Q
ฮอนด้าซิตี้ มีขนาดเครื่องยนต์เท่าไหร่ cc.
Honda City มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ ขนาด 1.0 ลิตร และ 1.5 ลิตร ซึ่งมีปริมาตรกระบอกสูบ 988cc และ 1498cc ตามลำดับ โดยเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร เป็นแบบ 3 สูบเทอร์โบ อัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่ 10.0:1 และมีปริมาตรกระบอกสูบที่แม่นยำคือ 988cc ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า (90 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงสุด 173 นิวตันเมตรในช่วง 2000-4500 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับเกียร์ CVT ซึ่งโดดเด่นเรื่องความประหยัดน้ำมัน โดยทางการระบุว่าประหยัดขึ้น 33% เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC 4 สูบรุ่นก่อนหน้า และมีอัตราการใช้น้ำมันถึง 23.8 กิโลเมตรต่อลิตร ส่วนเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เป็นแบบ 4 สูบธรรมดา (ไม่มีเทอร์โบ) มีปริมาตรกระบอกสูบ 1498cc อัตราส่วนกำลังอัด 13.5:1 โดยเครื่องยนต์นี้เป็นส่วนหนึ่งของระบบไฮบริด ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า (72 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงสุด 127 นิวตันเมตรในช่วง 4500-5000 รอบ/นาที
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ข้อเสียของ Honda City คืออะไร
Honda City แม้จะมีข้อดีหลายประการ แต่ก็ยังมีจุดที่ต้องปรับปรุง ผู้ใช้บางส่วนให้ความเห็นว่าการออกแบบภายในดูธรรมดา ขาดความแปลกใหม่และความหรูหราในด้านวัสดุและรายละเอียดการผลิต ระบบเครื่องเสียงและเชื่อมต่อต่าง ๆ ยังขาดความเสถียร โดยในบางครั้งเกิดปัญหาสัญญาณหลุดหรือค้าง โดยเฉพาะเมื่อชาร์จมือถือในช่วงฤดูร้อนที่มีความร้อนสูง ปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อการเล่นเพลงและฟังก์ชันอื่น ๆ ระบบช่วงล่างทำงานได้ตามมาตรฐานทั่วไป เมื่อผ่านถนนขรุขระหรือทางลดความเร็ว รถจะมีอาการโยกคลอนชัดเจน ส่งผลต่อความสบายในการขับขี่และโดยสาร อย่างไรก็ตาม ข้อด้อยเหล่านี้ขึ้นอยู่กับมุมมองและความต้องการของแต่ละบุคคล ผู้ซื้อควรพิจารณาตามความชอบและความสำคัญส่วนตัวในการตัดสินใจเลือกซื้อรถ
Q
ฮอนด้า ซิตี้ อยู่ในเซกเมนต์ไหน
Honda City จัดอยู่ในกลุ่มตลาด C-Segment รุ่นนี้มีขนาดตัวถังค่อนข้างกะทัดรัดโดยมีความยาว 4580 หรือ 4589 มิลลิเมตร ความกว้าง 1748 มิลลิเมตร ความสูง 1467 หรือ 1480 มิลลิเมตร และฐานล้อยาว 2589 มิลลิเมตร ออกแบบเพื่อเน้นความคุ้มค่าในการใช้พื้นที่และความสะดวกสบายในการขับขี่ในชีวิตประจำวัน มีตัวเลือกขุมพลังหลายแบบทั้งเครื่องยนต์เบนซินและไฮบริดเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย ด้านอุปกรณ์มาตรฐานมีระบบความปลอดภัยอย่าง ABS และระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ บางรุ่นยังติดตั้งระบบความปลอดภัยและความสะดวกสบายระดับสูง ราคาจำหน่ายอยู่ระหว่าง 599000 ถึง 799000 บาท โดยมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าครอบครัวทั่วไปและผู้ที่ต้องการรถใช้งานประจำวันในเมืองอย่างคุ้มค่า
Q
มูลค่าการขายต่อของ Honda City คืออะไร
Honda City ในฐานะรถยนต์ขนาดกะทัดรัดที่ได้รับความนิยมสูง มักมีอัตราการรักษามูลค่ารถมือสองที่ดี ตัวอย่างเช่น รุ่นปี 2020 Honda City RS เมื่อใช้งานปกติและระยะทางไม่เกิน 5 หมื่นกิโลเมตร หลังผ่านไป 3 ปี มีอัตรามูลค่าคงเหลือประมาณ 65 ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ หมายความว่ารถที่มีราคาต้นทางราว 8 แสนบาท ยังสามารถขายต่อได้ในราคา 5 ถึง 5.6 แสนบาท มูลค่าคงเหลือขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ ระยะทางการใช้งาน ประวัติการดูแลรักษา และสภาพรถ รุ่นไฮบริด (e HEV) มักรักษามูลค่าได้ดีกว่ารุ่นเครื่องยนต์เบนซินประมาณ 3 ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ ข้อมูลจากสมาคมประเมินราคายานยนต์ไทยหรือ TAVA ระบุว่า รถ Honda City ที่มีอายุ 5 ปี ยังรักษามูลค่าได้ประมาณ 50 ถึง 55 เปอร์เซ็นต์ ดีกว่ารถในกลุ่มเดียวกันรุ่นอื่น ๆ
Q
Honda City มีกี่ซีซี
Honda City รุ่นต่างๆ มีขนาดความจุกระบอกสูบแตกต่างกันไปบางรุ่นเครื่องยนต์เบนซินมีความจุ 988 มิลลิลิตร และบางรุ่นไฮบริด eHEV มีความจุ 1498 มิลลิลิตรโดยทั่วไปขนาดความจุกระบอกสูบจะส่งผลต่อสมรรถนะและอัตราการใช้น้ำมันเครื่องยนต์ขนาดเล็กกว่าเช่น 988 มิลลิลิตรจะเน้นความประหยัดน้ำมันเหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงขณะที่เครื่องยนต์ขนาด 1498 มิลลิลิตรให้กำลังที่มากกว่าเหมาะกับการขับขี่ที่ต้องการแรงบิดสูงเช่นการเร่งแซงหรือขึ้นทางชันผู้บริโภคจึงควรเลือกขนาดเครื่องยนต์ที่เหมาะสมกับความต้องการและรูปแบบการใช้งานในชีวิตประจำวันของตน
Q
เครื่องยนต์ของ Honda City คืออะไร
Honda City มีเครื่องยนต์ให้เลือกหลากหลายรุ่นบางรุ่นมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 10 ลิตร VTEC Turbo แบบ 3 สูบพร้อมระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า กำลังสูงสุด 90 กิโลวัตต์ที่ 5500 รอบต่อนาทีแรงบิดสูงสุด 173 นิวตันเมตรที่ 4500 รอบต่อนาทีอีกรุ่นคือ eHEV ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 15 ลิตรแบบไม่มีระบบอัดอากาศหรือเครื่องอัดอากาศแบบตามธรรมชาติให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้ากำลังสูงสุด 72 กิโลวัตต์ที่ 6400 รอบต่อนาทีแรงบิดสูงสุด 127 นิวตันเมตรที่ 5000 รอบต่อนาทีเมื่อทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าจะให้สมรรถนะโดยรวมที่ทรงพลังยิ่งขึ้นเครื่องยนต์เหล่านี้มีเทคโนโลยีที่เชื่อถือได้ตอบสนองการใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดีโดยบางรุ่นยังผสานนวัตกรรมที่เน้นทั้งสมรรถนะและการประหยัดพลังงานควบคู่กับความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
Q
เกียร์ของ Honda City เป็นแบบไหน
Honda City ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยปัจจุบันมีระบบเกียร์ให้เลือก 2 แบบตามประเภทของขุมพลังรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 15 ลิตรเช่นรุ่น SV และ RS มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ที่พัฒนาโดย Honda ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มนวลในการเร่งความเร็วและประหยัดน้ำมันเหมาะอย่างยิ่งกับการใช้งานในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯส่วนรุ่นไฮบริด eHEV ใช้ระบบเกียร์ไฟฟ้าอัตโนมัติแบบ ECVT ที่ทำงานต่างจาก CVT ทั่วไปโดยอาศัยการทำงานร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวและเครื่องยนต์เพื่อควบคุมการจ่ายกำลังซึ่งเป็นจุดแข็งของเทคโนโลยีไฮบริดจาก Honda ผู้บริโภคในไทยควรทราบว่าไม่ว่าจะเป็นเกียร์ CVT หรือ ECVT ทาง Honda แนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุก 40000 กิโลเมตรหรือทุก 2 ปีตามสภาพอากาศร้อนในไทยและในช่วงฤดูฝนควรตรวจสอบการซีลของระบบเกียร์เป็นพิเศษเพราะจะส่งผลต่ออายุการใช้งานของเกียร์และมูลค่าขายต่อของรถในอนาคตโดยตรง
Q
PCD Size ของ Honda City คืออะไร
Honda City ทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซินและรุ่นไฮบริดใช้ล้อแม็กที่มีค่า PCD หรือระยะรูน็อตเป็น 4x1143 หมายถึงมีรูน็อต 4 รูเรียงบนวงกลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 1143 มิลลิเมตรซึ่งเป็นสเปกเดียวกับรถญี่ปุ่นรุ่นนิยมในไทยอย่าง Nissan Almera และ Mitsubishi Attrage ทำให้สะดวกในการเลือกเปลี่ยนล้อหรือยางอะไหล่สำหรับเจ้าของรถในประเทศไทยนอกจากค่า PCD แล้วควรตรวจสอบค่าหลักอื่นๆ ได้แก่รูดุมล้อหรือ Center Bore ขนาด 641 มิลลิเมตรเกลียวน็อตขนาด M12x15 และค่า Offset ที่แนะนำให้อยู่ในช่วงบวก 40 ถึง 50 เนื่องจากถนนในหลายจังหวัดของไทยมีสภาพไม่ราบเรียบแนะนำให้เลือกล้อแม็กขนาด 15 ถึง 16 นิ้ว J6 ถึง J7 แบบน้ำหนักเบาหรือฟอร์จเพื่อให้เหมาะสมกับระบบช่วงล่างและรองรับถนนในฤดูฝนได้ดียิ่งขึ้นหากต้องการเปลี่ยนแม็กในไทยควรซื้อจากร้านค้าที่จำหน่ายล้อที่ผ่านการรับรองจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมหรือ TISI เช่นแบรนด์ Racing Star หรือ RS Wheels เพื่อไม่ให้มีปัญหาในการตรวจสภาพรถประจำปี
Q
รถ Honda City มี Apple Carplay ไหม
Honda City ทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซินและรุ่นไฮบริด eHEV ในรุ่นกลางถึงรุ่นท็อปเช่นรุ่น RS มาพร้อมฟังก์ชัน Apple CarPlay เป็นอุปกรณ์มาตรฐานโดยสามารถเชื่อมต่อ iPhone แบบไร้สายผ่านหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วช่วยให้ผู้ขับขี่ใช้งานแผนที่เพลงและโทรศัพท์ได้สะดวกมากขึ้นในสภาพการจราจรที่หนาแน่นของประเทศไทยCarPlay ต้องใช้ iPhone ที่มีระบบปฏิบัติการ iOS 90 ขึ้นไประบบรถยนต์ในเวอร์ชันไทยยังรองรับเมนูภาษาไทยและมีตัวเลือกแผนที่ที่ปรับให้เหมาะกับการใช้งานในประเทศสำหรับรุ่นล่างอย่าง SV ที่ไม่มี CarPlay จากโรงงานสามารถติดตั้งเพิ่มเติมได้ที่ร้านอัปเกรดรถยนต์เฉพาะทางในเมืองใหญ่เช่นศูนย์เครื่องเสียงใน Fortune Town กรุงเทพหรือร้านประดับยนต์ในเชียงใหม่เนื่องจากอากาศร้อนในไทยอาจส่งผลต่อเสถียรภาพของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แนะนำให้ใช้ที่ยึดโทรศัพท์กับช่องแอร์เพื่อช่วยระบายความร้อนและตรวจสอบความเสถียรของพอร์ต USB ที่ศูนย์บริการฮอนด้าอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ใช้งาน CarPlay ได้อย่างราบรื่นหากต้องขับในพื้นที่ห่างไกลเป็นเวลานานควรดาวน์โหลดแผนที่แบบออฟไลน์ล่วงหน้าเนื่องจากบางพื้นที่ชนบทอาจไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต 4G ครอบคลุมเพียงพอ
Q
รถ Honda City เป็นรถที่ดีหรือไม่ เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
Honda City เป็นรถที่น่าสนใจและมีจุดเด่นหลายด้านด้านดีไซน์ภายนอกเพิ่มความสปอร์ตมากขึ้นโดยเฉพาะรุ่น City Hatchback ที่มาพร้อมกระจังหน้าแบบ Honey Comb กันชนหน้าใหม่และแถบตกแต่ง Honda Solid Wing สีดำแบบใหม่ที่มีขนาดเล็กลงไฟท้ายแบบสามมิติรมดำพร้อมสปอยเลอร์ดีไซน์สปอร์ตและล้อสีดำทั้งชุดให้ความรู้สึกดุดันภายในห้องโดยสารมีการเพิ่มรายละเอียดการตัดเย็บบริเวณแผงประตูพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วรุ่นย่อยบางรุ่นรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สายพร้อมแท่นชาร์จไร้สายอุปกรณ์ความปลอดภัยจัดเต็มทุกรุ่นด้วยระบบ Honda Sensing ที่มีฟังก์ชันช่วยขับขี่เช่นกล้องมองหลังและระบบเตือนรถออกนอกเลนช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานแต่อาจมีข้อจำกัดบางประการเช่นพื้นที่ภายในไม่ได้กว้างขวางเท่ารุ่นที่เน้นเรื่องความจุเป็นหลักและระบบเกียร์ CVT บางรุ่นอาจตอบสนองได้ไม่ทันใจในจังหวะขับขี่แบบเร่งเร้าโดยรวมแล้ว Honda City เป็นรถที่เหมาะกับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันและเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าน่าพิจารณา
Q
ราคาภาษีรถยนต์ของ Honda City คือเท่าไหร่ วิธีการคำนวณอย่างไร
การคำนวณภาษีรถยนต์สำหรับ Honda City ในประเทศไทยขึ้นอยู่กับความจุกระบอกสูบและอายุการใช้งานตามหลักเกณฑ์ของกรมการขนส่งทางบกรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินจะคิดภาษีโดย 1000cc แรกคิดที่ 2 บาทต่อ cc และส่วนที่เกิน 1000cc ถึง 1500cc คิดที่ 3 บาทต่อ cc ดังนั้นรุ่นเครื่องยนต์ 15 ลิตรหรือ 1497cc จะเสียภาษีปีละ 1000 คูณ 2 เท่ากับ 2000 บวก 497 คูณ 3 เท่ากับ 1491 รวมเป็น 3491 บาทสำหรับรุ่นไฮบริด eHEV ที่มีขนาดเครื่องยนต์ 15 ลิตรเช่นกันจะได้รับส่วนลดภาษี 20 เปอร์เซ็นต์ตามนโยบายส่งเสริมรถพลังงานใหม่ทำให้จ่ายจริงเพียง 2792 บาทภาษีรถยนต์ต้องชำระก่อนวันครบอายุทะเบียนในแต่ละปีที่สำนักงานขนส่งจังหวัดหรือผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หากล่าช้าจะมีค่าปรับวันละ 1 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นมาไทยมีนโยบายเพิ่มภาษีตามอายุรถกรณีรถมีอายุมากกว่า 10 ปีอัตราภาษีจะเพิ่มขึ้นแบบขั้นบันได 5 ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ผู้ใช้รถในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่น PM25 สูงเช่นกรุงเทพฯควรเก็บเอกสารผลตรวจไอเสียผ่านมาตรฐานไว้เพื่อแสดงเมื่อมีการตรวจสอบแม้อัตราภาษีจะเท่ากันทั่วประเทศแต่การจดทะเบียนในชื่อบริษัทสามารถใช้เป็นเครดิตภาษีมูลค่าเพิ่มได้บางส่วน
Q&A ล่าสุด
Q
Audi e-tron GT ทุกคันมีช่วงล่างถุงลมไหม?
Audi e-tron GT ทุกรุ่นติดตั้งระบบช่วงล่างถุงลมปรับระดับ (Adaptive Air Suspension) เป็นมาตรฐาน ซึ่งสามารถปรับความสูงของตัวรถอัตโนมัติตามสภาพถนนและโหมดการขับ เช่น ลดความสูงเมื่อวิ่งทางไกลเพื่อลดแรงต้านลม หรือยกสูงเมื่อขับบนเส้นทางขรุขระ เพื่อเพิ่มความสามารถในการผ่านทาง เหมาะกับสภาพถนนที่หลากหลายของไทย ตั้งแต่ถนนในเมืองที่การจราจรหนาแน่น ไปจนถึงพื้นที่ต่างจังหวัดที่พื้นผิวถนนไม่เรียบ ระบบนี้ยังทำงานร่วมกับ Audi drive select เพื่อเลือกโหมดการขับได้หลากหลาย เช่น ประหยัดพลังงาน สบาย อัตโนมัติ หรือแบบสปอร์ต ทั้งนี้ในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ควรตรวจสอบซีลและท่อของปั๊มลมเป็นระยะเพื่อคงความทนทาน แม้ว่าระบบช่วงลมในรถระดับเดียวกันมักจะเป็นอุปกรณ์เสริม แต่ e-tron GT ให้มาเป็นมาตรฐาน ถือเป็นข้อได้เปรียบที่สะท้อนความใส่ใจของ Audi อย่างไรก็ตาม หากต้องขับในพื้นที่ถนนไม่ดีบ่อย ๆ ควรเว้นระยะการบำรุงรักษาให้ถี่ขึ้นเพื่อรักษาสมรรถนะสูงสุด
Q
Audi e-tron GT ดีไหม?
Audi e-tron GT เป็นรถสปอร์ตคูเป้ไฟฟ้าที่มีสมรรถนะรอบด้าน โดดเด่นเรื่องพลังขับเคลื่อนด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้าสองมอเตอร์ ให้การเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ภายในประมาณ 4.1 วินาที เหมาะกับผู้ขับที่ชอบความเร้าใจ อีกทั้งยังวิ่งได้ไกลถึง 488 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP) เพียงพอสำหรับการเดินทางไป-กลับระหว่างกรุงเทพฯ และพัทยา รองรับการชาร์จเร็ว 270kW ที่ชาร์จเพียง 5 นาทีสามารถเพิ่มระยะทางได้ราว 100 กม. ซึ่งสอดคล้องกับโครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จในไทยที่กำลังพัฒนา ภายในตกแต่งด้วยคุณภาพระดับพรีเมียมตามสไตล์ Audi วัสดุและงานประกอบประณีต พร้อมเทคโนโลยีครบครัน เช่น Virtual Cockpit และระบบ MMI Touch แต่พื้นที่เบาะหลังค่อนข้างกะทัดรัด เหมาะกับครอบครัวเล็กหรือผู้ใช้ส่วนตัว นอกจากนี้ยังได้รับสิทธิ์ลดภาษีบางส่วนแม้จะเป็นรถนำเข้า ทำให้ราคาซื้อลดลง หากมองหารถไฟฟ้าระดับพรีเมียม e-tron GT เป็นตัวเลือกที่ควรลองขับ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการทั้งสมรรถนะ แบรนด์ และเทคโนโลยีครบครัน และในสภาพอากาศร้อนของไทย แนะนำให้เลือกติดตั้งเบาะระบายอากาศเพื่อเพิ่มความสบาย
Q
รถไฟฟ้า MG ดีไหม?
รถยนต์ไฟฟ้า MG ในตลาดไทยถือว่าทำผลงานได้ดี โดยเฉพาะ MG ZS EV และ MG EP ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเพราะความคุ้มค่าและระยะทางวิ่งที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง MG ZS EV วิ่งได้ราว 263 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง เหมาะสำหรับการขับในเมืองหรือใช้เดินทางไปกลับในชีวิตประจำวัน ส่วน MG EP จะเน้นความประหยัดมากกว่า เหมาะกับผู้ที่มีงบจำกัด ในไทย MG มีเครือข่ายศูนย์บริการหลังการขายที่ค่อนข้างครอบคลุม และสถานีชาร์จก็กำลังขยายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบสำคัญสำหรับผู้ใช้รถไฟฟ้า นอกจากนี้ยังมีมาตรการส่งเสริมจากภาครัฐ เช่น การลดภาษีและเงินสนับสนุน ทำให้ต้นทุนการซื้อถูกลง เมื่อความนิยมรถไฟฟ้าในไทยเพิ่มขึ้น แบรนด์อื่นอย่าง BYD และ Great Wall ก็ทำตลาดได้ดีเช่นกัน ผู้บริโภคจึงสามารถเลือกได้ตามงบและความต้องการ โดยรวมแล้ว MG EV ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะสำหรับการใช้งานในเมือง ที่ทั้งสมรรถนะและราคาแข่งขันได้
Q
รถ MG คุณภาพดีไหม?
ในด้านคุณภาพ MG ถือว่าได้รับความสนใจในไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรุ่นยอดนิยมอย่าง MG ZS และ HS ซึ่งใช้เครื่องยนต์ 1.5L และ 1.5T ที่เพียงพอต่อการใช้งานประจำวัน พร้อมรุ่นพลังงานไฟฟ้าเพื่อตอบรับกระแสตลาด นอกจากนี้ MG ยังให้ความสำคัญกับออปชันมาตรฐาน เช่น ระบบอินโฟเทนเมนต์ กล้องถอยหลัง ที่ให้มาครบในราคาที่คุ้มเมื่อเทียบกับคู่แข่งในกลุ่มเดียวกัน เครือข่ายศูนย์บริการในไทยก็เริ่มครอบคลุมมากขึ้น ทำให้การซ่อมบำรุงและหาอะไหล่ทำได้ง่าย จุดที่อาจยังเป็นรองแบรนด์ญี่ปุ่นบางเจ้า คือ เรื่องการเก็บเสียงและความประณีตภายใน แต่ด้วยระดับราคาที่ตั้งไว้ MG ก็ยังเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับคนที่ต้องการรถราคาไม่สูง แต่ออปชันครบ แนะนำให้ทดลองขับก่อนตัดสินใจเพื่อให้ได้รถที่ตรงใจที่สุด
Q
MG อยู่ในเครือ BMW ไหม?
MG (เอ็มจี) ปัจจุบันไม่ได้อยู่ภายใต้ BMW แต่เป็นแบรนด์ที่ SAIC Motor ครอบครองเต็ม 100% เดิมเป็นแบรนด์จากอังกฤษ แต่ปัจจุบันอยู่ภายใต้ทุนจีน ในตลาดไทย MG โดดเด่นด้วยความคุ้มค่าและการทำตลาดรถพลังงานไฟฟ้า เช่น ZS EV และ HS PHEV พร้อมเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุม โดยเฉพาะรถไฟฟ้าที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมรถพลังงานทางเลือก ได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีและเงินสนับสนุน ขณะที่ BMW เป็นแบรนด์หรูจากเยอรมนี เน้นขายผ่านการนำเข้า จับกลุ่มลูกค้าระดับบน จึงมีภาพลักษณ์และราคาต่างจาก MG ชัดเจน MG เน้นความคุ้มค่าและเทคโนโลยีที่เข้าถึงง่าย ส่วน BMW เน้นประสบการณ์หรูหราและสมรรถนะสูง ผู้บริโภคไทยสามารถเลือกได้ตามงบและความต้องการ หากต้องการออปชันครบในราคาจับต้องได้ MG เหมาะสม แต่หากเน้นความพรีเมียมและการขับขี่ BMW อาจตอบโจทย์มากกว่า
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไม่ควรพลาดรถยนต์เกโรของญี่ปุ่น, รุ่น Honda City ใดคุ้มค่าที่สุดในการเลือก?
ณัฐวุฒิNov 6, 2024

Honda City e:HEV ลดราคา THB40,000! มาราธอน 800km, ประหยัดน้ำมันและสบาย!
AshleyAug 5, 2024

2024 Honda City Sedan ราคาตั้งแต่ THB 599,000 จะเลือก Turbo หรือ e: HEV?
LienApr 16, 2024

มอเตอร์โชว์กรุงเทพฯ: Honda City 2024, เพิ่มรูปแบบ 1.0 Turbo S, ราคา 599000 บาท
Kevin WongMar 26, 2024

รุ่นที่หก Honda Prelude ยืนยันเปิดตัวที่ญี่ปุ่นในเดือนกันยายน มาพร้อมเทคโนโลยีไฮบริดและ Type R
LienAug 4, 2025
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย