Q

ความแตกต่างระหว่าง VinFast VF8 Eco และ Plus คืออะไร?

VinFast VF8 Eco และ Plus เป็นรุ่น SUV ไฟฟ้าที่มีสองแบบให้เลือก โดยแตกต่างกันที่สมรรถนะ ระยะขับขี่ และระดับอุปกรณ์ รุ่น Eco ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลังด้วยมอเตอร์เดียว ให้กำลังสูงสุดประมาณ 260 แรงม้า ระยะทางประมาณ 300 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP) เหมาะกับการใช้งานประจำวันและการขับขี่ในเมือง ส่วนรุ่น Plus ใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อด้วยมอเตอร์คู่ กำลังสูงสุดเพิ่มถึง 400 แรงม้า ระยะทางอาจน้อยลงแต่ยังเพียงพอสำหรับการเดินทางไกล พร้อมระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะและอุปกรณ์เพิ่มความสะดวกสบาย เช่น Panoramic Sunroof พร้อมระบบเสียงคุณภาพสูง ในตลาดไทย รุ่น Eco เหมาะกับผู้ที่ต้องการประหยัดงบประมาณแต่ยังได้ประสิทธิภาพ ขณะที่รุ่น Plus เหมาะกับผู้ที่ต้องการพลังขับเคลื่อนสูงและความหรูหรา สภาพอากาศร้อนชื้นของไทยต้องการระบบระบายความร้อนและกันน้ำที่ดี ซึ่ง VinFast ได้ออกแบบระบบจัดการแบตเตอรี่ให้เหมาะสมกับสภาพท้องถิ่น นอกจากนี้ นโยบายสนับสนุนรถ EV ของรัฐบาลไทยยังช่วยให้ทั้งสองรุ่นมีราคาที่คุ้มค่าอีกด้วย ทั้งรุ่น Eco และ Plus รองรับการชาร์จเร็ว สะดวกกับเครือข่ายสถานีชาร์จในไทยที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ใครเป็นเจ้าของ VinFast VF8?
VinFast VF8 เป็นรถ SUV ไฟฟ้าจากผู้ผลิตรถยนต์เวียดนาม VinFast ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Vingroup กลุ่มธุรกิจเอกชนใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ก่อตั้งโดยมหาเศรษฐีชาวเวียดนาม ปัจจุบัน VF8 ได้เข้าสู่ตลาดในประเทศไทยและได้รับความสนใจ VinFast ในฐานะแบรนด์รถไฟฟ้ารุ่นใหม่ ใช้จุดแข็งของ Vingroup ในด้านอสังหาริมทรัพย์และเทคโนโลยีเพื่อขยายตลาดไปทั่วโลก โดยรถรุ่นนี้โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะและการออกแบบที่ทันสมัย ตัวอย่างเช่น VF8 ติดตั้งระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะและหน้าจอกลางขนาด 15.6 นิ้ว ให้ระยะขับขี่ประมาณ 400 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP) เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมืองในไทย ในตลาดไทย VinFast ทำงานร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่นเพื่อสร้างเครือข่ายการขาย และเสนอแผนเช่าแบตเตอรี่เพื่อลดต้นทุนการเป็นเจ้าของ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมรถไฟฟ้าของรัฐบาลไทย ที่น่าสนใจคือประเทศไทยกําลังกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แบรนด์ต่างประเทศหลายแบรนด์ได้ลงทุนสร้างโรงงานที่นี่ ผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบความครอบคลุมของเครือข่ายการชาร์จ ระบบบริการหลังการขายและนโยบายเงินอุดหนุนจากรัฐบาลของแบรนด์ต่าง ๆ เมื่อเลือกรถยนต์ไฟฟ้า ปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลต่อประสบการณ์การใช้รถยนต์ในระยะยาว
Q
ราคา VF 8 คือเท่าไหร่?
รถยนต์ไฟฟ้า VF 8 เป็น SUV ไฟฟ้าจากแบรนด์รถยนต์เวียดนาม VinFast ที่เปิดตัวในตลาดไทย โดยราคาอยู่ที่ประมาณ 1.5 ถึง 2 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและอุปกรณ์เสริม ซึ่งราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่ายหรือนโยบายสนับสนุนจากรัฐบาล สำหรับผู้ซื้อในประเทศไทยจะได้รับสิทธิประโยชน์จากรัฐบาล เช่น การลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต รวมถึงมีส่วนช่วยเหลือค่าติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า สิ่งเหล่านี้ทำให้ VF 8 มีความน่าสนใจในตลาดมากขึ้น รุ่นนี้มาพร้อมแบตเตอรี่ 2 ขนาดให้เลือก มีระยะทางประมาณ 300 ถึง 400 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง เหมาะกับการใช้งานในเมืองและการเดินทางใกล้ๆ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์สมาร์ทอย่างหน้าจอสัมผัสขนาด 15.6 นิ้วและระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ ที่ตอบโจทย์เทรนด์รถยนต์สมัยใหม่ ตลาดรถไฟฟ้าในไทยโตเร็วมาก นอกจาก VF 8 ก็ยังมีรถไฟฟ้ายี่ห้ออื่นให้เลือกเปรียบเทียบ ก่อนซื้อแนะนำให้ศึกษาดูเรื่องบริการหลังการขายและความครอบคลุมของสถานีชาร์จด้วย จะได้ใช้งานสะดวกไม่มีกังวล
Q
VinFast VF8 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถยนต์น้ำมัน?
VinFast VF8 เป็นรถ SUV ไฟฟ้า 100% ที่ผลิตโดย VinFast ผู้ผลิตรถยนต์จากเวียดนาม ใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ไม่มีเครื่องยนต์สันดาปภายใน ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์รถ EV ทั่วโลก รุ่นนี้มีให้เลือก 2 แบบแบตเตอรี่ ที่ให้ระยะทางประมาณ 471 กม. และ 402 กม. ตามมาตรฐาน WLTP เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไทยทั้งขับขี่ในเมืองและเดินทางไกล โดยเฉพาะในยุคที่รัฐบาลไทยส่งเสริมการใช้รถ EV คุณสมบัติ Zero Emission ช่วยลดปัญหามลพิษทางอากาศในเมืองได้ดี นอกจากนี้ยังรองรับระบบชาร์จเร็ว ที่เติมไฟเร็วในเวลาอันสั้น ซึ่งตอบโจทย์กับสถานีชาร์จในไทยที่กำลังขยายตัวเพิ่มขึ้น ในฐานะรถ EV ที่ออกแบบมาสำหรับตลาดโลก VF8 ยังโดดเด่นในเรื่องระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะและเทคโนโลยีภายในรถ เช่น ระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูงและหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ สำหรับคนไทยที่กำลังมองหารถไฟฟ้า นอกจากเรื่องระยะทางและความสะดวกในการชาร์จแล้ว ยังควรดูนโยบายสนับสนุนรถ EV ของรัฐบาลไทย เงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่ และเครือข่ายบริการหลังการขาย ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลต่อประสบการณ์การใช้รถอย่างมาก ตลาดรถ EV ไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และรถอย่าง VF8 จากแบรนด์ระดับโลกก็นำเสนอทางเลือกเพื่อสิ่งแวดล้อมที่มากขึ้นให้กับผู้บริโภค
Q
VinFast VF8 เป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) ใช่หรือไม่?
VinFast VF8 มีรุ่น AWD (ขับเคลื่อนสี่ล้อ) จริงๆ รุ่น SUV ไฟฟ้านี้ใช้ระบบมอเตอร์คู่ สามารถกระจายกำลังไปยังเพลาหน้าและหลังได้อย่างอัจฉริยะ เหมาะกับสภาพอากาศฝนตกบ่อยและเส้นทางภูเขาบางส่วนของไทย ช่วยเพิ่มความมั่นคงในการควบคุมบนถนนลื่น ระบบ AWD ของ VF8 สามารถปรับการจ่ายกำลังอัตโนมัติตามโหมดการขับขี่ เช่น ในโหมด Sport จะเน้นประสิทธิภาพการขับขี่ ในขณะที่โหมด Eco จะเน้นการประหยัดพลังงาน สำหรับผู้บริโภคไทย รุ่น AWD จะใช้งานได้ดีในช่วงฤดูฝนหรือเวลาเดินทางขึ้นเหนือ แต่ก็อาจส่งผลให้ระยะทางขับขี่ลดลงเล็กน้อย ที่น่าสนใจคือระบบ AWD ของรถไฟฟ้ามีโครงสร้างต่างจากรถยนต์เชื้อเพลิงทั่วไป โดยไม่ต้องใช้เพลาขับ แต่ใช้มอเตอร์แยกส่วนเพื่อตอบสนองได้เร็วกว่า ผู้ใช้ในไทยสามารถเลือกซื้อโดยพิจารณาจากไลฟ์สไตล์การใช้งาน หากใช้ขับในเมืองเป็นหลัก รุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าอาจประหยัดกว่า แต่ถ้าชอบเดินทางไกลหรือเน้นความสนุกในการขับขี่ ก็อาจจะชอบรุ่น AWD มากกว่า VinFast ในฐานะแบรนด์รถไฟฟ้ารุ่นใหม่ มีการติดตั้งเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์เทรนด์ปัจจุบัน ผู้ใช้ในไทยสามารถไปทดลองขับที่โชว์รูมในกรุงเทพฯ หรือพัทยา เพื่อสัมผัสความแตกต่างระหว่างรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและรุ่น AWD ด้วยตัวเอง
Q
“VinFast VF8 ผ่อนรายเดือนเท่าไหร่?”
การผ่อนรายเดือนสำหรับรถ VinFast VF8 ในประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นรถ แพ็กเกจสินเชื่อ และโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่าย โดยทั่วไปต้องคำนวณจากหลายปัจจัย เช่น เงินดาวน์ ระยะเวลาผ่อน (เช่น 36 หรือ 48 เดือน) และอัตราดอกเบี้ย ดังนั้นแนะนำให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ VinFast ในประเทศไทยหรือพันธมิตรด้านการเงินที่ได้รับอนุญาตเพื่อขอข้อมูลล่าสุด สำหรับตลาดไทย การซื้อรถไฟฟ้าอาจได้รับสิทธิประโยชน์จากมาตรการสนับสนุนของรัฐบาลหรือการลดหย่อนภาษี ซึ่งส่งผลต่อยอดผ่อนรายเดือนโดยตรง รุ่น VF8 ซึ่งเป็น SUV ไฟฟ้ารุ่นใหม่มาพร้อมเทคโนโลยีแบตเตอรี่ล้ำสมัยและระบบช่วยขับอัจฉริยะ โดยมีความสามารถในการวิ่งที่เหมาะกับการใช้งานในเมืองและการเดินทางระยะสั้นของไทย นอกจากนี้เครือข่ายสถานีชาร์จก็กำลังขยายตัวเพิ่มขึ้น ผู้บริโภคไทยอาจสนใจติดตามความคืบหน้าการติดตั้งสถานีชาร์จในพื้นที่และบริการติดตั้งชาร์จที่บ้าน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อรถ
Q
ระยะการขับขี่ของ VF 8 อยู่ที่กี่กิโลเมตร?
VF 8 เป็น SUV ไฟฟ้าล้วนที่ให้ระยะทางวิ่งประมาณ 420 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP ซึ่งถือว่าใช้งานได้ดีในชีวิตประจำวันทั้งการเดินทางในเมืองและการท่องเที่ยวรอบๆ เช่น การเดินทางไปกลับระหว่างกรุงเทพฯ และพัทยาที่ระยะทางประมาณ 150 กิโลเมตรก็ไม่ต้องหยอดชาร์จระหว่างทาง แม้อากาศร้อนของไทยอาจส่งผลเล็กน้อยต่อประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ แต่ระบบจัดการความร้อนในรถยนต์ไฟฟ้ายุคใหม่สามารถรักษาการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญตอนนี้โครงสร้างพื้นฐานการชาร์จในไทยกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยมีสถานีชาร์จเร็วทั้งในเมืองหลักและตามสถานีบริการบนทางด่วน แนะนำให้ผู้ใช้รถตรวจสอบจุดชาร์จระหว่างทางผ่านระบบนำทางในรถหรือแอปพลิเคชันชาร์จก่อนเดินทางไกล นอกจากนี้ รถไฟฟ้ายังได้ประโยชน์จากนโยบายลดภาษีและค่าบำรุงรักษาที่ต่ำกว่า VF 8 ที่เป็น SUV ขนาดกลางจึงตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในเมืองที่รถติดและการเดินทางกับครอบครัว ถือเป็นตัวเลือก EV ที่คุ้มค่าในตลาดไทยตอนนี้
Q
ค่าใช้จ่ายในการชาร์จ VinFast VF8 อยู่ที่เท่าไร?
ค่าใช้จ่ายในการชาร์จ VinFast VF8 ในประเทศไทยส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับอัตราค่าไฟฟ้าและวิธีการชาร์จ โดยอัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยในประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 4 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง สำหรับรุ่นมาตรฐานของ VF8 ที่มีความจุแบตเตอรี่ประมาณ 82 กิโลวัตต์-ชั่วโมง การชาร์จจาก 0% ให้เต็มจะใช้เงินประมาณ 328 บาท แต่ในความเป็นจริงอาจมีความแตกต่างเล็กน้อยเนื่องจากประสิทธิภาพการชาร์จหรือความผันผวนของระบบไฟฟ้า การใช้สถานีชาร์จเร็วสาธารณะอาจมีราคาสูงกว่าเล็กน้อยแต่ช่วยประหยัดเวลา รัฐบาลไทยกำลังส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานสำหรับรถไฟฟ้าอย่างเต็มที่ ห้างสรรพสินค้าและสถานีบริการน้ำมันหลายแห่งได้ติดตั้งจุดชาร์จแล้ว และบางแห่งยังมีบริการชาร์จฟรีเพื่อดึงดูดผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า ที่น่าสนใจคือค่าใช้จ่ายประจำวันของรถไฟฟ้าถูกกว่ารถยนต์น้ำมันมาก หากสมมติว่าขับรถปีละ 20,000 กิโลเมตร ค่าไฟฟ้าของ VF8 จะประมาณหนึ่งในสามของค่าน้ำมัน ทำให้เห็นถึงความคุ้มค่าในระยะยาว ประเทศไทยยังมีมาตรการส่งเสริมรถไฟฟ้านำเข้า เช่น การลดภาษีและยกเว้นภาษีจดทะเบียนครั้งแรก ซึ่งช่วยลดต้นทุนการเป็นเจ้าของรถไฟฟ้าได้อีกด้วย เมื่อเครือข่ายสถานีชาร์จในประเทศไทยขยายตัวมากขึ้น ความกังวลเกี่ยวกับระยะทางของเจ้าของรถไฟฟ้าก็จะค่อยๆ ลดลง ทำให้รถไฟฟ้า SUV ขนาดกลางอย่าง VF8 มีประโยชน์ใช้สอยในประเทศไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
Q
VinFast VF 8 ใช้แบตเตอรี่ประเภทใด?
VinFast VF 8 ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบล้ำสมัย โดยเฉพาะแบตเตอรี่ความจุสูง 87.7 kWh ที่มาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว ช่วยเติมพลังงานได้มากในเวลาอันสั้น เหมาะมากกับการเดินทางไกลของคนไทย แถมยังออกแบบมาเพื่อสภาพอากาศร้อนๆ ของไทย ด้วยระบบควบคุมอุณหภูมิประสิทธิภาพสูง ที่ช่วยให้แบตเตอรี่ทำงานได้อย่างเสถียรแม้อยู่ในอุณหภูมิสูง แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนยังมีข้อดีตรงที่น้ำหนักเบา ให้พลังงานสูง และอายุการใช้งานยาวนาน ทำให้เป็นที่นิยมในรถไฟฟ้ายุคนี้ สำหรับคนไทยนี่หมายถึงค่าบำรุงรักษาที่ถูกลงและใช้ได้นานขึ้น ที่สำคัญรัฐบาลไทยกำลังส่งเสริมการใช้รถไฟฟ้าอย่างเต็มที่ ทั้งส่วนลดค่าซื้อและเพิ่มสถานีชาร์จ การเลือก VinFast VF 8 ที่มาพร้อมเทคโนโลยีแบตเตอรี่ขั้นสูงแบบนี้ นอกจากจะช่วยให้ขับขี่แบบรักษ์สิ่งแวดล้อมแล้ว ยังตอบโจทย์เทรนด์การเดินทางแห่งอนาคตของไทยอีกด้วย
Q
VinFast VF8 ผลิตที่ไหน?
VinFast VF8 คือรถ SUV ไฟฟ้าทั้งคันจากแบรนด์รถยนต์เวียดนาม VinFast ที่ผลิตขึ้นที่เมืองไฮฟอง ภายในเขตอุตสาหกรรม VinFast ที่ติดตั้งไลน์การผลิตแบบโมเดิร์นและอุปกรณ์เทคโนโลยีได้มาตรฐานสากล รุ่น VF8 นี้เป็นโมเดลสำคัญที่ VinFast ใช้ในการบุกตลาดโลก โดยไม่เพียงขายในเวียดนามเท่านั้น แต่ยังส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา ด้วย ตอนนี้ VinFast ยังไม่มีฐานการผลิตในไทย ทำให้รถ VF8 ที่ขายในไทยเป็นแบบนำเข้าเต็มตัว สำหรับคนไทย จุดขายของ VF8 อาจจะเป็นดีไซน์ที่ตอบโจทย์รถไฟฟ้าและฟีเจอร์อัจฉริยะต่างๆ เช่น แบตเตอรี่ความจุสูงและระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ แต่อย่างไรก็ตาม เวลาซื้อคนไทยต้องคำนึงถึงเรื่องภาษีนำเข้า ความเหมาะสมของโครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จ และเครือข่ายบริการหลังการขายในประเทศด้วย ในอนาคตเมื่อตลาด EV ในอาเซียนโตขึ้น คาดว่า VinFast น่าจะมาตั้งซัพพลายเชนในไทยเหมือนแบรนด์อื่นๆ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน
Q
ใช้เวลานานแค่ไหนในการชาร์จ VinFast VF8?"
เวลาในการชาร์จ VinFast VF8 นั้นขึ้นอยู่กับวิธีการชาร์จและความจุของแบตเตอรี่ ในประเทศไทย หากชาร์จด้วยสถานีชาร์จที่บ้านแบบ 11kW จะใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมงเพื่อชาร์จจาก 20% เป็น 80% แต่ถ้าใช้สถานีชาร์จสาธารณะแบบเร็ว 50kW จะชาร์จในเวลาเพียง 35 นาทีเท่านั้น สำหรับสถานีชาร์จแบบเร็วพิเศษ 150kW นั้นเร็วที่สุด แค่ 15 นาทีก็ถึง 80% แล้ว เหมาะมากสำหรับการเดินทางไกลที่ต้องการเติมพลังงานเร็วๆ สภาพอากาศร้อนของไทยอาจส่งผลเล็กน้อยต่อประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ แนะนำให้ชาร์จในที่ร่มหรือหลีกเลี่ยงช่วงกลางวันที่อากาศร้อนจัดเพื่อให้ชาร์จได้เร็วที่สุด ที่น่าสนใจคือรัฐบาลไทยกำลังเร่งขยายเครือข่ายสถานีชาร์จ โดยในกรุงเทพฯและเมืองท่องเที่ยวหลักมีสถานีชาร์จให้เลือกหลายแบบ เจ้าของรถสามารถตรวจสอบสถานีชาร์จใกล้เคียงผ่านแอป VinFast ได้แบบเรียลไทม์ สำหรับการใช้ชีวิตประจำวัน แนะนำให้รักษาระดับแบตเตอรี่อยู่ที่ 20%-80% เพื่อยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ นอกจากนี้ VF8 ยังมาพร้อมระบบจัดการความร้อนของแบตเตอรี่ที่ออกแบบมาสำหรับสภาพอากาศร้อนของไทย ช่วยให้การชาร์จปลอดภัยและเสถียร เมื่อโครงสร้างพื้นฐานสำหรับรถไฟฟ้าในไทยพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รุ่นอย่าง VF8 ที่รองรับการชาร์จเร็วหลายระดับกำลังจะทำให้การใช้ชีวิตสะดวกสบายยิ่งขึ้น
  • รถยอดนิยม

  • รุ่นปีรถยนต์

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

ข้อดี

ห้องนั่งมีพื้นที่กว้างขวางเพื่อการขับรถที่สบาย
การออกแบบทันสมัยดึงดูดความสนใจ
ช่วงการใช้งานแบตเตอรี่เพียงพอสำหรับการใช้งานประจำวัน

ข้อเสีย

สาธารณูปโภคการชาร์จจำกัดในบางพื้นที่
ราคาสูงกว่าคู่แข่งบางคน
การให้บริการหลังการขายอาจต้องปรับปรุง

Q&A ล่าสุด

Q
2022 Subaru WRX มีระบบส่งกำลังแบบใด
สำหรับรุ่นปี 2022 ของ Subaru WRX ในตลาดไทย มีให้เลือก 2 แบบเกียร์ คือ เกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์ออโต้ Sport Lineartronic CVT ที่จำลอง 8 สปีด ซึ่งทั้งสองแบบทำงานเข้ากันได้ดีกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Symmetrical AWD อันเป็นเอกลักษณ์ของซูบารุ โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพถนนในไทยที่มักมีฝนและความชื้นสูง เกียร์ธรรมดาจะตอบโจทย์คนรักการขับขี่ที่ต้องการสัมผัสการควบคุมอย่างเต็มที่ ส่วนเกียร์ CVT เหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในเมืองอย่างกรุงเทพฯ เพราะให้ความนุ่มนวลและประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ที่น่าสนใจคือ CVT ของซูบารุใช้ระบบส่งกำลังแบบโซ่แทนสายพานแบบทั่วไป ทำให้ทนทานกว่าโดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนของไทย นอกจากนี้ผู้ใช้ในไทยยังสามารถเลือกติดตั้งระบบ SI-DRIVE เพื่อปรับโหมดการขับขี่ให้เหมาะสมกับการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นถนนคดเคี้ยวในเชียงใหม่หรือเส้นทางเลียบชายทะเลพัทยา แถมระบบช่วงล่างของ WRX ในตลาดไทยยังได้รับการปรับแต่งให้เหมาะกับสภาพถนนท้องถิ่นอีกด้วย
Q
มูลค่าคงเหลือของ Hyundai Santa Fe ปี 2024 คืออะไร
สำหรับรุ่น Hyundai Santa Fe 2024 ที่วางขายในตลาดไทย คาดว่ามูลค่าคงเหลือหลังจากใช้งาน 3 ปีจะอยู่ที่ประมาณ 60%-65% ของราคาเดิม และอาจลดลงเหลือประมาณ 50% เมื่อใช้งานครบ 5 ปี ซึ่งข้อมูลนี้มาจากประวัติการรักษามูลค่าของรถ Hyundai ในตลาดอาเซียนรวมถึงความนิยมในรถ SUV ขนาดกลางที่ค่อนข้างทรงตัวในไทย อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคไทยควรทราบว่ามูลค่าคงเหลือได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย เช่น การเลือกรุ่นดีเซลหรือไฮบริด (ซึ่งเป็นรุ่นที่พบได้ทั่วไปในตลาดไทย) ประวัติการบริการที่ครบถ้วน หรือการซื้อผ่านช่องทางทางการ (เช่น โครงการรถมือสองรับประกันจาก Hyundai ประเทศไทยที่จะช่วยรักษามูลค่าได้ดีกว่า) เมื่อเทียบกับคู่แข่งจากญี่ปุ่นในระดับเดียวกันแล้ว Santa Fe ยังมีความได้เปรียบในตลาดมือสองจากพื้นที่ภายในที่กว้างขวางกว่าและฟีเจอร์สมาร์ทที่ทันสมัยกว่า (เช่น ระบบเก้าอี้ระบายอากาศที่ออกแบบเฉพาะสำหรับตลาดไทย) แต่ในแง่ของความนิยมในแบรนด์อาจสู้ไม่ได้เลยทีเดียว แนะนำให้เจ้าของรถในไทยเก็บเอกสารการซ่อมบำรุงให้ครบถ้วนและใช้บริการผ่านศูนย์บริการทางการเพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าตอนขายต่อได้ นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงนโยบายภาษีรถยนต์พลังงานสะอาดของรัฐบาลไทยอาจส่งผลต่อมูลค่าคงเหลือของรุ่นไฮบริดในอนาคต ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้สนใจซื้อควรจับตามองไว้ด้วย
Q
Hyundai Santa Fe 2024 มีประสิทธิภาพแค่ไหน
รถยนต์ Hyundai Santa Fe รุ่นปี 2024 ให้ประสิทธิภาพด้านประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพการขับขี่ในเมืองและการเดินทางระยะไกลในประเทศไทย ชุดเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรแบบดูดอากาศธรรมชาติร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันประมาณ 12-14 กิโลเมตรต่อลิตรในสภาพถนนแบบผสม หากเลือกรุ่นไฮบริดจะประหยัดน้ำมันได้ถึง 15-18 กิโลเมตรต่อลิตร ช่วยลดต้นทุนการใช้รถในสภาวะน้ำมันราคาสูงของไทยได้อย่างชัดเจน รถรุ่นนี้ใช้เทคโนโลยี Smartstream ล่าสุดจาก Hyundai ที่ปรับปรุงประสิทธิภาพการเผาไหม้และลดแรงเสียดทานเครื่องยนต์เพื่อสมดุลระหว่างพลังและความประหยัด นอกจากนี้ระบบ Start-Stop อัจฉริยะที่มาพร้อมกับรถในสภาพอากาศร้อนของไทยยังช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันขณะ idle อีกด้วย ที่น่าสนใจคือผู้บริโภคไทยควรพิจารณารุ่นไฮบริดเป็นอันดับแรก เพราะรัฐบาลไทยมีมาตรการลดภาษีสำหรับรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และระบบไฮบริดยังแสดงจุดเด่นในสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯที่ต้องหยุด-เริ่มบ่อยครั้ง เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกันแล้ว Santa Fe ยังให้ความสำคัญกับการใช้พื้นที่ภายในและการตั้งค่าตัวถังที่สมดุลระหว่างความสบายและความมั่นคงในการขับขี่ เหมาะกับสภาพถนนหลากหลายของไทย แนะนำให้ทดลองขับจริงโดยเน้นตรวจสอบประสิทธิภาพระบบแอร์และระบบไฮบริดในสภาพอากาศร้อน ซึ่งเป็นรายละเอียดสำคัญสำหรับผู้ใช้รถในประเทศไทย
Q
เครื่องยนต์แบบใดที่อยู่ใน 2024 Santa Fe
รุ่น 2024 Santa Fe ที่วางขายในตลาดไทยมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูง 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตรแบบดูดธรรมดา และระบบไฮบริด 1.6 ลิตรเทอร์โบชาร์จ โดยเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรให้กำลังสูงสุด 191 แรงม้า คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด เหมาะสำหรับคนที่ชอบการขับขี่เน้นความลื่นไหล ส่วนระบบไฮบริด 1.6T ให้กำลังรวมสูงถึง 230 แรงม้า ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีในสภาพการขับขี่ที่ต้องหยุด-เริ่มบ่อยๆ แบบในกรุงเทพฯ ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้ผ่านมาตรฐานยูโร 6 ของไทยเรียบร้อยแล้ว จุดเด่นของรุ่นไฮบริดคือการใช้เทคโนโลยี TMED ไฮบริดอันล้ำสมัยจาก Hyundai ที่ผสานการทำงานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ได้อย่างชาญฉลาด นอกจากช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันแล้ว ยังคงสมรรถนะการขับขี่ระดับ SUV ที่ทรงพลัง ซึ่งตอบโจทย์ในสภาวะราคาน้ำมันที่พุ่งสูงแบบปัจจุบัน ส่วนระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ HTRAC ที่มาพร้อมในรุ่นนี้ก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจบนถนนลื่นๆ ในช่วงฤดูฝนได้ดี แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับการใช้งานในเมืองทั่วไป ตัวเลือกรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าถือว่าเพียงพอและคุ้มค่ากว่าในแง่ราคา
Q
Is Santa Fe 2024 4WD?
รุ่น Hyundai Santa Fe ปี 2024 บางรุ่นมีการติดตั้งระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ อย่างเช่น Hyundai Santa Fe Exclusive 1.6 Turbo Hybrid AWD 2024 ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนทุกล้อ ระบบนี้จะช่วยกระจายกำลังไปยังล้อทั้งสี่ได้อย่างเหมาะสมในสภาพถนนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นถนนลื่น โคลน หรือเวลาขึ้นเนิน ช่วยเพิ่มความสามารถในการขับผ่านและความมั่นคงให้กับรถ ส่วนรุ่น Hyundai Santa Fe Premium 1.6 Turbo Hybrid FWD 2024 จะใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ดังนั้นถ้าคุณต้องการรถที่ขับเคลื่อนสี่ล้อ เวลาเลือกซื้อต้องดู specs ของรุ่นให้ดี ๆ เลยนะครับ จะได้เลือกรถที่เหมาะกับการใช้งานและสภาพถนนที่คุณต้องเจอจริง ๆ
ดูเพิ่มเติม