Q
Honda City รุ่น S และ V มีความแตกต่างกันอย่างไร
รถยนต์ Honda City รุ่น S และรุ่น V มีความแตกต่างกันในด้านอุปกรณ์ โดยทั่วไปแล้วรุ่น S มักจะมีอุปกรณ์พื้นฐาน ซึ่งอาจเรียบง่ายกว่าในส่วนของความสะดวกสบายและการใช้งาน ขณะที่รุ่น V มักจะเพิ่มอุปกรณ์ขั้นสูงมากขึ้น เช่น ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ฟังก์ชันสตาร์ทเครื่องยนต์ระยะไกล และกุญแจอัจฉริยะ เป็นต้น
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ฮอนด้าซิตี้ 2024 มีความจุซีซีเท่าไหร่
รถฮอนด้าซิตี้รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ 2 แบบ คือเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตรและเครื่องยนต์แบบธรรมดา 1.5 ลิตร โดยเครื่องเทอร์โบ 1.0 ลิตรมีความจุกระบอกสูบ 998 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ส่วนเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรแบบธรรมดามีความจุ 1,498 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า เครื่องยนต์ทั้งสองแบบถูกออกแบบมาให้สมดุลระหว่างประหยัดน้ำมันและสมรรถนะการขับขี่ เหมาะกับทั้งการใช้งานในเมืองและการเดินทางไกลในไทย ฮอนด้าซิตี้เป็นที่นิยมในตลาดไทยเสมอมาด้วยความน่าเชื่อถือ ค่าซ่อมบำรุงไม่แพง และประหยัดน้ำมัน ส่วนรุ่นปี 2024 ยังเพิ่มเทคโนโลยีความปลอดภัย Honda SENSING เข้ามา ทำให้ยิ่งโดดเด่นขึ้น สำหรับลูกค้าชาวไทยที่กำลังตัดสินใจเลือกเครื่องยนต์ แนะนำว่าเครื่องเทอร์โบ 1.0 ลิตรเหมาะกับคนที่เน้นประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในขณะที่เครื่อง 1.5 ลิตรแบบธรรมดาจะให้ความรู้สึกการขับขี่ที่ลื่นไหลมากกว่า ทั้งสองแบบตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้ดีอยู่แล้ว แค่เลือกให้เหมาะกับสไตล์การขับและงบประมาณของคุณก็พอ
Q
คะแนนความปลอดภัยของ Honda City 2024 คืออะไร
รถฮอนด้าซิตี้รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยแสดงผลงานด้านความปลอดภัยได้ดีเยี่ยม ด้วยระบบ Honda SENSING ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นช่วยเหลือผู้ขับขี่อย่างครบครัน ทั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบช่วยรักษาเลน และระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยแบบพาสซีฟที่ครบถ้วน เช่น ถุงลมนิรภัย 6 จุด ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว และระบบเบรก ABS ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้รถรุ่นนี้มีความโดดเด่นในกลุ่มรถระดับเดียวกัน จากการทดสอบตามมาตรฐาน NCAP ของไทย คาดว่ารถรุ่นนี้จะได้คะแนนความปลอดภัยระดับ 5 ดาว เหมาะสมกับสภาพถนนทั้งในเมืองและชนบทของไทยที่หลากหลาย สำหรับผู้บริโภคชาวไทย นอกจากเรื่องความปลอดภัยแล้ว ยังควรพิจารณาค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและค่าประกันรถด้วย เพราะเครือข่ายบริการหลังการขายของฮอนด้าในไทยมีความพร้อมสูง มีอะไหล่ครบครัน ทำให้ค่าใช้จ่ายในการใช้งานระยะยาวค่อนข้างต่ำ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่คนไทยมักคำนึงถึงเมื่อเลือกซื้อรถเช่นกัน
Q
วิธีเปิดส่วนหน้าของรถ Honda Civic 2024
