Q
แรงม้าของ McLaren 540C มีกี่แรงม้า
McLaren 540C มีกำลัง 540 แรงม้า ใช้เครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาด 3.8 ลิตร ทวินเทอร์โบ รหัส M838TE ให้กำลังสูงสุด 397 กิโลวัตต์ หรือ 540 แรงม้า ที่ 7500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 540 นิวตันเมตร ที่ช่วง 3500 ถึง 6500 รอบต่อนาที เทคโนโลยีทวินเทอร์โบช่วยลดอาการรอรอบของเทอร์โบ ส่งกำลังได้ราบรื่นต่อเนื่อง จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 จังหวะ ที่เปลี่ยนเกียร์ได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง ชุดระบบขับเคลื่อนนี้ทำให้ McLaren 540C เร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 3.4 วินาที แสดงให้เห็นถึงสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมบนถนน
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
แมคลาเรน 540C น้ำหนักเท่าไหร่
McLaren 540C มีน้ำหนักตัวรถ 1311 กิโลกรัม น้ำหนักที่ค่อนข้างเบานี้เป็นผลมาจากการใช้วัสดุขั้นสูงและแนวคิดการออกแบบของแบรนด์ McLaren ที่มักเลือกใช้วัสดุเบาอย่างคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งช่วยลดน้ำหนักรวมของรถและเพิ่มสมรรถนะโดยรวม รถที่เบากว่าจะเร่งได้เร็ว เบรกได้มีประสิทธิภาพ และควบคุมได้ดียิ่งขึ้นทั้งบนถนนและในสนามแข่ง น้ำหนัก 1311 กิโลกรัมของ McLaren 540C ส่งผลให้มีตัวเลขสมรรถนะที่น่าประทับใจ เช่น ความเร็วสูงสุด 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 3.4 วินาที ยังช่วยให้เกิดอัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักที่สมดุล ไม่ว่าจะขับขี่บนถนนหรือท้าทายความเร็วในสนาม ก็สามารถมอบประสบการณ์ที่เร้าใจได้เต็มที่
Q
McLaren 540 มีแรงม้ากี่แรง
คุณอาจต้องการทราบข้อมูลของรถรุ่น 2020 McLaren 540C 3.8L V8 ซึ่งมีกำลังสูงสุด 540 แรงม้า รถคันนี้ให้พละกำลังที่โดดเด่น โดยสามารถเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 3.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เครื่องยนต์ V8 ขนาด 3799 ซีซี จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ ที่ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วและราบรื่น นอกจากสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมแล้ว ยังมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 11.1 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร สำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถสปอร์ตสมรรถนะสูง การจัดวางกำลังและระบบขับเคลื่อนเช่นนี้มอบประสบการณ์ขับขี่ที่เร้าใจและเร่งเร้าอารมณ์ความเร็วได้อย่างเต็มที่
Q
ความเร็วสูงสุดของ McLaren 540C คือเท่าไหร่
McLaren 540C ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นรถสปอร์ตสมรรถนะสูงที่บรรลุความเร็วระดับนี้จากปัจจัยหลายด้านร่วมกัน เครื่องยนต์ V8 ขนาด 3.8 ลิตร ให้พลังงานเพียงพอในการขับเคลื่อนไปถึงความเร็วดังกล่าว การออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ เช่น ช่องรับอากาศขนาดใหญ่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ช่วยลดแรงต้านอากาศในขณะวิ่งที่ความเร็วสูง ส่งผลให้สามารถเร่งและรักษาความเร็วสูงสุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โครงสร้างตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบายังช่วยเพิ่มสมรรถนะโดยรวม การผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์ทรงพลัง การออกแบบลู่ลม และวัสดุน้ำหนักเบา ทำให้ McLaren 540C มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจด้วยความเร็วสูงสุดถึง 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
Q
McLaren 540C สูงเท่าไหร่
McLaren 540C มีความสูง 1202 มิลลิเมตร รถสปอร์ตแบบสองที่นั่งคันนี้มีความสูงที่เหมาะสมกับการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ช่วยลดแรงต้านลมและเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ ตัวถังที่เตี้ยยังเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่ทำให้รูปลักษณ์ของรถดูโดดเด่นและสะดุดตา นอกจากนี้ รถยังมีความยาว 4530 มิลลิเมตร และความกว้าง 2095 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นมิติที่ส่งผลดีต่อทั้งสมรรถนะและภาพลักษณ์ของรถ McLaren 540C มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 19800000 บาทไทย มอบประสบการณ์ด้านสมรรถนะและสไตล์ระดับสูงสำหรับผู้ที่มีกำลังซื้อ
Q
McLaren 540C มีการบริโภคน้ำมันอย่างไร
แมคคลาเรน 540C มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันตามมาตรฐานอยู่ที่ 11.1L/100km สำหรับซูเปอร์คาร์รุ่นนี้ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 3.8L แรงม้าสูงแบบนี้ การสิ้นเปลืองน้ำมันที่มากขึ้นก็เป็นเรื่องปกติเพราะมันให้ประสบการณ์การขับขี่ระดับพรีเมียมอยู่แล้ว แต่ในชีวิตจริง อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอาจแตกต่างจากค่ามาตรฐานได้จากหลายปัจจัย เช่น สไตล์การขับของคุณเอง ถ้าชอบเหยียบกระแทกๆ เบรคกะทันหันบ่อยๆ น้ำมันก็จะหมดเร็ว แต่ถ้าขับเรียบๆ สบายๆ ก็จะช่วยประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น ส่วนสภาพถนนก็สำคัญเหมือนกัน ถ้าติดไฟแดงบ่อยๆ หรือต้องขับในที่การจราจรหนาแน่น น้ำมันก็จะหมดไว แต่ถ้าเป็นทางหลวงโล่งๆ อัตราสิ้นเปลืองก็จะดีขึ้น ดังนั้นอย่าแปลกใจถ้าตัวเลขในชีวิตจริงไม่ตรงกับค่ามาตรฐานที่ผู้ผลิตบอกไว้
Q
McLaren 540C วิ่งเร็วเท่าไหร่?
McLaren 540C ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถสปอร์ตแบบสองที่นั่งคันนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 ขนาด 3.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 540 แรงม้า เร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 3.4 วินาที โครงสร้างน้ำหนักเบาและการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ช่วยเสริมสมรรถนะขณะใช้ความเร็วสูง ระบบเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 จังหวะ ช่วยให้เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็วและราบรื่น ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ McLaren 540C จึงเป็นรถสปอร์ตสมรรถนะสูงที่เร้าใจบนท้องถนน
Q
ปีอะไรเป็น McLaren 540C
McLaren 540C มีหลายรุ่นตามปีที่วางจำหน่าย โดยรุ่นปี 2020 คือ McLaren 540C 3.8L V8 ราคา 19800000 บาทไทย ความเร็วสูงสุด 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 3.4 วินาที อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 11.1 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ใช้น้ำมันเบนซิน จัดอยู่ในกลุ่มรถสปอร์ต เครื่องยนต์วางกลางแบบ V8 พร้อมโครงสร้างตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์ MonoCell II ให้สัดส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักที่โดดเด่นในระดับเดียวกัน ตัวรถยาว 4530 มิลลิเมตร กว้าง 2095 มิลลิเมตร สูง 1202 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 1311 กิโลกรัม มี 2 ประตู 2 ที่นั่ง ระบบเกียร์ DCT ยางหน้าขนาด 225/35 R19 มาพร้อมระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย ถุงลมนิรภัยฝั่งคนขับและผู้โดยสาร
Q
ความแตกต่างระหว่าง McLaren 570S และ 540C คืออะไร?
McLaren 570S และ 540C มีความแตกต่างกันในหลายด้าน 570S มีราคาประมาณ 2658000 ถึง 2948000 บาท ส่วน 540C ราคาอยู่ที่ 19800000 บาท 570S มีราคาสูงกว่า ในด้านสมรรถนะ 570S ใช้เครื่องยนต์ V8 ขนาด 38 ลิตร ทวินเทอร์โบ กำลังสูงสุด 419 กิโลวัตต์ หรือ 570 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 32 วินาที ขณะที่ 540C มีกำลังสูงสุด 397 กิโลวัตต์ หรือ 540 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 540 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 35 วินาที 570S จึงมีกำลังมากกว่าและเร่งได้เร็วกว่า ด้านการออกแบบ 570S ใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์มากขึ้น ตัวรถจึงเบากว่าและมีดีไซน์ที่โดดเด่น แม้ทั้งสองรุ่นจะมีประตูแบบปีกผีเสื้อแต่รายละเอียดด้านท้ายรถต่างกัน ในด้านอุปกรณ์ 570S มีระบบปรับช่วงล่างที่ 540C ไม่มี ช่วยเพิ่มความสามารถในการปรับตัวตามสภาพถนนและตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น มอบประสบการณ์ที่มั่นคงและสบายกว่า
Q
McLaren 540C ราคาเท่าไหร่
McLaren 540C มีราคาจำหน่าย 19.8 ล้านบาท เป็นรถสปอร์ตสมรรถนะสูงที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 ขนาด 3.8 ลิตร ความเร็วสูงสุด 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 3.4 วินาที ใช้น้ำมันเบนซิน อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 11.1 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร เกียร์ดูอัลคลัตช์ (DCT) พร้อมระบบความปลอดภัยมาตรฐาน เช่น สัญญาณเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย และถุงลมนิรภัยสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ตัวรถออกแบบอย่างประณีต ความยาว 4530 มิลลิเมตร กว้าง 2095 มิลลิเมตร สูง 1202 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1311 กิโลกรัม มีประตู 2 บาน และที่นั่ง 2 ที่ ให้ประสบการณ์ขับขี่เร้าใจแก่ผู้ที่เป็นเจ้าของ
รถยอดนิยม
รุ่นปีรถยนต์
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
Q&A ล่าสุด
Q
2022 Subaru WRX มีระบบส่งกำลังแบบใด
สำหรับรุ่นปี 2022 ของ Subaru WRX ในตลาดไทย มีให้เลือก 2 แบบเกียร์ คือ เกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์ออโต้ Sport Lineartronic CVT ที่จำลอง 8 สปีด ซึ่งทั้งสองแบบทำงานเข้ากันได้ดีกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Symmetrical AWD อันเป็นเอกลักษณ์ของซูบารุ โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพถนนในไทยที่มักมีฝนและความชื้นสูง เกียร์ธรรมดาจะตอบโจทย์คนรักการขับขี่ที่ต้องการสัมผัสการควบคุมอย่างเต็มที่ ส่วนเกียร์ CVT เหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในเมืองอย่างกรุงเทพฯ เพราะให้ความนุ่มนวลและประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ที่น่าสนใจคือ CVT ของซูบารุใช้ระบบส่งกำลังแบบโซ่แทนสายพานแบบทั่วไป ทำให้ทนทานกว่าโดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนของไทย นอกจากนี้ผู้ใช้ในไทยยังสามารถเลือกติดตั้งระบบ SI-DRIVE เพื่อปรับโหมดการขับขี่ให้เหมาะสมกับการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นถนนคดเคี้ยวในเชียงใหม่หรือเส้นทางเลียบชายทะเลพัทยา แถมระบบช่วงล่างของ WRX ในตลาดไทยยังได้รับการปรับแต่งให้เหมาะกับสภาพถนนท้องถิ่นอีกด้วย
Q
มูลค่าคงเหลือของ Hyundai Santa Fe ปี 2024 คืออะไร
สำหรับรุ่น Hyundai Santa Fe 2024 ที่วางขายในตลาดไทย คาดว่ามูลค่าคงเหลือหลังจากใช้งาน 3 ปีจะอยู่ที่ประมาณ 60%-65% ของราคาเดิม และอาจลดลงเหลือประมาณ 50% เมื่อใช้งานครบ 5 ปี ซึ่งข้อมูลนี้มาจากประวัติการรักษามูลค่าของรถ Hyundai ในตลาดอาเซียนรวมถึงความนิยมในรถ SUV ขนาดกลางที่ค่อนข้างทรงตัวในไทย อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคไทยควรทราบว่ามูลค่าคงเหลือได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย เช่น การเลือกรุ่นดีเซลหรือไฮบริด (ซึ่งเป็นรุ่นที่พบได้ทั่วไปในตลาดไทย) ประวัติการบริการที่ครบถ้วน หรือการซื้อผ่านช่องทางทางการ (เช่น โครงการรถมือสองรับประกันจาก Hyundai ประเทศไทยที่จะช่วยรักษามูลค่าได้ดีกว่า) เมื่อเทียบกับคู่แข่งจากญี่ปุ่นในระดับเดียวกันแล้ว Santa Fe ยังมีความได้เปรียบในตลาดมือสองจากพื้นที่ภายในที่กว้างขวางกว่าและฟีเจอร์สมาร์ทที่ทันสมัยกว่า (เช่น ระบบเก้าอี้ระบายอากาศที่ออกแบบเฉพาะสำหรับตลาดไทย) แต่ในแง่ของความนิยมในแบรนด์อาจสู้ไม่ได้เลยทีเดียว แนะนำให้เจ้าของรถในไทยเก็บเอกสารการซ่อมบำรุงให้ครบถ้วนและใช้บริการผ่านศูนย์บริการทางการเพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าตอนขายต่อได้ นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงนโยบายภาษีรถยนต์พลังงานสะอาดของรัฐบาลไทยอาจส่งผลต่อมูลค่าคงเหลือของรุ่นไฮบริดในอนาคต ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้สนใจซื้อควรจับตามองไว้ด้วย
Q
