง การเลือกขนาดยางและดีไซน์ล้อที่เหมาะสมจะช่วยให้ขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น ผู้ใช้ควรใส่ใจพารามิเตอร์อื่นๆ เช่น ค่า ET (Offset) และขนาดรูตรงกลาง (Center Bore) เพื่อให้ล้อที่ติดตั้งเข้ากันได้ดีกับระบบช่วงล่างและระบบเบรก ป้องกันการสั่นสะเทือนหรือการสึกหรอที่ไม่จำเป็น หากไม่คุ้นเคยกับการแต่งล้อ ควรปรึกษาช่างมืออาชีพหรือไปที่ศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาต เพื่อให้แน่ใจว่าการเปลี่ยนล้อเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยและรักษาประสิทธิภาพของรถยนต์ไว้ได้อย่างดีที่สุด
Q
Denza D9 มี Apple Carplay หรือไม่
Denza D9 ไม่มีระบบ Apple CarPlay แต่ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้าที่มีคุณสมบัติเด่นมากมาย ด้วยความยาว 5,250 มม. กว้าง 1,960 มม. สูง 1,920 มม. และระยะฐานล้อ 3,110 มม. มอบพื้นที่ภายในกว้างขวางและสะดวกสบาย พร้อมที่นั่ง 7 ที่นั่ง เหมาะสำหรับการเดินทางของครอบครัว ด้านพละกำลังมีหลายรุ่น โดยมอเตอร์ไฟฟ้ามีกำลังแรงม้า กำลังไฟฟ้า และแรงบิดแตกต่างกันไป นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบความปลอดภัยมาตรฐานครบครัน เช่น ถุงลมนิรภัย 8 จุด ระบบ ABS ระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ ช่วยเสริมความปลอดภัยในการขับขี่ แม้ว่าจะไม่มี Apple CarPlay แต่หน้าจอกลางขนาด 15.6 นิ้ว พร้อมลำโพง 12 ตัว ก็ให้ประสบการณ์ความบันเทิงที่ดีแก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
Q
ยี่ห้อยางของ Denza D9 คืออะไร
Denza D9 ในฐานะ MPV พลังงานใหม่ระดับไฮเอนด์ ยางมาตรฐานจากโรงงานจะแตกต่างกันตามรุ่นรถและตลาดแต่ละภูมิภาค โดยในตลาดจีนมักติดตั้งยางคุณภาพสูงเพื่อความนุ่มนวล เช่น Michelin PRIMACY 4 หรือ Continental UltraContact UC6 ซึ่งทั้งสองแบรนด์นี้ก็เป็นที่นิยมและได้รับการยอมรับในตลาดไทยด้วย ผู้บริโภคในไทยสามารถอ้างอิงประสิทธิภาพด้านความเงียบและการรีดน้ำบนถนนเปียกของรุ่นเหล่านี้ได้ สภาพภูมิอากาศร้อนชื้นและฝนตกชุกในไทย ทำให้ความสามารถในการรีดน้ำและความทนทานต่อความร้อนของยางมีความสำคัญมาก จึงควรตรวจสอบความดันลมยางและความลึกของร่องยางอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน หากต้องเปลี่ยนยาง นอกจากแบรนด์มาตรฐานจากโรงงานแล้ว ตัวเลือกคุณภาพในไทยยังมี Bridgestone TURANZA T005A และ Dunlop VEURO VE303 ที่ให้ความนุ่มนวลและประหยัดพลังงาน เหมาะกับการใช้งานของ MPV หรูอย่าง D9 ไม่ว่าจะเลือกแบรนด์ใด ควรซื้อจากช่องทางที่ถูกต้องและตรวจสอบให้มีเครื่องหมายรับรองมาตรฐาน “DOT” หรือ “ECE” เพื่อให้มั่นใจว่ายางนั้นสอดคล้องกับมาตรฐานความปลอดภัยของกรมการขนส่งทางบกไทย
Q
Denza D9 เป็นรถที่ดีหรือไม่ เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
Denza D9 ในฐานะ MPV พลังงานใหม่ระดับไฮเอนด์ มีความสามารถในการแข่งขันในตลาดไทย จุดเด่นคือพื้นที่ภายในกว้างขวางและสะดวกสบายแบบ 7 ที่นั่ง เหมาะสำหรับการเดินทางแบบครอบครัวหรือการรับรองแขกทางธุรกิจ โดยเฉพาะเบาะแถวที่สองแบบที่นั่งเครื่องบินที่ปรับระดับได้หลายทิศทางพร้อมฟังก์ชันอุ่นและระบายอากาศ ช่วยเพิ่มประสบการณ์การโดยสาร นอกจากนี้ รุ่นไฟฟ้าและรุ่นไฮบริดที่มีในตลาดช่วยลดต้นทุนการใช้งานได้ดีในสภาพราคาน้ำมันสูงของไทย เทคโนโลยีแบตเตอรี่แบบใบมีดยังเพิ่มความปลอดภัยสูง แต่ข้อจำกัดคือขนาดตัวถังที่ค่อนข้างใหญ่ ทำให้การขับขี่และการจอดรถในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ อาจไม่คล่องตัวนัก และโครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ซึ่งส่งผลต่อความสะดวกของรุ่นไฟฟ้า ด้านความทนทานระยะยาวและเครือข่ายบริการหลังการขาย ผู้บริโภคไทยอาจมีความกังวลในฐานะแบรนด์จีน หากสนใจ MPV พลังงานใหม่ ยังมีตัวเลือกที่มีชื่อเสียงอย่าง Toyota Alphard ไฮบริด แต่ Denza D9 นำเสนอเทคโนโลยีและความคุ้มค่าที่น่าสนใจกว่า แนะนำให้ทดลองขับเปรียบเทียบและตรวจสอบบริการของตัวแทนจำหน่ายพร้อมเงื่อนไขการรับประกัน นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังมีมาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับรถยนต์พลังงานใหม่ จึงควรติดตามนโยบายล่าสุดเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้อรถ
Q
ความกว้างของ Denza D9 คือเท่าไร
Denza D9 มีความกว้างตัวถัง 1960 มิลลิเมตร ซึ่งถือเป็นขนาดกว้างในกลุ่ม MPV ขนาดใหญ่ ช่วยเพิ่มพื้นที่ด้านข้างภายในรถให้กว้างขวาง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเดินทางแบบครอบครัวหรือการรับรองแขกในธุรกิจ ในภูมิภาคเขตร้อนอย่างประเทศไทย พื้นที่ภายในที่กว้างขวางยังช่วยเพิ่มความสบายขณะนั่ง พร้อมกับระบบแอร์ที่ดีสามารถรับมือกับสภาพอากาศร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ Denza D9 ในฐานะ MPV พลังงานใหม่ การออกแบบตัวถังที่กว้างไม่เพียงแต่เพิ่มประสบการณ์การโดยสารที่ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงสมรรถนะด้านอากาศพลศาสตร์ ช่วยลดการใช้พลังงานอีกด้วย สำหรับผู้ใช้ในประเทศไทย ขนาดความกว้างนี้เมื่อนำไปใช้งานบนถนนในเมืองหรือในลานจอดรถ อาจต้องระมัดระวังบ้าง แต่โดยทั่วไปห้างสรรพสินค้าหรือโรงแรมในไทยส่วนใหญ่รองรับรถขนาดนี้ได้ หากต้องการความมั่นใจ แนะนำให้ไปทดลองนั่งรถจริงที่ตัวแทนจำหน่ายก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อประเมินความเหมาะสมกับการใช้งานประจำวัน
Q
ราคาภาษีรถยนต์ของ Denza D9 คืออะไร วิธีการคำนวณเป็นอย่างไร
Denza D9 เป็นรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งภาษีการใช้ทางบกในประเทศไทยจะแตกต่างจากรถยนต์ใช้น้ำมันที่คำนวณตามขนาดความจุเครื่องยนต์ โดยรถยนต์ไฟฟ้าไม่ถูกเก็บภาษีตามขนาดเครื่องยนต์ อัตราภาษีจึงขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละช่วงเวลา ผู้ใช้ต้องชำระภาษีประจำปีภายในวันที่ครบรอบทะเบียน พร้อมเตรียมเอกสารสำคัญ เช่น เล่มทะเบียนรถสีฟ้า และประกันภัยภาคบังคับ (พรบ. หรือ CTPL) หากรถมีอายุมากกว่า 6 ปี จำเป็นต้องผ่านการตรวจสภาพก่อนชำระภาษี จึงแนะนำให้ติดต่อกรมขนส่งทางบกหรือผู้จำหน่ายที่ได้รับอนุญาต เพื่อรับข้อมูลภาษีที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันสำหรับ Denza D9 ค่ะ
Q
ราคามือสองของ Denza D9 คืออะไร ตรวจสอบราคามือสองได้ที่นี่
ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลราคามือสองของ DENZA D9 โดยตรง แต่รุ่นใหม่ของ DENZA D9 ในตลาดไทยมีหลายเวอร์ชัน ได้แก่ DENZA D9 Premium 2024 ราคาขาย 1,999,900 บาท และ DENZA D9 Performance AWD 2024 ราคาขาย 2,699,900 บาท ราคามือสองโดยทั่วไปจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุการใช้งาน กิโลเมตรที่วิ่ง สภาพรถ และอุปสงค์อุปทานในตลาด โดยรถที่อายุใช้งานสั้น วิ่งน้อย และสภาพดี มักมีราคาสูงกว่า ส่วนรถที่มีประวัติอุบัติเหตุหรือสภาพไม่ดี ราคาจะลดลงอย่างมาก หากต้องการทราบราคามือสองที่แม่นยำ แนะนำให้ติดตามแพลตฟอร์มซื้อขายรถมือสองที่เชื่อถือได้ในท้องถิ่น หรือติดต่อผู้จำหน่ายรถมือสองที่มีใบอนุญาตอย่างเป็นทางการค่ะ

ข้อดี

ห้องยานพาหนะที่กว้างขวางและหรูหราเพื่อความสบาย
ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าแนวขั้นสูงให้การขับรถที่ราบรื่น
คุณสมบัติการรักษาความปลอดภัยที่โดดเด่นรับประกันการปกป้อง
การออกแบบที่สไตล์ทำให้ดึงดูดความสนใจบนถนน

ข้อเสีย

ราคาสูงอาจเกินงบประมาณของบางคน
สาธารณูปกรณ์ในการชาร์จจำกัดในบางพื้นที่
น้ำหนักที่หนักอาจส่งผลต่อการควบคุมเล็กน้อย

Q&A ล่าสุด

Q
อันไหนใหญ่กว่า subaru forester หรือ outback
ในตลาดประเทศไทย Subaru Forester และ Outback เป็น SUV ที่ได้รับความนิยมมากทั้งคู่ แต่ถ้าพูดถึงขนาดแล้ว Outback จะใหญ่กว่า Forester นิดหน่อย โดยตัวถังและระยะฐานล้อของ Outback ยาวกว่าเล็กน้อย ทำให้มีพื้นที่ภายในกว้างขวางกว่า โดยเฉพาะช่วงขาหลังและกระโปรงท้ายที่บรรจุของได้มากขึ้น เหมาะสำหรับครอบครัวที่ต้องเดินทางไกลหรือต้องการพื้นที่เก็บสัมภาระ ในขณะที่ Forester จะสูงกว่าด้านส่วนหัว ทำให้มีพื้นที่เหนือศีรษะมากกว่าและมุมมองการขับขี่ดีกว่า เหมาะกับการใช้งานในเมืองหรือเส้นทางขรุขระ ส่วนระบบขับเคลื่อนทั้งคู่มาพร้อม Symmetrical AWD และเครื่องยนต์ Boxer แบบราบที่ให้การควบคุมและความปลอดภัยสูง เหมาะกับสภาพถนนเปียกและภูมิประเทศแบบภูเขาในไทย นอกจากนี้ Outback ยังมีระยะความกว้างจากพื้นสูงกว่า ทำให้ผ่านถนนลูกรังได้ดี ในขณะที่ Forester ขนาดกะทัดรัดกว่า ขับง่ายในซอยแคบๆ แบบกรุงเทพฯ ลูกค้าสามารถเลือกได้ตามความต้องการ เช่น จำนวนผู้โดยสาร สัมภาระที่ต้องขน หรือสภาพถนนที่ใช้งานเป็นหลัก ส่วนบริการหลังการขายทั้งสองรุ่นในไทยก็พร้อมให้บริการทั่วถึง
Q
ระยะเวลาที่เบรกของซูบารุฟอร์สเตอร์ใช้งานได้นานเท่าไหร่
อายุการใช้งานของระบบเบรกในรถซูบารุ ฟอเรสเตอร์นั้นขึ้นอยู่กับนิสัยการขับขี่ สภาพถนน และการดูแลรักษาตามระยะ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่อากาศร้อนชื้นและรถติดบ่อย แนะนำให้ตรวจสอบความหนาของผ้าเบรกทุก 30,000-40,000 กิโลเมตร หรือทุก 2 ปี ถ้าผ้าเบรกบางกว่า 3 มิลลิเมตรควรเปลี่ยนทันที ส่วนจานเบรกปกติจะอยู่ได้ประมาณ 60,000-80,000 กิโลเมตร ช่วงฤดูฝนต้องระวังเป็นพิเศษเพราะความชื้นจะทำให้จานเบรกเป็นสนิมและผ้าเบรกสึกเร็วขึ้น การขับบนทางเขาภูเขาที่ต้องเหยียบเบรกบ่อยๆก็ทำให้อายุการใช้งานสั้นลงด้วย สัญญาณเตือนว่าใกล้ถึงเวลาต้องเปลี่ยนผ้าเบรกได้แก่ เสียงโลหะเสียดสี ระยะเบรกยาวขึ้น หรือไฟเตือนบนหน้าปัด ควรใช้ของแท้จากศูนย์เพื่อให้เข้ากับระบบ ABS ของรถ ระบบเบรกทุกคันคืออะไหล่สิ้นเปลืองทั้งนั้น การทำความสะอาดฝุ่นผ้าเบรกและไม่จอดรถทิ้งไว้หลังล้างรถจะช่วยยืดอายุอะไหล่ได้ ถ้าคุณขับบ่อยๆบนทางลาดชันในกรุงเทพหรือทางเขาสูงในเชียงใหม่ อาจต้องลดระยะการตรวจเช็คให้ถี่ขึ้นอีก 20% จากปกติ
Q
สุบารุฟอเรสเตอร์กว้างเท่าใด
รถ SUV Subaru Forester ที่วางจำหน่ายในตลาดไทยมีขนาดความกว้างตัวถังอยู่ที่ 1,815 มิลลิเมตร ซึ่งจัดว่าเป็นขนาดกลางที่ค่อนข้างกว้างขวางในกลุ่มรถ SUV ประเภทนี้ ความกว้างระดับนี้ช่วยให้ผู้โดยสารนั่งได้อย่างสบาย พร้อมทั้งยังให้ความมั่นคงบนถนนได้ดีเยี่ยม สำหรับสภาพการขับขี่ในไทยที่ต้องเผชิญทั้งถนนในเมืองและเส้นทางชนบท ความกว้างตัวถังขนาดนี้ถือว่าคุ้มค่า เพราะนอกจากจะให้พื้นที่ภายในเพียงพอสำหรับผู้โดยสาร 5 คนแบบไม่เบียดกันแล้ว ยังไม่กว้างเกินไปจนทำให้ขับในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรหนาแน่นได้ลำบาก อย่างไรก็ตาม ความกว้างตัวถังมีผลต่อความสะดวกในการขับในซอยแคบๆ ดังนั้นผู้บริโภคไทยควรพิจารณาจากเส้นทางที่ใช้ประจำด้วย ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อสมมาตรของฟอเรสเตอร์ทำงานได้ดีบนถนนลื่นช่วงฤดูฝนของไทย ส่วนระยะความสูงจากพื้น 220 มิลลิเมตรก็เหมาะกับถนนลูกรังบางสายในประเทศ หากเปรียบเทียบกับรถ SUV ญี่ปุ่นรุ่นเดียวกันอย่าง Honda CR-V ที่มีความกว้าง 1,855 มม. และ Toyota RAV4 ที่ 1,854 มม. ฟอเรสเตอร์ถือว่ามีขนาดตัวถังที่กะทัดรัดกว่า แต่ด้วยการออกแบบห้องโดยสารที่เหมาะสม ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยภายในใกล้เคียงกัน
Q
วิธีเปิดระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ subaru forester
เวลาขับรถ Subaru Forester ในประเทศไทย ถ้าต้องการใช้งานระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Symmetrical AWD โดยปกติแล้วสามารถปรับได้ที่ปุ่มเลือกโหมดขับขี่บนคอนโซลกลาง ตำแหน่งอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นและปีของรถ สำหรับรุ่นใหม่ๆ อาจมีฟังก์ชัน X-MODE ซึ่งปุ่มจะอยู่แถวๆ เกียร์ ระบบนี้จะช่วยปรับการกระจายกำลังไปยังล้อทั้งสี่ให้เหมาะสมอัตโนมัติ พร้อมทั้งมีระบบช่วยลงทางลาดชัน เหมาะมากๆ สำหรับขับในพื้นที่ภูเขาทางภาคเหนือของไทยหรือเวลาถนนลื่นช่วงฤดูฝน ต้องบอกเลยว่า Forester ออกแบบมาให้ระบบสี่ล้อทำงานแบบเต็มเวลาอยู่แล้ว แต่ X-MODE จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในสภาพถนนที่เกาะยางไม่ดีเป็นพิเศษ แนะนำให้ปิดโหมดนี้เวลาขับบนถนนปกติเพื่อประหยัดน้ำมัน ส่วนเจ้าของรถในไทยควรตรวจสอบสภาพน้ำมันดิฟเฟอเรนเชียลเป็นประจำ เพราะอากาศร้อนชื้นของเราอาจทำให้น้ำมันเสื่อมสภาพเร็ว และช่วงน้ำท่วมต้องระวังไม่ขับลุยน้ำลึกเกิน 500mm เด็ดขาด เดี๋ยวจะเสียชิ้นส่วนระบบส่งกำลังเข้าไป ถ้ารุ่นของคุณมีระบบ SI-DRIVE การเลือกโหมด "SPORT" จะช่วยเปลี่ยนการตอบสนองของเครื่องยนต์ แต่ไม่ได้ส่งผลต่อการทำงานพื้นฐานของระบบสี่ล้อนะจ๊ะ
Q
ราคาของซูบารุฟอร์เรสเตอร์เท่าไหร่
ราคารถ Subaru Forester ในตลาดประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและอุปกรณ์ โดยปัจจุบันราคาอยู่ที่ประมาณ 1.4 - 1.8 ล้านบาท แต่แนะนำให้สอบถามตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่เพื่อขอราคาที่อัปเดตที่สุด Forester เป็น SUV ที่เน้นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเต็มเวลากับความประหยัดพื้นที่ เหมาะสมกับสภาพอากาศฝนตกบ่อยและเส้นทาง複雜ของไทย นอกจากนี้ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ EyeSight ที่มาพร้อมมาตรฐานยังช่วยเพิ่มความปลอดภัย ผู้บริโภคไทยควรทราบว่าภาษีนำเข้ารถอาจส่งผลต่อราคาสุดท้าย และแม้เครื่องยนต์แบบ Boxer ของซูบารุจะช่วยลดจุดศูนย์ถ่วงและเพิ่มความคล่องตัว แต่ค่าซ่อมอาจสูงกว่าเครื่องยนต์แบบทั่วไปเล็กน้อย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาตลาด EV ในไทยเติบโตเร็ว แต่ Forester ยังคงเป็นรุ่นน้ำมันเป็นหลัก หากสนใจรุ่นไฮบริดควรตรวจสอบว่ามีจำหน่ายในไทยหรือไม่ ก่อนตัดสินใจซื้อแนะนำให้เปรียบเทียบกับ SUV ญี่ปุ่นรุ่นเดียวกันอย่าง Toyota RAV4 หรือ Honda CR-V และควรทดลองขับเพื่อสัมผัสพื้นที่ภายในและความรู้สึกในการขับขี่ตามความต้องการส่วนตัว
ดูเพิ่มเติม