ก่อนจะเปิดฝากระโปรงหน้ารุ่นฮอนด้าซิวิค 2024 สิ่งแรกที่ต้องทำคือนั่งในที่นั่งคนขับ แล้วมองหาคันปลดล็อกฝากระโปรงหน้า ซึ่งจะมีสัญลักษณ์รูปเครื่องยนต์อยู่ด้านล่างซ้ายของพวงมาลัย ดึงคันนี้เบาๆจนได้ยินเสียงฝากระโปรงหน้ายกขึ้น จากนั้นเดินไปที่หน้าตัวรถ ใช้มือสอดเข้าไปในช่องกลางฝากระโปรง แล้วหาล็อกนิรภัยตัวที่สองให้เจอ ให้ดันล็อกนี้ไปทางซ้ายหรือขวาพร้อมกับยกฝากระโปรงขึ้น สำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย แนะนำให้ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นและน้ำมันเบรกในห้องเครื่องเป็นประจำ เพื่อให้รถทำงานได้ปกติ และควรทำความสะอาดห้องเครื่องด้วย ระวังอย่าให้ใบไม้หรือเศษอุดตันท่อระบายน้ำ ถ้าต้องขับในพื้นที่ติดขัดอย่างกรุงเทพฯ บ่อยๆ ควรเช็กด้วยว่าฟิลเตอร์อากาศอุดตันฝุ่นหรือไม่ เพราะจะช่วยรักษาสมรรถนะเครื่องยนต์และประหยัดน้ำมันได้ ส่วนเวลาปลดล็อกฝากระโปรงถ้าได้ยินเสียงเฮียกที่บานพับ ให้ทาจาระบีเล็กน้อย และเนื่องจากอากาศไทยร้อนจัดทำให้ยางซีลเสื่อมสภาพเร็ว ควรตรวจสอบความแน่นของซีลทุกๆครึ่งปี
Q
ความจุของกระโปรงท้ายรถฮอนด้าซิตี้ 2024 คือเท่าไร
รถฮอนด้า ซิตี้ รุ่นปี 2024 ที่วางขายในตลาดไทยมีปริมาตรกระโปรงหลังขนาด 536 ลิตร ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันของครอบครัวหรือการท่องเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์ สามารถบรรจุกระเป๋าเดินทางหลายใบหรือของช้อปปิ้งได้อย่างสบายๆ เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนไทยที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเองหรือช้อปปิ้งบ่อยๆ การออกแบบกระโปรงหลังทำได้อย่างสมเหตุสมผล มีช่องเปิดที่กว้าง ทำให้สะดวกในการลำเลียงสิ่งของ นอกจากนี้เบาะหลังยังสามารถพับลงได้ตามสัดส่วน ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ในสภาพอากาศของไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก กระโปรงหลังของซิตี้ยังมีการป้องกันการรั่วซึมที่ดี ช่วยปกป้องสิ่งของจากความชื้นหรือความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกันแล้ว ปริมาตรกระโปรงหลังขนาดนี้จัดอยู่ในระดับกลางถึงดี และเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่างโตโยต้า ยาริส แอททีฟแล้วยังได้เปรียบอยู่บ้าง สำหรับผู้ใช้งานไทยที่มักต้องพกพาสิ่งของจำนวนมาก พื้นที่กระโปรงหลังของซิตี้ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่值得พิจารณา แนะนำให้ไปทดลองบรรจุของที่ตัวแทนจำหน่ายด้วยตัวเองเพื่อความสะดวก และควรเปรียบเทียบกับการออกแบบกระโปรงหลังของรถรุ่นอื่นๆ ในราคาใกล้เคียงกัน เพื่อเลือกรถที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ดีที่สุด
Q
สีของ Honda City 2024 มีอะไรบ้าง
รถฮอนด้า ซิตี้ รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยมีให้เลือกหลายสีสันสไตล์โมเดิร์น ทั้งหมด 7 สีคลาสสิค ได้แก่ สีพลาตินัม ออบซิเดียน บลู เพิร์ล (น้ำเงินไข่มุก), อิกไนท์ เรด เมทัลลิก (แดงเมทัลลิก), แพลตตินัม ไวท์ เพิร์ล (ขาวไข่มุก), คริสตัล แบล็ค เพิร์ล (ดำไข่มุก), ลูนาร์ ซิลเวอร์ เมทัลลิก (เงินเมทัลลิก), อุกกาบาต เกรย์ เมทัลลิก (เทาเมทัลลิก) และทัฟเฟต้า ไวท์ (ขาวทาฟเฟต้า) เวลาเลือกสีรถควรคิดถึงเรื่องค่าดูแลรักษาด้วยนะครับ สีอ่อนๆ ในแดดเมืองไทยจะทนต่อคราบสกปรกกว่า ส่วนสีเข้มต้องล้างรถและขัดแว็กซ์บ่อยหน่อยเพื่อรักษาความเงางาม แถมบางสีพิเศษอาจต้องสั่งจองล่วงหน้าหรือรอรับรถนานกว่าปกติครับ
Q
วิธีเปิดฝากระโปรงหน้ารถ Honda City 2024
ก่อนจะเปิดฝากระโปรงหน้ารถฮอนด้าซิตี้รุ่นปี 2024 สิ่งแรกที่ต้องทำคือนั่งบนที่นั่งคนขับแล้วมองหาแถบปลดล็อกฝากระโปรงซึ่งอยู่ด้านล่างซ้ายของแผงหน้าปัด มักจะอยู่แถวๆ Pedal ให้ดึงขึ้นจนได้ยินเสียงฝากระโปรงหน้ากระเด้งเล็กน้อย จากนั้นเดินไปที่หัวรถแล้วใช้นิ้วมือสอดเข้าไปในช่องกลางขอบฝากระโปรงหน้า จะพบกับล็อกความปลอดภัยตัวที่สอง ให้ดันขึ้นพร้อมกับยกฝากระโปรง ถ้ารู้สึกหนักไปอาจใช้ค้ำยันช่วย สำหรับสภาพอากาศร้อนๆ แบบไทย แนะนำให้ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นและน้ำมันเครื่องเป็นประจำ โดยเฉพาะก่อนขับทางไกล ต้องเช็กระบบระบายความร้อนให้ดี ภายในห้องเครื่องฮอนด้าซิตี้จัดวางเป็นระเบียบ ทำให้เจ้าของรถสามารถเติมน้ำฉีดกระจกหรือตรวจสอบน้ำมันเบรคได้เอง แต่ถ้าเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าหรือชิ้นส่วนเครื่องกลที่ซับซ้อน ควรไปที่ศูนย์บริการฮอนด้าจะดีกว่า ที่ศูนย์ใหญ่ๆ ในกรุงเทพหรือเชียงใหม่ยังมีบริการตรวจเช็คฟรีให้อีกด้วย ข้อสำคัญเวลาปิดฝากระโปรงหน้า ต้องปล่อยจากความสูงประมาณ 30 เซนติเมตรให้ปิดเองตามธรรมชาติ เพื่อให้ล็อกเข้าที่สนิท ป้องกันฝากระโปรงเปิดขณะขับรถ และช่วงหลังฤดูฝนของไทย ควรทำความสะอาดใบไม้ที่อาจตกค้างในห้องเครื่อง เพื่อไม่ให้ท่อระบายน้ำอุดตัน
Q
ฉันจะเปิดถังน้ำมันบนรถฮอนด้า 2024 ของฉันได้อย่างไร
วิธีเปิดฝาถังน้ำมันของฮอนด้ารุ่นปี 2024 ทำได้ง่าย มีสองแบบขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ของแต่ละรุ่น แบบแรกคือปุ่มกดภายในรถ จะอยู่ด้านซ้ายของผู้ขับขี่บนคอนโซลกลางหรือแผงประตู กดปุ่มที่มีสัญลักษณ์ถังน้ำมัน ฝาถังจะเด้งเปิด แบบที่สองคือกดตรงฝาถังภายนอก หลังจากปลดล็อกรถแล้วกดเบาๆ ฝาจะเปิด ทั้งสองแบบเหมาะกับสภาพอากาศร้อนและฝนตกของไทย ป้องกันการใช้งานผิดพลาดและรักษาการปิดสนิท ปั๊มน้ำมันส่วนใหญ่ในไทยมีพนักงานบริการเติมน้ำมัน จึงไม่จำเป็นต้องเติมเอง แต่ควรตรวจสอบชนิดน้ำมันว่าเป็นเบนซินหรือดีเซลก่อนเติม เนื่องจากอากาศร้อนอาจทำให้น้ำมันระเหย แนะนำไม่เติมเต็มเกินไปเพื่อเว้นพื้นที่ให้น้ำมันขยาย เพิ่มความปลอดภัยและประหยัดเชื้อเพลิง สำหรับรถที่ใช้งานระยะยาวควรตรวจสอบซีลฝาถังเป็นประจำ ป้องกันน้ำหรือฝุ่นเข้าช่วงฤดูฝนและคงคุณภาพน้ำมัน
Q
คุณสามารถสตาร์ทรถ Honda 2024 จากโทรศัพท์ของคุณได้ไหม
รุ่นฮอนด้า 2024 บางรุ่นในตลาดไทยรองรับฟังก์ชั่นสตาร์ทรถทางโทรศัพท์ได้จริง แต่ขึ้นอยู่กับรุ่นและระบบ Honda Connect ที่ติดตั้งมา เช่น รุ่นท็อปอย่าง CR-V หรือ Accord มักจะมีฟีเจอร์นี้ ผู้ใช้ต้องดาวน์โหลดแอป Honda และผูกบัญชีกับรถยนต์ก่อน หลังจากนั้นจะสามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ เปิดแอร์ล่วงหน้า หรือปลดล็อคประตูผ่านมือถือได้ ซึ่งเหมาะมากกับอากาศร้อนๆ แบบไทยๆ แต่อย่าลืมว่าฟีเจอร์นี้ต้องใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตและรถต้องอยู่ในพื้นที่ที่สัญญาณครอบคลุม รวมถึงควรตรวจสอบกับตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ด้วย เพราะบางฟังก์ชั่นอาจถูกจำกัดตามกฎหมายไทยหรือเครือข่ายโทรศัพท์ นอกจากนี้ เทคโนโลยีควบคุมระยะไกลแบบเดียวกันนี้ยังมีในแบรนด์อื่นๆ เช่น Toyota Connect ของโตโยต้าหรือ NissanConnect ของนิสสัน ซึ่งทำงานผ่านโมดูลสื่อสารในรถที่เชื่อมกับแอปบนมือถือ เมื่อ 5G แพร่หลายมากขึ้น ฟีเจอร์เหล่านี้จะทำงานเร็วและเสถียรขึ้น แน่นอนว่าทำให้ชีวิตคนใช้รถในไทยสะดวกสบายขึ้นอีกเยอะ
Q
รถฮอนด้าซิตี้ปี 2024 มีระบบ VTEC หรือไม่
รถยนต์ฮอนด้าซิตีรุ่นปี 2024 ที่วางขายในตลาดประเทศไทยยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ แบบธรรมชาติ โดยไม่ได้นำเทคโนโลยี VTEC มาใช้ แต่ยังคงใช้ระบบ i-VTEC ที่ปรับปรุงการทำงานของวาล์วให้ฉลาดขึ้น ระบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อประหยัดน้ำมันและเพิ่มแรงบิดในรอบต่ำถึงกลาง ซึ่งเหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดและการขับขี่ที่ต้องหยุดบ่อยในเมืองไทย แม้ว่า VTEC จะโดดเด่นในเรื่องพลังสปินสูง แต่ i-VTEC ให้ความนุ่มนวลและประหยัดน้ำมันมากกว่า ซึ่งตอบโจทย์ผู้บริโภคไทยในยุคที่ราคาน้ำมันแพง อีกจุดสำคัญคือฮอนด้าจะปรับตั้งค่าทางเทคนิคให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนในไทย โดยเสริมประสิทธิภาพระบบระบายความร้อนและแอร์ ส่วนการไม่ใช้ VTEC ก็แสดงว่าผู้ผลิตเข้าใจความต้องการของคนไทยจริงๆ เพราะในสภาพรถติดแบบกรุงเทพฯ การใช้พลังรอบสูงแทบไม่เกิดประโยชน์เท่าการประหยัดน้ำมันในชีวิตประจำวัน ถ้าอยากได้พลังมากขึ้น ลองดูรุ่น City RS ที่ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5 ลิตร ซึ่งให้แรงบิดดีกว่าในการแซง แต่ก็ยังไม่ใช้ระบบ VTEC แบบดั้งเดิมเช่นกัน
Q
รถ Honda City 2024 เฉลี่ยแล้ววิ่งได้กี่กิโลเมตรต่อลิตร
รถฮอนด้าซิตี้รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 15-18 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งตัวเลขอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนนและรุ่นย่อยของรถ สำหรับรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC จะให้สมรรถนะที่สมดุลในสภาพการขับขี่แบบผสม ส่วนรุ่น e:HEV แบบไฮบริดนั้นประหยัดน้ำมันได้มากกว่า โดยเฉพาะในสภาพการจราจรติดขัดแบบกรุงเทพฯ ที่ต้องเร่ง-หยุดบ่อยๆ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ในไทยควรระวังว่าอากาศร้อนและการเปิดแอร์อาจส่งผลให้สิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้นเล็กน้อย การดูแลรักษาเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอ เช่น การเปลี่ยนไส้กรองอากาศและปรับลมยางให้เหมาะสม จะช่วยประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกันอย่างโตโยต้ายาริสหรือมาสด้า 2 ที่มีอัตราสิ้นเปลืองใกล้เคียงกัน แต่ใช้เทคโนโลยีต่างกัน แนะนำให้ลองทดลองขับเพื่อเปรียบเทียบ นอกจากนี้ นโยบายลดภาษีของรัฐบาลไทยสำหรับรถประหยัดพลังงานยังทำให้ซิตี้เป็นตัวเลือกคุ้มค่า และในระยะยาว รุ่นไฮบริดจะช่วยประหยัดค่าน้ำมันได้มากกว่าชัดเจน
Q&A ล่าสุด
Q
Land Rover Defender 2025 ราคาเท่าไหร่?
ราคาของ Land Rover Defender รุ่นปี 2025 ในประเทศไทยคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 3.5 ถึง 5.5 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและอุปกรณ์เสริมที่เลือก เช่น รุ่น 90 แบบช่วงล่างสั้นจะมีราคาถูกกว่า ในขณะที่รุ่น 110 แบบช่วงล่างยาวและรุ่น 130 แบบ 8 ที่นั่งจะมีราคาสูงกว่า นอกจากนี้ รุ่นปลั๊กอินไฮบริด P300e อาจได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับรถยนต์พลังงานสะอาดจากรัฐบาลไทย สิ่งที่ผู้บริโภคไทยต้องระวังก็คือ นอกจากราคารถแล้ว ยังมีค่าภาษีนำเข้า ภาษีสรรพสามิต และ VAT 7% ที่มักรวมอยู่ในราคาจากตัวแทนจำหน่ายแล้ว ในตลาดไทย Defender มีคู่แข่งหลักอย่าง Toyota Land Cruiser และ Ford Everest แต่ด้วยดีไซน์ที่ดูเท่และแข็งแกร่ง ความสามารถในการขับเคลื่อน off-road และห้องโดยสารระดับหรู ทำให้ Defender โดดเด่นในตลาด SUV ระดับไฮเอนด์ สำหรับสภาพอากาศไทยที่ร้อนชื้น Defender ก็ตอบโจทย์ด้วยระบบ Terrain Response ที่ปรับการขับเคลื่อนตามสภาพพื้นผิวและระบบแอร์ที่ทำงานได้ดี แนะนำให้ผู้สนใจติดต่อตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทยเพื่อขอราคาล่าสุดและนัดทดลองขับ หรือจะรอโปรโมชันพิเศษในช่วงงานมอเตอร์โชว์อย่างงานบางกอกอินเตอร์เนชันแนลมอเตอร์โชว์ก็ได้เช่นกัน
Q
2025 Land Rover Defender ผลิตที่ไหน?
รถ Land Rover Defender รุ่นปี 2025 ส่วนใหญ่ผลิตที่โรงงานนิตราในสโลวาเกีย ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตระดับโลกสำหรับรถ Defender ตั้งแต่ปี 2018 โรงงานแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องระบบการผลิตอัตโนมัติและมาตรฐานควบคุมคุณภาพที่เข้มงวด สำหรับตลาดไทย รุ่นทั้งหมดที่นำเข้ามาจำหน่ายล้วนผลิตจากโรงงานนี้ และผ่านช่องทางการนำเข้าอย่างเป็นทางการเพื่อให้ได้มาตรฐาน TIS ของไทยและระบบพวงมาลัยขวา ที่น่าสนใจคือรถ Defender ที่ขายในไทยจะมีการปรับแต่งให้เหมาะกับสภาพท้องถิ่น เช่น ระบบระบายความร้อนที่ออกแบบมาสำหรับอากาศร้อนและป้องกันสนิม พร้อมรับประกัน 5 ปีและบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมงจากทางแบรนด์ แต่ถ้าคิดจะนำเข้าแบบขนานเอง ต้องระวังปัญหาความเข้ากันได้ที่อาจเกิดขึ้น เช่น มาตรฐานไอเสียหรือภาษาในระบบสื่อสารของรถ ด้วยดีไซน์แพลตฟอร์มแบบโมดูลาร์ ดีเฟนเดอร์สามารถเลือกได้ทั้งรุ่นฐานล้อสั้น 90 และฐานล้อมาตรฐาน 110 โดยเฉพาะแพ็คเกจเทคโนโลยีออฟโรด Terrain Response รุ่นที่ 2 ที่เหมาะกับเส้นทางขรุขระในภาคเหนือของไทย ส่วนหลังคารถที่ถอดได้ก็ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ริมทะเลได้ดี
Q
Defender 2025 มีรุ่นอะไรบ้าง?
รถ Land Rover Defender รุ่นปี 2025 ในตลาดไทยมีให้เลือกหลายแบบ ทั้งเวอร์ชันระยะฐานล้อ 90, 110 และ 130 เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันไป รุ่น 90 เป็นแบบระยะฐานล้อสั้น 3 ประตู พอดีตัวสำหรับขับขี่ในเมืองและจอดง่าย รุ่น 110 เป็นแบบมาตรฐาน 5 ประตู ที่ทั้งใช้งานในชีวิตประจำวันได้สะดวกและยังคงความสามารถออฟโรด ส่วนรุ่น 130 ที่เพิ่มระยะฐานล้อให้ยาวขึ้นมาพร้อมเก้าอี้ 3 แถว เหมาะกับครอบครัวใหญ่ ด้านเครื่องยนต์ ตลาดไทยคาดว่าจะมีทั้งแบบ 2.0T 4 สูบและ 3.0T 6 สูบ บางรุ่นอาจมีระบบปลั๊กอินไฮบริดเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายสิ่งแวดล้อมของไทยที่เข้มงวดขึ้นเรื่อยๆ
Defender โดดเด่นด้วยดีไซน์ออฟโรดคลาสสิคและระบบ Terrain Response ที่ล้ำสมัย ทำให้การขับขี่ในฤดูฝนหรือเส้นทางเขาทางเหนือของไทยเป็นเรื่องง่าย ส่วนเรื่องอากาศร้อนแบบไทยๆ ที่ต้องการระบบระบายความร้อนและแอร์ที่แรงนั้น Defenderก็ตอบโจทย์ด้วยเทคโนโลยีการควบคุมอุณหภูมิภายในห้องโดยสารและการออกแบบที่ป้องกันความชื้นได้เป็นอย่างดี
อีกจุดเด่นคือ Land Rover มีเครือข่ายผู้จำหน่ายในไทยที่พร้อมให้บริการครบวงจร รวมถึงมีโปรแกรมฝึกขับขี่ออฟโรดโดยเฉพาะ เพื่อช่วยให้เจ้าของรถได้ใช้ศักยภาพของดีเฟนเดอร์ได้อย่างเต็มที่
Q
Defender ปี 2025 มีความน่าเชื่อถือแค่ไหน?
คาดการณ์ว่าความน่าเชื่อถือของ Land Rover Defender รุ่นปี 2025 จะสานต่อประสิทธิภาพที่แข็งแกร่งเหมือนรุ่นก่อน โดยรถคันนี้พัฒนาบนแพลตฟอร์ม D7x ที่ผ่านการทดสอบมาแล้ว และได้รับการปรับปรุงเฉพาะสำหรับสภาพอากาศเขตร้อน เช่น ระบบปรับอากาศที่ระบายความร้อนได้ดีขึ้นและการเคลือบป้องกันการกัดกร่อน ซึ่งสำคัญมากสำหรับสภาพแวดล้อมที่ทั้งร้อนและชื้นแบบประเทศไทย รุ่นใหม่นี้น่าจะใช้เครื่องยนต์ตระกูล Ingenium ที่ผ่านการพิสูจน์แล้วในตลาคู่กับเกียร์ ZF 8 สปีด ซึ่งชุดขับเคลื่อนนี้แสดงให้เห็นถึงความเสถียรที่ดีในรุ่นปัจจุบัน
สิ่งที่ควรสังเกตเป็นพิเศษสำหรับผู้ใช้ในประเทศไทยคือควรรเปลี่ยนไส้กรองอากาศเป็นประจำ เพราะสภาพถนนที่มีฝุ่นมากจะเร่งให้ชิ้นส่วนสึกหรอเร็วขึ้น โครงสร้างแบบแบ็คโบนแข็งของ Defender และระบบ Terrain Response จะแสดงจุดแข็งในพื้นที่ภูเขาทางภาคเหนือและถนนชนบทช่วงฤดูฝนของไทย แต่แนะนำให้ตรวจสอบสภาพน้ำมันดิฟเฟอเรนเชียลทุก 20,000 กิโลเมตร
สำหรับระบบอิเล็กทรอนิกส์ รุ่นใหม่อาจมีการอัปเกรดซอฟต์แวร์เพื่อป้องกันความชื้น ซึ่งช่วยได้มากในสถานการณ์ขับขี่ที่มักเจอฝนตกหนักแบบกะทันหันแบบไทยๆ หากกำลังพิจารณารถนำเข้าแบบขนาน ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการปรับค่า ECU และระบบระบายความร้อนให้เหมาะกับตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว
โดยรวมแล้ว ถ้าดูแลรักษาตามคู่มือการบริการอย่างเคร่งครัด Defender 2025 น่าจะใช้งานได้อย่างน่าเชื่อถือในสภาพแวดล้อมที่หลากหลายของประเทศไทย การออกแบบแบบโมดูลาร์ยังทำให้ง่ายต่อการซ่อมแซมและเปลี่ยนอะไหล่ในระยะยาวอีกด้วย
Q
Defender ปี 2025 มีสเปคเครื่องยนต์แบบไหน?
รุ่น 2025 ของ Land Rover Defender ที่วางขายในตลาดไทยมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์หลากหลายให้เลือกตามสไตล์การขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 4 สูบเทอร์โบที่ตอบโจทย์การขับขี่ในเมืองด้วยความคล่องตัว เครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร 6 สูบเทอร์โบสำหรับผู้ชื่นชอบพลังอันทรงพลัง หรือจะเป็นเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร 6 สูบที่เหมาะกับเส้นทางยาวๆ และสภาพพื้นที่ภูเขาของไทย ด้วยความประหยัดน้ำมันที่ทำได้ดีเยี่ยม แถมยังได้เปรียบจากราคาน้ำมันดีเซลในไทยที่ถูกกว่าเมื่อเทียบกับเบนซิน
เครื่องยนต์ทั้งหมดของ Defender ใช้เทคโนโลยีน้ำหนักเบาขั้นสูงและเทอร์โบชาร์จเจอร์ ช่วยรักษาสมดุลของกำลังเครื่องยนต์และรักษาสิ่งแวดล้อม และเป็นไปตามมาตรฐานการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดยิ่งขึ้นของประเทศไทย ยิ่งไปกว่านั้น สมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรดของ Defender ยังโดดเด่นทั้งในฤดูฝนของประเทศไทยและบนถนนลูกรัง และระบบ Terrain Response ที่จะปรับให้เข้ากับสภาพถนนต่างๆ โดยอัตโนมัติ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับสภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์ที่หลากหลายของประเทศไทย
สำหรับคนไทยที่กำลังตัดสินใจเลือกเครื่องยนต์ Defender ให้เหมาะกับการใช้งาน แนะนำว่าถ้าชอบขับออฟโรดหรือเดินทางไกลบ่อยๆ เครื่องดีเซลน่าจะเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า แต่ถ้าขับในเมืองเป็นหลักและชอบความกระชับตอบสนองเร็ว ก็อาจจะเหมาะกับเครื่องเบนซินมากกว่า แค่เข้าใจจุดเด่นของแต่ละแบบก็ช่วยให้เลือกได้ตรงใจมากขึ้นแล้ว
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไม่ควรพลาดรถยนต์เกโรของญี่ปุ่น, รุ่น Honda City ใดคุ้มค่าที่สุดในการเลือก?
ณัฐวุฒิNov 6, 2024

Honda City e:HEV ลดราคา THB40,000! มาราธอน 800km, ประหยัดน้ำมันและสบาย!
AshleyAug 5, 2024

2024 Honda City Sedan ราคาตั้งแต่ THB 599,000 จะเลือก Turbo หรือ e: HEV?
LienApr 16, 2024

มอเตอร์โชว์กรุงเทพฯ: Honda City 2024, เพิ่มรูปแบบ 1.0 Turbo S, ราคา 599000 บาท
Kevin WongMar 26, 2024

Honda N-ONE e:เปิดตัวอย่างเป็นทางการในญี่ปุ่น ระยะทางขับขี่สูงสุดถึง 295 กิโลเมตร
LienSep 12, 2025
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย