Q
Honda City มีความจุเครื่องยนต์กี่ลิตร?
รถ Honda City ที่ขายในตลาดไทยมีเครื่องยนต์ให้เลือกหลายแบบตามปีและรุ่น รุ่นปัจจุบันที่วางจำหน่ายส่วนใหญ่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร สี่สูบดูดอากาศตามธรรมชาติ ที่มาพร้อมเทคโนโลยี i-VTEC ของฮอนด้า ให้กำลังสูงสุดประมาณ 120 แรงม้า คู่กับเกียร์ CVT ที่ช่วยให้การขับขี่ลื่นไหลและประหยัดน้ำมัน เหมาะสมทั้งการใช้งานในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่รถติดหนักและการเดินทางไกล เครื่องยนต์ 1.5 ลิตรนี่ถือว่าเป็นขนาดยอดนิยมในไทยเพราะให้กำลังเพียงพอแต่ไม่เสียภาษีสูง เวลาซื้อรถคนไทยมักสนใจเทคโนโลยีเครื่องยนต์ด้วย เช่นระบบ i-VTEC ที่ปรับวาล์วอัจฉริยะตามสภาพการขับ ช่วยประหยัดน้ำมันตอนรอบต่ำแต่ให้แรงมากขึ้นเมื่อเร่ง ส่วนการตั้งแต่งเครื่องยนต์ของ City เน้นแรงบิดต่ำเหมาะกับทางขึ้นเขาและการเริ่ม-หยุด บ่อยๆ ในไทย ที่สำคัญฮอนด้ามีชื่อเรื่องความทนทานและค่าบำรุงรักษาที่ไม่แพงมาก นี่คือปัจจัยที่คนไทยให้ความสำคัญเวลาเลือกซื้อรถ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ฮอนด้าซิตี้ 2024 มีความจุซีซีเท่าไหร่
รถฮอนด้าซิตี้รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ 2 แบบ คือเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตรและเครื่องยนต์แบบธรรมดา 1.5 ลิตร โดยเครื่องเทอร์โบ 1.0 ลิตรมีความจุกระบอกสูบ 998 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ส่วนเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรแบบธรรมดามีความจุ 1,498 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า เครื่องยนต์ทั้งสองแบบถูกออกแบบมาให้สมดุลระหว่างประหยัดน้ำมันและสมรรถนะการขับขี่ เหมาะกับทั้งการใช้งานในเมืองและการเดินทางไกลในไทย ฮอนด้าซิตี้เป็นที่นิยมในตลาดไทยเสมอมาด้วยความน่าเชื่อถือ ค่าซ่อมบำรุงไม่แพง และประหยัดน้ำมัน ส่วนรุ่นปี 2024 ยังเพิ่มเทคโนโลยีความปลอดภัย Honda SENSING เข้ามา ทำให้ยิ่งโดดเด่นขึ้น สำหรับลูกค้าชาวไทยที่กำลังตัดสินใจเลือกเครื่องยนต์ แนะนำว่าเครื่องเทอร์โบ 1.0 ลิตรเหมาะกับคนที่เน้นประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในขณะที่เครื่อง 1.5 ลิตรแบบธรรมดาจะให้ความรู้สึกการขับขี่ที่ลื่นไหลมากกว่า ทั้งสองแบบตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้ดีอยู่แล้ว แค่เลือกให้เหมาะกับสไตล์การขับและงบประมาณของคุณก็พอ
Q
คะแนนความปลอดภัยของ Honda City 2024 คืออะไร