Hyundai Santa Fe 2024 มีประสิทธิภาพแค่ไหน
รถยนต์ Hyundai Santa Fe รุ่นปี 2024 ให้ประสิทธิภาพด้านประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพการขับขี่ในเมืองและการเดินทางระยะไกลในประเทศไทย ชุดเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรแบบดูดอากาศธรรมชาติร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันประมาณ 12-14 กิโลเมตรต่อลิตรในสภาพถนนแบบผสม หากเลือกรุ่นไฮบริดจะประหยัดน้ำมันได้ถึง 15-18 กิโลเมตรต่อลิตร ช่วยลดต้นทุนการใช้รถในสภาวะน้ำมันราคาสูงของไทยได้อย่างชัดเจน รถรุ่นนี้ใช้เทคโนโลยี Smartstream ล่าสุดจาก Hyundai ที่ปรับปรุงประสิทธิภาพการเผาไหม้และลดแรงเสียดทานเครื่องยนต์เพื่อสมดุลระหว่างพลังและความประหยัด นอกจากนี้ระบบ Start-Stop อัจฉริยะที่มาพร้อมกับรถในสภาพอากาศร้อนของไทยยังช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันขณะ idle อีกด้วย
ที่น่าสนใจคือผู้บริโภคไทยควรพิจารณารุ่นไฮบริดเป็นอันดับแรก เพราะรัฐบาลไทยมีมาตรการลดภาษีสำหรับรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และระบบไฮบริดยังแสดงจุดเด่นในสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯที่ต้องหยุด-เริ่มบ่อยครั้ง เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกันแล้ว Santa Fe ยังให้ความสำคัญกับการใช้พื้นที่ภายในและการตั้งค่าตัวถังที่สมดุลระหว่างความสบายและความมั่นคงในการขับขี่ เหมาะกับสภาพถนนหลากหลายของไทย แนะนำให้ทดลองขับจริงโดยเน้นตรวจสอบประสิทธิภาพระบบแอร์และระบบไฮบริดในสภาพอากาศร้อน ซึ่งเป็นรายละเอียดสำคัญสำหรับผู้ใช้รถในประเทศไทย
Q
เครื่องยนต์แบบใดที่อยู่ใน 2024 Santa Fe
รุ่น 2024 Santa Fe ที่วางขายในตลาดไทยมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูง 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตรแบบดูดธรรมดา และระบบไฮบริด 1.6 ลิตรเทอร์โบชาร์จ โดยเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรให้กำลังสูงสุด 191 แรงม้า คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด เหมาะสำหรับคนที่ชอบการขับขี่เน้นความลื่นไหล ส่วนระบบไฮบริด 1.6T ให้กำลังรวมสูงถึง 230 แรงม้า ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีในสภาพการขับขี่ที่ต้องหยุด-เริ่มบ่อยๆ แบบในกรุงเทพฯ ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้ผ่านมาตรฐานยูโร 6 ของไทยเรียบร้อยแล้ว
จุดเด่นของรุ่นไฮบริดคือการใช้เทคโนโลยี TMED ไฮบริดอันล้ำสมัยจาก Hyundai ที่ผสานการทำงานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ได้อย่างชาญฉลาด นอกจากช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันแล้ว ยังคงสมรรถนะการขับขี่ระดับ SUV ที่ทรงพลัง ซึ่งตอบโจทย์ในสภาวะราคาน้ำมันที่พุ่งสูงแบบปัจจุบัน ส่วนระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ HTRAC ที่มาพร้อมในรุ่นนี้ก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจบนถนนลื่นๆ ในช่วงฤดูฝนได้ดี แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับการใช้งานในเมืองทั่วไป ตัวเลือกรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าถือว่าเพียงพอและคุ้มค่ากว่าในแง่ราคา
Q
Is Santa Fe 2024 4WD?
รุ่น Hyundai Santa Fe ปี 2024 บางรุ่นมีการติดตั้งระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ อย่างเช่น Hyundai Santa Fe Exclusive 1.6 Turbo Hybrid AWD 2024 ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนทุกล้อ ระบบนี้จะช่วยกระจายกำลังไปยังล้อทั้งสี่ได้อย่างเหมาะสมในสภาพถนนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นถนนลื่น โคลน หรือเวลาขึ้นเนิน ช่วยเพิ่มความสามารถในการขับผ่านและความมั่นคงให้กับรถ ส่วนรุ่น Hyundai Santa Fe Premium 1.6 Turbo Hybrid FWD 2024 จะใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ดังนั้นถ้าคุณต้องการรถที่ขับเคลื่อนสี่ล้อ เวลาเลือกซื้อต้องดู specs ของรุ่นให้ดี ๆ เลยนะครับ จะได้เลือกรถที่เหมาะกับการใช้งานและสภาพถนนที่คุณต้องเจอจริง ๆ
ดูเพิ่มเติม


ข้อดี
ข้อเสีย