รถฮอนด้าซิตี้รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยแสดงผลงานด้านความปลอดภัยได้ดีเยี่ยม ด้วยระบบ Honda SENSING ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นช่วยเหลือผู้ขับขี่อย่างครบครัน ทั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบช่วยรักษาเลน และระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยแบบพาสซีฟที่ครบถ้วน เช่น ถุงลมนิรภัย 6 จุด ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว และระบบเบรก ABS ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้รถรุ่นนี้มีความโดดเด่นในกลุ่มรถระดับเดียวกัน จากการทดสอบตามมาตรฐาน NCAP ของไทย คาดว่ารถรุ่นนี้จะได้คะแนนความปลอดภัยระดับ 5 ดาว เหมาะสมกับสภาพถนนทั้งในเมืองและชนบทของไทยที่หลากหลาย สำหรับผู้บริโภคชาวไทย นอกจากเรื่องความปลอดภัยแล้ว ยังควรพิจารณาค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและค่าประกันรถด้วย เพราะเครือข่ายบริการหลังการขายของฮอนด้าในไทยมีความพร้อมสูง มีอะไหล่ครบครัน ทำให้ค่าใช้จ่ายในการใช้งานระยะยาวค่อนข้างต่ำ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่คนไทยมักคำนึงถึงเมื่อเลือกซื้อรถเช่นกัน
Q
วิธีเปิดส่วนหน้าของรถ Honda Civic 2024
ก่อนจะเปิดฝากระโปรงหน้ารุ่นฮอนด้าซิวิค 2024 สิ่งแรกที่ต้องทำคือนั่งในที่นั่งคนขับ แล้วมองหาคันปลดล็อกฝากระโปรงหน้า ซึ่งจะมีสัญลักษณ์รูปเครื่องยนต์อยู่ด้านล่างซ้ายของพวงมาลัย ดึงคันนี้เบาๆจนได้ยินเสียงฝากระโปรงหน้ายกขึ้น จากนั้นเดินไปที่หน้าตัวรถ ใช้มือสอดเข้าไปในช่องกลางฝากระโปรง แล้วหาล็อกนิรภัยตัวที่สองให้เจอ ให้ดันล็อกนี้ไปทางซ้ายหรือขวาพร้อมกับยกฝากระโปรงขึ้น สำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย แนะนำให้ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นและน้ำมันเบรกในห้องเครื่องเป็นประจำ เพื่อให้รถทำงานได้ปกติ และควรทำความสะอาดห้องเครื่องด้วย ระวังอย่าให้ใบไม้หรือเศษอุดตันท่อระบายน้ำ ถ้าต้องขับในพื้นที่ติดขัดอย่างกรุงเทพฯ บ่อยๆ ควรเช็กด้วยว่าฟิลเตอร์อากาศอุดตันฝุ่นหรือไม่ เพราะจะช่วยรักษาสมรรถนะเครื่องยนต์และประหยัดน้ำมันได้ ส่วนเวลาปลดล็อกฝากระโปรงถ้าได้ยินเสียงเฮียกที่บานพับ ให้ทาจาระบีเล็กน้อย และเนื่องจากอากาศไทยร้อนจัดทำให้ยางซีลเสื่อมสภาพเร็ว ควรตรวจสอบความแน่นของซีลทุกๆครึ่งปี
Q
ความจุของกระโปรงท้ายรถฮอนด้าซิตี้ 2024 คือเท่าไร
รถฮอนด้า ซิตี้ รุ่นปี 2024 ที่วางขายในตลาดไทยมีปริมาตรกระโปรงหลังขนาด 536 ลิตร ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันของครอบครัวหรือการท่องเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์ สามารถบรรจุกระเป๋าเดินทางหลายใบหรือของช้อปปิ้งได้อย่างสบายๆ เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนไทยที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเองหรือช้อปปิ้งบ่อยๆ การออกแบบกระโปรงหลังทำได้อย่างสมเหตุสมผล มีช่องเปิดที่กว้าง ทำให้สะดวกในการลำเลียงสิ่งของ นอกจากนี้เบาะหลังยังสามารถพับลงได้ตามสัดส่วน ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ในสภาพอากาศของไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก กระโปรงหลังของซิตี้ยังมีการป้องกันการรั่วซึมที่ดี ช่วยปกป้องสิ่งของจากความชื้นหรือความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกันแล้ว ปริมาตรกระโปรงหลังขนาดนี้จัดอยู่ในระดับกลางถึงดี และเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่างโตโยต้า ยาริส แอททีฟแล้วยังได้เปรียบอยู่บ้าง สำหรับผู้ใช้งานไทยที่มักต้องพกพาสิ่งของจำนวนมาก พื้นที่กระโปรงหลังของซิตี้ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่值得พิจารณา แนะนำให้ไปทดลองบรรจุของที่ตัวแทนจำหน่ายด้วยตัวเองเพื่อความสะดวก และควรเปรียบเทียบกับการออกแบบกระโปรงหลังของรถรุ่นอื่นๆ ในราคาใกล้เคียงกัน เพื่อเลือกรถที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ดีที่สุด
Q
สีของ Honda City 2024 มีอะไรบ้าง
รถฮอนด้า ซิตี้ รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยมีให้เลือกหลายสีสันสไตล์โมเดิร์น ทั้งหมด 7 สีคลาสสิค ได้แก่ สีพลาตินัม ออบซิเดียน บลู เพิร์ล (น้ำเงินไข่มุก), อิกไนท์ เรด เมทัลลิก (แดงเมทัลลิก), แพลตตินัม ไวท์ เพิร์ล (ขาวไข่มุก), คริสตัล แบล็ค เพิร์ล (ดำไข่มุก), ลูนาร์ ซิลเวอร์ เมทัลลิก (เงินเมทัลลิก), อุกกาบาต เกรย์ เมทัลลิก (เทาเมทัลลิก) และทัฟเฟต้า ไวท์ (ขาวทาฟเฟต้า) เวลาเลือกสีรถควรคิดถึงเรื่องค่าดูแลรักษาด้วยนะครับ สีอ่อนๆ ในแดดเมืองไทยจะทนต่อคราบสกปรกกว่า ส่วนสีเข้มต้องล้างรถและขัดแว็กซ์บ่อยหน่อยเพื่อรักษาความเงางาม แถมบางสีพิเศษอาจต้องสั่งจองล่วงหน้าหรือรอรับรถนานกว่าปกติครับ
Q
วิธีเปิดฝากระโปรงหน้ารถ Honda City 2024
ก่อนจะเปิดฝากระโปรงหน้ารถฮอนด้าซิตี้รุ่นปี 2024 สิ่งแรกที่ต้องทำคือนั่งบนที่นั่งคนขับแล้วมองหาแถบปลดล็อกฝากระโปรงซึ่งอยู่ด้านล่างซ้ายของแผงหน้าปัด มักจะอยู่แถวๆ Pedal ให้ดึงขึ้นจนได้ยินเสียงฝากระโปรงหน้ากระเด้งเล็กน้อย จากนั้นเดินไปที่หัวรถแล้วใช้นิ้วมือสอดเข้าไปในช่องกลางขอบฝากระโปรงหน้า จะพบกับล็อกความปลอดภัยตัวที่สอง ให้ดันขึ้นพร้อมกับยกฝากระโปรง ถ้ารู้สึกหนักไปอาจใช้ค้ำยันช่วย สำหรับสภาพอากาศร้อนๆ แบบไทย แนะนำให้ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นและน้ำมันเครื่องเป็นประจำ โดยเฉพาะก่อนขับทางไกล ต้องเช็กระบบระบายความร้อนให้ดี ภายในห้องเครื่องฮอนด้าซิตี้จัดวางเป็นระเบียบ ทำให้เจ้าของรถสามารถเติมน้ำฉีดกระจกหรือตรวจสอบน้ำมันเบรคได้เอง แต่ถ้าเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าหรือชิ้นส่วนเครื่องกลที่ซับซ้อน ควรไปที่ศูนย์บริการฮอนด้าจะดีกว่า ที่ศูนย์ใหญ่ๆ ในกรุงเทพหรือเชียงใหม่ยังมีบริการตรวจเช็คฟรีให้อีกด้วย ข้อสำคัญเวลาปิดฝากระโปรงหน้า ต้องปล่อยจากความสูงประมาณ 30 เซนติเมตรให้ปิดเองตามธรรมชาติ เพื่อให้ล็อกเข้าที่สนิท ป้องกันฝากระโปรงเปิดขณะขับรถ และช่วงหลังฤดูฝนของไทย ควรทำความสะอาดใบไม้ที่อาจตกค้างในห้องเครื่อง เพื่อไม่ให้ท่อระบายน้ำอุดตัน
Q
ฉันจะเปิดถังน้ำมันบนรถฮอนด้า 2024 ของฉันได้อย่างไร
วิธีเปิดฝาถังน้ำมันของฮอนด้ารุ่นปี 2024 ทำได้ง่าย มีสองแบบขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ของแต่ละรุ่น แบบแรกคือปุ่มกดภายในรถ จะอยู่ด้านซ้ายของผู้ขับขี่บนคอนโซลกลางหรือแผงประตู กดปุ่มที่มีสัญลักษณ์ถังน้ำมัน ฝาถังจะเด้งเปิด แบบที่สองคือกดตรงฝาถังภายนอก หลังจากปลดล็อกรถแล้วกดเบาๆ ฝาจะเปิด ทั้งสองแบบเหมาะกับสภาพอากาศร้อนและฝนตกของไทย ป้องกันการใช้งานผิดพลาดและรักษาการปิดสนิท ปั๊มน้ำมันส่วนใหญ่ในไทยมีพนักงานบริการเติมน้ำมัน จึงไม่จำเป็นต้องเติมเอง แต่ควรตรวจสอบชนิดน้ำมันว่าเป็นเบนซินหรือดีเซลก่อนเติม เนื่องจากอากาศร้อนอาจทำให้น้ำมันระเหย แนะนำไม่เติมเต็มเกินไปเพื่อเว้นพื้นที่ให้น้ำมันขยาย เพิ่มความปลอดภัยและประหยัดเชื้อเพลิง สำหรับรถที่ใช้งานระยะยาวควรตรวจสอบซีลฝาถังเป็นประจำ ป้องกันน้ำหรือฝุ่นเข้าช่วงฤดูฝนและคงคุณภาพน้ำมัน
Q
คุณสามารถสตาร์ทรถ Honda 2024 จากโทรศัพท์ของคุณได้ไหม
รุ่นฮอนด้า 2024 บางรุ่นในตลาดไทยรองรับฟังก์ชั่นสตาร์ทรถทางโทรศัพท์ได้จริง แต่ขึ้นอยู่กับรุ่นและระบบ Honda Connect ที่ติดตั้งมา เช่น รุ่นท็อปอย่าง CR-V หรือ Accord มักจะมีฟีเจอร์นี้ ผู้ใช้ต้องดาวน์โหลดแอป Honda และผูกบัญชีกับรถยนต์ก่อน หลังจากนั้นจะสามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ เปิดแอร์ล่วงหน้า หรือปลดล็อคประตูผ่านมือถือได้ ซึ่งเหมาะมากกับอากาศร้อนๆ แบบไทยๆ แต่อย่าลืมว่าฟีเจอร์นี้ต้องใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตและรถต้องอยู่ในพื้นที่ที่สัญญาณครอบคลุม รวมถึงควรตรวจสอบกับตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ด้วย เพราะบางฟังก์ชั่นอาจถูกจำกัดตามกฎหมายไทยหรือเครือข่ายโทรศัพท์ นอกจากนี้ เทคโนโลยีควบคุมระยะไกลแบบเดียวกันนี้ยังมีในแบรนด์อื่นๆ เช่น Toyota Connect ของโตโยต้าหรือ NissanConnect ของนิสสัน ซึ่งทำงานผ่านโมดูลสื่อสารในรถที่เชื่อมกับแอปบนมือถือ เมื่อ 5G แพร่หลายมากขึ้น ฟีเจอร์เหล่านี้จะทำงานเร็วและเสถียรขึ้น แน่นอนว่าทำให้ชีวิตคนใช้รถในไทยสะดวกสบายขึ้นอีกเยอะ
Q
รถฮอนด้าซิตี้ปี 2024 มีระบบ VTEC หรือไม่
รถยนต์ฮอนด้าซิตีรุ่นปี 2024 ที่วางขายในตลาดประเทศไทยยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ แบบธรรมชาติ โดยไม่ได้นำเทคโนโลยี VTEC มาใช้ แต่ยังคงใช้ระบบ i-VTEC ที่ปรับปรุงการทำงานของวาล์วให้ฉลาดขึ้น ระบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อประหยัดน้ำมันและเพิ่มแรงบิดในรอบต่ำถึงกลาง ซึ่งเหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดและการขับขี่ที่ต้องหยุดบ่อยในเมืองไทย แม้ว่า VTEC จะโดดเด่นในเรื่องพลังสปินสูง แต่ i-VTEC ให้ความนุ่มนวลและประหยัดน้ำมันมากกว่า ซึ่งตอบโจทย์ผู้บริโภคไทยในยุคที่ราคาน้ำมันแพง อีกจุดสำคัญคือฮอนด้าจะปรับตั้งค่าทางเทคนิคให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนในไทย โดยเสริมประสิทธิภาพระบบระบายความร้อนและแอร์ ส่วนการไม่ใช้ VTEC ก็แสดงว่าผู้ผลิตเข้าใจความต้องการของคนไทยจริงๆ เพราะในสภาพรถติดแบบกรุงเทพฯ การใช้พลังรอบสูงแทบไม่เกิดประโยชน์เท่าการประหยัดน้ำมันในชีวิตประจำวัน ถ้าอยากได้พลังมากขึ้น ลองดูรุ่น City RS ที่ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5 ลิตร ซึ่งให้แรงบิดดีกว่าในการแซง แต่ก็ยังไม่ใช้ระบบ VTEC แบบดั้งเดิมเช่นกัน
Q
รถ Honda City 2024 เฉลี่ยแล้ววิ่งได้กี่กิโลเมตรต่อลิตร
รถฮอนด้าซิตี้รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 15-18 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งตัวเลขอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนนและรุ่นย่อยของรถ สำหรับรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC จะให้สมรรถนะที่สมดุลในสภาพการขับขี่แบบผสม ส่วนรุ่น e:HEV แบบไฮบริดนั้นประหยัดน้ำมันได้มากกว่า โดยเฉพาะในสภาพการจราจรติดขัดแบบกรุงเทพฯ ที่ต้องเร่ง-หยุดบ่อยๆ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ในไทยควรระวังว่าอากาศร้อนและการเปิดแอร์อาจส่งผลให้สิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้นเล็กน้อย การดูแลรักษาเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอ เช่น การเปลี่ยนไส้กรองอากาศและปรับลมยางให้เหมาะสม จะช่วยประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกันอย่างโตโยต้ายาริสหรือมาสด้า 2 ที่มีอัตราสิ้นเปลืองใกล้เคียงกัน แต่ใช้เทคโนโลยีต่างกัน แนะนำให้ลองทดลองขับเพื่อเปรียบเทียบ นอกจากนี้ นโยบายลดภาษีของรัฐบาลไทยสำหรับรถประหยัดพลังงานยังทำให้ซิตี้เป็นตัวเลือกคุ้มค่า และในระยะยาว รุ่นไฮบริดจะช่วยประหยัดค่าน้ำมันได้มากกว่าชัดเจน
Q&A ล่าสุด
Q
สีที่ดีที่สุดสำหรับ Tesla Model 3 คืออะไร
การเลือกสีที่ดีที่สุดสำหรับ Tesla Model 3 ในประเทศไทยขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวและความต้องการในการใช้งาน แต่สี Pearl White และ Midnight Silver Metallic เป็นตัวเลือกยอดนิยม สี Pearl White ไม่เพียงแต่ดูแลง่ายและสะท้อนแสงแดดได้ดี เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนของไทย ในขณะที่สี Midnight Silver Metallic ให้ความรู้สึกหรูหราเรียบร้อยและไม่ค่อยเห็นฝุ่น นอกจากนี้สีแดงและสีน้ำเงินก็เป็นตัวเลือกสำหรับคนชอบความโดดเด่น แต่ต้องดูแลทำความสะอาดบ่อยครั้งเพื่อคงความสวยงาม สภาพแวดล้อมในไทยทั้งฝนตกบ่อยและอากาศร้อนมีผลต่อสีรถ ดังนั้นแนะนำให้เลือกการเคลือบสีหลายชั้นหรือขัดแว็กซ์เป็นประจำเพื่อยืดอายุสีรถ แม้ว่ารุ่น Model 3 จะมีกระบวนการทาสีที่ค่อนข้างดี แต่ด้วยมลภาวะและรังสี UV ในไทยที่ค่อนข้างแรง ไม่ว่าคุณจะเลือกสีไหนก็ควรดูแลรักษาอย่างเหมาะสม นอกจากนี้สภาพการจราจรในไทยที่ค่อนข้างแออัด รถสีอ่อนจะทำให้ผู้ขับขี่คนอื่นมองเห็นได้ง่ายขึ้นในเวลากลางคืน จึงปลอดภัยกว่า แต่สุดท้ายแล้วการเลือกสีควรคำนึงถึงความชอบส่วนตัวและงบประมาณ เพราะสีพิเศษบางสีอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
Q
วิธีการลบควันในรถ Tesla Model 3
สำหรับเจ้าของ Tesla Model 3 ที่ต้องเผชิญกับอากาศร้อนชื้นในประเทศไทย การเปิดโหมด "Bio Weapon Defense Mode" จะช่วยกำจัดควันหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในรถได้อย่างรวดเร็ว ระบบนี้ใช้แผ่นกรอง HEPA พร้อมระบบปรับอากาศประสิทธิภาพสูง ที่สามารถฟอกอากาศให้สะอาดได้ภายในไม่กี่นาที โดยเฉพาะเวลาติดรถยนต์ในกรุงเทพฯ ที่เจอกับไอเสีย หรือช่วงฤดูฝนที่ความชื้นสูง แนะนำให้เปลี่ยนไส้กรองแอร์เป็นประจำ (ในไทยควรตรวจสอบทุก 1-1.5 หมื่นกิโลเมตร) และใช้แอป Tesla เปิดระบบระบายอากาศล่วงหน้าเพื่อลดอุณหภูมิในรถ รถ EV นั้นมีความแน่นกระชับกว่าหากเทียบกับรถน้ำมัน แต่สภาพอากาศร้อนของไทยอาจทำให้สารระเหยจากวัสดุภายในรถกระจายตัวเร็วขึ้น อาจเสริมด้วยถ่านกัมมันต์หรือสเปรย์ photocatalyst ช่วยฟอกอากาศ แต่ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่อาจทำลายหน้าจอควบคุมส่วนกลาง หากต้องจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน ควรเลือกที่ร่มและใช้ม่านบังแดด พร้อมเปิดฟังก์ชัน cabin overheat protection ของ Tesla เพื่อควบคุมอุณหภูมิภายในรถไม่ให้เกิน 40 องศา วิธีเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้รถในเขตร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Q
การปรับความสูงและตำแหน่งของพวงมาลัย Tesla Model 3 ต้องทำอย่างไร
การปรับความสูงและตำแหน่งพวงมาลัยของ Tesla Model 3 เมื่อขับขี่ในประเทศไทยนั้นทำได้ง่ายมาก แค่เข้าไปที่เมนู "ควบคุม" ในหน้าจอกลาง แล้วเลือก "คันเร่งและพวงมาลัย" จากนั้นกด "ปรับพวงมาลัย" ก็สามารถปรับพวงมาลัยด้วยมือให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะกับท่านได้ พอปรับเสร็จก็กดบันทึก แบบนี้คนไทยรูปร่างต่างกันก็ขับสบาย แถมยังช่วยให้ขับทางยาวๆ ไม่เมื่อยล้า อีกอย่างพวงมาลัยของ Model 3 ยังปรับโหมดการขับได้ตามใจเลย เช่น ในกรุงเทพฯ ที่รถติดๆ สามารถเลือกโหมด "สบายๆ" เพื่อให้พวงมาลัยเบาขึ้น หรือถ้าขับนอกเมืองหรือขึ้นทางด่วนก็สลับไปโหมด "สปอร์ต" ให้รู้สึกมันส์ๆ มากขึ้น แถมช่วงหน้าฝนหรืออากาศเย็นๆ ฟังก์ชันทำความร้อนพวงมาลัยก็ช่วยให้อุ่นมือได้ดี การออกแบบที่ชาญฉลาดของ Tesla ทําให้การปรับเปลี่ยนเหล่านี้ใช้งานง่ายมาก แม้แต่ผู้ใช้ชาวไทยที่สัมผัสกับรถยนต์ไฟฟ้าเป็นครั้งแรกก็สามารถเริ่มต้นได้อย่างรวดเร็ว
Q
วิธีเปิดที่นั่งที่ทำความร้อนด้านหลัง Tesla Model 3
การเปิดใช้งานระบบทำความร้อนเบาะหลังใน Tesla Model 3 นั้นง่ายมาก แค่เข้าไปที่เมนูควบคุมแอร์ผ่านหน้าจอกลาง จากนั้นแตะไอคอนทำความร้อนเบาะที่ด้านล่างของหน้าจอ เลือกเบาะหลังก็สามารถปรับระดับความร้อนได้แล้ว โดยปกติแล้ว Model 3 จะมีให้เลือก 3 ระดับ เหมาะกับอากาศเย็นๆ ในช่วงฤดูฝนหรือทางเหนือของไทย ที่ควรรู้คือรุ่นเก่าบางคันอาจต้องอัปเดตซอฟต์แวร์ก่อนถึงจะใช้ฟีเจอร์นี้ได้ แนะนำให้ตรวจสอบการอัปเดตระบบรถอย่างสม่ำเสมอ เวลาใช้ในไทยแนะนำให้เปิดแอร์ควบคู่ไปด้วยเพื่อควบคุมความชื้นในรถ เพราะอากาศร้อนชื้นของไทยอาจทำให้รู้สึกไม่ค่อยสบายตัว ระบบทำความร้อนเบาะของ Tesla ใช้เทคโนโลยีคาร์บอนไฟเบอร์ที่ให้ความร้อนสม่ำเสมอและประหยัดไฟกว่าวิธีแบบเดิมๆ ซึ่งเหมาะกับค่ากระแสไฟฟ้าในไทยที่ค่อนข้างสูง ถ้าใช้เป็นเวลานานแนะนำให้ปรับความร้อนอยู่ที่ระดับกลางแทนการเปิดเต็มกำลัง จะได้ทั้งความสบายและประหยัดพลังงาน นอกจากนี้ในวันที่อากาศร้อนควรปิดระบบนี้เมื่อลงจากรถเพื่อไม่ให้เปลืองไฟโดยเปล่าประโยชน์ การดูแลรายละเอียดเล็กน้อยแบบนี้จะช่วยให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น
Q
ความจุแบตเตอรี่ของ Tesla Model 3 คือเท่าไหร่
ความจุแบตเตอรี่ของ Tesla Model 3 จะแตกต่างกันไปตามรุ่นรถ ในตลาดไทยปัจจุบัน รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) มีความจุแบตเตอรี่ประมาณ 57.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ส่วนรุ่น Long Range และ Performance จะติดตั้งแบตเตอรี่ประมาณ 75 กิโลวัตต์-ชั่วโมง และ 82 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ตามลำดับ ข้อมูลเหล่านี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยขึ้นอยู่กับปีที่ผลิตหรือการอัปเดตคอนฟิก จึงแนะนำให้ตรวจสอบสเปกล่าสุดผ่านเว็บไซต์ Tesla ประเทศไทยหรือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการก่อนตัดสินใจซื้อรถ
สำหรับสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า เช่น การเปิดแอร์บ่อยขึ้นในสภาพอากาศร้อนจะทำให้ใช้พลังงานมากขึ้น ดังนั้นเจ้าของรถควรวางแผนการชาร์จให้เหมาะสม และใช้ประโยชน์จากเครือข่าย Supercharger ของ Tesla ที่กำลังขยายตัวในประเทศไทย
ที่น่าสนใจคือระบบจัดการแบตเตอรี่ (BMS) ของ Tesla สามารถตรวจสอบและควบคุมอุณหภูมิแบตเตอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสำคัญมากสำหรับประเทศเขตร้อนอย่างไทย ช่วยยืดอายุแบตเตอรี่และรักษาความปลอดภัยในการขับขี่
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไม่ควรพลาดรถยนต์เกโรของญี่ปุ่น, รุ่น Honda City ใดคุ้มค่าที่สุดในการเลือก?
ณัฐวุฒิNov 6, 2024

Honda City e:HEV ลดราคา THB40,000! มาราธอน 800km, ประหยัดน้ำมันและสบาย!
AshleyAug 5, 2024

2024 Honda City Sedan ราคาตั้งแต่ THB 599,000 จะเลือก Turbo หรือ e: HEV?
LienApr 16, 2024

มอเตอร์โชว์กรุงเทพฯ: Honda City 2024, เพิ่มรูปแบบ 1.0 Turbo S, ราคา 599000 บาท
Kevin WongMar 26, 2024

Honda N-ONE e:เปิดตัวอย่างเป็นทางการในญี่ปุ่น ระยะทางขับขี่สูงสุดถึง 295 กิโลเมตร
LienSep 12, 2025
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย